ชายหนุ่มพอจะเดาออกว่าไอ้สีสันที่หลากหลายของลายผ้านี้เธอคงจะได้ไอเดียมาจากสิ่งที่เขาพาเธอไปดูวันนี้เป็นแน่แต่โดยรวมถือว่าเขาชอบอย่างมากและเขาคิดว่าหากนำเสนอบนบอร์ดประชุมทุกคนต้องเห็นด้วยในเสื้อผ้าคอลเลคชั่นที่หญิงสาวออกแบบเป็นแน่
“ค่ะ...พวกเค้าช่วยตะวันได้ไอเดียเยอะเลยค่ะ”
ทานตะวันหันมายิ้มให้ชายหนุ่มที่เขารู้ทันเธอว่าได้ไอเดียมาจากไหนเธอหวังว่านี่มันจะเป็นมิติใหม่ของแบรนด์ที่จะจับกลุ่มการตลาดแบบไหม่ที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นผลดีต่อแบรนด์อีกด้วย
“แต่ว่าผมอยากให้ตะวันพักจากการทำงานทั้งหมดแล้วเอาเวลาดูแลครรภ์ดีกว่าเนอะเรื่องต่อจากนี้เดี๋ยวผมกับทีมจะจัดการเอง”
เอริคเห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตั้งท้องอ่อนๆเขาไม่อยากให้เธอทำงานอะไรทั้งสิ้นถ้าเธอออกแบบเสร็จแล้วต่อไปเขาจะเป็นคนสานต่อเรื่องนี้เองเพราะเขาอยากให้เธอได้พักเอาเวลาดูแลตัวเองกับลูกที่อยู่ในท้องจะดีกว่า
“อืมม...แต่ตะวันอยากลงมืองานนี้ด้วยตัวเองนะคะ..นะคะคุณเอสไม่อย่างนั้นตะวันคงเครียดแย่”
ทานตะวันหน้าบูดขึ้นทันทีเธอคิดไว้แล้วว่าชายหนุ่มต้องห้ามเธอทำงานแน่นอนรู้แบบนี้เธอค่อยบอกกับเขาเรื่องลูกดีกว่าหญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มเป็นห่วงแต่เธอเองรู้ว่าเธอทำได้และเธอก็อยากลงมือทำงานนี้ด้วยตังเองอีกด้วยจึงขอร้องชายหนุ่มว่าเธอขอลงมือในงานนี้เองไม่อย่างนั้นเธอคงจะเครียดอย่างที่บอกกับเขานั่นเอง
เพราะเธอตั้งใจในการนำเสนอผลงานนี้มากเธออยากเป็นคนเลือกผ้าเองควบคุมการตัดเย็บรวมถึงเลือกนางแบบนายแบบที่จะมาเปิดตัวอีกด้วย
“เฮ้อ...ทำไมเมียผมดื้อแบบนี้น้า...เอาเป็นว่าแค่งานนี้งานเดียวพอจบงานนี้คุณต้องพักทันทีโอเคไหม”
เอริคเองก็เห็นใจหญิงสาวอยู่เหมือนกันเพราะเขาก็คนชอบทำงานเองเช่นเดียวกับเธอเขาคิดว่าหากบังคับไม่ให้เธอทำเลยมันจะพาหญิงสาวเครียดเปล่าๆเลยมีข้อต่อรองกับเธอว่าขอให้งานนี้เป็นงานสุดท้ายและเมื่อจบงานเธอต้องหยุดงานทุกอย่างทันที
“โอเคค่ะ...ขอบคุณนะคะ”
ทานตะวันถึงกับยิ้มออกเมื่อเดี๋ยวนี้ชายหนุ่มดูเป็นคนที่พูดง่ายขึ้นสำหรับเธอหญิงสาวคิดเอาไว้แล้วว่าเมื่อจบงานเธอก็จะพักทันทีเพราะกว่าจะจบก็อีกตั้งสามเดือนกว่าที่เธอคิดว่าเร็วสุดในการนำเสนอผลงานวันนั้นเธอก็คงจะท้องโตมากแล้วหละสมควรที่เธอจะหยุดงานทุกอย่างได้
3 เดือนต่อมา
“ค่อยๆเดินครับที่รัก”
“ค่ะ”
ตอนนี้ทานตะวันท้องได้ห้าเดือนกว่าแล้วแต่เนื่องจากคนเป็นสามีนั้นสรรหาแต่ของบำรุงให้เธอทานอยู่เป็นประจำเลยทำให้ตอนนี้หญิงสาวท้องโตอย่างมากจนเดินทำอะไรไม่ต่อยสะดวกแล้ว
วันนี้ก็เป็นวันที่ทั้งสองต้องออกงานพร้อมกันเพราะเป็นวันที่เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่และงานนี้ก็จัดใหญ่กว่าทุกครั้งจนสื่อทุกสื่อให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะมีดาราดังมาร่วมเดินแบบมากมายและคอลเลคชั่นที่จะเปิดตัววันนี้ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่คนให้ความสนใจกันอย่างมากอีกด้วยนับว่าเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับผลงานครั้งนี้ของหญิงสาวเพราะขนาดยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการกระแสเสื้อผ้าแบรนด์ของมาติเนสที่เป็นรูปแบบใหม่ต่างก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างดี
โรงแรมหรู
“คุณตะวันนี่เก่งมากเลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
แชะๆๆ..
ตลอดงานเปิดตัวเสื้อผ้าตั้งแต่นางแบบเดินออกมาคนแรกยันคนสุดท้ายก็เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนในงานและช่างภาพได้เป็นอย่างดีทานตะวันเองที่เป็นแม่งานก็รับคำชมจากแขกที่ร่วมงานอย่างไม่ขาดปากทำให้ตอนนี้หญิงสาวท้องโตยืนยิ้มหน้าบานอยู่กับคนเป็นสามีอยู่ตลอดเวลา
ภาพผู้คนที่ดูสนใจผลงานของเธอทำให้ทานตะวันนั้นยืนยิ้มไม่ยอมหุบเสียงรัวชัตเตอร์ที่ไม่ขาดสายนั้นทำให้เธอรู้เลยว่าหลังจากงานเปิดตัวครั้งนี้จบลงยอดขายของแบรนด์คงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเป็นแน่เห็นแบบนี้แล้วเธอเองก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย
“ดอกไม้แสดงความยินดีครับคุณเอส”
“จากใคร”
“นี่ครับการ์ด”
เอริครับช่อดอกไม้จากลูคัสเขาก็เปิดอ่านการ์ดทันทีเพราะเขาอยากรู้เหลือเกินว่าอดไม้ราคาแพช่อนี้เป็นของใครเมื่อเปิดอ่านเขาถึงกับยิ้มมุมปากอย่างสบายใจในการ์ดเขียนแสดงความยินดีให้กับงานเปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ของเขาลงชื่อว่าวิลล์ถึงแม้มันจะเป็นแค่คำแสดงความยินดีสั้นๆแต่มันก็ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคิดที่จะยุติสงครามการชิงดีชิงเด่นกันกับเขาแล้วเขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้วิลล์กลับใจแต่มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เขาได้รับ
“เหนื่อยไหมครับตะวัน”
หลังจากงานเลิกเอริคก็พาทานตะวันกลับมาที่บ้านทันทีเพราะมันดึกมากแล้วอีกอย่างหญิงสาวเองก็ต้องการการพักผ่อนที่เพียงพออีกด้วยเมื่อกลับมาถึงบ้าชายหนุ่มก็เอ่ยถามหญิงสาวทันทีว่าวันนี้เฮเหนื่อยหรือเปล่าที่ต้องพูดคุยกับคนอื่นอย่างไม่ขาดสายและไม่ค่อยได้นั่งพักอีกด้วย
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ..ตะวันไม่คิดเลยนะคะว่าผลตอบรับมันจะดีขนาดนี้”
ทานตะวันเองถึงจะรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวนิดหน่อยแต่เธอก็ยังรู้สึกว่าวันนี้เธอเหนื่อยเลยสักนิดเพราะดีใจจนหายเหนื่อยพร้อมทั้งบอกกับชายหนุ่มว่าเธอเองไม่คิดว่าผลงาของเธอนั้นจะมีผลตอบรับดีขนาดนี้
“ฝีมือเมียผมเก่งนี่ครับ...ทานนมก่อนเจ้าตัวเล็กคงจะหิว”
เอริคอดที่จะชมในความเก่งของหญิงสาวไม่ได้เขาเดินออกมาจากในห้องครัวเขาถือแก้วนมอุ่นๆมาให้หญิงสาวยื่นให้เธอทานพร้อมบอกกับเธอว่าลูกน่าจะหิวแล้วเพราะวันนี้ตอนเย็นหญิงสาวแทบจะไม่ได้ทานอะไรเลย
“ท่าจะหิวจริงๆด้วยค่ะ...ดูสิคะดิ้นใหญ่เลย”
ทานตะวันรับแก้วนมจากชายหนุ่มมาดื่มไปครึ่งแก้วเธอรู้สึกได้ว่าตอนนี้เจ้าตัวเล็กในท้องดิ้นแรงเหลือเกินจนอดที่จะบอกกับชายหนุ่มให้ดูไม่ได้
“แข็งแรงที่สุดเลยลูกพ่อ”
เอริครีบเข้าไปกอดที่หน้าท้องนูนใหญ่ของหญิงสาวพร้อมจูบอย่างอ่อนโยนยิ่งเห็นลูกในท้องของหญิงสาวดิ้นเก่งแบบนี้เขายิ่งอยากให้เจ้าตัวเล็กที่อยู่ข้างในรีบๆออกมาเล่นกับเขาเสียแล้วสิยิ่งเขาคุยกับเจ้าตัวเล็กในท้องมากเท่าไรแรงดินก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเหมือนจะรู้ว่าพ่อนั้นกำลังคุยด้วยนั่นเอง
3 เดือนต่อมา01.00 น.“โอ้ะ..โอ้ยย..คุณเอสคะ...”ทานตะวันรู้สึกเจ็บท้องขึ้นมากะทันหันเอรู้ว่านี่น่าจะเป็นอาการของคนเจ็บท้องคลอดเพราะเธอได้เข้ารับการอบรมกับคุณหมอและพยาบาลมาแล้วหญิงสาวพยายามหายใจเข้าออกลึกๆพร้อมเรียกชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างๆเธอให้รู้สึกตัว“อือ...อืม...เป็นอะไรครับตะวัน”เอริคยังมีอาการงัวเงียจากการปลุกของหญิงสาวพร้อมหันมาถามเธอว่าเป็นอะไรหรือเปล่าถึงได้ปลุกเขากลางึกแบบนี้“ตะวันเจ็บท้องค่ะ”“ฮะ...!!”เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวบอกกว่าเจ็บท้องชายหนุ่มที่กำลังมีตาสะลึมสะลืออยู่นั้นกลับเบิกตาโพรงพร้อมพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาลทันทีตอนนี้อาการง่วงนอนหายไปหมดเหลือแต่อาการตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูกแล้วนั่นเองโรงพยาบาลXXXลูคัสใช้เวลาขับรถไม่นานก็พาทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลเมื่อมาถึงแล้วพยาบาลกพาหญิงสาวไปตรวจที่ด้านในทันทีว่าตอนนี้ปากมดลูกนั้นเปิดกี่เซ็นแล้วและเธอนั้นพร้อมที่จะคลอดเองหรือเปล่า10 นาทีผ่านไป“ตอนนี้ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ”เอริครีบเดินเข้าไปคุยกับหมอที่พึ่งเดินออกมาจากห้องตรวจหญิงสาวเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้นั้นเป็นอย่างไรบ้างและเธอนั้นพร้อมคลอดแล้วหรือยัง
“มิเชล”วิลล์เปิดซองเอกสารตรงหน้าดูว่าฮานนั้นเอาอะไรมาวางไว้ให้เขาแล้วก็ไปเมื่อเปิดดูข้างในซองปรากฏว่าข้างในมีรูปถ่ายของหญิงสาวตอนที่อยู่โรงพยาบาลตอนที่เธอตรวจครรภ์และรูปอัลตร้าซาวด์ลูกในท้องของหญิงสาวอีกด้วยจากเอกสารที่เขาได้อ่านตอนนี้หญิงสาวก็ท้องได้ประมาณหกเดือนแล้วชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่พักใหญ่เขาไม่ยักรู้ว่าฮานนั้นไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหนแต่ตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณลูกน้องของเขาอย่างมากที่วันนี้ทำให้เขานั้นเขาได้รับข่าวดีที่สุดในตอนนี้เลยเช้าวันต่อมา“ฮานวันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนายจัดการงานแทนฉันด้วย”“ครับนาย...โชคดีนะครับ”“ขอบใจนายมากเรื่องเมื่อคืน”“ครับ”วิลล์ยกกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าพร้อมบอกกับลูกน้องของให้ดูแลงานแทนเพราะวันนี้เขาต้องไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาให้เรียบร้อยอีกทั้งยังไม่ลืมที่จะขอบคุณฮานจากการที่เก็บข้อมูลดีๆไว้ให้เขานั่นเองตัวของฮานเองก็ดีใจกับเจ้านายของเขาที่เริ่มทำตามใจของตัวเองเสียทีเพราะเขาคิดว่ายังไงเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วการที่ทั้งสองคนได้คุยกันมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้บ้านพักมิเชลเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะมาดื่มนมบำรุงครรภ์ของเธอในตอนเช้าหญิง
“อืมม...ตอนนี้ผมให้ฮานดูแลแทนอยู่”วิลล์ไม่อยากจะคิดเรื่องงานอะไรทั้งนั้นเมื่ออยู่กับหญิงสาวเขายอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้แล้วหากวันหนึ่งกิจการเขาๆไปไม่รอดก็ไม่เป็นไรเมื่อมีกิจการใหญ่แล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จเขาเองคิดไว้ว่าจะหันมาทำอะไรเล็กๆแทนก็ได้ขอแค่มีหญิงสาวและลุกอยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”“ก็ต้องประคองไปก่อนเพราะยอดขายสินค้าตัวใหม่ยังไม่มีกำไรเลย”“มิเชลคิดว่าคุณน่าจะลองเปลี่ยนคอยเซปใหม่เป็นเสื้อผ้าสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างที่มาติเนสลองทำดูสิคะ”มิเชลคิดว่าแบรนด์เสื้อผ้าในเครือของมอแกนออกแบบเสื้อผ้าค่อนข้างที่จะจับกลุ่มลูกค้าแบบเดิมเธอเองคิดอยากจะบอกกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ติดตรงที่เธอนั้นคิดว่าชายหนุ่มอาจจะไม่รับฟังเธอแต่วันนี้เธอจำต้องลองเสนอแนวทางนี้ให้กับชายหนุ่มดูมันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ได้เพราะจากข่าวคราวของแบรนด์เสื้อผ้าในเครือมาติเนสของเอริคที่เปิดตัวใหม่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ก็เป็นผลดีทีเดียวเธอเลยลองพูดให้ชายหนุ่มได้คิดตามดู“คุณจะให้ผมเลียนแบบเหรอไม่เอานะผมไม่ได้แข่งกับใครแล้ว”วิลล์ส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่อยากที
“...ฉันพยายามโอ๋อยู่นี่ไง...”วิลล์รู้ว่าเสียงร้องของวีน่าอาจจะทำให้อาทอร์ลูกชายของเอริคนั้นตื่นแต่จะให้เขาทำอย่างไรได้เขาทำดีที่สุดได้เท่านี้“นี่นายเลี้ยงลูกเป็นไหมของเล่นเอาไว้เล่นกับลูกเอามาไหม”เอริคเห็นว่าถ้าเด็กๆร้องก็ต้องมีของเล่นเอาไว้ปลอบเหมือนกับทานตะวันที่มักจะเตรียมติดตัวเอาไว้เพื่อหยอกล้อเล่นกับอาเทอรเวลาที่งอแงเขาเลยถามว่าวิลล์นั้นได้เอาติดมาด้วยหรือไม่เพราะมันอาจจะช่วยได้“อ่อ..เอ่อมิเชลเป็นคนเตรียมของมาฉันไม่รู้อยู่ไหน”วิลล์รู้ว่าเด็กคู่กับของเล่นแต่เขาก็ไม่รู้อีกว่ามิเชลนั้นเอาไว้ที่ไหนอันนี้เขาก็แอบเซ็งตัวเองอยู่เหมือนกัน“แง๊.ๆๆๆๆ.....แอะๆ”“วีน่าคะ...ดูของเล่นที่ลุงสิคะ...หนูเห็นไหมเอ่ย”เอริคจำต้องหยิบลูกบอลของลูกชายของเขาออกมาจากกระเป๋าและเดินมาที่หลังของวิลล์พร้อมเล่นกับเด็กหญิงที่กำลังร้องให้ซบบ่าคนเป็นพ่ออยู่เอริคใช้เสียงสองพร้อมเขย่าลูกบอลให้มีเสียงเพื่อเรียกความสนใจจากหนูน้อยซึ่งมันก็เป็นไปตามคาดหนูน้อยวีน่าหยุดร้องทันทีพร้อมทำหน้าสงสัยว่าคนตรงหน้านั้นกำลังทำอะไรอยู่“นายทำอะไรเอส”วิลล์อยากจะหลุดขำออกมาตั้งแต่ตอนที่เอริคใช้เสียงสองคุยกับลูกของเขาแต่เขานั้
20.00 น.เสียงดนตรีบนแคทวอล์คดังคลออยู่ที่หน้าเวทีเหล่านายแบบนางแบบที่สวมผ้าไทยเดินโชว์บนเวทีอยู่ในเวลานี้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่เข้าชมงานการตัดเย็บผ้าไทยโดยฝีมือของหญิงสาวที่เป็นดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ของแบรนด์นี้ว่าทำออกมาได้แปลกใหม่ทันสมัยแต่ยังคงความเป็นไทยไว้ดังเดิมอย่างดีอีกด้วย“โอเคไหมครับตะวัน”คงไทยเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่จ้างหญิงสาวมาเป็นดีไซน์เนอร์เดินมาเชคงานที่หลังเวทีเพราะว่าวันนี้งานค่อนข้างยุ่งและอีกอย่างทานตะวันนั้นก็แทบจะจัดการทุกอย่างคนเดียวและอีกอย่างตอนนี้หญิงสาวก็ต้องขึ้นเดินโชว์ชุดฟินนาเล่แทนนางแบบที่มาไม่ได้อีกต่างหากเขาจึงคิดว่าต้องมาให้กำลังใจเธอหน่อย“ตะวันตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะพี่ไทย”ทานตะวันยืนสูดหายใจเข้าออกลึกๆถึงแม้ว่าเธอนั้นจะจัดเวทีเดินแบบมาแล้วหลายงานตั้งแต่มาทำงานที่นี่แต่เธอก็ไม่เคยเดินเองเสียทีจนตอนนี้เธอนั้นรู้สึกประหม่าอยู่มากเมื่อได้คุยกับชายหนุ่มทำให้เธอนั้นสบายใจขึ้นมานิดหน่อยทานตะวันและคงไทยรู้จักกันตั้งแต่ที่สมัยทานตะวันนั้นเรียนมหาลัยโดยหญิงสาวนั้นเรียนศิลปกรรมศาสตร์สาขามัณฑนศิลป์(แฟชั่นดีไซน์)ส่วนชายหนุ่มนั้นเรียนบริหารธุรกิจที่ทั
20.00 น.เป็นเวลาหลังจากเลิกงานวันสุดท้ายของหญิงสาวนานแล้วเธอกลับบ้านมาด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวหญิงสาวรู้สึกหนักอึ้งอึดอัดในหัวใจอย่างมากที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือคลายทุกข์เธอได้เลย“ฮือๆๆ...ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะจันทร์เจ้ารู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงเธอขนาดไหน”ทานตะวันยังนั่งกอดลูกน้องสาวของเธอร้องไห้ยังไม่หยุดเพราะว่าเป็นเวลาสองเดือนกว่าแล้วที่น้องสาวเธอได้หายตัวไปเธอพยายามวิ่งเต้นแจ้งตำรวจเรื่องคดีทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าขึ้นมาเลยและถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้เบาะแสด้วยซ้ำว่าน้องเธอไปอยู่ที่ไหนหญิงสาวจึงคิดว่าเธอต้องใช้เงินเก็บของเธอทั้งหมดที่มีออกตามหาน้องสาวเธอเองแล้วแหละตอนนี้เธอนั่งร้องไห้ไปด้วยเก็บกระเป๋าไปด้วยเธอซื้อตั๋วเพื่อจะเดินทางไปที่อังกฤษในวันพรุ่งนี้เธอคิดว่าเป็นยังไงเป็นกันเพราะตอนนี้เธอได้ลาออกจากงานเรียบร้อยแล้วเพื่อที่จะตามหาน้องสาวของเธอได้เต็มที่ในเมื่อกฎหมายช่วยอะไรเธอไม่ได้เธอก็คงจะต้องช่วยเหลือตัวเองเพราะเธอไม่รู้ว่าในตอนนี้น้องสาวของเธอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างก็ไม่รู้ชีวิตของเธอเหลือเพียงแค่น้องสาวคนเดียวยังไงเธอก็ต้องตามหาคนในครอบครัวกลับมาให้ได้ให้นายเร็วที่สุ
หญิงสาวพยายามเข้าไปสอบถามพนักงานในโรงแรมว่ามีรายชื่อน้องสาวของเธอที่เคยเข้าพักที่นี่หรือไม่ก็ได้คำตอบอย่างผิดหวังกลับมาว่าไม่มีชื่อหญิงสาวเข้าพักที่นี่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีชื่อหญิงชื่อน้องสาวของเธอเข้ามาพักที่นี่เพราะว่าหลังจากที่จันทร์เจ้ามาที่อังกฤษน้องสาวของเธอบอกกับเธอเองว่าเธอนั้นพักอยู่ที่นี่แต่ในเมื่อได้รับความผิดหวังกลับมาทานตะวันก็ยังไม่ละความพยายามเธอพยายามที่จะสืบเสาะตามหาน้องสาวของเธอในเมืองนี้อยู่เพราะเธอคิดว่ายังไงเธอนั้นก็จะต้องตามหาน้องสาวของเธอให้เจอให้ได้แม้จะใช้ความพยายามมากมายแค่ไหนก็ตาม“ว้าย...ช่วยด้วยค่ะ”ในขณะที่ทานตะวันยืนคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นจู่ๆก็ได้มีผู้ชายฉกรรจ์วิ่งมาฉกกระเป๋าเธอและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วทำให้หญิงสาวตกใจอย่างมากเพราะในกระเป๋านั้นมีทั้งมือถือและเงินสดอีกมากมายที่จะทำให้เธอใช้ชีวิตที่นี่ได้อีกเป็นเดือนๆหญิงสาวเลยวิ่งตามคนที่ขโมยกระเป๋าเธออย่างไม่คิดชีวิตพร้อมร้องเรียกให้คนอื่นช่วยเป็นภาษาของคนที่นี่“หืมมม”เอริคที่กำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้ายังสบายอารมณ์อยู่นั้นเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของหญิงสาวว่าต้องค่ะต้องการความช่วยเหลือเขาจึงรีบหัน
“ผม...จะบอกกับคุณว่าผมเป็นนักสืบและผมสามารถช่วยคุณได้”ชายหนุ่มจำต้องโกหกหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นนักสืบเพราะว่าเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เธอได้รู้จักนั่นเองแต่ที่เขาต้องโกหกกับเธอว่าเป็นนักสืบเพราะว่าเขาอยากช่วยเธอจริงๆเพราะการบอกกับเธอว่าเขาเป็นนักสืบมันคงทำให้เธอมั่นใจได้ว่าเขานั้นสามารถหาน้องสาวของเธอได้จริงๆ“จริงเหรอคะงั้นคุณคุณก็ต้องช่วยฉันได้แน่ๆคุณเป็นคนที่นี่คุณต้องการค่าจ้างเท่าไหร่ฉันพร้อมจ่ายให้คุณค่ะขอเพียงแค่คุณตามหาน้องสาวฉันให้เจอ”ทานตะวันมีแววตาเป็นประกายและมีความหวังอย่างมากเพราะเธอรู้สึกว่าชายหนุ่มต้องช่วยเธอได้แน่ๆ“เอาแบบนี้นะครับ...ผมจะช่วยคุณเพราะผมเห็นว่าคุณเป็นคนต่างบ้านต่างเมืองผมเป็นคนพื้นที่ที่นี่อยู่แล้วผมสามารถที่จะช่วยคุณได้ง่ายๆผมไม่คิดเงินคุณก็แล้วกันแต่ว่าผมขอแค่ว่าต่อจากนี้เราเป็นเพื่อนกันนะครับ”ชายหนุ่มที่ถูกใจหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นเขาคิดว่าการที่ใช้วิธีนี้จะทำให้เขานั้นใกล้ชิดกับหญิงสาวได้มากขึ้นค่อยๆแทรกซึมไปทีละนิดแบบไม่ให้เธอนั้นรู้ตัว“โอเคค่ะฉันจะเป็นเพื่อนกับคุณแต่ว่าให้ฉันได้ตอบแทนอะไรคุณบ้างนะคะที่คุณยอมช่วยเหลือฉัน”หญิงสาวไม่รู้จะข