ความจริง
ปัง!
มือหนาทุบลงบนโต๊ะเมื่อได้ยินคำรายงานทุกคำจากเฟย์ต้า
“มึงหมายความว่ายังไง!?” ภาพตรงหน้าทำให้มือหนากำหมัดแน่น ตัวสั่นจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ นักสืบจากรามิลทำงานได้ดี แกะรอยรถที่ชนอันนาได้ภายในวันเดียว รวมถึงไอ้กายที่มันหนีไปได้อย่างไร้ร่องรอย
แต่มันจะหนีไปจากดวงตาของนักสืบไอ้รามิลไม่ได้นานหรอก!
วันเดียวก็เกินพอแล้ว!
ตอนนี้ภาพของกาศิตกำลังหนีคนของรามิลหัวซุกหัวซุน หนีไปพร้อมๆ กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจากที่เฟย์ต้ารายงานคือพี่สาวของกอหญ้า
น้ำอิง…
“เมียน้อยคุณกาศิตคือคุณน้ำอิงครับ” ความจริงจากปากไอ้เฟย์ต้า ทำเอาหัวใจแกร่งกระตุก เมียน้อยตัวจริงของไอ้กาศิตคือน้ำอิงไม่ใช่กอหญ้า!
ที่ผ่านมาเขาเข้าใจผิดกอหญ้ามาโดยตลอด!
ตอนนี้ความรู้สึกผิดกำลังโจมตีเขาอย่างหนักหน่วง เมื่อความจริงถูกเปิดเผย!
"นี่ครับหลักฐาน" เฟย์ต้าตอกย้ำความผิดพลาดที่เขากล่าวหา โยนความผิดให้กับกอหญ้าด้วยการยื่นเอกสารการหลักฐานทุกอย่างที่หามาได้ เหตุและผลที่ทำให้พวกเขาสืบผิดคน
ทุกอย่างคงเป็นแผนของน้ำอิงและกาศิตที่คิดใช้กอหญ้าเป็นหมากตัวหนึ่งในความสัมพันธ์ุของพวกมัน คนที่น่าสงสารที่สุดคือกอหญ้า เธอถูกพี่สาวตัวเองโยนความผิดที่ร้ายแรงให้ไม่พอ ยังถูกเขาผสมโรงรังแกเธอโดยไร้ความผิด
เธอมันโง่ กอหญ้า!
อัลฟ่ากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เรื่องความรู้สึกผิด เข้าใจผิด เขาควรละทิ้งไว้ก่อน ยังไงซะในตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะเข้าใจผิดหรือรังแกกอหญ้าไปมากแค่ไหน
เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปเพียงเพราะเรื่องพวกนี้แน่ ยังไงตอนนี้กอหญ้าก็คือเมียของเขา
สิ่งสำคัญคือลากตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้!
"แล้วได้ตัวพวกมันมาแล้วใช่มั้ย!?" อัลฟ่าเอ่ยถามเสียงเข้ม
“ครับ” เฟย์ต้ากุมมือตอบ
“ไอ้กายปล่อยมันไว้ที่คุกก่อน ส่วนเมียน้อยของมัน เมื่อกล้าทำร้ายน้องสาวของกู ก็ให้ไปทำงานที่หลังเกาะ เลือกงานที่ทรมานที่สุดอย่างหลังฟาร์มมุกก็แล้วกัน” เดิมทีเขาคิดจะพากอหญ้าไปทำงานที่นั่นหลังจากวันนี้ แต่ความจริงดันเปิดเผยก่อน
คนที่สมควรไปก็คือพี่สาวของเธอ!
“ครับนาย”
และหลังจากนี้เขาจะไปซ้อมไอ้กายด้วยตัวเอง และจะซ้อมมันจนตายคาตีนเลย!
ในเมื่อกฎหมายทำอะไรมันไม่ได้ เขานี่แหละที่จะทำมันเอง!
จากกล้องวงจรปิดที่ได้มา เป็นหลักฐานได้ดีว่าจริง ๆพวกมันไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าอันนา แต่เพราะอันนาจะยิงพวกมัน กาศิตถึงป้องกันตัวและเผลอผลักอันนาจนรถชน
ถึงเขาจะทำอะไรพวกมันทางกฎหมายไม่ได้ แต่ที่นี่เกาะของเขา ไม่มีกฎหมาย มีแต่ศาลเตี้ยที่มีเขาเป็นผู้พิพากษา เขาจะพิพากษาพวกมันทั้งสองเอง!
เขาจะทรมานพวกมันในทุกวัน ทรมานไอ้กาศิตรอวันที่อันนาฟื้นขึ้นมา และเขาจะให้น้องสาวลงทัณฑ์พวกมันด้วยตนเองอีกครั้ง!
“ช่วงนี้ฉันจะกลับไปอยู่ที่เกาะส่วนตัว ที่นี่ก็ฝากมึงด้วย อย่าลืมดูไอ้ลีโอด้วยล่ะ ส่วนอาหารสดเอาไปให้อาทิตย์ล่ะสองครั้งก็พอ”
“ครับ เอ่อ…นายจะอยู่ที่นี่นานเลยใช่มั้ยครับ” เฟย์ต้าเอ่ยถาม
“อืม กูต้องการให้อันนาอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด” เผื่อว่าเธอจะฟื้นขึ้นมาไวกว่าเดิม…และยังมีเรื่องของกอหญ้าที่ตอนนี้เขายังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไงกับเธอ…
“ครับนาย” อัลฟ่าก้าวกำลังจะก้าวจากห้องทำงาน
กึก…
เท้าหนาชะงัก เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้…
"เรื่องที่พี่สาวกอหญ้าถูกจับมาที่นี่ อย่าให้เธอรู้เด็ดขาด ถ้ามันจำเป็นต้องบอก ฉันจะบอกเธอเอง…"
"ครับนาย" เฟย์ต้ารับคำสั่ง อัลฟ่าจึงก้าวออกจากห้องทำงานของเขา ตรงไปยังคุกใต้ดิน เพื่อไปจัดการกับกาศิตก่อนจะกลับไปหากอหญ้า…
***
ตกดึกมากแล้วในตอนที่เขาก้าวเข้ามาในบ้านอีกหลัง ที่นี่คือบ้านพักของอันนาที่เขาสร้างไว้ให้เธอในวันเกิดตอนอายุครบยี่สิบปี หลังจากไปซ้อมไอ้กาศิตจนสะบักสะบอมมาแล้ว เขาก็เลือกที่จะมาหาอันนาก่อนที่จะกลับไปหากอหญ้า
อัลฟ่าค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้ พูดคุยกับน้องสาวของเขาในเรื่องที่สามารถจับกาศิต และเมียน้อยของมันมาลงทัณฑ์ได้
“พี่จะทำให้พวกมันสองคนทรมานใจมากที่สุด” และเขาจะทำลายทุกอย่างของพวกมันจนเหลือศูนย์ มือหนากุมมืออันนาไว้แน่น แววตาเต็มไปด้วยความแค้นที่ยากจะหายไปได้ในวันสองวัน
อัลฟ่านั่งนิ่ง มองดวงหน้าหวานที่เขารักและเลี้ยงดูเธอมาดังดุจเจ้าหญิง อันนาถูกเลี้ยงมาอย่างดีเขาไม่ทางปล่อยคนที่ทำลายทุกอย่างของเธอไปง่าย ๆ
เขาจะทำให้พวกมันตายทั้งเป็นอยู่บนเกาะนี้! จะทำให้พวกเหมือนตกนรกทั้งเป็นทั้งคู่!!
"ฝากคุณพยาบาลด้วยนะครับ" อัลฟ่าเอ่ยฝากอันนาไว้กับพยาบาลพิเศษที่ลุงหมอส่งมาดูแลอันนา จากนั้นเขาก็ตรงดิ่งกลับไปที่บ้านพักของเขา เท้าหนาเหยียบย่ำลงบนพื้นบ้านได้ เขาก็ก้าวเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง
แอด~
หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้ว อัลฟ่าก็ก้าวเข้าไปในห้องเก็บของที่ถูกทำความสะอาดแล้วเงียบ ๆ ในห้องมืดมิดแต่กลับมีแสงจัทนร์สาดส่องกระทบถึงเรือนร่างเล็กที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนฟูกน้อย ๆ เขาเห็นเช่นนั้นจึงก้าวขายาวเข้าไปหาเธอ ค่อย ๆล้มตัวนอนข้างๆ เธอ
ตอนนี้เขาไม่รู้ต้องทำอย่างไร ความรู้สึกผิด และความรู้สึกโกรธเคืองสะสมปนเป
เธอรู้ว่าเขาเข้าใจผิด ที่ผ่านมาเธอพยายามอธิบายให้เขาฟังแล้ว แต่เขาไม่คิดสนใจ
จวบจนเธอยอมรับความผิดนั่นเอาไว้ และยอมชดใช้ให้กับเขาเอง
ทั้งที่เธอไม่มีความผิด!
แต่เป็นเขาที่ค่อยยัดเยียดความผิดนั้นให้กับเธอ ตราหน้าเธอว่าเป็นเมียน้อย!
ทั้งความรู้สึกผิดชอบ ชั่วดี ปะปนจนเขาเองก็สับสนจนใจ…
เมื่ออีกด้านมืดในใจก็เอาแต่ตะโกนก้อง ว่ากอหญ้าเป็นน้องสาวของน้ำอิง เธอเองก็ช่วยปกปิดทุกอย่าง ให้พี่สาวของเธอ
เขาควรที่เกลียดเธอด้วย!!
แต่อีกใจหนึ่งก็ยังคงเถียงกลับมา ว่าเขาเป็นคนยัดเยียดความผิดให้กับเธอเช่นกัน!
ยิ่งคิดร่างสูงยิ่งรู้สึกเหนื่อยล้าที่หัวใจ ทั้งที่เขาควรสบายใจที่สามารถจับคนเลวสองคนนั้นมาอยู่ในเงื้อมมือได้
สุดท้ายเขากลับต้องมานั่งคิดมากกับเรื่องของกอหญ้าต่อ!
ในขณะที่เขานอนนึกคิด ความรู้สึกผิดที่มากกว่าความเกลียดชัง ทำให้อัลฟ่ากกกอดกอหญ้าจากทางด้านหลัง
'ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณ' คำพูดนั่นวกวนกลับมา ทำให้หัวใจแกร่งรู้สึกกลัว เขากลัวว่าถ้าหากเธอรู้ว่าเขารู้ความจริงทุกอย่างแล้วเธอจะหนีเขาไป จะใช้ข้ออ้างนี้เพื่อขอให้เขาปล่อยเธอไปหรือเปล่า
แล้วเรื่องที่ผ่านมาที่เขาเอาแต่ทำร้าย รังแกเธอ เธอจะยอมให้อภัยเขาหรือไม่…
หรือเธอจะไม่ยอมให้อภัยเขาอย่างที่พูดมันออกมาจริง ๆ…
อัลฟ่าเฝ้าคิดเรื่องของเธอเต็มหัวไปหมด ความผิดที่เขาก่อ รังแกเธอมีมากเหลือเกินกับผู้หญิงตรงหน้า…
ใจขณะที่กำลังนึกคิด กอหญ้าก็พลิกตัวหันเข้ามาหาเขา ตอนนี้ดวงหน้าหวานหลับตาพริ้มโดยมีแสงจันทร์กระทบลงที่ซีกแก้มเนียน ทำให้เขามองเห็นดวงหน้าหวานขึ้นอย่างชัดเจน
ยอมรับ ว่าเขาดีใจที่เธอไม่ใช่เมียน้อยของกาศิต และยิ่งดีใจที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา หัวใจของเธอเป็นของเขาแค่เพียงคนเดียว
แต่เขาก็รู้สึกเสียใจที่ตัวเองเป็นคนทำร้ายหัวใจ ทำร้ายความรักของเธอเองกับมือ
ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจของกอหญ้าจะยังคงเป็นของเขาอยู่หรือไม่…
ศีรษะน้อยหนุนแขนแกร่ง เจ้าของจึงปล่อยจอย นอนจ้องมองเธออยู่อย่างนั้นโดยไร้คำตอบที่เขาต้องการในใจลึก ๆ
เช้าวันต่อมา…
กอหญ้าลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสายมากแล้ว อาจเพราะเมื่อวานเธอเหนื่อยล้าจนเกินไป วันนี้ถึงได้ตื่นสายขนาดนี้ เปลือกตาบางกะพริบสู้แสงเพียงเล็กน้อย ก่อนจะมองเห็นมือบางของตัวเองถูกกุมด้วยมือหนา เธอเลือนสายตาไปตามลำแขนแกร่ง
ตรงหน้าของเธอคือดวงหน้าคมคายดังเทพบุตร อัลฟ่า…
เขากลับมาตั้งแต่ตอนไหน ในตอนนี้หัวใจของเธอเต้นรัวเมื่อเขาอยู่ใกล้กันเพียงแค่นี้ กอหญ้าค่อยๆ ดึงมือกลับ แอบนอนนิ่งๆ มองดวงหน้าคมที่หลับตา
ขนาดนอนเขายังหล่อมากขนาดนี้ ทำไมคนใจร้าย นิสัยเสียถึงได้มีหน้าตาดีขนาดนี้กันนะ…
กอหญ้าแอบนึกคิด นอนตะแคงมองอัลฟ่าอยู่อย่างนั้น เนิ่นนานจนรู้สึกตัวอีกที มือบางของเธอก็ลูบลงที่แก้มสากแล้ว กอหญ้ายิ้มมุมปากเล็กน้อย เธอชอบที่ได้นอนมองหน้าเขาแบบนี้…
เธออยากให้อัลฟ่าเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งจัง…
และเขาไม่ได้เป็นพี่ชายของอันนา…
อื้ออ~
มือหนายกขึ้นมากุมมือที่วางไว้บนแก้มสากของเขา กอหญ้าตกใจที่จู่ ๆอัลฟ่าก็ลืมตาขึ้นมามองเธอ ทั้งยังกุมมือของเธอเอาไว้ดวย
เธอกลัวว่าเขาจะต่อว่าเธอ กอหญ้าจึงรีบดึงมือออก ทว่าอัลฟ่ากลับจับมันไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอได้ทำตามใจ…
ทุกอย่างจึงกลับมาเงียบนิ่งเช่นเดิม เขาไม่ต่อว่าแต่กลับนอนนิ่งๆ มองหน้าเธออยู่อย่างนั้น…
กอหญ้าแววตาสั่นระริก ขมวดคิ้วมองเขาเล็กน้อยด้วยความงุนงงสงสัย
“ทำไม?” เธอเอ่ยถามเขาที่ยังคงนิ่ง
“ทำไม?” เขาเอ่ยถามขึ้นเช่นกัน
กอหญ้าส่ายหน้า เม้มริมฝีปากลงเป็นเส้นตรง เมื่อเขาไม่รุนแรงหรือตื่นมาต่อว่า ดูถูกเธอเหมือนแต่ก่อน
"ทำไมฉันถึงไม่ต่อว่า สาดคำพูดด่าเธอเหมือนอย่างทุกครั้ง คือสิ่งที่เธออยากถามฉันใช่มั้ย?" อัลฟ่านอนหนุนหมอนจ้องสบตากอหญ้านิ่ง ๆ
กอหญ้าเม้มริมฝีปากเบา ๆอีกครั้ง จ้องมองเขาแล้วพยักหน้าเบา ๆ
"เธอโกหกฉัน…" กอหญ้ายิ่งงุนงง แววตายังคงมีแต่คำถามจนอัลฟ่ายกยิ้ม หัวใจเต้นแรงเช่นกัน
"เธอยังรู้สึกยังไงกับฉัน…" อยู่ ๆก็อยากรู้ความในใจของกอหญ้า
หัวใจของกอหญ้าพลันเจ็บปวดยามที่อัลฟ่าเอ่ยถามเธอเช่นนี้…
"…" ความรู้สึกสำหรับเขา เธอมองไม่ออกนานแล้ว รู้แค่ว่าเธอรักเขา แต่ตอนนี้ทุกอย่างมีแต่ความรู้สึกที่ถูกทำร้ายจนแหลกละเอียด จนไม่สามารถต่อมันจนเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
และเราก็ต่างกันเกินกว่าจะรักกันได้ สิ่งที่พบเจอ สถานที่ การดำรงชีวิตอยู่ของอัลฟ่า ไม่ใช่ชีวิตที่เธอต้องการ
เธอไม่ควรรักเขา…
"เงียบ?" เนิ่นนานที่กอหญ้าเงียบไป เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง…
"เกลียดค่ะ เกลียดที่คุณทำร้ายกัน…" ทั้งเกลียดทั้งรัก…
"หึ…" อัลฟ่าแสยะยิ้ม เขายกนิ้วเรียวขึ้นไปเกลี่ยเบาๆบนดวงหน้าหวาน มองสบตากับเธอเลื่อนไล้มองเธอนิ่ง ๆด้วยแววตารู้สึกผิดและเสียใจ
ไม่แปลกที่เธอจะเกลียดเขา…
"ถ้าฉันให้โอกาสหนีจะหนีไปจากฉันหรือเปล่า" อัลฟ่ายังคงเฝ้ามองดวงหน้าหวาน
"ค่ะ" มุมปากแสยะยิ้มขึ้นมาทันที ที่กอหญ้าตอบมันออกมาโดยไม่นึกลังเล
เธออยากไปจากเขาทุกเมื่อจริงๆสินะ…
"แล้วหัวใจของเธอล่ะ? มันยังเป็นของฉันอยู่หรือเปล่า" ที่ผ่านมาเขามั่นใจว่าเธอรักเขา
"…" กอหญ้าเริ่มกลัว วันนี้อัลฟ่าถามเธอแปลกๆ มีอะไรหรือเปล่า…
"มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงถามเรื่องพวกนี้" กอหญ้ามองแววตาของอัลฟ่าที่ไร้ความเคืองโกรธ แต่กลับมีแววนึกคิดมากมายในใจ มันทำให้เธอนึกไปถึงเรื่องของกาศิต
เขาทำเหมือนรู้สึกผิดกับเธอ…
หรืออัลฟ่ารู้ความจริงแล้ว!
“คุณเจอคุณกาศิตหรือยัง” กอหญ้าเอ่ยถามเขาตรง ๆ อัลฟ่าขยับดวงหน้าคมของตัวเองเล็กน้อย เขามองกอหญ้าที่มีแววตาสั่นระริกเป็นห่วง
เขาไม่คิดว่าเธอจะห่วงกาศิต แต่เธอเป็นห่วงอีกคนมากกว่า…
“ถ้าฉันบอกว่าเจอแล้วล่ะ” ดวงตาเบิกกว้าง ตื่นตกใจ ริมฝีปากสั่น ๆของเธอทำให้อัลฟ่าเหยียดยิ้มมุมปาก
“มันได้รับกรรมของมันแล้ว” กอหญ้ากะพริบตาถี่ๆ แล้วเธอจะถามเขาเช่นไรในเรื่องของพี่สาวของเธอ
“แล้ว…” อัลฟ่ารู้ว่าเธอจะถามถึงใคร เมื่อคืนเขาคิดว่าจะไม่บอกความจริงกับเธอว่าเขารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว แต่พอมานึกๆ ดูเขาควรบอกเธอ
เพื่อให้เธออยู่ต่อ… อยู่ข้างๆเขาแบบนี้
เขาจะใช้วิธีเดิม ๆล่อลวงเธอให้เดินเข้าสู่กับดักของเขา…
เพราะหากเขาตามใจเธอ เธอเลือกที่จะออกไปจากเงื้อมมือของเขาแน่นอน
ซึ่งเขาไม่มีวันให้มันเกิดขึ้น!
“อยากรู้ว่าอีกคนเป็นยังไงงั้นเหรอ?” พูดเสียงเรียบนิ่งจนใจกอหญ้าเต้นแรง เขารู้ความจริงแล้วจริง ๆ มือบางรีบจับมือหนาที่กำลังเกลี่ยเล่นที่แก้มของเธอ
“คุณทำอะไรพี่สาวหญ้า…”
“ลงทัณฑ์ตามความผิด”
“ไม่! ที่นี่ไม่ใช่ศาลเตี้ยของคุณ”
“อ่าห๊ะ แต่ฉันอยากจะบอกเธอไว้นะที่นี่คือที่ของฉัน ฉันเป็นเจ้าของ ใครที่ยืนอยู่บนเกาะที่นี่ จะต้องเคารพและเชื่อฟัง…” กอหญ้ามองอัลฟ่าด้วยสายตาอ้อนวอน เธอรู้ว่าเขาเกลียดพวกเธอไปแล้ว แต่น้ำอิงเป็นผู้หญิงเขาเองก็ควรผ่อนปรน
“หญ้าขอร้องได้มั้ย…” เสียงเธอเบาหวิว นั่นทำให้อัลฟ่ายกยิ้มมุมปากอีกครั้ง
“แลกกับอะไรล่ะ?” กอหญ้าเม้มริมฝีปากแน่น เงยมองสบตาเขาอีกครั้ง ก่อนจะขยับเอ่ยอีกครั้งเมื่อคิดได้
“ทุกอย่างที่คุณฟ่าต้องการ” เขารู้ว่ากอหญ้าจะพูดแบบนี้ ยอมเขาเพื่อช่วยเหลือพี่สาวของตัวเอง…
ซึ่งมันก็เข้าทางเขาเหมือนเดิม…
“ได้! งันชีวิตลมหายใจที่เคยยกให้ผมจะยังคงเดิม?” ที่เขาเรียกร้องฟังจากปากของเธออีกครั้ง เพราะต้องการผูกมัดเธอไว้ข้างกายด้วยคำพูดของเธอ
“…” กอหญ้าเงียบ ลึกๆ แล้วเธอคิดอยากจะจากไปเมื่อความจริงปรากฏ เธอจะใช้ความจริงที่เธอไม่ผิดนี้ติดปีกหนีไปจากเขา
แต่เขาก็คงอยากให้เธอกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาดังเดิม สุดท้ายเธอก็หนีเขาไปไม่ได้อยู่ดี!
"…" กอหญ้ายังคงใช้ความคิด เนิ่นนานจนเขาสามารถเดาใจเธอได้ ว่าเธอคิดมากเรื่องอะไร ตอนนี้เธอรู้ว่าเขารู้ความจริงแล้วว่า เธอไม่ใช้เมียน้อยของกาศิต เธอกำลังคิดว่าเขาจะปล่อยเธอไป แต่ถ้าเธอตกลงตามที่เขาเอ่ยบอกเธอจะก้าวออกไปจากเงื้อมมือของเขาไม่ได้อีก
…แต่เสียใจด้วยนะกอหญ้า ไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหน เขาก็สามารถตัดปีกเธอได้เสมอ ถ้าเธอเลือกที่จะก้าวออกไป
เธอเป็นเมียเขา เธอก็ต้องอยู่กับเขา แม้จะทรมานใจแค่ไหน เธอก็ต้องอยู่ข้างกายของเขาเช่นนี้ตลอดไป
“ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่กอหญ้า...” อัลฟ่ายังคงมีสีหน้าที่เลือดเย็นเรียบนิ่ง ไม่มีความรู้สึกผิดเจือปนอีก เมื่อการกระทำของกอหญ้าชัดเจนแล้วว่า
อยากหนีไปจากอ้อมแขนของเขา…
“คุณ…” เพราะน้ำเสียงนิ่งๆ ที่ทำให้เธอเจ็บปวดลึก...
“ถ้าเธออยู่ที่นี่กับฉัน มอบร่างกาย หัวใจ และจิตวิญญาณของเธอทั้งหมดให้ฉัน ฉันอาจจะพิจารณาเรื่องการปล่อยพี่สาวของเธอไปโดยไม่ใช้ศาลเตี้ย…”
“แต่คุณก็รู้ว่าหญ้าไม่ได้ทำผิด…ไม่ได้เป็นเมียน้อยคุณกายอย่างที่คุณคิด” กอหญ้าเอ่ยขึ้น อย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่เขารู้ความจริงแล้วแท้ ๆ
“ใช่ฉันรู้ แต่ทุกอย่างมันผิดที่เธอ ผิดที่ทำให้ฉันติดใจจนไม่สามารถปล่อยไปง่าย ๆ ได้…”
“…” สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเขาจะรู้ความจริงหรือไม่รู้ ผลลัพธ์ก็ไม่ได้ต่างกันเลย สุดท้ายเขาไม่คิดปล่อยเธอไป และยังคงคิดกักขังกันเอาไว้เช่นเดิม
โดยมีพี่สาวของเธอเป็นตัวประกัน
ไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้ ผลลัพท์ก็ยังคงเดิม...
“เลือกเอาก็แล้วกัน ฉันไม่บังคับ!” กอหญ้าส่ายหน้า อัลฟ่าจึงคิดใช้มาตราการเด็ดขาด นิ้วเรียวยาวเกลี่ยผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงออกไปจากกรอบดวงหน้าหวาน เท้าแขนมองเธอนิ่งเพื่อรอฟังคำตอบ
“ว่ายังไง?” อัลฟ่ายังไงก็คืออัลฟ่า เขามีเล่ห์เหลี่ยมมากพอที่จะกักขังเธอเอาไว้ข้างกาย
กอหญ้าเม้มริมฝีปากลง เอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ
“ตกลงค่ะ หญ้าตกลงทุกอย่าง ขอเพียงแค่ปล่อยพี่น้ำไป พี่น้ำผิดพลาดก็จริงที่เข้าไปยุ่งกับคนอย่างกาศิต แต่พี่น้ำพยายามเลิกยุ่งมาตลอด แต่เป็นเขาที่ไม่ยอมปล่อย ให้ความเป็นธรรมพี่น้ำด้วยนะคะ
อีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุจริง ๆค่ะ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเลย” กอหญ้าพูดมาเสียยาวเยียด แต่เธอก็ควรรู้ว่า พี่สาวของเธอก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้อันนาต้องเป็นเจ้าหญิงนิทรา จะให้ปล่อยไปง่ายตามที่เธอคงทำไม่ได้
แต่เพื่อที่เขาจะไม่เสียเธอไป เขาจะแสร้งทำเป็นยอมรับคำขอร้องจากเธอ...
“ได้…”
พึ่บ
อัลฟ่าพลิกกายขึ้นเหนือตัวกอหญ้า มืออีกข้างจับลงที่มือบางเพื่อประสาน กอหญ้าเงยมองสบตาเขานิ่ง แต่แววตานั่นเจ็บปวดไม่น้อยเลย
“ตราบใดที่เธอยังคงอยู่ในโอวาท ฉันจะไม่ทำอะไรพี่ของเธอ…” สุดท้ายเธอก็ตกอยู่ใต้เท้าอัลฟ่าเช่นเดิม...
อื้อ~
กอหญ้าหลับตาลง ยอมรับความจริงว่าเธอไม่สามารถหนีไปจากเงื้อมมือของอัลฟ่าได้ และเธอก็ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาตราบที่เขาจะปล่อยมันให้เป็นอิสระ
รสจูบและสัมผัสทุกสัมผัสจากอัลฟ่า ให้ให้กอหญ้าหลับตาลง ยอมรับทุกสัมผัสจากเขาอย่างว่าง่าย รู้สึกเพียงมือที่กอบกุมกำปั้นน้อยของเธอ และมืออีกข้างที่ค่อย ๆถอดเสื้อผ้าของเธอและเธอ ออกไปพร้อม ๆกัน
จุฟ
น้ำลายแปดเปื้อนไปทั่วคางของเธอและเขา มือหนาเกี่ยวบราขึ้นเหนืออกอิ่ม ใช้นิ้วขยี้ยอดถัน เรียกความเสียวซ่าน ปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้ตื่นขึ้นมาร่วมรักกับเขา
แก่นกายเริ่มอัดแน่น ตอกอัดเข้ากลางกายของกอหญ้าซ้ำๆ กอหญ้าในตอนนี้ถูกอัลฟ่าลวงล่อให้หลงมัวเมา ยกมือคล้องคอเขา แอ่นกายเข้าหาพร้อมรับทุกแรงกระแทก ร่างบางสั่นสะท้านกระเพื่อมไปตามแรงที่โยกสั่นคลอน
ปึก ปึก ปึก
จังหวะร้อนแรงเริ่มขึ้น เนื้อกระทบเนื้อตามด้วยเสียงครางหอบกระเซ่าของทั้งสองต่างดังระงมทั่วห้องเก็บของ…
บทที่ลวงใจเขายัดเยียด ตราหน้าเธอว่าเป็นเมียน้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่แก้ต่างให้กับตัวเอง…“มึงพอเลย หยุดพูดถึงผู้หญิงคนนั้นสักทีเถอะ แค่นี้กูก็เบื่อยัยนั่นจะแย่อยู่แล้ว!” เสียงทุ้มของอัลฟ่าพูดกับญาติผู้น้องอย่างรามิล วันนี้มันนัดดื่มกับเขาที่ผับหรูกลางใจเมืองกรุงเทพ กว่ามันจะโผล่หน้ามาหาที่กรุงเทพได้ก็นานโข เขาจึงยอมรับนัดของมันในคืนนี้และไม่ว่าจะนานแค่ไหน มันก็ยังคงแซวถึงเรื่องที่เขาตามจีบกอหญ้า สาวธรรมดาคนหนึ่งที่เปิดร้านขายข้าวแกงในซอยสลัมซึ่งตอนนี้เขาคบกับเธอมาเกือบปีหนึ่งได้แล้วกระมัง“เบื่อเขา แล้วไปจีบไปคบกับเขาทำไม?” รามิลถามอัลฟ่า ญาติผู้พี่ของตนอย่างสงสัยใคร่รู้ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับอัลฟ่า เขาไม่เคยเห็นมันจีบผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงเหล่านั้นจะตามติด และเสนอตัวให้กับมันเองมันไม่จำเป็นต้องตามจีบพวกเธอเลยด้วยซ้ำ! แต่อัลฟ่าลงสนามด้วยตัวเองแบบนี้ มันจึงน่าแปลกใจอยู่บ้างในความคิดของเขา…อัลฟ่าถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เขาเองก็เบื่อที่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่เขาก็ต้องจำใจหลอกจีบยัยเฉิ่มเชยนั่นจีบจนติด… จนตอนนี้ยังหาทางบอกเลิกเธอไม่ได้!“เพราะเธอเป็นเมียน้อยสาม
บทที่1เมื่ออีกคนเปลี่ยนไปแปะ~ แปะ แปะกลิ่นและหยดน้ำฝน ทำให้กอหญ้ายื่นมือออกมารองรับน้ำฝน ที่หยดแหมะลงบนฝ่ามือน้อยของเธอ สายตากลมโตเหม่อมองหยดน้ำหนึ่งดวงบนฝ่ามือก็ยกยิ้มขึ้นมันคล้ายหยดน้ำตาของเธอ…แววตา ริมฝีปากเล็กอวบอิ่มสั่นระริก แหงนมองสายฝนที่เริ่มหยาดหยดลงมาทีล่ะเม็ด คิดว่าอีกไม่นานมันคงเทกระหน่ำลงมาแน่ ๆ …พลันสายตาของเธอก็มองหาแท็กซี่สักคัน จนมีคันหนึ่งที่ผ่านมา… มือบางจึงโบกขึ้นทันทีกึก…แท็กซี่คันนั้นจอดลงแล้ว กอหญ้าจึงบอกสถานที่ที่จะไปต่อจากนี้ให้คนขับรับรู้ เมื่อลุงคนขับรับทราบแล้ว เธอจึงปล่อยตัวเองนั่งจมอยู่กับความคิดในใจอีกครั้งทุกอย่างผิดปกติไปจริง ๆ… เธอเฝ้าถามตัวเองว่าระหว่างทางเธอทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ทำอะไรให้พี่ฟ่าไม่พอใจหรือไม่ เฝ้าวนเวียนถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ไร้ซึ่งคำตอบ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด มีแต่เขาที่เปลี่ยนไป…นิ้วเรียวลองกดโทรออกหาเขาอีกครั้ง ปลายทางยังคงปิดเครื่อง…น้ำตาที่พยายามกลั้นเก็บเอาไว้ก็ไหลรินลงมา ลงมาพร้อมกับเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง ความคิด ความรู้สึกในตอนนี้คงเหมือนพายุสายฝนลูกนี้ที่ตกกระทบลงบนกระจกรถตอนนี้เธอรู้สึก
“อาจจะหมดโปรล่ะมั้งคะ” กอหญ้าไม่อยากให้แม่เครียดไปกับเธอ จึงเอ่ยออกมาแล้วยิ้มขำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้“เขา?” “อยู่ ๆ ก็เงียบ ติดต่อไม่ได้ คนหาย ไลน์ก็ไม่ตอบ” กอหญ้าพูดติดตลก ทั้งที่ในใจแทบแตกสลายได้แล้ว“พี่เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…” นั่นสินะ… เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…รอจนถึงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าเขายังไม่ติดต่อมา เธอจะไปหาเขาที่บริษัท เพราะเธอเคยไปหาอัลฟ่าที่บริษัทครั้งหนึ่งแล้ว เอาของที่เขาลืมไปให้ จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลยเขาบอกถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหาเขาที่บริษัทอีก เธอจึงเลือกที่จะเชื่อฟังและไม่ไปตามที่เขาบอก…ส่วนบ้านพ่อแม่ หรือที่ประจำที่เขาชอบไป อย่าพูดถึงเลย เธอเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริง ๆ“ไว้พรุ่งนี้หญ้าจะลองโทรหาพี่ฟ่าอีกครั้งค่ะ” “อืม ใจเย็น ๆ ใช้เหตุผลนะลูก อย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ไม่งันความรักอาจจะจบลงง่าย ๆ โดยที่เราไม่สามารถยื้อมันไว้ได้” “ค่ะแม่” “ลูกอยากได้ผู้ชายเหมือนพ่อ ตอนนี้ลูกบอกแม่ว่าเขามีนิสัยเหมือนพ่อมาก ดังนั้นต้องรักษาเขาเอาไว้ให้ดีๆ นะ” “ค่ะแม่ …แต่ว่า” กอหญ้ารู้สึกดีว่าเขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว อาจจะไม่รักเธอแล้ว และสักวันจุดจบมันก็ต้องมาถึง
บทที่2ความจริงปรากฏ เช้าวันต่อมา…กอหญ้าตื่นแต่เช้ามืดเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของเธอ ในเวลาเช้ามืดที่ยังคงมีเสียงน้ำค้างจากสายฝนหยดลงกระทบบนหลังคา ร่างเล็กยังคงนั่งนิ่ง ๆ มือบางถือสมาร์ทโฟนเก่า ๆ ไว้ในมือด้วยอาการสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้นทุกอย่างเงียบ เงียบจนใจของเธอรู้สึกปวดร้าว เบอร์โทรหรือแม้แต่ข้อความ ไร้วี่แววที่อัลฟ่าจะติดต่อกลับมา ทั้งที่เขาอ่านข้อความของเธอแล้วแท้ ๆ แต่เขาไม่คิดตอบกลับเธอสักข้อความเดียว…กอหญ้านั่งจ้องสมาร์ทโฟนของตัวเองนิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจ พลันน้ำตาก็ไหลหยดลงมาที่หน้าจอมือถืออย่างไม่รู้ตัวตอนที่เห็นหยดน้ำตาที่หยาดริน เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองร้องไห้แล้ว…กอหญ้ารีบสูดน้ำมูกขึ้นฟุดฟิด ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาออกไปอย่างลวก ๆ เธอไม่ควรร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นค่าในความรักของเธอ…กอหญ้าคิดว่านี่คงเป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบหนึ่งปี ความรักของเธอกับอัลฟ่าคงใกล้จบลงแล้วจริง ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอเพียงแค่อยากรู้ว่า เพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้…หรือเขาเบื่อเธอที่มันเฉิ่มเฉย หรือว่าเขาเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่า… หรือเขาไม่สบายใจอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ วันนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจ
กอหญ้าเลือกที่จะนั่งอยู่ด้านนอกร้าน เธอสั่งเพียงน้ำและเค้กมาทานเพื่อเฝ้าดูอัลฟ่าที่กำลังนั่งไขว่ห้างคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ หากให้เดาคงเป็นเพื่อนของเขา…ไม่มีผู้หญิงอย่างที่เธอแอบคิด… แต่ทำไมเขาถึงได้เมินเฉยกับเธอขนาดนี้นะ…กอหญ้าเม้มริมฝีปากนึกทบทวน จวบจนอัลฟ่าเดินไปข้างๆ ร้าน เธอจึงแอบตามไปเงียบ ๆ จนถึงจุดที่เขาและผู้ชายอีกคนยืนสูบบุหรี่สนทนากันอยู่…กอหญ้าแอบพิงกำแพงแอบฟังเงียบ ๆ แอบฟังพวกเขาคุยกัน เธออยากจะรู้ว่าอัลฟ้าจะสนทนาอะไรกับเพื่อนของเขาบ้าง อาจจะมีเรื่องของเธอบ้างก็ได้...“งานไปถึงไหนแล้วที่เกาะ” “ก็ดี เพาะพันธุ์ไข่มุกสวย ๆ ได้เรื่อย ๆ” “แล้วโรงแรม?” “ก็ไปได้ดี” “ไม่มีอะไรผิดปกติแน่นะ?” ผู้ชายอีกคนเอ่ยถาม เสียงกระซิบเสียมากกว่า“ถ้ามึงหมายถึงสายลับ ไม่มีทางที่พวกมันจะเข้าไปได้ เกาะกูไม่มีทางปล่อยผ่านง่ายๆ นอกจากจะเป็นพวกสายลับของพวกมึงที่จับได้ แล้วเอามาทิ้งขว้างให้คนของกูทรมานเล่น” เกาะของเขา…หมายถึงอะไร? อัลฟ่ามีเกาะส่วนตัวด้วยเหรอ…“ก็ดี ส่วนกาสิโนกูลักลอบเข้ามาเยอะจัด แต่ก็นะ ไม่มีทางรอดสายตากูได้สักคน” มาร์ตินอวยตัวเอง“ก็ดีแล้ว ถ้ามึงปล่อยมาสืบความลับของตระกูลมึ
บทที่3คำกล่าวหา“กอหญ้า…” สุ้มเสียงทุ้มต่ำลง เมื่อกอหญ้าปรากฏตัวที่นี่…“ไม่ต้องถามว่าหนูมาได้ยังไง ตอนนี้พี่ต้องตอบหนูมาก่อนว่าพี่อยากเลิกกับหนูใช่มั้ย!? ที่ผ่านมาพี่แค่หลอกให้หนูรักพี่ เพราะพี่คิดว่าหนูเป็นเมียน้อยของใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก!” กอหญ้าถามเขาเร็วพลัน ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้เขาจะมองจะคิดดูถูกกับเธอยังไงส่วนเกินอย่างมาร์ตินยังอึ้ง รู้สึกเป็นส่วนเกินขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก เมื่อตอนนี้ทั้งสองยืนจ้องหน้าฟาดฟันกันนิ่งงัน ไร้ซึ่งคำตอบกลับจากเพื่อนของเขา มาร์ตินจึงยักไหล่ถอนหายใจ ตัดสินใจเดินออกมาเงียบ ๆเพื่อให้ทั้งคู่ได้เคลียร์กัน“…” มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านเข้ามาที่ดวงหน้าของเธอ จนน้ำตาเริ่มแอบซึม แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาสมเพชเธอเด็ดขาด!“ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงใช่มั้ยคะ หนึ่งปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรักหนูเลยใช่มั้ยคะ!?” กอหญ้าเอื้อนเอ่ยคำถามต่อหน้า พยายามมองหาคำตอบจากแววตาของร่างสูงที่สูงกว่าเธอหลายเท่าตัว“ได้ยินหมดเลยสินะ…” แต่ทำได้เพียงเอ่ยเสียงเบา ๆและแค่นยิ้ม อัลฟ่าหรี่ตามองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งงัน แววตาเจือไปด้วยความเย็นชา และโกรธเคือง“ตอบมาสิคะ!? ตอบให้หนูหายโง่หน่อย
"ไม่! ฉันเชื่อในหลักฐานที่มี""งันหญ้าก็ไม่มีสิทธิ์โต้เถียง หากพี่คิดไปแล้วว่าหญ้าคือคนแบบนั้น" เธอจะยอมให้เขาตราหน้าไปก่อน และเธอจะต้องหาความจริงให้ได้ว่าทำไมชื่อของเธอถึงกลายเป็นเมียน้อยของคุณกายเธอจะต้องแก้มลทินที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยของคนที่เธอไม่รู้จักมักจีให้ได้ในสักวัน และเขาจะต้องเสียใจที่ทำกับเธอแบบนี้!“หึ! ฉันก็ต้องคิดแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้วสิ เพราะเธอเป็นเมียน้อยของมันจริง ๆ” กอหญ้าผ่อนลมหายใจหนัก ๆ อีกครั้ง“เอาเป็นว่าหนูจะไม่ยุ่งกับเขาอีก! และจะเลิกติดต่อเขาอย่างเด็ดขาด”“ได้! ฉันก็ขอให้เธอเลิกยุ่งกับมันจริง ๆ ...งันเธอต้องการเท่าไหร่ก็บอกมา ฉันจะโอนให้เลยตอนนี้ แลกกับคำสัญญาที่เธอเอ่ยมันออกมา”“หนูไม่ต้องการเงินของคุณ เมื่อหนูบอกว่าจะไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่งค่ะ และหวังว่าหลังจากจบกัน คุณจะไม่มาวุ่นวายกับหนูอีก!""ฮ่าๆๆๆๆ" อัลฟ่าระเบิดเสียงหัวเราะดังขึ้น หรี่ตามองเธอด้วยความบ้าคลั่ง พูดออกมาได้ว่าเขาจะไปวุ่นวายกับเธอ เธอน่ะสิที่จะมาวุ่นวายกับครอบครัวของเขา!"ใครกันแน่ที่จะมาวุ่นวาย เลิกกับไอ้กายให้ได้เด็ดขาดก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูด! และถ้าฉันยังเห็นว่าเธอยุ่งเกี่ยวกับสามีน้
บทที่4คำกล่าวหาที่เป็นจริงก๊อก ก๊อก ก๊อกแอด~บานประตูห้องของพี่สาวถูกเปิดออก สิ่งแรกที่กอหญ้าได้เห็นทำให้เธออึ้งไปชั่วขณะ เมื่อคนที่เธอถูกกล่าวว่าเป็นเมียน้อยของเขา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ“คุณกาย…”“มาหาพี่สาวเหรอ” กาศิตที่สวมเพียงกางเกงเปลือยท่อนบน เอ่ยถามเธออย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้“ค่ะ”นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! กอหญ้ารู้สึกจะล้มทั้งยืนเป็นรอบที่สอง สิ่งที่อัลฟ่าต่อว่าเธอ มันคือเรื่องจริงสินะ เพียงแต่เป็นพี่สาวของเธอที่เป็นเมียน้อยคุณกาย...“ครับ…” กายถอยหลังให้กอหญ้าเดินเข้ามาในห้อง ส่วนพี่ส
บทที่25ความจริงปัง!มือหนาทุบลงบนโต๊ะเมื่อได้ยินคำรายงานทุกคำจากเฟย์ต้า“มึงหมายความว่ายังไง!?” ภาพตรงหน้าทำให้มือหนากำหมัดแน่น ตัวสั่นจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ นักสืบจากรามิลทำงานได้ดี แกะรอยรถที่ชนอันนาได้ภายในวันเดียว รวมถึงไอ้กายที่มันหนีไปได้อย่างไร้ร่องรอยแต่มันจะหนีไปจากดวงตาของนักสืบไอ้รามิลไม่ได้นานหรอก!วันเดียวก็เกินพอแล้ว!ตอนนี้ภาพของกาศิตกำลังหนีคนของรามิลหัวซุกหัวซุน หนีไปพร้อมๆ กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจากที่เฟย์ต้ารายงานคือพี่สาวของกอหญ้าน้ำอิง…“เมียน้อยคุณกาศิตคือคุณน้ำอิงครับ”ความจริงจากปากไอ้เฟย์ต้า ทำเอาหัวใจแกร่งกระตุก เมียน้อยตัวจริงของไอ้กาศิตคือน้ำอิงไม่ใช่กอหญ้า!ที่ผ่านมาเขาเข้าใจผิดกอหญ้ามาโดยตลอด!ตอนนี้ความรู้สึกผิดกำลังโจมตีเขาอย่างหนักหน่วง เมื่อความจริงถูกเปิดเผย!"นี่ครับหลักฐาน" เฟย์ต้าตอกย้ำความผิดพลาดที่เขาก
บทที่23ขอของเล่นคืนปัง ปัง ปัง!“ใคร!?” ลีโอตะโกนถาม หันไปมองประตูที่มีเงารองเท้าเยอะผิดปกติ คิ้วเรียวขมวดพลางหันกลับมาสบตากับกอหญ้าเงียบๆ"เปิดประตู!" เสียงของอัลฟ่าทุบประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานว่า กอหญ้ากำลังสนุกกับไอ้ลีโอ!ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรร่านฉิบหาย!แควก!ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนารีบปลดสายคล้องคอขอวกอหญ้าออก ตอนนี้เนินอกของเธอแทบเปลือยจมูกคมสัน ริมฝีปากหนา กดจูบขบเม้มลงบนผิวกายของเธอซ้ำ ๆ จนกอหญ้าทุบตีเขาอย่างตื่นตกใจปัง ปัง ปัง!“นี่! เดี๋ยว! ไหนบอกจะไม่ทำไง” กอหญ้าต่อว่าลีโอ ทั้งตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ต้องทำ ใครมาไม่รู้หรือไง?”“อัลฟ่า…” เธอจำเสียงเขาได้“ใช่! ดังนั้นก็เล่นละครกับฉัน” กอหญ้าหยุดนิ่งทันที บทบาทที่เธอเพิ่งได้รับ ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง กอหญ้าจ
บทที่22เปิดตัวประมูลกอหญ้ายืนน้ำตาคลอหลังจากที่ออกจากห้องทำงานของอัลฟ่า ตอนนี้เธอยืนนิ่ง ๆอยู่หน้ากรงขนาดใหญ่ ถูกวาลิถอดชุดคลุมออกให้เหลือเพียงชุดเมดผ้าลูกไม้ที่แสนเซ็กซี่วาลิยิ้มกริ่มพอใจกับพนักงานคนใหม่ของคลับ กอหญ้าสวยมากจริง ๆสวยขนาดที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 'สวยจนไร้ที่ติ…'สายตากลมโตของกอหญ้าน้ำตาเอ่อซึมเธอกำลังยืนมองกรงทองขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาหรูสีแดงสด …สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เธอคิดว่ามันคงเป็นที่ที่เธอต้องเข้าไปนั่งอวดโฉมประมูลในค่ำคืนนี้พอนึกคิดหัวใจบางก็พลันวูบไหว เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งประตูกรงทองนั้นถูกเคลื่อนออก หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น มือบางกุมมือกันแน่น เธอไม่สามารถรอดพ้นไปจากตรงนี้ได้เลยจะมีใครสักคนมั้ยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอได้…ช่วย… ถ้าจะมีคนมาช่วยที่นี่ก็คงมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้น ที่สามารถช่วยเธอได้!ซึ่งเขาประกาศก้องแล้วว่าเขาไม่มีทางช่วยเ
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป