อื้อฉาว
หลายวันต่อมา…
ทุกอย่างคล้ายกลับสู่ความสงบเดิม ตั้งแต่เจออัลฟ่าครั้งนั้น เธอก็ไม่พบเจอเขาอีกเลย ส่วนพี่สาวเธอ อัลฟ่าไม่ได้ไปตามนัด เขาให้น้ำอิงไปรออีกชั้น ก่อนจะโทรยกเลิกนัด คิดว่าคงรีบไปทำธุระจริง ๆ
ส่วนร้านของพ่อกับแม่ช่วงนี้เงียบกริบ กริบจนไม่มีแม้แต่เงาลูกค้าเลยสักคนเดียว!
ร้านข้าวแกงที่ขายดีมาตั้งแต่เกิด แต่กลับเงียบลง ลูกค้าหายไปจนแทบไม่เหลือ มันทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าอาจจะเป็นฝีมือของอัลฟ่า…
ทั้งที่ไม่อยากอคติกับเขาขนาดนั้น แต่มันก็อดที่จะคิดไม่ได้จริง ๆ
“แม่คะ หญ้าไปเดินเล่นข้างนอกก่อนนะ” บางทีเธออาจจะหมกมุ่นคิดถึงอัลฟ่ามากเกินไป ไปเดินเล่นให้จิตใจปลอดโปร่งหน่อยก็ดี…
“จ้ะ” เรือนรองพยักหน้า กอหญ้าจึงเดินออกไปเดินเล่นนอกร้าน จู่ ๆ เสียงข่าวทีวี จากร้านขายน้ำดังขึ้นเรียกความสนใจจากเธอ
“ข่าวด่วน สั่งปลดฟ้าผ่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ สาวสวยที่เพิ่งมีข่าวออกเดตกับไฮโซหนุ่ม อักษรย่อ อ ตอนนี้ถูกสั่งปลดฟ้าผ่า นางแบบสาวเผลอทำอะไรผิดหรือเปล่าเราไปฟังกันจ้า~”
ข่าวซุบซิบโชว์คลิปที่พี่สาวของเธอกำลังวิ่งหนีนักข่าว กอหญ้ารู้สึกถึงเรื่องไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ เธอมองกลับไปที่บ้าน พลันหมุนตัวกลับบ้านเพื่อไปหาพ่อกับแม่
“เรื่องคร่าว ๆ นะคะ คือมีข่าวฉาวสุดร้อน น้องสาวของนางแบบดังออกมาเมื่อคืน น้องสาวของนางแบบน่ะ แอบไปเป็นเมียน้อยของคุณ ก อดีตสามีคุณ น น้องสาวของไฮโฮหนุ่ม อ ทีนี้พอจับได้ก็เป็นเรื่องราวใหญ่โต พี่สาวก็เลยโดนเด้งสั่งปลดฟ้าผ่า บลา…” เธอกลับมาพอดีกับที่พ่อแม่ดูข่าว เรือนรอง อดิศรหันกลับไปมองกอหญ้านิ่งงัน สายตาใคร่รู้ ต้องการคำตอบจากลูกสาว
กอหญ้ายืนนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าอัลฟ่าจะทำกับเธอแบบนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนเธอแทบตั้งหลักตั้งตัวไม่ทัน…
“คือว่า…มันไม่ใช่อย่างที่พ่อกับแม่คิดนะคะ” กอหญ้าหาเสียงตัวเองจนเจอ จึงรีบอธิบายให้พ่อกับแม่ฟังทันที
“แล้วมันยังไง ที่หญ้าไปแจกใบปลิวเพราะแอบไปเป็นชู้เขาหรือเปล่า”
“ไม่นะคะแม่…” กอหญ้ากำลังจะอธิบาย แต่เสียงชาวบ้านโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นที่หน้าบ้าน กอหญ้า เรือนรอง อดิศร จึงรีบออกไปดูทันที
“เกิดอะไรขึ้น” กอหญ้าถามพลางมองออกไปหน้าร้านที่มีชาวบ้านต่างเขวี้ยงขวดน้ำ เศษขยะเข้ามาในร้าน
“พอก่อนจ้ะ มันเกิดอะไรขึ้น!? ใจเย็นๆ ก่อนนะจ๊ะ” เรือนรองพยายามบอกให้ทุกคนใจเย็นๆ
“ก็กับข้าวสกปรก ยังจะทำให้คนอื่นทาน เนี่ยลูกชายฉันเข้าโรงพยาบาลเพราะท้องเสียไปแล้ว เจออาหารบูดอีก ทำแบบนี้ได้ยังไง” เสียงโวยวายของชาวบ้านทำให้กอหญ้าขบเม้มริมฝีปากแน่น
เธอตรวจสอบทุกวัน ไม่มีทางที่อาหารจะบูดแน่!
“เอาคืนไป!”
กอหญ้ารีบบังพ่อกับแม่เมื่อชาวบ้านเอาอาหารที่ซื้อไปเขวี้ยงใส่พวกเธอ
“พ่อแม่เข้าบ้าน หญ้าจะพูดกับพวกเขาเองค่ะ" เธอพยายามดันพ่อกับแม่เข้าไปในร้าน แต่พวกท่านกลับไม่ยอมถอย ยังกอดกอหญ้าไว้เพื่อบดบัง เศษขยะที่ชาวบ้านปาเข้ามา
“ไม่ลูก พ่อไม่ทิ้งลูก” อดิศรว่า
“แม่ด้วย” สามพ่อแม่ลูกกอดปกป้องกัน กระทั่งชาวบ้านมองด้วยสายตาดูแคลน
“นิสัยไม่ดีทั้งครอบครัว ได้ยินว่าลูกสาวแอบไปเป็นเมียน้อยเขาด้วยนิ” เสียงซุบซิบนินทาดังขยายเป็นวงกว้าง กอหญ้าขบเม้มริมฝีปากแน่น
เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากอัลฟ่า ข่าวต้องหลุดมาจากเขาแน่! และเขาคงเป็นปล่อยข่าว
เขาต้องการอะไรกันแน่!
ไหนบอกว่าถ้าเธอเลิกยุ่งกับกาศิต เขาจะเลิกยุ่งกับพวกเธอไง! ทำไมถึงกลับมาทำร้ายกันแบบนี้อีก!
แกล้งเธอคนเดียวไม่พอใจหรือไง!
“ไปๆ อย่ามาอุดหนุนคนบ้านนี้อีก กลับกันเถอะ! พวกเรา” ชาวบ้านต่างทยอยกันกลับ และเอ่ยปากต่อปากว่าอย่ามาทานข้าวที่ร้านของอดิศรอีก…
สิ่งที่ได้ยินทำให้กอหญ้าหันไปมองพ่อกับแม่ พวกท่านมีแววตาสั่นระริกและไม่เข้าใจ
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้…
หรือพี่สาวของเธอจะกลับไปหากาศิตอีกแล้ว…
“พ่อ แม่ เข้าบ้านเถอะค่ะ เรื่องทุกอย่างหญ้าจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ” กอหญ้าบอก เรือนรองจึงจับมือสามีเข้าบ้านด้วยสีหน้าเศร้า กอหญ้ามองตามน้ำตาไหลก็ไหลลงมาทันที ภาพที่เธอเห็น ทำเอาหัวใจของกอหญ้าแตกสลาย มือบางรีบเช็ดน้ำตาออกไป
เธอจะต้องไปหาอัลฟ่า ไปถามเขาให้รู้เรื่อง! ทำไมเขาถึงทำกับเธอขนาดนี้!!
บริษัทมาเวลลิน
สุดท้ายกอหญ้าก็หยุดยืนนิ่งอยู่หน้าบริษมาเวลลิน เพราะเธอไม่สามารถติดต่ออัลฟ่าได้ เธอไม่มีเบอร์ของอัลฟ่า กอหญ้าจึงยืนรอเขาที่หน้าบริษัท ซึ่งสิ่งที่กอหญ้ากระทำอยู่ในสายตาของอัลฟ่าทั้งหมด รูปภาพที่เธอร้องไห้ ทำให้อัลฟ่ารู้สึกสะใจและพอใจมาก…
วันนี้เขาจะทำให้เธอให้แหลกคามือเขาให้ได้!
“คุณกอหญ้ารอนายที่หน้าบริษัท จะให้ทำยังไงต่อไปครับ”
“ปล่อยให้รอไปก่อน” อัลฟ่าออกคำสั่ง เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ทำงาน มองจอกล้องวงจรปิดที่มีภาพของกอหญ้ายืนนิ่ง ๆ อยู่หน้าบริษัทเพื่อขอพบกับเขา
กอหญ้า บรรทัดศร ผู้หญิงสารเลวที่ทำให้ชีวิตครอบครัวน้องสาวของเขาพังทลาย…
ตั้งแต่วันนี้ไป ชีวิตของเธอจะเป็นของเขาโดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เขาจะแย่งเธอมาเป็นคนของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ และจะเก็บเธอไว้ข้างกาย เธอจะไม่สามารถแรด หรือร่านไปทำลายครอบครัวของใครได้อีก…
ส่วนหนึ่งเธอต้องขอบคุณตัวเธอเองด้วยนะ ที่สามารถยั่วยวนให้เขาลุ่มหลง อยากได้เธอขนาดนี้
แผนของเธอสำเร็จ เธอแสร้งหนีเพื่อให้เขาตามจับ วันนี้เธอทำมันสำเร็จแล้ว…
หลายชั่วโมงผ่านไป…
อัลฟ่ายังไม่ยอมลงมาพบเธอ กอหญ้ายืนก้มหน้ามองเท้าตัวเองอยู่อย่างนั้น วันนี้เธอจะต้องพบเขาให้ได้ ถ้าเขาไม่ยอมพบ เธอก็จะรอเขาอยู่ตรงนี้จนกว่าเขาจะเลิกงาน
เธอเชื่อว่าเขาจะต้องออกมาพบเธอแน่นอน
“นั่นไง! เมียน้อยคุณกาย!” นักข่าวไม่รู้ว่ามาจากไหน กรูกันเข้ามาหาเธอมากมาย กอหญ้าตื่นตกใจ ไม่คิดว่านักข่าวจะตามมาจนถึงที่นี่ กอหญ้าพยายามหนีแต่เรือนร่างบอบบางทำให้เธอถูกรุม จนไม่สามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้ด้วยตัวเอง
"หลีกทางค่ะ" กอหญ้าพยายามก้มหน้าหนี ไม่ยอมตอบคำถามที่นักข่าวถามเธอ!
สิ่งที่เห็นถามว่าพอใจมั้ย เขาตอบได้เลยว่าพอใจมาก แต่ยิ่งนานเข้า การที่เห็นกอหญ้าถูกรุมหนักแบบนี้ เขารู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนัก
"นายครับ คุณอันนาจ้างคนมาก่อความวุ่นวาย" ริมฝีปากหนาขบเม้มอย่างคิดหนัก เมื่อเริ่มมีคนของอันนาปะปนเข้าไปจิกหัว ทำร้ายกอหญ้า
เหตุการณ์เริ่มชุลมุนวุ่นวาย และกำลังบานปลายเมื่อตอนนี้ไม่ได้มีแค่นักข่าว แต่น้องสาวของเขาจ้างคนมารุมประณามกอหญ้าอีกยกโขยง
ร่าวสูงถอดถอนหายใจลงหนัก ๆ เดิมทีอยากแกล้งให้กอหญ้าอับอาย ถูกประนามว่าเมียน้อย แต่เขาไม่ได้อยากให้เธอโดนรุมทึ้งขนาดนี้
"พาเธอไปรอฉันที่เพนท์เฮ้าส์"
“ครับ”
“บอกเธอ ถ้าอยากคุยกับฉัน รออยู่ที่นั่นจนกว่าฉันจะไปพบเธอ”
“ครับ” เฟย์ต้ารับคำสั่ง
จากนั้นจึงลงไปที่หน้าบริษัทเพื่อขจัดความวุ่นวาย เขาออกคำสั่งให้บอดี้การ์ดกันผู้คนและนักข่าวออกไป ส่วนเขาเดินแทรกเข้าไปดึงข้อมือกอหญ้าออกมาก เพื่อหลบหนีกลุ่มชนที่รุมล้อม ทำร้ายเธอ
ในที่สุดเขาก็สามารถพาเธอหลบเข้าไปที่ลานจอดรถระดับผู้บริหารได้
“นายสั่งให้พาคุณกอหญ้าไปรอที่เพนท์เฮ้าส์ครับ”
“ค่ะ…” กอหญ้าพยักหน้า น้ำตาไหล เธอเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ ทำไมเธอถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ…
กอหญ้าเลือกที่จะเชื่อฟัง ยอมขึ้นรถหรูไปพร้อมกับเฟย์ต้า อย่างน้อยวันนี้เธอจะต้องได้พูดคุยกับอัลฟ่าระหว่างทางกอหญ้ากอดตัวเองร้องไห้อย่างหนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยช้ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเพราะโดนกระชากจิกหัว
เธอกอดตัวเองอยู่อย่างนั้นจนเฟย์ต้าแอบมองเธอผ่านกระจก เสียงสะอื้นและท่าทางของกอหญ้าน่าสงสารมากจริง ๆ ริมฝีปากของเธอมีเลือดซึม เขาจึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับเธอ
"ผ้าเช็ดหน้าครับ เช็ดเลือดที่มุมปากด้วย" เขาเองก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้มาก เธอเลือกที่จะเป็นเมียน้อยเอง จุดจบถึงได้เป็นแบบนี้…
รถหรูถูกจอดลงที่หน้าลานจอดรถของเพนท์เฮ้าส์ กอหญ้าก้าวลงจากรถพลางยืนนิ่ง ๆ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องนั่งรออยู่ที่ไหน ความเจียมตัวของกอหญ้าทำให้เฟย์ต้าพ่ายมือ
"เข้าไปรอข้างในครับ" เฟย์ต้านำ กอหญ้าเดินตามจนถึงโถงใหญ่ที่เธอเคยมาเมื่อครั้งก่อน
กอหญ้านั่งรออัลฟ่าในโถงห้องนั่งเล่น เธอนั่งรอและร้องไห้เงียบ ๆ ใช้ความคิดกับตัวเองอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน นานจนไม่รู้ว่าตัวเองนั่งรออัลฟ่าไปนานเท่าไรแล้ว…
“เมื่อไหร่จะมา…” ปานนี้พ่อแม่คงเป็นห่วงเธอแย่แล้ว มือบางหยิบมือถือขึ้นมาดู มีหลายสายที่เธอไม่ได้รับ เธอเผลอปิดเสียงไปตั้งแต่เมื่อไหร่…
กอหญ้าตัดสินใจโทรกลับไปหาพ่อกับแม่ บอกท่านเรียบร้อยแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอ เธอขอจัดการธุระแล้วจะรีบกลับทันที
วันนี้เธอต้องถามอัลฟ่าให้รู้เรื่อง เหตุเพราะอะไรที่ทำให้เขาต้องทำร้ายกันขนาดนี้ กาศิตหย่ากลับอันนาเพื่อกลับไปหาพี่สาวเธอจริง ๆ งันเหรอ
หรือมันเป็นแค่เหตุผลหนึ่งที่เขาคิดใช้แกล้งเธอ…
กอหญ้านั่งกุมมือตัวจนพันยุ่งเหยิง ไม่ต่างจากความคิดของเธอในตอนนี้ ที่หาเหตุในการกระทำของอัลฟ่าไม่ได้เลย และเธอเองก็ไม่อยากยอมรับความจริง ในเรื่องที่กาศิตหย่ากับอันนา
หากกาศิตหย่ากับอันนา ซึ่งก็แปลว่าพี่สาวของเธอกับเขายังแอบติดต่อกันอยู่…
หากทุกอย่างเป็นอย่างที่เธอกลัว เธอจะทำยังไงต่อไป…
อัลฟ่าโกรธจนลงทัณฑ์กันขนาดนี้ ตอนนี้ในใจเขาคงมีแต่ความเกลียดชังต่อเธอแล้ว
ทุ่มหนึ่ง
นาฬิกาของเธอบอกเวลา แต่อัลฟ่าก็ยังไม่กลับมา…
เนิ่นนานที่กอหญ้านั่งมองมือมองเท้าของตัวเอง เดินวนไปมาในห้องโถงรับแขกของเขา ก็ยังคงไร้วี่แววที่เขาจะกลับมา
จวบจนเวลาเข้าสามทุ่ม กอหญ้าจึงตัดสินใจเปิดประตูออกไปหาเฟย์ต้าที่ยืนอยู่ข้างนอก
“คุณเฟย์ค่ะ คุณอัลฟ่าใกล้จะมาถึงหรือยัง…” เฟย์ต้ากุมมือก้มหน้าตอบ
“ใกล้แล้วครับ คุณกอหญ้าเข้าไปรอนายข้างในห้องเถอะ”
“ค่ะ…” เมื่อได้ยินว่าเขาใกล้ถึงแล้ว กอหญ้าจึงหันกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง สุดท้ายเสียงเครื่องยนต์รถสปอร์ตหรูก็แล่นเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ กอหญ้ารีบหันกลับไปมองอีกครั้ง หัวใจเธอเต้นแรงไม่เป็นส่ำ เมื่ออัลฟ่าเปิดประตูก้าวลงจากรถ
ร่างแกร่งสูงโปร่งโยนกุณแจให้กับเฟย์ต้า ก่อนจะมุ่งหน้าก้าวขายาวเดินตรงมาหาเธอ
กอหญ้ารู้สึกทำตัวไม่ถูกเลย ยามที่เขาจ้องมองมาที่เธอ มือบางจึงกุมมือตัวเองไว้แน่นโดยอัตโนมัติ
วันนี้เธอมาเพื่อยกธงขาว มาเพื่อเจรจากับเขาดี ๆ …
บทที่13จากนี้เธอคือคนของฉัน“ทำไม? แค่นี้ก็รอไม่ได้?” อัลฟ่าเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ดูก็รู้ว่าในใจของเธอคงอยากกลับบ้านไปหาชู้รักอย่างไอ้กายแล้ว"มันดึกมากแล้ว…" เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น อัลฟ่าคว่ำปาก พลางเดินล้วงกระเป๋าเข้าไปในบ้าน พร้อมกับเดินชนไหล่กอหญ้าจนเธอเซชนเข้ากับประตูการกระทำของอัลฟ่าทำให้กอหญ้ารู้ตัว ตอนนี้เขาคงรังเกียจกันมาก เธอจึงถอยเว้นระยะห่างจากเขา เพื่อไม่ให้เขารู้สึกลำบากใจ วันนี้เธออยากมาพูดดี ๆ กับเขา“หญ้าแค่อยากรู้ ว่าทำไมถึงทำกับครอบครัวหญ้าแบบนี้ หญ้าไม่ได้ยุ่งกับคุณกายแล้ว…” กอหญ้าน้ำตาซึมยามที่คิดว่าอัลฟ่าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด เพียงเพราะเธอต่อต้าน ต่อกรกับเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วยเธอทำให้เขาไม่พอใจ เขาจึงกลั่นแกล้งกันแบบนี้“ไม่ได้ยุ่ง? แต่มันขอหย่ากับอันนาเนี่ยนะ? เนี่ยน่ะเหรอที่เธอบอกไม่ได้ยุ่งกับมัน!” อัลฟ่าหมุนกายกลับมามองเธอ กอดอกจ้องคนที่ทำเ
บทที่14ปีศาจพึ่บ!อัลฟ่าดึงเครื่องป้องกันทิ้งไป จากนั้นจึงดันตัวตนถูไถลงที่เนินสาวของกอหญ้าอีกครั้ง เมื่อเขาคือคนแรกของเธอ และเขาไม่ได้กินเศษซากเหลือเดนของใครวันนี้เขาจะกลืนกิน สัมผัส ตีตราเธอทั้งตัวตีตราจองเธอไว้เป็นของเขาเพียงคนเดียว…อื้ออ~กอหญ้าหลับตาลงอีกครั้ง ยามที่อัลฟ่าสอดผสานเข้ามารังแกกันอีกหน ครั้งนี้ร่างแกร่งโน้มตัวลงไปที่ลำคอขาว เขากดจูบขบเม้มจนเป็นรอยแดงช้ำ พร้อมกับประสานมือเข้ากับกอหญ้าให้จมอยู่กับเตียงนอนเขากดจูบขบเม้มเธอจนเกิดรอยแดงไปทั่วเรือนร่างที่เขาเลื่อนผ่าน อัลฟ่ากดตีตราเธออย่างมันเขี้ยวจากที่คิดว่าจะด้อยค่าเธอให้เป็นเหมือนตุ๊กตายาง พอรู้ว่าเธอยังไม่เคยผ่านมือใครมา อัลฟ่าจึงไม่คิดปล่อยผ่านกอหญ้าสวยขนาดนี้ เขาต้องสัมผัสให้ครบทุกตารางนิ้วสิถึงจะถูก…ความเจ็บตามผิวกายที่ถูกฟันของอัลฟ่าเกาะเกี่ยว ทำให้กอหญ้าเม้มริมฝีปากลงแน่น รู้สึกถึงสัมผัสที่เลื่อนล
บทที่15รับกรรมที่ไม่ได้ก่อตื้ด~เสียงข้อความเข้าจากสมาร์ทโฟนของกอหญ้า เป็นเบอร์ของอัลฟ่า เขาปลดบล็อกเบอร์ของเธอแล้ว[ไปรอที่เพนท์เฮ้าส์] อัลฟ่าบอกให้เธอไปรอเขาที่เพนท์เฮ้าส์ ความหวังสุดท้ายของเธอติดต่อกลับมาแล้ว กอหญ้าจึงรีบลงรถเมล์กลางคัน[เฟย์ต้าจะไปรับ] ข้อความถูกส่งมาอีกครั้ง ทำให้กอหญ้าชะงักนิ่งทันทีที่ก้าวขาลงเหยียบบนพื้นฟุตบาท เฟย์ต้าจะมารับ แล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่ไหน กอหญ้ากำลังจะส่งข้อความกลับปริ้น~เสียงแตรของรถหรูสีดำดังขึ้นข้างกายของเธอ กอหญ้าหันหน้าไปมอง ก็เจอเข้ากับดวงหน้าคมคายของเฟย์ต้าที่ลดกระจกมองเธอ“นายให้มารับครับ” เฟย์ต้าเอ่ยเพียงแค่นั้นก็ปิดกระจกขึ้นอีกครั้ง กอหญ้าขบเม้มริมฝีปาก แอบสงสัยที่เฟย์ต้ามารับเธอในทันทีที่อัลฟ่าส่งข้อความมา…กอหญ้าสลัดความคิดออกไป เธอทำตามเขาอย่างว่าง่ายด้วยการขึ้นไปนั่งบนรถหรูของเฟย์ต้า เมื่อกอหญ้าขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เฟย์ต้าจึงออกรถทันที
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่25ความจริงปัง!มือหนาทุบลงบนโต๊ะเมื่อได้ยินคำรายงานทุกคำจากเฟย์ต้า“มึงหมายความว่ายังไง!?” ภาพตรงหน้าทำให้มือหนากำหมัดแน่น ตัวสั่นจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ นักสืบจากรามิลทำงานได้ดี แกะรอยรถที่ชนอันนาได้ภายในวันเดียว รวมถึงไอ้กายที่มันหนีไปได้อย่างไร้ร่องรอยแต่มันจะหนีไปจากดวงตาของนักสืบไอ้รามิลไม่ได้นานหรอก!วันเดียวก็เกินพอแล้ว!ตอนนี้ภาพของกาศิตกำลังหนีคนของรามิลหัวซุกหัวซุน หนีไปพร้อมๆ กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจากที่เฟย์ต้ารายงานคือพี่สาวของกอหญ้าน้ำอิง…“เมียน้อยคุณกาศิตคือคุณน้ำอิงครับ”ความจริงจากปากไอ้เฟย์ต้า ทำเอาหัวใจแกร่งกระตุก เมียน้อยตัวจริงของไอ้กาศิตคือน้ำอิงไม่ใช่กอหญ้า!ที่ผ่านมาเขาเข้าใจผิดกอหญ้ามาโดยตลอด!ตอนนี้ความรู้สึกผิดกำลังโจมตีเขาอย่างหนักหน่วง เมื่อความจริงถูกเปิดเผย!"นี่ครับหลักฐาน" เฟย์ต้าตอกย้ำความผิดพลาดที่เขาก
บทที่23ขอของเล่นคืนปัง ปัง ปัง!“ใคร!?” ลีโอตะโกนถาม หันไปมองประตูที่มีเงารองเท้าเยอะผิดปกติ คิ้วเรียวขมวดพลางหันกลับมาสบตากับกอหญ้าเงียบๆ"เปิดประตู!" เสียงของอัลฟ่าทุบประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานว่า กอหญ้ากำลังสนุกกับไอ้ลีโอ!ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรร่านฉิบหาย!แควก!ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนารีบปลดสายคล้องคอขอวกอหญ้าออก ตอนนี้เนินอกของเธอแทบเปลือยจมูกคมสัน ริมฝีปากหนา กดจูบขบเม้มลงบนผิวกายของเธอซ้ำ ๆ จนกอหญ้าทุบตีเขาอย่างตื่นตกใจปัง ปัง ปัง!“นี่! เดี๋ยว! ไหนบอกจะไม่ทำไง” กอหญ้าต่อว่าลีโอ ทั้งตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ต้องทำ ใครมาไม่รู้หรือไง?”“อัลฟ่า…” เธอจำเสียงเขาได้“ใช่! ดังนั้นก็เล่นละครกับฉัน” กอหญ้าหยุดนิ่งทันที บทบาทที่เธอเพิ่งได้รับ ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง กอหญ้าจ
บทที่22เปิดตัวประมูลกอหญ้ายืนน้ำตาคลอหลังจากที่ออกจากห้องทำงานของอัลฟ่า ตอนนี้เธอยืนนิ่ง ๆอยู่หน้ากรงขนาดใหญ่ ถูกวาลิถอดชุดคลุมออกให้เหลือเพียงชุดเมดผ้าลูกไม้ที่แสนเซ็กซี่วาลิยิ้มกริ่มพอใจกับพนักงานคนใหม่ของคลับ กอหญ้าสวยมากจริง ๆสวยขนาดที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 'สวยจนไร้ที่ติ…'สายตากลมโตของกอหญ้าน้ำตาเอ่อซึมเธอกำลังยืนมองกรงทองขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาหรูสีแดงสด …สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เธอคิดว่ามันคงเป็นที่ที่เธอต้องเข้าไปนั่งอวดโฉมประมูลในค่ำคืนนี้พอนึกคิดหัวใจบางก็พลันวูบไหว เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งประตูกรงทองนั้นถูกเคลื่อนออก หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น มือบางกุมมือกันแน่น เธอไม่สามารถรอดพ้นไปจากตรงนี้ได้เลยจะมีใครสักคนมั้ยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอได้…ช่วย… ถ้าจะมีคนมาช่วยที่นี่ก็คงมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้น ที่สามารถช่วยเธอได้!ซึ่งเขาประกาศก้องแล้วว่าเขาไม่มีทางช่วยเ
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป