“อาจจะหมดโปรล่ะมั้งคะ” กอหญ้าไม่อยากให้แม่เครียดไปกับเธอ จึงเอ่ยออกมาแล้วยิ้มขำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้
“เขา?”
“อยู่ ๆ ก็เงียบ ติดต่อไม่ได้ คนหาย ไลน์ก็ไม่ตอบ” กอหญ้าพูดติดตลก ทั้งที่ในใจแทบแตกสลายได้แล้ว
“พี่เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…” นั่นสินะ… เขาเป็นอะไรหรือเปล่า…
รอจนถึงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าเขายังไม่ติดต่อมา เธอจะไปหาเขาที่บริษัท เพราะเธอเคยไปหาอัลฟ่าที่บริษัทครั้งหนึ่งแล้ว เอาของที่เขาลืมไปให้ จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย
เขาบอกถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหาเขาที่บริษัทอีก เธอจึงเลือกที่จะเชื่อฟังและไม่ไปตามที่เขาบอก…
ส่วนบ้านพ่อแม่ หรือที่ประจำที่เขาชอบไป อย่าพูดถึงเลย เธอเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริง ๆ
“ไว้พรุ่งนี้หญ้าจะลองโทรหาพี่ฟ่าอีกครั้งค่ะ”
“อืม ใจเย็น ๆ ใช้เหตุผลนะลูก อย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ไม่งันความรักอาจจะจบลงง่าย ๆ โดยที่เราไม่สามารถยื้อมันไว้ได้”
“ค่ะแม่”
“ลูกอยากได้ผู้ชายเหมือนพ่อ ตอนนี้ลูกบอกแม่ว่าเขามีนิสัยเหมือนพ่อมาก ดังนั้นต้องรักษาเขาเอาไว้ให้ดีๆ นะ”
“ค่ะแม่ …แต่ว่า” กอหญ้ารู้สึกดีว่าเขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว อาจจะไม่รักเธอแล้ว และสักวันจุดจบมันก็ต้องมาถึง
“ว่า…?”
“ถ้าวันหนึ่งพี่เขาไม่ใช่ และหนูไม่ใช่สำหรับพี่เขา แม่จะไม่ว่าอะไรใช่มั้ยถ้าเราเลิกกัน”
“ไม่นะ ถ้าความรักถึงจุดที่อิ่มตัว เจอทางตัน ไปต่อไม่ได้ ก็แค่ปล่อย แล้วเราก็แค่ทำใจแล้วเดินหน้าต่อ ตามหาคนที่เข้ากับเรา รักเราดูแลเราได้เหมือนพ่อไง” เรือนรองปลอบใจลูกสาว กอหญ้าคล้ายจะรู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง…
ซึ่งเธอพร้อมปลอบลูกเสมอเมื่อความรักของลูกสาวจบลง…
“หนูรักแม่ที่สุด” กอหญ้ากอดแม่ มือบางจึงลูบหลังลูกสาวอย่างปลอบโยน กอหญ้าตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เธอจะลองไปหาอัลฟ่าที่บริษัทที่เขาทำงานอยู่ อยากคุยกับเขา และอยากเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ดีกว่านิ่งเงียบกันไปแบบนี้…
“มา กินยาก่อน ตามด้วยน้ำอุ่นจะได้ช่วยอุ่นร่างกาย” เรือนรองหยิบยาให้ลูกพร้อมน้ำอุ่น กอหญ้ารับยาจากแม่ก็เริ่มทานยาตามด้วยดื่มน้ำอุ่นจนร่างกายรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง อบอุ่นที่มีแม่อยู่ข้าง ๆ แบบนี้ด้วย
เขาไม่รักใช่ว่าเธอจะไม่มีใครรักเธอสักหน่อย
กอหญ้ายู่ปากพยายามไม่น้อยใจหรือเสียใจหากอัลฟ่าจะหมดรักเธอ…
“ป่ะ นอนได้ พักผ่อนพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาทำกับข้าวกับแม่นะ”
“ค่ะ” กอหญ้าล้มตัวนอนนิ่ง ๆ โดยมีแม่กอดปลอบบางเบา จัดผ้าห่มให้ จนเธอรู้สึกเหนื่อยล้าและผล็อยหลับไปในที่สุด
เรือนรองมองดวงหน้าหวานของกอหญ้าก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย ลูกสาวของเธอโตขึ้นแล้ว เรื่องความรักเธอเพิ่งเห็นลูกของเธอมีความรักครั้งแรก และคิดว่าถ้าอกหักจะต้องร้องไห้ฟูมฟายมากแน่ ๆ แต่ไม่คิดว่าลูกของเธอจะเข้มแข็งขนาดนี้
แม้จะเริ่มมีปัญหาแต่ก็ยังคงกักเก็บความเสียใจไว้อย่างมิดชิด มิดจนเธอยังมองไม่ออก ลูกสาวของเธอโตและเก่งขึ้นมากจริง ๆ
กอหญ้าไม่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกแล้ว…
เรือนรองยิ้มทั้งน้ำตา ภูมิใจในตัวลูกมากจริง ๆ
เรือนรองนั่งลูบผมลื่นนุ่มของลูกสาวสักพัก จึงตัดสินใจหยัดกายลุกขึ้น ปิดไฟในห้องจนมืดมิด และปิดประตูห้องของลูกสาวเงียบๆ
และชวนสามีขึ้นนอนเมื่อลูกสาวคนโตโทรมาบอกว่าวันนี้ไม่กลับบ้าน…
ตีสามได้ที่อัลฟ่าเลิกดื่มกับรามิล เขากำลังจะกลับเพนท์เฮ้าส์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะที่กำลังจะออกรถ ร่างสูงกดเปิดสมาร์ทโฟน ข้อความโทรเข้าเด้งขึ้นรัว ๆ มาพร้อมกับข้อความไลน์ของกอหญ้าที่ส่งมาสุขสันต์วันเกิดเขา
วันนี้วันเกิดเขาเหรอว่ะ?
อัลฟ่านิ่งคิด เขาจำไม่ได้ คิ้วเรียวหนาขมวด พลันนึกขึ้นได้ว่าเขาโกหกเธอ แท้ที่จริงแล้ว วันนี้ไม่ใช้วันเกิดเขา ไม่คิดว่ากอหญ้าจะจำมันได้
จริงสิ! อีกอย่างที่เขาลืมไป วันนี้คือวันที่เขาขอเธอคบเป็นแฟน…
ริมฝีหนาขบเม้ม รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาในใจ เขาวางสมาร์ทโฟนลงที่ข้างๆ ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปจากผับเพื่อกลับไปที่อพาร์ทเมนส์ที่เขาเช่าไว้หลอกกอหญ้าว่าเป็นที่พักของเขา
ใช้เวลาไม่นาน… รถสปอร์ตหรูก็แล่นเข้ามาจอดใต้อพาร์ทเมน ร่างสูงโปร่งกำยำในส่วนสูงร้อยเก้าสิบสี่ก้าวขายาวๆ ขึ้นไปบนห้องพักชั้นห้าอย่างเร่งรีบ
เขาเองก็ไม่รู้ตัว ว่าเหตุใดตัวเขาถึงได้เร่งรีบขนาดนี้ มือหนาถึงห้องได้ก็รีบไขกุญแจเข้าห้องไปทันที พอเปิดประตูได้เท่านั้นแหละ
ในห้องมืดมิด ไม่มีแต่แสงสว่าง กอหญ้าคงกลับไปแล้ว ร่างสูงโปร่งก้าวขายาวสมส่วนเข้าไปในห้อง เขาเปิดไฟก็เจอกับโน๊ตบนโต๊ะกับข้าว พลันหันไปมองตู้เย็นนิ่งๆ
เค้กที่กอหญ้าบอกจะไปเรียนอยู่ในนั้นสินะ…
ร่างถอดถอนลมหายใจหนักๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดตู้เย็นก็ปรากฏเค้กก้อนหนึ่งและอาหารจานโปรดของเขา
วันนี้ที่เธอโทรมาหาเขาหลายต่อหลายครั้งเพราะแบบนี้สินะ…
มือหนารีบล้วงสมาร์ทโฟนออกมาหวังจะโทรหากอหญ้า แต่ส่วนลึกในใจกลับตะโกนก้องบอกตัวเองให้หยุดความคิดนี้
เขากำลังจะเขี่ยเธอทิ้ง จะโทรไปให้ความสัมพันธ์มันลุกฮือขึ้นมาอีกทำไม?
สิ่งที่เขาทำ แน่นอนว่ามันต้องทำให้เธอนึกคิดบ้างว่าเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว และเขาเชื่อว่ากอหญ้าคงรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาควรรอเธอที่เป็นฝ่ายมาบอกเลิกเขาเอง!
และอย่าได้ลืมว่ากอหญ้าเป็นเมียน้อยของน้องเขย อย่าคิดสนใจในตัวเธอเด็ดขาด!
มือหนาดึงเค้กดึงอาหารจานโปรดที่กอหญ้าทำให้ออกจากตู้เย็น เขาเทอาหารทิ้งใส่ถุงขยะ พร้อมล้างจานเก็บให้เข้าที่ จากนั้นจึงถือถุงขยะที่เขาทิ้งเศษอาหารและเค้กลงไป เดินหน้าตั้งออกจากอพาร์ทเมนทันที
อัลฟ่าเคลื่อนรถสปอร์ตหรูออกมาตามท้องถนน จนเจอถังขยะที่มีสุนัขจรแมวจรหาของกินอยู่ เขาจึงโยนเค้กและเศษอาหารให้พวกมันกิน
เค้ก อาหารที่กอหญ้าตั้งใจทำตอนนี้ถูกอัลฟ่าทิ้งโดยไม่เห็นคุณค่า
สายตาคมเหลือบมองเหล่าสุนัข แมวจรแย่งกันกิน ก็เหยียบรถหรูออกจากตรงนั้นโดยไม่สนใจอะไรอีก…
บทที่2ความจริงปรากฏ เช้าวันต่อมา…กอหญ้าตื่นแต่เช้ามืดเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของเธอ ในเวลาเช้ามืดที่ยังคงมีเสียงน้ำค้างจากสายฝนหยดลงกระทบบนหลังคา ร่างเล็กยังคงนั่งนิ่ง ๆ มือบางถือสมาร์ทโฟนเก่า ๆ ไว้ในมือด้วยอาการสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้นทุกอย่างเงียบ เงียบจนใจของเธอรู้สึกปวดร้าว เบอร์โทรหรือแม้แต่ข้อความ ไร้วี่แววที่อัลฟ่าจะติดต่อกลับมา ทั้งที่เขาอ่านข้อความของเธอแล้วแท้ ๆ แต่เขาไม่คิดตอบกลับเธอสักข้อความเดียว…กอหญ้านั่งจ้องสมาร์ทโฟนของตัวเองนิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจ พลันน้ำตาก็ไหลหยดลงมาที่หน้าจอมือถืออย่างไม่รู้ตัวตอนที่เห็นหยดน้ำตาที่หยาดริน เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองร้องไห้แล้ว…กอหญ้ารีบสูดน้ำมูกขึ้นฟุดฟิด ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาออกไปอย่างลวก ๆ เธอไม่ควรร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นค่าในความรักของเธอ…กอหญ้าคิดว่านี่คงเป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบหนึ่งปี ความรักของเธอกับอัลฟ่าคงใกล้จบลงแล้วจริง ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอเพียงแค่อยากรู้ว่า เพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้…หรือเขาเบื่อเธอที่มันเฉิ่มเฉย หรือว่าเขาเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่า… หรือเขาไม่สบายใจอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ วันนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจ
กอหญ้าเลือกที่จะนั่งอยู่ด้านนอกร้าน เธอสั่งเพียงน้ำและเค้กมาทานเพื่อเฝ้าดูอัลฟ่าที่กำลังนั่งไขว่ห้างคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ หากให้เดาคงเป็นเพื่อนของเขา…ไม่มีผู้หญิงอย่างที่เธอแอบคิด… แต่ทำไมเขาถึงได้เมินเฉยกับเธอขนาดนี้นะ…กอหญ้าเม้มริมฝีปากนึกทบทวน จวบจนอัลฟ่าเดินไปข้างๆ ร้าน เธอจึงแอบตามไปเงียบ ๆ จนถึงจุดที่เขาและผู้ชายอีกคนยืนสูบบุหรี่สนทนากันอยู่…กอหญ้าแอบพิงกำแพงแอบฟังเงียบ ๆ แอบฟังพวกเขาคุยกัน เธออยากจะรู้ว่าอัลฟ้าจะสนทนาอะไรกับเพื่อนของเขาบ้าง อาจจะมีเรื่องของเธอบ้างก็ได้...“งานไปถึงไหนแล้วที่เกาะ” “ก็ดี เพาะพันธุ์ไข่มุกสวย ๆ ได้เรื่อย ๆ” “แล้วโรงแรม?” “ก็ไปได้ดี” “ไม่มีอะไรผิดปกติแน่นะ?” ผู้ชายอีกคนเอ่ยถาม เสียงกระซิบเสียมากกว่า“ถ้ามึงหมายถึงสายลับ ไม่มีทางที่พวกมันจะเข้าไปได้ เกาะกูไม่มีทางปล่อยผ่านง่ายๆ นอกจากจะเป็นพวกสายลับของพวกมึงที่จับได้ แล้วเอามาทิ้งขว้างให้คนของกูทรมานเล่น” เกาะของเขา…หมายถึงอะไร? อัลฟ่ามีเกาะส่วนตัวด้วยเหรอ…“ก็ดี ส่วนกาสิโนกูลักลอบเข้ามาเยอะจัด แต่ก็นะ ไม่มีทางรอดสายตากูได้สักคน” มาร์ตินอวยตัวเอง“ก็ดีแล้ว ถ้ามึงปล่อยมาสืบความลับของตระกูลมึ
บทที่3คำกล่าวหา“กอหญ้า…” สุ้มเสียงทุ้มต่ำลง เมื่อกอหญ้าปรากฏตัวที่นี่…“ไม่ต้องถามว่าหนูมาได้ยังไง ตอนนี้พี่ต้องตอบหนูมาก่อนว่าพี่อยากเลิกกับหนูใช่มั้ย!? ที่ผ่านมาพี่แค่หลอกให้หนูรักพี่ เพราะพี่คิดว่าหนูเป็นเมียน้อยของใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก!” กอหญ้าถามเขาเร็วพลัน ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้เขาจะมองจะคิดดูถูกกับเธอยังไงส่วนเกินอย่างมาร์ตินยังอึ้ง รู้สึกเป็นส่วนเกินขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก เมื่อตอนนี้ทั้งสองยืนจ้องหน้าฟาดฟันกันนิ่งงัน ไร้ซึ่งคำตอบกลับจากเพื่อนของเขา มาร์ตินจึงยักไหล่ถอนหายใจ ตัดสินใจเดินออกมาเงียบ ๆเพื่อให้ทั้งคู่ได้เคลียร์กัน“…” มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านเข้ามาที่ดวงหน้าของเธอ จนน้ำตาเริ่มแอบซึม แต่เธอจะไม่ร้องไห้ให้เขาสมเพชเธอเด็ดขาด!“ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงใช่มั้ยคะ หนึ่งปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรักหนูเลยใช่มั้ยคะ!?” กอหญ้าเอื้อนเอ่ยคำถามต่อหน้า พยายามมองหาคำตอบจากแววตาของร่างสูงที่สูงกว่าเธอหลายเท่าตัว“ได้ยินหมดเลยสินะ…” แต่ทำได้เพียงเอ่ยเสียงเบา ๆและแค่นยิ้ม อัลฟ่าหรี่ตามองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งงัน แววตาเจือไปด้วยความเย็นชา และโกรธเคือง“ตอบมาสิคะ!? ตอบให้หนูหายโง่หน่อย
"ไม่! ฉันเชื่อในหลักฐานที่มี""งันหญ้าก็ไม่มีสิทธิ์โต้เถียง หากพี่คิดไปแล้วว่าหญ้าคือคนแบบนั้น" เธอจะยอมให้เขาตราหน้าไปก่อน และเธอจะต้องหาความจริงให้ได้ว่าทำไมชื่อของเธอถึงกลายเป็นเมียน้อยของคุณกายเธอจะต้องแก้มลทินที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยของคนที่เธอไม่รู้จักมักจีให้ได้ในสักวัน และเขาจะต้องเสียใจที่ทำกับเธอแบบนี้!“หึ! ฉันก็ต้องคิดแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้วสิ เพราะเธอเป็นเมียน้อยของมันจริง ๆ” กอหญ้าผ่อนลมหายใจหนัก ๆ อีกครั้ง“เอาเป็นว่าหนูจะไม่ยุ่งกับเขาอีก! และจะเลิกติดต่อเขาอย่างเด็ดขาด”“ได้! ฉันก็ขอให้เธอเลิกยุ่งกับมันจริง ๆ ...งันเธอต้องการเท่าไหร่ก็บอกมา ฉันจะโอนให้เลยตอนนี้ แลกกับคำสัญญาที่เธอเอ่ยมันออกมา”“หนูไม่ต้องการเงินของคุณ เมื่อหนูบอกว่าจะไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่งค่ะ และหวังว่าหลังจากจบกัน คุณจะไม่มาวุ่นวายกับหนูอีก!""ฮ่าๆๆๆๆ" อัลฟ่าระเบิดเสียงหัวเราะดังขึ้น หรี่ตามองเธอด้วยความบ้าคลั่ง พูดออกมาได้ว่าเขาจะไปวุ่นวายกับเธอ เธอน่ะสิที่จะมาวุ่นวายกับครอบครัวของเขา!"ใครกันแน่ที่จะมาวุ่นวาย เลิกกับไอ้กายให้ได้เด็ดขาดก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูด! และถ้าฉันยังเห็นว่าเธอยุ่งเกี่ยวกับสามีน้
บทที่4คำกล่าวหาที่เป็นจริงก๊อก ก๊อก ก๊อกแอด~บานประตูห้องของพี่สาวถูกเปิดออก สิ่งแรกที่กอหญ้าได้เห็นทำให้เธออึ้งไปชั่วขณะ เมื่อคนที่เธอถูกกล่าวว่าเป็นเมียน้อยของเขา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ“คุณกาย…”“มาหาพี่สาวเหรอ” กาศิตที่สวมเพียงกางเกงเปลือยท่อนบน เอ่ยถามเธออย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้“ค่ะ”นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! กอหญ้ารู้สึกจะล้มทั้งยืนเป็นรอบที่สอง สิ่งที่อัลฟ่าต่อว่าเธอ มันคือเรื่องจริงสินะ เพียงแต่เป็นพี่สาวของเธอที่เป็นเมียน้อยคุณกาย...“ครับ…” กายถอยหลังให้กอหญ้าเดินเข้ามาในห้อง ส่วนพี่ส
“พี่จะเลิกยุ่งกับเขา” น้ำอิงให้คำมั่น อย่างไรเสียตระกูลมาเวลลินก็ไม่ควรที่จะแตะต้องอยู่แล้ว เธอไม่ควรเสี่ยง...“จริงๆ นะคะ” กอหญ้าบีบมือพี่สาว เงยมองพี่สาวด้วยแววตาจริงจัง เธอไม่อยากกลับไปเกี่ยวข้องกับอัลฟ่าอีกแล้ว และยิ่งไม่อยากพบเจอเขาอีก เธอเจ็บมามากพอแล้วจริง ๆ“อืม…เดิมทีเราไม่ควรไปยุ่งกับเขาอยู่แล้ว คนตระกูลมาเวลลินอันตรายมาก พวกเขามีอิทธิพลเหลือล้น เป็นมาเฟียตระกูลใหญ่ด้วย ตอนนี้เขามาข่มขู่หญ้าแบบนี้ พี่ต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้หญ้าเจอคนอันตรายแบบนั้น” น้ำอิงขอโทษกอหญ้าอีกครั้ง"ต่อไปหญ้าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอัลฟ่าอีกเข้าใจมั้ย?" น้ำอิงเอ่ยเตือน กอหญ้าสวยขนาดนี้ เธอกลัวว่าอัลฟ่าอาจจะสนใจกอหญ้าก็ได้ในอนาคต และหากรู้ความจริงขึ้นมา…เธอกลัว..."เราไม่ควรเกี่ยวพันกับตระกูลมาเวลลิน พวกเขาเป็นถึงมาฟียที่อันตราย สามารถฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาได้เลยนะ" น้ำอิงบอกเตือนน้องสาว กอหญ้าส่า
บทที่5ตอแยหลังจากที่ออดอ้อนพ่อแม่แล้ว กอหญ้าก็กลับเข้าห้องนอนของเธอ กอหญ้ากระโดดขึ้นเตียงนอน เปิดจอสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าค้นหางานพาร์ทไทม์ที่ทำได้ช่วงเวลาเย็น ซึ่งงานที่น่าสนใจมาก ทำเพียงไม่กี่ชั่วโมงเป็นงานแจกใบปลิว ได้ค่าตอบแทนที่โอเคสำหรับเธอมากอยู่กอหญ้าจึงลองลงทะเบียนสมัครงานไป และไม่นานสมาร์ทโฟนราคาถูกของเธอก็สั่นขึ้นด้วยเสียงเรียกเข้าครืดด~นิ้วเรียวรีบกดรับทันที ไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้…“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีค่ะ คุณ 'กอหญ้า บรรทัดศร' ใช่มั้ยคะ”“ค่ะ”“เราจากสำนักงานแจกใบปลิวนะคะ เล็งเห็นความสามารถของคุณ สามารถมาสัมภาษณ์งานและเริ่มงานได้เล
กอหญ้าเดินแจกใบปลิวอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เธอยื่นใบปลิวให้กับทุกคนที่เดินผ่านด้วยรอยยิ้มหวาน การแจกใบปลิวเริ่มทำให้กอหญ้ารู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อมีคนรับใบปลิวของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ“เสริมความงามให้กับตัวเรา ด้วยคลินิกนิวเจน บนชั้นสองได้เลยนะคะ” กอหญ้าก้มหน้ายิ้มให้กับผู้คนที่รับใบปลิวจากเธอตอนนี้เธอแจกใบปลิวได้เกือบครึ่งทางแล้ว กับเวลาที่เหลืออีกไม่มาก…“อีกนิดเดียว…” กอหญ้าเอ่ยให้กำลังใจตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเงยทอดมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดดำ“ฟ้ามืดอีกแล้ว… ต้องรีบแจกแล้วล่ะ!” กอหญ้ารีบสาวเท้าวนเวียนแจกใบปลิวอยู่หน้าห้าง ทว่าความเร่งรีบทำให้เธอไม่ทันระวัง ถูกชายชราคนหนึ่งเดินชนเข้ากับไหล่บางจนเธอล้มลงกับพื้น“อ่ะ!”ตุบ!“เกะกะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!” เป็นผู้ชายสูงวัย เขาเดินชนเธอจนล้