บทที่
ลวงใจ
เขายัดเยียด ตราหน้าเธอว่าเป็นเมียน้อย
ไม่มีสิทธิ์แม้แต่แก้ต่างให้กับตัวเอง…
“มึงพอเลย หยุดพูดถึงผู้หญิงคนนั้นสักทีเถอะ แค่นี้กูก็เบื่อยัยนั่นจะแย่อยู่แล้ว!” เสียงทุ้มของอัลฟ่าพูดกับญาติผู้น้องอย่างรามิล วันนี้มันนัดดื่มกับเขาที่ผับหรูกลางใจเมืองกรุงเทพ กว่ามันจะโผล่หน้ามาหาที่กรุงเทพได้ก็นานโข เขาจึงยอมรับนัดของมันในคืนนี้
และไม่ว่าจะนานแค่ไหน มันก็ยังคงแซวถึงเรื่องที่เขาตามจีบกอหญ้า สาวธรรมดาคนหนึ่งที่เปิดร้านขายข้าวแกงในซอยสลัม
ซึ่งตอนนี้เขาคบกับเธอมาเกือบปีหนึ่งได้แล้วกระมัง
“เบื่อเขา แล้วไปจีบไปคบกับเขาทำไม?” รามิลถามอัลฟ่า ญาติผู้พี่ของตนอย่างสงสัยใคร่รู้ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับอัลฟ่า เขาไม่เคยเห็นมันจีบผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงเหล่านั้นจะตามติด และเสนอตัวให้กับมันเอง
มันไม่จำเป็นต้องตามจีบพวกเธอเลยด้วยซ้ำ! แต่อัลฟ่าลงสนามด้วยตัวเองแบบนี้ มันจึงน่าแปลกใจอยู่บ้างในความคิดของเขา…
อัลฟ่าถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เขาเองก็เบื่อที่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่เขาก็ต้องจำใจหลอกจีบยัยเฉิ่มเชยนั่น
จีบจนติด… จนตอนนี้ยังหาทางบอกเลิกเธอไม่ได้!
“เพราะเธอเป็นเมียน้อยสามีของอันนา ฉันไม่อยากให้น้องเสียใจ ก็เลยต้องกันยัยนั่นออกมาด้วยตัวเองแบบนี้”
“อ่อ~ ใช่คนที่ให้ผมสืบป่ะ” เขาจำได้ ครั้งก่อนอัลฟ่ายกสายสั่งให้เขาไปสืบผู้หญิงคนหนึ่ง
“ใช่!”
“แต่พี่ก็ลงทุนเกินไปนะ ไม่เห็นต้องพาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับคนแบบนั้น ใช้เงินฟาดไปก็จบเรื่อง ผู้หญิงแบบนี้เห็นแก่เงินจะตายไป!”
“ใครบอกว่ากูไม่ทำ กูให้ไอ้เฟย์ไปมาแล้ว มันโดนไล่ออกร้านทั้งตะหลิวทั้งหม้อ เมื่อคุยกันดี ๆไม่ได้ ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ!” หลอกให้รักแล้วก็เททิ้งทันที เมื่อกันเธอออกไปจากไอ้กายได้
“โหดว่ะ!” รามิลยกแก้วเหล้าสีอำพันจรดริมฝีปากดื่ม แอบขำที่คนของอัลฟ่าถูกกอหญ้ากระทำแบบนั้น เหมือนจะแสบไม่ใช่น้อยเลย
อัลฟ่ายังจำได้ว่าก่อนที่เขาจะจีบยัยเฉิ่ม เขาให้มือขวาของเขายื่นข้อเสนอให้กับเธอ บอกให้เธอเลิกยุ่งกับน้องเขยของเขา แต่เธอกลับปฏิเสธ และไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นเมียน้อยของไอ้กาย
ไอ้เฟย์ถึงกับโดนไล่ออกร้านพร้อมกับ หม้อ ตะหลิว มันโดนไล่ออกร้านมาอย่างทุลักทุเล ใบหน้ามีแต่รอยช้ำ
เหตุเพราะไปกล่าวหาว่าเธอเป็นเมียน้อย
ก็เธอเป็นเมียน้อยไอ้กายจริง ๆ หลักฐานทุกอย่างเขาก็มี แต่เธอก็ยังยืนกราน ยังหน้าด้านหน้าทนว่าตัวเองไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร!
ในเมื่อทำทุกทางแล้วไม่ได้ผล ผู้หญิงหน้าด้านอย่างเธอไม่คิดยอมรับว่าตนเองนั้นผิด เขาจึงจำเป็นต้องลงสนามเองแบบนี้!
ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสามารถแยกทั้งคู่ออกจากกันได้แล้ว กอหญ้าไม่ได้ไปมาหาสู่น้องเขยอย่างไอ้กายอีก
...แต่เพราะเขาเองก็ยังไม่มั่นใจมากนัก จึงคิดดึงกอหญ้าไว้ข้างกายแบบนี้ต่อไปจนกว่าจะมั่นใจอีกสักหน่อย
ไม่ก็ให้เธอเป็นฝ่ายทนไม่ไหว บอกเลิกเขาไปเองก็แล้วกัน หนึ่งปีแล้วนะ… เลิกกับเขาเธอก็คงไม่กลับไปหาไอ้กายหรอกกระมัง…
ครืด~
เสียงเรียกเข้าสมาร์ทโฟนหรูของอัลฟ่าสั่นดังขึ้น อัลฟ่ามองหน้าจอที่ปรากฏชื่อของกอหญ้า ก็ถอนหายใจลงอย่างหนัก โทรมาอีกแล้วเขาล่ะหน่ายใจกับเธอจริง ๆ
เขาไม่รับก็ควรรู้ว่าเขาไม่ว่างคุย แต่กอหญ้ากลับทำตัวน่าเบื่อ โทรตามเขาอยู่ได้ นับวันชอบทำตัวให้เขาเบื่อเธอมากขึ้นทุกวัน ๆ!
“รับสิ” สายตาคมกริบมองรามิลนิ่ง ๆ แววตาคมราบเรียบที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายนั้น ทำเอารามิลกลั้นยิ้มขำ
ให้ตาย เบื่อเขาขนาดนั้นเชียว!
“กูเบื่อ…” อัลฟ่าเอ่ยเพียงแค่นั้นก็คว่ำจอมือถือลง พลางยกแก้ววิสกี้ดื่มอีกครั้ง สายตากวาดมองสาวๆ ที่เต้นยั่วยวน ส่งสายตามาให้แต่เขากลับไม่คิดสนใจใครสักเท่าไรในวันนี้
“เห็นว่าคลับที่เชียงใหม่กำลังไปได้ดี ไอ้คินเพื่อนมึงนี่ทำงานเก่งเป็นบ้า” อัลฟ่าเปลี่ยนเรื่องพูดถึงธุรกิจที่เขาเองก็ลงทุนมีหุ้นร่วมด้วย
“อืม ปกติของมัน พวกเราก็เลยนั่งรอเงินปันผลจากคลับมันรัว ๆ” รามิลยิ้ม มองหาสาวที่ถูกใจไปด้วย
“อยากได้สักคนมั้ยล่ะ?” รามิลเอ่ยถามอัลฟ่า เขาแอบมีหุ้นส่วนอยู่ที่นี่ และเขาสามารถเรียกเด็กมาเอนเตอร์เทนอัลฟ่าได้
“ไม่ดีกว่า กูอยากเมาแล้วกลับไปนอนที่เพนท์เฮ้าส์”
“อ่อ~ นึกว่ารีบกลับไปหายัยเฉิ่มที่พูดถึงคนนั้น”
“ไม่! บอกไว้เลยกูไม่มีวันแตะต้องเธอ” ผู้หญิงทำตัวเละเทะ น่ารังเกียจแบบนั้น แค่เอาตัวลงไปเกลือกกลั้วคบด้วยก็ขยะแขยงพอทนแล้ว ยังจะให้ลึกซึ้งถึงขั้นลากขึ้นเตียงคงทำไม่ไหว
ผ่านมากี่คนแล้วก็ไม่รู้…
ทำหน้าทำตาใสซื่อ ทั้งที่จริงแล้วร้ายตัวแม่!
“คร้าบบ เชื่ออ” ต้องเชื่ออยู่แล้วล่ะ เพราะคนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องสนใจผู้หญิงที่ผ่านมาร้อยสังเวียนแบบกอหญ้า คนอย่างเขาแค่กระดิกนิ้วครั้งเดียว ก็ได้สาวสวยๆ สวยสดกว่าผู้หญิงอย่างกอหญ้าแล้ว…
ดวงหน้าคมคายนึกคิด เขาคือผู้นำตระกูลมาเวลลิน เขาดำรงตำแหน่งนี้มานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่อายุยี่สิบสองจวบถึงวันนี้ ก็ย่างเข้าปีที่สิบห้าแล้ว
ตอนนี้เขาอายุสามสิบเจ็ดปี ด้วยความเด็ดขาดเก่งกาจรอบด้าน ทำให้เขาผลิตฟาร์มไข่มุกที่ใหญ่ที่สุดได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี
และยังมีธุรกิจสีเทาแอบแฝงมากมายที่เป็นเจ้าของ มีหุ้นธุรกิจในเครือของเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆด้วย
ด้วยความที่มีเพื่อน พี่น้องโพร์ไฟล์ดี แต่ล่ะคนอำนาจสูงส่ง ต่างมีอิทธิพลมีเส้นสายใหญ่โตในทุก ๆที่ ทำให้เขาทำอะไรสะดวกขึ้น และกลายเป็นผู้นำตระกูลที่มีอิทธิพลในลำดับต้น ๆ ของวงการมาเฟียในประเทศและต่างประเทศ
เขามีเกาะลับของตระกูลมาเวลลิน และที่นั่นมีธุรกิจหลากหลาย รวมถึงธุรกิจของเขา ซึ่งเป็นธุรกิจเพาะพันธุ์ไข่มุกที่ดีที่สุด
ภายในเกาะมีธุรกิจโรงแรมเข้าขั้นระดับห้าดาว คนชั้นสูง รวยถึงรวยเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้
ซึ่งบนเกาะมีสิ่งอโคจรครบทุกอย่าง ใครไปก็ต้องติดใจและไม่วายต้องลงทุนด้วยเงินมหาศาลเพื่อที่จะได้เข้าไปพักบนเกาะอีกครั้งด้วยการสมัครสมาชิกวีวีไอพี
เขามีทุกอย่างมากกว่าเธอเป็นพันเท่า คงไม่คิดยกตำแหน่งนายหญิงเพียงคนดียวของเขาให้เธอหรอกนะ…
กอหญ้าไม่มีค่าให้คู่ควรกับตำแหน่งนั้นเลยสักนิด…
ครืด~
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาอีกครั้ง เรียกสติเขาให้กลับมาสู่ปัจจุบัน อัลฟ่ามองรายชื่อของกอหญ้าแล้วรู้สึกรำคาญใจ นิ้วเรียวยาวจัดการกดปิดสมาร์ทโฟนหรูทันที
“ใจพี่มันได้ว่ะ!” รามิลนั่งดื่มมองการกระทำของอัลฟ่าอย่างทึ้ง ๆ
“ก็แค่ผู้หญิงทำตัวไร้ค่าคนหนึ่ง ริอาจอยากเป็นเมียน้อย จะสนใจอะไรนัก ที่หลอกให้รักให้หลงก็เพราะกันไม่ให้เธอไปยุ่งกับน้องเขยกูอีกก็เท่านั้น”
“ตอนนี้เธอก็น่าจะไม่ยุ่งกับน้องเขยพี่แล้วหรือเปล่า”
“ไม่มั่นใจ… กูเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ะ” เขายอมรับตรง ๆ ที่ยังดึงเธอเอาไว้แบบนี้ คงเพราะว่ายังไม่มั่นใจนั่นแแหละ!
มือหนายกดื่มวิสกี้ในมืออีกครั้ง โดยสายตาคมยังคงมองเหล่าผีเสื้อราตรีในค่ำคืน ที่โชว์ลวดลายการเต้นอย่างเร่าร้อนแก้เซ็งกับความรู้สึกบ้า ๆในใจ
***
“ขอโทษค่ะ เลขหมายปลายทางที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้…ตูด ตูด ตูด” กอหญ้าถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้ เมื่อแฟนหนุ่มไม่ยอมรับสาย และตอนนี้เขาก็ปิดเครื่องหนีเธอไปแล้ว
ช่วงนี้อัลฟ่าเปลี่ยนไป… ไม่ค่อยอยากพบเธอ ไม่อยากคุยกับเธอ หลีกเลี่ยงที่จะได้อยู่ด้วยกันเหมือนเช่นเคย วันนี้ครบรอบหนึ่งปีแล้วที่เราคบกัน
รู้สึกว่าความรักของเธอมันคงน่าเบื่อสำหรับเขาไปแล้ว…
กอหญ้านั่งเท้าคางเฝ้ามองเค้กที่ตนเองทำเองกับมือเงียบๆ มองอาหารที่เธอตั้งใจทำเพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิดและวันครบรอบของการเป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้เธอกลับถูกอัลฟ่าเซอร์ไพรส์กลับ เขาไม่อยู่ห้อง มีเพียงห้องที่เงียบสงบ ไร้เงาของเขาแถมยังไม่ยอมรับสาย ไม่สามารถติดต่อเขาได้อีก…
ช่างเป็นวันครบรอบที่ดีจริง ๆ
“ไปไหนของพี่นะ…” กอหญ้านั่งมองเค้กนิ่ง ๆ สายตาเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้จะเที่ยงคืนแล้ว จะหมดวันเกิดของแฟนหนุ่ม กอหญ้าเม้มริมฝีปากลงเล็กน้อย ตัดสินใจ จุดไฟเทียนบนเค้กที่แสนน่ารัก มือบางกุมมือเข้าหากัน พลางหลับตาอธิษฐานแทนเจ้าของวันเกิด
“ขอให้พี่ฟ่ามีความสุขมากๆ นะคะ” รอยยิ้มหวานปรากฏ ก่อนจะเบะคว่ำลงคล้ายอยากจะร้องไห้ ตอนนี้ดวงใจของเธอกำลังแตกสลาย เมื่อการกระทำของแฟนหนุ่มเข้าขั้นคล้ายไม่รักกันแล้ว…
ความรักที่เสมอต้นเสมอปลายจากชายคนหนึ่งที่จะมอบให้หญิงคนรัก เธอรู้ว่าคงค้นพบยากในชีวิตจริง และมันคงเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วกับความสัมพันธ์ชายหญิง ที่จะมีรักและหมดรัก…
กอหญ้ามองโลกในแง่ดีเสมอมา และเธอพยายามที่จะไม่คาดหวังกับความรักครั้งนี้สักเท่าไร อัลฟ่าเข้าในชีวิตเธอปุ๊บปั๊บ ที่ผ่านเขาไม่เคยเปิดตัวเธอกับใคร ไม่ว่าพ่อ แม่ หรือ เพื่อนของเขา
เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย รู้เพียงว่าเขาเป็นพนักงานแผนกITของบริษัทมาเวลลินเท่านั้น และอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนส์แห่งนี้ในบางช่วงเวลาเท่านั้น บางวันเขาก็กลับไปนอนที่บ้านพ่อกับแม่
เขาไม่เคยเปิดเผยข้อมูลของตนเองให้เธอรู้ เขาให้เธอรู้จักเขาเท่าที่เขาอยากให้รู้จัก ซึ่งนั้นมันก็ชัดเจนแล้วว่าเขายังไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของเรา
เขาต้องการเพียงแค่คุยกัน เป็นแฟนกันลับๆ แบบนี้ไปวัน ๆ เท่านั้น
ทั้งที่พยายามไม่คาดหวัง แต่สุดท้ายเธอก็ยังเจ็บเพราะมันอยู่ดี…
อาจเพราะที่ผ่านมาเขาแสนดี และใจดีขนาดนั้น เป็นผู้หญิงคนไหนก็คงต้องหวั่นไหว อัลฟ่าหน้าตาดีหล่อคม ร่างสูงโปร่งสมส่วนออกกำลังกายตลอดเวลา
ผิวพรรณนั้นไม่ต้องพูดถึง เนียนสะอาดคล้ายคนอาบน้ำตลอดเวลามีกลิ่นหอมประจำตัว และเธอก็ชอบดมกลิ่นเขาจนถึงขั้นเสพติดและจำได้ในครั้งเดียว
ทุกอย่างที่เป็นอัลฟ่า ริมฝีปากหนาหยักลึกแดงคล้ำ จมูกโด่งคมสัน ดวงตาคมกริบดั่งนกเหยี่ยวนั่น ทุกอย่างบนเบ้าหน้า ร่างกายของเขาเหมือนดังฟ้าประทานให้มา เธอแอบอิจฉาที่เขาหล่อในทุกทาง แต่ความรักสำหรับเธอไม่ได้มองเขาจากจุดนี้
ตั้งแต่ที่รู้จักกันมาพี่เขาสุภาพ ให้เกียรติ เป็นสุภาพบุรุษกับเธอมาก และเขาก็พูดจาดีจนเธอหลงรักเขาเข้าแล้วจริง ๆ
รู้อะไรมั้ยตั้งแต่ที่คบกันมา พี่ฟ่าไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง อย่างมากก็แค่จูบและหอมแก้ม ซึ่งเป็นความประทับใจอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอเลือกที่จะคบกับพี่เขาอย่างไร้ความคาดหวัง
อาจเพราะที่เป็นอยู่ในทุกๆ วัน เธอคิดว่ามันดีแล้ว ดีแล้วที่มันเป็นแบบนี้ แค่พี่ฟ่าเป็นเซฟโซนที่ดี เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตในแต่ล่ะวันให้กับเธอได้ และเราก็ให้กำลังใจกันและกันในทุก ๆวัน…
ความรู้สึกเหล่านี้ ทำให้เธอเลือกที่จะเพิกเฉยกับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ พยายามไม่คิดน้อยใจเขา ที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้เธอรู้ไปมากกว่านี้
แต่วันนี้… มันอาจจะถึงเวลาที่เธอต้องทำใจและเลิกหลอกตัวเองสักที…
กอหญ้าเม้มริมฝีปากแน่นกลั้นน้ำตาเอาไว้ให้ลึกสุดใจ เธอสูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนจะเก็บอาหารส่วนของเธอ เหลือไว้เพียงเค้กและอาหารจานโปรดของอัลฟ่าเพียงหนึ่งจานไว้ในตู้เย็น
‘สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ฟ่า’
มือบางเขียนโน๊ตไว้ให้ ก่อนจะส่งข้อความบอกเขาว่าอย่าลืมทานเค้กที่เธอทำให้ด้วย หลังจากนั้นจึงก้าวออกจากห้องพักของอัลฟ่าไปอย่างเชื่องช้า เผื่อหวังว่าเขาจะกลับมา กลับมาทันก่อนที่เธอจะกลับบ้าน…
‘เซอร์ไพร์~’ เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยขึ้นยามที่เปิดดวงตาให้กับเธอ ภาพจำครั้งนั้นยังคงจดจำไว้ในใจ วันแรกที่อัลฟ่าขอเธอเป็นแฟน ซึ่งก็คือวันนี้ วันที่อัลฟ่าขอของขวัญวันเกิดจากเธอครั้งแรก
เขาขอให้เธอตอบตกลงเป็นแฟนกับเขา และเขาสัญญากับเธอว่าจะรักและดูแลเธอให้ดีที่สุด…
แต่วันนี้วันที่เขาเคยเอ่ยปากสัญญา กลับเป็นวันที่เขาทำตัวเมินเฉยต่อกันเช่นนี้…
ร่างบางระหงก้าวเดินต่อไปในจังหวะที่มั่นคง เธอเหม่อคิดถึงเรื่องวันวานที่มีร่วมกันเช่นนั้น จวบจนตอนนี้เธอหยุดยืนอยู่หน้าอพาร์ทเมนต์ของเขาเรียบร้อยแล้ว
"ไม่กลับมาจริง ๆ สินะ..." สุดท้าย...เขาก็ไม่คิดกลับมา และคงลืมไปแล้วว่าวันนี้คือวันอะไร…
บทที่1เมื่ออีกคนเปลี่ยนไปแปะ~ แปะ แปะกลิ่นและหยดน้ำฝน ทำให้กอหญ้ายื่นมือออกมารองรับน้ำฝน ที่หยดแหมะลงบนฝ่ามือน้อยของเธอ สายตากลมโตเหม่อมองหยดน้ำหนึ่งดวงบนฝ่ามือก็ยกยิ้มขึ้นมันคล้ายหยดน้ำตาของเธอ…แววตา ริมฝีปากเล็กอวบอิ่มสั่นระริก แหงนมองสายฝนที่เริ่มหยาดหยดลงมาทีล่ะเม็ด คิดว่าอีกไม่นานมันคงเทกระหน่ำลงมาแน่ ๆ …พลันสายตาของเธอก็มองหาแท็กซี่สักคัน จนมีคันหนึ่งที่ผ่านมา… มือบางจึงโบกขึ้นทันทีกึก…แท็กซี่คันนั้นจอดลงแล้ว กอหญ้าจึงบอกสถานที่ที่จะไปต่อจากนี้ให้คนขับรับรู้ เมื่อลุงคนขับรับทราบแล้ว เธอจึงปล่อยตัวเองนั่งจมอยู่กับความคิดในใจอีกครั้งทุกอย่างผิดปกติไปจริง ๆ… เธอเฝ้าถามตัวเองว่าระหว่างทางเธอทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ทำอะไรให้พี่ฟ่าไม่พอใจหรือไม่ เฝ้าวนเวียนถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ไร้ซึ่งคำตอบ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด มีแต่เขาที่เปลี่ยนไป…นิ้วเรียวลองกดโทรออกหาเขาอีกครั้ง ปลายทางยังคงปิดเครื่อง…น้ำตาที่พยายามกลั้นเก็บเอาไว้ก็ไหลรินลงมา ลงมาพร้อมกับเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง ความคิด ความรู้สึกในตอนนี้คงเหมือนพายุสายฝนลูกนี้ที่ตกกระทบลงบนกระจกรถตอนนี้เธอรู้สึก
“อาจจะหมดโปรล่ะมั้งคะ” กอหญ้าไม่อยากให้แม่เครียดไปกับเธอ จึงเอ่ยออกมาแล้วยิ้มขำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้“เขา?” “อยู่ ๆ ก็เงียบ ติดต่อไม่ได้ คนหาย ไลน์ก็ไม่ตอบ” กอหญ้าพูดติดตลก ทั้งที่ในใจแทบแตกสลายได้แล้ว“พี่เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…” นั่นสินะ… เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…รอจนถึงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าเขายังไม่ติดต่อมา เธอจะไปหาเขาที่บริษัท เพราะเธอเคยไปหาอัลฟ่าที่บริษัทครั้งหนึ่งแล้ว เอาของที่เขาลืมไปให้ จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลยเขาบอกถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหาเขาที่บริษัทอีก เธอจึงเลือกที่จะเชื่อฟังและไม่ไปตามที่เขาบอก…ส่วนบ้านพ่อแม่ หรือที่ประจำที่เขาชอบไป อย่าพูดถึงเลย เธอเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริง ๆ“ไว้พรุ่งนี้หญ้าจะลองโทรหาพี่ฟ่าอีกครั้งค่ะ” “อืม ใจเย็น ๆ ใช้เหตุผลนะลูก อย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ไม่งันความรักอาจจะจบลงง่าย ๆ โดยที่เราไม่สามารถยื้อมันไว้ได้” “ค่ะแม่” “ลูกอยากได้ผู้ชายเหมือนพ่อ ตอนนี้ลูกบอกแม่ว่าเขามีนิสัยเหมือนพ่อมาก ดังนั้นต้องรักษาเขาเอาไว้ให้ดีๆ นะ” “ค่ะแม่ …แต่ว่า” กอหญ้ารู้สึกดีว่าเขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว อาจจะไม่รักเธอแล้ว และสักวันจุดจบมันก็ต้องมาถึง
บทที่2ความจริงปรากฏ เช้าวันต่อมา…กอหญ้าตื่นแต่เช้ามืดเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของเธอ ในเวลาเช้ามืดที่ยังคงมีเสียงน้ำค้างจากสายฝนหยดลงกระทบบนหลังคา ร่างเล็กยังคงนั่งนิ่ง ๆ มือบางถือสมาร์ทโฟนเก่า ๆ ไว้ในมือด้วยอาการสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้นทุกอย่างเงียบ เงียบจนใจของเธอรู้สึกปวดร้าว เบอร์โทรหรือแม้แต่ข้อความ ไร้วี่แววที่อัลฟ่าจะติดต่อกลับมา ทั้งที่เขาอ่านข้อความของเธอแล้วแท้ ๆ แต่เขาไม่คิดตอบกลับเธอสักข้อความเดียว…กอหญ้านั่งจ้องสมาร์ทโฟนของตัวเองนิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจ พลันน้ำตาก็ไหลหยดลงมาที่หน้าจอมือถืออย่างไม่รู้ตัวตอนที่เห็นหยดน้ำตาที่หยาดริน เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองร้องไห้แล้ว…กอหญ้ารีบสูดน้ำมูกขึ้นฟุดฟิด ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาออกไปอย่างลวก ๆ เธอไม่ควรร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นค่าในความรักของเธอ…กอหญ้าคิดว่านี่คงเป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบหนึ่งปี ความรักของเธอกับอัลฟ่าคงใกล้จบลงแล้วจริง ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอเพียงแค่อยากรู้ว่า เพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้…หรือเขาเบื่อเธอที่มันเฉิ่มเฉย หรือว่าเขาเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่า… หรือเขาไม่สบายใจอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ วันนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจ
กอหญ้าเลือกที่จะนั่งอยู่ด้านนอกร้าน เธอสั่งเพียงน้ำและเค้กมาทานเพื่อเฝ้าดูอัลฟ่าที่กำลังนั่งไขว่ห้างคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ หากให้เดาคงเป็นเพื่อนของเขา…ไม่มีผู้หญิงอย่างที่เธอแอบคิด… แต่ทำไมเขาถึงได้เมินเฉยกับเธอขนาดนี้นะ…กอหญ้าเม้มริมฝีปากนึกทบทวน จวบจนอัลฟ่าเดินไปข้างๆ ร้าน เธอจึงแอบตามไปเงียบ ๆ จนถึงจุดที่เขาและผู้ชายอีกคนยืนสูบบุหรี่สนทนากันอยู่…กอหญ้าแอบพิงกำแพงแอบฟังเงียบ ๆ แอบฟังพวกเขาคุยกัน เธออยากจะรู้ว่าอัลฟ้าจะสนทนาอะไรกับเพื่อนของเขาบ้าง อาจจะมีเรื่องของเธอบ้างก็ได้...“งานไปถึงไหนแล้วที่เกาะ” “ก็ดี เพาะพันธุ์ไข่มุกสวย ๆ ได้เรื่อย ๆ” “แล้วโรงแรม?” “ก็ไปได้ดี” “ไม่มีอะไรผิดปกติแน่นะ?” ผู้ชายอีกคนเอ่ยถาม เสียงกระซิบเสียมากกว่า“ถ้ามึงหมายถึงสายลับ ไม่มีทางที่พวกมันจะเข้าไปได้ เกาะกูไม่มีทางปล่อยผ่านง่ายๆ นอกจากจะเป็นพวกสายลับของพวกมึงที่จับได้ แล้วเอามาทิ้งขว้างให้คนของกูทรมานเล่น” เกาะของเขา…หมายถึงอะไร? อัลฟ่ามีเกาะส่วนตัวด้วยเหรอ…“ก็ดี ส่วนกาสิโนกูลักลอบเข้ามาเยอะจัด แต่ก็นะ ไม่มีทางรอดสายตากูได้สักคน” มาร์ตินอวยตัวเอง“ก็ดีแล้ว ถ้ามึงปล่อยมาสืบความลับของตระกูลมึ
บทที่3คำกล่าวหา“กอหญ้า…” สุ้มเสียงทุ้มต่ำลง เมื่อกอหญ้าปรากฏตัวที่นี่…“ไม่ต้องถามว่าหนูมาได้ยังไง ตอนนี้พี่ต้องตอบหนูมาก่อนว่าพี่อยากเลิกกับหนูใช่มั้ย!? ที่ผ่านมาพี่แค่หลอกให้หนูรักพี่ เพราะพี่คิดว่าหนูเป็นเมียน้อยของใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก!” กอหญ้าถามเขาเร็วพลัน ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้เขาจะมองจะคิดดูถูกกับเธอยังไงส่วนเกินอย่างมาร์ตินยังอึ้ง รู้สึกเป็นส่วนเกินขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก เมื่อตอนนี้ทั้งสองยืนจ้องหน้าฟาดฟันกันนิ่งงัน ไร้ซึ่งคำตอบกลับจากเพื่อนของเขา มาร์ตินจึงยักไหล่ถอนหายใจ ตัดสินใจเดินออกมาเงียบ ๆเพื่อให้ทั้งคู่ได้เคลียร์กัน“…” มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านเข้ามาที่ดวงหน้าของเธอ จนน้ำตาเริ่มแอบซึม แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาสมเพชเธอเด็ดขาด!“ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงใช่มั้ยคะ หนึ่งปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรักหนูเลยใช่มั้ยคะ!?” กอหญ้าเอื้อนเอ่ยคำถามต่อหน้า พยายามมองหาคำตอบจากแววตาของร่างสูงที่สูงกว่าเธอหลายเท่าตัว“ได้ยินหมดเลยสินะ…” แต่ทำได้เพียงเอ่ยเสียงเบา ๆและแค่นยิ้ม อัลฟ่าหรี่ตามองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งงัน แววตาเจือไปด้วยความเย็นชา และโกรธเคือง“ตอบมาสิคะ!? ตอบให้หนูหายโง่หน่อย
"ไม่! ฉันเชื่อในหลักฐานที่มี""งันหญ้าก็ไม่มีสิทธิ์โต้เถียง หากพี่คิดไปแล้วว่าหญ้าคือคนแบบนั้น" เธอจะยอมให้เขาตราหน้าไปก่อน และเธอจะต้องหาความจริงให้ได้ว่าทำไมชื่อของเธอถึงกลายเป็นเมียน้อยของคุณกายเธอจะต้องแก้มลทินที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยของคนที่เธอไม่รู้จักมักจีให้ได้ในสักวัน และเขาจะต้องเสียใจที่ทำกับเธอแบบนี้!“หึ! ฉันก็ต้องคิดแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้วสิ เพราะเธอเป็นเมียน้อยของมันจริง ๆ” กอหญ้าผ่อนลมหายใจหนัก ๆ อีกครั้ง“เอาเป็นว่าหนูจะไม่ยุ่งกับเขาอีก! และจะเลิกติดต่อเขาอย่างเด็ดขาด”“ได้! ฉันก็ขอให้เธอเลิกยุ่งกับมันจริง ๆ ...งันเธอต้องการเท่าไหร่ก็บอกมา ฉันจะโอนให้เลยตอนนี้ แลกกับคำสัญญาที่เธอเอ่ยมันออกมา”“หนูไม่ต้องการเงินของคุณ เมื่อหนูบอกว่าจะไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่งค่ะ และหวังว่าหลังจากจบกัน คุณจะไม่มาวุ่นวายกับหนูอีก!""ฮ่าๆๆๆๆ" อัลฟ่าระเบิดเสียงหัวเราะดังขึ้น หรี่ตามองเธอด้วยความบ้าคลั่ง พูดออกมาได้ว่าเขาจะไปวุ่นวายกับเธอ เธอน่ะสิที่จะมาวุ่นวายกับครอบครัวของเขา!"ใครกันแน่ที่จะมาวุ่นวาย เลิกกับไอ้กายให้ได้เด็ดขาดก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูด! และถ้าฉันยังเห็นว่าเธอยุ่งเกี่ยวกับสามีน้
บทที่4คำกล่าวหาที่เป็นจริงก๊อก ก๊อก ก๊อกแอด~บานประตูห้องของพี่สาวถูกเปิดออก สิ่งแรกที่กอหญ้าได้เห็นทำให้เธออึ้งไปชั่วขณะ เมื่อคนที่เธอถูกกล่าวว่าเป็นเมียน้อยของเขา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ“คุณกาย…”“มาหาพี่สาวเหรอ” กาศิตที่สวมเพียงกางเกงเปลือยท่อนบน เอ่ยถามเธออย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้“ค่ะ”นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! กอหญ้ารู้สึกจะล้มทั้งยืนเป็นรอบที่สอง สิ่งที่อัลฟ่าต่อว่าเธอ มันคือเรื่องจริงสินะ เพียงแต่เป็นพี่สาวของเธอที่เป็นเมียน้อยคุณกาย...“ครับ…” กายถอยหลังให้กอหญ้าเดินเข้ามาในห้อง ส่วนพี่ส
“พี่จะเลิกยุ่งกับเขา” น้ำอิงให้คำมั่น อย่างไรเสียตระกูลมาเวลลินก็ไม่ควรที่จะแตะต้องอยู่แล้ว เธอไม่ควรเสี่ยง...“จริงๆ นะคะ” กอหญ้าบีบมือพี่สาว เงยมองพี่สาวด้วยแววตาจริงจัง เธอไม่อยากกลับไปเกี่ยวข้องกับอัลฟ่าอีกแล้ว และยิ่งไม่อยากพบเจอเขาอีก เธอเจ็บมามากพอแล้วจริง ๆ“อืม…เดิมทีเราไม่ควรไปยุ่งกับเขาอยู่แล้ว คนตระกูลมาเวลลินอันตรายมาก พวกเขามีอิทธิพลเหลือล้น เป็นมาเฟียตระกูลใหญ่ด้วย ตอนนี้เขามาข่มขู่หญ้าแบบนี้ พี่ต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้หญ้าเจอคนอันตรายแบบนั้น” น้ำอิงขอโทษกอหญ้าอีกครั้ง"ต่อไปหญ้าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอัลฟ่าอีกเข้าใจมั้ย?" น้ำอิงเอ่ยเตือน กอหญ้าสวยขนาดนี้ เธอกลัวว่าอัลฟ่าอาจจะสนใจกอหญ้าก็ได้ในอนาคต และหากรู้ความจริงขึ้นมา…เธอกลัว..."เราไม่ควรเกี่ยวพันกับตระกูลมาเวลลิน พวกเขาเป็นถึงมาฟียที่อันตราย สามารถฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาได้เลยนะ" น้ำอิงบอกเตือนน้องสาว กอหญ้าส่า
บทที่23ขอของเล่นคืนปัง ปัง ปัง!“ใคร!?” ลีโอตะโกนถาม หันไปมองประตูที่มีเงารองเท้าเยอะผิดปกติ คิ้วเรียวขมวดพลางหันกลับมาสบตากับกอหญ้าเงียบๆ"เปิดประตู!" เสียงของอัลฟ่าทุบประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานว่า กอหญ้ากำลังสนุกกับไอ้ลีโอ!ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรร่านฉิบหาย!แควก!ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนารีบปลดสายคล้องคอขอวกอหญ้าออก ตอนนี้เนินอกของเธอแทบเปลือยจมูกคมสัน ริมฝีปากหนา กดจูบขบเม้มลงบนผิวกายของเธอซ้ำ ๆ จนกอหญ้าทุบตีเขาอย่างตื่นตกใจปัง ปัง ปัง!“นี่! เดี๋ยว! ไหนบอกจะไม่ทำไง” กอหญ้าต่อว่าลีโอ ทั้งตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ต้องทำ ใครมาไม่รู้หรือไง?”“อัลฟ่า…” เธอจำเสียงเขาได้“ใช่! ดังนั้นก็เล่นละครกับฉัน” กอหญ้าหยุดนิ่งทันที บทบาทที่เธอเพิ่งได้รับ ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง กอหญ้าจ
บทที่22เปิดตัวประมูลกอหญ้ายืนน้ำตาคลอหลังจากที่ออกจากห้องทำงานของอัลฟ่า ตอนนี้เธอยืนนิ่ง ๆอยู่หน้ากรงขนาดใหญ่ ถูกวาลิถอดชุดคลุมออกให้เหลือเพียงชุดเมดผ้าลูกไม้ที่แสนเซ็กซี่วาลิยิ้มกริ่มพอใจกับพนักงานคนใหม่ของคลับ กอหญ้าสวยมากจริง ๆสวยขนาดที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 'สวยจนไร้ที่ติ…'สายตากลมโตของกอหญ้าน้ำตาเอ่อซึมเธอกำลังยืนมองกรงทองขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาหรูสีแดงสด …สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เธอคิดว่ามันคงเป็นที่ที่เธอต้องเข้าไปนั่งอวดโฉมประมูลในค่ำคืนนี้พอนึกคิดหัวใจบางก็พลันวูบไหว เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งประตูกรงทองนั้นถูกเคลื่อนออก หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น มือบางกุมมือกันแน่น เธอไม่สามารถรอดพ้นไปจากตรงนี้ได้เลยจะมีใครสักคนมั้ยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอได้…ช่วย… ถ้าจะมีคนมาช่วยที่นี่ก็คงมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้น ที่สามารถช่วยเธอได้!ซึ่งเขาประกาศก้องแล้วว่าเขาไม่มีทางช่วยเ
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป
บทที่15รับกรรมที่ไม่ได้ก่อตื้ด~เสียงข้อความเข้าจากสมาร์ทโฟนของกอหญ้า เป็นเบอร์ของอัลฟ่า เขาปลดบล็อกเบอร์ของเธอแล้ว[ไปรอที่เพนท์เฮ้าส์] อัลฟ่าบอกให้เธอไปรอเขาที่เพนท์เฮ้าส์ ความหวังสุดท้ายของเธอติดต่อกลับมาแล้ว กอหญ้าจึงรีบลงรถเมล์กลางคัน[เฟย์ต้าจะไปรับ] ข้อความถูกส่งมาอีกครั้ง ทำให้กอหญ้าชะงักนิ่งทันทีที่ก้าวขาลงเหยียบบนพื้นฟุตบาท เฟย์ต้าจะมารับ แล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่ไหน กอหญ้ากำลังจะส่งข้อความกลับปริ้น~เสียงแตรของรถหรูสีดำดังขึ้นข้างกายของเธอ กอหญ้าหันหน้าไปมอง ก็เจอเข้ากับดวงหน้าคมคายของเฟย์ต้าที่ลดกระจกมองเธอ“นายให้มารับครับ” เฟย์ต้าเอ่ยเพียงแค่นั้นก็ปิดกระจกขึ้นอีกครั้ง กอหญ้าขบเม้มริมฝีปาก แอบสงสัยที่เฟย์ต้ามารับเธอในทันทีที่อัลฟ่าส่งข้อความมา…กอหญ้าสลัดความคิดออกไป เธอทำตามเขาอย่างว่าง่ายด้วยการขึ้นไปนั่งบนรถหรูของเฟย์ต้า เมื่อกอหญ้าขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เฟย์ต้าจึงออกรถทันที