บทที่2
ความจริงปรากฏ
เช้าวันต่อมา…
กอหญ้าตื่นแต่เช้ามืดเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของเธอ ในเวลาเช้ามืดที่ยังคงมีเสียงน้ำค้างจากสายฝนหยดลงกระทบบนหลังคา ร่างเล็กยังคงนั่งนิ่ง ๆ มือบางถือสมาร์ทโฟนเก่า ๆ ไว้ในมือด้วยอาการสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้น
ทุกอย่างเงียบ เงียบจนใจของเธอรู้สึกปวดร้าว เบอร์โทรหรือแม้แต่ข้อความ ไร้วี่แววที่อัลฟ่าจะติดต่อกลับมา ทั้งที่เขาอ่านข้อความของเธอแล้วแท้ ๆ แต่เขาไม่คิดตอบกลับเธอสักข้อความเดียว…
กอหญ้านั่งจ้องสมาร์ทโฟนของตัวเองนิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจ พลันน้ำตาก็ไหลหยดลงมาที่หน้าจอมือถืออย่างไม่รู้ตัว
ตอนที่เห็นหยดน้ำตาที่หยาดริน เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองร้องไห้แล้ว…
กอหญ้ารีบสูดน้ำมูกขึ้นฟุดฟิด ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาออกไปอย่างลวก ๆ เธอไม่ควรร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นค่าในความรักของเธอ…
กอหญ้าคิดว่านี่คงเป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบหนึ่งปี ความรักของเธอกับอัลฟ่าคงใกล้จบลงแล้วจริง ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอเพียงแค่อยากรู้ว่า เพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้…
หรือเขาเบื่อเธอที่มันเฉิ่มเฉย หรือว่าเขาเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่า… หรือเขาไม่สบายใจอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ วันนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไปถามเขาให้รู้แน่ชัด
และถ้าหากมันจะจบ ก็ให้มันจบลงวันนี้ไปเลยก็แล้วกัน…
เมื่อติดต่อไม่ได้ ไม่คิดอยากคุยกัน ก็คุยกันให้เคลียร์ซึ้ง ๆ หน้าไปเลย!
เธอเข้าใจเขานะ ถ้าหากเขาจะเจอคนที่ถูกใจกว่า เพราะชีวิตของเธออยู่ในแวดวงตลาดข้างสลัม ไม่ค่อยได้เปิดหูเปิดตาเจอใคร แถมยังไม่เก่งเรื่องการแต่งตัว เฉิ่มและเฉยไม่เร้าใจเหมือนสังคมของเขา
เธอเหมือนเด็กกะโปโล กบในกะลาเสียมากกว่าหากเทียบกับสังคมในบริษัทของอัลฟ่าที่ต้องเจอในทุกวัน
…เมื่อคืนคำของแม่ทำให้เธอนึกคิดขึ้นมาได้ เธอจะไม่รอเขาเป็นฝ่ายบอกเลิก หากนี่ไม่ใช่ความรักที่เธอต้องการ เธอก็ควรปล่อยมันไป และมูฟออนเริ่มต้นใหม่
ตามหาผู้ชายที่เขารักและดูแลเอาใส่ใจเธอ ให้ได้เหมือนพ่อที่รักแม่
ความรักของเธอมีความรักของพ่อที่มีต่อแม่เป็นตัวอย่าง หากวันนี้อัลฟ่าไม่ใช่ แม้จะรักเขามากแค่ไหนเธอก็ต้องปล่อยมือ
ความรักของเธอต้องอยู่บนพื้นฐานของความสบายใจ วันนี้ความสบายใจนั้นถูกอัลฟ่าทำลายมันลงเพียงแค่เวลาไม่กี่วัน เธอควรพอได้แล้ว แค่ความรักที่ไม่สมหวังและต้องเลิกรากัน มันจะเจ็บปวดหนักหนาสักแค่ไหนกันเชียว
เธอเชื่อว่าสักวันเธอจะต้องลืมเขาได้ แม้จะใช้เวลานานเท่าไร่เธอจะทำได้แน่ และเมื่อทำได้เธอก็อาจจะเจอคนนั้น คนที่รักเธอด้วยหัวใจ และเข้ากับเธอได้เป็นอย่างดี
กอหญ้าปาดน้ำตาออกไปอีกครั้ง พยายามที่จะเข้มแข็งและจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ตนเลือกนี้…
ช่วงเช้าในเวลาตีห้าของทุกวัน กอหญ้าจะเป็นลูกมือช่วยพ่อกับแม่ทำข้าวแกงขาย เมื่อทำเสร็จแล้วเธอมักจะช่วยพ่อยกหม้อไปตั้งไว้หน้าร้านและเริ่มตักใส่ถาดสำหรับใส่แกงเพื่อขายให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาอุดหนุน ทั้งใส่ถุงและทานในร้าน
ช่วงเช้าจะวุ่นวายหน่อย ๆ เพราะลูกค้ามักจะทยอยกันเข้ามาร้านอย่างไม่ขาดสาย กอหญ้าสนุกกับการช่วยพ่อแม่ขายกับข้าวมาตั้งแต่เด็ก หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยในสาขาที่ตนเองชอบ เธอก็เฟดตัวมาช่วยพ่อแม่ขายข้าวแกงอย่างเต็มตัว
“พ่อพี่น้ำไม่กลับบ้านหรือคะ?” เพราะไม่เห็นพี่สาวลงมาช่วย จึงถามหา น้ำอิงเป็นพี่สายต่างสายเลือดของเธอ ซึ่งเธอทำงานเป็นนางแบบที่โด่งดังอยู่ในแวดวงการบันเทิงในขณะนี้
“ใช่ เห็นว่างานยุ่งน่ะ เมื่อคืนเลยค้างที่คอนโด” อดิศรตอบลูก
“อ่อค่ะ” กอหญ้ารับรู้ ก่อนจะตั้งใจช่วยขายข้าวแกงกับพ่อ โดยมีแม่เป็นพนักงานเสิร์ฟ และเมื่อว่างจากงานที่ทำ เธอก็จะเสิร์ฟแทนแม่เพื่อให้ท่านได้พัก สลับกันอยู่แบบนั้น…
ช่วงสายลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง หัวใจกอหญ้าเริ่มเต้นแรงขึ้น เมื่อถึงเวลาที่เธอต้องไปหาอัลฟ่าแล้ว พักเที่ยงคือเวลาที่เธอจะไปพบเขาและขอเคลียร์ใจกันให้รู้เรื่อง
มือบางเลือกที่จะตักข้าวแกงในหม้อใส่กล่องไปให้พี่เขาด้วย อย่างน้อยเธอก็จะได้มีข้ออ้างเพื่อที่จะไปหาเขา
“พ่อคะ แม่คะ หนูไปข้างนอกก่อนนะคะ” กอหญ้าขออนุญาตพ่อกับแม่ อดิศรและเรือนรองพยักหน้ารับ มองตามร่างบางที่หันหลังเดินออกจากร้านจนลับสายตา
“ยัยหญ้าเอากับข้าวไปให้ใคร” อดิศรแอบถามภรรยา
“ให้เพื่อนมั้งคะ” เรือนรองยังไม่อยากบอกเรื่องที่ลูกมีความรักให้สามีได้รับรู้ เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้กอหญ้ามีปัญหาเล็กน้อยกับคนรักอยู่ พูดไปก็กลัวสามีจะคิดหนักเรื่องลูกอีก
“ยัยลูกคนนี้ อย่าให้รู้ว่าแอบมีแฟนนะ หึ!” อดิศรว่า เขายังไม่อยากให้ลูกมีความรัก ถ้ามีเขาก็อยากให้ลูกพามาแนะนำให้เขารู้จักก่อน จะได้ช่วยดูให้ว่า ดีหรือไม่ดี
"โธ่ ลูกคงยังไม่มีหรอกค่ะ" เรือนรองช่วยพูดให้กับลูก ก่อนที่สามีจะส่ายหน้า
"ก็ดีแล้วที่ไม่มี" อดิศรนึกโล่งใจ ก่อนจะนั่งดูทีวีรอลูกค้าหน้าร้านต่อ
บริษัทมาเวลลิน
เรือนร่างบอบบางก้าวลงจากแท๊กซี่ สายตากลมโตแอบมองไปที่บริษัทที่อัลฟ่าทำงานอยู่ในที่ไกลๆ เธอรอเวลาเพื่อที่เจอกับเขา พักเที่ยงเธอมั่นใจว่าจะต้องได้เจอเขาอย่างแน่นอน กอหญ้าค่อย ๆ นั่งลงบนเก้าอี้ข้างฟุตบาทข้างถนนตรงข้ามบริษัทเพื่อรอเวลา
ในตอนแรกเธอคิดจะโทรบอกเขาก่อนว่ามาหา แต่ในส่วนลึกกลับอยากมาให้เห็นกับตา อยากเห็นว่าเขามีคนอื่นอย่างที่เธอแอบคิดไว้หรือเปล่า…
รอแล้วรอเล่า สายตากลมโตมองนาฬิกาที่ข้อมือไปด้วย หัวใจเต้นแรงมากขึ้นตามเข็มนาฬิกาเมื่อบัดนี้เข็มนาฬิกาบ่งบอกว่า เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว…
กอหญ้าชะเง้อมองไปที่หน้าบริษัท สักพักรถพนักงานก็ทยอยกันออกมา เธอจำรถของอัลฟ่าได้ ทว่ารอเท่าไรก็ไม่เจอแม้แต่เงาของเขาเลย
เธอควรแอบเข้าไปข้างในมั้ยนะ…และถ้าเขาจับได้ เขาจะโกรธเธอหรือเปล่า…
กอหญ้าขบคิดยืนขึ้น เขย่งเท้า ชะเง้อมองจนในที่สุดร่างแกร่งสูงโปร่งก็ก้าวออกมาจากบริษัท วันนี้อัลฟ่าอยู่ในชุดสูทดูภูมิฐาน สุขุมจนกอหญ้าขมวดคิ้วอดที่จะแปลกใจไม่ได้
พนักงานITต้องแต่งตัวดีขนาดนี้เลยเหรอ…?
เขาดูไม่เหมือนพนักงานธรรมดาทั่วไป ชุดสูทที่เขาสวมใส่คล้ายมีตำแหน่งที่สูงในบริษัทมากกว่า…
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง เขาบอกกับเธอเองว่าเขาเป็นเพียงแค่พนักงานITเล็กๆ ไหนจะห้องเช่าที่เขาเช่าไว้ที่อพาร์ทเมนราคาถูกอีก หากเขามีตำแหน่งที่สูงในบริษัทนี่จริง คงซื้อคอนโดหรูอยู่ไปแล้ว…
กอหญ้าส่ายหน้ารีบปัดความคิดพิลึกของตัวเองออกไป พลางมองร่างสูงขึ้นรถสปอร์ตหรูที่จอดรอรับอยู่ เขาไปกับใครสักคนหนึ่งที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร
รถสปอร์ตหรูติดฟิล์มดำจนมองไม่เห็นคนข้างใน กอหญ้าจึงรีบโบกแท็กซี่แอบตามติดพวกเขาไปในทันที
หากเขารู้ว่าเธออะไรแบบนี้ มีหวังคงโดนด่าจนหูชาแน่! เขาคงต่อว่าเธอไม่ไว้ใจเขา แต่เธอเองก็อยากรู้นี่นา ว่าเขามีคนอื่นจริงมั้ยถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้!
“ตามรถสปอร์ตคันหน้าไปเลยค่ะ คันสีดำ” กอหญ้าบอกลุงขับรถแท๊กซี่
“ครับ”
ตอนนี้เธอกลายนักสืบตามจับผิดแฟนที่แอบมีกิ๊กไปเสียแล้ว ตั้งแต่โตมาเธอไม่เคยต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เลยสักครั้ง หากต้องคบเขาแล้วมานั่งจับผิดแบบนี้ทุก ๆ วันเธอคงเป็นบ้าตายแน่!
หัวใจกอหญ้าเต้นตึกตัก เมื่อรถหรูเลี้ยวเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง กอหญ้าจึงให้แท็กซี่ขับเลยหน้าร้านไปนิดหนึ่ง ก่อนที่เธอจะจ่ายเงินและก้าวลงจากรถติดตามทั้งสอง
กอหญ้าเลือกที่จะนั่งอยู่ด้านนอกร้าน เธอสั่งเพียงน้ำและเค้กมาทานเพื่อเฝ้าดูอัลฟ่าที่กำลังนั่งไขว่ห้างคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ หากให้เดาคงเป็นเพื่อนของเขา…ไม่มีผู้หญิงอย่างที่เธอแอบคิด… แต่ทำไมเขาถึงได้เมินเฉยกับเธอขนาดนี้นะ…กอหญ้าเม้มริมฝีปากนึกทบทวน จวบจนอัลฟ่าเดินไปข้างๆ ร้าน เธอจึงแอบตามไปเงียบ ๆ จนถึงจุดที่เขาและผู้ชายอีกคนยืนสูบบุหรี่สนทนากันอยู่…กอหญ้าแอบพิงกำแพงแอบฟังเงียบ ๆ แอบฟังพวกเขาคุยกัน เธออยากจะรู้ว่าอัลฟ้าจะสนทนาอะไรกับเพื่อนของเขาบ้าง อาจจะมีเรื่องของเธอบ้างก็ได้...“งานไปถึงไหนแล้วที่เกาะ” “ก็ดี เพาะพันธุ์ไข่มุกสวย ๆ ได้เรื่อย ๆ” “แล้วโรงแรม?” “ก็ไปได้ดี” “ไม่มีอะไรผิดปกติแน่นะ?” ผู้ชายอีกคนเอ่ยถาม เสียงกระซิบเสียมากกว่า“ถ้ามึงหมายถึงสายลับ ไม่มีทางที่พวกมันจะเข้าไปได้ เกาะกูไม่มีทางปล่อยผ่านง่ายๆ นอกจากจะเป็นพวกสายลับของพวกมึงที่จับได้ แล้วเอามาทิ้งขว้างให้คนของกูทรมานเล่น” เกาะของเขา…หมายถึงอะไร? อัลฟ่ามีเกาะส่วนตัวด้วยเหรอ…“ก็ดี ส่วนกาสิโนกูลักลอบเข้ามาเยอะจัด แต่ก็นะ ไม่มีทางรอดสายตากูได้สักคน” มาร์ตินอวยตัวเอง“ก็ดีแล้ว ถ้ามึงปล่อยมาสืบความลับของตระกูลมึ
บทที่3คำกล่าวหา“กอหญ้า…” สุ้มเสียงทุ้มต่ำลง เมื่อกอหญ้าปรากฏตัวที่นี่…“ไม่ต้องถามว่าหนูมาได้ยังไง ตอนนี้พี่ต้องตอบหนูมาก่อนว่าพี่อยากเลิกกับหนูใช่มั้ย!? ที่ผ่านมาพี่แค่หลอกให้หนูรักพี่ เพราะพี่คิดว่าหนูเป็นเมียน้อยของใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก!” กอหญ้าถามเขาเร็วพลัน ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้เขาจะมองจะคิดดูถูกกับเธอยังไงส่วนเกินอย่างมาร์ตินยังอึ้ง รู้สึกเป็นส่วนเกินขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก เมื่อตอนนี้ทั้งสองยืนจ้องหน้าฟาดฟันกันนิ่งงัน ไร้ซึ่งคำตอบกลับจากเพื่อนของเขา มาร์ตินจึงยักไหล่ถอนหายใจ ตัดสินใจเดินออกมาเงียบ ๆเพื่อให้ทั้งคู่ได้เคลียร์กัน“…” มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านเข้ามาที่ดวงหน้าของเธอ จนน้ำตาเริ่มแอบซึม แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาสมเพชเธอเด็ดขาด!“ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงใช่มั้ยคะ หนึ่งปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรักหนูเลยใช่มั้ยคะ!?” กอหญ้าเอื้อนเอ่ยคำถามต่อหน้า พยายามมองหาคำตอบจากแววตาของร่างสูงที่สูงกว่าเธอหลายเท่าตัว“ได้ยินหมดเลยสินะ…” แต่ทำได้เพียงเอ่ยเสียงเบา ๆและแค่นยิ้ม อัลฟ่าหรี่ตามองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งงัน แววตาเจือไปด้วยความเย็นชา และโกรธเคือง“ตอบมาสิคะ!? ตอบให้หนูหายโง่หน่อย
"ไม่! ฉันเชื่อในหลักฐานที่มี""งันหญ้าก็ไม่มีสิทธิ์โต้เถียง หากพี่คิดไปแล้วว่าหญ้าคือคนแบบนั้น" เธอจะยอมให้เขาตราหน้าไปก่อน และเธอจะต้องหาความจริงให้ได้ว่าทำไมชื่อของเธอถึงกลายเป็นเมียน้อยของคุณกายเธอจะต้องแก้มลทินที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยของคนที่เธอไม่รู้จักมักจีให้ได้ในสักวัน และเขาจะต้องเสียใจที่ทำกับเธอแบบนี้!“หึ! ฉันก็ต้องคิดแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้วสิ เพราะเธอเป็นเมียน้อยของมันจริง ๆ” กอหญ้าผ่อนลมหายใจหนัก ๆ อีกครั้ง“เอาเป็นว่าหนูจะไม่ยุ่งกับเขาอีก! และจะเลิกติดต่อเขาอย่างเด็ดขาด”“ได้! ฉันก็ขอให้เธอเลิกยุ่งกับมันจริง ๆ ...งันเธอต้องการเท่าไหร่ก็บอกมา ฉันจะโอนให้เลยตอนนี้ แลกกับคำสัญญาที่เธอเอ่ยมันออกมา”“หนูไม่ต้องการเงินของคุณ เมื่อหนูบอกว่าจะไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่งค่ะ และหวังว่าหลังจากจบกัน คุณจะไม่มาวุ่นวายกับหนูอีก!""ฮ่าๆๆๆๆ" อัลฟ่าระเบิดเสียงหัวเราะดังขึ้น หรี่ตามองเธอด้วยความบ้าคลั่ง พูดออกมาได้ว่าเขาจะไปวุ่นวายกับเธอ เธอน่ะสิที่จะมาวุ่นวายกับครอบครัวของเขา!"ใครกันแน่ที่จะมาวุ่นวาย เลิกกับไอ้กายให้ได้เด็ดขาดก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูด! และถ้าฉันยังเห็นว่าเธอยุ่งเกี่ยวกับสามีน้
บทที่4คำกล่าวหาที่เป็นจริงก๊อก ก๊อก ก๊อกแอด~บานประตูห้องของพี่สาวถูกเปิดออก สิ่งแรกที่กอหญ้าได้เห็นทำให้เธออึ้งไปชั่วขณะ เมื่อคนที่เธอถูกกล่าวว่าเป็นเมียน้อยของเขา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ“คุณกาย…”“มาหาพี่สาวเหรอ” กาศิตที่สวมเพียงกางเกงเปลือยท่อนบน เอ่ยถามเธออย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้“ค่ะ”นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! กอหญ้ารู้สึกจะล้มทั้งยืนเป็นรอบที่สอง สิ่งที่อัลฟ่าต่อว่าเธอ มันคือเรื่องจริงสินะ เพียงแต่เป็นพี่สาวของเธอที่เป็นเมียน้อยคุณกาย...“ครับ…” กายถอยหลังให้กอหญ้าเดินเข้ามาในห้อง ส่วนพี่ส
“พี่จะเลิกยุ่งกับเขา” น้ำอิงให้คำมั่น อย่างไรเสียตระกูลมาเวลลินก็ไม่ควรที่จะแตะต้องอยู่แล้ว เธอไม่ควรเสี่ยง...“จริงๆ นะคะ” กอหญ้าบีบมือพี่สาว เงยมองพี่สาวด้วยแววตาจริงจัง เธอไม่อยากกลับไปเกี่ยวข้องกับอัลฟ่าอีกแล้ว และยิ่งไม่อยากพบเจอเขาอีก เธอเจ็บมามากพอแล้วจริง ๆ“อืม…เดิมทีเราไม่ควรไปยุ่งกับเขาอยู่แล้ว คนตระกูลมาเวลลินอันตรายมาก พวกเขามีอิทธิพลเหลือล้น เป็นมาเฟียตระกูลใหญ่ด้วย ตอนนี้เขามาข่มขู่หญ้าแบบนี้ พี่ต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้หญ้าเจอคนอันตรายแบบนั้น” น้ำอิงขอโทษกอหญ้าอีกครั้ง"ต่อไปหญ้าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอัลฟ่าอีกเข้าใจมั้ย?" น้ำอิงเอ่ยเตือน กอหญ้าสวยขนาดนี้ เธอกลัวว่าอัลฟ่าอาจจะสนใจกอหญ้าก็ได้ในอนาคต และหากรู้ความจริงขึ้นมา…เธอกลัว..."เราไม่ควรเกี่ยวพันกับตระกูลมาเวลลิน พวกเขาเป็นถึงมาฟียที่อันตราย สามารถฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาได้เลยนะ" น้ำอิงบอกเตือนน้องสาว กอหญ้าส่า
บทที่5ตอแยหลังจากที่ออดอ้อนพ่อแม่แล้ว กอหญ้าก็กลับเข้าห้องนอนของเธอ กอหญ้ากระโดดขึ้นเตียงนอน เปิดจอสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าค้นหางานพาร์ทไทม์ที่ทำได้ช่วงเวลาเย็น ซึ่งงานที่น่าสนใจมาก ทำเพียงไม่กี่ชั่วโมงเป็นงานแจกใบปลิว ได้ค่าตอบแทนที่โอเคสำหรับเธอมากอยู่กอหญ้าจึงลองลงทะเบียนสมัครงานไป และไม่นานสมาร์ทโฟนราคาถูกของเธอก็สั่นขึ้นด้วยเสียงเรียกเข้าครืดด~นิ้วเรียวรีบกดรับทันที ไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้…“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีค่ะ คุณ 'กอหญ้า บรรทัดศร' ใช่มั้ยคะ”“ค่ะ”“เราจากสำนักงานแจกใบปลิวนะคะ เล็งเห็นความสามารถของคุณ สามารถมาสัมภาษณ์งานและเริ่มงานได้เล
กอหญ้าเดินแจกใบปลิวอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เธอยื่นใบปลิวให้กับทุกคนที่เดินผ่านด้วยรอยยิ้มหวาน การแจกใบปลิวเริ่มทำให้กอหญ้ารู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อมีคนรับใบปลิวของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ“เสริมความงามให้กับตัวเรา ด้วยคลินิกนิวเจน บนชั้นสองได้เลยนะคะ” กอหญ้าก้มหน้ายิ้มให้กับผู้คนที่รับใบปลิวจากเธอตอนนี้เธอแจกใบปลิวได้เกือบครึ่งทางแล้ว กับเวลาที่เหลืออีกไม่มาก…“อีกนิดเดียว…” กอหญ้าเอ่ยให้กำลังใจตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเงยทอดมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดดำ“ฟ้ามืดอีกแล้ว… ต้องรีบแจกแล้วล่ะ!” กอหญ้ารีบสาวเท้าวนเวียนแจกใบปลิวอยู่หน้าห้าง ทว่าความเร่งรีบทำให้เธอไม่ทันระวัง ถูกชายชราคนหนึ่งเดินชนเข้ากับไหล่บางจนเธอล้มลงกับพื้น“อ่ะ!”ตุบ!“เกะกะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!” เป็นผู้ชายสูงวัย เขาเดินชนเธอจนล้
บทที่6การกระทำที่ตรงกันข้าม“กลัวตายก็อย่าปากเก่งอีก!” กอหญ้ากะพริบตาปริบ ๆ มองเขาด้วยหัวใจที่แตกสลาย เธอทำอะไรเขาไม่ได้และเขาก็ออกหน้า รังเกียจ เกลียดกันขนาดนั้น เธอเชื่อว่าเขากล้าที่จะกำจัดเธอให้พ้นทาง ให้พ้นสายตาของเขาแน่ หากเขาคิดจะทำ!“ค่ะ ฉันมันไม่เจียมตัวปากเก่งเอง ดังนั้นคุณปล่อยฉันได้หรือยัง” สายตากลมโตมองมือหนา ที่ยังคงจับแขนเรียวของเธอเอาไว้แน่น รอยยิ้มร้ายยกขึ้นมุมปาก มองคนที่ทำเป็นอวดเก่งด้วยแววตาแสนเย็นชาและนึกสนุก“ได้สิ ฉันปล่อยเธอแน่!” ตูมซ่า~เพียงพริบตาเดียว ร่างบางก็มือหนาเหวี่ยงลงไปในสระน้ำพุ กลางลานห้างสรรพสินค้า! กอหญ้าพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเหนือน้ำ ดีที่น้ำไม่ลึกเท่าไหร่ เธอจึงพยุงตัวยืนอยู่กลางสระได้“…แต่ปล่อยเธอลงไปในนั้นนะ! จะได้ล้างสิ่งสกปรกในตัวออกไปบ้าง จะได้ไม่น่ารังเกียจสกปรกแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้!” อัลฟ่าเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา เขาย่อตัวคุกเข่าข้างเดียว มองเธอที่ยืนมองเขาอยู่กลางสระน้ำด้วยแววตาที่แสนเจ็บปวดรู้สึกดีที่ได้เห็นมัน…“พอใจคุณแล้วใช่มั้ย พอใจแล้วก็เชิญค่ะ” กอหญ้าชี้นิ้วไล่เขาด้วยความรวดร้าวที่เกิดขึ้นภายในใจ อยากให้เขาไปไกลๆ จากตรงนี้ ก่อ