มาติเนส
ทานตะวันคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้ชายหนุ่มอยู่ไม่ห่างการที่ทั้งสองได้ดูแลกันและกันทำให้ทานตะวันนั้นรู้สึกรักและผูกพันธ์ชายหนุ่มมากขึ้นแต่ก็ยังปากแข็งอยู่ดี
เธอคอยดูพฤติกรรมของชายหนุ่มอยู่ตลอดว่าเขานั้นจริงใจกับเธอแค่ไหนหญิงสาวคิดว่าเวลาที่ผ่านมาเธอเริ่มมั่นใจแล้วว่าชายหนุ่มนั้นต้องการเพียงแค่เธอคนเดียวจริงๆแต่เธอก็ยังต้องดัดนิสัยเขาโดยการไม่ให้ได้อะไรมาง่ายๆโดยเฉพาะใจเธอถึงเขาจะได้มันมาแล้วเขาก็ควรได้เรียนรู้ว่าควรจะได้ทุกอย่างมาอย่างถูกต้องไม่ใช่ใช้เล่ห์ใช้กลเพื่อให้ได้มันมาอย่างที่เคยทำกับเธอคราแรก
“ทำอะไรอยู่เหรอครับหน้าเคร่งเครียดเชียว”
เอริคเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งจ้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเคร่งเครียดเขาเดินมาจับที่ไหล่ของเธอพร้อมถามว่าเธอทำอะไรถึงได้เคร่งเครียดขนาดนี้ท่าทางจะเป็นงานหิน
“คือตะวันออกแบบชุดที่อยากให้ฉีกไปจากแบบเดิมที่ตะวันเคยทำแต่ว่าลองวาดโครงออกมามันก็ไม่ถูกใจเสียทีเลยค่ะ”
ทานตะวันนั่งวาดแบบอยู่ทั้งวันแต่เมื่อแบบที่เธอวาดเสร็จแล้วนั้นหญิงสาวคิดว่ามันยังไม่ใช่สำหรับเธอเสียทีจนเธอแก้ไปแก้มาอยู่หลายรอบและตอนนี้สมองเธอก็เริ่มที่จะคิดอะไรไม่ออกแล้วด้วยเนื่องจากกดดันตัวเองมาทั้งวันนั่นเอง
“อืมม...คุณอย่าพึ่งกดดันตัวเองไปเลยนะเอางี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวที่สวยๆเผื่อคุณจะมีไอเดียดีๆเกิดขึ้น”
เอริคเห็นว่าหญิงสาวนั้นคงจะกดดันตัวเองเกินไปอาการแบบนี้เขาก็เคยเป็นเพราะฉะนั้นเขาต้องให้หญิงสาวผ่อนคลายตัวเองกับสมองบ้างเลยคิดว่าน่าจะพาหญิงสาวออกไปเที่ยวบ้างเผื่อสมองจะคิดอะไรดีๆออกเขาสามารถพาเธอเที่ยวได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของการพักผ่อนของตัวเขาเองด้วย
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ...คุณเอสจะได้ไปพักผ่อนที่อื่นนอกจากที่นี่บ้าง”
ทานตะวันเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่มเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็อุดอู้อยู่กับที่ทำงานหรือไม่ก็ที่บ้านพักของชายหนุ่มไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลยพักหลังเธอก็เอาเวลาส่วนใหญ่มาใส่ใจดูแลเขาอีกด้วยเลยทำให้ไม่ได้มีเวลาไปผ่อนคลายสมองเท่าไรนักเธอคิดว่าอาจจะต้องพาตัวเองไปผ่อนคายที่ไหนสักที่อย่างที่ชายหนุ่มบอกจริงๆ
“งั้นพรุ่งนี้เลยไหม”
เอริคเห็นว่าหญิงสาวเห็นดีเห็นงามด้วยความที่อยากเอาใจหญิงสาวอยู่แล้วเขาจึงคิดว่าไปมันให้เร็วที่สุดเลยเพราะเขาคิดออกอยู่ที่หนึ่งซึ่งเขาคิดว่าหญิงสาวน่าจะชอบ
“หืม...เร็วไปหรือเปล่าคะ..แล้วเราจะไปที่ไหนกันเหรอคะ”
ทานตะวันละสายตาจากคอคอมพร้อมหันมาทางชายหนุ่มอย่างรวดเร็วสีหน้าของเธอมีอาการตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะพาเธอไปเร็วขนาดนี้ทั้งที่เธอนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปที่ไหน
“เกาะส่วนตัวผมเอง”
เอริคบอกสถานที่ที่เขาจะพาหญิงสาวไปเพราะคิดว่าเกาะส่วนตัวของเขานี่แหละเป็นการพาหญิงสาวไปพักผ่อนที่ดีที่สุดเพราะธรรมชาติที่นั่นค่อนข้างสวยงามและสงบที่สุดอีกด้วย
“หยุดทำงานได้แล้ววันนี้ผมจะพาคุณไปช้อปปิ้งดีไหม”
เอริคหมุนเก้าอี้ของหญิงสาวให้หันหน้ามาทางเขาพร้อมบอกให้เธอวางมือจากงานเพราะวันนี้เขาจะพาเธอไปช้อปปิ้งอีกอย่างเขาก็มีของสำคัญที่คิดไว้ว่าอยากจะซื้อให้เธออีกด้วย
“แต่ตะวันไม่ได้อยากได้อะไรนี่คะ”
ทานตะวันยังนึกไม่ออกว่าเธอจะไปช้อปปิ้งเพื่อซื้ออะไรเพราะของใช้เธอก็มีครบแล้วอีกอย่างเธอเองก็ไม่ค่อยชอบที่จะเดินห้างสักเท่าไร
“ไปเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ”
เอริคเห็นอาการของหญิงสาวแล้วดูท่าว่าเธอนั้นไม่ได้อยากจะไปกับเขาแน่นอนเขาจึงจำต้องขอร้องเธอให้ไปเป็นเพื่อนเขาหน่อยก็ได้ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ได้พาเธอไปซื้อของที่เขาตั้งใจว่าเขาจะซื้อให้เธอเสียที
“ก็ได้ค่ะ”
ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มคงจะมีธุระต้องไปซื้ออะไรจริงๆถึงได้ขอร้องเธอให้ไปเป็นเพื่อนหญิงสาวจึงตอบตกลงเพราะเห็นว่าชายหนุ่มถึงขั้นขอร้องเธอแล้ว
ห้างสรรพสินค้า
เอริคขับรถของเขามาเองกับหญิงสาวโดยที่ไม่ได้ให้พวกลูกน้องเขาตามมาด้วยเพราะเขาอยากมาแบบส่วนตัวกับหญิงสาวเพียงสองต่อสองเท่านั้น
“ทานอะไรก่อนไหมตะวัน”
กว่าจะมาถึงห้างสรรพสินค้าก็เริ่มจะเย็นแล้วชายหนุ่มจึงคิดว่าหญิงสาวอาจจะหิวเลยถามเธอว่าเธอนั้นจะทานอะไรก่อนหรือไม่เพราะถ้าเธอหิวมันจะพาให้ไม่สนุกในการเดินสักเท่าไร
“ไม่หรอกค่ะตะวันยังไม่หิว...คุณเอสจะมาซื้ออะไรเหรอคะ”
“ตามผมมา”
“ตะวันอยากได้วงไหนเลือกเลยผมซื้อให้”
เอริคพาหญิงสาวเข้ามาที่ร้านเพชรชื่อดังพร้อมบอกให้เธอเลือกแหวนที่เรียงรายกันอยู่ในตู้กระจกเขาอยากจะซื้อแหวนให้เฮใส่นานแล้วแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสเสียทีวันนี้เขาถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้พาเธอมาเลือกด้วยตัวเองเป็นการเซอร์ไพรซ์หญิงสาวนั่นเอง
“เอ่อ...คุณเอสคะตะวันไม่ได้อยากได้ค่ะ”
ทานตะวันยืนอึ้งเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็บอกให้เธอเลือกแหวนเพชรที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าเสียอย่างนั้นไหนเขาบอกว่าจะมาซื้อของใช้ของเขาแต่กลับเป็นมาซื้อให้เธอเสียอย่างนั้นเมื่อเธอมองเพชรที่มันวิบวับอยู่ในตู้กระจกเหล่านี้ดูท่าว่าราคามันคงสูงลิ่วไม่เหมาะกับเธอสักเท่าไรจึงปฏิเสธชายหนุ่มออกไปว่าเธอไม่ได้อยากได้
“คุณเอส!!!”
“งั้นเอาวงนี้ครับ”
เอริคเลือกหยิบแหวนเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่พนักงานของทางร้านหยิบขึ้นมาให้ดูพร้อมดึงมือหญิงสาวขึ้นมาในตอนที่เธอไม่ได้ตั้งตัวพร้อมทั้งสวมแหวนวงนั้นไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอเมื่อเขาเห็นว่ามันช่างพอดีกับนิ้วเรียวของเธอเหลือเกินจึงบอกับพนักงานทางร้านว่าเขาเอาวงนี้พร้อมทั้งยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานทันที
10 นาทีต่อมา
ร้านอาหารXXX
“คุณเอสคะคุณจะซื้อมาทำไมคะตะวันไม่ได้อยากได้มันสักหน่อย”
หลังจากที่ออกจากร้านได้ทานตะวันก็บ่นอุกจนมานั่งสั่งอาหารทานเธอก็ยังบ่นไม่หยุดเพราะเธอไม่ได้อยากได้แหวนที่ชายหนุ่มซื้อให้เลยสักนิดอีกอย่างเพชรมันก็ใหญ่เสียจนเธอในชีวิตประจำวันไม่ได้แน่จึงถอดใส่กล่องแล้วให้ชายหนุ่มเก็บเอาไว้
“เอาเป็นว่าตอนนี้ผมจะเก็บมันไว้ก่อนผมเชื่อว่ามันต้องมีวันที่คุณรับแหวนวงนี้ไปจากผมอย่างเต็มใจ”เอริคบอกกับหญิงสาวเป็นนัยๆถึงเรื่องแหวนแต่เขาก็ยังเผยไม่หมดว่ามันเป็นเรื่องอะไรเขามั่นใจว่าอีกไม่นานหญิงสาวจะต้องเต็มใจรับแหวนวงนี้จากเขาเป็นแน่“อาหารมาแล้วทานเถอะค่ะเดี๋ยวเลยเวลาอาหารนะคะ”ทานตะวันทำท่าไม่สนใจที่ชายหนุ่มพูดเธอเบนความสนใจมาที่อาหารตรงหน้าพร้อมบอกให้ชายหนุ่มรีบทานเพราะเดี๋ยวจะเลยเวลาอาหารเย็นนั่นเองวันต่อมา“..ที่นี่สวยมากเลยค่ะ..”เมื่อเรือใกล้ที่จะเข้าฝั่งทานตะวันถึงกับต้องวิ่งมาชมวิวที่หัวเรือแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเพราะธรรมชาติที่นี่ช่างสวยงามสะกดสายตาของเธอเหลือเกินจนอดเอ่ยปากชมภาพตรงหน้าไม่ได้เธอไม่ยักรู้ว่าจะมีที่สวยๆเหมือนในหนังที่สร้างขึ้นแบบนี้ด้วย“คุณชอบหรือเปล่า”เอริคเดินมาโอบกอดที่หลังของหญิงสาวเขาเห็นอาการของเธอก็ดูออกว่าหญิงสาวนั้นชอบขนาดไหนเขาเลือกที่ไม่ผิดจริงๆ“ชอบมากเลยค่ะ...ที่นี่มีคนอยู่ด้วยเหรอคะ”ทานตะวันตอบชายหนุ่มแต่สายตานั้นก็ยังหยุดจับต้องภาพตรงหน้าไม่ได้ตอนนี้พอเรือเทียบทาเรือเล็กๆเธอเห็นคนเดินไปมาจึงถามชายหนุ่มว่ามีคนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยเ
“ผมว่าผมถือดีกว่านะ”เอริคเห็นว่าแขนของเขานั้นยาวกว่าหญิงสาวอยู่มากเลยคิดว่าเขาเป็นคนถือจะดีเสียกว่าเพราะจะได้ภาพที่มุมว้างขึ้นนั่นเอง“ค่ะ”ฟอด“คุณเอส”ทานตะวันที่กำลังยิ้มให้กล้องอยู่นั้นเธอต้องตกใจเพราะจู่ๆชายหนุ่มก็หันหน้ามาหอมเธอฟอดใหญ่โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเฮทั้งตกใจทั้งเขินไปในคราเดียวกันรูปในกล้องเธอรู้เลยว่ามันต้องเป็นหน้าของเธอตกใจโดยมีชายหนุ่มหอมแก้มเธออยู่เป็นแน่“แกล้งตะวันอีกแล้วนะคะ”ทานตะวันตอนนี้ปั้นสีหน้าไม่ถูกไม่รู้จะเขินหรือไม่พอใจดีแต่ตอนนี้หน้าเธอนั้นแดงเป็นลูกตำลึงจนชายหนุ่มเห็นได้ชัดพร้อมบ่นชายหนุ่มว่าเขานั้นชอบหาเรื่องแกล้งเธออยู่เรื่อย“น่ารักดีออก..เก็บไว้ให้ลูกเราดูไง”เอริคเปิดรูปที่พึ่งถ่ายเมื่อครู่ให้หญิงสาวนั้นดูพร้อมบอกกับเธอว่ารูปนี้ออกจะน่ารักเขาไม่ได้ตั้งใจแกลงเธอแค่อยากมีรูปที่ดูหวานๆแค่นั้นเองพร้อมแอบกระซิบคนที่ยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆเขาว่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูกดูอีกด้วย“คุณเอส...ตะวันไม่คุยด้วยแล้ว”จากที่ทานตะวันนั้นเขินเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลับเขินหนักขึ้นไปอีกเพราคำพูดของชายหนุ่มเธอทำตัวไปถูกเลยจำต้องเดินหนีเขาออกไปจากตรงนั้นทันที“จะไปไหน...”เอริครี
“ค่ะ...คุณเอส”ทานตะวันน้ำตาคลอพร้อมยื่นมือซ้ายให้ชายหนุ่มเธอพร้อมแล้วที่จะให้เขานั้นดูแลเธอไปตลอดชีวิตและเธอก็ยังมีชีวิตน้อยๆในท้องที่จะให้เขาได้ดูแลอีกด้วย“ขอบคุณนะครับตะวัน..ผมรักคุณมากเลยรู้ไหม”“ตะวันก็รักคุณค่ะ...แต่คุณจะดูแลแค่ตะวันคนเดียวก็คงไม่ได้”เอริครีบสวมแหวนให้หญิงสาวพร้อมลุกขึ้นมากอดเธอเอาไว้อย่างแนบแน่นด้วยอาการดีใจทานตะวันเองก็เช่นกันเธอมีความสุขที่สุดเลยไม่คิดว่าเขาจะตามตื๊อเธอจนมีวันนี้ได้พร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าหากเขานั้นจะดูแลเธอคนเดียวเห็นทีคงจะไม่ได้เสียแล้ว“คุณกำลังหมายถึงอะไรผมไม่เข้าใจ”เอริคผละกอดจากหญิงสาวพร้อมมองหน้าของเธอเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดสักเท่าไร“นี่ค่ะ”ทานตะวันหยิบผลการตั้งครรภ์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอมาให้ชายหนุ่มดูสองอันเป็นคำตอบว่าสิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่กับเข้านั้นมันคืออะไร“นี่เรากำลัง...จะมีลูกกก...ลูกเรา...เย่!!”“55555...คุณเอสเบาๆค่ะ”เอริคมือสั่นเล็กน้อยเมื่อหยิบผลตรวจครรภ์จากมือหญิงสาวมาดูตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าที่เธอพูดมันคืออะไรชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างภูมิใจต่อไปนี้เขาจะเป็นพ่อคนแล้วและตอนนี้เขาก็กำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว
ชายหนุ่มพอจะเดาออกว่าไอ้สีสันที่หลากหลายของลายผ้านี้เธอคงจะได้ไอเดียมาจากสิ่งที่เขาพาเธอไปดูวันนี้เป็นแน่แต่โดยรวมถือว่าเขาชอบอย่างมากและเขาคิดว่าหากนำเสนอบนบอร์ดประชุมทุกคนต้องเห็นด้วยในเสื้อผ้าคอลเลคชั่นที่หญิงสาวออกแบบเป็นแน่“ค่ะ...พวกเค้าช่วยตะวันได้ไอเดียเยอะเลยค่ะ”ทานตะวันหันมายิ้มให้ชายหนุ่มที่เขารู้ทันเธอว่าได้ไอเดียมาจากไหนเธอหวังว่านี่มันจะเป็นมิติใหม่ของแบรนด์ที่จะจับกลุ่มการตลาดแบบไหม่ที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นผลดีต่อแบรนด์อีกด้วย“แต่ว่าผมอยากให้ตะวันพักจากการทำงานทั้งหมดแล้วเอาเวลาดูแลครรภ์ดีกว่าเนอะเรื่องต่อจากนี้เดี๋ยวผมกับทีมจะจัดการเอง”เอริคเห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตั้งท้องอ่อนๆเขาไม่อยากให้เธอทำงานอะไรทั้งสิ้นถ้าเธอออกแบบเสร็จแล้วต่อไปเขาจะเป็นคนสานต่อเรื่องนี้เองเพราะเขาอยากให้เธอได้พักเอาเวลาดูแลตัวเองกับลูกที่อยู่ในท้องจะดีกว่า“อืมม...แต่ตะวันอยากลงมืองานนี้ด้วยตัวเองนะคะ..นะคะคุณเอสไม่อย่างนั้นตะวันคงเครียดแย่”ทานตะวันหน้าบูดขึ้นทันทีเธอคิดไว้แล้วว่าชายหนุ่มต้องห้ามเธอทำงานแน่นอนรู้แบบนี้เธอค่อยบอกกับเขาเรื่องลูกดีกว่าหญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มเป็นห่วงแต่เธอเองรู้ว่าเธอทำ
3 เดือนต่อมา01.00 น.“โอ้ะ..โอ้ยย..คุณเอสคะ...”ทานตะวันรู้สึกเจ็บท้องขึ้นมากะทันหันเอรู้ว่านี่น่าจะเป็นอาการของคนเจ็บท้องคลอดเพราะเธอได้เข้ารับการอบรมกับคุณหมอและพยาบาลมาแล้วหญิงสาวพยายามหายใจเข้าออกลึกๆพร้อมเรียกชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างๆเธอให้รู้สึกตัว“อือ...อืม...เป็นอะไรครับตะวัน”เอริคยังมีอาการงัวเงียจากการปลุกของหญิงสาวพร้อมหันมาถามเธอว่าเป็นอะไรหรือเปล่าถึงได้ปลุกเขากลางึกแบบนี้“ตะวันเจ็บท้องค่ะ”“ฮะ...!!”เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวบอกกว่าเจ็บท้องชายหนุ่มที่กำลังมีตาสะลึมสะลืออยู่นั้นกลับเบิกตาโพรงพร้อมพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาลทันทีตอนนี้อาการง่วงนอนหายไปหมดเหลือแต่อาการตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูกแล้วนั่นเองโรงพยาบาลXXXลูคัสใช้เวลาขับรถไม่นานก็พาทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลเมื่อมาถึงแล้วพยาบาลกพาหญิงสาวไปตรวจที่ด้านในทันทีว่าตอนนี้ปากมดลูกนั้นเปิดกี่เซ็นแล้วและเธอนั้นพร้อมที่จะคลอดเองหรือเปล่า10 นาทีผ่านไป“ตอนนี้ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ”เอริครีบเดินเข้าไปคุยกับหมอที่พึ่งเดินออกมาจากห้องตรวจหญิงสาวเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้นั้นเป็นอย่างไรบ้างและเธอนั้นพร้อมคลอดแล้วหรือยัง
“มิเชล”วิลล์เปิดซองเอกสารตรงหน้าดูว่าฮานนั้นเอาอะไรมาวางไว้ให้เขาแล้วก็ไปเมื่อเปิดดูข้างในซองปรากฏว่าข้างในมีรูปถ่ายของหญิงสาวตอนที่อยู่โรงพยาบาลตอนที่เธอตรวจครรภ์และรูปอัลตร้าซาวด์ลูกในท้องของหญิงสาวอีกด้วยจากเอกสารที่เขาได้อ่านตอนนี้หญิงสาวก็ท้องได้ประมาณหกเดือนแล้วชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่พักใหญ่เขาไม่ยักรู้ว่าฮานนั้นไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหนแต่ตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณลูกน้องของเขาอย่างมากที่วันนี้ทำให้เขานั้นเขาได้รับข่าวดีที่สุดในตอนนี้เลยเช้าวันต่อมา“ฮานวันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนายจัดการงานแทนฉันด้วย”“ครับนาย...โชคดีนะครับ”“ขอบใจนายมากเรื่องเมื่อคืน”“ครับ”วิลล์ยกกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าพร้อมบอกกับลูกน้องของให้ดูแลงานแทนเพราะวันนี้เขาต้องไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาให้เรียบร้อยอีกทั้งยังไม่ลืมที่จะขอบคุณฮานจากการที่เก็บข้อมูลดีๆไว้ให้เขานั่นเองตัวของฮานเองก็ดีใจกับเจ้านายของเขาที่เริ่มทำตามใจของตัวเองเสียทีเพราะเขาคิดว่ายังไงเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วการที่ทั้งสองคนได้คุยกันมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้บ้านพักมิเชลเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะมาดื่มนมบำรุงครรภ์ของเธอในตอนเช้าหญิง
“อืมม...ตอนนี้ผมให้ฮานดูแลแทนอยู่”วิลล์ไม่อยากจะคิดเรื่องงานอะไรทั้งนั้นเมื่ออยู่กับหญิงสาวเขายอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้แล้วหากวันหนึ่งกิจการเขาๆไปไม่รอดก็ไม่เป็นไรเมื่อมีกิจการใหญ่แล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จเขาเองคิดไว้ว่าจะหันมาทำอะไรเล็กๆแทนก็ได้ขอแค่มีหญิงสาวและลุกอยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”“ก็ต้องประคองไปก่อนเพราะยอดขายสินค้าตัวใหม่ยังไม่มีกำไรเลย”“มิเชลคิดว่าคุณน่าจะลองเปลี่ยนคอยเซปใหม่เป็นเสื้อผ้าสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างที่มาติเนสลองทำดูสิคะ”มิเชลคิดว่าแบรนด์เสื้อผ้าในเครือของมอแกนออกแบบเสื้อผ้าค่อนข้างที่จะจับกลุ่มลูกค้าแบบเดิมเธอเองคิดอยากจะบอกกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ติดตรงที่เธอนั้นคิดว่าชายหนุ่มอาจจะไม่รับฟังเธอแต่วันนี้เธอจำต้องลองเสนอแนวทางนี้ให้กับชายหนุ่มดูมันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ได้เพราะจากข่าวคราวของแบรนด์เสื้อผ้าในเครือมาติเนสของเอริคที่เปิดตัวใหม่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ก็เป็นผลดีทีเดียวเธอเลยลองพูดให้ชายหนุ่มได้คิดตามดู“คุณจะให้ผมเลียนแบบเหรอไม่เอานะผมไม่ได้แข่งกับใครแล้ว”วิลล์ส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่อยากที
“...ฉันพยายามโอ๋อยู่นี่ไง...”วิลล์รู้ว่าเสียงร้องของวีน่าอาจจะทำให้อาทอร์ลูกชายของเอริคนั้นตื่นแต่จะให้เขาทำอย่างไรได้เขาทำดีที่สุดได้เท่านี้“นี่นายเลี้ยงลูกเป็นไหมของเล่นเอาไว้เล่นกับลูกเอามาไหม”เอริคเห็นว่าถ้าเด็กๆร้องก็ต้องมีของเล่นเอาไว้ปลอบเหมือนกับทานตะวันที่มักจะเตรียมติดตัวเอาไว้เพื่อหยอกล้อเล่นกับอาเทอรเวลาที่งอแงเขาเลยถามว่าวิลล์นั้นได้เอาติดมาด้วยหรือไม่เพราะมันอาจจะช่วยได้“อ่อ..เอ่อมิเชลเป็นคนเตรียมของมาฉันไม่รู้อยู่ไหน”วิลล์รู้ว่าเด็กคู่กับของเล่นแต่เขาก็ไม่รู้อีกว่ามิเชลนั้นเอาไว้ที่ไหนอันนี้เขาก็แอบเซ็งตัวเองอยู่เหมือนกัน“แง๊.ๆๆๆๆ.....แอะๆ”“วีน่าคะ...ดูของเล่นที่ลุงสิคะ...หนูเห็นไหมเอ่ย”เอริคจำต้องหยิบลูกบอลของลูกชายของเขาออกมาจากกระเป๋าและเดินมาที่หลังของวิลล์พร้อมเล่นกับเด็กหญิงที่กำลังร้องให้ซบบ่าคนเป็นพ่ออยู่เอริคใช้เสียงสองพร้อมเขย่าลูกบอลให้มีเสียงเพื่อเรียกความสนใจจากหนูน้อยซึ่งมันก็เป็นไปตามคาดหนูน้อยวีน่าหยุดร้องทันทีพร้อมทำหน้าสงสัยว่าคนตรงหน้านั้นกำลังทำอะไรอยู่“นายทำอะไรเอส”วิลล์อยากจะหลุดขำออกมาตั้งแต่ตอนที่เอริคใช้เสียงสองคุยกับลูกของเขาแต่เขานั้