อัลฟ่าวก้าวขายาวตามติดกอหญ้า เขาวิ่งเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอแล้ว
“อย่าคิดหนี ไม่อายคนหรือไง!” เขาขึ้นเสียงเตือนสติเธอ กอหญ้าจึงมองไปรอบกายจำต้องหยุดนิ่ง มีคนมองมากที่พวกเธอจริง ๆ
ทุกอย่างเป็นเพราะเขา!
ถ้าเขาไม่กลั้นแกล้งเธอ ไล่วิ่งจับกันแบบนี้ คนอื่นเขาก็คงไม่มองมาแบบนี้แน่อ่ะ!
คนบ้า เขามันบ้าที่สุด!
“แล้วจะพาหญ้าไปไหน!” ในที่สุดเธอก็หยุดนิ่ง ไม่หนีเขาไปไหนอีก มือหนาจึงดึงรั้งข้อมือกอหญ้า กระชากพาเธอเดินไปพร้อมกันกับเขาในทันที
“นี่!! ถ้าไม่บอก หญ้าไม่ไปด้วยนะ!” เธอรั้งตัวเองไว้ แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอัลฟ่าได้! ร่างบางจึงเซถลาไปข้างหน้ากับเขา
“ที่เธอทำกับฉัน คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ หรือไง!?”
“…” แอบน่ากลัวนะ! เขาจะทำอะไรเธอหรือเปล่า…
“คุณจะไม่ทำอะไรหญ้า?” เธอลองเชิงถามเขา กลัวว่าเขาจะพาเธอไปฆ่า ใบหน้า การกระทำที่อุกอาจแบบนี้ มันทำให้เธอนึกกลัวจริง ๆ
“คิดว่าไงล่ะ?” กอหญ้าขบเม้มริมฝีปากคิดหนัก พยายามบิดข้อมือออกจากเขาอีกครั้ง
“เข้าไป และอย่าดื้อ คนของฉันอยู่รอบกาย เธอหนีไปไหนไม่ได้หรอก!” ทว่าคำสั่งเสียงเข้มดังขึ้นเหนือหัว ทำให้เธอหยุดการกระทำทุกอย่างลง กอหญ้ามองรอบกาย ไม่เห็นมีใครสักคน แต่เธอกลับเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เขาเป็นถึงมาเฟียย่อมต้องมีคนค่อยคุ้มกันอยู่ห่าง ๆอย่างแน่นอน
กอหญ้าผ่อนลมหายใจลงอย่างหนัก เธอต้องยอมทำตามเขาใช่มั้ย ถ้าไม่ทำตามชีวิตของเธอคงไม่สงบสุขอีกต่อไปแน่นอน ทั้งที่เขาควรอยู่ห่างจากเธอ ทำไมถึงยังเอาตัวเข้ามาใกล้คนที่ขึ้นชื่อว่าเมียน้อยของน้องเขยเขาอีก!
เขาคิดจะทำอะไรกันแน่!
แล้วชีวิตที่สงบสุขของเธอจะไม่มีวันสงบสุขอีกต่อไปแล้วจริง ๆ งันเหรอ!
ตุบ
“ทำไมต้องรุนแรงด้วย!” กอหญ้าขึ้นเสียงใส่อัลฟ่า เมื่อเขาผลักเธอจนล้มลงกับเบาะรถ เธอมองสบตาเขาด้วยสายตาหาเรื่อง ทว่าคนที่โน้มตัวส่งสายตามาหาทำให้เธอต้องรีบหุบปาก
แววตาน่ากลัวนั่นทำให้ใจเธอเต้นแรง เธอกลัวเขา!
“อย่าคิดลงมาจากรถของฉันเด็ดขาด! ไม่งันอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”
ปัง!
กอหญ้าหลับตาปริบ ๆ สั่งปุบก็ปิดประตูใส่หน้าเธอปับ! แล้วแบบนี้เธอจะกล้าก้าวขาออกจากรถนี่ได้ยังไงกัน!
บรืนนน~~
กรี๊ดด~
เพราะอัลฟ่ากระชากรถออกอย่างกะทันหัน ทำให้กอหญ้ารีบดึงที่คาดเบลท์ออกมาคาดทันที เธอกลัวตาย เธอยังไม่อยากตาย พ่อแม่เธอยังไม่ได้ทดแทนบุญคุญพวกท่านเลยนะ!
“ค่อยๆ ขับก็ได้! หญ้าไม่ได้หนีไปไหนแล้ว” เธอตะคอกบอกเขาเสียงสั่น อัลฟ่าที่เคยอ่อนโยนใจดี ตอนนี้มีแต่ความเกรี้ยวกราดใส่กัน
“หึ…” เขาแค่นยิ้มใส่เธออย่างเย้ยหยัน
“อย่าแค่นยิ้มแบบนั้นนะ หญ้ายอมมากับคุณแล้วไง ไม่ได้คิดหนีด้วย!” เธอไม่ชอบเลยที่เขาทำตัวแบบนี้
“หึ งันก็เงียบเสียงปรอทแตกที่น่ารำคาญของเธอซะ! ฉันรำคาญ!”
“…” กอหญ้ารีบหุบปากตามที่เขาสั่งทันที ระยะทางที่เงียบสงบทำให้กอหญ้าจับเบลท์นั่งนิ่ง มองเส้นทางที่เริ่มมืดมิดตามเวลาท้องถิ่น ความเงียบมาคุจนใจเธอกลัว ทางที่เขาขับผ่านก็เป็นเส้นทางที่เริ่มคับแคบลง
เขาคงไม่พาเธอไปฆ่าปิดปากอย่างที่คิดกลัวจริงๆ หรอกนะ…
“อย่างน้อยเราก็เคยคบกันนะคะ ที่ผ่านมาหญ้าก็ทำดีกับคุณ คุณคงไม่พาหญ้าไปฆ่าไปแกงหรอกใช่มั้ย? อีกอย่างเรื่องคุณกาย หญ้าก็ไม่ได้ยุ่งกับเขาแล้วด้วยนะ!” กอหญ้าเอ่ยพยายามหาความดีมาลบล้างความคิดในใจของเขา หากเขาจะฆ่าจะแกงกันจริง ๆ
อัลฟ่าเลิกคิ้วกับความคิดของกอหญ้า เธอคิดว่าเขาจะพาเธอไปฆ่า? ให้ตายสิ!
“ถ้าฉันจะทำ ฉันทำไปนานแล้ว วันนี้แค่อยากจะสั่งสอนเธอก็แค่นั้น!” เขาว่า และหากเขาอยากฆ่าเธอจริง ๆไม่มานั่งทำอะไรแบบนี้แน่!
สั่งยิงแค่ครั้งเดียวเธอก็ตายแล้ว!
“แล้วทำไมต้องสั่งสอน ในเมื่อคุณก็แกล้งหญ้าก่อน!” เธอมีแต่เสียกับเสียทั้งที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มทำร้าย กลั้นแกล้งเธอก่อนแท้ ๆ วันนี้มันวันซวยอะไร ที่ต้องมาเจอกับเขา!
“เธอตบฉัน หน้าฉันเป็นรอย และที่เท้าเธอก็กระทืบมัน เธอต้องรับผิดชอบ” อัลฟ่าเอ่ยเสียงเข้ม น้ำเสียงดูหงุดหงิด ดุกร้าว จนกอหญ้าคิดวว่าเขาคงโกรธเคืองเธอมากจริง ๆ
“แล้วจะให้หญ้ารับผิดชอบยังไง” กอหญ้าเอ่ยถามเสียงเบา สั่นกลัวในใจลึก ๆ
“เดี๋ยวถึงก็รู้” เขาพูดเพียงแค่นั้น รถสปอร์ตก็เลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ทันที…
“ทำไมต้องพามาที่นี่” และที่นี่คือที่ไหน! บ้านของอัลฟ่างันเหรอ?
“ก็บ้านฉันไง”
“คุณจะทำอะไรหญ้า! ทำไมต้องพาหญ้ามาที่บ้านคุณด้วย!!” กอหญ้ารีบยกมือขึ้นปิดบังร่างกายของตัวเองด้วยความกลัวทันที
“คิดว่าไงล่ะ คิดว่าฉันควรทำอะไรเธอดี!?” สายตาคมเฝ้ามองเรือนร่างบางที่เปียกแนบชิด มองบราสีดำและเนินอกที่หายใจกระเพื่อมอวดสายตาของเขาในตอนนี้
“หยุดมองนะ อย่าลืมว่าหญ้าเป็นเมียน้อยน้องเขยคุณ! คุณไม่รังเกียจหรือไง!?” กอหญ้ารีบหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสายตาที่จับจ้วงนั่น แต่อัลฟ่ากับยักไหล่ไม่คิดสนใจ
“ฉันไม่สนใจ!” ทำไมเขาต้องใส่ใจ เอาเสร็จก็จบ ไม่ได้กินซ้ำสักหน่อย จะรังเกียจแค่ไหน แต่เรื่องความรู้สึกอยากเอาเธอ มันไม่เกี่ยวกับความรู้สึกที่เขาเกลียดเธอเลยสักนิด…
แค่ความอยากปลดปล่อยของผู้ชาย มันสามารถปลดปล่อยได้โดยไม่สนว่าคนตรงหน้าจะเกลียดกันมากแค่ไหน!
บทที่ลวงใจเขายัดเยียด ตราหน้าเธอว่าเป็นเมียน้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่แก้ต่างให้กับตัวเอง…“มึงพอเลย หยุดพูดถึงผู้หญิงคนนั้นสักทีเถอะ แค่นี้กูก็เบื่อยัยนั่นจะแย่อยู่แล้ว!” เสียงทุ้มของอัลฟ่าพูดกับญาติผู้น้องอย่างรามิล วันนี้มันนัดดื่มกับเขาที่ผับหรูกลางใจเมืองกรุงเทพ กว่ามันจะโผล่หน้ามาหาที่กรุงเทพได้ก็นานโข เขาจึงยอมรับนัดของมันในคืนนี้และไม่ว่าจะนานแค่ไหน มันก็ยังคงแซวถึงเรื่องที่เขาตามจีบกอหญ้า สาวธรรมดาคนหนึ่งที่เปิดร้านขายข้าวแกงในซอยสลัมซึ่งตอนนี้เขาคบกับเธอมาเกือบปีหนึ่งได้แล้วกระมัง“เบื่อเขา แล้วไปจีบไปคบกับเขาทำไม?” รามิลถามอัลฟ่า ญาติผู้พี่ของตนอย่างสงสัยใคร่รู้ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับอัลฟ่า เขาไม่เคยเห็นมันจีบผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงเหล่านั้นจะตามติด และเสนอตัวให้กับมันเองมันไม่จำเป็นต้องตามจีบพวกเธอเลยด้วยซ้ำ! แต่อัลฟ่าลงสนามด้วยตัวเองแบบนี้ มันจึงน่าแปลกใจอยู่บ้างในความคิดของเขา…อัลฟ่าถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เขาเองก็เบื่อที่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่เขาก็ต้องจำใจหลอกจีบยัยเฉิ่มเชยนั่นจีบจนติด… จนตอนนี้ยังหาทางบอกเลิกเธอไม่ได้!“เพราะเธอเป็นเมียน้อยสาม
บทที่1เมื่ออีกคนเปลี่ยนไปแปะ~ แปะ แปะกลิ่นและหยดน้ำฝน ทำให้กอหญ้ายื่นมือออกมารองรับน้ำฝน ที่หยดแหมะลงบนฝ่ามือน้อยของเธอ สายตากลมโตเหม่อมองหยดน้ำหนึ่งดวงบนฝ่ามือก็ยกยิ้มขึ้นมันคล้ายหยดน้ำตาของเธอ…แววตา ริมฝีปากเล็กอวบอิ่มสั่นระริก แหงนมองสายฝนที่เริ่มหยาดหยดลงมาทีล่ะเม็ด คิดว่าอีกไม่นานมันคงเทกระหน่ำลงมาแน่ ๆ …พลันสายตาของเธอก็มองหาแท็กซี่สักคัน จนมีคันหนึ่งที่ผ่านมา… มือบางจึงโบกขึ้นทันทีกึก…แท็กซี่คันนั้นจอดลงแล้ว กอหญ้าจึงบอกสถานที่ที่จะไปต่อจากนี้ให้คนขับรับรู้ เมื่อลุงคนขับรับทราบแล้ว เธอจึงปล่อยตัวเองนั่งจมอยู่กับความคิดในใจอีกครั้งทุกอย่างผิดปกติไปจริง ๆ… เธอเฝ้าถามตัวเองว่าระหว่างทางเธอทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ทำอะไรให้พี่ฟ่าไม่พอใจหรือไม่ เฝ้าวนเวียนถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ไร้ซึ่งคำตอบ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด มีแต่เขาที่เปลี่ยนไป…นิ้วเรียวลองกดโทรออกหาเขาอีกครั้ง ปลายทางยังคงปิดเครื่อง…น้ำตาที่พยายามกลั้นเก็บเอาไว้ก็ไหลรินลงมา ลงมาพร้อมกับเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง ความคิด ความรู้สึกในตอนนี้คงเหมือนพายุสายฝนลูกนี้ที่ตกกระทบลงบนกระจกรถตอนนี้เธอรู้สึก
“อาจจะหมดโปรล่ะมั้งคะ” กอหญ้าไม่อยากให้แม่เครียดไปกับเธอ จึงเอ่ยออกมาแล้วยิ้มขำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้“เขา?” “อยู่ ๆ ก็เงียบ ติดต่อไม่ได้ คนหาย ไลน์ก็ไม่ตอบ” กอหญ้าพูดติดตลก ทั้งที่ในใจแทบแตกสลายได้แล้ว“พี่เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…” นั่นสินะ… เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…รอจนถึงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าเขายังไม่ติดต่อมา เธอจะไปหาเขาที่บริษัท เพราะเธอเคยไปหาอัลฟ่าที่บริษัทครั้งหนึ่งแล้ว เอาของที่เขาลืมไปให้ จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลยเขาบอกถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหาเขาที่บริษัทอีก เธอจึงเลือกที่จะเชื่อฟังและไม่ไปตามที่เขาบอก…ส่วนบ้านพ่อแม่ หรือที่ประจำที่เขาชอบไป อย่าพูดถึงเลย เธอเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริง ๆ“ไว้พรุ่งนี้หญ้าจะลองโทรหาพี่ฟ่าอีกครั้งค่ะ” “อืม ใจเย็น ๆ ใช้เหตุผลนะลูก อย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ไม่งันความรักอาจจะจบลงง่าย ๆ โดยที่เราไม่สามารถยื้อมันไว้ได้” “ค่ะแม่” “ลูกอยากได้ผู้ชายเหมือนพ่อ ตอนนี้ลูกบอกแม่ว่าเขามีนิสัยเหมือนพ่อมาก ดังนั้นต้องรักษาเขาเอาไว้ให้ดีๆ นะ” “ค่ะแม่ …แต่ว่า” กอหญ้ารู้สึกดีว่าเขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว อาจจะไม่รักเธอแล้ว และสักวันจุดจบมันก็ต้องมาถึง
บทที่2ความจริงปรากฏ เช้าวันต่อมา…กอหญ้าตื่นแต่เช้ามืดเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของเธอ ในเวลาเช้ามืดที่ยังคงมีเสียงน้ำค้างจากสายฝนหยดลงกระทบบนหลังคา ร่างเล็กยังคงนั่งนิ่ง ๆ มือบางถือสมาร์ทโฟนเก่า ๆ ไว้ในมือด้วยอาการสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้นทุกอย่างเงียบ เงียบจนใจของเธอรู้สึกปวดร้าว เบอร์โทรหรือแม้แต่ข้อความ ไร้วี่แววที่อัลฟ่าจะติดต่อกลับมา ทั้งที่เขาอ่านข้อความของเธอแล้วแท้ ๆ แต่เขาไม่คิดตอบกลับเธอสักข้อความเดียว…กอหญ้านั่งจ้องสมาร์ทโฟนของตัวเองนิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจ พลันน้ำตาก็ไหลหยดลงมาที่หน้าจอมือถืออย่างไม่รู้ตัวตอนที่เห็นหยดน้ำตาที่หยาดริน เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองร้องไห้แล้ว…กอหญ้ารีบสูดน้ำมูกขึ้นฟุดฟิด ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาออกไปอย่างลวก ๆ เธอไม่ควรร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นค่าในความรักของเธอ…กอหญ้าคิดว่านี่คงเป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบหนึ่งปี ความรักของเธอกับอัลฟ่าคงใกล้จบลงแล้วจริง ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอเพียงแค่อยากรู้ว่า เพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้…หรือเขาเบื่อเธอที่มันเฉิ่มเฉย หรือว่าเขาเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่า… หรือเขาไม่สบายใจอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ วันนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจ
กอหญ้าเลือกที่จะนั่งอยู่ด้านนอกร้าน เธอสั่งเพียงน้ำและเค้กมาทานเพื่อเฝ้าดูอัลฟ่าที่กำลังนั่งไขว่ห้างคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ หากให้เดาคงเป็นเพื่อนของเขา…ไม่มีผู้หญิงอย่างที่เธอแอบคิด… แต่ทำไมเขาถึงได้เมินเฉยกับเธอขนาดนี้นะ…กอหญ้าเม้มริมฝีปากนึกทบทวน จวบจนอัลฟ่าเดินไปข้างๆ ร้าน เธอจึงแอบตามไปเงียบ ๆ จนถึงจุดที่เขาและผู้ชายอีกคนยืนสูบบุหรี่สนทนากันอยู่…กอหญ้าแอบพิงกำแพงแอบฟังเงียบ ๆ แอบฟังพวกเขาคุยกัน เธออยากจะรู้ว่าอัลฟ้าจะสนทนาอะไรกับเพื่อนของเขาบ้าง อาจจะมีเรื่องของเธอบ้างก็ได้...“งานไปถึงไหนแล้วที่เกาะ” “ก็ดี เพาะพันธุ์ไข่มุกสวย ๆ ได้เรื่อย ๆ” “แล้วโรงแรม?” “ก็ไปได้ดี” “ไม่มีอะไรผิดปกติแน่นะ?” ผู้ชายอีกคนเอ่ยถาม เสียงกระซิบเสียมากกว่า“ถ้ามึงหมายถึงสายลับ ไม่มีทางที่พวกมันจะเข้าไปได้ เกาะกูไม่มีทางปล่อยผ่านง่ายๆ นอกจากจะเป็นพวกสายลับของพวกมึงที่จับได้ แล้วเอามาทิ้งขว้างให้คนของกูทรมานเล่น” เกาะของเขา…หมายถึงอะไร? อัลฟ่ามีเกาะส่วนตัวด้วยเหรอ…“ก็ดี ส่วนกาสิโนกูลักลอบเข้ามาเยอะจัด แต่ก็นะ ไม่มีทางรอดสายตากูได้สักคน” มาร์ตินอวยตัวเอง“ก็ดีแล้ว ถ้ามึงปล่อยมาสืบความลับของตระกูลมึ
บทที่3คำกล่าวหา“กอหญ้า…” สุ้มเสียงทุ้มต่ำลง เมื่อกอหญ้าปรากฏตัวที่นี่…“ไม่ต้องถามว่าหนูมาได้ยังไง ตอนนี้พี่ต้องตอบหนูมาก่อนว่าพี่อยากเลิกกับหนูใช่มั้ย!? ที่ผ่านมาพี่แค่หลอกให้หนูรักพี่ เพราะพี่คิดว่าหนูเป็นเมียน้อยของใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก!” กอหญ้าถามเขาเร็วพลัน ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้เขาจะมองจะคิดดูถูกกับเธอยังไงส่วนเกินอย่างมาร์ตินยังอึ้ง รู้สึกเป็นส่วนเกินขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก เมื่อตอนนี้ทั้งสองยืนจ้องหน้าฟาดฟันกันนิ่งงัน ไร้ซึ่งคำตอบกลับจากเพื่อนของเขา มาร์ตินจึงยักไหล่ถอนหายใจ ตัดสินใจเดินออกมาเงียบ ๆเพื่อให้ทั้งคู่ได้เคลียร์กัน“…” มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านเข้ามาที่ดวงหน้าของเธอ จนน้ำตาเริ่มแอบซึม แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาสมเพชเธอเด็ดขาด!“ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงใช่มั้ยคะ หนึ่งปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรักหนูเลยใช่มั้ยคะ!?” กอหญ้าเอื้อนเอ่ยคำถามต่อหน้า พยายามมองหาคำตอบจากแววตาของร่างสูงที่สูงกว่าเธอหลายเท่าตัว“ได้ยินหมดเลยสินะ…” แต่ทำได้เพียงเอ่ยเสียงเบา ๆและแค่นยิ้ม อัลฟ่าหรี่ตามองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งงัน แววตาเจือไปด้วยความเย็นชา และโกรธเคือง“ตอบมาสิคะ!? ตอบให้หนูหายโง่หน่อย
"ไม่! ฉันเชื่อในหลักฐานที่มี""งันหญ้าก็ไม่มีสิทธิ์โต้เถียง หากพี่คิดไปแล้วว่าหญ้าคือคนแบบนั้น" เธอจะยอมให้เขาตราหน้าไปก่อน และเธอจะต้องหาความจริงให้ได้ว่าทำไมชื่อของเธอถึงกลายเป็นเมียน้อยของคุณกายเธอจะต้องแก้มลทินที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยของคนที่เธอไม่รู้จักมักจีให้ได้ในสักวัน และเขาจะต้องเสียใจที่ทำกับเธอแบบนี้!“หึ! ฉันก็ต้องคิดแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้วสิ เพราะเธอเป็นเมียน้อยของมันจริง ๆ” กอหญ้าผ่อนลมหายใจหนัก ๆ อีกครั้ง“เอาเป็นว่าหนูจะไม่ยุ่งกับเขาอีก! และจะเลิกติดต่อเขาอย่างเด็ดขาด”“ได้! ฉันก็ขอให้เธอเลิกยุ่งกับมันจริง ๆ ...งันเธอต้องการเท่าไหร่ก็บอกมา ฉันจะโอนให้เลยตอนนี้ แลกกับคำสัญญาที่เธอเอ่ยมันออกมา”“หนูไม่ต้องการเงินของคุณ เมื่อหนูบอกว่าจะไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่งค่ะ และหวังว่าหลังจากจบกัน คุณจะไม่มาวุ่นวายกับหนูอีก!""ฮ่าๆๆๆๆ" อัลฟ่าระเบิดเสียงหัวเราะดังขึ้น หรี่ตามองเธอด้วยความบ้าคลั่ง พูดออกมาได้ว่าเขาจะไปวุ่นวายกับเธอ เธอน่ะสิที่จะมาวุ่นวายกับครอบครัวของเขา!"ใครกันแน่ที่จะมาวุ่นวาย เลิกกับไอ้กายให้ได้เด็ดขาดก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูด! และถ้าฉันยังเห็นว่าเธอยุ่งเกี่ยวกับสามีน้
บทที่4คำกล่าวหาที่เป็นจริงก๊อก ก๊อก ก๊อกแอด~บานประตูห้องของพี่สาวถูกเปิดออก สิ่งแรกที่กอหญ้าได้เห็นทำให้เธออึ้งไปชั่วขณะ เมื่อคนที่เธอถูกกล่าวว่าเป็นเมียน้อยของเขา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ“คุณกาย…”“มาหาพี่สาวเหรอ” กาศิตที่สวมเพียงกางเกงเปลือยท่อนบน เอ่ยถามเธออย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้“ค่ะ”นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! กอหญ้ารู้สึกจะล้มทั้งยืนเป็นรอบที่สอง สิ่งที่อัลฟ่าต่อว่าเธอ มันคือเรื่องจริงสินะ เพียงแต่เป็นพี่สาวของเธอที่เป็นเมียน้อยคุณกาย...“ครับ…” กายถอยหลังให้กอหญ้าเดินเข้ามาในห้อง ส่วนพี่ส