“ฉันยอมแลก”
เอริคจ้องที่หน้าของน้องชายของเขาสายตาอมหิตนั้นบ่งบอกว่าถ้าหากว่าน้องชายของเขาไม่ทำตามไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมแลกแม้จะต้องผิดใจกับทานตะวันตอนนี้ก็ตามถ้ามันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ
“โอเคๆ...เดี๋ยวจะจัดการให้”
เบรย์เดนมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าสายตาแบบนี้ของพี่ชายเขานั้นเอาจริงทำให้เขาต้องรีบตอบตกลงพี่ชายของเขาอย่างทันทีเรื่องแค่นี้เขาจัดการให้ได้อยู่แล้วขอเพียงอย่างเดียงขอให้กระต่ายน้อยจันทร์เจ้าได้อยู่กับเขาก่อนก็พอ
เย็นวันต่อมา
สวนสาธารณะ
“ผมเห็นคุณดูเครียดๆก็เลยพามาเดินเล่นที่นี่น่ะครับ”
เอริคชวนหญิงสาวมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆกับบ้านพักทีพวกเขาอยู่เพราะชายหนุ่มนั้นอยากจะให้หญิงสาวได้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างอีกอย่างวันนี้ก็จะเป็นวันที่ทำให้เธอยิ้มได้อีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ”
ทานตะวันรู้ว่าชายหนุ่มนั้นหวังดีกับเธออันที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากมีอาการกังวลนี้ให้คนอื่นเห็นสักเท่าไรแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆเพราะในใจเธอมันมีแต่เรื่องมากมายเต็มไปหมด
“ผมมีข่าวดีเกี่ยวกับน้องสาวของคุณมาบอก”
เอริคเห็นว่าเป็นเบอร์ของใครโทรมาเขายิ้มร่าและหันไปทางหญิงสาวพร้อมส่งมือถือให้หญิงสาว
“จริงเหรอคะ”
ทานตะวนมีท่าทางทีดีใจอยู่ไม่น้อยตอนนี้เธอดีใจยิ่กว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเมื่อชายหนุ่มบอกกับเธอว่ามีข่าวดีเกี่ยวกับน้องสาวของเธอ
“ตอนนี้เธออยู่ในสายครับ..คุณคุยกับเธอตามสบายเลยนะครับ”
“ขอบคุณคุณเอสมากๆเลยนะคะ”
เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มนั้นบอกว่าน้องสาวของเธอนั้นอยู่ในทานตะวันเองก็รีบหยิบมือถือจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วตอนนี้น้ำตาเธอคลอเบ้าเพราะอาการดีใจ
“จันทร์เจ้า”
หญิงสาวเดินออกห่างชายหนุ่มมานิดหน่อยพร้อมทั้งเรียกชื่อน้องสาวขอเงธออย่างดีใจและมีน้ำเสียงปนความเป็นห่วง
“พี่ตะวัน”
“จันทร์ไปอยู่ที่ไหนรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงเธอขนาดไหนทำไมไม่เห็นติดต่อพี่มาบ้างเลย”
ทานตะวันรัวคำถามส่งไปที่น้องสาวของเธอไม่หยุดเพราะเธอนั้นอยากรู้ว่าน้องสาวของเธอนั้นหายไปไหนมาทำให้เธอเป็นห่วงแทบแย่
“คือ...ตอนนี้ตะวันสบายดีค่ะพี่ตะวันไม่ต้องเป็นห่วง...”
“แล้วเราอยู่ที่ไหนเมื่อไรจะกลับ”
“คือ...จันทร์เจ้ารู้จักเพื่อที่อังกฤษพอดีเราอยากไปเที่ยวต่อด้วยกันน่ะค่ะที่จันทร์ไม่ได้ติดต่อพี่ตะวันไปก็เพราะที่ที่จันทร์เที่ยวมันห่างไกลความเจริญมากจันทร์ต้องขอโทษพี่ตะวันจริงๆนะคะที่ทำให้เป็นห่วง”
“แล้วเราจะกลับเมื่อไร”
“อืมม...จันทร์คงต้องขอเที่ยวอีกสักพักน่ะค่ะ...จันทร์ต้องวางแล้วแค่นี้ก่อนนะคะพี่ตะวันไม่ต้องเป็นห่วงจันทร์ค่ะเดี๋ยวจันทร์เที่ยวพอแล้วจะรีบกลับนะคะ”
“จันทร์...เดี๋ยวจันทร์เจ้า...แล้วเราอยู่ที่ไหนพี่ยังไม่รู้เลย”
ทานตะวันไม่รู้ว่าน้องสาวของเธอนั้นจะรีบวางไปไหนนักหนาอีกอย่างเบอร์ที่โทรเข้ามาก็น่าจะเป็นเบอร์สาธารณะทำให้เธอนั้นโทรกลับไม่ได้แต่ก็ดีใจที่น้องสาวของเธอนั้นยังปลอดภัยอยู่
“ขอบคุณนะคะคุณเอส..”
ทานตะวันรู้สึกโล่งใจอย่างมากเพราะเรื่องที่เธอกังวลใจมานานตอนนี้มันได้หายสิ้นแล้วพร้อมเดินถือมือถือไปคืนชายหนุ่มที่นั่งรอเฮอยู่ที่เก้าอี้ของสวนสาธารณะ
“คุยเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”
เอริคเห็นสีหน้าของหญิงสาวเขารู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เรื่องที่เธอกังวลใจอยู่นานนั้นได้หายไปหมดแล้วเพราะหญิงสาวเดินอมยิ้มมาทางเขานั่นเอง
“ค่ะ...ไม่รู้ว่าจันทร์เจ้าจะรีบวางไปไหนนักหนาแต่ตะวันก็ดีใจนะคะที่รู้ว่าน้องยังปลอดภัย...เอ่อแล้วคุณเอสติดต่อเธอได้ยังไงคะ”
ทานตะวันรู้สึกขอบคุณชายหนุ่มมากเหลือเกินแต่เธอเองก็ยังสงสันว่าเขานั้นตามหาและติดต่อกับน้องสาวของเขาด้วยวิธีใดและเธอคิดว่าชายหนุ่มก็น่าจะรู้ว่าน้องสาวของเธอนั้นอยู่ที่ไหนด้วย
“เอ่อ...ผมให้ลูกน้องผมเชคจากการเข้าอีเมลของน้องสาวคุณว่าอยู่ที่ไหนน่ะครับถึงติดต่อเธอได้”
เอริคลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทเขาจำเป็นต้องแถด้นสดเรื่องนี้เพื่อให้แนบเนียน
“อ๋อ...อย่างนี้นี่เองแล้วตอนนี้จันทร์เจ้าอยู่ที่ไหนคุณเอสทราบไหมคะ”
ทานตะวันพยักหน้าเป็นท่าทางที่เข้าใจและเธอก็ยังอยากรู้อีกว่าตอนนร้น้องสาวเธอนั้นอยู่ที่ไหนเพราะจันทร์เจ้าไม่ได้บอกเธอไว้นั่นเอง
“อะ...เอ่อ...ตอนที่คนของผมติดต่อเธอได้นั้นเธออยู่ที่ดูไบแต่ตอนนี้เห็นว่าเธอจะเที่ยวต่อที่ทะเลทรายที่ไหนสักแห่งน่ะครับ”
เอริคเริ่มเหงื่อตกไม่ใช่เพราะเขาหาเรื่องที่จะโกหกหญิงสาวไม่ได้แต่เพียงเพราะเขาไม่อยากโกหกเธอแต่จำเป็นต้องทำนั่นเองใจจริงเขาไม่อยากโกหกเธอไปมากกว่านี้แต่สถานการณ์มันบังคับจริงๆเพราะเขานั้นยังพาตัวน้องสาวของเธอกลับมาไม่ได้นั่นเอง
“เฮ้อ...จะเที่ยวที่ไหนตะวันไม่ว่าเลยแต่ก็น่าจะบอกกันบ้างคอยดูนะกลับมาตะวันจะจัดการให้เข็ดเลยแถมยังติดต่อเบอร์มือถือไม่ได้อีก”
ทานตะวันรู้ว่าน้องสาวของเธออยู่ที่ไหนจากปากของชายหนุ่มเธอถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เธอรู้ว่าน้องสาวของเธอนั้นอยากเที่ยวแต่ก็ควรที่จะบอกเธอด้วยว่าอยู่ที่ไหนจะไปที่ไหนบ้างเพื่อที่จะให้เธอไม่ต้องเป็นห่วงแต่นี่กลับไม่ยอมบอกอะไรเธอเลยเบอร์มือถือก็ติดต่อไม่ได้เท่ากับว่าเธอต้องเป็นฝ่ายรอให้น้องสาวของเธอติดต่อกลับมาเอง
ถึงจะสบายใจเรื่องที่น้องสาวขอเงธอปลอดภัยแล้วก็เถอะแต่ใจนึงตอนนี้ก็ยังอยากรู้ความเคลื่อนไหวของน้องสาวตลอดก็เท่านั้นเอง
“เธอสบายดีก็ดีอยู่แล้วนะครับเธออาจจะใช่ชีวิตเที่ยวอย่างชิวๆแบบไม่อยากให้ใครรบกวนก็ได้”
เอริคพยายามหาเหตุผลที่น่าจะฟังขึ้นให้หญิงสาวได้ลองฟัง
“หื้มมม...”
ทานตะวันเม้มปากพร้อมส่งเสียงออกมาอย่างคนอ่อนใจ
“เอ่อ...คุณรู้ว่าน้องสาวคุณปลอดภัย...แล้ว....คุณจะเอายังไงต่อครับ”
เอริคเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุยกับหญิงสาวทันทีเพราะไม่อยากให้เธอนั้นสงสัยอะไรเรื่องน้องสาวของเธออีกแล้วพร้อมทั้งถามคำถามที่เขาอยากจะรู้ตอนนี้ด้วยว่าหญิงสาวรู้เรื่องน้องสาวของเธอแล้วเธอจะเอายังไงต่อเขาเองก็หวั่นในใจอยู่เหมือนกันว่าเธอนั้นได้ทำสิ่งที่เธอต้องการสำเร็จแล้วเธอจะทำยังไงต่อเขาเดาออกว่าเธอนั้นก็คงจะอยากกลับบ้านเกิดของเธอแต่ในใจของเขาไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย
“จริงสิตะวันต้องตอบแทนคุณที่คุณช่วยตะวัน...คุณเอสต้องการอะไรบอกตะวันมาได้เลยนะคะเพราะตะวันคิดว่าตะวันจะอยู่ที่นี่อีกไม่นานก็จะกลับไทยแล้วค่ะ”ทานตะวันลืมไปเสียสนิทเพราะมัวแต่ดีใจว่าเธอนั้นต้องตอบแทนชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอเพราะจะให้เขาช่วยเธอฟรีๆไม่ได้อย่างน้อยก็ขอให้เขาบอกกับเธอมาว่าเขานั้นต้องการอะไรถ้าเธอทำให้เขาได้เธอก็เต็มใจที่จะทำ“อะไรนะครับ...เอ่อ..”เอริคถึงกับใจหายวาบไปไม่เป็นเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดเรื่องที่จะกลับบ้านของเธอเร็วขนาดนี้“คุณเอสอยากให้ตะวันตอบแทนอะไรคะ...”ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มยังมีท่าทีที่อ้ำอึ้งอยู่เธอจึงย้ำถามเขาอีกรอบเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นบอกความต้องการของเขามา“เอ่อ...คือผมไม่รู้ว่าเรื่องที่ผมขอมันจะทำให้คุณลำบากใจไหมนะครับแต่ผมอยากให้คุณอยู่เที่ยวที่นี่เป็นเพื่อนผมอีกสักพัก”เอริคอยากจะบอกกับเธอตอนนี้ว่าเขาอยากให้เธอมาลองคบกับเขาดูจะได้ไหมจริงๆแต่มันก็ทำไม่ได้เขากลัวว่าเธอจะคิดว่าเขานั้นฉวยโอกาสกับเธอน่ะสิจึงแสร้งหาเรื่องเพื่อที่จะยื้อเวลาให้เธออยู่ที่นี่อีกสักพักก็น่าจะพอมีเวลาทำคะแนนกับเธอได้อยู่“ตะวันยินดีค่ะ...”ทานตะวันคิดว่าหากอยู่ที่นี่ต่ออีกสัก
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...ตะวันอยากทานไอศครีมคุณเอสทานไหมคะ”ทานตะวันหันมายิ้มหนาแป้นให้กับชายหนุ่มเพราะวันนี้เธอรู้สึกสนุกมากเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งได้เล่นซนตามอิสระโดยที่มีชายหนุ่มคอยดูแลเธออยู่ข้างๆเธอบอกกับเขาว่าเธอนั้นไม่เหนื่อยเลยสักนิดแถมสายตายังมองเห็นร้านไอศครีมตักใส่ถ้วยอกเธอจึงนึกอยากทานพร้อมชวนชายหนุ่มด้วย“ดีครับ”ตอนนี้เอริคไม่มีคำพูดที่จะปฏิเสธหญิงสาวแม้แต่น้อยเธออยากทำอะไรหรืออยากทานอะไรเขาเองก็อยากจะมีส่วนร่วมกับเธอเสียทุกอย่าง“ไอศรีมได้แล้วค่ะคุณเอส”ทานตะวันยืนสั่งไอศกรีมอยู่ครู่หนึ่งก็เดินกลังออกมาด้วยไอศครีมสองถ้วยพอดีมือพร้อมส่งให้ชายหนุ่มหนึ่งถ้วย“ขอบคุณครับ”“5555..แน่จริงก็ตามมาให้ทันเส้5555”ปึ้กกกกกเอริครับถ้วยไอศครีมมาจากหญิงสาวพร้อมกำลังจะพากันเดินไปนั่งที่เก้าอี้สาธารณะเพื่อจะนั่งทานไอศครีมแต่จู่ๆก็มีเด็กชายสองคนกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันและมาชนที่ชายหนุ่มเข้าทำให้คนตัวโตที่ไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นโดนไอศครีมก้อนล้นถ้วยที่ถืออยู่ในมือกระเด็นเข้ามาที่หน้าอย่างจัง“เอ่อะ!!!...”เอริคสบถออกมาเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าไอศกรีมที่ถืออยู่ในมือนั้นจะกระเด็นเข้ามาที่หน้าของ
ตอนนี้เอริคส่งข้อความบอกกับลูคัสให้จัดการเรื่องนี้ให้เขาโดยด่วนเพราะว่าตอนนี้เขาอยากออกไปจากที่นี่แย่แล้วเอริคสั่งเบียร์เย็นๆมาดื่มเพียงขวดสองขวดเพื่อรอเวลาให้ลูกน้องของเขาจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเพื่อที่เขาจะได้พาหญิงสาวกลับเสียที“คุณเอสไหวไหมคะ”ทานตะวันเห็นท่าทางของชายหนุ่มมีท่าทีที่เหมือนจะเมามากแต่เธอเองเห็นเขานั้นดื่มไปแค่เบียร์ขวดสองขวดเองหญิงสาวคิดในใจว่าหรือชายหนุ่มนั้นจะเป็นคนคออ่อนก็เป็นได้ตอนนี้ทานตะวันประคองชายหนุ่มเข้ามาในบ้านของเขาเธอพยุงตัวชายหนุ่มที่ดูจะใหญ่กว่าเธอหลายเท่ามาวางที่เตียงของเขาแล้วยืนสูดหายใจให้คลายเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่งจึงหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับชายหนุ่มตอนนี้ชายหนุ่มหลับตาพริ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์แน่นอนว่าเขาไม่ได้เมาเพียงแต่อยากเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวเพียงเท่านั้นเพราะกว่าลูคัสจะส่งข้อความมาหาเขาว่าจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้วในการที่เขานั่งรอเวลาอยู่ในร้านนั้นมันทำให้เขาคิดอะไรออกนั่นเอง“อืม”เอริคที่หลับตาพริ้มอยู่นั้นเขารู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาแตะที่หน้าเขารู้ว่าหญิงสาวกำลังจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับเขาชายหนุ่มจึงขยับตัวเล็กน้อยแล้วแสร้งดึงมื
เมื่อลูคัสออกไปนอกห้องแล้วชายหนุ่มลุกยืนขึ้นพร้อมใช้มือตบโต๊ะทำงานเขาจนเกิดสียงดังสนั่นจนหญิงสาวที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้าของเขานั้นถึงกับสะด้งเล็กน้อยและเริ่มมีเหงื่อผุดอยู่ที่หน้าผากเพราะท่านประธานหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้นเขากำลังโกรธจัดจนน่ากลัวถ้าสายตาของเขาเป็นไฟก็น่าจะเผามอดไหม้หญิงสาวตรงหน้าให้สิ้นไปแล้วเมื่อตอนเข้ามาเอริคกัดฟันถามหญิงสาวอย่างเจ็บใจเธอเป็นดีไซน์เนอร์ที่เก่งหัวไวแถมยังทำงานให้เขาได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเขาจึงเลื่อนให้เธอได้เป็นหัวหน้าและตัดสินใจเลือกผลงานเองทั้งหมดในการจัดการสินค้าออกมาขายโดยที่ไม่ต้องผ่านเขาและรายได้ที่เขาให้เธอนั้นมันมหาศาลจนเขาเชื่อว่าเธอนั้นคงจะใช้ไม่มีวันหมดอย่างแน่นอนแต่เขานั้นไม่เข้าใจจริงๆว่าเธอมีเหตุอะไรจึงต้องหักหลังบริษัทและเขาแบบนี้“มิเชลขอโทษค่ะ..มิเชลจำเป็นต้องทำ..”มิเชลยืนสูดหายใจเข้าอยู่ครู่หนึ่งเพื่อลดความกลัวของเธอพร้อมตอบประธานหนุ่มที่ถามเธอด้วยน้ำสียงที่เรียบเฉยเธอไม่ใช่ไม่รู้สึกผิดแต่เธอนั้นจำเป็นที่ต้องทำเรื่องนี้จริงๆอย่างเลี่ยงไม่ได้เธอไม่ได้อยากหักหลังและไม่ได้ลืมบุญคุณของประธานหนุ่มแต่สถานการณ์บางอย่างมันบีบเธอนั
“เป็นยังไงบ้างลุค”เมื่อลูคัสเข้ามาหาเขาที่เพนท์เฮ้าส์ตามคำสั่งเพราะเขาอยากฟังรายงานเรื่องที่เขาให้ชายหนุ่มนั้นจัดการแทนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะเขาต้องรื้อระบบใหม่ของบริษัทเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทุจริตแบบนี้ขึ้นอีก“มีคนมาประกันตัวเธอออกไปครับคุณเอส”ลูคัสรายงานเจ้านายหนุ่มของเขาตามที่เขานั้นได้รับเรื่องมาอีกทีหนึ่ง“หึ่!!...คิดแล้วไม่มีผิด”เอริคคิดแล้วว่าจะต้องมีคนมาช่วยเธอถึงแม้ว่าคนที่มาประกันตัวหญิงสาวจะเป็นบุคคลที่เขาไม่รู้จักแต่เขาก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาเพื่อช่วยหญิงสาว“แล้วเรื่องนี้คุณเอสจะยังไงต่อครับ...เรื่องที่...เอ่อ..เรื่องมิเชล”ลูคัสเห็นว่าเจ้านายของเขานิ่งผิดปกติเพราะถ้าเขารู้แบบนี้แล้วอันที่จริงต้องสั่งให้เขาจัดการอะไรสักอย่างโดยไม่ต้องรอให้เขานั้นถามออกไปแต่นี่มันไม่ใช่“ฉันจะถอนแจ้งความ...”เอริคมองไปที่ลูคัสพร้อมบอกกับลูกน้องเขาเป็นแนวคำสั่งว่าให้ชายหนุ่มนั้นจัดการเรื่องอะไรต่อไป“เธอไม่น่าตกเป็นเหยื่อของคนพวกนั้นเลย”ลูคัสพูดออกมาเบาๆพร้อมหลบสายตาลงเขาดีใจที่เจ้านายของเขายังเห็นใจหญิงสาวอยู่บ้างเพราะเรื่องที่เขารู้มาพร้อมๆกับเจ้านายหนุ่มของเขาไม่นานมานี้ก็คือครอบ
วันต่อมา19.00 น.ก๊อกๆๆ“คุณเอสอยู่ไหมคะ”เป็นเวลาสองสามวันแล้วที่ทานตะวันนั้นไม่ได้เจอกับเอริคเธอเพียงอยากที่บอกกับเขาว่าเรื่องคืนนั้นเธอไม่ได้ถือสาอะไรเขาแล้วและอยากที่จะขอบคุณเขาอย่างมากที่ช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดอีกทั้งตอนนี้เธอก็ยังเซ็นสัญญากับบริษัทของแบรนด์ดังที่ได้ความช่วยเหลือจากเขาแล้วด้วยแปลกที่ตอนนี้เธออยากให้เขานั้นรับรู้เป็นคนแรกว่าเธอดีใจมากแค่ไหนแต่กลับไม่เจอเขาเสียอย่างนั้นเธอพยายามติดต่อเขาไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้หญิงสาวจึงให้กำลังใจตัวเองว่าตอนนี้เขาอาจจะรับงานสืบเรื่องอะไรอยู่ก็เป็นได้จึงทำให้เธอนั้นติดต่อเขาได้ยากนั่นเอง“คุณตะวัน”“อ้าวคุณวิลล์มาที่นี่ได้ไงคะ”ตะวันได้ยินเสียงของผู้ชายด้านหลังเรียกชื่อเธอเมื่อหันไปก็เห็นว่าเป็นวิลล์เพื่อนชายที่เธอพึ่งจะรู้จักโดยบังเอิญได้ไม่นานแต่ก็คุยกันถูกคอเพราะเป็นคนที่ชอบเรื่องผ้าเหมือนกันอีกทั้งยังไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอที่นี่“ก็คุณตะวันเป็นคนบอกผมเองนี่ครับว่าคุณอยู่ที่นี่”วิลล์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมหอบของพลุงพลังออกมาจากรถและบอกว่าหญิงสาวเป็นคนบอกกับเขาเองว่าเธออยู่ที่นี่“อ๋อ...ใช่จริงด้วยตะวันลืมไปเลยค่ะ...คุณวิลล์มีธ
“นี่ครับ...คุณเอริค มาติเนส..ชื่อเค้าคล้ายเพื่อนคุณเลยนะครับผลงานของแบรนด์นี้ผู้คนทั่วโลกต่างก็รู้จักเพราะฝีมือการบริหารงานของเค้าเลยนะครับคุณโชคดีมากเลยที่ได้มาทำงานที่นี่เสียดายคุณน่าจะเจอผมก่อนไม่อย่างนั้นผมคงชวนคุณมาทำงานที่บริษัทผมแน่”วิลล์เห็นหญิงสาวจ้องมือถือด้วยสีหน้าและอาการที่ตกใจเล็กน้อยแต่เธอยังนิ่งอยู่เขาจึงค่อยๆอธิบายว่าคนในรูปเป็นใครเก่งแค่ไหนและยังไม่ลืมที่จะย้ำว่าชื่อเหมือนเพื่อนที่อยู่ข้างบ้านของเธออีกและสิ่งที่เขาเสียดายจริงๆก็คือเขาน่าจะเจอเธอก่อนเอริคนั่นเอง“อ๋อ...ค่ะ...เหมือนเพื่อนตะวันจริงๆด้วย”ทานตะวันค่อยๆส่งมือถือคืนชายหนุ่มด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อยเธอพยายามข่มไม่ให้น้ำตาของเธอนั้นไหลลงมาเพราะที่ผ่านมาทั้งหมดเธอเหมือนโดนคนที่เธอไว้ใจปั่นหัวเล่นเหมือนเธอเป็นตัวตลกนั่นเองเธอไม่เข้าใจว่าเขานั้นต้องการอะไรจากเธอกันแน่เขาดีกับเธอทุกอย่างแต่นั่นมันก็แฝงด้วยกาหลอกลวงเธออยู่ทุกอย่างเหมือนกัน“อืมม..นี่มันก็เริ่มดึกแล้วผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับตะวัน”วิลล์เห็นสีหน้าของหญิงสาวดูไม่คอยดีสักเท่าไรเขาเองคิดว่าตอนนี้ควรจะขอตัวกลับจะดีกว่าเพราะว่าหญิงสาวอาจจะมีอะไรให้ต้อ
ทานตะวันถึงกับต้องหันไปมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่โกรธจริงจังพร้อมบอกให้ขั้นหยุดที่จะมาสั่งเธอเสียทีเธอโตแล้วเธอคิดเองได้และเขาก็ไม่ได้มีสิทธิ์มาตัดสินใจอะไรแทนเธอด้วยและตอนนี้เธอจึงพูดประชดให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นรู้ความจริงแล้วว่าเขานั้นเป็นใครชายหนุ่มจะได้รู้ตัวว่าเธอนั้นไม่ได้โง่ให้เขาหลอกอีกต่อไปแล้ว“ตะวัน...”เอริคถึงกับตะลึงนิ่งงันเขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้เรื่องนี้เร็วขนาดนี้คงไม่พ้นฝีมือของวิลล์อีกเป็นแน่“ออกไปให้พ้นหน้าตะวัน...ตะวันหวังว่าคุณคงจะล้อเล่นกับตะวันมามากพอแล้วแต่ก็ขอบคุณเรื่องที่ผ่านมานะคะที่คุณยังอุตส่าห์ช่วยตามหาน้องสาวตะวัน...เราจะหย่ากันให้เร็วที่สุดแล้วตะวันจะกลับบ้าน”ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มเถียงอะไรไม่ออกเมื่อเธอพูดสิ่งที่เธอนั้นรู้ออกมาพร้อมไล่ให้เขาไปให้พ้นหน้าเธอเพราะเธอเกลียดคนโกหกและเกลียดการที่เป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นแต่ก็ยังต้องขอบคุณเขาที่ไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนก็ตามเพื่อตามหาน้องสาวของเธอให้เธอนั้นได้รู้ว่าน้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่และอยู่ที่ไหนนั่นเอง“ไม่ได้นะตะวันผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น...ผมชอบคุณเหตุผลที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมอยากอยู่ใกล้คุณ”เอร