20.00 น.
เป็นเวลาหลังจากเลิกงานวันสุดท้ายของหญิงสาวนานแล้วเธอกลับบ้านมาด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวหญิงสาวรู้สึกหนักอึ้งอึดอัดในหัวใจอย่างมากที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือคลายทุกข์เธอได้เลย
“ฮือๆๆ...ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะจันทร์เจ้ารู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงเธอขนาดไหน”
ทานตะวันยังนั่งกอดลูกน้องสาวของเธอร้องไห้ยังไม่หยุดเพราะว่าเป็นเวลาสองเดือนกว่าแล้วที่น้องสาวเธอได้หายตัวไปเธอพยายามวิ่งเต้นแจ้งตำรวจเรื่องคดีทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าขึ้นมาเลยและถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้เบาะแสด้วยซ้ำว่าน้องเธอไปอยู่ที่ไหน
หญิงสาวจึงคิดว่าเธอต้องใช้เงินเก็บของเธอทั้งหมดที่มีออกตามหาน้องสาวเธอเองแล้วแหละตอนนี้เธอนั่งร้องไห้ไปด้วยเก็บกระเป๋าไปด้วยเธอซื้อตั๋วเพื่อจะเดินทางไปที่อังกฤษในวันพรุ่งนี้เธอคิดว่าเป็นยังไงเป็นกันเพราะตอนนี้เธอได้ลาออกจากงานเรียบร้อยแล้วเพื่อที่จะตามหาน้องสาวของเธอได้เต็มที่
ในเมื่อกฎหมายช่วยอะไรเธอไม่ได้เธอก็คงจะต้องช่วยเหลือตัวเองเพราะเธอไม่รู้ว่าในตอนนี้น้องสาวของเธอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างก็ไม่รู้ชีวิตของเธอเหลือเพียงแค่น้องสาวคนเดียวยังไงเธอก็ต้องตามหาคนในครอบครัวกลับมาให้ได้ให้นายเร็วที่สุดไม่ว่าจะต้องยากลำบากแค่ไหนก็ตาม
เคมบริดจ์
“เมื่อไรพี่จะกลับมาอยู่ที่นี่เสียที”
เบรย์เดนนานๆทีเขาจะเห็นพี่ชายของเขากลับมาที่บ้านซะทีตั้งแต่ที่แม่ของเขาเสียไปพี่ชายของเขาก็เอาแต่โทษตัวเองว่าดูแลคนเป็นแม่ไม่ดีพอเพราะในคืนที่แม่ของเขาเสียนั้นพี่ชายของเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับงานน่ะสิตอนนั้นเขาเองก็ยังเรียนอยู่ที่อเมริกาอยู่เลยพี่ชายของเขาเอาแต่โทษตัวเองเลยเนรเทศตัวเองไปอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆในเมืองนี้แทนที่จะอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่โตกับเขาที่นี่ซ้ำยังให้เขาดูแลกิจการแทบจะทั้งหมดอีกด้วยแต่เขาก็ยังดูแลอยู่กิจการใหญ่ๆของครอบครัวอยู่แต่แค่ไม่ออกหน้าเท่านั้นเอง
“เรื่องของฉันไม่ดีหรือไงนายอยู่ที่นี่คนเดียวจะได้ไม่ต้องมีใครมาคอยกัดกับนายไง”
เอริครีบเก็บเอกสารลงแฟ้มเพื่อที่เขาจะเอากลับไปตรวจพร้อมเหล่สายตามองน้องชายอย่างอมยิ้มเล็กๆพร้อมบอกข้อดีของการที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ให้น้องชายของเขาฟัง
“ผมก็แค่เป็นห่วงอยากให้พี่อยู่อย่างสบายแค่นั้นเองไม่รู้ว่าจะไปอยู่อย่างลำบากที่หมู่บ้านเล็กๆนั่นทำไม”
เบรย์เดนไม่เข้าใจว่าเรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้วเขารู้ว่าพี่เขาไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเกิดและมันก็ไม่ใช่ความผิดของพี่ชาของเขาด้วยและไม่จำเป็นเลยที่พี่ชาของเขาจะทาตัวเองอยู่แบบนี้
“ขอบใจที่เป็นห่วงฉันสบายดี...ว่าแต่นายเถอะแบล็คเรื่องผู้หญิงให้มันเบาลงเสียบ้าง”
เอริครู้ว่าน้องชายของเขาเป็นห่วงแต่ตอนนี้เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นก็สบายดีอยู่แล้วไม่มีใครไม่รบกวนใจของเขาอีกด้วยอีกทั้งยังหันกลับไปเตือนน้องชายขงเขาก่อนจะเดินออกจากที่นี่ไปอีกว่าให้น้องชายของเขาห่วงเรื่องของตัวเองจะดีกว่าเพราะเห็นจะเสียงานเพราะผู้หญิงมาหลายครั้งแล้ว
เช้าวันต่อมา
ทานตะวันเก็บกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนพอเช้ามาเธอจึงเรียกแท็กซี่มาที่สนามบินมาขึ้นเครื่องมาตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษเพราะเธอนั้นตั้งใจว่าที่แรกที่เธอจะต้องไปตามหาน้องสาวของเธอคือโรงแรมในเมืองเคมบริดจ์ที่น้องสาวของเธอบอกกับเธอว่าจะพักที่นั่นและหลังจากการเข้าพักเธอก็ได้ขาดการติดต่อไปเลย
ทานตะวันรู้ว่าที่น้องสาวของเธอต้องย้ายที่เที่ยวมาเป็นประเทศอังกฤษก็เพราะว่าแฟนหนุ่มของน้องสาวเธอตามไปง้อเธอที่นั่นจึงทำให้จันทร์เจ้าน้องสาวของเธอหนีชายหนุ่มไปที่อังกฤษนั่นเองที่เธอไม่ได้ห้ามก็เพราะว่าเธอนั้นไม่ได้อยากให้น้องสาวของเธอกลับไปคบกับผู้ชายแบบนั้น
ตอนนี้ทานตะวันคิดว่าจะไปตามหาน้องสาวของเธอที่เมืองเคมบริดจ์เป็นที่แรกอย่างน้อยเธอก็คิดว่ามันน่าจะมีเบาะแสอะไรบ้างให้เธอได้สืบต่อนั่นเอง
5วันต่อมา
เป็นเวลาสามสี่วันแล้วที่ทานตะวันใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ประเทศอังกฤษหญิงสาวเช่าห้องพักอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆของเมืองถึงมันจะไม่สะดวกสบายเท่าไรนักแต่มันก็ทำให้เธอนั้นเซฟเงินเพื่อที่จะอยู่ที่นี่ได้เป็นอย่างดี
หญิงสาวพยายามเข้าไปสอบถามพนักงานในโรงแรมว่ามีรายชื่อน้องสาวของเธอที่เคยเข้าพักที่นี่หรือไม่ก็ได้คำตอบอย่างผิดหวังกลับมาว่าไม่มีชื่อหญิงสาวเข้าพักที่นี่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีชื่อหญิงชื่อน้องสาวของเธอเข้ามาพักที่นี่เพราะว่าหลังจากที่จันทร์เจ้ามาที่อังกฤษน้องสาวของเธอบอกกับเธอเองว่าเธอนั้นพักอยู่ที่นี่แต่ในเมื่อได้รับความผิดหวังกลับมาทานตะวันก็ยังไม่ละความพยายามเธอพยายามที่จะสืบเสาะตามหาน้องสาวของเธอในเมืองนี้อยู่เพราะเธอคิดว่ายังไงเธอนั้นก็จะต้องตามหาน้องสาวของเธอให้เจอให้ได้แม้จะใช้ความพยายามมากมายแค่ไหนก็ตาม“ว้าย...ช่วยด้วยค่ะ”ในขณะที่ทานตะวันยืนคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นจู่ๆก็ได้มีผู้ชายฉกรรจ์วิ่งมาฉกกระเป๋าเธอและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วทำให้หญิงสาวตกใจอย่างมากเพราะในกระเป๋านั้นมีทั้งมือถือและเงินสดอีกมากมายที่จะทำให้เธอใช้ชีวิตที่นี่ได้อีกเป็นเดือนๆหญิงสาวเลยวิ่งตามคนที่ขโมยกระเป๋าเธออย่างไม่คิดชีวิตพร้อมร้องเรียกให้คนอื่นช่วยเป็นภาษาของคนที่นี่“หืมมม”เอริคที่กำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้ายังสบายอารมณ์อยู่นั้นเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของหญิงสาวว่าต้องค่ะต้องการความช่วยเหลือเขาจึงรีบหัน
“ผม...จะบอกกับคุณว่าผมเป็นนักสืบและผมสามารถช่วยคุณได้”ชายหนุ่มจำต้องโกหกหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นนักสืบเพราะว่าเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เธอได้รู้จักนั่นเองแต่ที่เขาต้องโกหกกับเธอว่าเป็นนักสืบเพราะว่าเขาอยากช่วยเธอจริงๆเพราะการบอกกับเธอว่าเขาเป็นนักสืบมันคงทำให้เธอมั่นใจได้ว่าเขานั้นสามารถหาน้องสาวของเธอได้จริงๆ“จริงเหรอคะงั้นคุณคุณก็ต้องช่วยฉันได้แน่ๆคุณเป็นคนที่นี่คุณต้องการค่าจ้างเท่าไหร่ฉันพร้อมจ่ายให้คุณค่ะขอเพียงแค่คุณตามหาน้องสาวฉันให้เจอ”ทานตะวันมีแววตาเป็นประกายและมีความหวังอย่างมากเพราะเธอรู้สึกว่าชายหนุ่มต้องช่วยเธอได้แน่ๆ“เอาแบบนี้นะครับ...ผมจะช่วยคุณเพราะผมเห็นว่าคุณเป็นคนต่างบ้านต่างเมืองผมเป็นคนพื้นที่ที่นี่อยู่แล้วผมสามารถที่จะช่วยคุณได้ง่ายๆผมไม่คิดเงินคุณก็แล้วกันแต่ว่าผมขอแค่ว่าต่อจากนี้เราเป็นเพื่อนกันนะครับ”ชายหนุ่มที่ถูกใจหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นเขาคิดว่าการที่ใช้วิธีนี้จะทำให้เขานั้นใกล้ชิดกับหญิงสาวได้มากขึ้นค่อยๆแทรกซึมไปทีละนิดแบบไม่ให้เธอนั้นรู้ตัว“โอเคค่ะฉันจะเป็นเพื่อนกับคุณแต่ว่าให้ฉันได้ตอบแทนอะไรคุณบ้างนะคะที่คุณยอมช่วยเหลือฉัน”หญิงสาวไม่รู้จะข
“เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อน”เอริคเห็นว่าที่นี่ก็ไม่ได้มีที่ใหญ่สำหรับจะให้ลูกน้องของเขาเข้าไปหลบเพราะตอนนี้มันไม่ทันแล้วเขาเลยให้ลูกน้องของเขาเข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องของเขานั่นเองเพราะการที่จะเข้าไปที่ฉันใต้ดินของที่นี่นั้นต้องใช้รหัสยุ่งยากลูคัสเองก็เข้าไปเบียดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าอย่างทุลักทุเลเพราะตัวของเขามันค่อนข้างที่จะใหญ่ขาที่ยาวเก้งก้างนั้นก็จัดการยากเสียเหลือเกินเพื่อไม่ให้หญิงสาวที่น่าจะเป็นคนสำคัญของเจ้านายได้รู้ว่าเขาอยู่ในนี้เขาต้องพยายามจัดการตัวเองให้ได้“ว่าไงครับตะวัน”“คือตะวันทำอาหารไทยเป็นแกงจืดน่ะค่ะเป็นอาหารไทยตะวันเลยอยากจะให้คุณเอสลองทาน”หญิงสาวยื่นกล่องอาหารให้ชายหนุ่มพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้เขาแล้วกำลังจะหลังหลังเดินกลับบ้านพักของเธอไป“คุณจะเข้าไปคุยกับผมข้างในก่อนไหมครับ”เอริคมองหน้าหญิงสาวพร้อมทั้งใช้มืออีกข้างชี้ไปในห้องพรอมถามหญิงสาวว่าเธอจะเข้าไปคุยกับเขาข้างในหรือเปล่าเพราะเขาเองอยากมีเวลาที่จะคุยกับเธอให้นานกว่านี้“ตะวันไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ”ทานตะวันยิ้มให้ชายหนุ่มพร้อมทั้งเดินออกไปทันทีเพราะเธอคิดว่าไม่อยากรบกวนเวลาของเขามากเกินไปนั่นเอ
“คือข้อเสนอของผมที่จะบอกกับคุณก็คือผมอยากให้คุณจดทะเบียนสมรสกับผมครับเพื่อที่จะให้การเป็นอยู่ชีวิตที่นี่ง่ายขึ้น"ชายหนุ่มพูดพร้อมมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวตอนนี้เขาสังเกตได้ว่าสีหน้าหญิงสาวมีอาการที่อึ้งเล็กน้อยและคิดหนักอย่างเห็นได้ชัดแถมยังตกใจกับคำที่เขาพูดอย่างมากอีกด้วยก็ไม่แปลกที่เธอตกใจเพราะว่าเจอเธอเจอกับเขาได้ไม่ดีวันเขากลับจะมาให้เธอจดทะเบียนกับเราเสียอย่างนั้นเป็นคนอื่นก็คงจะตกใจประมาณนี้แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นเขาคิดได้เพียงวิธีเดียวในตอนนี้ที่จะรั้งเธอเอาไว้ก็คือให้เธอจดทะเบียนกับเขานั่นเอง“อันที่จริงมันก็..อืมม..ตะวันขอคิดดูอีกนิดนะคะคุณเอส”หญิงสาวพูดติดขัดเล็กน้อยเพราะเธอยังสับสนเรื่องที่อยู่ในใจที่จริงที่เขาพูดมันก็ถูกถ้าจะให้เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างอิสระก็คือจะต้องเป็นประชาชนของคนที่นี่ซึ่งมีวิธีเดียวก็คือจะต้องแต่งงานกับคนที่ภูมิลำเนาอยู่ที่นี่เพราะว่าเธอก็ไม่ได้มีญาติอยู่ที่นี่เลยและอีกอย่างเธอก็เป็นคนไทยแท้ด้วยถ้าจะให้ใช้ชีวิตที่นี่โดยง่ายก็คงต้องเลือกวิธีของชายหนุ่มนั่นเองเอริคกลับมาที่บ้านพักของเขาพร้อมนั่งรอหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อภาวนาในใจว่าให้หญิงสาวเห็นด้ว
“แบล็คอยู่ที่ไหน”เอริคเดินเข้ามาด้านในคนเดียวเขาถามหาน้องชายของเขากับบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าอย่างเสียงแข็งและสีหน้าที่นิ่งเฉยจนน่ากลัว“เอ่อ...”เมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มเห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาและกำลังถามหาเจ้านายน้อยของเขาอยู่เขาจึงลังเลและอึดอัดอย่างมากในการที่จะตอบคำถามนายใหญ่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเพราะหากจะบอกว่านายน้อยของเขาอยู่ที่ไหนก็กลัวว่าจะโดนเล่นงานเพราะขัดความสุขของนายน้อยและถ้าตอนนี้เขาไม่บอกความจริงกับนายใหญ่ว่านายน้อยของเขาอยู่ที่ไหนเขาก็อาจจะถึงขั้นหัวขาดได้เขาจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง“ฉัน..ถาม..ว่า..แบล็ค..อยู่..ไหน..”เอริคถามย้ำบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างชัดๆพร้อมจ้องหน้าคนตรงหน้าเขม็งเพียงเพื่อเขาต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้และเป็นการบอกว่าหากคิดจะแข็งข้อกับเขามันจบไม่สวยแน่“ข้างบนห้องครับนายใหญ่”บอดี้การ์ดหนุ่มชั่งน้ำหนักอยู่ในใจว่าหากเขาจะเลือกที่จะเข้าข้างนายน้อยเขาคิดว่าการที่เข้าข้างในใหญ่นั้นจะส่งผลดีต่อเขามากกว่าเขาเลยรีบบอกกับเจ้านายหนุ่มตรงหน้าว่านายน้อยของเขาอยู่ที่ไหนทันทีเพราะเขานั้นรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตของคนตรงหน้าที่ส่งมาให้เขาอย่างรุนแรงเมื่อได้คำตอบจากบอดี้ก
“ฉันยอมแลก”เอริคจ้องที่หน้าของน้องชายของเขาสายตาอมหิตนั้นบ่งบอกว่าถ้าหากว่าน้องชายของเขาไม่ทำตามไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมแลกแม้จะต้องผิดใจกับทานตะวันตอนนี้ก็ตามถ้ามันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ“โอเคๆ...เดี๋ยวจะจัดการให้”เบรย์เดนมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าสายตาแบบนี้ของพี่ชายเขานั้นเอาจริงทำให้เขาต้องรีบตอบตกลงพี่ชายของเขาอย่างทันทีเรื่องแค่นี้เขาจัดการให้ได้อยู่แล้วขอเพียงอย่างเดียงขอให้กระต่ายน้อยจันทร์เจ้าได้อยู่กับเขาก่อนก็พอเย็นวันต่อมาสวนสาธารณะ“ผมเห็นคุณดูเครียดๆก็เลยพามาเดินเล่นที่นี่น่ะครับ”เอริคชวนหญิงสาวมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆกับบ้านพักทีพวกเขาอยู่เพราะชายหนุ่มนั้นอยากจะให้หญิงสาวได้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างอีกอย่างวันนี้ก็จะเป็นวันที่ทำให้เธอยิ้มได้อีกด้วย“ขอบคุณค่ะ”ทานตะวันรู้ว่าชายหนุ่มนั้นหวังดีกับเธออันที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากมีอาการกังวลนี้ให้คนอื่นเห็นสักเท่าไรแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆเพราะในใจเธอมันมีแต่เรื่องมากมายเต็มไปหมด“ผมมีข่าวดีเกี่ยวกับน้องสาวของคุณมาบอก”เอริคเห็นว่าเป็นเบอร์ของใครโทรมาเขายิ้มร่าและหันไปทางหญิงสาวพร้อมส่งมือถือให้หญิงสาว“จริงเหรอคะ”ทานตะวนมีท่าทางทีด
“จริงสิตะวันต้องตอบแทนคุณที่คุณช่วยตะวัน...คุณเอสต้องการอะไรบอกตะวันมาได้เลยนะคะเพราะตะวันคิดว่าตะวันจะอยู่ที่นี่อีกไม่นานก็จะกลับไทยแล้วค่ะ”ทานตะวันลืมไปเสียสนิทเพราะมัวแต่ดีใจว่าเธอนั้นต้องตอบแทนชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอเพราะจะให้เขาช่วยเธอฟรีๆไม่ได้อย่างน้อยก็ขอให้เขาบอกกับเธอมาว่าเขานั้นต้องการอะไรถ้าเธอทำให้เขาได้เธอก็เต็มใจที่จะทำ“อะไรนะครับ...เอ่อ..”เอริคถึงกับใจหายวาบไปไม่เป็นเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดเรื่องที่จะกลับบ้านของเธอเร็วขนาดนี้“คุณเอสอยากให้ตะวันตอบแทนอะไรคะ...”ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มยังมีท่าทีที่อ้ำอึ้งอยู่เธอจึงย้ำถามเขาอีกรอบเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นบอกความต้องการของเขามา“เอ่อ...คือผมไม่รู้ว่าเรื่องที่ผมขอมันจะทำให้คุณลำบากใจไหมนะครับแต่ผมอยากให้คุณอยู่เที่ยวที่นี่เป็นเพื่อนผมอีกสักพัก”เอริคอยากจะบอกกับเธอตอนนี้ว่าเขาอยากให้เธอมาลองคบกับเขาดูจะได้ไหมจริงๆแต่มันก็ทำไม่ได้เขากลัวว่าเธอจะคิดว่าเขานั้นฉวยโอกาสกับเธอน่ะสิจึงแสร้งหาเรื่องเพื่อที่จะยื้อเวลาให้เธออยู่ที่นี่อีกสักพักก็น่าจะพอมีเวลาทำคะแนนกับเธอได้อยู่“ตะวันยินดีค่ะ...”ทานตะวันคิดว่าหากอยู่ที่นี่ต่ออีกสัก
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...ตะวันอยากทานไอศครีมคุณเอสทานไหมคะ”ทานตะวันหันมายิ้มหนาแป้นให้กับชายหนุ่มเพราะวันนี้เธอรู้สึกสนุกมากเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งได้เล่นซนตามอิสระโดยที่มีชายหนุ่มคอยดูแลเธออยู่ข้างๆเธอบอกกับเขาว่าเธอนั้นไม่เหนื่อยเลยสักนิดแถมสายตายังมองเห็นร้านไอศครีมตักใส่ถ้วยอกเธอจึงนึกอยากทานพร้อมชวนชายหนุ่มด้วย“ดีครับ”ตอนนี้เอริคไม่มีคำพูดที่จะปฏิเสธหญิงสาวแม้แต่น้อยเธออยากทำอะไรหรืออยากทานอะไรเขาเองก็อยากจะมีส่วนร่วมกับเธอเสียทุกอย่าง“ไอศรีมได้แล้วค่ะคุณเอส”ทานตะวันยืนสั่งไอศกรีมอยู่ครู่หนึ่งก็เดินกลังออกมาด้วยไอศครีมสองถ้วยพอดีมือพร้อมส่งให้ชายหนุ่มหนึ่งถ้วย“ขอบคุณครับ”“5555..แน่จริงก็ตามมาให้ทันเส้5555”ปึ้กกกกกเอริครับถ้วยไอศครีมมาจากหญิงสาวพร้อมกำลังจะพากันเดินไปนั่งที่เก้าอี้สาธารณะเพื่อจะนั่งทานไอศครีมแต่จู่ๆก็มีเด็กชายสองคนกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันและมาชนที่ชายหนุ่มเข้าทำให้คนตัวโตที่ไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นโดนไอศครีมก้อนล้นถ้วยที่ถืออยู่ในมือกระเด็นเข้ามาที่หน้าอย่างจัง“เอ่อะ!!!...”เอริคสบถออกมาเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าไอศกรีมที่ถืออยู่ในมือนั้นจะกระเด็นเข้ามาที่หน้าของ