โรงพยาบาลXXX
หลังจากที่หญิงสาวถึงมือหมอแล้วเธออยู่ในห้องฉุกเฉินเกือบสองชั่วโมงชายหนุ่มที่นั่งรอผลการตรวจของหมดด้วยความใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าห้องตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้วเพราะตอนนี้เขานั้นรู้สึกเป็นห่วงเธอเหลือเกินเขาไม่เข้าใจว่าเธอจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
เช้าวันต่อมา
หลังจากที่หญิงสาวอยู่ในห้องฉุกเฉินประมาณสามชั่วโมงของเมื่อคืนเธอก็พ้นขีดอันตรายแต่ก็ต้องให้เลือดและน้ำเกลือเพื่อให้เธอฟื้นตัวได้เร็วและยังต้องคอยดูอาการที่โรงพยาบาลอีกระยะเพราะเมื่อร่างกายหายดีแล้วก็ยังกลับไม่ได้เพราะจิตใจข้างในนั้นของเธอยังบอบช้ำอยู่ต้องให้เธออยู่รักษากับจิตแพทย์ระยะหนึ่ง
10.00 น.
“มิเชล...คุณทำแบบนี้ทำไม”
หลังจากที่หมอตรวจอาการของมิเชลเสร็จเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้เข้ามาคุยกับเธอดูว่าเธอทำแบบนี้ต้องการอะไรเพราะมันมีแต่เสียกับเสียเขาอยากให้เธอรับรู้ได้ว่าหัวใจเขานั้นสลายแค่ไนเมื่อเห็นเธอนอนเจ็บปางตายอยู่ต่อหน้าเขาเองไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีกต่อไปถ้าเขาทำอะไรให้เธอสบายใจขึ้นได้เขาก็พร้อมจะทำทุกอย่างแล้วตอนนี้เขาพร้อมจริงๆ
“ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย”
มิเชลไม่ได้สนใจคำถามของชายหนุ่มแม้แต่น้อยตอนนี้สีหน้าเธอมีเลือดฝาดมากขึ้นแต่แววตาก็ยังเศร้าหมองอยู่เหมือนเดิมเธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เธอนั้นไม่ตายๆไปซะจะได้ไม่ต้องอยู่แบบทุกข์ใจรับรู้เรื่องราวโหดร้ายอะไรแบบนี้พร้อมทั้งถามชายหนุ่มว่าทำไมเขาถึงไม่ปล่อยให้เธอตายไปเธอจะได้หลุดพ้นจากเขาเสียที
“ผมเสียคุณไปไม่ได้...ผมรักคุณ”
วิลล์มีอาการหน้าชาวาบกับคำถามของหญิงสาวเขาจะปล่อยให้เธอตายต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรในเมื่อเขาก็เคยบอกเธอไปแล้วว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอมีแต่หญิงสาวเท่านั้นที่คอยแต่จะปฏิเสธเขาเรื่อยมาเขาเข้าใจว่าเธอเกลียดนิสัยของเขาแต่เขาเองก็พยายามปรับให้มันดีขึ้นถึงมันจะยากแต่เขาก็พร้อมจะทำเพื่อเธอแต่เธอกลับมองไม่เห็นค่าอะไรของมันเลย
“รักฉันเหรอ...งั้นคุณก็ต้องทำทุกอย่างได้เพื่อคนที่คุณรักน่ะสิ”
มิเชลไม่ได้ซึ้งกับคำว่ารักของชายหนุ่มเลยสักนิดเพราะหัวใจของเธอตอนนี้มันด้านชาไปหมดแล้วมันมีแต่ความเกลียดชังให้ชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอคิดว่าเขาเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของเธอตายแม้ตำรวจจะยืนยันกับเธอแล้วว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุแต่ทิฐิของหญิงสาวมันทำให้เธอนั้นเชื่อได้ยากนั่นเอง
เธออยากรู้ว่าคำที่เขาบอกรักเธอและทำทุกอย่างได้เพื่อเธอนั้นเขาทำได้จริงหรือเปล่าหญิงสาวจึงถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยขึ้น
“คุณต้องการอะไรบอกผมมาได้เลย”
วิลล์มีอาการดีใจอยู่ไม่น้อยที่หญิงสาวนั้นยอมที่จะคุยดีๆกับเขาแล้วชายหนุ่มรีบเขยิบเข้าไปใกล้ๆหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอบอกสิ่งที่เธอต้องการมาได้เลยเขาพร้อมที่จะทำเพื่อเธอเสมอ
“คุณเลิกนิสัยชอบบังคับ...ชอบเอาชนะของคุณ”
“ผมยอมทำทุกอย่างผมจะเชื่อฟังคุณแต่คุณห้ามทำแบบนี้อีกนะคุณต้องอยู่กับผม”
สิ่งที่หญิงสาวบอกกับเขานั้นเขาพยายามเลิกมันมาตลอดอยู่แล้วอันนี้เขาทำได้อยู่แล้วเห็นๆพร้อมทั้งบอกกับเธอว่าหากเธอนั้นเห็นว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วเธอต้องห้ามคิดสั้นและอยู่กับเขาตลอดไป
“แล้วคุณ....ก็ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าสักพัก”
“เอ่อ...”
วิลล์หุบยิ้มลงทันทีเมื่อได้ยินคำขออีกอย่างของหญิงสาวเขายังอ้ำอึ้งอยู่ว่าจะตอบรับดีไหมเพราะเขาไม่รู้ว่าจะทนคิดถึงเธอไหวหรือเปล่าหากไม่เจอเธอสักพักอย่างที่หญิงสาวขอร้อง
“ถ้าคุณทำไม่ได้ฉันก็จะหาเรื่องฆ่าตัวตายแบบนี้ซ้ำๆจนกว่าฉันจะตาย”
มิเชลเห็นว่าชายหนุ่มยังมีทีท่าที่จะไม่ตอบรับคำขอของเธอหญิงสาวเลยใช้โอกาสนี้เพื่อขู่เขาว่าจะหาโอกาสจากโลกนี้ไปเรื่อยๆหากเขาไม่ทำตามคำของของเธอ
หญิงสาวอยากลองอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีเขาอยู่ใกล้ๆเธออยากรู้ใจตัวเองเหมือนกันว่ามันคิดยังไงกับเขากันแน่พักหลังที่เขาทำตัวดีกับเธอจนแทบจะทำลายกำแพงของหัวใจเธอได้แล้วแต่เรื่องคราวนี้มันหนักเสียจนเธอสับสนไปหมดว่าเธอนั้นรู้สึกกับชายหนุ่มอย่างไรกันแน่ทั้งปากและสมองต่างก็บอกว่าเกลียดแต่หัวใจเธอมันทำไมรู้สึกตรงกันข้ามอย่างบอกไม่ถูกอีกทั้งตอนนี้เธอก็ต้องขอทำใจเรื่องของพ่อและแม่เธอสักพัก
เธอเลยอยากอยู่คนเดียวเพื่อพิสูจน์ความรู้สึกตัวเองและพยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้นลบทิฐิและทำใจว่าอุบัติเหตุของพ่อและแม่ของเธอที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ
“ไม่นะ...ผมยอมทุกอย่าง”
และแล้วคำขู่ของหญิงสาวก็ได้ผลต่อชายหนุ่มเขายอมรับปากเธออย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าเธอจะทำจริงอย่างที่ปากพูดถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงทำใจลำบากแน่
2 อาทิตย์ต่อมา
หลังจากที่มิเชลพักรักษาตัวจนดีขึ้นแล้วชายหนุ่มจึงทำตามสัญญาที่ไว้ให้กับเธอโดยการไม่ให้เธอนั้นเห็นหน้าเขาสักพักแต่มีข้อแม้ว่าหญิงสาวจะต้องอยู่บ้านพักของเขาและมีคนของเขาคอยดูแลซึ่งหญิงสาวตอบตกลงเธอจะอยู่ที่ไหนก็ได้กับใครก็ได้แต่ขออย่างเดียวช่วงนี้เธอแค่ไม่ต้องเห็นหน้าเขาก็พอ
“คุณอยู่ที่นี่ให้สบายใจถ้าอยากได้อะไรก็สั่งแม่บ้านที่ผมให้เธอมาดูแลคุณ”
เมื่อชายหนุ่มมาส่งหญิงสาวที่บ้านพักของเขาที่อยู่อีกเมืองหนึ่งค่อนข้างที่จะสงบที่นี่ค่อนข้างที่จะอากาศดีเป็นส่วนตัวแต่ก็ค่อนข้างที่จะสะดวกในการหาอาหารการกินพร้อมให้เมดและลูกน้องของเขาอีกสองสามคนคอยดูแลเธออยู่ห่างๆไม่ให้เธอนั้นรู้สึกอึดอัดมากแต่เขาก็เบาใจได้ว่าเธอยังปลอดภัยเพราะลูกน้องที่เขาส่งมาดูแลเธอล้วนฝีมือดีกันทั้งนั้น
“ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่เจอหน้าคุณ”
มิเชลตอบรับชายหนุ่มแต่ไม่ได้หันหน้ามามองเขาแม้แต่น้อยเธอดีใจอยู่ไม่น้อยที่ตอนนี้เธอนั้นจะได้อยู่อย่างอิสระบ้างเสียทีถึงจะมีลูกน้องชายหนุ่มตามเธออยู่ก็เถอะ
“...ผมกลับแล้วนะดูแลตัวเองดีๆ..”
วิลล์ยืนมองคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาในบ้านด้วยสายตาที่หลบลงเล็กน้อยเพราะรู้สึกน้อยใจกับคำพูดของหญิงสาวแต่เขาก็พยายามเก็บอาการเอาไว้และบอกให้เธอนั้นดูแลตัวเองดีๆเพราะเขาจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆเธอแล้วนั่นเอง
“........”
มิเชลรู้สึกใจสั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มเธอไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องรู้สึกใจหายด้วยเมื่อต่อไปนี้เธอจะไม่ได้เห็นหน้าเขาเป็นเวลาพักใหญ่เมื่อครู่เธอยังรู้สึกดีใจอยู่เลยแต่เมื่อเห็นว่าเขาจะไปจริงๆแล้วเธอกลับใจหายแปลกๆแต่เธอเองก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรเขาออกไปพร้อมกับหันหน้าหนีไม่ยอมมองชายหนุ่มเดินออกไปอีกด้วย
“ผมไปนะ”
ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปชายหนุ่มยังหันมาส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ให้กับหญิงเพราะว่าไม่อยากจะจากเธอไปแต่ก็ต้องจำใจไปนั่นเอง
มาติเนสทานตะวันคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้ชายหนุ่มอยู่ไม่ห่างการที่ทั้งสองได้ดูแลกันและกันทำให้ทานตะวันนั้นรู้สึกรักและผูกพันธ์ชายหนุ่มมากขึ้นแต่ก็ยังปากแข็งอยู่ดีเธอคอยดูพฤติกรรมของชายหนุ่มอยู่ตลอดว่าเขานั้นจริงใจกับเธอแค่ไหนหญิงสาวคิดว่าเวลาที่ผ่านมาเธอเริ่มมั่นใจแล้วว่าชายหนุ่มนั้นต้องการเพียงแค่เธอคนเดียวจริงๆแต่เธอก็ยังต้องดัดนิสัยเขาโดยการไม่ให้ได้อะไรมาง่ายๆโดยเฉพาะใจเธอถึงเขาจะได้มันมาแล้วเขาก็ควรได้เรียนรู้ว่าควรจะได้ทุกอย่างมาอย่างถูกต้องไม่ใช่ใช้เล่ห์ใช้กลเพื่อให้ได้มันมาอย่างที่เคยทำกับเธอคราแรก“ทำอะไรอยู่เหรอครับหน้าเคร่งเครียดเชียว”เอริคเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งจ้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเคร่งเครียดเขาเดินมาจับที่ไหล่ของเธอพร้อมถามว่าเธอทำอะไรถึงได้เคร่งเครียดขนาดนี้ท่าทางจะเป็นงานหิน“คือตะวันออกแบบชุดที่อยากให้ฉีกไปจากแบบเดิมที่ตะวันเคยทำแต่ว่าลองวาดโครงออกมามันก็ไม่ถูกใจเสียทีเลยค่ะ”ทานตะวันนั่งวาดแบบอยู่ทั้งวันแต่เมื่อแบบที่เธอวาดเสร็จแล้วนั้นหญิงสาวคิดว่ามันยังไม่ใช่สำหรับเธอเสียทีจนเธอแก้ไปแก้มาอยู่หลายรอบและตอนนี้สมองเธอก็เริ่มที่จะคิดอะไรไม่ออกแล้วด้วยเนื่
“เอาเป็นว่าตอนนี้ผมจะเก็บมันไว้ก่อนผมเชื่อว่ามันต้องมีวันที่คุณรับแหวนวงนี้ไปจากผมอย่างเต็มใจ”เอริคบอกกับหญิงสาวเป็นนัยๆถึงเรื่องแหวนแต่เขาก็ยังเผยไม่หมดว่ามันเป็นเรื่องอะไรเขามั่นใจว่าอีกไม่นานหญิงสาวจะต้องเต็มใจรับแหวนวงนี้จากเขาเป็นแน่“อาหารมาแล้วทานเถอะค่ะเดี๋ยวเลยเวลาอาหารนะคะ”ทานตะวันทำท่าไม่สนใจที่ชายหนุ่มพูดเธอเบนความสนใจมาที่อาหารตรงหน้าพร้อมบอกให้ชายหนุ่มรีบทานเพราะเดี๋ยวจะเลยเวลาอาหารเย็นนั่นเองวันต่อมา“..ที่นี่สวยมากเลยค่ะ..”เมื่อเรือใกล้ที่จะเข้าฝั่งทานตะวันถึงกับต้องวิ่งมาชมวิวที่หัวเรือแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเพราะธรรมชาติที่นี่ช่างสวยงามสะกดสายตาของเธอเหลือเกินจนอดเอ่ยปากชมภาพตรงหน้าไม่ได้เธอไม่ยักรู้ว่าจะมีที่สวยๆเหมือนในหนังที่สร้างขึ้นแบบนี้ด้วย“คุณชอบหรือเปล่า”เอริคเดินมาโอบกอดที่หลังของหญิงสาวเขาเห็นอาการของเธอก็ดูออกว่าหญิงสาวนั้นชอบขนาดไหนเขาเลือกที่ไม่ผิดจริงๆ“ชอบมากเลยค่ะ...ที่นี่มีคนอยู่ด้วยเหรอคะ”ทานตะวันตอบชายหนุ่มแต่สายตานั้นก็ยังหยุดจับต้องภาพตรงหน้าไม่ได้ตอนนี้พอเรือเทียบทาเรือเล็กๆเธอเห็นคนเดินไปมาจึงถามชายหนุ่มว่ามีคนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยเ
“ผมว่าผมถือดีกว่านะ”เอริคเห็นว่าแขนของเขานั้นยาวกว่าหญิงสาวอยู่มากเลยคิดว่าเขาเป็นคนถือจะดีเสียกว่าเพราะจะได้ภาพที่มุมว้างขึ้นนั่นเอง“ค่ะ”ฟอด“คุณเอส”ทานตะวันที่กำลังยิ้มให้กล้องอยู่นั้นเธอต้องตกใจเพราะจู่ๆชายหนุ่มก็หันหน้ามาหอมเธอฟอดใหญ่โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเฮทั้งตกใจทั้งเขินไปในคราเดียวกันรูปในกล้องเธอรู้เลยว่ามันต้องเป็นหน้าของเธอตกใจโดยมีชายหนุ่มหอมแก้มเธออยู่เป็นแน่“แกล้งตะวันอีกแล้วนะคะ”ทานตะวันตอนนี้ปั้นสีหน้าไม่ถูกไม่รู้จะเขินหรือไม่พอใจดีแต่ตอนนี้หน้าเธอนั้นแดงเป็นลูกตำลึงจนชายหนุ่มเห็นได้ชัดพร้อมบ่นชายหนุ่มว่าเขานั้นชอบหาเรื่องแกล้งเธออยู่เรื่อย“น่ารักดีออก..เก็บไว้ให้ลูกเราดูไง”เอริคเปิดรูปที่พึ่งถ่ายเมื่อครู่ให้หญิงสาวนั้นดูพร้อมบอกกับเธอว่ารูปนี้ออกจะน่ารักเขาไม่ได้ตั้งใจแกลงเธอแค่อยากมีรูปที่ดูหวานๆแค่นั้นเองพร้อมแอบกระซิบคนที่ยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆเขาว่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูกดูอีกด้วย“คุณเอส...ตะวันไม่คุยด้วยแล้ว”จากที่ทานตะวันนั้นเขินเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลับเขินหนักขึ้นไปอีกเพราคำพูดของชายหนุ่มเธอทำตัวไปถูกเลยจำต้องเดินหนีเขาออกไปจากตรงนั้นทันที“จะไปไหน...”เอริครี
“ค่ะ...คุณเอส”ทานตะวันน้ำตาคลอพร้อมยื่นมือซ้ายให้ชายหนุ่มเธอพร้อมแล้วที่จะให้เขานั้นดูแลเธอไปตลอดชีวิตและเธอก็ยังมีชีวิตน้อยๆในท้องที่จะให้เขาได้ดูแลอีกด้วย“ขอบคุณนะครับตะวัน..ผมรักคุณมากเลยรู้ไหม”“ตะวันก็รักคุณค่ะ...แต่คุณจะดูแลแค่ตะวันคนเดียวก็คงไม่ได้”เอริครีบสวมแหวนให้หญิงสาวพร้อมลุกขึ้นมากอดเธอเอาไว้อย่างแนบแน่นด้วยอาการดีใจทานตะวันเองก็เช่นกันเธอมีความสุขที่สุดเลยไม่คิดว่าเขาจะตามตื๊อเธอจนมีวันนี้ได้พร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าหากเขานั้นจะดูแลเธอคนเดียวเห็นทีคงจะไม่ได้เสียแล้ว“คุณกำลังหมายถึงอะไรผมไม่เข้าใจ”เอริคผละกอดจากหญิงสาวพร้อมมองหน้าของเธอเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดสักเท่าไร“นี่ค่ะ”ทานตะวันหยิบผลการตั้งครรภ์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอมาให้ชายหนุ่มดูสองอันเป็นคำตอบว่าสิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่กับเข้านั้นมันคืออะไร“นี่เรากำลัง...จะมีลูกกก...ลูกเรา...เย่!!”“55555...คุณเอสเบาๆค่ะ”เอริคมือสั่นเล็กน้อยเมื่อหยิบผลตรวจครรภ์จากมือหญิงสาวมาดูตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าที่เธอพูดมันคืออะไรชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างภูมิใจต่อไปนี้เขาจะเป็นพ่อคนแล้วและตอนนี้เขาก็กำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว
ชายหนุ่มพอจะเดาออกว่าไอ้สีสันที่หลากหลายของลายผ้านี้เธอคงจะได้ไอเดียมาจากสิ่งที่เขาพาเธอไปดูวันนี้เป็นแน่แต่โดยรวมถือว่าเขาชอบอย่างมากและเขาคิดว่าหากนำเสนอบนบอร์ดประชุมทุกคนต้องเห็นด้วยในเสื้อผ้าคอลเลคชั่นที่หญิงสาวออกแบบเป็นแน่“ค่ะ...พวกเค้าช่วยตะวันได้ไอเดียเยอะเลยค่ะ”ทานตะวันหันมายิ้มให้ชายหนุ่มที่เขารู้ทันเธอว่าได้ไอเดียมาจากไหนเธอหวังว่านี่มันจะเป็นมิติใหม่ของแบรนด์ที่จะจับกลุ่มการตลาดแบบไหม่ที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นผลดีต่อแบรนด์อีกด้วย“แต่ว่าผมอยากให้ตะวันพักจากการทำงานทั้งหมดแล้วเอาเวลาดูแลครรภ์ดีกว่าเนอะเรื่องต่อจากนี้เดี๋ยวผมกับทีมจะจัดการเอง”เอริคเห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตั้งท้องอ่อนๆเขาไม่อยากให้เธอทำงานอะไรทั้งสิ้นถ้าเธอออกแบบเสร็จแล้วต่อไปเขาจะเป็นคนสานต่อเรื่องนี้เองเพราะเขาอยากให้เธอได้พักเอาเวลาดูแลตัวเองกับลูกที่อยู่ในท้องจะดีกว่า“อืมม...แต่ตะวันอยากลงมืองานนี้ด้วยตัวเองนะคะ..นะคะคุณเอสไม่อย่างนั้นตะวันคงเครียดแย่”ทานตะวันหน้าบูดขึ้นทันทีเธอคิดไว้แล้วว่าชายหนุ่มต้องห้ามเธอทำงานแน่นอนรู้แบบนี้เธอค่อยบอกกับเขาเรื่องลูกดีกว่าหญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มเป็นห่วงแต่เธอเองรู้ว่าเธอทำ
3 เดือนต่อมา01.00 น.“โอ้ะ..โอ้ยย..คุณเอสคะ...”ทานตะวันรู้สึกเจ็บท้องขึ้นมากะทันหันเอรู้ว่านี่น่าจะเป็นอาการของคนเจ็บท้องคลอดเพราะเธอได้เข้ารับการอบรมกับคุณหมอและพยาบาลมาแล้วหญิงสาวพยายามหายใจเข้าออกลึกๆพร้อมเรียกชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างๆเธอให้รู้สึกตัว“อือ...อืม...เป็นอะไรครับตะวัน”เอริคยังมีอาการงัวเงียจากการปลุกของหญิงสาวพร้อมหันมาถามเธอว่าเป็นอะไรหรือเปล่าถึงได้ปลุกเขากลางึกแบบนี้“ตะวันเจ็บท้องค่ะ”“ฮะ...!!”เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวบอกกว่าเจ็บท้องชายหนุ่มที่กำลังมีตาสะลึมสะลืออยู่นั้นกลับเบิกตาโพรงพร้อมพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาลทันทีตอนนี้อาการง่วงนอนหายไปหมดเหลือแต่อาการตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูกแล้วนั่นเองโรงพยาบาลXXXลูคัสใช้เวลาขับรถไม่นานก็พาทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลเมื่อมาถึงแล้วพยาบาลกพาหญิงสาวไปตรวจที่ด้านในทันทีว่าตอนนี้ปากมดลูกนั้นเปิดกี่เซ็นแล้วและเธอนั้นพร้อมที่จะคลอดเองหรือเปล่า10 นาทีผ่านไป“ตอนนี้ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ”เอริครีบเดินเข้าไปคุยกับหมอที่พึ่งเดินออกมาจากห้องตรวจหญิงสาวเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้นั้นเป็นอย่างไรบ้างและเธอนั้นพร้อมคลอดแล้วหรือยัง
“มิเชล”วิลล์เปิดซองเอกสารตรงหน้าดูว่าฮานนั้นเอาอะไรมาวางไว้ให้เขาแล้วก็ไปเมื่อเปิดดูข้างในซองปรากฏว่าข้างในมีรูปถ่ายของหญิงสาวตอนที่อยู่โรงพยาบาลตอนที่เธอตรวจครรภ์และรูปอัลตร้าซาวด์ลูกในท้องของหญิงสาวอีกด้วยจากเอกสารที่เขาได้อ่านตอนนี้หญิงสาวก็ท้องได้ประมาณหกเดือนแล้วชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่พักใหญ่เขาไม่ยักรู้ว่าฮานนั้นไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหนแต่ตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณลูกน้องของเขาอย่างมากที่วันนี้ทำให้เขานั้นเขาได้รับข่าวดีที่สุดในตอนนี้เลยเช้าวันต่อมา“ฮานวันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนายจัดการงานแทนฉันด้วย”“ครับนาย...โชคดีนะครับ”“ขอบใจนายมากเรื่องเมื่อคืน”“ครับ”วิลล์ยกกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าพร้อมบอกกับลูกน้องของให้ดูแลงานแทนเพราะวันนี้เขาต้องไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาให้เรียบร้อยอีกทั้งยังไม่ลืมที่จะขอบคุณฮานจากการที่เก็บข้อมูลดีๆไว้ให้เขานั่นเองตัวของฮานเองก็ดีใจกับเจ้านายของเขาที่เริ่มทำตามใจของตัวเองเสียทีเพราะเขาคิดว่ายังไงเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วการที่ทั้งสองคนได้คุยกันมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้บ้านพักมิเชลเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะมาดื่มนมบำรุงครรภ์ของเธอในตอนเช้าหญิง
“อืมม...ตอนนี้ผมให้ฮานดูแลแทนอยู่”วิลล์ไม่อยากจะคิดเรื่องงานอะไรทั้งนั้นเมื่ออยู่กับหญิงสาวเขายอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้แล้วหากวันหนึ่งกิจการเขาๆไปไม่รอดก็ไม่เป็นไรเมื่อมีกิจการใหญ่แล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จเขาเองคิดไว้ว่าจะหันมาทำอะไรเล็กๆแทนก็ได้ขอแค่มีหญิงสาวและลุกอยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”“ก็ต้องประคองไปก่อนเพราะยอดขายสินค้าตัวใหม่ยังไม่มีกำไรเลย”“มิเชลคิดว่าคุณน่าจะลองเปลี่ยนคอยเซปใหม่เป็นเสื้อผ้าสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างที่มาติเนสลองทำดูสิคะ”มิเชลคิดว่าแบรนด์เสื้อผ้าในเครือของมอแกนออกแบบเสื้อผ้าค่อนข้างที่จะจับกลุ่มลูกค้าแบบเดิมเธอเองคิดอยากจะบอกกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ติดตรงที่เธอนั้นคิดว่าชายหนุ่มอาจจะไม่รับฟังเธอแต่วันนี้เธอจำต้องลองเสนอแนวทางนี้ให้กับชายหนุ่มดูมันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ได้เพราะจากข่าวคราวของแบรนด์เสื้อผ้าในเครือมาติเนสของเอริคที่เปิดตัวใหม่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ก็เป็นผลดีทีเดียวเธอเลยลองพูดให้ชายหนุ่มได้คิดตามดู“คุณจะให้ผมเลียนแบบเหรอไม่เอานะผมไม่ได้แข่งกับใครแล้ว”วิลล์ส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่อยากที