“จริงสิตะวันต้องตอบแทนคุณที่คุณช่วยตะวัน...คุณเอสต้องการอะไรบอกตะวันมาได้เลยนะคะเพราะตะวันคิดว่าตะวันจะอยู่ที่นี่อีกไม่นานก็จะกลับไทยแล้วค่ะ”
ทานตะวันลืมไปเสียสนิทเพราะมัวแต่ดีใจว่าเธอนั้นต้องตอบแทนชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอเพราะจะให้เขาช่วยเธอฟรีๆไม่ได้อย่างน้อยก็ขอให้เขาบอกกับเธอมาว่าเขานั้นต้องการอะไรถ้าเธอทำให้เขาได้เธอก็เต็มใจที่จะทำ
“อะไรนะครับ...เอ่อ..”
เอริคถึงกับใจหายวาบไปไม่เป็นเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดเรื่องที่จะกลับบ้านของเธอเร็วขนาดนี้
“คุณเอสอยากให้ตะวันตอบแทนอะไรคะ...”
ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มยังมีท่าทีที่อ้ำอึ้งอยู่เธอจึงย้ำถามเขาอีกรอบเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นบอกความต้องการของเขามา
“เอ่อ...คือผมไม่รู้ว่าเรื่องที่ผมขอมันจะทำให้คุณลำบากใจไหมนะครับแต่ผมอยากให้คุณอยู่เที่ยวที่นี่เป็นเพื่อนผมอีกสักพัก”
เอริคอยากจะบอกกับเธอตอนนี้ว่าเขาอยากให้เธอมาลองคบกับเขาดูจะได้ไหมจริงๆแต่มันก็ทำไม่ได้เขากลัวว่าเธอจะคิดว่าเขานั้นฉวยโอกาสกับเธอน่ะสิจึงแสร้งหาเรื่องเพื่อที่จะยื้อเวลาให้เธออยู่ที่นี่อีกสักพักก็น่าจะพอมีเวลาทำคะแนนกับเธอได้อยู่
“ตะวันยินดีค่ะ...”
ทานตะวันคิดว่าหากอยู่ที่นี่ต่ออีกสักนิดก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเงินของเธอนั้นก็ยังพอมีที่จะเที่ยวอยู่ได้และมันยังเป็นความต้องการของชายหนุ่มที่เธอจะทำให้เขาได้เธอพร้อมยินดี
“จริงเหรอครับแล้ว...คุณจะไม่มีปัญหากับที่ทำงานเหรอครับ”
เอริคยิ้มกริ่มอยู่ในใจเพราะว่าเขายังพอมีเวลาทำคะแนนกับเธอได้อีกพรางแสร้งถามหญิงสาวเรื่องงานที่ทำทั้งที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอลาออกจากงานซ้ำเธอเองก็ไม่มีพ่อแม่ให้ต้องดูแลอีกแบบนี้เธอคงจะอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายๆ
“ไม่หรอกค่ะตะวันลาออกแล้วอยู่เที่ยวกับคุณอีกสักพักก็คงจะไม่เป็นอะไร”
หญิงสาวตอบพร้อมอมยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ
“อืมม...แล้วปกติคุณทำงานอะไรเหรอครับ”
เอริคยังหาเรื่องคุยกับหญิงสาวเรื่องงานต่อเพราะเขานั้นมีแผนการอยู่ในใจนั่นเองเขารู้ทุกอย่างว่าหญิงสาวเคยทำงานอะไรและเรียนจบอะไรมาและสิ่งที่เขารู้มามันช่างเหมาะเจาะกับตำแหน่งที่บริษัทของเขาอีกเสียด้วย
“ตะวันเป็นดีไซน์เนอร์ค่ะ”
“อ๋อ...ผมพอจะมีเพื่อนที่รู้จักเค้าทำงานอยู่ในบริษัทของในเมืองนี้เป็นบริษัทของแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งเค้านำเข้าผ้าไทยด้วยนะครับเห็นบอกว่าอยากได้ดีไซน์เนอร์อยู่พอดี”
เอริคลองสนอทางเลือกให้กับหญิงสาวดูเพราะเขาคิดว่าเธออาจจะชอบในข้อเสนอของเขาก็ได้
“ตะวันคิดว่าตะวันคงจะไม่มีฝีมือที่จะทำงานให้แบรนด์ดังๆได้หรอกค่ะ”
ทานตะวันคิดว่าเธอเป็นแค่ดีไซน์เนอร์ตัวเล็กๆจะไปสู้กับช่างฝีมือระดับแบรนด์ดังได้อย่างไรแต่อีกใจก็คิดว่าถ้าหากเธอทำมันได้มันก็เป็นความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งของชีวิตที่เธอเคยฝันและมันก็ทำให้ได้รายได้ที่มากมายตามมาอีกด้วย
“ผมเชื่อในตัวคุณนะครับตะวันอีกอย่างมันเป็นงานที่คุณถนัดแล้วก็รายได้ดีด้วยผมเชื่อในฝีมือคุณนะครับตะวัน”
เอริคเริ่มหน้าเสียที่หญิงสาวไม่เห็นด้วยแต่มีหรือเรื่องการโน้มน้าวของเขาจะไม่สำเร็จเขารีบกุมมือเธอเอาไว้พร้อมบอกให้เธอนั้นเชื่อมั่นในตัวเองเขาไม่ได้อวยเธอแต่เขาเชื่อจริงๆว่าคนที่มุ่งมั่นอย่างหญิงสาวจะทำทุกอย่างให้ออกมาดีได้ดูจากที่เธอมุมานะในการตามหาน้องสาวของเธอแม้ว่าต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองลำบากลำบนขนาดไหนเธอเองก็ยอมทำ
“ขอบคุณนะคะคุณเอสที่ช่วยกำลังใจตะวัน...อืมม...ตะวันจะลองดูก็ได้ค่ะ”
ทานตะวันที่กำลังลังเลอยู่ในใจเมื่อได้รับคำให้กำลังใจจากชายหนุ่มเธอก็มีแรงฮึดสู้ขึ้นได้เธอมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าขอบคุณเขาอย่างมากเพราะถึงแม้เธอจะเจอกับเขาได้ไม่นานแต่เธอก็ได้รับพลังบวกจากชายหนุ่มอยู่ตลอดเธอคิดว่าชายหนุ่มช่างเป็นเพื่อนที่ดีมากๆคนนึงที่เธอเคยเจอมาเลย
“ดีมากเลยครับ...งั้นเอาเป็นว่าเรื่องนั้นผมจะจัดการบอกเพื่อนผมให้แต่ตอนนี้คุณต้องเที่ยวเป็นเพื่อนผมก่อนนะครับ”
เอริคบีบมือหญิงสาวอย่างให้กำลังใจที่เธอคิดถูกอีกทั้งเขาก็ยังดีใจที่เขาสามารถโน้มน้าวเธอได้สำเร็จอีกด้วยทำให้เขารู้ว่าเธอนั้นจะต้องอยู่ที่นี่ต่อแบบยาวๆเขาสบายใจเรื่องนี้แล้วตอนนี้เขาแค่อยากจะพาหญิงสาวไปเที่ยวที่ที่เขาอยากจะไปเท่านั้นเองแล้วหลังจากนี้ค่อยว่ากันเรื่องงานของเธอต่อ
“โอเคค่ะ...เราจะไปที่ไหนกันดีคะ”
“ที่แรกที่ผมจะพาคุณเที่ยวก็คือTotally Thames”
ที่ที่เอริคจะพาหญิงสาวเที่ยวที่แรกก็คืองานประจำปีของคนที่นี่นั่นเองนานแล้วที่เขาไม่ได้เที่ยวงานแบบนี้ครั้งล่าสุดคือก่อนที่พ่อเขาจะเสียเมื่อหลายปีก่อนแต่เมื่อเขาต้องครอบคลุมดูแลกิจการแทบทั้งหมดก็ไม่ได้มีเวลาที่จะคิดเรื่องเที่ยวเลยแต่เมื่อเจอกับหญิงสาวเขาอยากพาเธอไปกับในที่ที่เขาอยากไปและอยากมีเวลาที่ดีๆด้วยกัน
“อ๋อ..ตะวันเคยได้ยินค่ะ..ตะวันก็อยากไปเหมือนกัน”
ทานตะวันเคยได้ยินชื่อเทศกาลงานประจำปีนี้มานานแล้วเธอเองก็อยากจะได้ลองสัมผัสมันสักครั้งในเมื่อโอกาสมาถึงแล้วเธอก็คงต้องคว้าเอาไว้ก่อน
เทศกาลTotally Thames คือ งานประจำปีที่สำคัญงานหนึ่งของชาวลอนดอนจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำที่เป็นที่รักที่สุดของชาวเมืองสนุกสนานไปกับกิจกรรมที่มีขึ้นตลอดทั้งเดือนเช่นเทศกาลศิลปะริมน้ำกิจกรรมชุมชนการแข่งเรือพายนิทรรศการด้านประวัติศาสตร์และวรรณคดีกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม
3 วันต่อมา
“555..สนุกจังเลยค่ะคุณเอส”
“เหนื่อยไหมครับตะวันเดินเที่ยวทั้งวันเลย”
เอริคพาทานตันเดินเที่ยวงานประจำปีแทบทั้งวันทั้งสองดูสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะว่ายิ้มหัวเราะด้วยกันบ่อยจนดูเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาคู่หนึ่งจากสายตาที่คนอื่นมองมา
ชายหนุ่มเห็นว่าวันนี้เขานั้นพาหญิงสาวเดินเที่ยวแทบทั้งวันเขาจึงเอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วงว่าเธอนั้นมีอาการเหนื่อยบ้างหรือเปล่าเพราะถ้าเธออยากจะกลับเขาก็พร้อมที่จะพาเธอกลับเสมอความสุขของการเที่ยวตอนนี้ของเขามันไม่ได้อยู่ที่การอยากมาเที่ยวที่นี่แล้วแต่มันอยู่ที่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของหญิงสาวมากกว่า
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...ตะวันอยากทานไอศครีมคุณเอสทานไหมคะ”ทานตะวันหันมายิ้มหนาแป้นให้กับชายหนุ่มเพราะวันนี้เธอรู้สึกสนุกมากเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งได้เล่นซนตามอิสระโดยที่มีชายหนุ่มคอยดูแลเธออยู่ข้างๆเธอบอกกับเขาว่าเธอนั้นไม่เหนื่อยเลยสักนิดแถมสายตายังมองเห็นร้านไอศครีมตักใส่ถ้วยอกเธอจึงนึกอยากทานพร้อมชวนชายหนุ่มด้วย“ดีครับ”ตอนนี้เอริคไม่มีคำพูดที่จะปฏิเสธหญิงสาวแม้แต่น้อยเธออยากทำอะไรหรืออยากทานอะไรเขาเองก็อยากจะมีส่วนร่วมกับเธอเสียทุกอย่าง“ไอศรีมได้แล้วค่ะคุณเอส”ทานตะวันยืนสั่งไอศกรีมอยู่ครู่หนึ่งก็เดินกลังออกมาด้วยไอศครีมสองถ้วยพอดีมือพร้อมส่งให้ชายหนุ่มหนึ่งถ้วย“ขอบคุณครับ”“5555..แน่จริงก็ตามมาให้ทันเส้5555”ปึ้กกกกกเอริครับถ้วยไอศครีมมาจากหญิงสาวพร้อมกำลังจะพากันเดินไปนั่งที่เก้าอี้สาธารณะเพื่อจะนั่งทานไอศครีมแต่จู่ๆก็มีเด็กชายสองคนกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันและมาชนที่ชายหนุ่มเข้าทำให้คนตัวโตที่ไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นโดนไอศครีมก้อนล้นถ้วยที่ถืออยู่ในมือกระเด็นเข้ามาที่หน้าอย่างจัง“เอ่อะ!!!...”เอริคสบถออกมาเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าไอศกรีมที่ถืออยู่ในมือนั้นจะกระเด็นเข้ามาที่หน้าของ
ตอนนี้เอริคส่งข้อความบอกกับลูคัสให้จัดการเรื่องนี้ให้เขาโดยด่วนเพราะว่าตอนนี้เขาอยากออกไปจากที่นี่แย่แล้วเอริคสั่งเบียร์เย็นๆมาดื่มเพียงขวดสองขวดเพื่อรอเวลาให้ลูกน้องของเขาจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเพื่อที่เขาจะได้พาหญิงสาวกลับเสียที“คุณเอสไหวไหมคะ”ทานตะวันเห็นท่าทางของชายหนุ่มมีท่าทีที่เหมือนจะเมามากแต่เธอเองเห็นเขานั้นดื่มไปแค่เบียร์ขวดสองขวดเองหญิงสาวคิดในใจว่าหรือชายหนุ่มนั้นจะเป็นคนคออ่อนก็เป็นได้ตอนนี้ทานตะวันประคองชายหนุ่มเข้ามาในบ้านของเขาเธอพยุงตัวชายหนุ่มที่ดูจะใหญ่กว่าเธอหลายเท่ามาวางที่เตียงของเขาแล้วยืนสูดหายใจให้คลายเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่งจึงหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับชายหนุ่มตอนนี้ชายหนุ่มหลับตาพริ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์แน่นอนว่าเขาไม่ได้เมาเพียงแต่อยากเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวเพียงเท่านั้นเพราะกว่าลูคัสจะส่งข้อความมาหาเขาว่าจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้วในการที่เขานั่งรอเวลาอยู่ในร้านนั้นมันทำให้เขาคิดอะไรออกนั่นเอง“อืม”เอริคที่หลับตาพริ้มอยู่นั้นเขารู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาแตะที่หน้าเขารู้ว่าหญิงสาวกำลังจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับเขาชายหนุ่มจึงขยับตัวเล็กน้อยแล้วแสร้งดึงมื
เมื่อลูคัสออกไปนอกห้องแล้วชายหนุ่มลุกยืนขึ้นพร้อมใช้มือตบโต๊ะทำงานเขาจนเกิดสียงดังสนั่นจนหญิงสาวที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้าของเขานั้นถึงกับสะด้งเล็กน้อยและเริ่มมีเหงื่อผุดอยู่ที่หน้าผากเพราะท่านประธานหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้นเขากำลังโกรธจัดจนน่ากลัวถ้าสายตาของเขาเป็นไฟก็น่าจะเผามอดไหม้หญิงสาวตรงหน้าให้สิ้นไปแล้วเมื่อตอนเข้ามาเอริคกัดฟันถามหญิงสาวอย่างเจ็บใจเธอเป็นดีไซน์เนอร์ที่เก่งหัวไวแถมยังทำงานให้เขาได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเขาจึงเลื่อนให้เธอได้เป็นหัวหน้าและตัดสินใจเลือกผลงานเองทั้งหมดในการจัดการสินค้าออกมาขายโดยที่ไม่ต้องผ่านเขาและรายได้ที่เขาให้เธอนั้นมันมหาศาลจนเขาเชื่อว่าเธอนั้นคงจะใช้ไม่มีวันหมดอย่างแน่นอนแต่เขานั้นไม่เข้าใจจริงๆว่าเธอมีเหตุอะไรจึงต้องหักหลังบริษัทและเขาแบบนี้“มิเชลขอโทษค่ะ..มิเชลจำเป็นต้องทำ..”มิเชลยืนสูดหายใจเข้าอยู่ครู่หนึ่งเพื่อลดความกลัวของเธอพร้อมตอบประธานหนุ่มที่ถามเธอด้วยน้ำสียงที่เรียบเฉยเธอไม่ใช่ไม่รู้สึกผิดแต่เธอนั้นจำเป็นที่ต้องทำเรื่องนี้จริงๆอย่างเลี่ยงไม่ได้เธอไม่ได้อยากหักหลังและไม่ได้ลืมบุญคุณของประธานหนุ่มแต่สถานการณ์บางอย่างมันบีบเธอนั
“เป็นยังไงบ้างลุค”เมื่อลูคัสเข้ามาหาเขาที่เพนท์เฮ้าส์ตามคำสั่งเพราะเขาอยากฟังรายงานเรื่องที่เขาให้ชายหนุ่มนั้นจัดการแทนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะเขาต้องรื้อระบบใหม่ของบริษัทเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทุจริตแบบนี้ขึ้นอีก“มีคนมาประกันตัวเธอออกไปครับคุณเอส”ลูคัสรายงานเจ้านายหนุ่มของเขาตามที่เขานั้นได้รับเรื่องมาอีกทีหนึ่ง“หึ่!!...คิดแล้วไม่มีผิด”เอริคคิดแล้วว่าจะต้องมีคนมาช่วยเธอถึงแม้ว่าคนที่มาประกันตัวหญิงสาวจะเป็นบุคคลที่เขาไม่รู้จักแต่เขาก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาเพื่อช่วยหญิงสาว“แล้วเรื่องนี้คุณเอสจะยังไงต่อครับ...เรื่องที่...เอ่อ..เรื่องมิเชล”ลูคัสเห็นว่าเจ้านายของเขานิ่งผิดปกติเพราะถ้าเขารู้แบบนี้แล้วอันที่จริงต้องสั่งให้เขาจัดการอะไรสักอย่างโดยไม่ต้องรอให้เขานั้นถามออกไปแต่นี่มันไม่ใช่“ฉันจะถอนแจ้งความ...”เอริคมองไปที่ลูคัสพร้อมบอกกับลูกน้องเขาเป็นแนวคำสั่งว่าให้ชายหนุ่มนั้นจัดการเรื่องอะไรต่อไป“เธอไม่น่าตกเป็นเหยื่อของคนพวกนั้นเลย”ลูคัสพูดออกมาเบาๆพร้อมหลบสายตาลงเขาดีใจที่เจ้านายของเขายังเห็นใจหญิงสาวอยู่บ้างเพราะเรื่องที่เขารู้มาพร้อมๆกับเจ้านายหนุ่มของเขาไม่นานมานี้ก็คือครอบ
วันต่อมา19.00 น.ก๊อกๆๆ“คุณเอสอยู่ไหมคะ”เป็นเวลาสองสามวันแล้วที่ทานตะวันนั้นไม่ได้เจอกับเอริคเธอเพียงอยากที่บอกกับเขาว่าเรื่องคืนนั้นเธอไม่ได้ถือสาอะไรเขาแล้วและอยากที่จะขอบคุณเขาอย่างมากที่ช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดอีกทั้งตอนนี้เธอก็ยังเซ็นสัญญากับบริษัทของแบรนด์ดังที่ได้ความช่วยเหลือจากเขาแล้วด้วยแปลกที่ตอนนี้เธออยากให้เขานั้นรับรู้เป็นคนแรกว่าเธอดีใจมากแค่ไหนแต่กลับไม่เจอเขาเสียอย่างนั้นเธอพยายามติดต่อเขาไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้หญิงสาวจึงให้กำลังใจตัวเองว่าตอนนี้เขาอาจจะรับงานสืบเรื่องอะไรอยู่ก็เป็นได้จึงทำให้เธอนั้นติดต่อเขาได้ยากนั่นเอง“คุณตะวัน”“อ้าวคุณวิลล์มาที่นี่ได้ไงคะ”ตะวันได้ยินเสียงของผู้ชายด้านหลังเรียกชื่อเธอเมื่อหันไปก็เห็นว่าเป็นวิลล์เพื่อนชายที่เธอพึ่งจะรู้จักโดยบังเอิญได้ไม่นานแต่ก็คุยกันถูกคอเพราะเป็นคนที่ชอบเรื่องผ้าเหมือนกันอีกทั้งยังไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอที่นี่“ก็คุณตะวันเป็นคนบอกผมเองนี่ครับว่าคุณอยู่ที่นี่”วิลล์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมหอบของพลุงพลังออกมาจากรถและบอกว่าหญิงสาวเป็นคนบอกกับเขาเองว่าเธออยู่ที่นี่“อ๋อ...ใช่จริงด้วยตะวันลืมไปเลยค่ะ...คุณวิลล์มีธ
“นี่ครับ...คุณเอริค มาติเนส..ชื่อเค้าคล้ายเพื่อนคุณเลยนะครับผลงานของแบรนด์นี้ผู้คนทั่วโลกต่างก็รู้จักเพราะฝีมือการบริหารงานของเค้าเลยนะครับคุณโชคดีมากเลยที่ได้มาทำงานที่นี่เสียดายคุณน่าจะเจอผมก่อนไม่อย่างนั้นผมคงชวนคุณมาทำงานที่บริษัทผมแน่”วิลล์เห็นหญิงสาวจ้องมือถือด้วยสีหน้าและอาการที่ตกใจเล็กน้อยแต่เธอยังนิ่งอยู่เขาจึงค่อยๆอธิบายว่าคนในรูปเป็นใครเก่งแค่ไหนและยังไม่ลืมที่จะย้ำว่าชื่อเหมือนเพื่อนที่อยู่ข้างบ้านของเธออีกและสิ่งที่เขาเสียดายจริงๆก็คือเขาน่าจะเจอเธอก่อนเอริคนั่นเอง“อ๋อ...ค่ะ...เหมือนเพื่อนตะวันจริงๆด้วย”ทานตะวันค่อยๆส่งมือถือคืนชายหนุ่มด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อยเธอพยายามข่มไม่ให้น้ำตาของเธอนั้นไหลลงมาเพราะที่ผ่านมาทั้งหมดเธอเหมือนโดนคนที่เธอไว้ใจปั่นหัวเล่นเหมือนเธอเป็นตัวตลกนั่นเองเธอไม่เข้าใจว่าเขานั้นต้องการอะไรจากเธอกันแน่เขาดีกับเธอทุกอย่างแต่นั่นมันก็แฝงด้วยกาหลอกลวงเธออยู่ทุกอย่างเหมือนกัน“อืมม..นี่มันก็เริ่มดึกแล้วผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับตะวัน”วิลล์เห็นสีหน้าของหญิงสาวดูไม่คอยดีสักเท่าไรเขาเองคิดว่าตอนนี้ควรจะขอตัวกลับจะดีกว่าเพราะว่าหญิงสาวอาจจะมีอะไรให้ต้อ
ทานตะวันถึงกับต้องหันไปมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่โกรธจริงจังพร้อมบอกให้ขั้นหยุดที่จะมาสั่งเธอเสียทีเธอโตแล้วเธอคิดเองได้และเขาก็ไม่ได้มีสิทธิ์มาตัดสินใจอะไรแทนเธอด้วยและตอนนี้เธอจึงพูดประชดให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นรู้ความจริงแล้วว่าเขานั้นเป็นใครชายหนุ่มจะได้รู้ตัวว่าเธอนั้นไม่ได้โง่ให้เขาหลอกอีกต่อไปแล้ว“ตะวัน...”เอริคถึงกับตะลึงนิ่งงันเขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้เรื่องนี้เร็วขนาดนี้คงไม่พ้นฝีมือของวิลล์อีกเป็นแน่“ออกไปให้พ้นหน้าตะวัน...ตะวันหวังว่าคุณคงจะล้อเล่นกับตะวันมามากพอแล้วแต่ก็ขอบคุณเรื่องที่ผ่านมานะคะที่คุณยังอุตส่าห์ช่วยตามหาน้องสาวตะวัน...เราจะหย่ากันให้เร็วที่สุดแล้วตะวันจะกลับบ้าน”ทานตะวันเห็นว่าชายหนุ่มเถียงอะไรไม่ออกเมื่อเธอพูดสิ่งที่เธอนั้นรู้ออกมาพร้อมไล่ให้เขาไปให้พ้นหน้าเธอเพราะเธอเกลียดคนโกหกและเกลียดการที่เป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นแต่ก็ยังต้องขอบคุณเขาที่ไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนก็ตามเพื่อตามหาน้องสาวของเธอให้เธอนั้นได้รู้ว่าน้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่และอยู่ที่ไหนนั่นเอง“ไม่ได้นะตะวันผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น...ผมชอบคุณเหตุผลที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมอยากอยู่ใกล้คุณ”เอร
“อร้ายยยย”ปึ้กกๆๆๆ เพี๊ยะๆๆๆทานตะวันเองได้แต่ส่งเสียงแผดร้องออกมาเพราะไม่พอใจในการกระทำของเขาที่ดูท่าว่าจะไม่หยุดง่ายๆเมื่อเธอเห็นว่าเขานั้นกำลังสนใจอยู่กับการฉีกเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มของเธออยู่นั้นหญิงสาวจึงรวบรวมกำลังจากแขนทั้งสองข้างทั้งตบตีจิกข่วนชายหนุ่ม“อื้มมมม”เมื่อมือหนาของเอริคดึงบราของหญิงสาวออกไปได้สองเต้างามก็โผล่ประจักษ์แกสายตาของเขาสองเต้ากลมกลึงที่เต็มไม้เต็มมือมันล่อตาล่อใจให้เขาอดที่จะใช้ปากดูดเม้มคลึงเล่นไม่ได้เสียจริงเมื่อเห็นดังนั้นแล้วเขาก็ไม่รีรอใช้ปากครอบคลุมยอดเต้างามดูดคลึงเล่นอย่างหิวกระหายมืออีกข้างก็ไม่ได้อยู่เฉยเขาใช้ให้มันมีประโยชน์โดยการบีบคลึงเล่นสร้างอารมณ์วาบหวามให้เขาและหญิงสาวไปในตัวอีกด้วย“อร้ายยยย...อื้มมมม”การกระทำที่ป่าเถื่อนของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บที่หน้าอกทั้งสองจึงร้องออกมาและตามด้วยเสียงกัดปากครางเบาๆเพราะรู้สึกวาบหวามแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหญิงสาวเตือนตัวเองว่าเธอจะเผลอใจกับคนที่จะขืนใจเธอไม่ได้เพี๊ยะเพล้งงงงงงงหญิงสาวมือของเธอจิกที่ผมของชายหนุ่มขึ้นมาให้เขาหลุดจากการดูดคลึงเล่นที่ของสงวนของเธอเสียทีและใช้มืออีกข้างฟาดไป