“เป็นยังไงบ้างลุค”
เมื่อลูคัสเข้ามาหาเขาที่เพนท์เฮ้าส์ตามคำสั่งเพราะเขาอยากฟังรายงานเรื่องที่เขาให้ชายหนุ่มนั้นจัดการแทนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะเขาต้องรื้อระบบใหม่ของบริษัทเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทุจริตแบบนี้ขึ้นอีก
“มีคนมาประกันตัวเธอออกไปครับคุณเอส”
ลูคัสรายงานเจ้านายหนุ่มของเขาตามที่เขานั้นได้รับเรื่องมาอีกทีหนึ่ง
“หึ่!!...คิดแล้วไม่มีผิด”
เอริคคิดแล้วว่าจะต้องมีคนมาช่วยเธอถึงแม้ว่าคนที่มาประกันตัวหญิงสาวจะเป็นบุคคลที่เขาไม่รู้จักแต่เขาก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาเพื่อช่วยหญิงสาว
“แล้วเรื่องนี้คุณเอสจะยังไงต่อครับ...เรื่องที่...เอ่อ..เรื่องมิเชล”
ลูคัสเห็นว่าเจ้านายของเขานิ่งผิดปกติเพราะถ้าเขารู้แบบนี้แล้วอันที่จริงต้องสั่งให้เขาจัดการอะไรสักอย่างโดยไม่ต้องรอให้เขานั้นถามออกไปแต่นี่มันไม่ใช่
“ฉันจะถอนแจ้งความ...”
เอริคมองไปที่ลูคัสพร้อมบอกกับลูกน้องเขาเป็นแนวคำสั่งว่าให้ชายหนุ่มนั้นจัดการเรื่องอะไรต่อไป
“เธอไม่น่าตกเป็นเหยื่อของคนพวกนั้นเลย”
ลูคัสพูดออกมาเบาๆพร้อมหลบสายตาลงเขาดีใจที่เจ้านายของเขายังเห็นใจหญิงสาวอยู่บ้างเพราะเรื่องที่เขารู้มาพร้อมๆกับเจ้านายหนุ่มของเขาไม่นานมานี้ก็คือครอบครัวของหญิงสาวนั้นเป็นลูกน้องของคนในตระกูลมอแกนไม่ว่าจะเป็นพ่อและแม่ของมิเชล
ที่มิหญิงสาวนั้นยอมทำเรื่องทั้งหมดก็เพราะว่าอยากให้ครอบครัวเธอเองปลอดภัยจากคนที่กดขี่เธออยู่นั่นเอง
มิเชลหนีออกจากบ้านตั้งแต่เรียนมหาลับเพราะเธอนั้นไม่ชอบที่ลูกชายของตระกูลนั้นชอบใช้พวกเธอรองมือรองเท้าทุกอย่างพ่อแม่ของเธอก็ยอมทำทั้งๆที่สามารถออกไปจากบ้านนี้ได้แต่เพราะบุญคุณของนายใหญ่ของบ้านที่เสียไปแล้วทำให้พ่อกับแม่ของมิเชลนั้นยังยอมรับใช้ลูกชายของตระกูลนั้นอยู่
มิเชลนั้นทนกับการกดขี่ของบ้านนั้นไม่ไหวเธอจึงตัดสินใจหนีออกมาหาเงินเรียนเองและเมื่อจบมาก็มาทำงานที่บริษัทในเครือของมาติเนสแม้จะต้องผิดใจกับพ่อและแม่ของเธอก็ตามแต่เธอทนอยู่กับคนตระกูลนั้นไม่ได้จริงๆ
และเมื่อวิลล์มอแกนลูกชายของผู้มีพระคุณที่เคยชุบเลี้ยงครอบครัวเธอมารู้ว่าเธอนั้นได้เข้าทำงานอยู่ที่บริษัทในเครือของมาติเนสซึ่งเป็นคู่แข่งกับมอแกนแต่ไหนแต่ไรเขาจึงใช้ครอบครัวหญิงสาวมาบีบบังคับเพื่อให้เธอนั้นทำตามที่เขาสั่งจนหญิงสาวต้องยอมจำนนแต่โดยดี
“เธอเลือกเองถ้าเธอมาขอความช่วยเหลือเราตั้งแต่แรกเธอก็ไม่ต้องเจอจุดจบแบบนี้”
เอริคถอนหายใจพร้อมก้มหน้าใช้สองมือประสานกันอย่างครุ่นคิดพร้อมพูดออกมาอย่างเหนื่อยใจเขาคิดว่าถ้าหากเธอบอกกับเขาและให้เขาช่วยเหลือพวกเธอตั้งแต่คราแรกเรื่องราวมันก็คงไม่เป็นเช่นนี้
“แล้ว...ทานตะวัน”
“เอ่อ...เธอตอบตกลงเรื่องการทำงานแล้วครับ...แล้ว...เอ่อ...นี่ครับคุณเอส”
ลูคัสรู้แล้วว่าคำถามต่อไปที่เจ้านายหนุ่มของเขาจะถามคืออะไรเขาจึงรีบบอกกับเจ้านายหนุ่มของเขาว่าหญิงสาวนั้นตอบรับที่จะเป็นพนักงานในเครือของมาติเนสแล้วแต่เรื่องที่เขานั้นกังวลอีกเรื่องหนึ่งที่จะทำให้เข้านายหนุ่มของเขาเครียดอีกรอบก็น่าจะเป็นรูปถ่ายจากเหตุการณ์เมื่อวานที่หญิงสาวเข้าชมงานนิทรรศกาลโชว์ผ้าของแต่ละประเทศที่โรงแรมดังของที่เคมบริจด์นี่แหละ
“นี่มันวิลล์นี่...แล้วมันไปอยู่กับทานตะวันได้ยังไง”
เอริคถึงกับตาโตเมื่อเห็นว่าวิลล์มอแกนศรัตรูทางการค้าหมายเลขหนึ่งของเขาที่พึ่งมีคดีมาหมาดๆกับเขาจะมาเจ๊าะแจ๊ะอยู่กับหญิงสาวของเขาอีกในรูปภาพที่แอบถ่ายมาได้ทั้งสองยังดูสนิทสนมกันอีกด้วยและด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนที่ยิ้มง่ายอยู่แล้วเขาเองรู้สึกฉุนกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยเพราะเขาไม่อยากแบ่งรอยยิ้มที่มันควรจะป็นของเขาให้ใครได้มองน่ะสิ
“เอ่อ...เมื่อวันก่อนจากคนที่ตามดูคุณทานตะวันบอกว่าคุณทานตะวันเจอกับวิลล์ที่สวนสาธาณะหลังจากที่ผมกลับมาแล้วเพราะว่าคุณทานตะวันเก็บกระเป๋าเงินของชายหนุ่มได้แล้วแจ้งกับคนที่ดูแลสวนให้คืนเจ้าของทั้งสองจึงได้เจอกันเมื่อวิลล์รู้ว่าคุณทานตะวันชอบงานผ้าอย่างมากเขาจึงชวนเธอไปเดินดูงานด้วยกันเมื่อวานครับ”
ลูคัสรายงานตามที่เขาได้รับจากคนที่ติดตามหญิงสาวอีกครั้ง
“ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
เอริคเห็นว่าเรื่องนี้คงจะไม่พ้นเป็นแผนการของวิลล์อย่างแน่นอนเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเล่นสงครามอะไรกับเขากันแน่ตอนนี้มันเริ่มลามมาที่เรื่องส่วนตัวของเขาเสียแล้วสิ
“ผมก็คิดว่ามันน่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะวิลล์ไม่มีเรื่องจำเป็นที่จะต้องไปที่นั่น”
ลูคัสเห็นด้วยกับความคิดของเจ้านายหนุ่มของเขาเรื่องนี้มันยากที่จะเข้าใจได้ว่าบังเอิญที่ทั้งวิลล์และทานตะวันไปเจอกันแต่มันน่าจะเป็นเรื่องที่จงใจของทางวิลล์มากกว่า
“จับตาดูเรื่องนี้ไว้ให้ดีลุค”
เอริคกำหมัดแน่นพร้อมสั่งลูคัสว่าให้จับตาดูเรื่องนี้อย่าให้คลาดสายตาเพราะเขาไม่รู้ว่าทางฝั่งของวิลล์จะมาไม้ไหนกับเขาอีกเรื่องเก่าสะสางพึ่งจบแต่เขานั้นกลับมีเรื่องใหม่ให้ต้องคิดเพิ่มอีกแล้ว
“ครับคุณเอส”
ลูคัสจับสังเกตได้ว่าเจ้านายหนุ่มของเขามีสีหน้าที่ค่อนข้างกังวลอยู่ไม่น้อยในใจของเขาเองตอนนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทางฝั่งของพวกมอแกนคิดจะเล่นงานมาติเนสด้วยวิธีไหนเพราะสองตระกูลนี้เขารู้อยู่แก่ใจว่ามีปัญหากันตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่แล้ว
อันที่จริงพ่อของเจ้านายหนุ่มของเขาและพ่อของวิลล์มอแกนนั้นเป็นเพื่อนกันมาเลยเปิดธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้านี้ร่วมกันโดยพ่อของเจ้านายหนุ่มของเขาถือหุ้นใหญ่และไว้ใจให้พ่อของวิลล์เป็นผู้จัดการบริษัทนี้คนเดียวโดยพ่อของเจ้านายหนุ่มของเขานั้นต้องบริหารกิจการอื่นอยู่อย่างล้นมือจึงไม่ค่อยได้มาตรวจสอบรายได้ของแบรนด์เสื้อผ้าเท่าไรนักเพราะไว้ใจพ่อของวิลล์นั่นเอง
จนวันนึงพ่อของเอริครู้สึกว่ารายได้ที่เขาบริษัทของแบรนด์เสื้อผ้ามันน้อยนิดแต่มันช่างขัดกับภาพที่เขาเห็นว่าเพื่อนของเขานั้นใช้ชีวิตหรูหราผิดปกติเมื่อพ่อของเอริคเข้าตรวจสอบจริงจังจึงรู้ว่าคนที่เขานั้นไว้ใจที่สุดกับหักหลังอย่างน่าเกลียด
พ่อของเอริคขอยกเลิกหุ้นทั้งหมดของพ่อของวิลล์และไม่เอาความใดๆเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมาแต่จะให้คบกันต่อคงเป็นไปไม่ได้ทำให้พ่อของวิลล์ที่กำลังหลงระเริงกับอำนาจลาภยศรู้สึกเสียหน้าเขาจึงรวบรวมเงินที่มีอยู่ทั้งหมดเปิดบริษัทแบนด์เสื้อผ้ามาแข่งกับบริษัทของพ่อเอริคนั่นเองและบริษัทในเครือของมอแกนนั้นก็ตั้งตนเป็นคู่แข่งของมาติเนสเรื่อยมาจนถึงรุ่นลูกนั่นเองแต่เห็นว่ามีแต่ฝ่ายมอแกนที่จะวิ่งเต้นโจมตีมาติเนสอยู่ฝ่ายเดียวแต่จนแล้วจนเล่าก็ยังสู้มาติเนสไม่ได้อยู่ดี
วันต่อมา19.00 น.ก๊อกๆๆ“คุณเอสอยู่ไหมคะ”เป็นเวลาสองสามวันแล้วที่ทานตะวันนั้นไม่ได้เจอกับเอริคเธอเพียงอยากที่บอกกับเขาว่าเรื่องคืนนั้นเธอไม่ได้ถือสาอะไรเขาแล้วและอยากที่จะขอบคุณเขาอย่างมากที่ช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดอีกทั้งตอนนี้เธอก็ยังเซ็นสัญญากับบริษัทของแบรนด์ดังที่ได้ความช่วยเหลือจากเขาแล้วด้วยแปลกที่ตอนนี้เธออยากให้เขานั้นรับรู้เป็นคนแรกว่าเธอดีใจมากแค่ไหนแต่กลับไม่เจอเขาเสียอย่างนั้นเธอพยายามติดต่อเขาไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้หญิงสาวจึงให้กำลังใจตัวเองว่าตอนนี้เขาอาจจะรับงานสืบเรื่องอะไรอยู่ก็เป็นได้จึงทำให้เธอนั้นติดต่อเขาได้ยากนั่นเอง“คุณตะวัน”“อ้าวคุณวิลล์มาที่นี่ได้ไงคะ”ตะวันได้ยินเสียงของผู้ชายด้านหลังเรียกชื่อเธอเมื่อหันไปก็เห็นว่าเป็นวิลล์เพื่อนชายที่เธอพึ่งจะรู้จักโดยบังเอิญได้ไม่นานแต่ก็คุยกันถูกคอเพราะเป็นคนที่ชอบเรื่องผ้าเหมือนกันอีกทั้งยังไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอที่นี่“ก็คุณตะวันเป็นคนบอกผมเองนี่ครับว่าคุณอยู่ที่นี่”วิลล์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมหอบของพลุงพลังออกมาจากรถและบอกว่าหญิงสาวเป็นคนบอกกับเขาเองว่าเธออยู่ที่นี่“อ๋อ...ใช่จริงด้วยตะวันลืมไปเลยค่ะ...คุณวิลล์มีธ
“นี่ครับ...คุณเอริค มาติเนส..ชื่อเค้าคล้ายเพื่อนคุณเลยนะครับผลงานของแบรนด์นี้ผู้คนทั่วโลกต่างก็รู้จักเพราะฝีมือการบริหารงานของเค้าเลยนะครับคุณโชคดีมากเลยที่ได้มาทำงานที่นี่เสียดายคุณน่าจะเจอผมก่อนไม่อย่างนั้นผมคงชวนคุณมาทำงานที่บริษัทผมแน่”วิลล์เห็นหญิงสาวจ้องมือถือด้วยสีหน้าและอาการที่ตกใจเล็กน้อยแต่เธอยังนิ่งอยู่เขาจึงค่อยๆอธิบายว่าคนในรูปเป็นใครเก่งแค่ไหนและยังไม่ลืมที่จะย้ำว่าชื่อเหมือนเพื่อนที่อยู่ข้างบ้านของเธออีกและสิ่งที่เขาเสียดายจริงๆก็คือเขาน่าจะเจอเธอก่อนเอริคนั่นเอง“อ๋อ...ค่ะ...เหมือนเพื่อนตะวันจริงๆด้วย”ทานตะวันค่อยๆส่งมือถือคืนชายหนุ่มด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อยเธอพยายามข่มไม่ให้น้ำตาของเธอนั้นไหลลงมาเพราะที่ผ่านมาทั้งหมดเธอเหมือนโดนคนที่เธอไว้ใจปั่นหัวเล่นเหมือนเธอเป็นตัวตลกนั่นเองเธอไม่เข้าใจว่าเขานั้นต้องการอะไรจากเธอกันแน่เขาดีกับเธอทุกอย่างแต่นั่นมันก็แฝงด้วยกาหลอกลวงเธออยู่ทุกอย่างเหมือนกัน“อืมม..นี่มันก็เริ่มดึกแล้วผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับตะวัน”วิลล์เห็นสีหน้าของหญิงสาวดูไม่คอยดีสักเท่าไรเขาเองคิดว่าตอนนี้ควรจะขอตัวกลับจะดีกว่าเพราะว่าหญิงสาวอาจจะมีอะไรให้ต้อ
ทานตะวันถึงกับต้องหันไปมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่โกรธจริงจังพร้อมบอกให้ขั้นหยุดที่จะมาสั่งเธอเสียทีเธอโตแล้วเธอคิดเองได้และเขาก็ไม่ได้มีสิทธิ์มาตัดสินใจอะไรแทนเธอด้วยและตอนนี้เธอจึงพูดประชดให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นรู้ความจริงแล้วว่าเขานั้นเป็นใครชายหนุ่มจะได้รู้ตัวว่าเธอนั้นไม่ได้โง่ให้เขาหลอกอีกต่อไปแล้ว“ตะวัน...”เอริคถึงกับตะลึงนิ่งงันเขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้เรื่องนี้เร็วขนาดนี้คงไม่พ้นฝีมือของวิลล์อีกเป็นแน่“ออกไปให้พ้นหน้าตะวัน...ตะวันหวังว่าคุณคงจะล้อเล่นกับตะวันมามากพอแล้วแต่ก็ขอบคุณเรื่องที่ผ่านมานะคะที่คุณยังอุตส่าห์ช่วยตามหาน้องสาวตะวัน...เราจะหย่ากันให้เร็วที่สุดแล้วตะวันจะกลับบ้าน”ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มเถียงอะไรไม่ออกเมื่อเธอพูดสิ่งที่เธอนั้นรู้ออกมาพร้อมไล่ให้เขาไปให้พ้นหน้าเธอเพราะเธอเกลียดคนโกหกและเกลียดการที่เป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นแต่ก็ยังต้องขอบคุณเขาที่ไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนก็ตามเพื่อตามหาน้องสาวของเธอให้เธอนั้นได้รู้ว่าน้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่และอยู่ที่ไหนนั่นเอง“ไม่ได้นะตะวันผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น...ผมชอบคุณเหตุผลที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมอยากอยู่ใกล้คุณ”เอร
“อร้ายยยย”ปึ้กกๆๆๆ เพี๊ยะๆๆๆทานตะวันเองได้แต่ส่งเสียงแผดร้องออกมาเพราะไม่พอใจในการกระทำของเขาที่ดูท่าว่าจะไม่หยุดง่ายๆเมื่อเธอเห็นว่าเขานั้นกำลังสนใจอยู่กับการฉีกเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มของเธออยู่นั้นหญิงสาวจึงรวบรวมกำลังจากแขนทั้งสองข้างทั้งตบตีจิกข่วนชายหนุ่ม“อื้มมมม”เมื่อมือหนาของเอริคดึงบราของหญิงสาวออกไปได้สองเต้างามก็โผล่ประจักษ์แกสายตาของเขาสองเต้ากลมกลึงที่เต็มไม้เต็มมือมันล่อตาล่อใจให้เขาอดที่จะใช้ปากดูดเม้มคลึงเล่นไม่ได้เสียจริงเมื่อเห็นดังนั้นแล้วเขาก็ไม่รีรอใช้ปากครอบคลุมยอดเต้างามดูดคลึงเล่นอย่างหิวกระหายมืออีกข้างก็ไม่ได้อยู่เฉยเขาใช้ให้มันมีประโยชน์โดยการบีบคลึงเล่นสร้างอารมณ์วาบหวามให้เขาและหญิงสาวไปในตัวอีกด้วย“อร้ายยยย...อื้มมมม”การกระทำที่ป่าเถื่อนของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บที่หน้าอกทั้งสองจึงร้องออกมาและตามด้วยเสียงกัดปากครางเบาๆเพราะรู้สึกวาบหวามแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหญิงสาวเตือนตัวเองว่าเธอจะเผลอใจกับคนที่จะขืนใจเธอไม่ได้เพี๊ยะเพล้งงงงงงงหญิงสาวมือของเธอจิกที่ผมของชายหนุ่มขึ้นมาให้เขาหลุดจากการดูดคลึงเล่นที่ของสงวนของเธอเสียทีและใช้มืออีกข้างฟาดไป
ตอนนี้เนื้อตัวของหญิงสาวมีแต่รอยแดงเต็มไปหมดเพราะความหวานไปทั้งตัวของหญิงสาวนั่นเองจึงทำให้ชายหนุ่มอดที่จะดูดคลึงตามเนื้อตัวของหญิงสาวไม่ได้ที่เขาทำตามอารมณ์ของเขาได้ทั้งหมดในตอนนี้เพราะหญิงสาวนั้นไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านเขาจะมีก็แต่เสียงครางเบาๆเรียกอารมณ์ให้เขานั่นเอง“ไม่ไหวแล้ว...อ้าส์”ช่องทางรักที่บีบรัดแน่นของหญิงสาวที่มันบีบรัดตัวตนของชายหนุ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆทำให้เขานั้นรู้ว่าเธอได้เสร็จสมแล้วเขาเองก็ควบคุมมันไม่ได้เหมือนกันจึงต้องปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวทุกหยาดหยดอย่างรวดเร็วนั่นเองทั้งที่เขานั้นก็ยังไม่หมดเรี่ยวแรงที่จะต่อกิจกรรมรักนี้ต่อ“ไม่นะ...ไอ้คนบ้า..ฮืออ”ทานตะวันที่นอนเหนื่อยหอบอยู่นั้นรู้ว่าชายหนุ่มนั้นไม่ได้ป้องกันและกำลังจะปล่อยน้ำรักของเขาเข้ามาในตัวเธอหญิงสาวจึงต้องสั่นหัวห้ามชายหนุ่มอย่างพัลวันเพราะเธอกลัวผลที่มันจะตามมาแต่มันก็ไม่ทันแล้วเธอจึงก่นด่าเขาอย่างเจ็บใจและมีน้ำตาไหลรินลงมาอีกรอบและมีสายตาจิกมองที่ชายหนุ่มอย่างโมโห“คนบ้าเหรอ...ขออีกรอบแล้วกัน”“ม่ายยย....อื้มมมม”เอริคไม่ได้สะท้านต่อคำพูดของหญิงสาวแต่อย่างใดเขาเห็นว่าเธอนั้นมีแรงท
บ้านมอแกน“เธออยู่ที่ไหน”วิลล์นั่งดื่มไวน์ราคาแพงอยู่ที่โซฟาหรูที่บ้านหลังใหญ่ของเขาเมื่อเห็นว่าฮานมือขวาของเขากำลังเดินเข้ามาเขาจึงถามหาบุคคลที่เขาต้องการพบทันที“ตอนนี้เธออยู่ที่เพนท์เฮ้าส์เธอครับ”ฮานตั้งใจจะเข้ามารายงานเรื่องนี้กับนายใหญ่ของบ้านเรื่องนี้พอดี“ดีนายรออยู่ที่นี่เดี๋ยวฉันไปหาเธอเอง”วิลล์ตั้งใจว่าวันนี้ยังไงเขานั้นก็ต้องพบหน้าหญิงสาวให้ได้เพราะเธอบ่ายเบี่ยงกับการเรียกพบของเขามาหลายวันแล้วหลังจากที่เขาให้ลูกน้องของเขาไปประกันตัวเธอออกมาพร้อมใช้อำนาจในการจัดการของเขาเพื่อให้เธอหลุดคดี“ครับนาย”เพนท์เฮ้าส์มิเชลติ๊งต่องงงงง“คุณวิลล์”มิเชลที่กำลังเตรียมตัวจะเข้านอนเพราะมันดึกมากแล้วเธอแปลกใจนิดหน่อยที่มีคนมากดออดที่ห้องของเธอเมื่อเปิดประตูออกมาเห็นว่าเป็นใครเธอถึงกับมีสีหน้าที่ซังกะตายอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอไม่ได้อยากเจอคนที่มาหาเธอสักเท่าไร“จะหลบหน้าผมอีกนานแค่ไหน”วิลล์เดินแทรกตัวเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องรับแขกเพนท์เฮ้าส์ของหญิงสาวพร้อมจ้องไปที่หญิงสาวที่กำลังเดินตามเขาเข้ามาว่าทำไมเธอถึงพยายามที่จะหลบหน้าเขา“คุณจะมาช่วยมิเชลทำไม...มิเชลทำงานพลาดต้องขอโทษด้วยงานนี้
“เฮ้อ.....อือ...โอเค”หัวใจของมิเชลนั้นแทบจะเต้นสั่นออกมาด้านนอกเพราะจู่ๆเขาก็ให้เวลาเธอคิดเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นหญิงสาวคิดว่าจะลงพยายามหาข้อต่อรองดูเผื่อว่าจะได้ผลแต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจที่จะฟังเธอแม้แต่น้อยทำให้หญิงสาวนั้นต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกัดฟันตอบตกลงชายหนุ่มไปอย่างเลี่ยงไม่ได้น้ำตาเม็ดเล็กเริ่มไหลมาอาบแก้มแต่เธอก็พยายามปาดมันออกไปเพื่อไม่ให้เขานั้นเห็นความอ่อนแอของเธอนั่นเอง“มันต้องอย่างนี้สิ...งั้นเรามาเริ่มกันเลย”วิลล์อมยิ้มแล้วหันมามองหญิงสาวด้วยสายตาที่โลมเลียพร้อมเดินจูงมือของหญิงสาวเข้าไปในห้องนอนของเธอทันที“ดะ..เดี๋ยวฉันยังไม่พร้อม”มิเชลไม่คิดว่าชายหนุ่มจะบ้าคลั่งอารมณ์ร่วมรักกับเธอในตอนนี้และเดี๋ยวนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอทำใจบ้างเลยหรืออย่างไร“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม”วิลล์ผลักหญิงสาวลงกับเตียงนอนของเธอพร้อมทาบทับที่ตัวหญิงสาวลงช้าๆอย่างไม่เร่งรีบเพราะยังไงหญิงสาวก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธเขาได้ด้วยข้อตกลงกันนั่นเอง“อื้ออ..”วิลล์บดจูบหญิงสาวอย่างนุ่มนวลเนิ่นนานเสียจนหญิงสาวมีอาการอ่อนระทวยให้เขาอย่างเห็นได้ชัดเพราะการด้อยประสบการณ์เรื่องนี้ของเธอทำให้เมื่อเจอสัม
เช้าวันต่อมา“จะไปไหน”วิลล์รู้สึกตัวตื่นเพราะหญิงสาวที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังขยับตัวเพื่อที่จะลุกหนีเขาออกไปชายหนุ่มจึงรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้พร้อมถามเธอด้วยน้ำเสียงงัวเงียของคนที่พึ่งตื่นนอนว่าเธอนั้นจะไปไหน“ปล่อย...”มิเชลหันมามองหน้าชายหนุ่มที่กำลังรั้งตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกจากเตียงพร้อมบอกให้เขานั้นปล่อยแขนเธอเพราะเมื่อเขานั้นได้สิ่งที่เขาต้องการจากตัวเธอแล้วเขาก็ไม่ควรที่จะมายุ่มย่ามกับตัวเธออีก“คุณทำให้ผมตื่นแต่เช้าเลยรู้ไหม”“นี่...ไม่นะ...อื้มมม...”วิลล์ที่มองเห็นแผ่นหลังขาวเนียนและเนินอกของหญิงสาวที่มันโผล่ออกมาจากผ้าห่มด้วยแสงแดดที่มันส่องผ่านม่านเข้ามาทำให้ตอนนี้ตัวของหญิงสาวนั้นน่ามองไปอีกเท่าตัวจนเขาอดที่จะรวบตัวเธอมานอนใต้ร่างเขาอีกไม่ได้มิเชลนั้นถึงกับมีสีหน้าที่ตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอรู้ว่าในตอนนี้มันจะเกิดเรื่องอะไรกับเธอจึงใช้มือทั้งสองดันแผงอกของเขาให้ห่างออกจากตัวของเธออย่างเร็วที่สุดพร้อมปฏิเสธชายหนุ่มด้วยการสั่นหัวไปมาเป็นการร้องขอเพราะเธอนั้นยังรู้สึกเจ็บระบมจากเรื่องเมื่อคืนอยู่ไม่หายแต่ชายหนุ่มนั้นก็หาได้สนใจไม่เขาอยากจะปลดปล่อยกับเธอในตอน