กอหญ้าเดินแจกใบปลิวอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เธอยื่นใบปลิวให้กับทุกคนที่เดินผ่านด้วยรอยยิ้มหวาน การแจกใบปลิวเริ่มทำให้กอหญ้ารู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อมีคนรับใบปลิวของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เสริมความงามให้กับตัวเรา ด้วยคลินิกนิวเจน บนชั้นสองได้เลยนะคะ” กอหญ้าก้มหน้ายิ้มให้กับผู้คนที่รับใบปลิวจากเธอ
ตอนนี้เธอแจกใบปลิวได้เกือบครึ่งทางแล้ว กับเวลาที่เหลืออีกไม่มาก…
“อีกนิดเดียว…” กอหญ้าเอ่ยให้กำลังใจตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเงยทอดมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดดำ
“ฟ้ามืดอีกแล้ว… ต้องรีบแจกแล้วล่ะ!” กอหญ้ารีบสาวเท้าวนเวียนแจกใบปลิวอยู่หน้าห้าง ทว่าความเร่งรีบทำให้เธอไม่ทันระวัง ถูกชายชราคนหนึ่งเดินชนเข้ากับไหล่บางจนเธอล้มลงกับพื้น
“อ่ะ!”
ตุบ!
“เกะกะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!” เป็นผู้ชายสูงวัย เขาเดินชนเธอจนล้มไม่พอยังขึ้นเสียงต่อว่าเธอเดินไม่ดี กอหญ้ามองตามร่างชราที่เดินกะเผลกไปด้านหน้าพร้อมไม้เท้า จึงค่อย ๆพยุงตัวลุกขึ้นอย่างนอยด์ ๆ
ใจร้ายจัง…เธอไม่ได้ตั้งใจจะชนคุณลุงเสียหน่อย
ได้เพียงต่อว่าชายสูงชราคนนั้นอย่างน้อยใจ ก่อนจะตั้งสติรีบเก็บใบปลิวที่ร่วงล้นกระจายเต็มพื้น มือบางรีบกวาดใบปลิวอย่างเร่งรีบเพราะกลัวว่าจะรบกวนผู้คนที่เดินผ่านไปมา
พึ่บ!
เธอเก็บจนเกือบหมดแล้ว แต่อีกใบกลับถูกลมพัดปลิวไปไกล เธอจึงต้องรีบวิ่งตามไปเก็บมัน
ได้สักที…
ร่างเล็กก้มลงจับไปที่ปลายกระดาษ ทว่ากลับมีรองเท้าหนังสีดำหรูของใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาเหยียบย้ำ เธอดึงมันออกมาไม่ได้ กอหญ้าเม้มริมฝีปากแน่น อยากจะรู้นักว่าคนนิสัยไม่ดีตรงหน้าคือใคร เธอจึงแหงนเงยมองเขาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ก็เจอเข้ากับดวงหน้าคมคายที่ดูคุ้นเคย
เขาคือ 'อัลฟ่า' ผู้ชายใจร้าย ที่เธอไม่ควรพบเจอเขาที่สุดในชีวิตนี้!
“กรุณาขยับเท้าของคุณออกไปจากใบปลิวของฉันด้วยค่ะ” กอหญ้าเอ่ยบอกเขาเสียงนิ่ง แต่อัลฟ่าไม่ยินยอมที่จะปล่อยตามคำขอ กอหญ้าจึงตัดสินใจหยัดกายยืดตัวขึ้น มองเขาด้วยแววตานิ่งเรียบ พลางเหลือบมองไปที่ผู้หญิงที่ควงแขนอยู่ข้างกายของเขาแล้วก็แสยะยิ้ม
“แฟนใหม่หน้าคุ้นๆ นะคะ” กอหญ้าเอ่ยถาม ทำสีหน้ายียวน นึกถึงเรื่องก่อนหน้านั้น ที่ลิลลี่ตามติดอัลฟ่าอยู่ช่วงหนึ่ง เธอแอบไม่สบายใจสุดท้ายจึงเลือกที่จะถามเขาตรง ๆ ว่าตกลงแล้วเขากับลิลลี่เป็นอะไรกัน
อัลฟ่าบอกกับเธอว่า ลิลลี่เป็นแค่เพื่อน…
เหอะ! เป็นแค่เพื่อน แต่ตอนนี้กลับควงแขนใกล้ชิดกัน จนแทบจะสิงกันได้แล้ว
เพื่อนบ้าบออะไรกัน!
สีหน้าแววตาของกอหญ้าทำเอาอัลฟ่าถึงกับแสยะยิ้ม ยักไหล่คล้ายไม่ใส่ใจ แต่ในใจกลับชอบใจที่เห็นใบหน้าหวานบึ้งตึงยามที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น กอหญ้ามักจะเป็นเช่นนี้เสมอ
ไม่ต่างจากวันที่เรายังคบกัน…
“แล้วไง ลิลลี่อาจจะดีกว่าเธอ…ฉันจะคบต่อก็ไม่แปลก หรือต้องโพทนาให้รู้ล่ะว่าตัวเองเป็นอะไร? และทำไมฉันถึงต้องเลิกกับเธอ” มือบางกำแน่นขึ้นทันที ที่เขาต่อว่า ดูถูกเธอต่อหน้าคนอื่นแบบนี้
กอหญ้าสูดลมหายใจ พยายามใจเย็นอย่างถึงที่สุด และถอดถอนลมหายใจที่มันยังคงเจ็บและวูบโหวงหน่วงอยู่ในใจลึก ๆ ออกมา ทั้งที่พยายามจะไม่เจอ และลืมเขาไปแล้วแท้ ๆ ยังจะวนกลับมาเจออีก! ที่ก็มีตั้งมากมาย! ทำไมต้องมาเจอกันที่นี่ด้วย!
“หญ้าไม่อยากคุยกับคุณอีกแล้ว ขอตัวนะคะ” สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะหันหลังให้กับเขา เหนื่อยที่ต้องมานั่งทะเลาะกับคนอย่างเขา ตอนนี้เรื่องของเรามันจบลงแล้ว และเขาจะไปกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเธออีก!
ดังนั้นสงบนิ่ง หันหลังใส่เขาไปเลย
นั่นแหละ คือสิ่งที่เธอควรทำที่สุดในเวลานี้!
“ไม่แน่จริง…”
กึก~
กอหญ้าชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดินจากไป ใช่! เธอไม่แน่จริงอย่างที่เขาพูด ทั้งที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอแล้ว แต่ลึกๆ หัวใจกลับยังคงเต้นแรงและยังคงเจ็บปวดเมื่อได้เจอกับเขาอีกครั้ง…
เธอไม่เหมือนเขาหนิ ที่เข้ามาในชีวิตของเธอโดยไร้ความรัก!
“…” กอหญ้าเงียบไป ก่อนที่เธอจะหันไปมองเขาอีกครั้ง จ้องมองเขาผ่านแววตาที่เจ็บปวด อัลฟ่าเองก็มองเห็นถึงความเจ็บปวดนั้นในแววตาของเธอได้
“เราไม่ควรเจอกันอีก และหวังว่าจากนี้เมื่อคุณเห็นฉัน ขอร้องให้มองผ่านเลยไป ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลยยิ่งดี…” กอหญ้าแสดงความอ่อนแอเพียงแค่แวบเดียว จากนั้นเธอก็พยายามทำตัวเองให้เข้มแข็งเหมือนเดิม
ความเจ็บที่อัดแน่นในอกทำให้กอหญ้าคิดสาวเท้าเดินจากไป เธออยากไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
หมับ!
“เดี๋ยวสิ!” หากทว่ายังก้าวไปไม่ถึงไหน มือหนาของอัลฟ่าก็จับหมับเข้าให้ เขายังไม่อนุญาตให้เธอไป เธอจะสะบัดหน้าหนีเขาไปแบบนี้ไม่ได้!
“อะไรอีกคะ?” กอหญ้าหันมามองมือหนาที่จับแขนของเธอเอาไว้ อัลฟ่าเองก็ไม่ได้ต้องการทำแบบนี้ แต่ร่างกายของเขามันไปเอง ร่างสูงจึงได้สติ อัลฟ่าถอนหายใจ มองดวงหน้าหวานที่มันขัดตาขัดใจเขานัก!
“ถ้าอยากให้ฉันทำเป็นไม่รู้จักเธอมันก็ยากหน่อยนะ อย่าลืมว่าเธอเป็นตัวบ่อนทำร้ายความสุขของน้องสาวของฉัน ฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ได้ยังไง อย่างน้อยก็ต้องแน่ใจก่อนสิ ว่าเธอจะไม่กลับเข้ามายุ่งกับครอบครัวน้องสาวฉันอีก”
“วางใจได้ นี่ก็เดือนหนึ่งแล้วนะคะ เห็นหญ้าไปยุ่งกับคุณกายมั้ยล่ะ! หญ้าน่ะพูดคำไหนคำนั้น บอกไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่ง” ไม่เหมือนเขา ปากบอกว่าเบื่อ รำคาญ รังเกียจเธอ แต่ก็ยังตามกลั่นแกล้งกันไม่หยุด!
หากทำได้ เดินผ่านเธอไปไม่ดีกว่าเหรอ!
“ฉันไม่มีทางเชื่อว่าเธอจะไม่ยุ่งกับมัน!” อัลฟ่าขึ้นเสียงกร้าวต่ำ ยิ่งดวงหวานอวดเก่ง คิดหันหลังให้เขา ทำเป็นไม่รู้จักเขา หัวใจแกร่งก็ยิ่งกระตุก หงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก
“แล้วต้องทำไงคะถึงจะเชื่อ หญ้าต้องตายก่อนมั้ยคุณถึงจะเชื่อว่าหญ้าจะไม่ยุ่งกับคุณกายอีก”
“แล้วทำได้มั้ยล่ะ!?” เขาเอ่ยออกมาเสียงนิ่ง จ้องมองเธอพร้อมกับมือหนาที่กำรอบแขนบาง เพิ่มความเจ็บให้กับเธอจนเธอรู้สึกถึงความด้านชานั้น…
แววตาสั่นระริกจ้องมองกันและกันอย่างฟาดฟัน และไม่มีใครยอมใคร…
บทที่6การกระทำที่ตรงกันข้าม“กลัวตายก็อย่าปากเก่งอีก!” กอหญ้ากะพริบตาปริบ ๆ มองเขาด้วยหัวใจที่แตกสลาย เธอทำอะไรเขาไม่ได้และเขาก็ออกหน้า รังเกียจ เกลียดกันขนาดนั้น เธอเชื่อว่าเขากล้าที่จะกำจัดเธอให้พ้นทาง ให้พ้นสายตาของเขาแน่ หากเขาคิดจะทำ!“ค่ะ ฉันมันไม่เจียมตัวปากเก่งเอง ดังนั้นคุณปล่อยฉันได้หรือยัง” สายตากลมโตมองมือหนา ที่ยังคงจับแขนเรียวของเธอเอาไว้แน่น รอยยิ้มร้ายยกขึ้นมุมปาก มองคนที่ทำเป็นอวดเก่งด้วยแววตาแสนเย็นชาและนึกสนุก“ได้สิ ฉันปล่อยเธอแน่!” ตูมซ่า~เพียงพริบตาเดียว ร่างบางก็มือหนาเหวี่ยงลงไปในสระน้ำพุ กลางลานห้างสรรพสินค้า! กอหญ้าพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเหนือน้ำ ดีที่น้ำไม่ลึกเท่าไหร่ เธอจึงพยุงตัวยืนอยู่กลางสระได้“…แต่ปล่อยเธอลงไปในนั้นนะ! จะได้ล้างสิ่งสกปรกในตัวออกไปบ้าง จะได้ไม่น่ารังเกียจสกปรกแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้!” อัลฟ่าเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา เขาย่อตัวคุกเข่าข้างเดียว มองเธอที่ยืนมองเขาอยู่กลางสระน้ำด้วยแววตาที่แสนเจ็บปวดรู้สึกดีที่ได้เห็นมัน…“พอใจคุณแล้วใช่มั้ย พอใจแล้วก็เชิญค่ะ” กอหญ้าชี้นิ้วไล่เขาด้วยความรวดร้าวที่เกิดขึ้นภายในใจ อยากให้เขาไปไกลๆ จากตรงนี้ ก่อ
อัลฟ่าวก้าวขายาวตามติดกอหญ้า เขาวิ่งเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอแล้ว“อย่าคิดหนี ไม่อายคนหรือไง!” เขาขึ้นเสียงเตือนสติเธอ กอหญ้าจึงมองไปรอบกายจำต้องหยุดนิ่ง มีคนมองมากที่พวกเธอจริง ๆทุกอย่างเป็นเพราะเขา!ถ้าเขาไม่กลั้นแกล้งเธอ ไล่วิ่งจับกันแบบนี้ คนอื่นเขาก็คงไม่มองมาแบบนี้แน่อ่ะ!คนบ้า เขามันบ้าที่สุด!“แล้วจะพาหญ้าไปไหน!” ในที่สุดเธอก็หยุดนิ่ง ไม่หนีเขาไปไหนอีก มือหนาจึงดึงรั้งข้อมือกอหญ้า กระชากพาเธอเดินไปพร้อมกันกับเขาในทันที“นี่!! ถ้าไม่บอก หญ้าไม่ไปด้วยนะ!” เธอรั้งตัวเองไว้ แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอัลฟ่าได้! ร่างบางจึงเซถลาไปข้างหน้ากับเขา“ที่เธอทำกับฉัน คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ หรือไง!?” “…” แอบน่ากลัวนะ! เขาจะทำอะไรเธอหรือเปล่า…“คุณจะไม่ทำอะไรหญ้า?” เธอลองเชิงถามเขา กลัวว่าเขาจะพาเธอไปฆ่า ใบหน้า การกระทำที่อุกอาจแบบนี้ มันทำให้เธอนึกกลัวจริง ๆ“คิดว่าไงล่ะ?” กอหญ้าขบเม้มริมฝีปากคิดหนัก พยายามบิดข้อมือออกจากเขาอีกครั้ง “เข้าไป และอย่าดื้อ คนของฉันอยู่รอบกาย เธอหนีไปไหนไม่ได้หรอก!” ทว่าคำสั่งเสียงเข้มดังขึ้นเหนือหัว ทำให้เธอหยุดการกระทำทุกอย่างลง กอหญ้ามองรอบกาย ไม่เห็นมีใครส
บทที่ลวงใจเขายัดเยียด ตราหน้าเธอว่าเป็นเมียน้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่แก้ต่างให้กับตัวเอง…“มึงพอเลย หยุดพูดถึงผู้หญิงคนนั้นสักทีเถอะ แค่นี้กูก็เบื่อยัยนั่นจะแย่อยู่แล้ว!” เสียงทุ้มของอัลฟ่าพูดกับญาติผู้น้องอย่างรามิล วันนี้มันนัดดื่มกับเขาที่ผับหรูกลางใจเมืองกรุงเทพ กว่ามันจะโผล่หน้ามาหาที่กรุงเทพได้ก็นานโข เขาจึงยอมรับนัดของมันในคืนนี้และไม่ว่าจะนานแค่ไหน มันก็ยังคงแซวถึงเรื่องที่เขาตามจีบกอหญ้า สาวธรรมดาคนหนึ่งที่เปิดร้านขายข้าวแกงในซอยสลัมซึ่งตอนนี้เขาคบกับเธอมาเกือบปีหนึ่งได้แล้วกระมัง“เบื่อเขา แล้วไปจีบไปคบกับเขาทำไม?” รามิลถามอัลฟ่า ญาติผู้พี่ของตนอย่างสงสัยใคร่รู้ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับอัลฟ่า เขาไม่เคยเห็นมันจีบผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงเหล่านั้นจะตามติด และเสนอตัวให้กับมันเองมันไม่จำเป็นต้องตามจีบพวกเธอเลยด้วยซ้ำ! แต่อัลฟ่าลงสนามด้วยตัวเองแบบนี้ มันจึงน่าแปลกใจอยู่บ้างในความคิดของเขา…อัลฟ่าถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เขาเองก็เบื่อที่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่เขาก็ต้องจำใจหลอกจีบยัยเฉิ่มเชยนั่นจีบจนติด… จนตอนนี้ยังหาทางบอกเลิกเธอไม่ได้!“เพราะเธอเป็นเมียน้อยสาม
บทที่1เมื่ออีกคนเปลี่ยนไปแปะ~ แปะ แปะกลิ่นและหยดน้ำฝน ทำให้กอหญ้ายื่นมือออกมารองรับน้ำฝน ที่หยดแหมะลงบนฝ่ามือน้อยของเธอ สายตากลมโตเหม่อมองหยดน้ำหนึ่งดวงบนฝ่ามือก็ยกยิ้มขึ้นมันคล้ายหยดน้ำตาของเธอ…แววตา ริมฝีปากเล็กอวบอิ่มสั่นระริก แหงนมองสายฝนที่เริ่มหยาดหยดลงมาทีล่ะเม็ด คิดว่าอีกไม่นานมันคงเทกระหน่ำลงมาแน่ ๆ …พลันสายตาของเธอก็มองหาแท็กซี่สักคัน จนมีคันหนึ่งที่ผ่านมา… มือบางจึงโบกขึ้นทันทีกึก…แท็กซี่คันนั้นจอดลงแล้ว กอหญ้าจึงบอกสถานที่ที่จะไปต่อจากนี้ให้คนขับรับรู้ เมื่อลุงคนขับรับทราบแล้ว เธอจึงปล่อยตัวเองนั่งจมอยู่กับความคิดในใจอีกครั้งทุกอย่างผิดปกติไปจริง ๆ… เธอเฝ้าถามตัวเองว่าระหว่างทางเธอทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ทำอะไรให้พี่ฟ่าไม่พอใจหรือไม่ เฝ้าวนเวียนถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ไร้ซึ่งคำตอบ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด มีแต่เขาที่เปลี่ยนไป…นิ้วเรียวลองกดโทรออกหาเขาอีกครั้ง ปลายทางยังคงปิดเครื่อง…น้ำตาที่พยายามกลั้นเก็บเอาไว้ก็ไหลรินลงมา ลงมาพร้อมกับเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง ความคิด ความรู้สึกในตอนนี้คงเหมือนพายุสายฝนลูกนี้ที่ตกกระทบลงบนกระจกรถตอนนี้เธอรู้สึก
“อาจจะหมดโปรล่ะมั้งคะ” กอหญ้าไม่อยากให้แม่เครียดไปกับเธอ จึงเอ่ยออกมาแล้วยิ้มขำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้“เขา?” “อยู่ ๆ ก็เงียบ ติดต่อไม่ได้ คนหาย ไลน์ก็ไม่ตอบ” กอหญ้าพูดติดตลก ทั้งที่ในใจแทบแตกสลายได้แล้ว“พี่เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…” นั่นสินะ… เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…รอจนถึงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าเขายังไม่ติดต่อมา เธอจะไปหาเขาที่บริษัท เพราะเธอเคยไปหาอัลฟ่าที่บริษัทครั้งหนึ่งแล้ว เอาของที่เขาลืมไปให้ จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลยเขาบอกถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหาเขาที่บริษัทอีก เธอจึงเลือกที่จะเชื่อฟังและไม่ไปตามที่เขาบอก…ส่วนบ้านพ่อแม่ หรือที่ประจำที่เขาชอบไป อย่าพูดถึงเลย เธอเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริง ๆ“ไว้พรุ่งนี้หญ้าจะลองโทรหาพี่ฟ่าอีกครั้งค่ะ” “อืม ใจเย็น ๆ ใช้เหตุผลนะลูก อย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ไม่งันความรักอาจจะจบลงง่าย ๆ โดยที่เราไม่สามารถยื้อมันไว้ได้” “ค่ะแม่” “ลูกอยากได้ผู้ชายเหมือนพ่อ ตอนนี้ลูกบอกแม่ว่าเขามีนิสัยเหมือนพ่อมาก ดังนั้นต้องรักษาเขาเอาไว้ให้ดีๆ นะ” “ค่ะแม่ …แต่ว่า” กอหญ้ารู้สึกดีว่าเขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว อาจจะไม่รักเธอแล้ว และสักวันจุดจบมันก็ต้องมาถึง
บทที่2ความจริงปรากฏ เช้าวันต่อมา…กอหญ้าตื่นแต่เช้ามืดเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของเธอ ในเวลาเช้ามืดที่ยังคงมีเสียงน้ำค้างจากสายฝนหยดลงกระทบบนหลังคา ร่างเล็กยังคงนั่งนิ่ง ๆ มือบางถือสมาร์ทโฟนเก่า ๆ ไว้ในมือด้วยอาการสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้นทุกอย่างเงียบ เงียบจนใจของเธอรู้สึกปวดร้าว เบอร์โทรหรือแม้แต่ข้อความ ไร้วี่แววที่อัลฟ่าจะติดต่อกลับมา ทั้งที่เขาอ่านข้อความของเธอแล้วแท้ ๆ แต่เขาไม่คิดตอบกลับเธอสักข้อความเดียว…กอหญ้านั่งจ้องสมาร์ทโฟนของตัวเองนิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจ พลันน้ำตาก็ไหลหยดลงมาที่หน้าจอมือถืออย่างไม่รู้ตัวตอนที่เห็นหยดน้ำตาที่หยาดริน เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองร้องไห้แล้ว…กอหญ้ารีบสูดน้ำมูกขึ้นฟุดฟิด ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาออกไปอย่างลวก ๆ เธอไม่ควรร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นค่าในความรักของเธอ…กอหญ้าคิดว่านี่คงเป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบหนึ่งปี ความรักของเธอกับอัลฟ่าคงใกล้จบลงแล้วจริง ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอเพียงแค่อยากรู้ว่า เพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้…หรือเขาเบื่อเธอที่มันเฉิ่มเฉย หรือว่าเขาเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่า… หรือเขาไม่สบายใจอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ วันนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจ
กอหญ้าเลือกที่จะนั่งอยู่ด้านนอกร้าน เธอสั่งเพียงน้ำและเค้กมาทานเพื่อเฝ้าดูอัลฟ่าที่กำลังนั่งไขว่ห้างคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ หากให้เดาคงเป็นเพื่อนของเขา…ไม่มีผู้หญิงอย่างที่เธอแอบคิด… แต่ทำไมเขาถึงได้เมินเฉยกับเธอขนาดนี้นะ…กอหญ้าเม้มริมฝีปากนึกทบทวน จวบจนอัลฟ่าเดินไปข้างๆ ร้าน เธอจึงแอบตามไปเงียบ ๆ จนถึงจุดที่เขาและผู้ชายอีกคนยืนสูบบุหรี่สนทนากันอยู่…กอหญ้าแอบพิงกำแพงแอบฟังเงียบ ๆ แอบฟังพวกเขาคุยกัน เธออยากจะรู้ว่าอัลฟ้าจะสนทนาอะไรกับเพื่อนของเขาบ้าง อาจจะมีเรื่องของเธอบ้างก็ได้...“งานไปถึงไหนแล้วที่เกาะ” “ก็ดี เพาะพันธุ์ไข่มุกสวย ๆ ได้เรื่อย ๆ” “แล้วโรงแรม?” “ก็ไปได้ดี” “ไม่มีอะไรผิดปกติแน่นะ?” ผู้ชายอีกคนเอ่ยถาม เสียงกระซิบเสียมากกว่า“ถ้ามึงหมายถึงสายลับ ไม่มีทางที่พวกมันจะเข้าไปได้ เกาะกูไม่มีทางปล่อยผ่านง่ายๆ นอกจากจะเป็นพวกสายลับของพวกมึงที่จับได้ แล้วเอามาทิ้งขว้างให้คนของกูทรมานเล่น” เกาะของเขา…หมายถึงอะไร? อัลฟ่ามีเกาะส่วนตัวด้วยเหรอ…“ก็ดี ส่วนกาสิโนกูลักลอบเข้ามาเยอะจัด แต่ก็นะ ไม่มีทางรอดสายตากูได้สักคน” มาร์ตินอวยตัวเอง“ก็ดีแล้ว ถ้ามึงปล่อยมาสืบความลับของตระกูลมึ
บทที่3คำกล่าวหา“กอหญ้า…” สุ้มเสียงทุ้มต่ำลง เมื่อกอหญ้าปรากฏตัวที่นี่…“ไม่ต้องถามว่าหนูมาได้ยังไง ตอนนี้พี่ต้องตอบหนูมาก่อนว่าพี่อยากเลิกกับหนูใช่มั้ย!? ที่ผ่านมาพี่แค่หลอกให้หนูรักพี่ เพราะพี่คิดว่าหนูเป็นเมียน้อยของใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก!” กอหญ้าถามเขาเร็วพลัน ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้เขาจะมองจะคิดดูถูกกับเธอยังไงส่วนเกินอย่างมาร์ตินยังอึ้ง รู้สึกเป็นส่วนเกินขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก เมื่อตอนนี้ทั้งสองยืนจ้องหน้าฟาดฟันกันนิ่งงัน ไร้ซึ่งคำตอบกลับจากเพื่อนของเขา มาร์ตินจึงยักไหล่ถอนหายใจ ตัดสินใจเดินออกมาเงียบ ๆเพื่อให้ทั้งคู่ได้เคลียร์กัน“…” มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านเข้ามาที่ดวงหน้าของเธอ จนน้ำตาเริ่มแอบซึม แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาสมเพชเธอเด็ดขาด!“ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงใช่มั้ยคะ หนึ่งปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรักหนูเลยใช่มั้ยคะ!?” กอหญ้าเอื้อนเอ่ยคำถามต่อหน้า พยายามมองหาคำตอบจากแววตาของร่างสูงที่สูงกว่าเธอหลายเท่าตัว“ได้ยินหมดเลยสินะ…” แต่ทำได้เพียงเอ่ยเสียงเบา ๆและแค่นยิ้ม อัลฟ่าหรี่ตามองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งงัน แววตาเจือไปด้วยความเย็นชา และโกรธเคือง“ตอบมาสิคะ!? ตอบให้หนูหายโง่หน่อย