จากผู้ที่เคยปกป้องแปรเปลี่ยนเป็นศัตรู จากพี่ชายแสนใจดีกลายเป็นสวามีผู้ชิงชัง แม้เคียงข้างกลับห่างเหิน หมางเมินกล่าวหา...ดั่งจันทราแสนงามไร้หัวใจ “ท่านไร้หัวใจ ปราศจากความรู้สึก แต่ข้าหาใช่ไม่ นางต้องตายเพราะท่าน แม้แต่งกับท่าน ข้าก็จะไม่มีวันลืมนาง”
View More“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ร่างสูงใหญ่เคลื่อนมาหานางพร้อมกับหลี่เหอจือเยว่ยืนนิ่งเพราะรู้สึกถึงแรงบีบถี่ในท้องของตน มือบางกุมท้องและทรุดกายลง เฟยอวี่ก็รีบช่วยประคอง“ปวดท้องหรือ”นางพยักหน้าให้สามี ก่อนจะพูดเสียงสั่น“ข้าทนไม่ไหวแล้ว”เฟยอวี่ตกใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายก็อุ้มภรรยาของตนไปยังดินแดนมนุษย์ หลี่เหอช่วยเนรมิตกระท่อมขึ้นมา“ทำอย่างไรดี หากหลี่เอินอยู่ที่นี่ด้วยก็คงดี”เขาอดคิดถึงน้องสาวไม่ได้เทพสงครามวางร่างอรชรที่งอตัวแล้วร้องดังขึ้นเรื่อยๆ พายุที่หยุดไปเมื่อครู่เริ่มกระหน่ำลงมาอีกครั้ง ฟ้าแลบฟ้าร้องดังสนั่น จือเยว่ยิ่งดิ้นทุรนทุราย ขณะที่เขาทำได้เพียงจับมือบางและโอบกอดอีกฝ่าย“เฟยอวี่...ช่วยด้วย กรี๊ดดดด!!”จือเยว่กรีดร้องออกมาลั่นทั่วทั้งป่า ก่อนแสงสว่างเรืองรองจะวาบขึ้นแล้วปรากฏร่างเด็กทารกใกล้ร่างบอบบางที่หมดสติเฟยอวี่มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก ขณะที่หลี่เหอถึงกับตกตะลึง หากก็รีบเข้ามาอุ้มร่างเล็กที่กำลังแผดเสียงร้องจ้าขึ้นเวลาเดียวกันนั้น ท้องฟ้ามืดมิดสว่างไสวในชั่วพริบตา พายุฝนฟ้าคะนองเลือนหายราวไม่เคยเกิดสภาพอากาศแปรปรวนโหดร้ายก่อนหน้านี้สองหนุ่มสบตา
สองร้อยปีต่อมา...“ให้ลูกไปเถิดนะท่านแม่”“เวลาเช่นนี้สุ่มเสี่ยงเกินกว่าที่ลูกจะไปเสี่ยงอันตราย ท่านย่ารู้ว่าแม่ให้ลูกไปต้องโกรธมากแน่”“ท่านพ่อ”จือเยว่หันไปหาบิดาให้ช่วยเหลือเมื่อมารดาส่ายหน้า ทว่าไท่จื่อจิ่นลี่กลับเหลือบสายตาไปยังภรรยา“ยังไงลูกก็จะไป”ใบหน้างดงามงอง้ำด้วยความขัดอกขัดใจ“เยว่เอ๋อร์ หากในเวลาปกติ พ่อก็คิดว่าเจ้าสมควรไป แต่เวลานี้...”ไท่จื่อสวรรค์ถอนหายยาว“พ่อไม่อนุญาต”จือเยว่มองบิดามารดาอย่างน้อยใจแล้วหันไปยังสามีซึ่งยืนเงียบทั้งยังมีสีหน้าลำบากใจ ริมฝีปากอิ่มสวยก็เม้มขุ่นเคือง“ลูกแข็งแรงดี ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ ก่อนหน้านี้ก็ยังลงไปช่วยเผ่าปีศาจพร้อมกับเฟยอวี่ ครั้งนี้ไยจึงไปไม่ได้”“เวลานั้นลูกไปโดยที่ไม่บอกผู้ใดว่าตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้คนรู้ทั่วทั้งสวรรค์ ยิ่งท่านปู่ท่านย่าของลูก ยิ่งไม่ต้องการให้ลูกทำงานราชกิจใด อีกอย่างก็น่าจะจวนเจียนคลอดแล้ว”“ลูกยังไม่รู้สึกว่าจะถึงเวลา”ผู้ที่ตั้งครรภ์ทว่าท้องไม่ได้โตขึ้นแม้แต่น้อยแย้งมารดา“แม่ก็คลอดลูกหลังตั้งครรภ์ไม่นานนัก”ด้วยบุญญาธิการของชนชั้นสูงเผ่าสวรรค์นั้นไม่อาจล่วงรู้ได้ ฤกษ์งามยามดีเหมาะสมเกิดจากญ
“จะไม่ให้ข้าได้พักเลยหรือ”“ท่านอยากพักก็พัก ข้าไม่ได้ห้าม”ใบหน้างดงามยังงอง้ำ ดวงตาคู่หวานซึ้งฉายแววขุ่นเคือง ทว่าเฟยอวี่ไม่รู้สึกเกรงกลัวทั้งยังเอ่ยหน้าตาย“ถึงท่านพัก ข้าก็ทำได้ โอ๊ย!”ชายหนุ่มสะดุ้งเพราะนิ้วเล็กจิกแล้วบิดอกหนาของตน“ตรงนี้มันเจ็บนะ”หญิงสาวสะบัดหน้าหนี เขาจึงจับมือที่ประทุษร้ายตนมาจูบ แล้วพาร่างอรชรลงไปนอนสบายๆ ส่วนตนตะแคงข้างกวาดมองเรือนกายเย้ายวน มีเสื้อรั้งอยู่ส่วนแขนและด้านหลัง หากก็แทบจะเปลือยเปล่า“เพิ่งบอกว่าคิดถึงข้า ตอนนี้มางอนเสียแล้ว”“ถึงข้าจะต้องการท่านมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ท่านเอาแต่ใจกับข้า”“อืม ส่วนท่านเอาแต่ใจกับข้าได้”“เฟยอวี่”จือเยว่เสียงเข้มขึ้น ทั้งยังมองสามีตนด้วยแววตาดุ“โธ่ เมื่อครู่เป็นท่านเองที่ปลุกเร้าข้า ทั้งที่ข้าอุตส่าห์ห้ามใจ เพราะเห็นว่าท่านเพิ่งบาดเจ็บและยังเศร้าเสียใจ”“ท่านโทษข้า”เฟยอวี่ยิ้มเจื่อน รู้แล้วว่าหากไม่ยอมก็คงไม่จบ จึงเปลี่ยนไปเป็นง้อภรรยาแทน“ไม่ได้โทษท่าน ข้าดีใจยิ่งนักที่ท่านต้องการข้าถึงเพียงนี้ ข้าผิดที่เย้าท่านให้ได้อาย อย่าโกรธเคืองข้าเลยนะจือเยว่”ชายหนุ่มส่งสายตาอ้อนวอนปริบๆ จือเยว่จึงพยักหน้า
เฟยอวี่ไม่ยอมเป็นผู้รับเพียงฝ่ายเดียว ขยับริมฝีปากได้รูปจูบร้อนแรงกลับไป ขณะยกร่างอรชรให้ขยับขึ้นมาคร่อมตักตน อีกฝ่ายยอมทำตามโดยง่าย มือบางเลื่อนสอดเข้าไปในกลุ่มผมนวดคลึงพลางพัวพันลิ้นเล็กกับลิ้นตนเร่าร้อนจนหายใจลำบาก ทว่าปากนุ่มยังขยับมาเม้มใบหูของเขาต่อทำเอาชายหนุ่มครางครึ้ม“อืม จือเยว่ เวลาร้อยปีทำให้ท่านใจร้อนขึ้นมากนัก”“เพราะข้าคิดถึงอ้อมกอดของท่าน ช่วงเวลาแห่งความสุขแสนสั้นเกินไป”ชายหนุ่มต้องกัดริมฝีปากตนเพราะเจ้าตัวตอบเบาชิดหูทั้งยังกัดติ่งหูเขาหยอกเย้า“ท่านยั่วเย้าเก่งเกินไปแล้ว ข้าคิดว่าท่านคงลืมเลือนสัมผัสจากข้าไปเสียแล้ว”“ข้าเพียงทำตามเสียงเรียกร้องแห่งปรารถนา”บอกแล้วนางก็ไล่เม้มลำคอแกร่ง มือกระชากเสื้อคลุมอีกฝ่ายออกด้วยเวทของตน ก่อนจะไต่สองมือบางไปตามบ่าหนากับแขนกำยำ ทั้งยังจิกปลายนิ้วครูดไปตามแผ่นหลังกว้างเร้าอารมณ์หนุ่มพร้อมแนบหน้าอกตนชิดอกแกร่งเปลือยเปล่า ขยับบดเบียดเชิญชวนมือหนาเลื่อนมาวางแนบเอวบางค่อยๆ ปลดชุดสวยอย่างไม่เร่งร้อนผิดกับอีกฝ่าย ตั้งใจปลดเปลื้องเรือนกายอ้อนแอ้นให้เผยอย่างช้าๆ เพียงด้านหน้า ดูเย้ายวนกระตุ้นเลือดหนุ่มฉกรรจ์ให้ทะยานอยากมากยิ่งขึ้นชายห
“หากไม่คิดบัญชีกับเจ้า ข้าก็ไม่อาจตายตาหลับ ฆ่ามัน!”นางสั่งเสียงเข้ม ฝูงจิ้งจอกก็กระโดดจู่โจม จือเยว่เหินลอยตัวสูงพร้อมหลี่เหอหลี่เอิน และฟาดพันพลังใส่จิ้งจอกที่ถูกวิชามารควบคุม แต่ละตัวตาแดงก่ำน่ากลัวจิ้งจอกกระเด็นไปไกลแต่ก็ผุดยืนขึ้นรวดเร็วราวไม่บาดเจ็บ คงกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกแล้ว ทั้งยังกระโดดได้สูงผิดจิ้งจอกทั่วไปและมีไอดำรอบกายซูเจินเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย นางพุ่งเข้ามาพร้อมสะบัดแขนส่งพลังทำลายล้างสีดำทะมึนเข้ามาใส่ จือเยว่หันไปตั้งรับขณะหลี่เหอหลี่เอินพะวงกับฝูงจิ้งจอก แม้นางจะสกัดพลังทมิฬนั้นได้และผลักดันกลับไปจนอีกฝ่ายผงะ ทว่ากลับมีจิ้งจอกตัวหนึ่งพุ่งมาใส่ หญิงสาวถอยหนีอย่างกะทันไปจนถึงหน้าผา เป็นเวลาเดียวกับที่ซูเจินตั้งตัวได้ซัดพลังตามมา ร่างอรชรถูกกระแทกจากไอดำหงายหลังลงหน้าผาโดยมีจิ้งจอกตัวนั้นตามมาเพื่อขย้ำจือเยว่ลอยลิ่ว กำหนดจิตได้ยากเพราะบาดเจ็บ แล้วอยู่ๆ กลับมีลูกไฟพุ่งลงมายังตัวจิ้งจอกจนถูกเผาไปต่อหน้า รวมทั้งซูเจินกับจิ้งจอกตัวอื่นก็ถูกลูกไฟตามๆ กันขณะได้ยินเสียงซูเจินกรีดร้องหญิงสาวรู้สึกได้ว่าร่างสูงใหญ่โผวูบเข้ามารองรับร่างตนและพาลอยสูงขึ้น ผู้ที่บาดเจ็บเหลือบมอง แ
เวลาล่วงเลยมาร้อยปี จากขุนพลสวรรค์จือเยว่สามารถขึ้นเป็นแม่ทัพสวรรค์ได้แล้ว นางเป็นผู้ดูแลราชกิจทั่วทั้งหกพิภพแทนไท่จื่อจิ่นลี่เต็มตัว แม้ผู้นำทัพสวรรค์ยังเป็นไท่จื่อ รวมถึงหน้าที่รับผิดชอบของเทพสงครามจือเยว่ก็เป็นผู้จัดการโดยปราศจากการแต่งตั้งเทพสงครามคนใหม่ หญิงสาวคิดว่าองค์จักรพรรดิสวรรค์ยังไม่เห็นว่าผู้ใดมีความสามารถเพียงพอ และตัวนางเองยังต้องได้รับความไว้วางใจจากขุนนางสวรรค์กับหกพิภพถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ตำแน่งใดไม่สำคัญ นางอยากทำหน้าที่ของตนกับเฟยอวี่ให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับเทพสงครามยังคงอยู่“ชายแดนเผ่าจิ้งจอกติดกับดินแดนมนุษย์มีอสูรร้ายอาละวาดกินผู้คนเป็นอาหาร ท่านแม่ทัพจะไปจัดการด้วยตนเองหรือให้ข้าไปแทนขอรับ”หลี่เหอถามขณะหารือในเรื่องฎีกาที่ส่งมา บางส่วนสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องทูลฮ่องเต้สวรรค์ก่อน แม่ทัพจือเยว่จะเป็นผู้ตัดสินใจหรือไม่ก็ปรึกษาไท่จื่อ ด้วยเวลานี้องค์จักรพรรดิวางมือในหลายส่วนแล้วจือเยว่นิ่งงันไป ชายแดนเผ่าจิ้งจอกกับดินแดนมนุษย์ก็หมายถึงเขตรอยเชื่อมต่อที่เคยไปครั้งก่อน ครั้งที่ทำให้นางสูญเสียที่สุดในชีวิต นางไม่ควรไปหากไม่ต้องการเจ็บปวด ทว่าก็คิ
“ท่านย่ารู้เรื่องนี้ด้วยหรือเพคะ”ฮองเฮาฮุ่ยเฟิ่งอึกอักอ้ำอึ้ง ทว่าเห็นหลานรักเป็นเช่นนี้ก็ไม่อยากปิดบังไว้อีก“ผู้ที่รู้เรื่องนี้ มีท่านปู่ของหลาน ย่า อาจารย์ปู่กับอาจารย์ของหลาน”จือเยว่มองย่าของตนอย่างไม่คาดคิด ขณะที่ฮองเฮายังบอกเล่าต่อไป“เฟยอวี่เคยช่วยชีวิตหลาน เขาปลดผนึกวิชาแปลงกายจากตัวหลานทำให้กลายร่างเป็นหญิง และด้ายแดงก็ผูกพันชะตาหลานทั้งสองไว้นับแต่นั้น ในตอนที่เขาพาหลานมาให้อาจารย์ช่วยรักษา อาจารย์ของหลานจึงบอกให้เฟยอวี่ช่วยเก็บความลับนี้ไว้ อาจารย์ปู่สำนักเทียนซานส่งสารลับแจ้งมายังท่านปู่ ท่านปู่ของหลานจึงรับสั่งให้สะกดอารมณ์ความรู้สึกในหัวใจของหลานเอาไว้ ไม่ต้องการให้หลานผูกพันใจกับผู้ใดแม้แต่เฟยอวี่ และอาจารย์ของหลานก็มอบหมายหน้าที่ให้เขาลงไปขุนเขากลางเวหา”ริมฝีปากอิ่มเผยอ ยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บปวด เพราะศิษย์พี่ของนางเก่งกาจที่สุดในสำนัก นางจึงไม่แปลกใจ ทว่าจากนั้นไม่นานบิดาก็ส่งจางหย่งมารับตัวนางกลับสวรรค์ และไม่ได้พบเฟยอวี่อีกเพราะถูกเวทสะกดใจไว้นี่เอง นางจึงมักรู้สึกปวดหัวใจราวถูกบีบหรือทิ่มแทงทุกครั้งที่อารมณ์เฉียดใกล้ความรู้สึก ‘รัก’‘นางมีหน้าที่อันยิ่งใหญ่รออยู่ ชีว
ร่างบอบบางมุ่งหน้าเข้าป่าลึกภายในสำนักเทียนซาน มีผู้อื่นที่ว่องไวคล่องแคล่วกว่าตนหลายคน ทำให้ต้องเร่งฝีเท้ากระโดดลอยเหาะไปเกาะตามต้นไม้ใหญ่ ธงชัยสำหรับผู้ชนะในการประลองความเร็วนี้มีเพียงห้าคนเท่านั้น และนางก็อยากคว้ามันมาให้ได้จือเยว่ในเวลานี้อายุเพียงพันสองร้อยปี ยังเยาว์วัยและรูปร่างผอมบางสะโอดสะองกว่าบุรุษวัยเดียวกัน ฝีมือก็อ่อนด้อยกว่าศิษย์รุ่นเดียวกัน เพราะไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นสตรี หากคว้าชัยเป็นหนึ่งในห้าได้นางจะไม่ถูกมองว่าอ่อนแอเหมือนคนขี้โรคอีกทว่าเมื่อมองเห็นธงชัยที่อยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง นางก็รีบกระโจนไปให้ถึงโดยเร็ว หากก็มีศิษย์อีกคนเห็นด้วยเช่นกัน ต่างก็เร่งฝีเท้าและปีนป่ายเกาะต้นไม้นั้น แต่ที่ไม่มีใครทันสังเกตคือมีอสรพิษขดอยู่ด้านบนเหนือธงขึ้นไปราวเฝ้าระวัง ทั้งสองต่างขัดแข้งขัดขาช่วงชิงโอกาสที่จะไปให้ถึงธงนั้นก่อนอีกฝ่ายและจือเยว่ก็พลาดถูกเตะจนร่วงหล่นลงมายังดีที่คว้ากิ่งไม้ไว้ได้ นางเร่งปีนกลับขึ้นไปใหม่ เป็นจังหวะเดียวกับที่ศิษย์อีกคนเห็นว่ามีงูอยู่ เขาใช้เวทโจมตีเพื่อให้งูตกลงไป ทว่าโชคไม่ดีที่หล่นมาถูกจือเยว่ด้านล้าง และนางก็ถูกอสรพิษนั้นกัดเข้าที่แขน
“ระวังตัวด้วย”เทพสงครามสั่งเสียงดัง มั่นใจว่าชิงหลุนคงไม่ละมือโดยง่าย และก็เป็นอย่างที่คิด ชิงหลุนยกสองมือชูขึ้น ชั่วอึดใจท้องฟ้าด้านบนก็ดำทะมึนก่อนเหวี่ยงกรงเล็บจิ้งจอกทมิฬมาพร้อมพลังสายฟ้าฟาด ราวตั้งใจใช้พลังโจมตีทั้งหมดที่ตนมีเพื่อทำลายศัตรูเฟยอวี่พยายามเคลื่อนกายไปด้านหน้า หากรอรับเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ หลี่เหอเองก็ถอยไปบังร่างอรชรของนายตนไว้อย่างรู้ใจเทพสงครามว่าจะหาโอกาสเปลี่ยนรับเป็นรุกจากหลังเฟยอวี่ใช้พลังบังคับทวนให้หมุนสกัดกรงเล็บโดยไม่หยุดแล้ว เขาก็ร่ายเวทเพลิงวิหค ปล่อยพลังซัดเข้าหาชิงหลุน อีกฝ่ายตีลังกาหลบได้อย่างเฉียดฉิว นั่นทำให้กรงเล็บจิ้งจอกทมิฬหยุดลงชั่วขณะ เทพสงครามรีบคว้าทวนแล้วโผเข้าฟาดฟันอีกฝ่ายก็ปัดป้องด้วยพลังได้ทุกครั้งสายตาของชิงหลุนเหลือบไปยังจือเยว่ชั่วแวบ ก่อนจะหลบทวนของเทพสงครามหายวับไปใกล้ร่างอรชร ส่งกรงเล็บใส่หลี่เอินเพื่อให้พ้นทางก่อน“โอ๊ะ”“หลี่เอิน”ทั้งจือเยว่กับหลี่เหอต่างตะโกนขึ้นพร้อมกัน หลี่เหอรีบมาขวางแต่เพราะความกังวลห่วงน้องสาวที่กระเด็นไปไกลทำให้เกือบจะหลบพลังของชิงหลุนไม่ทัน ไม่ได้มองว่านายตนพุ่งกายไปหาหลี่เอิน นั่
ผ้าห่มแพรมันลื่นถูกกระชากออกพร้อมกับรู้สึกได้ว่ามีการขยับเขยื้อนทั้งที่ตนยังนิ่งทำให้ผู้ที่หนักศีรษะรวมไปถึงร่างกายพยายามลืมตาพร้อมได้ยินเสียงกร้าวลั่น“หญิงโฉดชายชั่ว บังอาจนัก!”ร่างอรชรสะดุ้งเฮือก เปลือกตาที่กำลังปรือปรอยเปิดขึ้นแล้วก็เห็นคนผู้หนึ่งถูกยันตกลงจากเตียง ส่วนตนรีบคว้าผ้าห่มปกปิดเรือนกายด้วยรู้สึกโล่งจนน่าหวั่นใจ“ฝ่าบาท ข้าน้อยมิบังอาจ ขอฝ่าบาททรงเมตตา”ผู้ที่ตกไปด้านล่างเหมือนจะตื่นเต็มตาในทันใดแล้วรีบโขกศีรษะลงพื้นเมื่อเห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ยืนตระหง่านใบหน้าถมึงทึงสายตาหญิงสาวกระจ่างชัดแล้วในตอนนี้ ร่างอรชรตัวสั่นเทา สองมือกุมผ้าแพรแน่นกระชับลำคอ ขณะสบกับดวงตาคู่คมดุกร้าวของผู้มาเยือน นางส่ายหน้าปฏิเสธให้อีกฝ่ายขณะศีรษะปวดร้าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแม้จะยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ทว่าตื่นขึ้นมาโดยมีชายอื่นอยู่บนเตียงตนเช่นนี้อย่างไรนางก็มีความผิดมุมปากได้รูปงามบนใบหน้าขาวคมคายกระตุกหยัน แววตาไร้ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจทำเอาหญิงสาวใจหายวาบ“ข้าน้อยไม่รู้ว่ามาอยู่ในห้องบรรทมของพระสนมได้อย่างไร ขอฝ่าบาททรงเมตตาไต่สวนหาความจริงด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ชายผู้นั้นยังโขกศีรษะร้อง...
Comments