ไม่ควรรู้สึก
ช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า
“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้
“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขา
เฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!
ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆ
ระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลง
เท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสารอยู่ข้างกายเล็กน้อย
ให้เดาอัลฟ่ากำลังทำงาน…
กอหญ้าค่อย ๆเดินเข้าไปหาเขาด้วยจังหวะที่มั่นคงและเงียบ สายตากลมโตแอบมองเขานิ่งๆ ผ่านดวงตากลมโต อัลฟ่ามีหน้าคมคายหล่อเหลาไม่น้อย เขาเหมือนดั่งเทพบุตรจุติลงมาเกิด เสี้ยวหน้าคม จมูกคมสัน ริมฝีปากหนาหยักลึกที่แดงคลำ ทุกอย่างรับเข้ากับใบหน้าคมคายของเขาอย่างน่าทึ้ง
กอหญ้าย่อตัวนั่งลงแอบมองเขาอยู่อย่างนั้นเงียบ ๆ แสงสว่างสาดส่องทำให้เสี้ยวหน้าคมของเขาในตอนนี้ ดูดีมากในสายตาของเธอ
เขาหล่อมาก…
กอหญ้ามองอัลฟ่าจนเผลอลืมตัว มือบางยื่นเข้าไปที่ดวงหน้าคม หมายจะสัมผัสแก้มสากเนียน… ทว่ามือบางกลับหยุดชะงักลงกลางอากาศ เมื่อเสียงเตือนบางอย่างดังก้องขึ้นมาในหัวใจ
เธอไม่ควรมองเขาด้วยความรู้สึกแบบนี้…
เธอควรหยุดความคิดนั่นซะ! กอหญ้า
เธอชื่นชมเขาได้ แต่หัวใจห้ามเต้นแรงแบบนี้
เธอรักเขาไม่ได้! อย่าลืมสิ!
เขาเป็นใคร เธอเป็นใคร อย่าได้อาจเอื้อมและใฝ่สูง อย่าลืมในทุกเรื่อง ทุกสิ่งที่เขาทำกับเธอ ที่ได้กอดได้หอมได้นอนกับเขาทั้งหมดนั่นเป็นเพราะอะไร
อย่าลืม!
เขาไม่มีวันรักเมียน้อยที่ทำร้ายครอบครัวน้องสาวของเขาแน่ ถึงเขารู้ความจริงว่าไม่ใช่เธอ เขาก็ไม่มีวันรักเธอ เธอทั้งต้อยต่ำและไม่คู่ควร แถมยังเป็นน้องสาวของคนที่เขาเกลียดอีกด้วย
เรื่องของเรา ยิ่งมองถึงอนาคตที่พอจะมีร่วมกัน มันไม่มีทางนั้นเลย…
อย่าปล่อยใจให้หวั่นไหวอีก
เธอไม่ควรรักเขา และจะไม่มีวันที่จะได้รัก
เขาไม่คู่ควรกับความรักของเธอ
และเธอก็ไม่คู่ควรกับเขา…
จำเอาไว้ว่าเราแตกต่างกันเกินไป…
กอหญ้าเธอควรเตือนสติตัวเองให้ดี…
กอหญ้านิ่งงันไปพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจหยัดกายลุกขึ้นยืนตามเดิม เธอไม่ได้ปลุกอัลฟ่าให้ตื่น เพราะเขากำลังงีบหลับ เธอคิดว่าเขาควรพักผ่อน ทั้งๆที่วันนี้วันหยุด แต่เขาก็ยังเอางานมาทำที่บ้าน
จะขยันไปไหน…
กอหญ้าตัดสินใจหมุนกายหันกลับไปที่ห้องครัว เพื่อเตรียมมื้อเย็นให้กับอัลฟ่า เมื่อความเงียบเกิดขึ้นโดยรอบบริเวณ ร่างแกร่งเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ เขาเหลือบมองไปที่ร่างบาง กอหญ้ากำลังเดินไปมาอยู่ในห้องครัว
เธอกำลังคิดอะไรอยู่…
เมื่อกี้เขารู้สึกได้ว่าเธอกำลังเข้าใกล้และพิศมองเขา มือบางกำลังจะลูบแก้มของเขา แต่ทำไมถึงได้หยุดการกระทำนั้น และเดินจากไป…
ในใจของเธอคิดอะไรอยู่กันแน่นะ กอหญ้า…
อัลฟ่าคิดไม่ตก พอนึกคิดถึงสิ่งที่กอหญ้ากระทำไม่ได้ เขาจึงหลับลงนิ่งๆอีกครั้ง พยายามไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก แค่ตอนนี้เขามีเธออยู่ข้าง ๆ ทำไมเขาต้องคิดอะไรให้มันมากความอีก…
ไม่ว่าตอนนี้เธอจะรู้สึกเช่นไร สุดท้ายเธอก็ไม่อาจหลบหนีไปจากเงื้อมมือของเขาได้
ตราบใดที่เขายังต้องการเธอ…
กอหญ้าหมกตัวอยู่ในห้องครัวจวบจนกระทั่งสี่โมงเย็น ส่วนอัลฟ่าตื่นแล้ว เขากำลังนั่งตรวจงานที่ยังคงเหลือ พอตรวจงานเสร็จก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่านานแล้วที่กอหญ้ายังไม่ออกมาจากห้องครัว มีเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เริ่มโชยมาถึงที่เขานั่งอยู่
อัลฟ่ากวาดขาลงจากที่พักเท้าลงกับพื้นพรม เขาหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เพื่อเดินไปหากอหญ้า รอยยิ้มยกขึ้นเล็กน้อย ยามที่เห็นกอหญ้าตั้งใจทำอาหาร เป็นภาพที่คุ้นเคยที่มันได้หายไปในเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ร่างสูงพิงเอนตัวเข้ากับขอบประตูเงียบๆ เฝ้ามองดูทุกการกระทำของกอหญ้าที่ตั้งใจทำกับข้าวอย่างตั้งใจ
การที่ได้มองทุกการกระทำของเธอทำหัวใจเขาเต้นถี่ ทุกอย่างที่เป็นเธอมีอิทธิพลต่อหัวใจของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะตั้งแต่ที่เราคบกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาตลอดหนึ่งปี ความสบายใจที่เขาไม่เคยได้รับจากใคร เฃฟโซนที่ดีจากกำลังใจที่เธอมีให้เขาในทุกวัน
นั้นคงเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เรียกว่าความสบายใจ และเขาไม่เคยได้รับมันจากใครนอกจากเธอ
หากแต่เพราะเรื่องระหว่างเรา เรื่องที่เธอก่อเอาไว้ เธอทำลายครอบครัวน้องสาวเขาด้วยคำว่าเมียน้อยของกาศิต…
ทุกอย่างถึงเป็นเหมือนเช่นทุกวันนี้…
“ทำอะไรหอมจัง” ทั้งที่ควรเกลียดเธอ แต่ความรู้สึกทั้งหมดที่มีในใจกลับมีมากกว่า
กอหญ้าเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้ความเด็ดขาด ความมั่นคงของเขาหายไป เขาควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อได้อยู่ใกล้เธอ แม้ปากบอกเกลียดแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม…
“ผัดกะเพราหมึกค่ะ” กอหญ้าบอกเขา ก่อนที่มือหนาจะโอบรัดที่เอวบางของเธอ ส่วนมืออีกข้างกำลังเกลี่ยเส้นผมของเธอไปรวมไว้อีกข้างหนึ่ง
จมูกคมจรดลงที่ต้นคอ ดมดอมกลิ่นกายของเธออยู่อย่างนั้น กอหญ้ายืนนิ่งให้เขากอดจูบลูบวนที่หน้าท้องของเธอ ตัวตนที่แนบชิดทำให้เธอรู้ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกับเธอ
“หญ้ายังทำกับข้าวไม่เสร็จ” เธอเตือนสติเขา
“ก็ไม่ได้ทำตอนนี้สักหน่อย” อัลฟ่าว่า กอหญ้าจึงถอดถอนหายใจ ปล่อยให้เขากระทำกับร่างกายของเธออยู่อย่างนั้น
“หอม…” ริมฝีปากหนาขบเม้มลงต้นคอของกอหญ้า เธอจึงรีบเอียงตัวหลบทันที
“ห้ามทิ้งรอยตรงนี้”
“ทำไม?” เขาถามทั้งที่รู้ดีแก่ใจ
“พ่อกับแม่หญ้าต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าเห็นมัน”
“หรือไอ้กายล่ะ!?” กอหญ้าทำหน้าบึ้งตึงทันที ที่เขาโยนเรื่องไปหากาศิต
“หญ้าเลิกยุ่งกับเขาแล้ว ทุกวันนี้คุณก็น่าจะรู้…” เธอรู้ว่าเขาให้คนตามเธอตลอดเวลา เขาไม่ไว้ใจเธอและเธอก็ไม่ได้ไปหากาศิต ซึ่งเขาก็ต้องรู้
“หึ…” หากเพราะไม่ให้คนติดตามเธอ มันก็คงเชื่อยากสักหน่อย มือหนากระชับเอวบางเข้ามาใกล้ จนแผ่นหลังติดชิดอกแกร่ง ริมฝีปากหนายังคงเกาะเกี่ยวไปตามท้ายทอยแผ่นหลัง มือหนาสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อของกอหญ้า ลูบเล่นที่หน้าท้องแบนราบ เลื่อนลงไปที่กลางกาย เขาลูบมันผ่านกางเกงขาสั้นสีดำของเธอ…
วันนี้กอหญ้าอยู่ในชุดเสื้อยืดธรรมดา กางเกงขาสั้น สไตล์การแต่งตัวประจำ ที่เธอมักสวมใส่มาตั้งแต่ที่เรารู้จักกัน
อ๊ะ!
เขาไม่ฝากไว้ที่ต้นคอแต่กลับกดขบเม้มลงที่ท้ายทอยแทน “หญ้าทำกับข้าวอยู่” เธอขึ้นเสียงเอ่ยซ้ำเล็กน้อยที่เขาไม่หยุด แต่ยังทำต่อ และยิ่งมากกว่าเดิม…
“ก็ทำไปสิ!” เขาว่าพลางปลดกระดุมและรูดซิปของกอหญ้าลง นิ้วเรียวเกาะเกี่ยวแทรกเข้าไปที่เนินสาวและขยี้เขี่ยเม็ดเสียวของกอหญ้าอย่างหยอกเย้า
เสียงลมหายใจของกอหญ้าสะดุด อัลฟ่ากำลังปลุกอารมณ์แสนดิบเถื่อนของเธอให้ปะทุ…
อื้ออ~
มือบางจับตะหลิวแน่น เธอยังคงตั้งใจทำกับข้าว ทั้งที่เขากำลังเล่นสนุกกับร่างกายของเธอ
อัลฟ่า! เขามันคนหื่นกาม!
อ๊ะ!
ความช่ำชองทำให้ร่างบางเกร็งกระตุก แก่นกายยิ่งแนบชิด ตัวตนที่แข็งขืนอยู่ดันอยู่ด้านหลังก้นมน มีเพียงเสียงหัวเราะคิกอย่างพอใจที่เขาปรนเปรอเธอจนเสร็จสม
ก่อนที่เขาจะกดจูบตามลาดไหล่เรียวยาวอีกครั้งอย่างพึงพอใจ…
“กอหญ้า…” เขาเรียกชื่อของเธอแผ่วเบาราวกระซิบ กอหญ้าจับตะหลิวแน่นอีกครั้ง ลมหายใจกระตุกขาดห้วงยามที่เขากำลังปลดกางเกงขายาวลงครึ่งสะโพก แก่นกายถูไถแนบชิดตรงก้นมนที่ในขณะนี้ กางเกงถูกเขาจัดการถอดมันลง จนร่วงลงสู่บนพื้นกระเบื้อง…
ความใหญ่โตสอดแทรกผสานเข้ามา กอหญ้าปิดแก๊สเมื่อทำอาหารเสร็จ โดยที่ร่างกายของเธอในตอนนี้ถูกอัลฟ่าครอบครองเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว
หึ…
อัลฟ่าเห็นว่ากอหญ้าทำอาหารเสร็จแล้ว จึงจัดท่าให้เธออยู่ในท่าที่สะดวก สามารถรับเข้ากับแก่นกายของเขา มือหนาจับท้ายทอยให้เธอก้มลงกึงก้นรับตัวตนของเขา เพื่อที่เขาจะได้เข้าไปในกายของเธอให้ลึกที่สุด…
วินาทีต่อมา บทพิศวาสก็เริ่มต้น ร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ…
ร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงขยับโยก มือบางจับขอบเคาน์เตอร์ครัวไว้แน่น ยิ่งยามที่มือหนาสอดเข้ามากอบกุมที่อกอิ่มของเธอ กอหญ้ายิ่งครางอื้อ ยิ่งถูกบี้ขยี้ที่ยอดถันด้วยนิ้วเรียว เธอยิ่งเม้มริมฝีปากแน่น ออกเสียงครางในลำคอแข่งสู้เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังระงมทั่วห้อง
อ่าห์
ซึ่งไม่ต่างจากเสียงครางของร่างสูงที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและยิ่งดังขึ้น เมื่อยามที่เขาเองก็ใกล้เสร็จสมพร้อม ๆกันกับเธอ…
อืมม…
ร่างกายบางเกร็งกระตุกตอดรัดสู้ก่อน ต่อมามือหนาก็รีบดึงตัวตนของเขาออกมาพ่นน้ำรักขาวขุ่นลงบนก้นมนจนหมดสิ้น
ร่างแกร่งหอบไม่ต่างจากกอหญ้า เขาดึงกระดาษชำระออกมาเช็ดน้ำกามของตนเอง จากนั้นจึงก้มลงดึงกางเกงที่ร่วงหล่นลงพื้นขึ้นมาสวมให้กับกอหญ้า จัดระเบียบบราที่เขาดึงมันลงให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม
“หญ้ากลับเลยได้มั้ย?” เธอรู้สึกนอยด์เขา ที่จัดเธอมั่วซั่ว ทำกับข้าวอยู่ก็ยังคิดรังแกกัน เมื่อเขาเอาเธอเสร็จแล้ว หน้าที่ของเธอในวันนี้ก็ต้องจบลงเช่นกัน
ไม่มีอารมณ์จะมองหน้า!
“เธอทำหน้าที่ได้ดีนะ เสร็จก็จะกลับเลย?” เขาเลิกคิ้วว่าประชด
“ก็หน้าที่หญ้ามีแค่นี้” เธอเถียง และมันก็เป็นแบบนี้ มาตั้งแต่ที่ข้อตกลงของเราได้เริ่มต้นขึ้น…
“ไม่คิดว่าในเวลาที่เธอต้องอยู่กับฉัน ฉันอาจจะเอาเธออีกสักรอบ หรือสองสามรอบเหรอ?” เขาจ้องมองคนที่พิงกับขอบเคาน์เตอร์ ดูก็รู้ว่าหมดแรง
พึ่บ!
“จะทำอะไรคะ?” กอหญ้าตื่นตกใจกับการกระทำอันคุกคามของเขา
“จะพาไปนั่งที่โซฟาไง” อัลฟ่าช้อนตัวเธอขึ้นมาแนบอก พูดจบก็ย่ำก้าวเดินไปที่โซฟาจริง ๆ “เดี๋ยวสักพักจะพาไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ ฉันเบื่อที่ต้องเห็นเธอใส่ชุดพวกนี้แล้ว” เขารู้ว่าเธอเด็กกว่าเขามาก มักจะมีสไตล์การใส่เสื้อผ้าเหมือนเด็กๆ แต่ก็ควรมีเสื้อผ้าดี ๆใส่บ้าง…
“หญ้าชอบแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คุณไม่ควรเปลี่ยนแปลงมัน” กอหญ้าจ้องมองคนที่นั่งข้าง ๆ รู้สึกขัดใจที่นอกจากจะรังแกเธอตามใจตนแล้ว ยังคิดจะเปลี่ยนแปลงเธอด้วย!
“เชย”
“เชยก็เชยสิคะ หญ้าไม่ได้มานั่งให้คุณเห็นตลอดเวลาสักหน่อย มาถึงก็ถอดเสื้อผ้าบำเรอกามให้คุณแล้ว จะมานั่งสนใจเสื้อผ้า การแต่งตัวของหญ้าทำไม” เธอว่าเขาด้วยสีหน้าปั้นปึ่ง อัลฟ่าจึงจ้องมองเธอนิ่ง ๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนใจอะไร
“แล้วคิดจะขัดคำสั่งฉัน?” เขาเอ่ยเพียงคำถามง่าย ๆ คำเดียวที่เธอต้องหยุดทุกคำพูด…
เหอะ!
เขารู้ว่าเธอไม่สามารถขัดคำสั่งของเขาได้ และเธอ… มันอวดเก่งเองที่อาจหาญคิดจะปฏิเสธ ขัดคำสั่งของเขา!
"คุณก็ไม่น่าถามนะคะ" กอหญ้าผ่อนสีหน้าที่ปั้นปึ่งลง ขบเม้มริมฝีปากลงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเขาอีกครั้ง
"เรื่องพี่สาวของหญ้า" อยู่ ๆกอหญ้าก็เอ่ยเรื่องพี่สาวกับเขาอีกครั้ง มีอะไรหรือเปล่า?
"หญ้าได้ยินว่าคุณยังให้งานพี่สาวของหญ้าอยู่ คิดจะทำอะไร?" เธออยากรู้ว่าในใจของเขาคิดอะไรอยู่ ถึงยังยุ่งเกี่ยวให้ความหวังพี่สาวของเธอ ที่ผ่านมาเขาทำอะไรกับพี่สาวของเธอไปบ้าง เขาย่อมรู้ดี
การที่เขายังให้งาน ไม่ต่างจากเขายังคิดจะให้ความหวังเล็กๆนั่นกับพี่สาวของเธองันเหรอ…
"งาน…?" อัลฟ่ากำลังนึกคิด ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ว่างานอะไร
"งานนั่นเป็นงานสำคัญของน้องสาวเพื่อนของฉัน และพี่สาวของเธอถูกกำหนดตัวไว้โดยแพรวา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลย ที่ว่าฉันให้งานคงเป็นการเข้าใจผิด"
"เข้าใจผิดยังไงคะ?"
"เพราะพี่สาวของเธอเคยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบริษัทฉัน ดังนั้นแพรวาจึงรู้จักเธอผ่านบริษัทฉัน งานที่เสนอไปคงมีชื่อบริษัทของฉันเป็นตัวกลางด้วยไง" เธอไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ว่าเธอจะเชื่อเขาก็แล้วกัน
"งันอย่าลืมคำสัญญาที่ให้กับหญ้านะคะ" อย่างน้อยในสถานะในตอนนี้ เขาไม่ควรเอาพี่สาวมาข่มขู่เธอแล้ว และไม่ควรที่จะสานต่อความสัมพันธ์กับพี่สาวเธอด้วย
อย่างน้อยก็ช่วยสงสารเธอสักนิด ไม่มีใครรับได้หากพี่น้องต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกัน…
"ฉันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ดังนั้นอย่าห่วงเลย ตราบใดที่เธอไม่ดื้อ และเชื่อฟังฉัน มันจะไม่มีอะไร…"
ห้างสรรพสินค้า
ในที่สุดตอนนี้ เธอก็ถูกอัลฟ่าลากตัวมาซื้อของด้วยกัน เธอรู้สึกเกร็ง ๆเล็กน้อย อาจเพราะข่าวอื้อฉาวของเธอกับน้องเขยของเขา ที่ทำให้ตอนนี้มีแต่คนมองมาที่เธอ พอเข้าร้านเครื่องประดับพนักงานก็เอาแต่กระซิบกัน และมันเป็นอย่างนั้นทุกร้านที่เธอย่ำก้าวเข้าไป
กอหญ้ารู้สึกไม่ดี เมื่อมีคนอื่นจับจ้องมองมาที่เธอแบบเย้ยหยัน บางทีเธอก็ไม่ได้หน้าหนาอย่างที่ตนคอยบอกกับตัวเอง
ทั้งที่เธอตั้งมั่นว่าจะไม่มีวันสนใจสายตา คำดูถูกพวกนี้ แต่สุดท้ายเธอก็อ่อนไหวไปกับมัน…
“หญ้าว่าพอแล้วดีกว่า หญ้าใส่ไม่หมดหรอกค่ะ และหญ้าก็อยากกลับบ้านแล้ว” เธอเอ่ยขึ้นเมื่ออัลฟ่ากำลังจะก้าวเข้าห้องเสื้ออีก
“ตามใจแล้วกัน” อัลฟ่าชะงักเท้า มองข้าวของในมือของกอหญ้าที่เต็มมือของเธอ วันนี้เขารูดบัตรเปย์กอหญ้าไปหลายแสน แม้เธอจะไม่อยากรับ แต่เขาก็จะยัดเยียดให้
และออกคำสั่งให้เธอรับห้ามขัดใจเขาเด็ดขาด
สุดท้ายกอหญ้าจึงยอมรับของที่เขาซื้อให้อย่างจำยอม ร่างบอบบางเดินเคียงข้างเขา ถือถุงเสื้อผ้าไว้ในมือมากมาย เธอคล้ายจะหลบสายตาคน ซึ่งอัลฟ่าไม่ทันได้สังเกตเขาทำได้เพียงแค่เดินต่อ
"จะแวะซุปเปอร์มาเกตมั้ย" เขาถาม เผื่อเธออยากได้อะไรไปไว้ที่เพนท์เฮ้าส์
"…"
กอหญ้าไม่ได้ยินในสิ่งที่อัลฟ่าถามเธอ เธอกำลังนึกคิด รู้สึกไม่ดีกับสายตาบางสายตาที่มองมา เท้าบางเริ่มเดินช้าลง พยายามเดินห่างจากเขาเล็กน้อย และคิดให้เขาเดินนำไปก่อน
คนที่ก้าวขายาวๆ พูดเพียงคนเดียวเริ่มเอะใจ พร้อมผ่อนลงหายใจลงเมื่อเห็นกอหญ้าก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังเขาเงียบ ๆ
ตุบ!
ศีรษะชนเข้ากับแผ่นหลังหนา ทำให้กอหญ้าพลันได้สติ เมื่ออัลฟ่าหยุดเดิน…
“เป็นอะไรอีก…” เขาหมุนกายกลับมาถาม มองกอหญ้าที่จับหน้าผากตัวเองปอย ๆ ด้วยสายตาดุกร้าวไม่พอใจที่กอหญ้าเริ่มทำตัวให้เขาขุ่นเคืองใจ
“หญ้าแค่คิดว่าเราเดินห่างกันหน่อยก็ดีนะคะ …คุณไม่กลัวเป็นข่าวเหรอที่เดินกับเมียน้อยน้องเขยของคุณ” เธอไม่อยากเป็นข่าวฉาวอีกแล้ว และยิ่งเป็นข่าวกับอัลฟ่าต่อ จะต้องมีปัญหาตามมาอีกแน่ ๆ
“ไม่กลัว…ลองมีใครกล้าเขียนข่าวฉันสิ ได้ตายสมใจแน่” เขาว่า พร้อมกับดึงข้อมือกอหญ้าให้เดินข้าง ๆเขา โดยไม่สนใจสายตาใครอย่างที่กอหญ้ากลัว
"…แต่ว่า"
"ไม่มีแต่ แค่อยู่ในที่ของเธอ ทำหน้าที่ของเธอก็พอ!" เขาไม่กลัวข่าวฉาว ชีวิตที่ผ่านมาเขาโด่งดังในแวดดวงไฮโซไม่น้อย เรื่องดารา นางแบบที่เคยที่ติดพันยอมรับว่าเขาเองก็ต้องมีเช่นกัน
ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับเขา!
เขาย่อมต้องมีการป้องกันพวกนักข่าวเหล่านั้นไม่ให้ทำตามใจตน ปล่อยข่าว เขียนข่าวทำลายชื่อเสียง ทำชื่อเสียงของเขาเสียหายออกไปง่าย ๆแน่
และเงินเท่านั้นที่สามารถปิดปากพวกนักข่าวหิวเงินพวกนั้นได้…
และถ้าหากยังมีนักข่าวที่ดื้อดึง คิดเขียนข่าวฉาวของเขาให้หลุดรอดออกไป และหากเขาตามจับตัวได้
พวกมันจะได้รับสิ่งตอบแทนที่ไม่อาจคาดถึง!
กึก!
เท้าหนาหยุดลงที่รถสปอร์ตของเขา ไม่ได้พูดอะไรกับกอหญ้าอีก เขาดึงถุงเสื้อผ้าทั้งหมดของเธอมาถือไว้และโยนมันเข้าไปที่กระโปรงหน้ารถทันที
“ซื้อให้ ก็ใส่ด้วย ถ้าวันไหนฉันเห็นเธอใส่เสื้อเก่า ๆแบบนี้มาหาอีก ฉันจะโล๊ะทิ้ง และเผามันให้หมดเลยคอยดู!”
“ขู่เก่ง…” อารมณ์ของเขาดูรุนแรง และเธอคิดว่าเรื่องเมื่อครู่อาจทำเขาหงุดหงิดแล้ว จึงนิ่งลง และเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเงียบๆ จวบจนรถสปอร์ตของอัลฟ่าเคลื่อนตัวออกไปจากห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
สามทุ่ม
เป็นเวลาสามทุ่ม ที่อัลฟ่าพากอหญ้ามาถึงเพนท์เฮ้าส์ของตน กอหญ้าลงจากรถ ยืนรอเขาเปิดกระโปรงรถเอาถุงเสื้อผ้าของเธอออกมา เมื่อได้ของแล้ว จึงก้าวเดินเข้าบ้านไปพร้อม ๆกัน
พึ่บ!
อัลฟ่าโยนถุงเสื้อผ้าไว้ที่โซฟา ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องครัวไม่พูดไม่จากับกอหญ้าอีก กอหญ้าเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าเขาโกรธเคืองอะไรเธอ แค่เธอไม่อยากเป็นข่าวฉาวกับเขาแค่นั้นเองนะ…
ทำไมต้องโกรธ ทำหน้าไม่พอใจใส่เธอขนาดนี้ด้วย…
"เตรียมโต๊ะสิ" เขานั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร เหลือบมองกอหญ้าที่ก้าวตามเข้ามาในห้องครัว
"ค่ะ" กอหญ้าเดินตรงไปเคาน์เตอร์ พัดกะเพราหมึกยังคงอยู่ในกระทะที่เธอทำไว้ก่อนออกไปเดินห้างกับเขา กอหญ้าจัดการอุ่นกับข้าวให้กับอัลฟ่า และนั่งทานกับเขาจนอิ่ม ทั้งสองยังคงนั่งจ้องกันนิ่ง ๆ กอหญ้าจับมือที่กุมกันจนรู้สึกถึงเหงื่อที่ชุ่มมือ
อัลฟ่าใช้นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นจ้องมองมาที่เธอ ทำให้เธอรู้สึกเบาหวิว กลัวเขายังไงบอกไม่ถูก…
"จะกลับเลยก็ได้นะ วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์และยิ่งไม่อยากเห็นเธอ"
"…" ทั้งที่ควรดีใจที่เขาบอกให้เธอกลับได้ แต่หากคำพูดต่อมาของเขา ที่บอกว่าไม่อยากเห็นเธอ ประโยคนี้ทำใจเธอเจ็บเหลือคณาจริง ๆ
ครืด~
เสียงฟ้าร้องขึ้น เรียกสติที่นิ่งงันของกอหญ้ากลับมา เธอมองเขาแล้วยกยิ้ม จะเจ็บทำไม แค่นี้เธอควรชินชาได้แล้ว…
"ค่ะ งันหญ้าขอตัว…" กอหญ้าตัดสินใจลุกขึ้น พลางเก็บจานที่ทานจนเกลี้ยงทั้งของเขาและเธอ
"ออกไป!" มือบางชะงัก ตกใจเสียงที่ดังตะคอก จนดวงหน้าหวานหันไปมองเขานิ่งอย่างไม่เข้าใจ
"ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ!" อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิง! ช่างเถอะ! เธอไม่สนใจแล้วว่าเขาเคืองโกรธอะไรเธอ เมื่อวันนี้เขาไล่เธอออกจากบ้าน มันก็ดีแล้ว!
จะได้ไม่ต้องทน ฝืนใจอยู่กับเขาในค่ำคืนนี้!
"ค่ะ ขอตัว" กอหญ้าพูดแค่นั้น เธอก็กระแทกเท้าก้าวเดินออกจากเพนส์เฮ้าส์ของอัลฟ่าทันที!
อัลฟ่ามองตามร่างบอบบางด้วยสีหน้าแววตาที่น่ากลัว ในใจคุกรุ่นดังไฟแผดเผา แอบอารมณ์เสียไม่น้อยกับการกระทำของกอหญ้าในวันนี้
คนอื่นอยากเป็นข่าวกับเขาทั้งนั้น! แต่เธอกลับคิดเดินหนีห่าง เพียงเพราะไม่อยากเป็นข่าวกับเขา!
ไม่อยากให้ข่าวคบกันกับเขาดังออกไปสินะ หึ! กลัวไอ้กายมันจะเสียใจหรือยังไง!
…เธอจะรู้มั้ยว่าไอ้กาศิตที่เธอรักนักรักหนา รักจนยอมเป็นเมียน้อยของมันน่ะ ตอนนี้ตามง้ออันนาเช้าเย็น บอกรักยัยนามากแค่ไหน!
เธอจะรู้บ้างหรือเปล่า!!
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่22เปิดตัวประมูลกอหญ้ายืนน้ำตาคลอหลังจากที่ออกจากห้องทำงานของอัลฟ่า ตอนนี้เธอยืนนิ่ง ๆอยู่หน้ากรงขนาดใหญ่ ถูกวาลิถอดชุดคลุมออกให้เหลือเพียงชุดเมดผ้าลูกไม้ที่แสนเซ็กซี่วาลิยิ้มกริ่มพอใจกับพนักงานคนใหม่ของคลับ กอหญ้าสวยมากจริง ๆสวยขนาดที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 'สวยจนไร้ที่ติ…'สายตากลมโตของกอหญ้าน้ำตาเอ่อซึมเธอกำลังยืนมองกรงทองขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาหรูสีแดงสด …สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เธอคิดว่ามันคงเป็นที่ที่เธอต้องเข้าไปนั่งอวดโฉมประมูลในค่ำคืนนี้พอนึกคิดหัวใจบางก็พลันวูบไหว เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งประตูกรงทองนั้นถูกเคลื่อนออก หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น มือบางกุมมือกันแน่น เธอไม่สามารถรอดพ้นไปจากตรงนี้ได้เลยจะมีใครสักคนมั้ยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอได้…ช่วย… ถ้าจะมีคนมาช่วยที่นี่ก็คงมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้น ที่สามารถช่วยเธอได้!ซึ่งเขาประกาศก้องแล้วว่าเขาไม่มีทางช่วยเ
บทที่23ขอของเล่นคืนปัง ปัง ปัง!“ใคร!?” ลีโอตะโกนถาม หันไปมองประตูที่มีเงารองเท้าเยอะผิดปกติ คิ้วเรียวขมวดพลางหันกลับมาสบตากับกอหญ้าเงียบๆ"เปิดประตู!" เสียงของอัลฟ่าทุบประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานว่า กอหญ้ากำลังสนุกกับไอ้ลีโอ!ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรร่านฉิบหาย!แควก!ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนารีบปลดสายคล้องคอขอวกอหญ้าออก ตอนนี้เนินอกของเธอแทบเปลือยจมูกคมสัน ริมฝีปากหนา กดจูบขบเม้มลงบนผิวกายของเธอซ้ำ ๆ จนกอหญ้าทุบตีเขาอย่างตื่นตกใจปัง ปัง ปัง!“นี่! เดี๋ยว! ไหนบอกจะไม่ทำไง” กอหญ้าต่อว่าลีโอ ทั้งตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ต้องทำ ใครมาไม่รู้หรือไง?”“อัลฟ่า…” เธอจำเสียงเขาได้“ใช่! ดังนั้นก็เล่นละครกับฉัน” กอหญ้าหยุดนิ่งทันที บทบาทที่เธอเพิ่งได้รับ ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง กอหญ้าจ
บทที่ลวงใจเขายัดเยียด ตราหน้าเธอว่าเป็นเมียน้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่แก้ต่างให้กับตัวเอง…“มึงพอเลย หยุดพูดถึงผู้หญิงคนนั้นสักทีเถอะ แค่นี้กูก็เบื่อยัยนั่นจะแย่อยู่แล้ว!” เสียงทุ้มของอัลฟ่าพูดกับญาติผู้น้องอย่างรามิล วันนี้มันนัดดื่มกับเขาที่ผับหรูกลางใจเมืองกรุงเทพ กว่ามันจะโผล่หน้ามาหาที่กรุงเทพได้ก็นานโข เขาจึงยอมรับนัดของมันในคืนนี้และไม่ว่าจะนานแค่ไหน มันก็ยังคงแซวถึงเรื่องที่เขาตามจีบกอหญ้า สาวธรรมดาคนหนึ่งที่เปิดร้านขายข้าวแกงในซอยสลัมซึ่งตอนนี้เขาคบกับเธอมาเกือบปีหนึ่งได้แล้วกระมัง“เบื่อเขา แล้วไปจีบไปคบกับเขาทำไม?” รามิลถามอัลฟ่า ญาติผู้พี่ของตนอย่างสงสัยใคร่รู้ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับอัลฟ่า เขาไม่เคยเห็นมันจีบผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงเหล่านั้นจะตามติด และเสนอตัวให้กับมันเองมันไม่จำเป็นต้องตามจีบพวกเธอเลยด้วยซ้ำ! แต่อัลฟ่าลงสนามด้วยตัวเองแบบนี้ มันจึงน่าแปลกใจอยู่บ้างในความคิดของเขา…อัลฟ่าถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เขาเองก็เบื่อที่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่เขาก็ต้องจำใจหลอกจีบยัยเฉิ่มเชยนั่นจีบจนติด… จนตอนนี้ยังหาทางบอกเลิกเธอไม่ได้!“เพราะเธอเป็นเมียน้อยสาม
บทที่1เมื่ออีกคนเปลี่ยนไปแปะ~ แปะ แปะกลิ่นและหยดน้ำฝน ทำให้กอหญ้ายื่นมือออกมารองรับน้ำฝน ที่หยดแหมะลงบนฝ่ามือน้อยของเธอ สายตากลมโตเหม่อมองหยดน้ำหนึ่งดวงบนฝ่ามือก็ยกยิ้มขึ้นมันคล้ายหยดน้ำตาของเธอ…แววตา ริมฝีปากเล็กอวบอิ่มสั่นระริก แหงนมองสายฝนที่เริ่มหยาดหยดลงมาทีล่ะเม็ด คิดว่าอีกไม่นานมันคงเทกระหน่ำลงมาแน่ ๆ …พลันสายตาของเธอก็มองหาแท็กซี่สักคัน จนมีคันหนึ่งที่ผ่านมา… มือบางจึงโบกขึ้นทันทีกึก…แท็กซี่คันนั้นจอดลงแล้ว กอหญ้าจึงบอกสถานที่ที่จะไปต่อจากนี้ให้คนขับรับรู้ เมื่อลุงคนขับรับทราบแล้ว เธอจึงปล่อยตัวเองนั่งจมอยู่กับความคิดในใจอีกครั้งทุกอย่างผิดปกติไปจริง ๆ… เธอเฝ้าถามตัวเองว่าระหว่างทางเธอทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ทำอะไรให้พี่ฟ่าไม่พอใจหรือไม่ เฝ้าวนเวียนถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ไร้ซึ่งคำตอบ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด มีแต่เขาที่เปลี่ยนไป…นิ้วเรียวลองกดโทรออกหาเขาอีกครั้ง ปลายทางยังคงปิดเครื่อง…น้ำตาที่พยายามกลั้นเก็บเอาไว้ก็ไหลรินลงมา ลงมาพร้อมกับเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง ความคิด ความรู้สึกในตอนนี้คงเหมือนพายุสายฝนลูกนี้ที่ตกกระทบลงบนกระจกรถตอนนี้เธอรู้สึก
“อาจจะหมดโปรล่ะมั้งคะ” กอหญ้าไม่อยากให้แม่เครียดไปกับเธอ จึงเอ่ยออกมาแล้วยิ้มขำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้“เขา?” “อยู่ ๆ ก็เงียบ ติดต่อไม่ได้ คนหาย ไลน์ก็ไม่ตอบ” กอหญ้าพูดติดตลก ทั้งที่ในใจแทบแตกสลายได้แล้ว“พี่เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…” นั่นสินะ… เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…รอจนถึงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าเขายังไม่ติดต่อมา เธอจะไปหาเขาที่บริษัท เพราะเธอเคยไปหาอัลฟ่าที่บริษัทครั้งหนึ่งแล้ว เอาของที่เขาลืมไปให้ จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลยเขาบอกถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหาเขาที่บริษัทอีก เธอจึงเลือกที่จะเชื่อฟังและไม่ไปตามที่เขาบอก…ส่วนบ้านพ่อแม่ หรือที่ประจำที่เขาชอบไป อย่าพูดถึงเลย เธอเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริง ๆ“ไว้พรุ่งนี้หญ้าจะลองโทรหาพี่ฟ่าอีกครั้งค่ะ” “อืม ใจเย็น ๆ ใช้เหตุผลนะลูก อย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ไม่งันความรักอาจจะจบลงง่าย ๆ โดยที่เราไม่สามารถยื้อมันไว้ได้” “ค่ะแม่” “ลูกอยากได้ผู้ชายเหมือนพ่อ ตอนนี้ลูกบอกแม่ว่าเขามีนิสัยเหมือนพ่อมาก ดังนั้นต้องรักษาเขาเอาไว้ให้ดีๆ นะ” “ค่ะแม่ …แต่ว่า” กอหญ้ารู้สึกดีว่าเขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว อาจจะไม่รักเธอแล้ว และสักวันจุดจบมันก็ต้องมาถึง
บทที่23ขอของเล่นคืนปัง ปัง ปัง!“ใคร!?” ลีโอตะโกนถาม หันไปมองประตูที่มีเงารองเท้าเยอะผิดปกติ คิ้วเรียวขมวดพลางหันกลับมาสบตากับกอหญ้าเงียบๆ"เปิดประตู!" เสียงของอัลฟ่าทุบประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานว่า กอหญ้ากำลังสนุกกับไอ้ลีโอ!ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรร่านฉิบหาย!แควก!ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนารีบปลดสายคล้องคอขอวกอหญ้าออก ตอนนี้เนินอกของเธอแทบเปลือยจมูกคมสัน ริมฝีปากหนา กดจูบขบเม้มลงบนผิวกายของเธอซ้ำ ๆ จนกอหญ้าทุบตีเขาอย่างตื่นตกใจปัง ปัง ปัง!“นี่! เดี๋ยว! ไหนบอกจะไม่ทำไง” กอหญ้าต่อว่าลีโอ ทั้งตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ต้องทำ ใครมาไม่รู้หรือไง?”“อัลฟ่า…” เธอจำเสียงเขาได้“ใช่! ดังนั้นก็เล่นละครกับฉัน” กอหญ้าหยุดนิ่งทันที บทบาทที่เธอเพิ่งได้รับ ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง กอหญ้าจ
บทที่22เปิดตัวประมูลกอหญ้ายืนน้ำตาคลอหลังจากที่ออกจากห้องทำงานของอัลฟ่า ตอนนี้เธอยืนนิ่ง ๆอยู่หน้ากรงขนาดใหญ่ ถูกวาลิถอดชุดคลุมออกให้เหลือเพียงชุดเมดผ้าลูกไม้ที่แสนเซ็กซี่วาลิยิ้มกริ่มพอใจกับพนักงานคนใหม่ของคลับ กอหญ้าสวยมากจริง ๆสวยขนาดที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 'สวยจนไร้ที่ติ…'สายตากลมโตของกอหญ้าน้ำตาเอ่อซึมเธอกำลังยืนมองกรงทองขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาหรูสีแดงสด …สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เธอคิดว่ามันคงเป็นที่ที่เธอต้องเข้าไปนั่งอวดโฉมประมูลในค่ำคืนนี้พอนึกคิดหัวใจบางก็พลันวูบไหว เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งประตูกรงทองนั้นถูกเคลื่อนออก หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น มือบางกุมมือกันแน่น เธอไม่สามารถรอดพ้นไปจากตรงนี้ได้เลยจะมีใครสักคนมั้ยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอได้…ช่วย… ถ้าจะมีคนมาช่วยที่นี่ก็คงมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้น ที่สามารถช่วยเธอได้!ซึ่งเขาประกาศก้องแล้วว่าเขาไม่มีทางช่วยเ
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป
บทที่15รับกรรมที่ไม่ได้ก่อตื้ด~เสียงข้อความเข้าจากสมาร์ทโฟนของกอหญ้า เป็นเบอร์ของอัลฟ่า เขาปลดบล็อกเบอร์ของเธอแล้ว[ไปรอที่เพนท์เฮ้าส์] อัลฟ่าบอกให้เธอไปรอเขาที่เพนท์เฮ้าส์ ความหวังสุดท้ายของเธอติดต่อกลับมาแล้ว กอหญ้าจึงรีบลงรถเมล์กลางคัน[เฟย์ต้าจะไปรับ] ข้อความถูกส่งมาอีกครั้ง ทำให้กอหญ้าชะงักนิ่งทันทีที่ก้าวขาลงเหยียบบนพื้นฟุตบาท เฟย์ต้าจะมารับ แล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่ไหน กอหญ้ากำลังจะส่งข้อความกลับปริ้น~เสียงแตรของรถหรูสีดำดังขึ้นข้างกายของเธอ กอหญ้าหันหน้าไปมอง ก็เจอเข้ากับดวงหน้าคมคายของเฟย์ต้าที่ลดกระจกมองเธอ“นายให้มารับครับ” เฟย์ต้าเอ่ยเพียงแค่นั้นก็ปิดกระจกขึ้นอีกครั้ง กอหญ้าขบเม้มริมฝีปาก แอบสงสัยที่เฟย์ต้ามารับเธอในทันทีที่อัลฟ่าส่งข้อความมา…กอหญ้าสลัดความคิดออกไป เธอทำตามเขาอย่างว่าง่ายด้วยการขึ้นไปนั่งบนรถหรูของเฟย์ต้า เมื่อกอหญ้าขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เฟย์ต้าจึงออกรถทันที