“เอาเป็นว่าตอนนี้ผมจะเก็บมันไว้ก่อนผมเชื่อว่ามันต้องมีวันที่คุณรับแหวนวงนี้ไปจากผมอย่างเต็มใจ”
เอริคบอกกับหญิงสาวเป็นนัยๆถึงเรื่องแหวนแต่เขาก็ยังเผยไม่หมดว่ามันเป็นเรื่องอะไรเขามั่นใจว่าอีกไม่นานหญิงสาวจะต้องเต็มใจรับแหวนวงนี้จากเขาเป็นแน่
“อาหารมาแล้วทานเถอะค่ะเดี๋ยวเลยเวลาอาหารนะคะ”
ทานตะวันทำท่าไม่สนใจที่ชายหนุ่มพูดเธอเบนความสนใจมาที่อาหารตรงหน้าพร้อมบอกให้ชายหนุ่มรีบทานเพราะเดี๋ยวจะเลยเวลาอาหารเย็นนั่นเอง
วันต่อมา
“..ที่นี่สวยมากเลยค่ะ..”
เมื่อเรือใกล้ที่จะเข้าฝั่งทานตะวันถึงกับต้องวิ่งมาชมวิวที่หัวเรือแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเพราะธรรมชาติที่นี่ช่างสวยงามสะกดสายตาของเธอเหลือเกินจนอดเอ่ยปากชมภาพตรงหน้าไม่ได้เธอไม่ยักรู้ว่าจะมีที่สวยๆเหมือนในหนังที่สร้างขึ้นแบบนี้ด้วย
“คุณชอบหรือเปล่า”
เอริคเดินมาโอบกอดที่หลังของหญิงสาวเขาเห็นอาการของเธอก็ดูออกว่าหญิงสาวนั้นชอบขนาดไหนเขาเลือกที่ไม่ผิดจริงๆ
“ชอบมากเลยค่ะ...ที่นี่มีคนอยู่ด้วยเหรอคะ”
ทานตะวันตอบชายหนุ่มแต่สายตานั้นก็ยังหยุดจับต้องภาพตรงหน้าไม่ได้ตอนนี้พอเรือเทียบทาเรือเล็กๆเธอเห็นคนเดินไปมาจึงถามชายหนุ่มว่ามีคนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยเหรอเพราะมันเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลความสะดวกสบายพอสมควร
“ใช่ผมให้พวกเค้าดูแลที่นี่แทนผมมีคนงานอยู่ที่นี่ประมาณสามสิบกว่าคน..รวมทั้งมีแพทย์พยาบาลประจำที่นี่ด้วยนะ”
“แล้วพวกอาหารการกินขิงที่นี่ล่ะคะพวกเค้าเอาจากไหน”
“ผมให้ลูกน้องส่งมาให้บ้างและคนที่นี่ก็ออกหาของทะเลกันบ้างพวกเค้าอยู่กันได้อย่างสบายผมไม่ปล่อยให้พวกเค้าอดกันหรอกเพราะพวกเค้าดูแลที่นี่เป็นอย่างดี”
“ลุคนายเอากระเป๋าไปเก็บได้เลยนะเดี๋ยวฉันพาตะวันไปเดินดูรอบๆก่อน”
เมื่อลงจากเรือได้เอริคก็ให้ลูคัสขนของไปเก็บก่อนเพราะว่าเขาจะพาหญิงสาวเดินชมรอบๆที่นี่เสียหน่อยเพราะดูว่าหญิงสาวคงจะมีคำถามที่จะถามเขามากมายอยู่ในหัวเขาจึงคิดว่าจะเดินคุยกับเธอไปสักพักก่อนอีกอย่างคนที่นี่จะได้จัดเตรียมสิ่งที่เขาต้องการให้เรียบร้อยไม่มีสะดุดอีกด้วย
“ครับคุณเอส”
20 นาทีต่อมา
“มีเปลด้วยตะวันขอนั่งพักตรงนี้นะคะ”
เมื่อเดินมาได้สักพักทานตะวันก็สังเกตเห็นว่ามีต้นไม้ใหญ่ที่มีเปลหวายใหญ่ผูกติดเอาไว้เธอเลยจะขอนั่งพักชมวิวตรงนี้สักพักเธอกะว่าจะเก็บภาพสวยๆนี้ไว้ให้มากที่สุดเพราะนานๆทีเธอจะได้มีโอกาสมาเที่ยวที่แบบนี้นั่นเอง
“ได้สิงั้นผมขอนั่งด้วยคนนะ”
“ค่ะ”
เอริคเข้าไปนั่งข้างๆหญิงสาวพร้อมใช้มือโอบเอวเธอเอาไว้อย่างหลวมๆตอนนี้ทั้งสองไม่ได้มีบทสนธนาต่อกันแต่ชายหนุ่มกลับชอบอยู่แบบนี้เพราะเขาคิดว่ามันก็รู้สึกดีไปอีกแบบที่ได้ลอบแอบมองหญิงสาวนั่งยิ้มตลอดเวลาอยู่ใกล้เขามองไปข้างหน้าก็อดยิ้มตามหญิงสาวไม่ได้เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่ดีที่สุดจริงๆอยู่กับความเงียบฟังเสียงคลื่นรับลมทะเลมองภาพวิวสวยๆข้างๆคนที่รักมันช่างมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
30 นาทีผ่านไป
“หืมม”
เอริคนั้นรู้สึกได้ว่าตัวของหญิงสาวเริ่มอ่อนและเอนมาพิงที่ไหล่ของเขาทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวน่าจะหลับลงไปแล้วนั้นเองเขาอมยิ้มเล็กๆพร้อมจูบไปที่หัวของหญิงสาวเบาๆหนึ่งทีพร้อมรวบตัวเธอขึ้นมานอนบนเปลหวายผืนใหญ่และเขาเองก็นอนอยู่ข้างๆเธออีกด้วย
ชายหนุ่มปล่อยตัวหลับไปตามหญิงสาวโมเม้นแบบนี้เขานั้นอยากเก็บไว้เล่าให้ลูกของเขาและเธอฟังเสียจริงแบนี้เขาต้องรีบมีลูกกับเธอเสียแล้วสิชายหนุ่มคิดในใจพร้อมอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยและปิดเปลือกตาลงหลับตามหญิงสาวไป
“อืมม”
เนิ่นนานไปเกือบสองชั่งโมงที่ทังสองนั้นนอนหลับกันไปตอนนี้หญิงสาวเริ่มรู้สึกตัวตื่นเพราะว่ารู้สึกเมื่อตัวนั้นเอง
“ตื่นแล้วเหรอ”
เอริคตื่นมาพร้อมกับหญิงสาวเพราะรู้สึกว่าหญิงสาวที่นอนทับหน้าอกของเขาอยู่นั้นกำลังขยับตัว
“นี่ตะวันเผลอหลับไปเหรอคะ”
ทานตะวันหันหน้าไปถามชายหนุ่มที่นอนโอบหลังของเธออยู่ว่าเธอนั้นเผลอหลับไปตอนไหนเพราะเธอไม่รู้ตัวเลยอีกอย่างเธอน่าจะหลับนานแล้วด้วยเพราะตอนนี้เริ่มจะไม่มีแดดแล้ว
“คุณคงจะเพลียจากการนั่งเรือน่ะ...นอนต่อสิวิวตอนนี้กำลังสวยเลย”
เอริคยิ้มให้หญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าที่เธอเผลอหลับไปก็เพราะคงจะเพลียจากการเดินทางเขารั้งให้หญิงสาวที่กำลังจะลุกขึ้นมานอนต่อบอกให้เธอนอนดูวิวตอนนี้ก่อนเพราะมันสวยงามคนละแบบกว่าตอนกลางวัน
“สวยจริงๆด้วยค่ะ”
ทานตะวันหันมามองวิวตรงหน้าตามที่ชายหนุ่มบอกตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มที่จะไม่มีแดดแล้วมันสวยงมคนละแบบกับภาพที่เธอมองก่อนที่จะหลับไปจริงๆทำให้ตอนนี้เธออดที่จะกดชัตเตอร์ภาพตรงหน้าไม่ได้
“ถ่ายแต่วิวตรงหน้าไม่เห็นคุณอยากจะถ่ายรูปกับผมบ้างเลย”
เอริคแอบมองหญิงสาวที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการถ่ายรูปเขาเลยคิดขึ้นได้ว่าตั้งแต่รู้จักกันมาหญิงสาวกบเขานั้นยังไม่ได้มีรูปคู่กันสักรูปเลยจึงพูดแกมประชดหญิงสาวว่าเธอสนใจแต่ภาพวิวไม่ยักจะสนจ่ายรูปกับเขาบ้างเลย
“คุณเอสอยากถ่ายรูปเหรอคะ...ลุกขึ้นไปยืนสิคะเดี๋ยวตะวันจะถ่ายให้”
ทานตะวันที่ไม่ทันได้ฟังทายหนุ่มพูดเธอได้ยินว่าชายหนุ่มพูดว่าเขาอยากถ่ายรูปเธอเลยให้เขาลุกขึ้นไปยืนและเธอก็ลุกยืนขึ้นเพื่อที่จะถ่ายรูปให้เขานั้นเอง
“ผมหมายถึงรูปคู่ของเรานะตะวัน...เราบังไม่เคยมีรูปคู่กันเลย”
เอริคลุกขึ้นมายิ้มให้คนตรงหน้าพร้อมบอกกับเธอให้ฟังชัดๆว่าเขาอยากมีรูปคู่กับเธอเมื่อครู่นี้หญิงสาวคงจะไม่ทันได้ฟังเป็นแน่
“อ๋อ..เอ่อ..มาตรงนี้สิคะ”
ทานตะวันเคอะเขินเล็กน้อยที่ชายหนุ่มบอกว่าอยากถ่ายรูปคู่กับเธอเธอนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่เธอและเขารู้จักกันมาจนตอนนี้ก็มาถึงจุดที่เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอและเขาเป็นสามีภรรยากันตามนิตินัยและพฤตินัยถึงแม้คราแรกเธอจะไม่ได้เต็มใจก็ตามแต่ตอนนี้เธอนั้นก็เริ่มเปิดใจให้เขาบ้างเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนดีคนหนึ่งแต่ติดตรงที่เขาได้เธอมาเพราะความเจ้าเล่ห์นั่นเอง
และเขาก็ยังไม่เคยถ่ายรูปคู่กันเลยสักครั้งจริงๆอย่างที่เขาบอกหญิงสาวเลยบอกให้เขานั้นมายืนข้างๆเธอพร้อมหมุนหน้าจอกล้องมาตรงหน้าของเธอเพื่อให้มองภาพที่กำลังจะถ่ายได้นั่นเอง
“ผมว่าผมถือดีกว่านะ”เอริคเห็นว่าแขนของเขานั้นยาวกว่าหญิงสาวอยู่มากเลยคิดว่าเขาเป็นคนถือจะดีเสียกว่าเพราะจะได้ภาพที่มุมว้างขึ้นนั่นเอง“ค่ะ”ฟอด“คุณเอส”ทานตะวันที่กำลังยิ้มให้กล้องอยู่นั้นเธอต้องตกใจเพราะจู่ๆชายหนุ่มก็หันหน้ามาหอมเธอฟอดใหญ่โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเฮทั้งตกใจทั้งเขินไปในคราเดียวกันรูปในกล้องเธอรู้เลยว่ามันต้องเป็นหน้าของเธอตกใจโดยมีชายหนุ่มหอมแก้มเธออยู่เป็นแน่“แกล้งตะวันอีกแล้วนะคะ”ทานตะวันตอนนี้ปั้นสีหน้าไม่ถูกไม่รู้จะเขินหรือไม่พอใจดีแต่ตอนนี้หน้าเธอนั้นแดงเป็นลูกตำลึงจนชายหนุ่มเห็นได้ชัดพร้อมบ่นชายหนุ่มว่าเขานั้นชอบหาเรื่องแกล้งเธออยู่เรื่อย“น่ารักดีออก..เก็บไว้ให้ลูกเราดูไง”เอริคเปิดรูปที่พึ่งถ่ายเมื่อครู่ให้หญิงสาวนั้นดูพร้อมบอกกับเธอว่ารูปนี้ออกจะน่ารักเขาไม่ได้ตั้งใจแกลงเธอแค่อยากมีรูปที่ดูหวานๆแค่นั้นเองพร้อมแอบกระซิบคนที่ยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆเขาว่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูกดูอีกด้วย“คุณเอส...ตะวันไม่คุยด้วยแล้ว”จากที่ทานตะวันนั้นเขินเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลับเขินหนักขึ้นไปอีกเพราคำพูดของชายหนุ่มเธอทำตัวไปถูกเลยจำต้องเดินหนีเขาออกไปจากตรงนั้นทันที“จะไปไหน...”เอริครี
“ค่ะ...คุณเอส”ทานตะวันน้ำตาคลอพร้อมยื่นมือซ้ายให้ชายหนุ่มเธอพร้อมแล้วที่จะให้เขานั้นดูแลเธอไปตลอดชีวิตและเธอก็ยังมีชีวิตน้อยๆในท้องที่จะให้เขาได้ดูแลอีกด้วย“ขอบคุณนะครับตะวัน..ผมรักคุณมากเลยรู้ไหม”“ตะวันก็รักคุณค่ะ...แต่คุณจะดูแลแค่ตะวันคนเดียวก็คงไม่ได้”เอริครีบสวมแหวนให้หญิงสาวพร้อมลุกขึ้นมากอดเธอเอาไว้อย่างแนบแน่นด้วยอาการดีใจทานตะวันเองก็เช่นกันเธอมีความสุขที่สุดเลยไม่คิดว่าเขาจะตามตื๊อเธอจนมีวันนี้ได้พร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าหากเขานั้นจะดูแลเธอคนเดียวเห็นทีคงจะไม่ได้เสียแล้ว“คุณกำลังหมายถึงอะไรผมไม่เข้าใจ”เอริคผละกอดจากหญิงสาวพร้อมมองหน้าของเธอเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดสักเท่าไร“นี่ค่ะ”ทานตะวันหยิบผลการตั้งครรภ์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอมาให้ชายหนุ่มดูสองอันเป็นคำตอบว่าสิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่กับเข้านั้นมันคืออะไร“นี่เรากำลัง...จะมีลูกกก...ลูกเรา...เย่!!”“55555...คุณเอสเบาๆค่ะ”เอริคมือสั่นเล็กน้อยเมื่อหยิบผลตรวจครรภ์จากมือหญิงสาวมาดูตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าที่เธอพูดมันคืออะไรชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างภูมิใจต่อไปนี้เขาจะเป็นพ่อคนแล้วและตอนนี้เขาก็กำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว
ชายหนุ่มพอจะเดาออกว่าไอ้สีสันที่หลากหลายของลายผ้านี้เธอคงจะได้ไอเดียมาจากสิ่งที่เขาพาเธอไปดูวันนี้เป็นแน่แต่โดยรวมถือว่าเขาชอบอย่างมากและเขาคิดว่าหากนำเสนอบนบอร์ดประชุมทุกคนต้องเห็นด้วยในเสื้อผ้าคอลเลคชั่นที่หญิงสาวออกแบบเป็นแน่“ค่ะ...พวกเค้าช่วยตะวันได้ไอเดียเยอะเลยค่ะ”ทานตะวันหันมายิ้มให้ชายหนุ่มที่เขารู้ทันเธอว่าได้ไอเดียมาจากไหนเธอหวังว่านี่มันจะเป็นมิติใหม่ของแบรนด์ที่จะจับกลุ่มการตลาดแบบไหม่ที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นผลดีต่อแบรนด์อีกด้วย“แต่ว่าผมอยากให้ตะวันพักจากการทำงานทั้งหมดแล้วเอาเวลาดูแลครรภ์ดีกว่าเนอะเรื่องต่อจากนี้เดี๋ยวผมกับทีมจะจัดการเอง”เอริคเห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตั้งท้องอ่อนๆเขาไม่อยากให้เธอทำงานอะไรทั้งสิ้นถ้าเธอออกแบบเสร็จแล้วต่อไปเขาจะเป็นคนสานต่อเรื่องนี้เองเพราะเขาอยากให้เธอได้พักเอาเวลาดูแลตัวเองกับลูกที่อยู่ในท้องจะดีกว่า“อืมม...แต่ตะวันอยากลงมืองานนี้ด้วยตัวเองนะคะ..นะคะคุณเอสไม่อย่างนั้นตะวันคงเครียดแย่”ทานตะวันหน้าบูดขึ้นทันทีเธอคิดไว้แล้วว่าชายหนุ่มต้องห้ามเธอทำงานแน่นอนรู้แบบนี้เธอค่อยบอกกับเขาเรื่องลูกดีกว่าหญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มเป็นห่วงแต่เธอเองรู้ว่าเธอทำ
3 เดือนต่อมา01.00 น.“โอ้ะ..โอ้ยย..คุณเอสคะ...”ทานตะวันรู้สึกเจ็บท้องขึ้นมากะทันหันเอรู้ว่านี่น่าจะเป็นอาการของคนเจ็บท้องคลอดเพราะเธอได้เข้ารับการอบรมกับคุณหมอและพยาบาลมาแล้วหญิงสาวพยายามหายใจเข้าออกลึกๆพร้อมเรียกชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างๆเธอให้รู้สึกตัว“อือ...อืม...เป็นอะไรครับตะวัน”เอริคยังมีอาการงัวเงียจากการปลุกของหญิงสาวพร้อมหันมาถามเธอว่าเป็นอะไรหรือเปล่าถึงได้ปลุกเขากลางึกแบบนี้“ตะวันเจ็บท้องค่ะ”“ฮะ...!!”เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวบอกกว่าเจ็บท้องชายหนุ่มที่กำลังมีตาสะลึมสะลืออยู่นั้นกลับเบิกตาโพรงพร้อมพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาลทันทีตอนนี้อาการง่วงนอนหายไปหมดเหลือแต่อาการตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูกแล้วนั่นเองโรงพยาบาลXXXลูคัสใช้เวลาขับรถไม่นานก็พาทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลเมื่อมาถึงแล้วพยาบาลกพาหญิงสาวไปตรวจที่ด้านในทันทีว่าตอนนี้ปากมดลูกนั้นเปิดกี่เซ็นแล้วและเธอนั้นพร้อมที่จะคลอดเองหรือเปล่า10 นาทีผ่านไป“ตอนนี้ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ”เอริครีบเดินเข้าไปคุยกับหมอที่พึ่งเดินออกมาจากห้องตรวจหญิงสาวเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้นั้นเป็นอย่างไรบ้างและเธอนั้นพร้อมคลอดแล้วหรือยัง
“มิเชล”วิลล์เปิดซองเอกสารตรงหน้าดูว่าฮานนั้นเอาอะไรมาวางไว้ให้เขาแล้วก็ไปเมื่อเปิดดูข้างในซองปรากฏว่าข้างในมีรูปถ่ายของหญิงสาวตอนที่อยู่โรงพยาบาลตอนที่เธอตรวจครรภ์และรูปอัลตร้าซาวด์ลูกในท้องของหญิงสาวอีกด้วยจากเอกสารที่เขาได้อ่านตอนนี้หญิงสาวก็ท้องได้ประมาณหกเดือนแล้วชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่พักใหญ่เขาไม่ยักรู้ว่าฮานนั้นไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหนแต่ตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณลูกน้องของเขาอย่างมากที่วันนี้ทำให้เขานั้นเขาได้รับข่าวดีที่สุดในตอนนี้เลยเช้าวันต่อมา“ฮานวันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนายจัดการงานแทนฉันด้วย”“ครับนาย...โชคดีนะครับ”“ขอบใจนายมากเรื่องเมื่อคืน”“ครับ”วิลล์ยกกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าพร้อมบอกกับลูกน้องของให้ดูแลงานแทนเพราะวันนี้เขาต้องไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาให้เรียบร้อยอีกทั้งยังไม่ลืมที่จะขอบคุณฮานจากการที่เก็บข้อมูลดีๆไว้ให้เขานั่นเองตัวของฮานเองก็ดีใจกับเจ้านายของเขาที่เริ่มทำตามใจของตัวเองเสียทีเพราะเขาคิดว่ายังไงเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วการที่ทั้งสองคนได้คุยกันมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้บ้านพักมิเชลเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะมาดื่มนมบำรุงครรภ์ของเธอในตอนเช้าหญิง
“อืมม...ตอนนี้ผมให้ฮานดูแลแทนอยู่”วิลล์ไม่อยากจะคิดเรื่องงานอะไรทั้งนั้นเมื่ออยู่กับหญิงสาวเขายอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้แล้วหากวันหนึ่งกิจการเขาๆไปไม่รอดก็ไม่เป็นไรเมื่อมีกิจการใหญ่แล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จเขาเองคิดไว้ว่าจะหันมาทำอะไรเล็กๆแทนก็ได้ขอแค่มีหญิงสาวและลุกอยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”“ก็ต้องประคองไปก่อนเพราะยอดขายสินค้าตัวใหม่ยังไม่มีกำไรเลย”“มิเชลคิดว่าคุณน่าจะลองเปลี่ยนคอยเซปใหม่เป็นเสื้อผ้าสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างที่มาติเนสลองทำดูสิคะ”มิเชลคิดว่าแบรนด์เสื้อผ้าในเครือของมอแกนออกแบบเสื้อผ้าค่อนข้างที่จะจับกลุ่มลูกค้าแบบเดิมเธอเองคิดอยากจะบอกกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ติดตรงที่เธอนั้นคิดว่าชายหนุ่มอาจจะไม่รับฟังเธอแต่วันนี้เธอจำต้องลองเสนอแนวทางนี้ให้กับชายหนุ่มดูมันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ได้เพราะจากข่าวคราวของแบรนด์เสื้อผ้าในเครือมาติเนสของเอริคที่เปิดตัวใหม่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ก็เป็นผลดีทีเดียวเธอเลยลองพูดให้ชายหนุ่มได้คิดตามดู“คุณจะให้ผมเลียนแบบเหรอไม่เอานะผมไม่ได้แข่งกับใครแล้ว”วิลล์ส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่อยากที
“...ฉันพยายามโอ๋อยู่นี่ไง...”วิลล์รู้ว่าเสียงร้องของวีน่าอาจจะทำให้อาทอร์ลูกชายของเอริคนั้นตื่นแต่จะให้เขาทำอย่างไรได้เขาทำดีที่สุดได้เท่านี้“นี่นายเลี้ยงลูกเป็นไหมของเล่นเอาไว้เล่นกับลูกเอามาไหม”เอริคเห็นว่าถ้าเด็กๆร้องก็ต้องมีของเล่นเอาไว้ปลอบเหมือนกับทานตะวันที่มักจะเตรียมติดตัวเอาไว้เพื่อหยอกล้อเล่นกับอาเทอรเวลาที่งอแงเขาเลยถามว่าวิลล์นั้นได้เอาติดมาด้วยหรือไม่เพราะมันอาจจะช่วยได้“อ่อ..เอ่อมิเชลเป็นคนเตรียมของมาฉันไม่รู้อยู่ไหน”วิลล์รู้ว่าเด็กคู่กับของเล่นแต่เขาก็ไม่รู้อีกว่ามิเชลนั้นเอาไว้ที่ไหนอันนี้เขาก็แอบเซ็งตัวเองอยู่เหมือนกัน“แง๊.ๆๆๆๆ.....แอะๆ”“วีน่าคะ...ดูของเล่นที่ลุงสิคะ...หนูเห็นไหมเอ่ย”เอริคจำต้องหยิบลูกบอลของลูกชายของเขาออกมาจากกระเป๋าและเดินมาที่หลังของวิลล์พร้อมเล่นกับเด็กหญิงที่กำลังร้องให้ซบบ่าคนเป็นพ่ออยู่เอริคใช้เสียงสองพร้อมเขย่าลูกบอลให้มีเสียงเพื่อเรียกความสนใจจากหนูน้อยซึ่งมันก็เป็นไปตามคาดหนูน้อยวีน่าหยุดร้องทันทีพร้อมทำหน้าสงสัยว่าคนตรงหน้านั้นกำลังทำอะไรอยู่“นายทำอะไรเอส”วิลล์อยากจะหลุดขำออกมาตั้งแต่ตอนที่เอริคใช้เสียงสองคุยกับลูกของเขาแต่เขานั้
20.00 น.เสียงดนตรีบนแคทวอล์คดังคลออยู่ที่หน้าเวทีเหล่านายแบบนางแบบที่สวมผ้าไทยเดินโชว์บนเวทีอยู่ในเวลานี้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่เข้าชมงานการตัดเย็บผ้าไทยโดยฝีมือของหญิงสาวที่เป็นดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ของแบรนด์นี้ว่าทำออกมาได้แปลกใหม่ทันสมัยแต่ยังคงความเป็นไทยไว้ดังเดิมอย่างดีอีกด้วย“โอเคไหมครับตะวัน”คงไทยเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่จ้างหญิงสาวมาเป็นดีไซน์เนอร์เดินมาเชคงานที่หลังเวทีเพราะว่าวันนี้งานค่อนข้างยุ่งและอีกอย่างทานตะวันนั้นก็แทบจะจัดการทุกอย่างคนเดียวและอีกอย่างตอนนี้หญิงสาวก็ต้องขึ้นเดินโชว์ชุดฟินนาเล่แทนนางแบบที่มาไม่ได้อีกต่างหากเขาจึงคิดว่าต้องมาให้กำลังใจเธอหน่อย“ตะวันตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะพี่ไทย”ทานตะวันยืนสูดหายใจเข้าออกลึกๆถึงแม้ว่าเธอนั้นจะจัดเวทีเดินแบบมาแล้วหลายงานตั้งแต่มาทำงานที่นี่แต่เธอก็ไม่เคยเดินเองเสียทีจนตอนนี้เธอนั้นรู้สึกประหม่าอยู่มากเมื่อได้คุยกับชายหนุ่มทำให้เธอนั้นสบายใจขึ้นมานิดหน่อยทานตะวันและคงไทยรู้จักกันตั้งแต่ที่สมัยทานตะวันนั้นเรียนมหาลัยโดยหญิงสาวนั้นเรียนศิลปกรรมศาสตร์สาขามัณฑนศิลป์(แฟชั่นดีไซน์)ส่วนชายหนุ่มนั้นเรียนบริหารธุรกิจที่ทั