เช้าวันต่อมา
“จะไปไหน”
วิลล์รู้สึกตัวตื่นเพราะหญิงสาวที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังขยับตัวเพื่อที่จะลุกหนีเขาออกไปชายหนุ่มจึงรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้พร้อมถามเธอด้วยน้ำเสียงงัวเงียของคนที่พึ่งตื่นนอนว่าเธอนั้นจะไปไหน
“ปล่อย...”
มิเชลหันมามองหน้าชายหนุ่มที่กำลังรั้งตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกจากเตียงพร้อมบอกให้เขานั้นปล่อยแขนเธอเพราะเมื่อเขานั้นได้สิ่งที่เขาต้องการจากตัวเธอแล้วเขาก็ไม่ควรที่จะมายุ่มย่ามกับตัวเธออีก
“คุณทำให้ผมตื่นแต่เช้าเลยรู้ไหม”
“นี่...ไม่นะ...อื้มมม...”
วิลล์ที่มองเห็นแผ่นหลังขาวเนียนและเนินอกของหญิงสาวที่มันโผล่ออกมาจากผ้าห่มด้วยแสงแดดที่มันส่องผ่านม่านเข้ามาทำให้ตอนนี้ตัวของหญิงสาวนั้นน่ามองไปอีกเท่าตัวจนเขาอดที่จะรวบตัวเธอมานอนใต้ร่างเขาอีกไม่ได้
มิเชลนั้นถึงกับมีสีหน้าที่ตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอรู้ว่าในตอนนี้มันจะเกิดเรื่องอะไรกับเธอจึงใช้มือทั้งสองดันแผงอกของเขาให้ห่างออกจากตัวของเธออย่างเร็วที่สุดพร้อมปฏิเสธชายหนุ่มด้วยการสั่นหัวไปมาเป็นการร้องขอเพราะเธอนั้นยังรู้สึกเจ็บระบมจากเรื่องเมื่อคืนอยู่ไม่หาย
แต่ชายหนุ่มนั้นก็หาได้สนใจไม่เขาอยากจะปลดปล่อยกับเธอในตอนเช้านี้อีกสักรอบสองรอบเสียแล้วเนื้อตัวของหญิงสาวที่เป็นรอยแดงจากผลการกระทำของเขาเมื่อคืนมันยิ่งตอกย้ำว่าเมื่อคืนนี้เขามีความสุขกับร่างกายเธอแค่ไหนและตอนนี้เขาก็อยากเชยชมมันอีกไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงวันที่ชายหนุ่มยังไม่หยุดตักตวงความสุขจากหญิงสาวจนเธอนั้นระบมไปทั้งตัวและไม่มีเรี่ยวแรงที่จะฝืนอะไรกับการกระทำชายหนุ่มแม้แต่หนังตาของเธอยังไม่สามารถจะบังคับให้มันลืมขึ้นมาได้
เมื่อเสร็จจากกิจกรรมรักครั้งนี้จนหนำใจวิลล์แล้วเขาเห็นว่าหญิงสาวไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นเองได้เขาจึงจัดการอุ้มเธอไปอาบน้ำพร้อมเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าให้เธอเสร็จสรรพเมื่อเห็นรอยเลือดที่แปดเปื้อนอยู่บนเตียงนอนสีขาวของเธอชายหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมมองไปที่หญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่อย่างหวงแหน
เขาคิดไว้แล้วว่าหากเธอจะต่อว่าด่าทอเขาว่าไม่รักษาสัญญาหรือขี้โกงก็ไม่เป็นไรเพราะเขานั้นก็ไม่สามารถรักษาสัญญาที่จะปล่อยเธอไปได้จริงๆแต่ต่อจากนี้เขาจะไม่ใช้พ่อกับแม่ของเธอเป็นข้อต่อรองอะไรสำหรับเธอแล้วแต่เขานั้นจะลองใช้การกระทำของเขาเองเป็นการมัดใจเธอให้อยู่กับเขาอย่างเต็มใจเอง
เพนท์เฮ้าส์เอริค
“ผมจะพาคุณไปข้างนอกจะได้สดชื่นไปแต่งตัวผมให้เวลายี่สิบนาที”
เป็นเวลาสามสี่วันแล้วที่เอริคขังหญิงสาวอยู่แต่ในเพนท์เฮ้าส์ของเขาโดยที่ทังคู่ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไรนักเพราะเอริคนั้นช่วงนี้ต้องเขาไปดูงานบ่อยได้แต่สั่งให้ลูคัสนั้นเฝ้าหญิงสาวไว้ให้ดี
แต่วันนี้เขาเคลียให้มันเป็นวันที่ว่างสำหรับเขาเพื่อที่จะพาหญิงสาวออกไปเดินเล่นข้างนอกละซื้อของใช้ส่วนตัวของเธอด้วยเพราะว่าเสื้อผ้าของเธอที่เอามาด้วยนั้นมันน้อยเสียเหลือเกินอีกอย่างเขาก็อยากหาซื้อของแพงๆให้เธอใส่จะได้สมกับเป็นภรรยาของเขาหน่อย
“ไม่...ตะวันไม่ไปไหนทั้งนั้น”
ทานตะวันปฏิเสธชายหนุ่มอย่างทันควันและยังไม่ยอมมองหน้าเขาอีกด้วยเพราะอยู่ดีๆโผล่หน้ามาก็เข้ามาสั่งๆๆเธอทุกครั้งไปจนหญิงสาวนั้นไม่ชอบใจเท่าไรนักและเธอก็ไม่อยากออกไปข้างนอกกับเขาอีกด้วยเพราะรู้สึกรำคาญการที่เธอจะอยู่ใกล้กับชายหนุ่มนั่นเอง
“จะไปดีๆหรือจะเสียเหงื่อก่อนไป”
“อื้อ...ไปก็ได้...ถอยไปสิ”
เอริคมองบนเล็กน้อยให้กับความพยศของหญิงสาวที่นับวันๆยิ่งหนักขึ้นทุกวันเขาเข้าไปหาเธอที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมโน้มตัวใช้มือทั้งสองเท้ากับโซฟาเอาไว้และกระซิบที่ข้างหูของเธอเพื่อบอกให้รู้ว่าหากเธอไม่ยอมออกไปกับเขาดีๆได้มีเสียเหงื่อกันแน่
เมื่อทานตะวันได้ยินเช่นนั้นจึงรีบผลักชายหนุ่มออกแล้ววิ่งเขาไปแต่งตัวในห้องทันทีเพราะไม่อย่างนั้นมีหวังวันนี้ทั้งวันเธอคงต้องขลุกอยู่ในห้องกับเขาทั้งวันเป็นแน่
10นาทีต่อมา
ทานตะวันเดินออกมาด้วยชุดกางเกงยีนส์ขายาวเสื้อแขนยาวและเสื้อคลุมกันหนาวธรรมดาๆที่เธอชอบใส่ตอนออกไปข้างนอกเธอเปลี่ยนชุดนี้ในเวลาอันรวดเร็วและเดินออกมายืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งรอเธออยู่เพื่อเป็นการบอกกับเขาว่าเธอนั้นพร้อมแล้วจะพาเธอไปไหนก็เชิญ
ห้างสรรพสินค้า
“เข้าไปลองสิเดี๋ยวผมนั่งรออยู่แถวนี้”
เอริคเดินพาหญิงสาวเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังซึ่งมันก็เป็นแบรนด์ของเขาเองพร้อมทั้งเดินหยิบชุดให้หญิงสาวสิบกว่าชุดที่เห็นว่าเธอน่าจะใส่เหมาะพร้อมบอกให้หญิงสาวนั้นลองไปใส่ดู
ทานตะวันเองตอนนี้ก็เหมือนหุ่นตุ๊กตาตัวนึงที่เขาจะจับเธอแต่งตัวอะไรก็ได้แต่สีหน้าของตุ๊กตาตัวนี้นั้นมีใบหน้าที่แอบเซ็งอยู่ตลอดเวลาเพราะเธอไม่ได้อยากได้ของพวกนี้เลยสักนิดถ้าเป็นไปได้เธออยากจะหนีจากเขาไปตั้งแต่เสียตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“เชิญคุณผู้หญิงทางนี้ค่ะ”
พนักงานผู้หญิงสองคนที่เดินถือชุดที่เอริคเลือกให้หญิงสาวพร้อมบอกให้หญิงสาวตามพวกเธอมาที่ห้องลองเสื้อผ้า
“ฉันขอลองคนเดียวนะคะ”
ทานตะวันเห็นว่าพนักงานสาวทั้งสองยังคอยยืนจะช่วยเธอเปลี่ยนชุดอยู่แต่เธอคิดว่ามันไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรเธอไม่คอยชินกับการที่มีใครมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวไม่คิดว่าแบรนด์นี้จะบริการดีซะขนาดนี้
“เดี๋ยวดิฉันออกไปยืนรอคุณผู้หญิงที่ด้านหน้าห้องลองนะคะมีอะไรเรียกใช้กดออดได้เลยค่ะ”
พนักงานทั้งสองเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ต้องการให้ช่วยเธอจึงเดินออกไปด้านนอกเพื่อที่จะไปต้อนรับลูกค้าคนอื่นต่อแต่ที่นี่มีระบบที่ลูกค้าสามารถกดออกเรียกพนักงานเข้าไปบริการที่ห้องลองได้พนักงานจึงสามารถรับลูกค้าคนอื่นก่อนได้ในขณะที่มีลูกค้าอยู่ในห้องลองโดยไม่ต้องยืนรอให้เสียเวลา
“เฮ้อ...เอายังไงดี...”
ทานตะวันยืนเอาหลังพิงกับห้องลองเสื้อผ้าพร้อมถอนหายใจเพราะตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เธอนั้นจะหนีแต่เธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะหนีไปยังไงเพราะเธอนั้นไม่มีเงินติดตัวเลย
“ไม่มีคนอยู่เลยนี่นา”ทานตะวันแง้มประตูห้องลองดูอยู่ว่าข้างนอกนั้นมีใครอยู่หรือเปล่าเมื่อเห็นว่าไม่มีใครเธอจึงค่อยๆเดินออกมาที่หน้าประตูพร้อมมองซ้ายมองขวาและแอบเหลือบดูด้านนอกว่าชายหนุ่มนั้นยังนั่งอยู่ตรงที่เดิมอีกหรือเปล่าเมื่อกวาดสายตาออกไปเธอเห็นว่าเหมือนฝันของเธอที่คิดว่าจะออกไปจากที่นี่แล้วหนีชายหนุ่มนั้นสลายไปกับตาเพราะว่าข้างนอกนั้นมีทีมบอดี้การ์ดยืนอยู่ทั่วทุกมุม“อุ้ยย...ขอโทษค่ะ”“ฟ้า”ทานตะวันที่กำลังยืนด้อมๆมองๆอยู่ที่หน้าประตูห้องลองนั้นจู่ๆก็มีหญิงสาวถอยหลังเข้ามาเดินชนประตูของเธอเข้าเมื่อหญิงสาวคนนั้นหันกลับมาขอโทษทานตะวันเธอจึงร้องเรียกชื่อของหญิงสาวตรงหน้าอย่างดีใจที่เจอคนรู้จักเพราะปลายฟ้านั้นเป็นเพื่อนกับเธอตั้งแต่สมัยมัธยมจนถึงมหาลัยเมื่อเรียนจบแล้วก็แยกย้ายกันหางานทำพึ่งเจอกันวันนี้นี่แหละช่างเป็นโชคดีของทานตะวันเสียจริง“อ้าวตะวันมาเที่ยวที่อังกฤษเหมือนกันเหรอ”ปลายฟ้าหันมาถามทานตะวันด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเพราะเธอก็ดีใจเหมือนกันที่เจอเพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว“มานี่กับฉัน”ทานตะวันมองซ้ายมองขวาพร้อมกับดึงตัวหญิงสาวเข้ามาในห้องลองเสื้อผ้า“เดี๋ยวๆอะไร”ปล
“คุณทานตะวันมาถึงแล้วครับคุณเอส”ลูคัสรับสายที่โทรตรงมาจากล็อบบี้พร้อมเดินมาบอกเจ้านายหนุ่มของเขาที่กำลังแต่งตัวอยู่ว่าหญิงสาวที่เขาต้องการพบนั้นเธอเดินทางมาถึงแล้ว“ดี...ส่งรถไปรับเธอมาที่นี่ได้เลย”เอริคที่กำลังสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและติดกระดุมอยู่หน้ากระจกยกยิ้มเล็กน้อยพร้อมสั่งกับลูคัสว่าให้คนพาหญิงสาวมาที่นี่ได้เลยเพราะเขาต้องการคุยกับเธอที่นี่บ้านที่เขาพักนั้นค่อนข้างที่จะเป็นส่วนตัวและห่างจากตัวโรงแรมมากก็เพาะว่าเขาเลือกที่ที่แพงที่สุดและส่วนตัวที่สุดนั่นเองเพราะเขาเตรียมการเรื่องนี้ไว้อย่างดีแล้วยังไงวันนี้เขาก็ต้องทำให้ทานตะวันรู้ว่าเมื่อเขาเลือกเธอแล้วอย่าหวังว่าทั้งชีวิตของเธอจะหนีเขาพ้น“ครับคุณเอส” “เดี๋ยว..”“ครับคุณเอส???”ลูคัสรับปากคนเป็นเจ้านายพร้อมจะเดินออกไปสั่งให้ทีมบอดี้การ์ดไปรับทานตะวันมาที่นี่แต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงเรียกของเจ้านายหนุ่ม“นายว่าฉันดูโอเคหรือยังลุค”เอริคมีอาการประหม่าเล็กน้อยพร้อมมองหน้าลูคัสและถามลูกน้องของเขาว่าเขานั้นดูดีหรือยังเพราะเขาอยากจะดูดีที่สุดเมื่อเจอกับหญิงสาวนั่นเอง“ดูดีมากเลยครับคุณเอส”ลูคัสยิ้มให้เจ้านายหนุ่มของเขาพร้อมยกนิ้วให
“ก็แล้วแต่ถ้าคุณไม่ยอมก็ลองคิดดูนะว่าบริษัทของคงไทยจะเสียหายเท่าไรแล้วพนักงานในบริษัทอีกเป็นร้อยจะอยู่อย่างไงก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะคุณภรรยา”ฟอดดดดเอริคเห็นท่าทีที่ปฏิเสธของหญิงสาวแล้วเขาจำต้องพูดให้เธอได้คิดว่าหากเธอไม่ยอมทำตามบริษัทคงไทยจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็อยู่ที่เธอตัดสินใจเพียงคนเดียวพร้อมทั้งกดจมูกหอมแก้มหญิงสาวคนที่เขาคิดถึงมานานในตอนที่เธอกำลังเผลอเพราะนั่งคิดอยู่ด้วย“นี่คุณเอส”ทานตะวันแทบหันหน้าหนีชายหนุ่มไม่ทันที่จู่ๆเขาก็มาฉวยโอกาสกับเธอตอนนี้เธอเลยมอบสายตาพิฆาตฟาดไปที่หนาของเขาหนึ่งทีแต่ก็ไม่เห็นชายหนุ่มจะสะทกสะท้านกลัวแม้แต่น้อยกลับนั่งอมยิ้มจ้องหน้าเธอไม่หยุด“ผมให้เวลาคุณคิดหนึ่งคืนแล้วผมจะเอาคำตอบตอนเช้า...แต่ถ้าคุณคิดผิดคงไทยและพนักงานในบริษัทเค้าคงมีจุดจบที่น่าสงสาร”เอริคเข้าไปกอดหญิงสาวที่กำลังจะลุกหนีเขาไปอีกรอบอยู่ในอ้อมอกพร้อมกระซิบข้างหูของเธออีกรอบย้ำให้เธอนั้นตัดสินใจดีๆเพราะเขานั้นพูดจริงทำจริงฟอดดดดดจุ๊บบ“ผมคิดถึงคุณที่สุดเลยตะวัน...แสบมากนะที่กล้าหนีผมมา”เมื่อเห็นหญิงสาวได้แต่เงียบทำหน้าบึ้งตึงอยู่ในอ้อมกอดของเขาชายหนุ่มจึงทั้งกอดทั้งหอมเธออย่างคนที่
“หยุดพูดแล้วฟังผม...ผมดูออกว่ามันไม่ได้อยากเป็นแค่พี่น้องกับคุณเพราะฉะนั้นคุณก็อยู่ห่างๆมันไว้”เอริคไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้พูดจบประโยคเขาดูออกว่าคงไทยคิดยังไงกับหญิงสาวจากที่เคยคุยกันและภาพที่เห็นเขาเป็นผู้ชายเขาดูออกเขาจึงต้องสั่งให้หญิงสาวสุดที่รักของเขาอยู่ห่างจากคงไทยมากเท่าไรก็ยิ่งดีที่สุด“อย่ามาสั่งตะวัน...ตะวันโตแล้วคิดเองได้ว่าใครดีหรือใครไม่ดีถ้าพี่ไทยชอบตะวันจริงก็ไม่เสียหายที่ตะวันจะเปิดใจให้คนดีๆอย่างเค้าเพราะเค้าไม่เคยหลอกลวงตะวัน”ทานตะวันตอกกลับชายหนุ่มด้วยคำประชดประชันเพราะหลายครั้งแล้วที่ชายหนุ่มนั้นสั่งเธออย่างเอาแต่ใจและไร้เหตุผลใจจริงของเธอนั้นไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วเพียงแค่พูดประชดชายหนุ่มให้รู้ไว้ว่าเขานั้นไม่มีสิทธิ์ห้ามการกระทำของเธอ“หึ่!!...คำก็พี่ไทยสองคำก็พี่ไทย...อย่าหวังว่ามันจะได้มาเจ๊าะแจ๊ะกับคุณอีกเลย”เอริครู้สึกระคายหูกับชื่อที่หญิงสาวเรียกคงไทยเสียเหลือเกินมันดูสนิทเกินหน้าเกินตาของเขาเกินไปทั้งที่เขาเป็นสามีของเธอหญิงสาวยังไม่เคยเรียกเขาแบบนี้มาก่อนเลยความน้อยใจบวกกับอารมณ์หึงทำให้ชายหนุ่มนั้นอยากแสดงให้เธอได้รู้อีกครั้งว่าทุกอย่างในตัวเธอนั้นมันเป็น
“คุณเอส...คุณเป็นอะไรคะ...ช่วยด้วยค่ะใครอยู่ข้างนอกช่วยด้วยค่ะ”โรงพยาบาลXXXเมื่อเหล่าบอดี้การ์ดวิ่งเข้ามาตามเสียงเรียกของนายหญิงของพวกเค้าก็พากันหามเจ้านายหนุ่มของพวกเขาส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วทานตะวันเองใจเสียอยู่ไม่น้อยไม่คิดว่าคนที่แข็งแรงอย่างชายหนุ่มนั้นจะมาวูบเอาดื้อๆแบบนี้20 นาทีผ่านไปเมื่อเอริคมาถึงโรงพยาบาลทีมหมอก็เข้าดูอาการชายหนุ่มอย่างรวดเร็วพร้อมให้น้ำเกลือเพื่อบำรุงเพราะเอริคอยู่ในภาวะที่อ่อนเพลียมากเนื่องจากชายหนุ่มโหมงานหนักตั้งแต่กลับมาจากไทยเพราะเขาต้องดูแลงานเกือบทั้งหมดรวมถึงงานของน้องชายของเขาด้วยในตอนนี้นั่นเอง“คุณเอริคเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ”ทานตะวันนั่งคุยกับหมอที่รักษาชายหนุ่มเป็นการส่วนตัวเธอรู้สึกเป็นห่วงชายหนุ่มอย่างมากเธออยากรู้อาการของเขาว่าเขานั้นเป็นอะไรกันแน่เพราะคนที่น่าจะแข็งแรงอย่างชายหนุ่มไม่น่าจะเป็นอะไรง่ายๆนี่เขาคงเป็นหนักจริงๆ“คุณเอริคมีอาการอ่อนเพลียอย่างมากเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอครับดูได้จากตุ่มน้ำที่ขึ้นตามตัวเพราะภูมิคุ้มกันบกพร่องต้องใช้สเตียรอยด์ในการรักษาและอาหารเสริมร่วมด้วยหมอคิดว่าอยู่ดูอาการสักสองสามวันก็น่าจะกลับได้แล้วครับ..แต่
มอแกน20.00 น.“ดี..ใช้จังหวะนี้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ของเราตัดหน้าได้เลย”เมื่อวิลล์ได้รับรายงานจากฮานว่าตอนนี้ประธานใหญ่ของมาติเนสกำลังอยู่ในช่วงรักษาตัวเขาคิดว่าจะใช้จังหวะนี้ในการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ตัดหน้าอีกฝั่งเป็นแผนการตลาดในการเรียกลูกค้ามาทางฝั่งเค้านั่นเองเพราะทุกครั้งแบรนด์ของเขาและมาติเนสจะเปิดตัวไล่เลี่ยกันหรือไม่ก็พร้อมกันทำให้ผลที่ได้ไม่ค่อยดีสำหรับฝั่งเขาเท่าไรนัก“ครับนาย”ฮานรับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่มพร้อมหันหลังจะดินออกไปทันทีแต่ก็ต้องชะงักเพราะเห็นมิเชลนั้นเดินเข้ามาด้านในและเธอก็น่าจะได้ยินสิ่งที่เขาคุยกับเจ้านายหนุ่มด้วย“เมื่อไรคุณจะเลิกชิงดีชิงเด่นกับมาติเนสซะที”มิเชลเห็นว่าวิลล์เลิกรากับฝั่งนั้นมานานแล้วแต่มันไม่ใช่เลยถ้าเธอไม่ได้ยินกับหูตัวเองเธอก็คิดว่าเขาคงจะปรับปรุงตัวแล้วแต่ตอนนี้เธอคิดผิดเธอไม่เข้าใจว่าเขาจะแข่งขันกับมาติเนสอะไรนักหนาต่างคนต่างตั้งใจทำผลงานของตัวเองไม่ดีกว่าหรืออย่างไร“ฮานออกไปก่อน”“ครับ”วิลล์ปัดมือพร้อมบอกให้ฮานออกไปก่อนเพราะเขานั้นจะต้องคุยเรื่องนี้กับหญิงสาวเป็นการส่วนตัว“มันเรื่องของผมคุณไม่เกี่ยว”วิลล์ไม่เข้าใจว่าหญิงสาวนั้นจะจ
“ฝีมือคุณใช่ไหม”มิเชลค่อยๆหันมาหาชายหนุ่มเธอตัวสั่นเล็กน้อยเพราะความโมโหหญิงสาวกำมือแน่นพร้อมถามชายหนุ่มว่าเรื่องที่เกิดนั้นเป็นฝีมือของชายหนุ่มใช่หรือไม่เพราะเมื่อคืนเขานั้นพึ่งมีปากเสียงกับเธอจึงทำให้เธอนั้นคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากว่าชายหนุ่มเป็นคนสั่งการ“คุณพูดเรื่องอะไร”ตอนนี้คิ้วของวิลล์ขมวดชนกันในทันทีเพราะเขานั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดอีกทั้งยังตกใจในสีหน้าที่ซีดเผือดและมีน้ำตาของหญิงสาวตอนนี้อีกด้วย“ที่พ่อแม่ฉันโดนรถชนเสียชีวิต...ฮือ..ฮือ..มันฝีมือคุณใช่ไหม...ฮือๆๆๆๆ”มิเชลรู้สึกไม่ชอบสีหน้าชายหนุ่มที่ทำท่าทางเหมือนไม่รู้อะไรเอาเสียเลยเธอแน่ใจว่ายังไงมันก็เป็นฝีมือของเขาแน่นอนพร้อมบอกเรื่องที่เขาอยากจะรู้ให้เขาฟังว่าที่เธอมีอาการเป็นแบบนี้เพราะอะไร“คุณพูดอะไรผมไม่รู้เรื่อง”วิลล์ถึงกับแทบหยุดหายใจเมื่อได้ยินข่าวร้ายเกี่ยวกับครอบครัวของเธอจากปากหญิงสาวพร้อมยังตกใจที่เธอมากล่าวหาเขาอีกด้วยตอนนี้เขายืนยันกับเธอได้คำเดียวว่าเขานั้นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเขาไม่คิดที่จะทำร้ายพ่อแม่ของหญิงสาวเพื่อประชดเธอมานานแล้วและยังจัดหาที่อยู่ให้พ่อแม่ของหญิงสาวอยู่อย่างสบายอีกด้วย
โรงพยาบาลXXXหลังจากที่หญิงสาวถึงมือหมอแล้วเธออยู่ในห้องฉุกเฉินเกือบสองชั่วโมงชายหนุ่มที่นั่งรอผลการตรวจของหมดด้วยความใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าห้องตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้วเพราะตอนนี้เขานั้นรู้สึกเป็นห่วงเธอเหลือเกินเขาไม่เข้าใจว่าเธอจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรเช้าวันต่อมาหลังจากที่หญิงสาวอยู่ในห้องฉุกเฉินประมาณสามชั่วโมงของเมื่อคืนเธอก็พ้นขีดอันตรายแต่ก็ต้องให้เลือดและน้ำเกลือเพื่อให้เธอฟื้นตัวได้เร็วและยังต้องคอยดูอาการที่โรงพยาบาลอีกระยะเพราะเมื่อร่างกายหายดีแล้วก็ยังกลับไม่ได้เพราะจิตใจข้างในนั้นของเธอยังบอบช้ำอยู่ต้องให้เธออยู่รักษากับจิตแพทย์ระยะหนึ่ง10.00 น.“มิเชล...คุณทำแบบนี้ทำไม”หลังจากที่หมอตรวจอาการของมิเชลเสร็จเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้เข้ามาคุยกับเธอดูว่าเธอทำแบบนี้ต้องการอะไรเพราะมันมีแต่เสียกับเสียเขาอยากให้เธอรับรู้ได้ว่าหัวใจเขานั้นสลายแค่ไนเมื่อเห็นเธอนอนเจ็บปางตายอยู่ต่อหน้าเขาเองไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีกต่อไปถ้าเขาทำอะไรให้เธอสบายใจขึ้นได้เขาก็พร้อมจะทำทุกอย่างแล้วตอนนี้เขาพร้อมจริงๆ“ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย”มิเชลไม่ได้สนใจคำถามของชายหนุ่มแม้แต่น้อยตอนน