ตอนที่37 ผมรักคุณ

“อืมม...ตอนนี้ผมให้ฮานดูแลแทนอยู่”

วิลล์ไม่อยากจะคิดเรื่องงานอะไรทั้งนั้นเมื่ออยู่กับหญิงสาวเขายอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้แล้วหากวันหนึ่งกิจการเขาๆไปไม่รอดก็ไม่เป็นไรเมื่อมีกิจการใหญ่แล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จเขาเองคิดไว้ว่าจะหันมาทำอะไรเล็กๆแทนก็ได้ขอแค่มีหญิงสาวและลุกอยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว

“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”

“ก็ต้องประคองไปก่อนเพราะยอดขายสินค้าตัวใหม่ยังไม่มีกำไรเลย”

“มิเชลคิดว่าคุณน่าจะลองเปลี่ยนคอยเซปใหม่เป็นเสื้อผ้าสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างที่มาติเนสลองทำดูสิคะ”

มิเชลคิดว่าแบรนด์เสื้อผ้าในเครือของมอแกนออกแบบเสื้อผ้าค่อนข้างที่จะจับกลุ่มลูกค้าแบบเดิมเธอเองคิดอยากจะบอกกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ติดตรงที่เธอนั้นคิดว่าชายหนุ่มอาจจะไม่รับฟังเธอแต่วันนี้เธอจำต้องลองเสนอแนวทางนี้ให้กับชายหนุ่มดูมันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ได้เพราะจากข่าวคราวของแบรนด์เสื้อผ้าในเครือมาติเนสของเอริคที่เปิดตัวใหม่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ก็เป็นผลดีทีเดียวเธอเลยลองพูดให้ชายหนุ่มได้คิดตามดู

“คุณจะให้ผมเลียนแบบเหรอไม่เอานะผมไม่ได้แข่งกับใครแล้ว”

วิลล์ส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่อยากที่จะแข่งขันอะไรกับมาติเนสอีกต่อไปแล้วมันเหมือนว่าเขาเดินตามคนอื่นอยู่ตลอด

“ไม่ใช่ค่ะมิเชลลองคิดให้เป็นแนวทาง...คือตอนที่มิเชลว่างๆมิเชลทำชุดไว้ให้ลูกหลายแบบเลยค่ะมิเชลให้คุณเอาไปเป็นแบบตัดเย็บได้นะคะ”

มิเชลต้องส่ายหัวให้กับชายหนุ่มที่เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เธอบอกเธอเองไม่ได้บอกให้เขาไปเลียนแบบใครแต่แค่บอกให้ลองจับกลุ่มลูกค้าแบบใหม่ดูเหมือนกับที่มาติเนสลองทำ

พร้อมทั้งบอกว่าตอนที่เธออยู่ที่นี่ว่างๆเธอก็ตัดชุดไว้ให้ลูกของเธออยู่หลายแบบและสามารถให้เขานั้นยืมแบบเอาไปผลิตได้ถ้าเขาเห็นด้วยกับเธอ

“จริงสิเสื้อผ้าเด็ก...ตอนนี้ก็กำลังมาแรงเหมือนกันเพราะคนสมัยนี้ชอบแต่งตัวให้ลูกขอบคุณมากนะมิเชลที่ทำให้ผมคิดอะไรใหม่ๆออก...”

วิลล์คิดตามที่หญิงสาวพูดจริงที่เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้เลยการทำเสื้อผ้าเด็กออกมาขายมันก็เป็นการเปิดตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าแบบใหม่เขาคิดว่าไปเดียที่หญิงสาวเสนอมันไม่เลวเลย

“ค่ะ...ถ้าเรามีเสื้อผ้าของเด็ก..เราสามารถทำเสื้อผ้าที่เป็นเซทครอบครัวได้อีกนะคะ...เดี๋ยวมิเชลจะลองวาดแบบให้คุณดูค่ะ”

มิเชลคิดว่าถ้าหากเสื้อผ้าเด็กขายดีแบรนด์ก็ยังสามารถทำชุดที่มันเป็นเซทพ่อแม่ลูกได้อีกยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่ของเด็กๆแต่ละคนสนใจอย่างมากอีกด้วยและเธอก็จะลงมืออกแบบให้ชายหนุ่มเองอีกด้วยเพราะเธออยากช่วยให้วิกฤติของบริษัทผ่านพ้นไปได้โดยเร็วเธอคิดไว้แล้วว่าคอนเซปนี้มันต้องได้ผลตอบรับที่ดีแน่นอน

“ขอบคุณนะที่เป็นแสงสว่างนำทางให้ผมตอนที่มันมืดมน...ผมรักคุณนะมิเชล”

“อืมมม...มิเชลก็รักคุณค่ะอะไรที่มิเชลช่วยได้ก็จะช่วยค่ะ”

ตอนนี้วิลล์รู้สึกสบายใจอย่างมากเขาคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจมาหาหญิงสาวตอนนี้มันเหมือนยกภูเขาออกจากอกเพราะหญิงสาวนั้นก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเขาแล้วอีกอย่างเขาก็ได้ไอเดียใหม่ๆในการผลิตผลงานอีกด้วยทีนี้ก็เหลือแต่ลงมือทำและรอผลตอบรับเท่านั้นเองแต่เขาคิดไว้แล้วว่ายังไงงานนี้ต้องได้ผลตอบรับดีแน่นอนเพราะมีหญิงสาวที่ใช้ใจในการผลิตผลงานต้นแบบให้เขานั่นเอง

6 เดือนต่อมา

หลังจากที่วิลล์เปิดตัวคอนเซปใหม่ของแบรนด์เป็นการเปิดตัวเสื้อผ้าเด็กเล็กผลตอบรับก็ดีมากอย่างที่ว่าสามารถกู้วิกฤติของบริษัทเขาขึ้นมาได้เลยยอดขายที่ได้เกินเป้าหมายอย่างมากตอนนี้ก็เลยคิดว่าจะต้องเปิดตัวเสื้อผ้าที่เป็นเซทพ่อแม่ลุกตามๆกันมาเขาเลยเชิญครอบครัวที่กำลังดังที่สุดในตอนนี้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั่นก็คือครอบครัวของเอริคนั่นเองซึ่งเอริคก็ตอบรับคำเชิญนั้นอย่างไม่รีรอเพราะว่าถ้าทั้งสองแบรนด์ทำงานร่วมกันจะต้องเป็นข่าวใหญ่และส่งผลดีต่อการค้าของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย

วันนี้ก็เป็นอีกวันของการทำงานที่ดูจะวุ่นวายเพราะทั้งสองครอบครัวต้องมาถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ที่ค่อนข้างจะหลายแบบเสียด้วย

“แง๊...ๆๆๆๆ...แอ้..แง๊ๆๆ”

“วีน่าไม่ร้องนะคะคนเก่ง...เดี๋ยวคุณแม่มานะคะ”

วิลล์กำลังปลอบวีน่าลูกสาวตัวกลมวัยสามเดือนของเขาที่กำลังงอแงอยู่เขาก็ไม่ค่อยรู้วิธีจัดการกับลูกน้อยเวลางอแงเสียด้วยสิทำได้แต่อุ้มแล้วพาเด็กหยิงเดินไปมาเท่านั้นและรอให้ภรรยาของเขานั้นแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จเสียที

“วิลล์นายจะปล่อยให้ลูกนายร้องอีกนานไหมเดี๋ยวลูกฉันก็ตื่นมาแหกปากด้วยกันหรอก”

เอริคที่นั่งมองคุณพ่อมือใหม่ที่กำลังโอ๋ลูกสาวแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าลูกสาวนั้นจะยอมหยุดเขาถึงกับทำหน้าเซ็งตอนนี้ลูกชายของเขากำลังหลับอยู่ขืนถ้าเด็กหญิงร้องนานกว่านี้มีหวังลูกของเขาตื่นมาร้องด้วยแน่เพราะตื่นมาไม่เห็นหน้าแม่นั่นเองตอนนี้ภรรยาของเขาก็เข้าไปแต่งตัวพร้อมกับมิเชลเหมือนกัน