“พี่จะเลิกยุ่งกับเขา” น้ำอิงให้คำมั่น อย่างไรเสียตระกูลมาเวลลินก็ไม่ควรที่จะแตะต้องอยู่แล้ว เธอไม่ควรเสี่ยง...
“จริงๆ นะคะ” กอหญ้าบีบมือพี่สาว เงยมองพี่สาวด้วยแววตาจริงจัง เธอไม่อยากกลับไปเกี่ยวข้องกับอัลฟ่าอีกแล้ว และยิ่งไม่อยากพบเจอเขาอีก เธอเจ็บมามากพอแล้วจริง ๆ
“อืม…เดิมทีเราไม่ควรไปยุ่งกับเขาอยู่แล้ว คนตระกูลมาเวลลินอันตรายมาก พวกเขามีอิทธิพลเหลือล้น เป็นมาเฟียตระกูลใหญ่ด้วย ตอนนี้เขามาข่มขู่หญ้าแบบนี้ พี่ต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้หญ้าเจอคนอันตรายแบบนั้น” น้ำอิงขอโทษกอหญ้าอีกครั้ง
"ต่อไปหญ้าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอัลฟ่าอีกเข้าใจมั้ย?" น้ำอิงเอ่ยเตือน กอหญ้าสวยขนาดนี้ เธอกลัวว่าอัลฟ่าอาจจะสนใจกอหญ้าก็ได้ในอนาคต และหากรู้ความจริงขึ้นมา…
เธอกลัว...
"เราไม่ควรเกี่ยวพันกับตระกูลมาเวลลิน พวกเขาเป็นถึงมาฟียที่อันตราย สามารถฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาได้เลยนะ" น้ำอิงบอกเตือนน้องสาว กอหญ้าส่ายหน้า
เธอไม่มีวันเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกแน่นอน...
"เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกอยู่แล้วค่ะ" กอหญ้าบอกพี่สาว น้ำอิงจึงยิ้มหยักหน้า
"ดีแล้ว..."
“อีกอย่างถ้าพี่เลิกกับเขาจริง ๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก หญ้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร และหญ้าจะยอมถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยแทนพี่เอง โอเคมั้ยคะ?” กอหญ้าบอกกับพี่สาวของเธอ ยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้พี่สาวเลิกยุ่งกับกาศิต
ยังไงซะ ในเมื่ออัลฟ่าก็คิดว่าเธอเป็นเมียน้อยของกาศิตไปแล้ว ดังนั้นก็ปล่อยให้เขาเข้าใจไปแบบนั้นนั่นแหละ เขาจะไม่ได้มาหาเรื่องพี่สาวของเธอด้วยในอนาคต
“ขอบคุณ ขอบคุณหญ้ามาก ๆ” น้ำอิงขอบคุณน้องที่ช่วยปิดความลับนี้ให้กับเธอ
“พี่ต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านของเราด้วย เก็บกระเป๋าเดี๋ยวนี้เลย” เธอจะไม่ยอมให้น้ำอิงอยู่ที่นี่ต่อ น้ำอิงเองก็ยอมทำตามน้องสาว เรื่องที่เธอก่อเอาไว้ เธอพร้อมที่จะละทิ้งมันไว้ที่นี่…
“หญ้าไม่โกรธที่พี่ใช้ชื่อหญ้า?” อยู่ ๆ น้ำอิงก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง
“โกรธค่ะ หญ้าโกรธพี่มาก แต่หญ้ารักพี่สาวของหญ้ามากกว่า อะไรที่ให้อภัยกันได้ หญ้าก็ให้ได้ค่ะ” น้ำอิงได้ยินเช่นนี้ยิ่งรู้สึกผิด ยิ้มและดึงกอหญ้าเข้ามากอดเบา ๆ
"พี่ก็รักหญ้ามากๆ นะ" กอหญ้ายิ้ม ซบพี่สาวของเธอด้วยรักและเคารพ
กอหญ้าเดินเคียงข้างจูงมือพี่สาวของเธอออกจากคอนโดและพากันกลับบ้านทันที ต่อไปนี้เธอจะจับตาพี่สาวไว้ทุกฝีก้าว จะไม่ยอมให้พี่สาวของเธอไปมาหาสู่กับคนสารเลวคนนั้นอีก
และจะไม่มีวันให้อัลฟ่ามาดูถูกครอบครัวของเธออีกเด็ดขาด!
ต่อไปชีวิตของเธอกับเขาจะเป็นเพียงเส้นขนาน ไม่ยุ่งเกี่ยว ข้องแวะกันอีก…
ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว
ชีวิตอันสงบสุขของกอหญ้าก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หัวใจของเธอที่เคยปริแตก แตกสลายเพราะน้ำมือของอัลฟ่า ตอนนี้เธอกลับมามีเรี่ยวแรง ประกอบผสานกันแน่นหนาขึ้นเช่นเดิมแล้ว...
กอหญ้ายกยิ้มขึ้นเมื่อลูกค้าต่างทยอยกันเข้ามาในร้าน เธอตักกับข้าวตามคำสั่งของลูกค้า เดินเสิร์ฟช่วยพ่อแม่อย่างมีความสุข ทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้ม
ซึ่งส่วนพี่สาวของเธอยังคงทำงานเป็นนางแบบเช่นเดิม มีงานแทบทุกวัน หลังจากที่ตกลงกับพี่เรื่องของคุณกายแล้ว พี่สาวเธอก็ตัดขาดจากเขา ส่วนเธอกับอัลฟ่าก็เลิกกันถาวร ไม่ได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่จบความสัมพันธ์กันตอนนั้น
และความจริงอีกอย่างหนึ่งที่เธอได้รู้ อัลฟ่าไม่ได้เป็นพนักงานITเขาโกหกเธอมาโดยตลอดว่าเป็นเพียงแค่คนธรรมดา
จริงๆ แล้วเขาสูงส่งเกินเอื้อม เขาเป็นเจ้าของบริษัทมาเวลลิน นามสกุลของเขาคือ มาเวลลิน แต่เขากลับโกหกเธอ! โกหกทุกอย่าง ที่ผ่านมาที่คบกันเป็นแฟน ไม่มีเรื่องไหนที่เป็นจริงเลยสักเรื่อง
เหมือนเป็นแค่ความฝันหนึ่งของเธอ…
แต่มันก็ดีแล้วแหละ ที่สุดท้ายเรื่องของเราจบลงแบบนี้ และดีแล้วที่เขาสูงส่งเกินเอื้อมขนาดนั้น เพราะมันสามารถทำให้เธอตัดใจจากเขาได้ง่ายขึ้น! เธอย้ำเตือนตัวเองเสมอ ว่าเธอไม่เหมาะสมกับคนอย่างเขา เขาอันตรายเป็นถึงมาเฟีย หากไม่มีเรื่องเมียน้อย เธอคบเป็นแฟนกับเขาจริง ๆ ชีวิตที่เหลือคงเหมือนยืนอยู่บนเส้นด้าย จะตายตอนไหนก็ไม่รู้...
ถ้ารู้ว่าเขาเป็นถึงมาเฟีย เธอจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาแน่นอน จะเดินผ่านไปเลยแม้แต่หน้าก็ไม่มีวันมองหรอก!
พี่น้ำบอกกับเธออีกว่า เบื้องหน้าเขาน่ะเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องประดับอัญมณียักษ์ใหญ่ แต่เบื้องหลังกลับทำธุรกิจสีเทา เป็นมาเฟียที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของตระกูลใหญ่หลายตระกูล
พี่สาวของเธอเป็นบอกเรื่องทุกอย่างของเขาให้กับเธอรู้ เธอจึงบอกกับพี่สาวว่าดีแล้ว ที่พี่เลิกยุ่งกับคุณกายได้
ครอบครัวเราจะได้ไม่ยุ่งเกี่ยวพัวพันกับพวกเขาอีก
“แล้วจะเอายังไงดี ร้านนี้เราก็เปิดมานานแล้ว แม้ว่าช่วงนี้จะขายไม่ค่อยได้กำไรเท่าที่ควร น้องก็คิดว่าอาจจะพอถูไถไปได้บ้างนะคะ” ร่างบางระหงกำลังก้าวเข้าไปในบ้าน ที่อยู่หลังร้านค้าขายข้าวแกง เธอได้ยินพ่อแม่กำลังนั่งคุยกันถึงเรื่องร้าน เธอจึงยืนนิ่งแอบฟัง
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไร แค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละพี่ว่า” อดิศรพยายามปลอบใจเรือนรอง กอหญ้าพอรู้มาบ้างว่าตอนนี้ร้านขายข้าวแกงของพ่อแม่กำลังมีปัญหาในเรื่องขาดทุน ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอไม่อยากคิดอคติกล่าวหาว่าอัลฟ่าคิดจะแกล้งกันอีก แต่เธออาจจะคิดมากไป เพราะพี่สาวของเธอก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับกาศิตอีก เขาจะมาแกล้งพวกเราอีกทำไม...
กอหญ้าแค่ได้ยินมาว่ามีลูกค้าพูดปากต่อปากว่าอาหารของร้านไม่สะอาด ทั้งที่เธอก็ตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา และมันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาพูดเลย
เรื่องนี้มันทำให้เธอแอบคิดมาก เธอกลัวว่าอัลฟ่ากำลังเตือนอะไรเธอหรือเปล่า...
“พ่อกับแม่นิสัยไม่ดีเลยนะคะ…” กอหญ้าตัดสินใจเดินเข้าไปหาพ่อกับแม่ทันที พลางทำหน้าย่น คุกเข่านั่งพับเพียงเกาะขาออดอ้อนท่านทั้งสอง
มือบางของเรือนรองจึงลูบหัวทุยของลูกสาวอย่างอ่อนโยน
“มีอะไรหืม?” เรือนรองเป็นฝ่ายเอ่ยถาม
“ยังมาถามหนูอีกว่าหนูมีอะไร ร้านข้าวแกงมีปัญหา พ่อกับแม่ไม่คิดบอกหญ้าเลยเหรอคะ” เรือนรองและอดิศรต่างมองหน้ากันแล้วยิ้ม
หูตาไวจริงเชียวเจ้าลูกคนนี้
"มันก็แค่ช่วงนี้ ของราคาขึ้นก็ขาดทุนบ้างเป็นธรรมดา เงินเก็บของพวกเราก็พอมีอยู่นะ แม่เลยคิดว่ามันยังไม่ถึงทางตันขนาดนั้น จึงยังไม่ปรึกษาลูกให้เครียดไปด้วยกัน”
“แต่เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ” กอหญ้าทำปากยื่น งอนๆ พ่อกับแม่ อดิศรจึงส่ายหน้า
“ตอนนี้รู้แล้วไง จะทำอะไรได้หืม?”
“อืม หนูว่าจะหาทำงานพาร์ทไทน์ค่ะ” กอหญ้ายิ้ม อย่างน้อยทำงานช่วงตอนเย็นหลังจากปิดร้านมันก็ดีอยู่นะ หารายได้ได้หลายทางด้วย
“ลำบาก พ่อกับแม่อยากให้เราช่วยกันที่ร้านก็พอ” อดิศรว่า
“ไม่ลำบากเลย หนูทำได้ค่ะ เชื่อหนูนะคะ” กอหญ้าออดอ้อนอีกครั้งจนเรือนรองและอดิศรใจอ่อน
“ก็ได้ งันพ่อให้เราทำช่วงที่ร้านมีปัญหา พอร้านเริ่มดีขึ้นค่อยเลิกทำงานพาร์ทไทม์ก็แล้วกัน” ผู้เป็นพ่อเอ่ยยื่นข้อเสนอ กอหญ้ารีบพยักหน้าหงึกงักทันที
“เฮ้อเจ้าลูกจอมแสบ” กอหญ้ายิ้มแฉ่งจนตาหยี อดิศร เรือนรอง ลูบหัวทุยของกอหญ้าอย่างภูมิใจ พวกเธอดีใจที่เลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาอย่างดี มีจิตใจอ่อนโยน เป็นคนดี ย่อมต้องภูมิใจมาก ๆ อยู่แล้ว
ส่วนกอหญ้าซบลงที่ตักของแม่ แววตาสั่นระริกคิดหนัก เธอหวังเพียงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับร้าน มันจะไม่มีอะไรในกอไผ่อย่างที่คิด...
บทที่5ตอแยหลังจากที่ออดอ้อนพ่อแม่แล้ว กอหญ้าก็กลับเข้าห้องนอนของเธอ กอหญ้ากระโดดขึ้นเตียงนอน เปิดจอสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าค้นหางานพาร์ทไทม์ที่ทำได้ช่วงเวลาเย็น ซึ่งงานที่น่าสนใจมาก ทำเพียงไม่กี่ชั่วโมงเป็นงานแจกใบปลิว ได้ค่าตอบแทนที่โอเคสำหรับเธอมากอยู่กอหญ้าจึงลองลงทะเบียนสมัครงานไป และไม่นานสมาร์ทโฟนราคาถูกของเธอก็สั่นขึ้นด้วยเสียงเรียกเข้าครืดด~นิ้วเรียวรีบกดรับทันที ไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้…“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีค่ะ คุณ 'กอหญ้า บรรทัดศร' ใช่มั้ยคะ”“ค่ะ”“เราจากสำนักงานแจกใบปลิวนะคะ เล็งเห็นความสามารถของคุณ สามารถมาสัมภาษณ์งานและเริ่มงานได้เล
กอหญ้าเดินแจกใบปลิวอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เธอยื่นใบปลิวให้กับทุกคนที่เดินผ่านด้วยรอยยิ้มหวาน การแจกใบปลิวเริ่มทำให้กอหญ้ารู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อมีคนรับใบปลิวของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ“เสริมความงามให้กับตัวเรา ด้วยคลินิกนิวเจน บนชั้นสองได้เลยนะคะ” กอหญ้าก้มหน้ายิ้มให้กับผู้คนที่รับใบปลิวจากเธอตอนนี้เธอแจกใบปลิวได้เกือบครึ่งทางแล้ว กับเวลาที่เหลืออีกไม่มาก…“อีกนิดเดียว…” กอหญ้าเอ่ยให้กำลังใจตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเงยทอดมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดดำ“ฟ้ามืดอีกแล้ว… ต้องรีบแจกแล้วล่ะ!” กอหญ้ารีบสาวเท้าวนเวียนแจกใบปลิวอยู่หน้าห้าง ทว่าความเร่งรีบทำให้เธอไม่ทันระวัง ถูกชายชราคนหนึ่งเดินชนเข้ากับไหล่บางจนเธอล้มลงกับพื้น“อ่ะ!”ตุบ!“เกะกะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!” เป็นผู้ชายสูงวัย เขาเดินชนเธอจนล้
บทที่6การกระทำที่ตรงกันข้าม“กลัวตายก็อย่าปากเก่งอีก!” กอหญ้ากะพริบตาปริบ ๆ มองเขาด้วยหัวใจที่แตกสลาย เธอทำอะไรเขาไม่ได้และเขาก็ออกหน้า รังเกียจ เกลียดกันขนาดนั้น เธอเชื่อว่าเขากล้าที่จะกำจัดเธอให้พ้นทาง ให้พ้นสายตาของเขาแน่ หากเขาคิดจะทำ!“ค่ะ ฉันมันไม่เจียมตัวปากเก่งเอง ดังนั้นคุณปล่อยฉันได้หรือยัง” สายตากลมโตมองมือหนา ที่ยังคงจับแขนเรียวของเธอเอาไว้แน่น รอยยิ้มร้ายยกขึ้นมุมปาก มองคนที่ทำเป็นอวดเก่งด้วยแววตาแสนเย็นชาและนึกสนุก“ได้สิ ฉันปล่อยเธอแน่!” ตูมซ่า~เพียงพริบตาเดียว ร่างบางก็มือหนาเหวี่ยงลงไปในสระน้ำพุ กลางลานห้างสรรพสินค้า! กอหญ้าพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเหนือน้ำ ดีที่น้ำไม่ลึกเท่าไหร่ เธอจึงพยุงตัวยืนอยู่กลางสระได้“…แต่ปล่อยเธอลงไปในนั้นนะ! จะได้ล้างสิ่งสกปรกในตัวออกไปบ้าง จะได้ไม่น่ารังเกียจสกปรกแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้!” อัลฟ่าเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา เขาย่อตัวคุกเข่าข้างเดียว มองเธอที่ยืนมองเขาอยู่กลางสระน้ำด้วยแววตาที่แสนเจ็บปวดรู้สึกดีที่ได้เห็นมัน…“พอใจคุณแล้วใช่มั้ย พอใจแล้วก็เชิญค่ะ” กอหญ้าชี้นิ้วไล่เขาด้วยความรวดร้าวที่เกิดขึ้นภายในใจ อยากให้เขาไปไกลๆ จากตรงนี้ ก่อน
อัลฟ่าวก้าวขายาวตามติดกอหญ้า เขาวิ่งเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอแล้ว“อย่าคิดหนี ไม่อายคนหรือไง!” เขาขึ้นเสียงเตือนสติเธอ กอหญ้าจึงมองไปรอบกายจำต้องหยุดนิ่ง มีคนมองมากที่พวกเธอจริง ๆทุกอย่างเป็นเพราะเขา!ถ้าเขาไม่กลั้นแกล้งเธอ ไล่วิ่งจับกันแบบนี้ คนอื่นเขาก็คงไม่มองมาแบบนี้แน่อ่ะ!คนบ้า เขามันบ้าที่สุด!“แล้วจะพาหญ้าไปไหน!” ในที่สุดเธอก็หยุดนิ่ง ไม่หนีเขาไปไหนอีก มือหนาจึงดึงรั้งข้อมือกอหญ้า กระชากพาเธอเดินไปพร้อมกันกับเขาในทันที“นี่!! ถ้าไม่บอก หญ้าไม่ไปด้วยนะ!” เธอรั้งตัวเองไว้ แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอัลฟ่าได้! ร่างบางจึงเซถลาไปข้างหน้ากับเขา“ที่เธอทำกับฉัน คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ หรือไง!?” “…” แอบน่ากลัวนะ! เขาจะทำอะไรเธอหรือเปล่า…“คุณจะไม่ทำอะไรหญ้า?” เธอลองเชิงถามเขา กลัวว่าเขาจะพาเธอไปฆ่า ใบหน้า การกระทำที่อุกอาจแบบนี้ มันทำให้เธอนึกกลัวจริง ๆ“คิดว่าไงล่ะ?” กอหญ้าขบเม้มริมฝีปากคิดหนัก พยายามบิดข้อมือออกจากเขาอีกครั้ง “เข้าไป และอย่าดื้อ คนของฉันอยู่รอบกาย เธอหนีไปไหนไม่ได้หรอก!” ทว่าคำสั่งเสียงเข้มดังขึ้นเหนือหัว ทำให้เธอหยุดการกระทำทุกอย่างลง กอหญ้ามองรอบกาย ไม่เห็นมีใครส
บทที่7ยิ่งอ่อนแอยิ่งน่ารังแก“คุณ!” เธอไม่มีทางเข้าบ้านไปกับเขาแน่!“จะเล่นตัวเพื่อ เธอก็ผ่านมาเป็นร้อยสังเวียนแล้วมั้ง! เอาฉันเพิ่มเข้าไปอีกคน มันคงไม่ได้ทำให้เธอดูไม่ดีขึ้นหรอกนะ! หรือกลัวว่าไอ้กายมันจะจับได้ว่ากินกับพี่เขยของมัน หืม!?""…หรือว่าเล่นตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉัน เห็นฉันรวยมหาศาลขนาดนี้ คิดเปลี่ยนใจใช้วิธีเล่นตัวเพื่อจับฉันหรือไง? บอกเลยนะว่าไม่ได้ผล!” กอหญ้ากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ กับความคิดสกปรกของผู้ชายคนนี้ รู้ว่าเขารวย แล้วไง? ยิ่งรู้ว่าเขารวยน่ะสิ! เธอถึงอยากตีตัวออกห่าง ใครเขาอยากเล่นตัวเพื่อเรียกความสนใจจากมาเฟียอย่างเขากัน!!“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น!” เขาอันตรายยิ่งกว่าอะไร อำนาจ บารมี ความสูงส่งของเขาทำให้เธอไม่กล้าอาจเอื้อมหรอก!ชีวิตที่แตกต่างของเธอและเขา ไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้หรอก เธอต้องการความรักที่แสนธรรมดา ไม่ใช่ไล่จับคนรวยอย่างที่เขาว่า!และเธอจะไม่มีทางเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวหรือรักเขาอีกแน่นอน!“คุณน่ะ! เลิกคิดไปได้เลย ว่าฉันจะจับคุณ!” กอหญ้าพูดจบก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง เธอจะไม่ยอมลงจากรถด้วย!อัลฟ่าแสยะยิ้ม เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพอได้ขึ้นเตียงกับเขาแล
กอหญ้าสะบัดหน้าใส่ประตู "นิสัยเสียทั้งเจ้านาย ทั้งลูกน้อง!" กอหญ้าบ่นพึมพำ เตะทิพย์ที่พื้น ใส่อารมณ์ก่อนจะกระแทกเท้าเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อัลฟ่ามอบให้เธอ ไม่คิดว่าเขาจะซื้อมาพอดีกับไซส์ของเธอเป๊ะ ๆ!เหอะ! ให้ตายสิ!กอหญ้าสำรวจตรวจความเรียบร้อยของตัวเองแล้ว จึงก้าวออกจากห้องน้ำ ข้างนอกยังไร้เงาร่างแกร่งของอัลฟ่า เท้าบางจึงเดินไปที่ตู้เย็นแทนไม่รู้ว่าจะมีของสดอะไรที่พอจะทำอาหารให้เขาทานได้บ้าง…รีบทำจะได้รีบกลับ!กอหญ้าพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็น ๆ ลดอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหมดที่มี และลงมือทำอาหาร เธอเลือกทำพะโล้ให้อัลฟ่าทาน เพราะในตู้เย็นของเขามีไข่อยู่ ส่วนเรื่องปรุงแม้จะไม่ครบก็ใช้อย่างอื่นทดแทน ช่วยไม่ได้ให้เธอทำตามสิ่งที่มีก็ได้อาหารประมาณนี้แหละ!กอหญ้าตั้งใจทำ ใช้เวลาไม่นานเธอก็ทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจัดโต๊ะกับข้าวให้อัลฟ่า ก่อนจะนั่งรอเขาออกจากห้อง ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรในห้องตั้งนานสองนาน!แอด~และแล้วเสียงประตูก็ถูกเปิดออก ร่างสูงก้าวออกมาในสภาพที่…เอาจริงดิ? นี่มันอ่อยกันชัดๆ เขาสวมเพียงเสื้อคุมอาบน้ำสีดำ และกำลังเดินตรงมาหาเธอ“ในบ้านหลังนี้ไม่มีเสื้อผ้าให้
บทที่8ความรู้สึกที่น่าสมเพช“อ่า… รักผมอยู่นี่เอง” “คุณ!” นี่เขากวนประสาทเธอ! กอหญ้าชี้หน้าเขา ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น พลางบอกตัวเองให้ใจเย็น บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าไม่ควรทะเลาะ ห้ามทะเลาะกับเขา!ฮึบ ๆ ยัยหญ้า!“จะให้หญ้าทำอะไรอีก” สุดท้าย กอหญ้าก็ผ่อนอารมณ์ลง เธอเชิดหน้ากัดฟันถามเขาเสียงเรียบนิ่ง“ทายา” อัลฟ่าพูดเพียงแค่นั้น ก็พาร่างสูงโปร่งของตัวเองเดินไปนั่งที่โซฟากลางโถงใหญ่ กอหญ้าเดินตามเขา มองอัลฟ่าที่นั่งไขว่ห้างหันมองมาที่เธอทั้งที่เธอไม่จำเป็นต้องทำตามเขาทุกอย่างแบบนี้ก็ได้! แต่เพราะอำนาจ อิทธิพลของเขา ที่ทำให้เธอกลัว เธอไม่อยากมีความรู้สึกกดดันอะไรแบบนี้เลย… ถ้ารู้ว่าเขาเป็นมาเฟีย มีอิทธิพลแบบนี้เธอคงไม่เข้าไปยุ่งกับเขาให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่า ต่อกรอะไรเขาไม่ได้แบบนี้แน่!เกลียดตัวเองชะมัด!! ที่ครั้งหนึ่งเคยมองว่าเขาเป็นคนใจดี อบอุ่น เหมือนพ่อ!“กล่องยาอยู่บนหลังตู้โชว์ที่เธอกำลังเดินผ่าน” กึก…เท้าบางชะงัก เหลือบมองกล่องปฐมพยาบาลที่วางไว้หลังตู้โชว์โมเดลหุ่นยนต์ขนาดเล็ก เธอเพิ่งสังเกต อัลฟ่าสะสมโมเดลหุ่นยนต์ด้วย เขาก็คงเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการสะสมโมเดลพวกนี้เหมือนเด็กผู้ชายคน
บทที่9หมากในมือกอหญ้าถอนหายใจโล่ง เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว และสิ่งที่ทำให้เธอหงุดหงิดใจตัวเองก็คือ ความขี้หลงขี้ลืม!เธอลืมเอาเสื้อผ้า มือถือกลับมาด้วย!ช่างเถอะ! ถือว่าทิ้งมันไปซะ! ทิ้งไปพร้อม ๆ กับความรู้สึกบ้าๆ ที่อัดแน่นอยู่ในอกของเธอในตอนนี้สภาพที่ดูไม่ดีเท่าไรทำให้คนเป็นพ่อแม่ที่นั่งรอเธอกลับบ้านมา มองด้วยความเป็นห่วง“ไปไหนมายัยหญ้า แม่เป็นห่วงแทบแย่ แล้วนี่ไปฟัดกับใครมาผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด!"“ตกน้ำค่ะ”“พ่อโทรไปก็ไม่รับ!” อดิศรเอ่ยถามต่อจากภรรยา“มือถือตกหล่นหายไปแล้วค่ะ หนูเดินไม่ระวังก็เลยลื่นตกน้ำพุหน้าห้าง ตอนนี้น่าจะจมอยู่ใต้น้ำไปแล้ว” กอหญ้าเบะปากทำหน้าเศร้าจะร้องไห้ พ่อแม่ของเธอจึงรีบเข้าไปกกกอดปลอบประโลมทันที“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพ่อซื้อให้ใหม่นะ มากอดๆ อย่าร้องไห้” กอหญ้ายิ่งปล่อยโฮ โอบกอดพ่อกับแม่แน่น กอหญ้าซุกซบ
บทที่23ขอของเล่นคืนปัง ปัง ปัง!“ใคร!?” ลีโอตะโกนถาม หันไปมองประตูที่มีเงารองเท้าเยอะผิดปกติ คิ้วเรียวขมวดพลางหันกลับมาสบตากับกอหญ้าเงียบๆ"เปิดประตู!" เสียงของอัลฟ่าทุบประตูด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานว่า กอหญ้ากำลังสนุกกับไอ้ลีโอ!ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรร่านฉิบหาย!แควก!ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนารีบปลดสายคล้องคอขอวกอหญ้าออก ตอนนี้เนินอกของเธอแทบเปลือยจมูกคมสัน ริมฝีปากหนา กดจูบขบเม้มลงบนผิวกายของเธอซ้ำ ๆ จนกอหญ้าทุบตีเขาอย่างตื่นตกใจปัง ปัง ปัง!“นี่! เดี๋ยว! ไหนบอกจะไม่ทำไง” กอหญ้าต่อว่าลีโอ ทั้งตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ต้องทำ ใครมาไม่รู้หรือไง?”“อัลฟ่า…” เธอจำเสียงเขาได้“ใช่! ดังนั้นก็เล่นละครกับฉัน” กอหญ้าหยุดนิ่งทันที บทบาทที่เธอเพิ่งได้รับ ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง กอหญ้าจ
บทที่22เปิดตัวประมูลกอหญ้ายืนน้ำตาคลอหลังจากที่ออกจากห้องทำงานของอัลฟ่า ตอนนี้เธอยืนนิ่ง ๆอยู่หน้ากรงขนาดใหญ่ ถูกวาลิถอดชุดคลุมออกให้เหลือเพียงชุดเมดผ้าลูกไม้ที่แสนเซ็กซี่วาลิยิ้มกริ่มพอใจกับพนักงานคนใหม่ของคลับ กอหญ้าสวยมากจริง ๆสวยขนาดที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า 'สวยจนไร้ที่ติ…'สายตากลมโตของกอหญ้าน้ำตาเอ่อซึมเธอกำลังยืนมองกรงทองขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาหรูสีแดงสด …สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เธอคิดว่ามันคงเป็นที่ที่เธอต้องเข้าไปนั่งอวดโฉมประมูลในค่ำคืนนี้พอนึกคิดหัวใจบางก็พลันวูบไหว เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งประตูกรงทองนั้นถูกเคลื่อนออก หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น มือบางกุมมือกันแน่น เธอไม่สามารถรอดพ้นไปจากตรงนี้ได้เลยจะมีใครสักคนมั้ยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอได้…ช่วย… ถ้าจะมีคนมาช่วยที่นี่ก็คงมีเพียงอัลฟ่าเท่านั้น ที่สามารถช่วยเธอได้!ซึ่งเขาประกาศก้องแล้วว่าเขาไม่มีทางช่วยเ
บทที่21เกาะลับมาเวลลินใช้เวลาไม่นาน… กอหญ้าก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนอนกระโปรงยาวแขนสั้นสีชมพูน่ารัก เธอพยายามตั้งสติ และไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง การห่างไกลจากบ้านครั้งนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกหวิว ไม่อยากไป ไม่อยากต้องห่างพ่อกับแม่แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะอยากไป หรือไม่อยากไป เธอก็ต้องไปอยู่ดี…“มาแล้วเหรอ ทานข้าวทานปลามาหรือยัง?” เรือนรองเอ่ยถามบุตรสาวที่กำลังย่ำก้าวมาหาพวกเธอ“ทานแล้วจ้ะ”“งันมีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่?” อดิศรถามต่อ กอหญ้าจึงคลานไปนั่งตรงหน้าพ่อกับแม่“วันนี้หนูไปทำงานมาค่ะแล้วหัวหน้าหญ้าเขาแนะนำงานให้ รายได้ดีมาก หนูสนใจเลยอยากไปทำ”"พ่อไม่อยากให้เราไป…" พอได้ยินว่าลูกสาวขอไปทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่ร้านของตัวเอง อดิศรก็ไม่เห็นด้วย…"…" กอหญ้าเริ่มคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรให้พ่อยอม"ไหนบอกว่าร้าน
บทที่20ชดใช้ทั้งชีวิต“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเวลานี้แน่นอน ผลจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ทำให้คนไข้เสี่ยงที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา…”“อะไรนะครับ!? แล้วน้องผมจะมีสิทธิ์ฟื้นมั้ย?” หัวใจแกร่งวูบโหวง ราวกับถูกบดขยี้เมื่อได้ยินว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา“มีสิทธิ์ครับ แต่นานแค่ไหนหมอเองก็ยังบอกไม่ได้…” อัลฟ่าส่ายหน้า ไม่อยากจะเชื่อเลย“แล้วสามีของคนไข้มามั้ยครับ?”“มันตายไปแล้ว!” พอได้ยินคำว่าสามีของอันนา เขาก็เผลอขึ้นเสียงใส่คุณหมอทันที น้ำเสียงเหี้ยมที่เอ่ยขึ้น ทำให้คุณหมอรู้สึกถึงไอรังสีอำมหิตในตัวของชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี“ญาติคนไข้ควรใจเย็นๆ นะครับ สิ่งที่ต้องฟังต่อจากนี้ ต้องทำใจนิดหน่อยนะครับ” เมื่อพี่ชายของคนไข้หัวร้อนขนาดนี้ คุณหมอจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง“บอกมาเถอะครับ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว!”“คนไข้เสียเลือดมาก หมอจึงช่วยเด็กไว้ไม่ได้”“เด็ก? หมายความว่ายังไง?” เหมือนสมองของเขาเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำว่าเด็ก“คนไข้ตั้งครรภ์อ่อนๆ ครับ ถูกแรงกระแทกพอควร จึงตกเลือดเยอะหมอไม่สามารถช่วยได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” อึ้งไป
บทที่19เหตุที่เกิดกะทันหันรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าปากซอยเช่นเดิมเหมือนทุกวัน กอหญ้าจ่ายเงินพร้อมกับก้าวลงมาจากรถ เธอเดินเข้าไปในซอยเส้นประจำที่เธอเคยเดินมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตกอหญ้าเดินทอดน่องด้วยจังหวะที่มั่นคงแต่เชื่องช้า เธอคิดถึงใบหน้าของอัลฟ่าที่อยู่ ๆก็บึ้งตึง ปั้นปึ่งใส่เธอ"อยู่ๆก็โกรธกัน เป็นโรคใบโพล่าหรือไง!? หรือกำลังเข้าสู่อารมณ์พวกวัยทอง" กอหญ้าบ่นพึมพำ ยิ่งเห็นอาการที่เขาปฏิบัติกับเธอแล้ว หัวใจยิ่งรู้สึกอยากเตะเขาสักพันครั้ง!แต่ก็นั่นแหละ! อย่างเธอจะทำอะไรเขาได้!"เอ๊ะ! พี่น้ำหนิ! มาทำอะไรตรงนี้ดึก ๆดื่น ๆ" กอหญ้าพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่สาวที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆรถหรูของใครสักคนพึ่บ!จู่ๆพี่ของเธอก็ล้มลง กอหญ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างนึกเป็นห่วง"พี่…"“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสียงทะเลาะแทรกขึ้นมากะทันหัน กอหญ้าชะงักและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านความมืดมิดที่มีเพียงแสงจาก
บทที่18ไม่ควรรู้สึกช่วงบ่ายสองเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มทยอยลดน้อยลง อาหารข้าวแกงถูกขายจนเกลี้ยง กอหญ้าจึงเตรียมตัวไปหาอัลฟ่า“หนูไปทำงานก่อนนะคะ” กอหญ้าบอกพ่อกับแม่ พลางสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่แม่ซื้อให้“เดินทางดีๆ นะ” เรือนรองอวยพร ส่วนอดิศรยกยิ้มรับรู้ กอหญ้าจึงโบกมือลาพวกท่าน และรีบย่ำก้าวออกไปหน้าปากซอย มองหารถแท็กซี่เพื่อไปหาอัลฟ่าที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาเฮ้อ! ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!ตอนนี้บ่ายสามโมงพอดีเป๊ะ เธอมาถึงหน้าเพนท์เฮ้าส์แล้ว เท้าบางจึงรีบย่ำเท้าเข้าไปหาอัลฟ่าทันที เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธเธอ และอยากคุยเรื่องพี่สาวอีกครั้งดี ๆระหว่างทางเดินเธอเห็นเฟย์ต้ากำลังพูดคุยกับผู้ชายชุดดำ หากให้เดาคงเป็นบอดี้การ์ด แต่สำหรับเฟย์ต้าแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขานับว่าเป็นอะไรของอัลฟ่า กอหญ้ามองเขาเพียงแค่แวบเดียว ก็เปิดประตูและปิดมันลงเท้าบางเหยียบย่ำเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ของอัลฟ่าเงียบ ๆ คิดว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในห้อง เธอจึงผ่อนลมหายใจลงเบา ๆ เท้าบางทอดน่องเดินไปที่โซฟา พลางชะงักเมื่อเธอเห็นอัลฟ่ากำลังพิงพนักเอนหลัง หลับตาอยู่ที่เบาะโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่างกระจก ในมือถือไอแพด เอกสา
บทที่17เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งมือหนาล็อกท้ายทอยกอหญ้าให้เงยรับจูบจากเขา อัลฟ่าจูบเธออย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามทั้งเขายังบดจูบจนเธอรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก มือบางพยายามผลักดันไปที่อกแกร่ง เพื่อประท้วงเขาให้รับรู้ว่า เธอเจ็บ…หากทว่าในเวลาต่อมา ความเจ็บที่ริมฝีปากไม่อาจเท่าความเจ็บกลางกาย บัดนี้ถูกดันด้นสดเข้ามาจนสุดปลายด้าม อัลฟ่าที่ใช้แขนแกร่งประคองเรียวขาบาง เขาพาดมันไว้ที่แขนแกร่งข้างหนึ่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวเธอได้ลึกที่สุด เท่าที่จะทำได้…ปึก ปึก ปึก!แรงกระแทกกระทั้นเริ่มขึ้นซ้ำ ๆเน้นและถี่เขาใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแสดงความไม่อ่อนโยน และไร้ปรานีต่อเธอ เพียงแค่เขากำลังเตือนเธอหากเธอถือท่า ปากดี คิดต่อต้านเขาอีก จุดจบของเธอจะเป็นเช่นไร…"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำรุนแรงก็อย่าคิดขัดใจฉัน" สิ้นเสียงคำสั่ง ที่ออกคำสั่งลงมาเหนือหัว กอหญ้าแอบถอดถอนหายใจสุดท้ายแม้อยากจะทำตามใจตัวเองสักแค่ไหน เธอก็ต
บทที่16อยากให้ค้างคืนเช้ามืด…กอหญ้ากลับมาถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอนเลย พอนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาช่วยพ่อแม่ทำข้าวแกงขายต่อถึงแม้จะขายได้ไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่พ่อกับแม่ก็ยังคงเปิดร้านทุกวัน เพียงแค่ลดรายการอาหารลงเท่านั้น“เมื่อคืนกลับดึกอีกแล้วนะ” อดิศรเอ่ยกับลูกคนเล็ก ในขณะที่ปรุงอาหารไปด้วย“หนูได้งานอีกที่หนึ่งจ้ะ เป็นร้านอาหาร” กอหญ้าว่า พลางหั่นผักชีให้พ่อด้วย“ทำไมถึงทำงานหนัก จะทำทั้งวันไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้พักเอา” แม้ว่าตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม เขาเข้าใจลูกว่าทำไมถึงเลือกทำงานเพิ่มขึ้น“เพราะข่าวทำให้เจ้านายไล่ออก หญ้าเลยไปสมัครร้านอาหาร แค่เสิร์ฟเองพ่อ ทำงานแค่สี่ชั่วโมง”“ที่บ้านก็ต้องทำ…”“ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะไงคะ อย่าคิดมากนะ ถ้าร้านเรากลับมาขายดีปกติ หนูจะเลิกทำเลย” กอหญ้ารู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ มันไม่สามารถโพนทนาบอกใครได้เช่นกันความอับอายนี้ มันควรเป็นความลับระหว่างเธอกับอัลฟ่าไปตลอดชีวิต…“อืม…” กอหญ้ายิ้มให้พ่อ ส่วนเรือนรองออกไปเอาเนื้อ เดินกลับมาเห็นสองพ่อลูกก็ยิ้ม"แล้วสรุปเป
บทที่15รับกรรมที่ไม่ได้ก่อตื้ด~เสียงข้อความเข้าจากสมาร์ทโฟนของกอหญ้า เป็นเบอร์ของอัลฟ่า เขาปลดบล็อกเบอร์ของเธอแล้ว[ไปรอที่เพนท์เฮ้าส์] อัลฟ่าบอกให้เธอไปรอเขาที่เพนท์เฮ้าส์ ความหวังสุดท้ายของเธอติดต่อกลับมาแล้ว กอหญ้าจึงรีบลงรถเมล์กลางคัน[เฟย์ต้าจะไปรับ] ข้อความถูกส่งมาอีกครั้ง ทำให้กอหญ้าชะงักนิ่งทันทีที่ก้าวขาลงเหยียบบนพื้นฟุตบาท เฟย์ต้าจะมารับ แล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่ไหน กอหญ้ากำลังจะส่งข้อความกลับปริ้น~เสียงแตรของรถหรูสีดำดังขึ้นข้างกายของเธอ กอหญ้าหันหน้าไปมอง ก็เจอเข้ากับดวงหน้าคมคายของเฟย์ต้าที่ลดกระจกมองเธอ“นายให้มารับครับ” เฟย์ต้าเอ่ยเพียงแค่นั้นก็ปิดกระจกขึ้นอีกครั้ง กอหญ้าขบเม้มริมฝีปาก แอบสงสัยที่เฟย์ต้ามารับเธอในทันทีที่อัลฟ่าส่งข้อความมา…กอหญ้าสลัดความคิดออกไป เธอทำตามเขาอย่างว่าง่ายด้วยการขึ้นไปนั่งบนรถหรูของเฟย์ต้า เมื่อกอหญ้าขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เฟย์ต้าจึงออกรถทันที