จากนี้เธอคือคนของฉัน
“ทำไม? แค่นี้ก็รอไม่ได้?” อัลฟ่าเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ดูก็รู้ว่าในใจของเธอคงอยากกลับบ้านไปหาชู้รักอย่างไอ้กายแล้ว
"มันดึกมากแล้ว…" เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น อัลฟ่าคว่ำปาก พลางเดินล้วงกระเป๋าเข้าไปในบ้าน พร้อมกับเดินชนไหล่กอหญ้าจนเธอเซชนเข้ากับประตู
การกระทำของอัลฟ่าทำให้กอหญ้ารู้ตัว ตอนนี้เขาคงรังเกียจกันมาก เธอจึงถอยเว้นระยะห่างจากเขา เพื่อไม่ให้เขารู้สึกลำบากใจ วันนี้เธออยากมาพูดดี ๆ กับเขา
“หญ้าแค่อยากรู้ ว่าทำไมถึงทำกับครอบครัวหญ้าแบบนี้ หญ้าไม่ได้ยุ่งกับคุณกายแล้ว…” กอหญ้าน้ำตาซึมยามที่คิดว่าอัลฟ่าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด เพียงเพราะเธอต่อต้าน ต่อกรกับเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วย
เธอทำให้เขาไม่พอใจ เขาจึงกลั่นแกล้งกันแบบนี้
“ไม่ได้ยุ่ง? แต่มันขอหย่ากับอันนาเนี่ยนะ? เนี่ยน่ะเหรอที่เธอบอกไม่ได้ยุ่งกับมัน!” อัลฟ่าหมุนกายกลับมามองเธอ กอดอกจ้องคนที่ทำเป็นไม่รู้อีโหนอีเหน่ ใบหน้ามีแต่รอยช้ำจากการถูกตบตีที่หน้าบริษัท
“เขาขอหย่าจริงๆ เหรอคะ?” กอหญ้าไม่อยากจะเชื่อ เธอคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเธอที่ดื้อด้านกับเขา
อีกอย่างพี่สาวของเธอยังยุ่งกับกาศิตจริง ๆ งันเหรอ…
พี่ไม่สงสารเธอเลยหรือไง! ทั้งที่รู้ว่าเธอจะเจอกับอะไรหากยังคบหากับกาศิตต่อ…
“เธอก็รู้อยู่แก่ใจนะกอหญ้า ตอนนี้เธอได้สมใจแล้วนี่ แย่งสามียัยนาได้แล้ว คิดจะทำอะไรต่อไปล่ะ ผลาญเงินมัน?” น้ำเสียงเย้ยหยันจนใจกอหญ้าเจ็บปวด สายตาของเขายิ่งทำให้เธอเจ็บแสบ กอหญ้าส่ายหน้า
“หญ้าไม่เคยต้องการเงินของใคร และหญ้าไม่รู้เรื่องที่คุณกายขอหย่าคุณนาด้วย แต่หญ้าจะบอกคุณว่าหญ้าจะไม่ยุ่งกับเขา หากเขาหย่าเพื่อมาคบกับหญ้า หญ้าจะไม่ตอบรับ” และเรื่องนี้เธอจะไปพูดกับพี่สาวให้รู้เรื่องด้วย!
“ฉันจะเชื่อเธอได้แค่ไหนกัน มีอะไรเป็นหลักประกันมั้ยว่าทุกอย่างที่ไอ้กายมันทำ เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย และเธอจะไม่กลับไปยุ่งกับมันอีก” อย่างเธอจะมีอะไรเป็นหลักประกันได้ เงินก็ไม่มี สิ่งของสำคัญราคาแพงก็ยิ่งไม่มี…
เธอมีแต่ความจริงใจให้กับเขา
“หญ้ามีแต่ความจริงใจให้…” กอหญ้าเอ่ยเสียงเศร้า มองเขาอ้อนวอนเขาให้เชื่อคำพูดของเธอ
“เหอะ! ความจริงใจ นางมารร้ายอย่างเธอใครจะเชื่อ ฉันคนหนึ่งที่ไม่มีวันเชื่อเธอ” กอหญ้าเงยมองดวงหน้าคมนิ่ง ความจริงใจที่มีให้ เขาไม่คิดเชื่อ
"งันหญ้าก็ไม่มีอะไรแล้ว…"
"คิดดี ๆ สิ" เขาบอกให้เธอคิดดี ๆ สายตาคมเจ้าเล่ห์มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาที่เลื่อนมองทำใจเธอเต้นตึกตัก
และทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่เขาต้องการจากเธอล่าสุด…
สัมผัสพวกนั้นยังตราตรึงบนผิวกายของเธอ…
“ไม่…” ถ้าเขาต้องการเรื่องแบบนั้น เธอยังคงยืนยันที่จะปฏิเสธ…
“ก็แล้วแต่… งันเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะยังคงดำเนินต่อไป ครอบครัวเธอ พี่สาวของเธอต้องพังพินาศเพราะมีน้องสาวเป็นเมียน้อยของคนอื่น” น้ำเสียงของอัลฟ่าดังกร้าวเหมือนฟ้าผ่ากลางใจของเธอ
เขาไม่มีทางให้เธอเลือกเลย
“ทำไมต้องทำแบบนี้กับหญ้ากับครอบครัวหญ้า” ทั้งที่รู้แต่เธอก็ใคร่ครวญอยากถามเขา
“ทุกอย่างมันเกิดและเริ่มต้นที่เธอริอาจอยากเป็นเมียน้อยคนอื่น ทำเรื่องราวมันบานปลายมาจนถึงวันนี้"
"…"
"การที่ฉันจะมั่นใจว่าจากนี้ เธอจะเป็นคนของฉัน ไม่ใช่ของไอ้กาย คือ เธอต้องนอนกับฉัน เป็นผู้หญิงของฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น …ถ้าไม่ทำก็กลับไปซะ!” อัลฟ่าโน้มตัวลงมาเอ่ยทางเลือกให้กับเธอ กลิ่นกายที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทำให้กอหญ้ารู้ว่าตอนนี้อัลฟ่าคงเมามาไม่น้อย…
เขาคงรังเกียจเธอมาก มากถึงขั้นต้องดื่มย้อมใจเพื่อนอนกับเธอในคืนนี้…
“หญ้าต้องทำแบบนี้นานเท่าไร่…” เธอพยายามเปล่งเสียงถามเขาออกไป
“นานเท่านาน หรือจนกว่าฉันจะเบื่อ” กอหญ้าขมวดคิ้ว เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง เขาจะไม่ปล่อยเธอเป็นอิสระแล้วงันเหรอ…?
“หมายความว่ายังไงคะ นานเท่านาน” เธอจ้องมองถามเขาอย่างใสซื่อ ในความรู้สึกของเขา
“ก็หมายความตามที่พูด ของเล่นที่ฉันอยากได้ เมื่อได้มาแล้วฉันก็ต้องเก็บไว้ข้างกายแม้จะเบื่อสักแค่ไหน ตำแหน่งของมันก็ยังคงอยู่ที่เดิม ถ้าไม่เล่นจนพังหรือเบื่อจริง ๆ ก็คงไม่มีทางที่ฉันจะโล๊ะทิ้ง”
“…!” เขาหมายความว่า การที่เขาจะเล่นของเล่นชิ้นหนึ่ง มันไม่มีเวลาระยะที่แน่นอนว่าเขาจะเล่นมันได้นานแค่ไหน
“อย่างเช่นโมเดลหุ่นยนต์ที่อยู่ในตู้โชว์พวกนั้น มันอยู่ยังไงเธอก็อยู่อย่างนั้น” ชัดเจน… เขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่ของเล่น ตราบใดที่ยังไม่เบื่อ ไม่พัง เขาก็จะเก็บเธอไว้ข้างกายแบบนั้นตลอดไป
“งันหญ้าคงต้องขอภาวนาให้คุณเบื่อหญ้าไว ๆ แล้วค่ะ" น้ำเสียงสิ้นหวัง ดวงหน้า เศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเธอไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก
“อ่าห๊ะ…” รอยยิ้มแสยะยิ้มร้าย เมื่อกอหญ้าตัดสินใจแล้ว…
“…แล้วเรื่องครอบครัวหญ้า พี่สาวหญ้า”
"ฉันจะช่วยปิดข่าวให้เอง ใช้เวลาไม่นานหรอก ส่วนเรื่องของพี่สาวเธอ…” อัลฟ่าเงียบไป แต่ใช้สายตามองดวงหน้าหวานที่รอฟังเขาอยู่ด้วยแววตาสั่นระริก สั่นกลัวเหมือนลูกนกน้อยที่ถูกรังแก
“สวยกว่าเธอ หรือว่าฉันเปลี่ยนใจ เอาทั้งเธอ แล้วก็เอาทั้งพี่สาวบุญธรรมของเธอด้วย เธอว่าดีมั้ย…?”
“ไม่! นั่นมันพี่สาวของหญ้านะคะ คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้! อย่ายุ่งกับพี่สาวหญ้า …คุณจะทำอะไรกับหญ้าก็ได้แต่หญ้าขอร้อง อย่าทำพี่สาวและครอบครัวของหญ้า อย่าดึงพวกเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้” ในเมื่อเธอตกลงแล้ว ยอมสยบแทบเท้าเขาแล้ว เขาก็ไม่ควรดึงใครเข้ามาเกี่ยวข้องอีก…
“หึ! เธอน่ะพูดง่ายๆ ก็น่ารักนะ เสียก็แต่ดื้อจนบางทีฉันก็หมดความาเอ็นดู…”
“ต่อไปหญ้าจะไม่ดื้อ…” กอหญ้าเอ่ยเสียงอ่อน มองสบตาเขาอ้อนวอนขอร้องเขาให้ทำตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก
“งันก็อ้อนวอนสิ อ้อนวอนให้ฉันช่วยเธอ” อัลฟ่ายิ้มอย่างผู้ชนะ มองสภาพของกอหญ้าที่มีแต่รอยช้ำอีกครั้ง แต่มันก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกสงสารเธอได้อีก
เพราะสิ่งที่เธอกระทำกับน้องสาวของเขา มันสมควรแล้วที่เธอจะได้รับมัน…
“หญ้าขอร้อง ช่วยครอบครัวหญ้าด้วย” กอหญ้าสูดลมหายใจลึก ๆ คุกเข่าลงตรงหน้าอัลฟ่า เธอก้มหน้าขอร้องเขาอย่างคนไม่มีทางสู้ให้กับตัวเอง
อัลฟ่าคว่ำปากยิ้มสะใจที่สามารถกำราบและทำให้กอหญ้าก้าวเข้ามาสยบแทบเท้าเขาได้แบบนี้
“…เข้าไปรอในห้องข้าง ๆ ห้องนั้น แล้วจัดการถอดเสื้อผ้า จัดการตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อฉันเข้าไปฉันต้องเห็นว่าเธอพร้อม…” กอหญ้าเม้มริมฝีปากแน่น มองตามร่างสูงที่ย่ำก้าวเข้าไปยังห้องครัว เธอเห็นเขาหยิบไวน์มาดื่ม ก็พอรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรต่อจากนี้
กอหญ้าตัดสินใจหยัดกายลุกขึ้นยืน หันตัวก้าวเดินเข้าไปในห้องที่เขาสั่งให้เธอเข้าไปรอเขา ประตูถูกปิดลงกอหญ้ามองเสื้อผ้าตัวเองก่อนจะถอดมันวางไว้ที่โซฟาข้างๆ กำแพงห้อง เธอถอดเสื้อผ้าออกทีล่ะชิ้น ๆ จนหมด เท้าบางจึงเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที
รอยเลือด เปื้อนฝุ่น เธอล้างมันออกไปจนหมด เหลือไว้เพียงความบอบช้ำที่ถูกกระชาก ตบ ตีเมื่อตอนเย็น… มือบางถูสบู่ไปตามเรือนร่างของตัวเอง ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม ก่อนจะล้างตัวและหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันตัวอย่างบางเบา
เธอเลือกทางไหนได้บ้าง…
กอหญ้าหลับตาลง
ไม่มีทางให้เลือกเลย…
กอหญ้าบอกตัวเองควรปลงได้แล้ว เธอมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง มองกอหญ้าที่บัดนี้มีแต่ความอ่อนแอ น้ำตาไหลซึม…
ไร้รอยยิ้มที่เคยมี
กอหญ้าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตัดสินเปิดประตูห้องน้ำ พาร่างกายที่สั่นเทาของตัวเองไปนั่งรออัลฟ่าที่เตียงนอนขนาดคิงไซซ์…
แอด~
ร่างแกร่งกำยำของอัลฟ่าก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับไวน์หนึ่งขวด… เขาอยู่ในสภาพที่เปลือยเพียงท่อนบนส่วนล่างมีเพียงผ้าเช็ดเพียงตัวผืนเดียว…
กอหญ้าหัวใจเต้นแรงมากยิ่งขึ้น เต้นแรงตามจังหวะที่เขาก้าวเข้ามาหาเธอ…
เขาจะทำเธอจริงๆ งันเหรอ
หากเธอขอร้องเขาอีกครั้ง เขาจะใจอ่อนมั้ย…
ไม่…
คำตอบคงไม่เหมือนเช่นเดิม…
ปัง!
กอหญ้าสะดุ้งจนสุดตัวยามที่ประตูห้องถูกปิดลง อัลฟ่าใช้เท้าหนาถีบปิดประตูจนเกิดเสียง กอหญ้าตั้งสตินั่งรอเขานิ่งงัน เธอสบตามองเขาที่ก้าวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
ร่างกายเธอหนาวสั่น ยามที่สายตาคมมองสำรวจร่างกายที่สั่นเทาของเธอ มันทั้งจับจ้วงและต้องการ…
อัลฟ่ากวาดมองไหล่มนที่โผล่พ้นเปลือยเปล่าก็พลันแสยะยิ้ม เขารู้ว่าเรือนร่างของกอหญ้าสวยงามมากแค่ไหน…
ซึ่งเขาเคยได้สำรวจมันมาแล้ว และถึงได้ติดใจ อยากได้เธอมาจนถึงทุกวันนี้…
นิ้วเรียวยาวเกลี่ยผมของกอหญ้าไปข้างหลัง จากนั้นจึงลูบไล้ลงที่ไหล่บาง เลื่อนไปที่ไหปลาร้า และเลื่อนขึ้นมาเชยคางเรียวให้เธอได้เงยมองเขา สบตากับเขา…
ริมฝีปากบางสั่นระริก มองหน้าอัลฟ่าด้วยหัวใจที่แตกสลาย
รู้ตัวอีกทีมือหนาก็ยกขวดไวน์ขึ้นกรอกปากของเธอแล้ว กอหญ้าขัดขืนเพียงเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็จำยอมกลืนมันเข้าไปตามที่เขาต้องการ
ในหนึ่งความคิด เธอควรเมาเหมือนกัน เมาให้มาก ๆ มากพอที่จะจำไม่ได้ว่าคืนนี้ เธอทำอะไรลงไปบ้าง…
“ดื่มซะ! คืนนี้จะได้สนุกมากว่าดีดดิ้น แล้วทำตัวให้ฉันเสียอารมณ์”
อึก อึก อึก
ไวน์ที่มีรสหวานอมขมฝืดคอ ไม่ถูกใจเธอสักเท่าไหร่ แต่กอหญ้าก็จำต้องกลืนมันลงไปจนเกือบหมดครึ่งขวด ของเหลวสีแดงเลอะไหลลงมาตามลำคอระหง
เมื่อเขาหยุดกรอกไวน์ กอหญ้าก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมาด้วยความมึนเมา
“หึ! เมาไวขนาดนี้เชียว” เสียงหัวเราะ แววตาที่แสนดูถูกของเขากำลังกัดกินหัวใจของเธอ คนที่เธอเคยรักมาก มากที่สุดตอนนี้กำลังทำร้ายกันจนใจเธอเจ็บ
มือหนาวางขวดไวน์ไว้ที่โต๊ะเตี้ยข้างหัวเตียง แต่กอหญ้ากลับดึงมือเขาเอาไว้
"…?"
"ที่เหลือหญ้าจะดื่มให้หมด!"
อึก อึก อึก
กอหญ้ายกดื่มไวน์จนหมดขวด อัลฟ่าเหยียดยิ้มกับความอวดเก่งของเธอ คิดจะดื่มไวน์เพื่อย้อมใจตัวเองให้กล้านอนกับเขาในคืนนี้สินะ!
ก็ดี…
พึ่บ!
มือหนาโยนขวดไวน์ทิ้งลงข้าง ๆ เตียงอย่างขุ่นเคืองใจ อัลฟ่ากดกอหญ้าให้นอนกับที่นอน สายคมมองสำรวจคนที่ดื่มจนเมาหน้าแดงก่ำจนนึกสมเพช ทั้งสองจ้องมองกันและกัน
"เอาเลยค่ะเริ่มเลย…" กอหญ้าหลับตาเชิดหน้าถือดี ด้วยความเมามาย ยอมรับทุกการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ อัลฟ่ายิ่งแสยะยิ้มเย้ยหยัน ที่เธอทำเป็นเก่ง แต่สีหน้านั้นดูขมขื่นไม่น้อยเลย
สะใจเขาเหลือเกิน!
อัลฟ่าโน้มลงไปตามซอกคอขาว ใช้ริมฝีปากจูบซับไวน์ที่เลอะเปื้อนบนลำคอของเธอ จากนั้นจึงจูบซับใช้ลิ้นเลีย ของเหลวจากไวน์ที่ไหลเป็นทางยาว
จนตอนนี้มันเหือดแห้งทดแทนด้วยน้ำลายของเขา…
ดวงหน้าคมหยุดอยู่ตรงหน้าดวงหน้าหวานที่หลับตาพริ้ม เขาหยุดมองที่ริมฝีปากบางอวบอิ่มนุ่มของเธอ ยิ่งกอหญ้าสั่นเทามากเท่าไร เขาก็ยิ่งพอใจมากเท่านั้น
“ฉันก็อยากจะรู้นัก ว่าเธอมีดีอะไรนักหนา…” อื้อ~ กอหญ้าหลับตาลงแน่นเมื่ออัลฟ่าเริ่มบดจูบริมฝีปากของเธออย่างหื่นกระหาย เขาระบายความขุ่นเคืองในใจลงไปกับร่างบางด้วย
มือหนาดึงทึ้งผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวของกอหญ้าออกไป มือหนาวนลูบเคล้นคลึงอกอิ่ม กอหญ้าแอบเกร็งตัวในทุกสัมผัสที่เขาเลื่อนผ่าน
แต่เธอก็พยายามเตือนตัวเอง ว่าไม่ควรดีดดิ้นให้เขาไม่พอใจ
แควก~
เมื่อเขาผละออกไปจากเธอ พร้อมกับเสียงฉีกซองถุงยางอนามัยที่ดังขึ้น กอหญ้าลืมตามองทุกการกระทำของเขา ที่ตอนนี้กำลังสวมเครื่องป้องกัน อาจเพราะความเมาที่ทำให้เธอกล้ามองเขาแบบนี้…
เธอกำลังจะสูญเสียสิ่งสำคัญของตัวเองให้กับคนอย่างอัลฟ่าอีกครั้ง…
ปึก ผึด!
อื้อ~
กอหญ้าไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ร่างสูงก็แทรกเข้ามาระหว่างขาของเธอ เขากดแก่นกายอันแข็งแกร่งดันกระแทกเข้ามาหาเธอจนสุดด้าม และไร้ซึ่งการเล้าโลม
อัลฟ่าทำลายเยื่อพรหมจรรย์ของกอหญ้าจนหมดสิ้น…
ความเจ็บ ความอึดอัด ทำให้กอหญ้านิ่วหน้าเจ็บจนเหงื่อซึม มือบางจิกเล็บลงกับที่นอนแน่นทันทีที่เขาเริ่มขยับเคลื่อนไหวกาย
“เจ็บ อ๊ะ!” กอหญ้าครวญคราง หลับตาแน่น ยามที่ตัวตนแท่งร้อนขยับเข้ามาในกายของเธอซ้ำอีก
“แน่นฉิบ!” ร่างแกร่งแทบจะกลืนกินกอหญ้า เขาดันแก่นกายจนมิด ไม่คิดสนใจว่าตนนั้นได้ทำลายความบริสุทธิ์ของหญิงสาวไปแล้ว และยิ่งร่างแกร่งขยับกาย ยิ่งสร้างความวูบโหวงที่ท้องน้อย ความอึดอัด ยิ่งทำให้กอหญ้าเปล่งเสียงครางออกมาด้วยความเจ็บจุกปนเสียว
ความเจ็บที่เกิดขึ้นทำให้กอหญ้าเริ่มดิ้น เพื่อให้เขาออกไปจากร่างกายของเธอก่อน
"พอก่อน หญ้าเจ็บ…" เธออยากตั้งหลักอีกครั้งเท่านั้น แต่เขากลับไม่คิดปรานีเธอ ยังคงสอดผสานเชื่อมต่อระหว่างกันอยู่อย่างนั้น แม้แต่เล้าโลมกันเขาก็ยังไม่คิดทำ!
“หยุดดิ้น! ไม่ว่าตอนนี้เธอจะอยากให้ฉันปล่อยแค่ไหน ฉันก็ไม่มีทางปล่อยเธอ”
ปึก ปึก ปึก
แท่งร้อนอัดเข้าไปจนลึกอีกครั้ง และอีกครั้ง
“เจ็บ…หญ้าแค่ขอตั้งหลัก” เธอคล้ายอ้อนวอนเขาให้ผ่อนปรน ทว่าตอนนี้อัลฟ่าไม่คิดหยุด เพราะเขาเองก็ไม่สามารถหยุดตัวเองได้แล้วเช่นกัน
อีกอย่าง… ตอนนี้สำหรับกอหญ้าในสายตาของเขาแล้ว เธอเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาระบายความใคร่เท่านั้น!
ผู้หญิงอย่างเธอ ไม่คู่ควรได้รับความอ่อนโยนหรือเล้าโลมจากเขาเพียงสักเสี้ยวเดียว!
แค่นอนเป็นตุ๊กตายางให้เขาเอาก็พอ!
อัลฟ่าใช้ขาทั้งสองข้างแยกเรียวขาบางออกจากกันอีกนิด กอหญ้าทรมานเจ็บจนน้ำตาไหล เมื่อสะโพกแกร่งกำลังซอยกระแทกกระทั้นเข้ามาซ้ำถี่และเร็วขึ้น
อ๊ะ อ๊ะ…
มือหนาเปลี่ยนมาประสานกดตรึงข้อมือบางไว้กับที่นอน เขาเฝ้ากระซิบทั้งที่ส่วนล่างยังคงเร่งจังหวะเข้าหา
"แสร้งทำเป็นเจ็บ หึ… เดี๋ยวเธอก็เผยธาตุแท้ออกมากอหญ้า… อ่าห์" อัลฟ่ารู้สึกถึงความคับแน่นที่กอหญ้ากำลังบีบรัด ตอดรัดแน่น ยิ่งเขากระแทกความใหญ่โตเข้าหาเธอเท่าไร ความปวดหนึบยิ่งรัดคับรอบแก่นกายของเขา
"รีแพร์มาดี หรือของไอ้กายมันเล็ก?" อัลฟ่ายังคงเอ่ยถาม คำถามที่ดูแคลนเธอ ทำให้กอหญ้าไม่คิดอธิบายอีก เธอเคยบอกเขาไปแล้วว่าเธอยังไม่เคย
นี่คือครั้งแรกของเธอ และเขาก็คือคนแรกที่พรากมันไปจากเธอ
พรากไปทั้งหมด ทั้งหัวใจและร่างกาย…
เขาหลอกเด็กคนหนึ่งให้รักเขาหมดทั้งหัวใจ และตอบแทนความรักของเธอด้วยการทำร้ายหัวใจ ทำลายความรักเธอซ้ำๆ แบบนี้
เขาทำลายครั้งแรกของเธอด้วยการย่ำยีร่างกายและจิตใจ
เธอไม่ควรรักเขา…
ไม่ควรเลย…
อืม…
อัลฟ่าเสียวซ่านครวญครางออกมาอย่างพึงพอใจ กอหญ้าหมดสิ้นความหวังที่เขาจะปรานีกัน จึงเลือกที่จะเบือนหน้าหนี ข่มความเจ็บเอาไว้ให้ลึกสุดใจ
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป… เธอคิดเพียงแค่นั้น…
อื้ออ~
เสียงครวญครางเริ่มดังระงมเมื่อกอหญ้าเริ่มปรับตัวได้ จากเจ็บแสบฝืดเคือง ตอนนี้อัลฟ่าเรียกน้ำรักที่หยาดเยิ้มของเธอออกมาได้แล้ว เรือนร่างกอหญ้าสั่นคลอนไปตามจังหวะเคลื่อนไหวของคนเหนือกาย
ดวงหน้าคมเงยขึ้นมามองดวงหน้าหวานที่เบือนหน้าหนีเขาอีกครั้ง ดวงหน้าหวานมีรอยน้ำตา รอยยิ้มร้ายจึงยกขึ้นเยาะเย้ย
“เสียใจ? หรือจริงๆ แล้วดีใจจนตัวสั่นที่ได้ขึ้นเตียงกับฉัน!?”
“หญ้าไม่เคยอยากขึ้นเตียงกับคุณ!” เธอหันขวับมาปฏิเสธ
“แน่ใจ?”
อื้ออ~
อัลฟ่ากระแทกเข้าหาร่างบางแรงขึ้น กอหญ้าพยายามบิดข้อมือออกจากกันเกาะกุมแต่มันไม่ช่วยอะไรได้เลย!
อัลฟ่ามองคนที่ไร้ทางสู้อย่างกอหญ้าก็แสยะยิ้มสะใจ เขาต้องการทำให้เธอเห็นว่าร่างกายของเธอก็ต้องการเขาเช่นกัน จึงกระแทกเข้าหาซ้ำๆ แรงกระแทกหรืออะไรก็แล้วแต่
ตอนนี้เธอสั่นคลอนและความเมามายที่ดื่มไปมาก ทำให้เธอสิ้นสติ เมาจนร่วมรักกับเขาอย่างเชื่อง ๆ แอบสวนจังหวะกลับไปหาอัลฟ่า ตอนนี้กอหญ้าลืมสิ้น ปล่อยให้ความอยากครอบงำ แอ่นกายเข้าหาเขาซ้ำๆ หาทางให้ตนเสร็จตามสัญชาตญาณครั้งแรกแบบเงอะงะ
ปึก ปึก ปึก
แรงกระแทกรุนแรง เร่งเร็วขึ้น อัลฟ่ารู้ว่ากอหญ้าต้องการเขา แต่เขาไม่คิดที่จะช่วยเธอ เขาต้องการให้เธอรู้สถานะ ว่าเธอเป็นได้แค่ไหน
ต่อให้อ้อนวอนแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางช่วย อยากเสร็จก็ต้องหาทางเสร็จเอง!
อื้ออ
"คุณ หญ้าเหมือนไม่ไหว…" เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร รู้เพียงว่าเธอต้องการปลดปล่อย!
"จะให้ฉันช่วย?"
"…" กอหญ้าเงียบลง เธอพยักหน้าตอบเขา แม้ว่าเขาอาจจะดูถูกเธอ แต่ความเมาทำให้เธอไม่มีความเนียมอาย หรือสนใจในเรื่องนั้นอีก
ทว่ากอหญ้าได้เพียงสบสายตา และได้เห็นแววตา รอยยิ้มที่เหยียดยิ้มแสนร้ายนั้น มันทำให้เธอคิดว่า
เขาจะไม่ช่วยเธอ…
"เสียใจด้วย เพราะฉันไม่มีวันช่วยเธอ" เขากระซิบ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ แม้เธอจะอยากปลดปล่อยมากแค่ไหน แต่ก็รู้สถานการณ์ในตอนนี้ดีว่าเป็นยังไง กอหญ้าไม่ได้ขอร้องอ้อนวอนต่อเขาอีก เธอหลับตาปล่อยให้อัลฟ่ากระทำเธอเช่นนั้นต่อไป
พึ่บ พึ่บ พึ่บ
เสียงครวญครางดังขึ้นแข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ระงมดังทั่วห้อง จากที่ไม่สมยอมตอนนี้กอหญ้าถูกช่วงชิงลมหายใจ ล่อลวงให้ติดกับด้วยความช่ำชอง สุดท้ายเธอจึงเผลอลืมตัวซ้ำ ๆ จากที่เจ็บเพราะคำพูดของเขาตอนนี้เธอกลับหลงลืม สมยอมร่วมรักกับเขาเพราะความเมามายและพร้อมมีเซ็กส์ที่ถูกเขาเป็นผู้กระทำ
อ่าห์
ร่างแกร่งเกร็งกระตุกปลดปล่อยทุกอย่างในกายของกอหญ้า มือหนาล็อกท้ายทอยของกอหญ้าเอาไว้บดจูบเธออีกครั้งซ้ำๆ ความเจ็บแสบปวดระบมยามที่เขากระทำ
บัดนี้แท่งเอ็นร้อนยังคงฝังแน่นไม่ยอมถอดถอน เขาเกร็งกระตุก ดันชิดจนมิดด้ามอีกครั้ง ซึ่งแรงกระตุกแรงพอที่เธอจะรู้สึกถึงมันได้
กอหญ้าหอบหายใจเหนื่อยอ่อน แอบโล่งใจเมื่อคิดว่าทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว…
อัลฟ่าหยัดกายขึ้นอีกครั้ง สายตาคมมองสำรวจความงามอมชมพูที่เนียนสวยตรงหน้า กายแกร่งจึงถอดถอนตัวตนออกมา เครื่องป้องกันเปื้อนเลือดและน้ำรักที่เยิ้มผสานเลือดที่ไหลซึมยิ่งทำให้อัลฟ่าทั้งแปลกใจ ละคนรู้สึกดีที่ได้เห็นมัน
เขาเป็นคนแรกของกอหญ้า…
“ไม่คิดว่าไอ้กายมันจะปล่อยเธอมาจนถึงมือฉันได้…” เขาพึมพำ
“ทำไมถึงยังซิง…” อัลฟ่าถาม ทั้งที่เธอเป็นเมียน้อยไอ้กาย แต่ไอ้กายกลับไม่เคยทำอะไรเธอเลย ที่เธอเคยบอกว่าไม่เคย เป็นเรื่องจริงสินะ…
และตอนนี้เขาได้พิสูจน์มันเองกับตัว…
“…”
“ทั้งที่มันไม่ควรปล่อยเธอให้หลุดมาถึงมือฉัน!” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ
“…” ทว่ากอหญ้ายังคงเงียบ เธอไม่รู้ว่าจะตอบเขากลับไปเช่นไร เพราะเธอเคยบอกไปแล้วว่าเธอไม่เคย! เขาก็ไม่เชื่อ
“ตอบ!” อัลฟ่าขึ้นเสียงถาม กอหญ้าตื่นตกใจ จ้องมองเขาอย่างขุ่นเคือง
“เพราะเขาไม่ได้ใจร้ายเหมือนคุณ” และเธอเลือกที่จะประชดเขาออกไป ต้องการให้อัลฟ่าสำนึกสักนิด สำนึกในสิ่งที่เขาทำลงไป
เขาพรากครั้งแรกของเด็กคนหนึ่ง เด็กที่ไม่มีทางต่อกรกับเขาได้!
“เหอะ! ใจร้ายงันเหรอ... งันคืนนี้ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าฉันน่ะ ใจร้ายกับเธอได้มากกว่านี้อีก!”
บทที่14ปีศาจพึ่บ!อัลฟ่าดึงเครื่องป้องกันทิ้งไป จากนั้นจึงดันตัวตนถูไถลงที่เนินสาวของกอหญ้าอีกครั้ง เมื่อเขาคือคนแรกของเธอ และเขาไม่ได้กินเศษซากเหลือเดนของใครวันนี้เขาจะกลืนกิน สัมผัส ตีตราเธอทั้งตัวตีตราจองเธอไว้เป็นของเขาเพียงคนเดียว…อื้ออ~กอหญ้าหลับตาลงอีกครั้ง ยามที่อัลฟ่าสอดผสานเข้ามารังแกกันอีกหน ครั้งนี้ร่างแกร่งโน้มตัวลงไปที่ลำคอขาว เขากดจูบขบเม้มจนเป็นรอยแดงช้ำ พร้อมกับประสานมือเข้ากับกอหญ้าให้จมอยู่กับเตียงนอนเขากดจูบขบเม้มเธอจนเกิดรอยแดงไปทั่วเรือนร่างที่เขาเลื่อนผ่าน อัลฟ่ากดตีตราเธออย่างมันเขี้ยวจากที่คิดว่าจะด้อยค่าเธอให้เป็นเหมือนตุ๊กตายาง พอรู้ว่าเธอยังไม่เคยผ่านมือใครมา อัลฟ่าจึงไม่คิดปล่อยผ่านกอหญ้าสวยขนาดนี้ เขาต้องสัมผัสให้ครบทุกตารางนิ้วสิถึงจะถูก…ความเจ็บตามผิวกายที่ถูกฟันของอัลฟ่าเกาะเกี่ยว ทำให้กอหญ้าเม้มริมฝีปากลงแน่น รู้สึกถึงสัมผัสที่เลื่อนล
บทที่15รับกรรมที่ไม่ได้ก่อตื้ด~เสียงข้อความเข้าจากสมาร์ทโฟนของกอหญ้า เป็นเบอร์ของอัลฟ่า เขาปลดบล็อกเบอร์ของเธอแล้ว[ไปรอที่เพนท์เฮ้าส์] อัลฟ่าบอกให้เธอไปรอเขาที่เพนท์เฮ้าส์ ความหวังสุดท้ายของเธอติดต่อกลับมาแล้ว กอหญ้าจึงรีบลงรถเมล์กลางคัน[เฟย์ต้าจะไปรับ] ข้อความถูกส่งมาอีกครั้ง ทำให้กอหญ้าชะงักนิ่งทันทีที่ก้าวขาลงเหยียบบนพื้นฟุตบาท เฟย์ต้าจะมารับ แล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่ไหน กอหญ้ากำลังจะส่งข้อความกลับปริ้น~เสียงแตรของรถหรูสีดำดังขึ้นข้างกายของเธอ กอหญ้าหันหน้าไปมอง ก็เจอเข้ากับดวงหน้าคมคายของเฟย์ต้าที่ลดกระจกมองเธอ“นายให้มารับครับ” เฟย์ต้าเอ่ยเพียงแค่นั้นก็ปิดกระจกขึ้นอีกครั้ง กอหญ้าขบเม้มริมฝีปาก แอบสงสัยที่เฟย์ต้ามารับเธอในทันทีที่อัลฟ่าส่งข้อความมา…กอหญ้าสลัดความคิดออกไป เธอทำตามเขาอย่างว่าง่ายด้วยการขึ้นไปนั่งบนรถหรูของเฟย์ต้า เมื่อกอหญ้าขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เฟย์ต้าจึงออกรถทันที
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่25ความจริงปัง!มือหนาทุบลงบนโต๊ะเมื่อได้ยินคำรายงานทุกคำจากเฟย์ต้า“มึงหมายความว่ายังไง!?” ภาพตรงหน้าทำให้มือหนากำหมัดแน่น ตัวสั่นจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ นักสืบจากรามิลทำงานได้ดี แกะรอยรถที่ชนอันนาได้ภายในวันเดียว รวมถึงไอ้กายที่มันหนีไปได้อย่างไร้ร่องรอยแต่มันจะหนีไปจากดวงตาของนักสืบไอ้รามิลไม่ได้นานหรอก!วันเดียวก็เกินพอแล้ว!ตอนนี้ภาพของกาศิตกำลังหนีคนของรามิลหัวซุกหัวซุน หนีไปพร้อมๆ กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจากที่เฟย์ต้ารายงานคือพี่สาวของกอหญ้าน้ำอิง…“เมียน้อยคุณกาศิตคือคุณน้ำอิงครับ”ความจริงจากปากไอ้เฟย์ต้า ทำเอาหัวใจแกร่งกระตุก เมียน้อยตัวจริงของไอ้กาศิตคือน้ำอิงไม่ใช่กอหญ้า!ที่ผ่านมาเขาเข้าใจผิดกอหญ้ามาโดยตลอด!ตอนนี้ความรู้สึกผิดกำลังโจมตีเขาอย่างหนักหน่วง เมื่อความจริงถูกเปิดเผย!"นี่ครับหลักฐาน" เฟย์ต้าตอกย้ำความผิดพลาดที่เขาก
บทที่23ขอของเล่นคืนปัง ปัง ปัง!“ใคร!?” ลีโอตะโกนถาม หันไปมองประตูที่มีเงารองเท้าเยอะผิดปกติ คิ้วเรียวขมวดพลางหันกลับมาสบตากับกอหญ้าเงียบๆ"เปิดประตู!" เสียงของอัลฟ่าทุบประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานว่า กอหญ้ากำลังสนุกกับไอ้ลีโอ!ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรร่านฉิบหาย!แควก!ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนารีบปลดสายคล้องคอขอวกอหญ้าออก ตอนนี้เนินอกของเธอแทบเปลือยจมูกคมสัน ริมฝีปากหนา กดจูบขบเม้มลงบนผิวกายของเธอซ้ำ ๆ จนกอหญ้าทุบตีเขาอย่างตื่นตกใจปัง ปัง ปัง!“นี่! เดี๋ยว! ไหนบอกจะไม่ทำไง” กอหญ้าต่อว่าลีโอ ทั้งตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ต้องทำ ใครมาไม่รู้หรือไง?”“อัลฟ่า…” เธอจำเสียงเขาได้“ใช่! ดังนั้นก็เล่นละครกับฉัน” กอหญ้าหยุดนิ่งทันที บทบาทที่เธอเพิ่งได้รับ ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง กอหญ้าจ
บทที่22เปิดตัวประมูลกอหญ้ายืนน้ำตาคลอหลังจากที่ออกจากห้องทำงานของอัลฟ่า ตอนนี้เธอยืนนิ่ง ๆอยู่หน้ากรงขนาดใหญ่ ถูกวาลิถอดชุดคลุมออกให้เหลือเพียงชุดเมดผ้าลูกไม้ที่แสนเซ็กซี่วาลิยิ้มกริ่มพอใจกับพนักงานคนใหม่ของคลับ กอหญ้าสวยมากจริง ๆสวยขนาดที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 'สวยจนไร้ที่ติ…'สายตากลมโตของกอหญ้าน้ำตาเอ่อซึมเธอกำลังยืนมองกรงทองขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาหรูสีแดงสด …สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เธอคิดว่ามันคงเป็นที่ที่เธอต้องเข้าไปนั่งอวดโฉมประมูลในค่ำคืนนี้พอนึกคิดหัวใจบางก็พลันวูบไหว เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งประตูกรงทองนั้นถูกเคลื่อนออก หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น มือบางกุมมือกันแน่น เธอไม่สามารถรอดพ้นไปจากตรงนี้ได้เลยจะมีใครสักคนมั้ยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอได้…ช่วย… ถ้าจะมีคนมาช่วยที่นี่ก็คงมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้น ที่สามารถช่วยเธอได้!ซึ่งเขาประกาศก้องแล้วว่าเขาไม่มีทางช่วยเ
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป