3 เดือนต่อมา
01.00 น.
“โอ้ะ..โอ้ยย..คุณเอสคะ...”
ทานตะวันรู้สึกเจ็บท้องขึ้นมากะทันหันเอรู้ว่านี่น่าจะเป็นอาการของคนเจ็บท้องคลอดเพราะเธอได้เข้ารับการอบรมกับคุณหมอและพยาบาลมาแล้วหญิงสาวพยายามหายใจเข้าออกลึกๆพร้อมเรียกชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างๆเธอให้รู้สึกตัว
“อือ...อืม...เป็นอะไรครับตะวัน”
เอริคยังมีอาการงัวเงียจากการปลุกของหญิงสาวพร้อมหันมาถามเธอว่าเป็นอะไรหรือเปล่าถึงได้ปลุกเขากลางึกแบบนี้
“ตะวันเจ็บท้องค่ะ”
“ฮะ...!!”
เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวบอกกว่าเจ็บท้องชายหนุ่มที่กำลังมีตาสะลึมสะลืออยู่นั้นกลับเบิกตาโพรงพร้อมพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาลทันทีตอนนี้อาการง่วงนอนหายไปหมดเหลือแต่อาการตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูกแล้วนั่นเอง
โรงพยาบาลXXX
ลูคัสใช้เวลาขับรถไม่นานก็พาทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลเมื่อมาถึงแล้วพยาบาลกพาหญิงสาวไปตรวจที่ด้านในทันทีว่าตอนนี้ปากมดลูกนั้นเปิดกี่เซ็นแล้วและเธอนั้นพร้อมที่จะคลอดเองหรือเปล่า
10 นาทีผ่านไป
“ตอนนี้ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ”
เอริครีบเดินเข้าไปคุยกับหมอที่พึ่งเดินออกมาจากห้องตรวจหญิงสาวเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้นั้นเป็นอย่างไรบ้างและเธอนั้นพร้อมคลอดแล้วหรือยัง
“ปากมดลูกเธอยังเปิดไม่เต็มที่ค่ะตั้งรออีกสักพักพยาบาลกำลังเจาะถุงน้ำคร่ำให้เธออยู่ครับอีกสักพักก็น่าจะคลอดแล้วค่ะคุณพ่อเตรียมตัวเปลี่ยนชุดไปรอที่ห้องได้เลยนะคะ”
“ครับคุณหมอ”
หมอสาวบอกอาการของหญิงสาวให้เขาฟังพร้อมให้เขาไปเตรียมตัวเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะได้เข้าห้องคลอด
10 นาทีต่อมา
ห้องคลอด
“อื้ออ....โอ้ยยย..”
“ตะวัน..ไหวไหมครับ”
เอริคเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงมานั่งอยู่ข้างๆเตียงทำคลอดของทานตะวันชายหนุ่มทำได้แค่จับมือให้กำลังใจหญิงสาวที่นอนเบ่งคลอดอยู่เท่านั้นตอนนี้เขาสงสารเธอจับใจพึ่งเคยเห็นคนกำลังจะคลอดลูกต่อหน้ามันทรมานขนาดนี้เชียวหรือชายหนุ่มคิดในใจภาวนาว่าให้ลูกของเขานั้นออกมาเร็วๆคนเป็นแม่จะได้ไม่ต้องทรมานนานกว่านี้นั่นเอง
“ไหวค่ะ”
“คุณแม่เบ่งค่ะ”
“อื้อออออออ”
หมอสาวเห็นว่าหญิงสาวเริ่มมีลมเบ่งมาแล้วจึงบอกให้หญิงสาวพยายามเบ่งคลอดอีกครั้งตอนนี้ทานตะวันเหงื่อตกขาเริ่มชาไปหมด
“อดทนนะครับตะวัน”
เอริคซับเหงื่อให้หญิงสาวเพราะตอนนี้เหงื่อที่หน้าผากของเธอนั้นผุดขึ้นมาเยอะเหลือเกิน
“ลองเบ่งอีกครั้งค่ะ”
“อื้อออ....”
“เก่งมากค่ะคุณแม่น้องหัวออกมาแล้วค่ะ...เบ่งอีกครั้งนะคะ”
“อื้ออออออ”
ทานตะวันรวบรวมกำลังที่มีเบ่งคลอดลูกน้อยของเธอออกมาอย่างสุดแรงมือของเธอบีบมือของชายหนุ่มจนเป็นห้อเลือดแต่ชายหนุ่มก็หาได้เจ็บไม่เพราะเขารู้ว่าตอนนี้หญิงสาวเจ็บกว่าเขาหลายพันเท่าตอนนี้หัวของลูกเธอออกมาแล้วหมอจึงรีบให้เธอเบ่งอีกรอบเพื่อให้ตัวเด็กคลอดออกมา
“ยินดีด้วยค่ะคุณพ่อกับคุณแม่ได้ลูกชายนะคะ”
“แง้....แง้....ๆๆๆ”
เมื่อหญิงสาวเบ่งคลอดลูกของเธอออกมาเรียบร้อยแล้วหมอจึงจับเด็กชายตัวอ้วนชูขึ้นด้านบนพร้อมแสดงความยินดีกับหญิงสาวและชายหนุ่มที่เธอและเขาได้ลูกชายสมบูรณ์แข็งแรง
“ลูกพ่อ”
เอริคอธิบายโมเม้นในตอนนี้ไม่ถูกเขาละสายตาจากเด็กชายตัวกลมตรงหน้าของเขาไม่ได้เลยตอนนี้หมอกำลังตัดสายสะดือของลูกเขาอยู่ชายหนุ่มหันมายิ้มให้หญิงสาวที่นอนอมยิ้มเหนื่อยหอบอยู่ข้างๆพร้อมก้มลงไปจูบที่หน้าผากของเธอหนึ่งครั้งเขาเห็นว่าตอนนี้หญิงสาวก็มีน้ำตาคลอเหมือนเช่นเดียวกับเขาเช่นกันการได้เป็นพ่อคนมันรู้สึกดีแบบนี้นี่เองวันนี้เขาได้เข้าใจมันอย่างลึกซึ้งแล้ว
มอแกน
22.00 น.
วิลล์กำลังนั่งมองรูปภาพเก่าๆที่เขานั้นเคยใช้ชีวิตอยู่กับมิเชลเขาเปิดมันดูในมือถือวนไปวนมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วพักหลังมานี้วิลล์เอาแต่ทำงานเมื่อกลับมาบ้านเขาก็เอาแต่นั่งคิดมากเพราะตอนนี้ปัญหาของเขานั้นมันมาทีเดียวหลายเรื่องรวมๆกันทั้งบริษัทที่มียอดขายตกต่ำเขาทำใจที่เรื่องนี้มันอาจจะเป็นเวรกรรมของเขาที่ทำไม่ดีกับคนอื่นไว้มากตอนนี้เขาเลยเหลือตัวคนเดียวจริงๆสถานการณ์แบบนี้เขาอยากให้มิเชลอยู่ข้างๆเขาที่สุดแต่มันก็เป็นไปได้แค่ความคิดเท่านั้น
“นายห่วงเธอขนาดนี้ทำไมไม่เข้าไปหาเธอบ้างล่ะครับผมว่าหกเดือนที่ผ่านมาอะไรๆมันอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้นะครับคุณมิเชลอาจจะเห็นใจนายบ้างก็ได้”
ฮานที่คอยดูแลเจ้านายหนุ่มของเขาอยู่ตลอดรู้สึกสงสารคนเป็นนายจับใจเพราะแต่ละวันเจ้านายหนุ่มของเขาต้องแบกรับปัญหามากมายที่ต้องตามแก้กลับมาบ้านก็ต้องมานั่งทุกข์ใจคิดถึงหญิงสาวที่รักของเขาแทบทุกวันอีกต่างหากเขาเห็นว่าเป็นแบบนี้มานานร่วมหกเดือนแล้ว
วันนี้เขาจึงเสนอความเห็นให้เจ้านายของเขาได้ฟังว่าให้เขานั้นทำตามหัวใจของตัวเองได้แล้วไม่แน่สถานการณ์ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้หญิงสาวอาจจะเลิกแค้นเคืองเจ้านายหนุ่มของเขาแล้วก็เป็นได้
“ฉันรู้ว่านายห่วงฉันขอบคุณมากนะฮาน...”
วิลล์รู้ว่าที่ฮานพูดกับเขาแบบนั้นเพราะเป็นห่วงเขานั่นเองอย่างน้อยเขาก็มีฮานอีกคนที่คอยเป็นห่วงเขาแต่ตอนนี้เขาเองคิดว่าเวลามันอาจจะยังไม่นานพอที่จะทำให้หญิงสาวหายขุ่นเคืองเขาเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาเอาแต่บังคับขู่เข็ญเธอมาตลอดเขากลัวว่าหากเขาเข้าไปหาเธอตอนนี้เธออาจจะทำตามคำขู่ของเธอในตอนนั้นก็ได้ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงเจ็บกว่านี้หลายเท่า
แค่เขารู้ว่าเธออยู่ที่บ้านพักของเขาอย่างปลอดภัยและสบายดีก็พอแล้วถึงแม้หญิงสาวจะไม่ให้เขาติดต่ออะไรกับลูกน้องที่อยู่ที่นั่นเพราะไม่อยากให้รู้ความเคลื่อนไหวของเธอเลยก็ตาม
“นี่ครับนายมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้นายตัดสินใจไปหาเธอเร็วขึ้น..ผมขอตัวครับ”
ฮานหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลวางไว้ตรงหน้าของเจ้านายหนุ่มของเขามันคือข้อมูลในบางอย่างของหญิงสาวซึ่งถ้าเจ้าของเขาได้เปิดดูแล้วมันอาจจะทำให้เจ้านายหนุ่มของเขานั้นตัดสินใจอะไรๆได้เร็วขึ้นและอาจจะมีผลดีกว่าที่คิดพร้อมขอตัวออกไปพักผ่อนทันทีทิ้งให้เจ้านายหนุ่มของเขาทำหน้าสงสัยอยู่กับซองเอกสารตรงหน้า
“มิเชล”วิลล์เปิดซองเอกสารตรงหน้าดูว่าฮานนั้นเอาอะไรมาวางไว้ให้เขาแล้วก็ไปเมื่อเปิดดูข้างในซองปรากฏว่าข้างในมีรูปถ่ายของหญิงสาวตอนที่อยู่โรงพยาบาลตอนที่เธอตรวจครรภ์และรูปอัลตร้าซาวด์ลูกในท้องของหญิงสาวอีกด้วยจากเอกสารที่เขาได้อ่านตอนนี้หญิงสาวก็ท้องได้ประมาณหกเดือนแล้วชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่พักใหญ่เขาไม่ยักรู้ว่าฮานนั้นไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหนแต่ตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณลูกน้องของเขาอย่างมากที่วันนี้ทำให้เขานั้นเขาได้รับข่าวดีที่สุดในตอนนี้เลยเช้าวันต่อมา“ฮานวันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนายจัดการงานแทนฉันด้วย”“ครับนาย...โชคดีนะครับ”“ขอบใจนายมากเรื่องเมื่อคืน”“ครับ”วิลล์ยกกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าพร้อมบอกกับลูกน้องของให้ดูแลงานแทนเพราะวันนี้เขาต้องไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาให้เรียบร้อยอีกทั้งยังไม่ลืมที่จะขอบคุณฮานจากการที่เก็บข้อมูลดีๆไว้ให้เขานั่นเองตัวของฮานเองก็ดีใจกับเจ้านายของเขาที่เริ่มทำตามใจของตัวเองเสียทีเพราะเขาคิดว่ายังไงเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วการที่ทั้งสองคนได้คุยกันมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้บ้านพักมิเชลเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะมาดื่มนมบำรุงครรภ์ของเธอในตอนเช้าหญิง
“อืมม...ตอนนี้ผมให้ฮานดูแลแทนอยู่”วิลล์ไม่อยากจะคิดเรื่องงานอะไรทั้งนั้นเมื่ออยู่กับหญิงสาวเขายอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้แล้วหากวันหนึ่งกิจการเขาๆไปไม่รอดก็ไม่เป็นไรเมื่อมีกิจการใหญ่แล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จเขาเองคิดไว้ว่าจะหันมาทำอะไรเล็กๆแทนก็ได้ขอแค่มีหญิงสาวและลุกอยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”“ก็ต้องประคองไปก่อนเพราะยอดขายสินค้าตัวใหม่ยังไม่มีกำไรเลย”“มิเชลคิดว่าคุณน่าจะลองเปลี่ยนคอยเซปใหม่เป็นเสื้อผ้าสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างที่มาติเนสลองทำดูสิคะ”มิเชลคิดว่าแบรนด์เสื้อผ้าในเครือของมอแกนออกแบบเสื้อผ้าค่อนข้างที่จะจับกลุ่มลูกค้าแบบเดิมเธอเองคิดอยากจะบอกกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ติดตรงที่เธอนั้นคิดว่าชายหนุ่มอาจจะไม่รับฟังเธอแต่วันนี้เธอจำต้องลองเสนอแนวทางนี้ให้กับชายหนุ่มดูมันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ได้เพราะจากข่าวคราวของแบรนด์เสื้อผ้าในเครือมาติเนสของเอริคที่เปิดตัวใหม่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ก็เป็นผลดีทีเดียวเธอเลยลองพูดให้ชายหนุ่มได้คิดตามดู“คุณจะให้ผมเลียนแบบเหรอไม่เอานะผมไม่ได้แข่งกับใครแล้ว”วิลล์ส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่อยากที
“...ฉันพยายามโอ๋อยู่นี่ไง...”วิลล์รู้ว่าเสียงร้องของวีน่าอาจจะทำให้อาทอร์ลูกชายของเอริคนั้นตื่นแต่จะให้เขาทำอย่างไรได้เขาทำดีที่สุดได้เท่านี้“นี่นายเลี้ยงลูกเป็นไหมของเล่นเอาไว้เล่นกับลูกเอามาไหม”เอริคเห็นว่าถ้าเด็กๆร้องก็ต้องมีของเล่นเอาไว้ปลอบเหมือนกับทานตะวันที่มักจะเตรียมติดตัวเอาไว้เพื่อหยอกล้อเล่นกับอาเทอรเวลาที่งอแงเขาเลยถามว่าวิลล์นั้นได้เอาติดมาด้วยหรือไม่เพราะมันอาจจะช่วยได้“อ่อ..เอ่อมิเชลเป็นคนเตรียมของมาฉันไม่รู้อยู่ไหน”วิลล์รู้ว่าเด็กคู่กับของเล่นแต่เขาก็ไม่รู้อีกว่ามิเชลนั้นเอาไว้ที่ไหนอันนี้เขาก็แอบเซ็งตัวเองอยู่เหมือนกัน“แง๊.ๆๆๆๆ.....แอะๆ”“วีน่าคะ...ดูของเล่นที่ลุงสิคะ...หนูเห็นไหมเอ่ย”เอริคจำต้องหยิบลูกบอลของลูกชายของเขาออกมาจากกระเป๋าและเดินมาที่หลังของวิลล์พร้อมเล่นกับเด็กหญิงที่กำลังร้องให้ซบบ่าคนเป็นพ่ออยู่เอริคใช้เสียงสองพร้อมเขย่าลูกบอลให้มีเสียงเพื่อเรียกความสนใจจากหนูน้อยซึ่งมันก็เป็นไปตามคาดหนูน้อยวีน่าหยุดร้องทันทีพร้อมทำหน้าสงสัยว่าคนตรงหน้านั้นกำลังทำอะไรอยู่“นายทำอะไรเอส”วิลล์อยากจะหลุดขำออกมาตั้งแต่ตอนที่เอริคใช้เสียงสองคุยกับลูกของเขาแต่เขานั้
20.00 น.เสียงดนตรีบนแคทวอล์คดังคลออยู่ที่หน้าเวทีเหล่านายแบบนางแบบที่สวมผ้าไทยเดินโชว์บนเวทีอยู่ในเวลานี้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่เข้าชมงานการตัดเย็บผ้าไทยโดยฝีมือของหญิงสาวที่เป็นดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ของแบรนด์นี้ว่าทำออกมาได้แปลกใหม่ทันสมัยแต่ยังคงความเป็นไทยไว้ดังเดิมอย่างดีอีกด้วย“โอเคไหมครับตะวัน”คงไทยเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่จ้างหญิงสาวมาเป็นดีไซน์เนอร์เดินมาเชคงานที่หลังเวทีเพราะว่าวันนี้งานค่อนข้างยุ่งและอีกอย่างทานตะวันนั้นก็แทบจะจัดการทุกอย่างคนเดียวและอีกอย่างตอนนี้หญิงสาวก็ต้องขึ้นเดินโชว์ชุดฟินนาเล่แทนนางแบบที่มาไม่ได้อีกต่างหากเขาจึงคิดว่าต้องมาให้กำลังใจเธอหน่อย“ตะวันตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะพี่ไทย”ทานตะวันยืนสูดหายใจเข้าออกลึกๆถึงแม้ว่าเธอนั้นจะจัดเวทีเดินแบบมาแล้วหลายงานตั้งแต่มาทำงานที่นี่แต่เธอก็ไม่เคยเดินเองเสียทีจนตอนนี้เธอนั้นรู้สึกประหม่าอยู่มากเมื่อได้คุยกับชายหนุ่มทำให้เธอนั้นสบายใจขึ้นมานิดหน่อยทานตะวันและคงไทยรู้จักกันตั้งแต่ที่สมัยทานตะวันนั้นเรียนมหาลัยโดยหญิงสาวนั้นเรียนศิลปกรรมศาสตร์สาขามัณฑนศิลป์(แฟชั่นดีไซน์)ส่วนชายหนุ่มนั้นเรียนบริหารธุรกิจที่ทั
20.00 น.เป็นเวลาหลังจากเลิกงานวันสุดท้ายของหญิงสาวนานแล้วเธอกลับบ้านมาด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวหญิงสาวรู้สึกหนักอึ้งอึดอัดในหัวใจอย่างมากที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือคลายทุกข์เธอได้เลย“ฮือๆๆ...ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะจันทร์เจ้ารู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงเธอขนาดไหน”ทานตะวันยังนั่งกอดลูกน้องสาวของเธอร้องไห้ยังไม่หยุดเพราะว่าเป็นเวลาสองเดือนกว่าแล้วที่น้องสาวเธอได้หายตัวไปเธอพยายามวิ่งเต้นแจ้งตำรวจเรื่องคดีทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าขึ้นมาเลยและถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้เบาะแสด้วยซ้ำว่าน้องเธอไปอยู่ที่ไหนหญิงสาวจึงคิดว่าเธอต้องใช้เงินเก็บของเธอทั้งหมดที่มีออกตามหาน้องสาวเธอเองแล้วแหละตอนนี้เธอนั่งร้องไห้ไปด้วยเก็บกระเป๋าไปด้วยเธอซื้อตั๋วเพื่อจะเดินทางไปที่อังกฤษในวันพรุ่งนี้เธอคิดว่าเป็นยังไงเป็นกันเพราะตอนนี้เธอได้ลาออกจากงานเรียบร้อยแล้วเพื่อที่จะตามหาน้องสาวของเธอได้เต็มที่ในเมื่อกฎหมายช่วยอะไรเธอไม่ได้เธอก็คงจะต้องช่วยเหลือตัวเองเพราะเธอไม่รู้ว่าในตอนนี้น้องสาวของเธอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างก็ไม่รู้ชีวิตของเธอเหลือเพียงแค่น้องสาวคนเดียวยังไงเธอก็ต้องตามหาคนในครอบครัวกลับมาให้ได้ให้นายเร็วที่สุ
หญิงสาวพยายามเข้าไปสอบถามพนักงานในโรงแรมว่ามีรายชื่อน้องสาวของเธอที่เคยเข้าพักที่นี่หรือไม่ก็ได้คำตอบอย่างผิดหวังกลับมาว่าไม่มีชื่อหญิงสาวเข้าพักที่นี่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีชื่อหญิงชื่อน้องสาวของเธอเข้ามาพักที่นี่เพราะว่าหลังจากที่จันทร์เจ้ามาที่อังกฤษน้องสาวของเธอบอกกับเธอเองว่าเธอนั้นพักอยู่ที่นี่แต่ในเมื่อได้รับความผิดหวังกลับมาทานตะวันก็ยังไม่ละความพยายามเธอพยายามที่จะสืบเสาะตามหาน้องสาวของเธอในเมืองนี้อยู่เพราะเธอคิดว่ายังไงเธอนั้นก็จะต้องตามหาน้องสาวของเธอให้เจอให้ได้แม้จะใช้ความพยายามมากมายแค่ไหนก็ตาม“ว้าย...ช่วยด้วยค่ะ”ในขณะที่ทานตะวันยืนคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นจู่ๆก็ได้มีผู้ชายฉกรรจ์วิ่งมาฉกกระเป๋าเธอและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วทำให้หญิงสาวตกใจอย่างมากเพราะในกระเป๋านั้นมีทั้งมือถือและเงินสดอีกมากมายที่จะทำให้เธอใช้ชีวิตที่นี่ได้อีกเป็นเดือนๆหญิงสาวเลยวิ่งตามคนที่ขโมยกระเป๋าเธออย่างไม่คิดชีวิตพร้อมร้องเรียกให้คนอื่นช่วยเป็นภาษาของคนที่นี่“หืมมม”เอริคที่กำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้ายังสบายอารมณ์อยู่นั้นเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของหญิงสาวว่าต้องค่ะต้องการความช่วยเหลือเขาจึงรีบหัน
“ผม...จะบอกกับคุณว่าผมเป็นนักสืบและผมสามารถช่วยคุณได้”ชายหนุ่มจำต้องโกหกหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นนักสืบเพราะว่าเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เธอได้รู้จักนั่นเองแต่ที่เขาต้องโกหกกับเธอว่าเป็นนักสืบเพราะว่าเขาอยากช่วยเธอจริงๆเพราะการบอกกับเธอว่าเขาเป็นนักสืบมันคงทำให้เธอมั่นใจได้ว่าเขานั้นสามารถหาน้องสาวของเธอได้จริงๆ“จริงเหรอคะงั้นคุณคุณก็ต้องช่วยฉันได้แน่ๆคุณเป็นคนที่นี่คุณต้องการค่าจ้างเท่าไหร่ฉันพร้อมจ่ายให้คุณค่ะขอเพียงแค่คุณตามหาน้องสาวฉันให้เจอ”ทานตะวันมีแววตาเป็นประกายและมีความหวังอย่างมากเพราะเธอรู้สึกว่าชายหนุ่มต้องช่วยเธอได้แน่ๆ“เอาแบบนี้นะครับ...ผมจะช่วยคุณเพราะผมเห็นว่าคุณเป็นคนต่างบ้านต่างเมืองผมเป็นคนพื้นที่ที่นี่อยู่แล้วผมสามารถที่จะช่วยคุณได้ง่ายๆผมไม่คิดเงินคุณก็แล้วกันแต่ว่าผมขอแค่ว่าต่อจากนี้เราเป็นเพื่อนกันนะครับ”ชายหนุ่มที่ถูกใจหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นเขาคิดว่าการที่ใช้วิธีนี้จะทำให้เขานั้นใกล้ชิดกับหญิงสาวได้มากขึ้นค่อยๆแทรกซึมไปทีละนิดแบบไม่ให้เธอนั้นรู้ตัว“โอเคค่ะฉันจะเป็นเพื่อนกับคุณแต่ว่าให้ฉันได้ตอบแทนอะไรคุณบ้างนะคะที่คุณยอมช่วยเหลือฉัน”หญิงสาวไม่รู้จะข
“เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อน”เอริคเห็นว่าที่นี่ก็ไม่ได้มีที่ใหญ่สำหรับจะให้ลูกน้องของเขาเข้าไปหลบเพราะตอนนี้มันไม่ทันแล้วเขาเลยให้ลูกน้องของเขาเข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องของเขานั่นเองเพราะการที่จะเข้าไปที่ฉันใต้ดินของที่นี่นั้นต้องใช้รหัสยุ่งยากลูคัสเองก็เข้าไปเบียดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าอย่างทุลักทุเลเพราะตัวของเขามันค่อนข้างที่จะใหญ่ขาที่ยาวเก้งก้างนั้นก็จัดการยากเสียเหลือเกินเพื่อไม่ให้หญิงสาวที่น่าจะเป็นคนสำคัญของเจ้านายได้รู้ว่าเขาอยู่ในนี้เขาต้องพยายามจัดการตัวเองให้ได้“ว่าไงครับตะวัน”“คือตะวันทำอาหารไทยเป็นแกงจืดน่ะค่ะเป็นอาหารไทยตะวันเลยอยากจะให้คุณเอสลองทาน”หญิงสาวยื่นกล่องอาหารให้ชายหนุ่มพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้เขาแล้วกำลังจะหลังหลังเดินกลับบ้านพักของเธอไป“คุณจะเข้าไปคุยกับผมข้างในก่อนไหมครับ”เอริคมองหน้าหญิงสาวพร้อมทั้งใช้มืออีกข้างชี้ไปในห้องพรอมถามหญิงสาวว่าเธอจะเข้าไปคุยกับเขาข้างในหรือเปล่าเพราะเขาเองอยากมีเวลาที่จะคุยกับเธอให้นานกว่านี้“ตะวันไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ”ทานตะวันยิ้มให้ชายหนุ่มพร้อมทั้งเดินออกไปทันทีเพราะเธอคิดว่าไม่อยากรบกวนเวลาของเขามากเกินไปนั่นเอ