“แบล็คอยู่ที่ไหน”
เอริคเดินเข้ามาด้านในคนเดียวเขาถามหาน้องชายของเขากับบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าอย่างเสียงแข็งและสีหน้าที่นิ่งเฉยจนน่ากลัว
“เอ่อ...”
เมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มเห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาและกำลังถามหาเจ้านายน้อยของเขาอยู่เขาจึงลังเลและอึดอัดอย่างมากในการที่จะตอบคำถามนายใหญ่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเพราะหากจะบอกว่านายน้อยของเขาอยู่ที่ไหนก็กลัวว่าจะโดนเล่นงานเพราะขัดความสุขของนายน้อยและถ้าตอนนี้เขาไม่บอกความจริงกับนายใหญ่ว่านายน้อยของเขาอยู่ที่ไหนเขาก็อาจจะถึงขั้นหัวขาดได้เขาจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“ฉัน..ถาม..ว่า..แบล็ค..อยู่..ไหน..”
เอริคถามย้ำบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างชัดๆพร้อมจ้องหน้าคนตรงหน้าเขม็งเพียงเพื่อเขาต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้และเป็นการบอกว่าหากคิดจะแข็งข้อกับเขามันจบไม่สวยแน่
“ข้างบนห้องครับนายใหญ่”
บอดี้การ์ดหนุ่มชั่งน้ำหนักอยู่ในใจว่าหากเขาจะเลือกที่จะเข้าข้างนายน้อยเขาคิดว่าการที่เข้าข้างในใหญ่นั้นจะส่งผลดีต่อเขามากกว่าเขาเลยรีบบอกกับเจ้านายหนุ่มตรงหน้าว่านายน้อยของเขาอยู่ที่ไหนทันทีเพราะเขานั้นรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตของคนตรงหน้าที่ส่งมาให้เขาอย่างรุนแรง
เมื่อได้คำตอบจากบอดี้การ์ดหนุ่มที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าร่างสูงกำยำน่าเกรงขามก้าวขายาวๆวิ่งขึ้นบันไดไปที่ห้องของน้องชายเขาทันทีอย่างไม่รีรอพฤติกรรมของบอดี้การ์ดหนุ่มนั้นทำให้เขาได้รู้ว่าข้างบนเกิดอะไรขึ้นเพราะการที่น้องชายของเขาใช้ให้คนมาเฝ้าอยู่ที่นี่ตอนนี้เขาคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น้องชายของเขากำลังหาความสุขใส่ตัวอย่างแน่นอนแต่ในเมื่อเขาต้องการที่จะคุยกับน้องชายเขาตอนนี้ยังไงเขาก็ต้องได้คุยไม่สนใจว่าน้องชายของเขานั้นจะทำอะไรอยู่
“ปล่อยฉันนะ...ช่วยด้วยยยย”
เมื่อเอริควิ่งมาถึงด้านบนก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องออกมาเขาถึงกับส่ายหัวให้กับพฤติกรรมของน้องชายของเขาจริงๆแต่ก็ค่อนข้างที่จะแปลกใจว่าปกติน้องของเขานั้นไม่นิยมพวกที่ต่อต้านเท่าไรแต่ทำไมตอนนี้กลับเปลี่ยนรสนิยมเสียอย่างนั้นแต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะคิดอะไรต่อเขาเพียงแต่อยากคุยกับน้องชายของเขาตอนนี้ให้รู้เรื่องก็เท่านั้น
ปังๆๆ
“ใครวะ”
เอริคเคาะประตูห้องของน้องชายเขาอย่างดังเขาได้ยินเสียงคนในห้องตะโกนออกมาอย่างฉุนเฉียวเพราะว่าน่าจะกำลังเสียอารมณ์แต่เขาเองก็ยังไม่หยุดเคาะเพราะถ้าหากคนด้านในไม่ยอมเปิดเขาจะเปลี่ยนจากเคาะเป็นพังประตูเข้าไปแทน
“เอส...พี่มาขัดจังหวะทำไม”
เบรย์เดนเดินมาปิดประตูอย่างอารมณ์เสียเมื่อเห็นว่าเป็นใครยืนอยู่หน้าห้องเขาจึงปรับอารมณ์ให้เป็นปกติแต่ก็สงสัยว่าพี่ชายเขานั้นมาขัดจังหวะเขาในเวลานี้ทำไม
“ใส่เสื้อผ้าแล้วลงไปคุยกับฉันข้างลาง”
เอริคใช้สายตากวาดมองในห้องเมื่อเขาเห็นหญิงสาวที่นอนมีผ้าห่มคลุมอยู่นั้นเป็นใครเขาก็หันมาพูดกับน้องชายของเขาเสียงแข็งและให้น้องชายของเขาแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วลงไปคุยกับเขาด้านล่างเขาแทบอยากจะกุมขมับเขาไม่รู้เลยว่าถ้าหากทานตะวันรู้ว่าน้องชายเขาใช้พฤติกรรมที่ป่าเถื่อนกับน้องสาวของเธอหญิงสาวจะพาลโกรธมาถึงเขาด้วยหรือเปล่า
“พี่มีอะไร”
เบรย์เดนเดินลงมาด้านล่างด้วยสีหน้าที่หมดอารมณ์เล็กน้อยที่พี่ชายของเขามาอยากคุยตอนที่เขานั้นกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มตอนนี้
“ส่งตัวจันทร์เจ้ามาให้ฉัน”
เอริคไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาพูดในสิ่งที่เขานั้นต้องการออกมาทันทีเพราะว่าเขาเองจะได้รีบจบๆเรื่องนี้ไปซะอีกอย่างเขาก็ไม่อยากปิดบังหญิงสาวเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเขาอีกต่อไปด้วยเพราะเขาได้จดทะเบียนกับเธอแล้วนั่นเองตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ขพาตัวจันทร์เจ้ากลับไปหาหญิงสาวแค่นี้ก็ทำให้เธอประทับใจในตัวเขาแล้วว่าเขานั้นสามารถที่จะช่วยเหลือเธอได้อีกอย่างถ้าเธอจะโกรธเรื่องที่เขานั้นปิดบังตัวตนก็คงจะโกรธน้อยลงเพราะเขาก็มีความดีให้เธอนั้นเห็นอยู่บ้าง
“หึ่!!...ต้องการเอาใจสาวถึงขนาดมาบังคับน้องเลยเหรอ”
เบรย์เดนหัวเราะอยู่ในลำคอเขารู้ทุกอย่างว่าที่พี่ชายของเขาทำแบบนี้นั้นเพื่ออะไรแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่กระต่ายน้อยของเขาไปง่ายๆเป็นแน่เพราะเขานั้นยังไม่เบื่อเธอนั่นเองเขารู้ว่าเขานั้นมีข้อต่อรองที่สามารถต่อกลอนกับพี่ชายเขาได้เขาจึงไม่มีทีท่าที่จะยอมทำตามคำสั่งของพี่ชายของเขานั่นเอง
“รู้ด้วยเหรอ...นายนี่มันเจ้าเล่ห์”
เอริคถึงกับหันหน้าไปมองน้องชายของเขาด้วยสายตาที่หรี่เล็กน้อยพร้อมทั้งอมยิ้มมุมปากเขาประมาทในความสามารถของน้องชายเขามากเกินไปเสียแล้วแต่มันก็ทำให้เขานั้นรู้ว่าน้องชายของเขานั้นน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของเขาอยู่ตลอดเหมือนที่เขารู้ว่าน้องชายเขาทำอะไรอยู่ตลอดเหมือนกันนั่นเอง
“ถ้าผมไม่คืนพี่จะทำยังไง”
เบรย์เดนยังไม่เลิกที่จะท้าทายอำนาจของพี่ชายของเขาถึงเขาจะรู้ว่ามันมีเปอร์เซ็นอันน้อยนิดที่เขาจะชนะก็เถอะแต่เขาก็ขอลองก่อนก็แล้วกัน
“นายคิดว่านายจะต่อลองกับฉันได้ด้วยเหรอ”
เอริคพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยเพราะยังไงเขาก็คิดว่าน้องชายของเขาต้องยอมเป็นแน่อยู่แล้วแบบทุกครั้งที่มันควรจะเป็น
“อืม...จะว่าผมเจ้าเล่ห์ก็ได้นะ...พี่จะเอาตัวเธอไปก็ได้แต่ถ้าหากเธอรู้ว่าพี่ไม่ใช่นักสืบแล้วพี่ก็รู้ตั้งนานแล้วว่าน้องสาวของเธออยู่ที่ไหนแต่กลับไม่บอกเธอทั้งยังหลอกให้เธอจดทะเบียนสมรสด้วยอีกแบบนี้เธอจะยังคิดว่าพี่เป็นคนดีอยู่ไหมนะ”
เบรย์เด็นจำต้องใช่วิธีบีบพี่ชายของเขาด้วยวิธีนี้เพราะพี่ชายเขานั้นมาบีบเขาก่อนนั่นเองเขาเองก็อยากรู้ว่าพี่ชายของเขานั้นจะแคร์ความรู้สึกของผู้หญิงที่พี่ชายเขากำลังติดใจเธออยู่ตอนนี้มากน้อยแค่ไหน
“แบล็คนายนี่มัน...”
เอริคไม่คิดว่าน้องชายของเขานั้นจะกล้าต้อกลอนกับเขาด้วยวิธีนี้เขายอมรับว่าใจที่เคยแข็งของเขานั้นมันต้องอ่อนแอเพราะทานตะวันหญิงสาวคนนี้คนเดียวจริงๆตอนนี้เขานั้นเหมือนคนที่กำลังวางกับดักให้ตัวเองโดยแท้
“หึ่!!..ก็ผมเป็นน้องพี่นี่นา”
เบรย์เดนยิ้มกริ่มให้พี่ชายของเขาเพราะเขานั้นก็ได้ความเจ้าเล่ห์มาจากพี่ชายของเขานั่นแหละ
“เฮ้อ!!!...ถ้าอย่างนั้นให้เธอโทรหาพี่สาวของเธอบอกว่าเธอปลอดภัย”
ในเมื่อเอริคเห็นว่าเขานั้นคงจะทำอะไรไม่ได้แต่ตอนนี้เขาอยากให้ทานตะวันนั้นสบายใจเรื่องน้องมากขึ้นและให้เธอเห็นว่าเขานั้นช่วยเธอตามหาน้องสาวจริงๆเลยเอ่ยปากบอกกับน้องชายของเขาแกมขอร้องให้ทำตามที่เขาบอก
“ถ้าผมไม่ทำ”
เบรย์เดนยังไม่หยุดที่จะกวนประสาทพี่ชายของเขาเพราะนานๆทีเขานั้นจะเป็นฝ่ายชนะ
“ฉันยอมแลก”เอริคจ้องที่หน้าของน้องชายของเขาสายตาอมหิตนั้นบ่งบอกว่าถ้าหากว่าน้องชายของเขาไม่ทำตามไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมแลกแม้จะต้องผิดใจกับทานตะวันตอนนี้ก็ตามถ้ามันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ“โอเคๆ...เดี๋ยวจะจัดการให้”เบรย์เดนมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าสายตาแบบนี้ของพี่ชายเขานั้นเอาจริงทำให้เขาต้องรีบตอบตกลงพี่ชายของเขาอย่างทันทีเรื่องแค่นี้เขาจัดการให้ได้อยู่แล้วขอเพียงอย่างเดียงขอให้กระต่ายน้อยจันทร์เจ้าได้อยู่กับเขาก่อนก็พอเย็นวันต่อมาสวนสาธารณะ“ผมเห็นคุณดูเครียดๆก็เลยพามาเดินเล่นที่นี่น่ะครับ”เอริคชวนหญิงสาวมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆกับบ้านพักทีพวกเขาอยู่เพราะชายหนุ่มนั้นอยากจะให้หญิงสาวได้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างอีกอย่างวันนี้ก็จะเป็นวันที่ทำให้เธอยิ้มได้อีกด้วย“ขอบคุณค่ะ”ทานตะวันรู้ว่าชายหนุ่มนั้นหวังดีกับเธออันที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากมีอาการกังวลนี้ให้คนอื่นเห็นสักเท่าไรแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆเพราะในใจเธอมันมีแต่เรื่องมากมายเต็มไปหมด“ผมมีข่าวดีเกี่ยวกับน้องสาวของคุณมาบอก”เอริคเห็นว่าเป็นเบอร์ของใครโทรมาเขายิ้มร่าและหันไปทางหญิงสาวพร้อมส่งมือถือให้หญิงสาว“จริงเหรอคะ”ทานตะวนมีท่าทางทีด
“จริงสิตะวันต้องตอบแทนคุณที่คุณช่วยตะวัน...คุณเอสต้องการอะไรบอกตะวันมาได้เลยนะคะเพราะตะวันคิดว่าตะวันจะอยู่ที่นี่อีกไม่นานก็จะกลับไทยแล้วค่ะ”ทานตะวันลืมไปเสียสนิทเพราะมัวแต่ดีใจว่าเธอนั้นต้องตอบแทนชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอเพราะจะให้เขาช่วยเธอฟรีๆไม่ได้อย่างน้อยก็ขอให้เขาบอกกับเธอมาว่าเขานั้นต้องการอะไรถ้าเธอทำให้เขาได้เธอก็เต็มใจที่จะทำ“อะไรนะครับ...เอ่อ..”เอริคถึงกับใจหายวาบไปไม่เป็นเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดเรื่องที่จะกลับบ้านของเธอเร็วขนาดนี้“คุณเอสอยากให้ตะวันตอบแทนอะไรคะ...”ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มยังมีท่าทีที่อ้ำอึ้งอยู่เธอจึงย้ำถามเขาอีกรอบเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นบอกความต้องการของเขามา“เอ่อ...คือผมไม่รู้ว่าเรื่องที่ผมขอมันจะทำให้คุณลำบากใจไหมนะครับแต่ผมอยากให้คุณอยู่เที่ยวที่นี่เป็นเพื่อนผมอีกสักพัก”เอริคอยากจะบอกกับเธอตอนนี้ว่าเขาอยากให้เธอมาลองคบกับเขาดูจะได้ไหมจริงๆแต่มันก็ทำไม่ได้เขากลัวว่าเธอจะคิดว่าเขานั้นฉวยโอกาสกับเธอน่ะสิจึงแสร้งหาเรื่องเพื่อที่จะยื้อเวลาให้เธออยู่ที่นี่อีกสักพักก็น่าจะพอมีเวลาทำคะแนนกับเธอได้อยู่“ตะวันยินดีค่ะ...”ทานตะวันคิดว่าหากอยู่ที่นี่ต่ออีกสัก
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...ตะวันอยากทานไอศครีมคุณเอสทานไหมคะ”ทานตะวันหันมายิ้มหนาแป้นให้กับชายหนุ่มเพราะวันนี้เธอรู้สึกสนุกมากเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งได้เล่นซนตามอิสระโดยที่มีชายหนุ่มคอยดูแลเธออยู่ข้างๆเธอบอกกับเขาว่าเธอนั้นไม่เหนื่อยเลยสักนิดแถมสายตายังมองเห็นร้านไอศครีมตักใส่ถ้วยอกเธอจึงนึกอยากทานพร้อมชวนชายหนุ่มด้วย“ดีครับ”ตอนนี้เอริคไม่มีคำพูดที่จะปฏิเสธหญิงสาวแม้แต่น้อยเธออยากทำอะไรหรืออยากทานอะไรเขาเองก็อยากจะมีส่วนร่วมกับเธอเสียทุกอย่าง“ไอศรีมได้แล้วค่ะคุณเอส”ทานตะวันยืนสั่งไอศกรีมอยู่ครู่หนึ่งก็เดินกลังออกมาด้วยไอศครีมสองถ้วยพอดีมือพร้อมส่งให้ชายหนุ่มหนึ่งถ้วย“ขอบคุณครับ”“5555..แน่จริงก็ตามมาให้ทันเส้5555”ปึ้กกกกกเอริครับถ้วยไอศครีมมาจากหญิงสาวพร้อมกำลังจะพากันเดินไปนั่งที่เก้าอี้สาธารณะเพื่อจะนั่งทานไอศครีมแต่จู่ๆก็มีเด็กชายสองคนกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันและมาชนที่ชายหนุ่มเข้าทำให้คนตัวโตที่ไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นโดนไอศครีมก้อนล้นถ้วยที่ถืออยู่ในมือกระเด็นเข้ามาที่หน้าอย่างจัง“เอ่อะ!!!...”เอริคสบถออกมาเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าไอศกรีมที่ถืออยู่ในมือนั้นจะกระเด็นเข้ามาที่หน้าของ
ตอนนี้เอริคส่งข้อความบอกกับลูคัสให้จัดการเรื่องนี้ให้เขาโดยด่วนเพราะว่าตอนนี้เขาอยากออกไปจากที่นี่แย่แล้วเอริคสั่งเบียร์เย็นๆมาดื่มเพียงขวดสองขวดเพื่อรอเวลาให้ลูกน้องของเขาจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเพื่อที่เขาจะได้พาหญิงสาวกลับเสียที“คุณเอสไหวไหมคะ”ทานตะวันเห็นท่าทางของชายหนุ่มมีท่าทีที่เหมือนจะเมามากแต่เธอเองเห็นเขานั้นดื่มไปแค่เบียร์ขวดสองขวดเองหญิงสาวคิดในใจว่าหรือชายหนุ่มนั้นจะเป็นคนคออ่อนก็เป็นได้ตอนนี้ทานตะวันประคองชายหนุ่มเข้ามาในบ้านของเขาเธอพยุงตัวชายหนุ่มที่ดูจะใหญ่กว่าเธอหลายเท่ามาวางที่เตียงของเขาแล้วยืนสูดหายใจให้คลายเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่งจึงหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับชายหนุ่มตอนนี้ชายหนุ่มหลับตาพริ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์แน่นอนว่าเขาไม่ได้เมาเพียงแต่อยากเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวเพียงเท่านั้นเพราะกว่าลูคัสจะส่งข้อความมาหาเขาว่าจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้วในการที่เขานั่งรอเวลาอยู่ในร้านนั้นมันทำให้เขาคิดอะไรออกนั่นเอง“อืม”เอริคที่หลับตาพริ้มอยู่นั้นเขารู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาแตะที่หน้าเขารู้ว่าหญิงสาวกำลังจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับเขาชายหนุ่มจึงขยับตัวเล็กน้อยแล้วแสร้งดึงมื
เมื่อลูคัสออกไปนอกห้องแล้วชายหนุ่มลุกยืนขึ้นพร้อมใช้มือตบโต๊ะทำงานเขาจนเกิดสียงดังสนั่นจนหญิงสาวที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้าของเขานั้นถึงกับสะด้งเล็กน้อยและเริ่มมีเหงื่อผุดอยู่ที่หน้าผากเพราะท่านประธานหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้นเขากำลังโกรธจัดจนน่ากลัวถ้าสายตาของเขาเป็นไฟก็น่าจะเผามอดไหม้หญิงสาวตรงหน้าให้สิ้นไปแล้วเมื่อตอนเข้ามาเอริคกัดฟันถามหญิงสาวอย่างเจ็บใจเธอเป็นดีไซน์เนอร์ที่เก่งหัวไวแถมยังทำงานให้เขาได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเขาจึงเลื่อนให้เธอได้เป็นหัวหน้าและตัดสินใจเลือกผลงานเองทั้งหมดในการจัดการสินค้าออกมาขายโดยที่ไม่ต้องผ่านเขาและรายได้ที่เขาให้เธอนั้นมันมหาศาลจนเขาเชื่อว่าเธอนั้นคงจะใช้ไม่มีวันหมดอย่างแน่นอนแต่เขานั้นไม่เข้าใจจริงๆว่าเธอมีเหตุอะไรจึงต้องหักหลังบริษัทและเขาแบบนี้“มิเชลขอโทษค่ะ..มิเชลจำเป็นต้องทำ..”มิเชลยืนสูดหายใจเข้าอยู่ครู่หนึ่งเพื่อลดความกลัวของเธอพร้อมตอบประธานหนุ่มที่ถามเธอด้วยน้ำสียงที่เรียบเฉยเธอไม่ใช่ไม่รู้สึกผิดแต่เธอนั้นจำเป็นที่ต้องทำเรื่องนี้จริงๆอย่างเลี่ยงไม่ได้เธอไม่ได้อยากหักหลังและไม่ได้ลืมบุญคุณของประธานหนุ่มแต่สถานการณ์บางอย่างมันบีบเธอนั
“เป็นยังไงบ้างลุค”เมื่อลูคัสเข้ามาหาเขาที่เพนท์เฮ้าส์ตามคำสั่งเพราะเขาอยากฟังรายงานเรื่องที่เขาให้ชายหนุ่มนั้นจัดการแทนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะเขาต้องรื้อระบบใหม่ของบริษัทเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทุจริตแบบนี้ขึ้นอีก“มีคนมาประกันตัวเธอออกไปครับคุณเอส”ลูคัสรายงานเจ้านายหนุ่มของเขาตามที่เขานั้นได้รับเรื่องมาอีกทีหนึ่ง“หึ่!!...คิดแล้วไม่มีผิด”เอริคคิดแล้วว่าจะต้องมีคนมาช่วยเธอถึงแม้ว่าคนที่มาประกันตัวหญิงสาวจะเป็นบุคคลที่เขาไม่รู้จักแต่เขาก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาเพื่อช่วยหญิงสาว“แล้วเรื่องนี้คุณเอสจะยังไงต่อครับ...เรื่องที่...เอ่อ..เรื่องมิเชล”ลูคัสเห็นว่าเจ้านายของเขานิ่งผิดปกติเพราะถ้าเขารู้แบบนี้แล้วอันที่จริงต้องสั่งให้เขาจัดการอะไรสักอย่างโดยไม่ต้องรอให้เขานั้นถามออกไปแต่นี่มันไม่ใช่“ฉันจะถอนแจ้งความ...”เอริคมองไปที่ลูคัสพร้อมบอกกับลูกน้องเขาเป็นแนวคำสั่งว่าให้ชายหนุ่มนั้นจัดการเรื่องอะไรต่อไป“เธอไม่น่าตกเป็นเหยื่อของคนพวกนั้นเลย”ลูคัสพูดออกมาเบาๆพร้อมหลบสายตาลงเขาดีใจที่เจ้านายของเขายังเห็นใจหญิงสาวอยู่บ้างเพราะเรื่องที่เขารู้มาพร้อมๆกับเจ้านายหนุ่มของเขาไม่นานมานี้ก็คือครอบ
วันต่อมา19.00 น.ก๊อกๆๆ“คุณเอสอยู่ไหมคะ”เป็นเวลาสองสามวันแล้วที่ทานตะวันนั้นไม่ได้เจอกับเอริคเธอเพียงอยากที่บอกกับเขาว่าเรื่องคืนนั้นเธอไม่ได้ถือสาอะไรเขาแล้วและอยากที่จะขอบคุณเขาอย่างมากที่ช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดอีกทั้งตอนนี้เธอก็ยังเซ็นสัญญากับบริษัทของแบรนด์ดังที่ได้ความช่วยเหลือจากเขาแล้วด้วยแปลกที่ตอนนี้เธออยากให้เขานั้นรับรู้เป็นคนแรกว่าเธอดีใจมากแค่ไหนแต่กลับไม่เจอเขาเสียอย่างนั้นเธอพยายามติดต่อเขาไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้หญิงสาวจึงให้กำลังใจตัวเองว่าตอนนี้เขาอาจจะรับงานสืบเรื่องอะไรอยู่ก็เป็นได้จึงทำให้เธอนั้นติดต่อเขาได้ยากนั่นเอง“คุณตะวัน”“อ้าวคุณวิลล์มาที่นี่ได้ไงคะ”ตะวันได้ยินเสียงของผู้ชายด้านหลังเรียกชื่อเธอเมื่อหันไปก็เห็นว่าเป็นวิลล์เพื่อนชายที่เธอพึ่งจะรู้จักโดยบังเอิญได้ไม่นานแต่ก็คุยกันถูกคอเพราะเป็นคนที่ชอบเรื่องผ้าเหมือนกันอีกทั้งยังไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอที่นี่“ก็คุณตะวันเป็นคนบอกผมเองนี่ครับว่าคุณอยู่ที่นี่”วิลล์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมหอบของพลุงพลังออกมาจากรถและบอกว่าหญิงสาวเป็นคนบอกกับเขาเองว่าเธออยู่ที่นี่“อ๋อ...ใช่จริงด้วยตะวันลืมไปเลยค่ะ...คุณวิลล์มีธ
“นี่ครับ...คุณเอริค มาติเนส..ชื่อเค้าคล้ายเพื่อนคุณเลยนะครับผลงานของแบรนด์นี้ผู้คนทั่วโลกต่างก็รู้จักเพราะฝีมือการบริหารงานของเค้าเลยนะครับคุณโชคดีมากเลยที่ได้มาทำงานที่นี่เสียดายคุณน่าจะเจอผมก่อนไม่อย่างนั้นผมคงชวนคุณมาทำงานที่บริษัทผมแน่”วิลล์เห็นหญิงสาวจ้องมือถือด้วยสีหน้าและอาการที่ตกใจเล็กน้อยแต่เธอยังนิ่งอยู่เขาจึงค่อยๆอธิบายว่าคนในรูปเป็นใครเก่งแค่ไหนและยังไม่ลืมที่จะย้ำว่าชื่อเหมือนเพื่อนที่อยู่ข้างบ้านของเธออีกและสิ่งที่เขาเสียดายจริงๆก็คือเขาน่าจะเจอเธอก่อนเอริคนั่นเอง“อ๋อ...ค่ะ...เหมือนเพื่อนตะวันจริงๆด้วย”ทานตะวันค่อยๆส่งมือถือคืนชายหนุ่มด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อยเธอพยายามข่มไม่ให้น้ำตาของเธอนั้นไหลลงมาเพราะที่ผ่านมาทั้งหมดเธอเหมือนโดนคนที่เธอไว้ใจปั่นหัวเล่นเหมือนเธอเป็นตัวตลกนั่นเองเธอไม่เข้าใจว่าเขานั้นต้องการอะไรจากเธอกันแน่เขาดีกับเธอทุกอย่างแต่นั่นมันก็แฝงด้วยกาหลอกลวงเธออยู่ทุกอย่างเหมือนกัน“อืมม..นี่มันก็เริ่มดึกแล้วผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับตะวัน”วิลล์เห็นสีหน้าของหญิงสาวดูไม่คอยดีสักเท่าไรเขาเองคิดว่าตอนนี้ควรจะขอตัวกลับจะดีกว่าเพราะว่าหญิงสาวอาจจะมีอะไรให้ต้อ