Home / แฟนตาซี / ฤาจันทราเร้นรัก / 2.ดอกฟ้าแสนงาม (2)

Share

2.ดอกฟ้าแสนงาม (2)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-02-23 14:10:23

“กลับเถิดเจ้าค่ะคุณหนู”

หลิงเอ๋อร์นางกำนัลคนสนิททักท้วงด้วยสีหน้าลำบากใจ เพราะองค์หญิงสั่งให้หยุดรถม้าแล้วให้ทหารรอ ก่อนจะแยกออกมาชมตลาดโดยอ้างว่าจะดูแผงขายปิ่นที่อยู่ใกล้ๆ อยากเห็นฝีมือชาวบ้านนอกวังว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ทว่ากลับเดินดูร้านอื่นไกลออกมา

“มาไกลเกินไปแล้วนะเจ้าคะ”

“อุ๊ย ขนมนั่นน่ากินนะ ข้าอยากลอง ไปซื้อกัน”

แทนที่จะฟังนาง องค์หญิงกลับสอดส่ายสายตาไปทั่วอย่างสนอกสนใจแล้วชี้ไปทางร้านขนมห่างออกไป

“เช่นนั้นคุณหนูกลับไปยังรถม้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ บ่าวจะไปซื้อให้เอง”

“จะกลับไปกลับมาทำไมกัน ซื้อก่อนแล้วค่อยไปที่รถม้าก็ได้”

“แต่ห่างสายตาคนของเรามากนะเจ้าคะ”

“เจ้าคิดมาก ไม่มีใครรู้ว่าข้าเป็นผู้ใดสักหน่อย”

ชุดที่นางใส่นั้นแม้จะดูสวยงาม หากก็ไม่ได้เป็นชุดที่บ่งบอกว่ามียศตำแหน่งใด ดูเหมือนคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปเท่านั้น

“แต่...”

“มาเร็ว ชักช้ายิ่งทำให้กลับช้าไปอีกนะ”

องค์หญิงหนิงเซียงฉุดมือคนของตนให้ก้าวตามโดยเร็ว การได้เห็นสิ่งแปลกตาในเมืองนอกกำแพงวังทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจนัก แม้รู้ว่าต้องกลับเข้าวังให้ทันเวลาหากก็ยังอยากดูนั่นนี่อีกเล็กน้อย

“ข้าซื้อนี่สองชิ้น”

ปลายนิ้วเรียวชี้ขนมที่เป็นแป้งกลมๆ ทอดกดให้แบนและมีไส้ซึ่งคนขายเพิ่งตักมาวางสดๆ ร้อนๆ ควันฉุยน่ากิน และเถ้าแก่ก็รีบตักใส่กระดาษห่อส่งให้พร้อมบอกราคา โดยผู้ที่หยิบถุงเงินออกมาจ่ายนั้นเป็นหลิงเอ๋อร์ ซึ่งเป็นก้อนทองหนึ่งก้อน

“โธ่ คุณหนู ข้าไม่มีเงินทอนเยอะถึงเพียงนี้หรอก”

เถ้าแก่ส่ายหน้า หากก็จ้องก้อนทองอย่างสนอกสนใจ

“เอ่อ เช่นนั้น รอสักครู่นะเถ้าแก่ ข้าจะกลับไปยืมคนที่รถม้าก่อน”

หลิงเอ๋อร์บอกแล้วหันไปจับแขนองค์หญิง ทว่าเถ้าแก่กลับเอ่ยรั้งไว้

“เดี๋ยว ถ้าอย่างนั้นก็ให้คุณหนูท่านนี้รอที่นี่สิ หากพวกท่านไม่กลับมาข้าจะทำอย่างไร”

นางกำนัลสาวชักสีหน้าไม่พอใจ

“พวกข้าไม่โกงเจ้าหรอกน่า”

“หลิงเอ๋อร์”

องค์หญิงหนิงเซียงห้ามคนของตนเพราะเห็นด้วยที่ไม่ควรไปโดยยังไม่จ่ายเงิน

“ข้าจะรออยู่ที่นี่ เจ้ารีบไปรีบมา”

สีหน้าของหลิงเอ๋อร์ไม่เห็นด้วยทว่าผู้เป็นนายย้ำ

“เร็วสิ เราต้องรีบกลับบ้านนะ”

“หลิงเอ๋อร์จะรีบกลับมานะเจ้าคะ”

สุดท้ายนางกำนัลสาวก็จำต้องปลีกตัวออกไปตามรับสั่งขององค์หญิง แต่ผละไปแล้วก็ยังหันกลับมามองบ่อยครั้งด้วยความเป็นห่วงนายตน แม้ว่าองค์หญิงหนิงเซียงจะโบกมือให้ไม่ต้องกังวลพลางกินขนมอย่างชื่นชอบ ทำให้หลิงเอ๋อร์ไม่ทันสังเกตรอบกายกระทั่งชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง หากอีกฝ่ายก็ก้มหน้าลงขอโทษแล้วรีบเลี่ยงไปทันที

องค์หญิงหนิงเซียงมองตามคนของตนจึงเห็นชายที่ชนกับหลิงเอ๋อร์เดินผ่านผู้คนไป ทว่าอยู่ๆ ก็เห็นชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมายิ้มพอใจพลางโยนถุงผ้าไหมใส่เงินด้วยสีหน้ากระหยิ่ม นางจำได้ในทันทีว่าเป็นถุงเงินของหลิงเอ๋อร์ หมายความว่าชายผู้นี้แอบขโมยมาในตอนที่เดินชนกัน

“ขโมย!!”

นางตะโกนขึ้นพลางชี้ไปยังอีกฝ่ายที่อยู่ห่างไกลจนคิดว่าไม่มีคนสนใจแล้ว และเจ้าตัวก็สะดุ้งหันมามองแวบหนึ่งก่อนจะรีบวิ่งหนีทันที

“หยุดนะ! ชายผู้นั้นขโมยเงิน ช่วยจับไว้ที”

พร้อมร้องขอความช่วยเหลือองค์หญิงหนิงเซียงก็รีบก้าวตาม ผู้คนโดยรอบยังมัวหันไปมาอย่างงุนงง ไม่มีใครทันสังเกต

ส่วนหลิงเอ๋อร์ได้ยินเสียงก็จำได้ว่าเป็นนายตน พอหันมามองเห็นว่าองค์หญิงตามใครคนหนึ่งไป นางพอจะจำชุดได้ก็ถึงกับตกใจว่าเป็นคนที่ชนตน มือขยับลงลูบหาถุงเงินใกล้เข็มขัดแต่ไม่เจอ ความเป็นห่วงเจ้านายทำให้เร่งฝีเท้าตามไป

“คุณหนู!”

นางร้องเรียกเพราะไม่อยากให้องค์หญิงเข้าไปเสี่ยงอันตราย

“อย่าไปเจ้าค่ะ”

และเสียงของนางก็ทำให้บรรดาองครักษ์ที่รออยู่ยังรถม้ากรูกันตามมาด้วย

ทางด้านองค์หญิงหนิงเซียงนั้นเห็นว่าผู้ที่ขโมยเงินผลุบเข้าไปยังตรอกหนึ่งหลบหลีกสายตาคน ด้วยความร้อนใจบวกขุ่นเคืองเกรงจะหลุดรอดสายตาทำให้นางรีบตามไปให้ทัน

“หยุดเดี๋ยวนะ! เจ้าหัวขโมย”

หัวขโมยจ้ำอ้าวอย่างไม่สนใจสิ่งใดและไปหักเลี้ยวตรงมุมอีกครั้ง องค์หญิงหนิงเซียงไม่ได้วิ่งคล่องแคล่วนักหากก็พยายามเร่งฝีเท้าเต็มที่ เมื่อเลี้ยวตามมาเห็นว่าอีกฝ่ายหนีไปไกลแล้ว ทั้งยังยากที่ตนจะตามได้ทันนางจึงปาขนมที่อยู่ในมือสุดแรง ตั้งใจให้โดนหัวขโมยทั้งที่ไร้ความหวังแต่ไม่มีอาวุธใดนอกจากนี้

ห่อขนมลอยไปไม่ไกลก็หล่นลงห่างจากร่างชายคนนั้น ทว่ากลับมีบางอย่างกระแทกเข้าที่หัวด้านหลังอย่างแรงและเร็วจนหน้าคะมำล้มลงหน้าทิ่ม

“โอ๊ย!!”

ชั่วอึดใจร่างหนึ่งก็ลอยลงมาจากหลังคาด้านบน หยุดลงใกล้ตัวขโมยที่กำลังจะยันกายลุกหากกลับถูกเท้าข้างหนึ่งกระทืบลงกลางหลังอย่างหนัก

“อัก...โอย...”

ก่อนผู้มาใหม่ของก้มลงหยิบสิ่งที่ทำให้หัวขโมยล้มขึ้น แรกทีเดียวองค์หญิงหนิงเซียงมองไม่ทันซึ่งตอนนี้เห็นแล้วว่าเป็นพัด ไม่น่าเชื่อว่าจะหนักหน่วงจนทำเอาคนล้มหน้าคะมำได้ หากบอกว่าเป็นท่อนไม้ก็ว่าไปอย่าง นั่นหมายความว่าผู้ที่ปามานั้นมีความสามารถหรือแรงกำลังเยอะมาก

องค์หญิงหนิงเซียงยืนนิ่ง กวาดมองผู้ที่หยิบถุงเงินซึ่งหล่นพื้นด้วยขึ้นมาพร้อมกับพัด เมื่ออีกฝ่ายหันกลับมามองนางก็เผยอปากค้าง ความทรงจำในช่วงเวลาหนึ่งผุดขึ้น

‘ชายผู้นั้น’

ชายที่ช่วยนางเอาไว้ในตอนหล่นลงจากต้นไม้ในอุทยาน แม้ผ่านไปนานแล้วนางก็ยังจำจดเขาได้ขึ้นใจ

“เจ้านี่ช่างกล้าหาญเกินหญิงเสียจริง”

อีกฝ่ายเอ่ยพลางส่ายหน้าราวอ่อนอกอ่อนใจ

“พบหน้ากี่ครั้งก็เห็นเจ้าทำในสิ่งที่หญิงสาวทั่วไปคงไม่ทำเช่นนี้ ไล่ตามโจรผู้ร้ายมาลำพังเช่นนี้อันตรายนัก”

“แล้วจะปล่อยให้หัวขโมยเอาเงินของข้าไปหรือ”

องค์หญิงหนิงเซียงเอ่ยน้ำเสียงขัดใจ

“เงินทองสำคัญกว่าชีวิตของเจ้าหรือ”

อีกฝ่ายตำหนิกลับมาทำเอาคิ้วเรียวบางขมวดไม่พอใจ ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใด ทหารหลายนายก็มาถึง

“องค์หญิง”

หัวหน้าองครักษ์รีบเข้ามากวาดมองนายตนด้วยสีหน้ากังวล

“ขอประทานอภัยที่กระหม่อมมาช้าไป”

ขณะเดียวกันบรรดาทหารต่างวิ่งเลยไปล้อมรอบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กับผู้ที่ยังถูกเหยียบติดพื้นและชักดาบออกมาเตรียมพร้อม

“ช่างเถิด มีคนมาช่วยจับขโมยได้พอดี”

“องค์หญิงเพคะ”

หลิงเอ๋อร์โผล่มาหลังสุดพลางหอบหายใจแรง หากก็รีบถามไถ่ด้วยห่วงความปลอดภัยของนายตน

“บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่เพคะ”

“ข้าไม่เป็นไร”

ระหว่างนั้นเจ้าของร่างสูงใหญ่ละเท้าออกจากขโมยซึ่งรองโอดโอยขอความช่วยเหลือและให้ปล่อยตน ทว่าเมื่อก้าวเดินปลายดาบของเหล่าทหารองครักษ์กลับชี้มายังชายหนุ่มอย่างระวังภัย

“หยุด อย่าขยับ”

“องครักษ์ของท่าน ต้อนรับผู้ช่วยเหลือเช่นนี้หรือ”

เสียงเข้มเอ่ยขึ้นหากใบหน้าเรียบเฉย แม้ภายในใจจะประหลาดใจอยู่บ้างที่นางกำนัลน้อยซึ่งตนเคยพบในอุทยานนั้นแท้จริงกลับเป็นองค์หญิง เขาเห็นนางเดินอยู่กับนางกำนัลผู้นั้นโดยไร้ทหารองครักษ์ติดตามจึงคิดว่าพวกนางอาจออกมาเยี่ยมญาตินอกวังเสียอีก

‘ไม่คิดเลยว่านางหาใช่ดอกไม้ประดับอุทยานเช่นที่ข้าเข้าใจ ทว่ากลับเป็นถึงดอกฟ้าแสนงดงามและสูงส่งเกินเอื้อมต่างหาก’

=====

โถ…นางกำนัลน้อย แท้ที่จริงแล้วเป็นดอกฟ้า เรื่องราวของสองคนจะเป็นยังไงต่อไปนะ? ^^

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ฤาจันทราเร้นรัก   3.หัวใจผลิบาน (1)

    “องครักษ์หวัง”องค์หญิงหนิงเซียงปรามองครักษ์ตนเสียงเบา ด้วยนางเองก็นับถือและเคารพอีกฝ่ายที่อายุมากกว่าไม่น้อย“ถึงอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาใกล้องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”หัวหน้าองครักษ์บอกน้ำเสียงนอบน้อม หากกลับมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ด้วยแววตาเย็นชา ขณะเดียวกันนั้นทหารก็กำลังควบคุมตัวหัวขโมยเอาไว้“ถุงเงิน”ชายผู้นั้นชูถุงเงินในมือพลางเอ่ยสั้นๆ สีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ หากก็ทำให้องค์หญิงหนิงเซียงรู้สึกเกรงใจเขาที่องครักษ์แสงความแข็งกร้าวกับอีกฝ่าย“ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ...หลิงเอ๋อร์”นางขอบคุณอย่างจริงใจแล้วพยักหน้าให้หลิงเอ๋อร์ไปรับถุงเงินจากชายหนุ่ม“เมื่อไม่มีสิ่งใดแล้ว กระหม่อมทูลลา”อีกฝ่ายคำนับแล้วเลี่ยงไปองค์หญิงหนิงเซียงมองตามร่างสูงใหญ่ด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก เหมือนยังมีคำพูดที่ติดค้างอยู่ในใจ แน่นอนนางควรเอ่ยถามชื่อเสียงเรียงนามชายหนุ่ม อย่างน้อยก็ควรส่งของกำนัลตอบแทนน้ำใจ หากชื่อนั้นกลับผุดขึ้นมาในห้วงสำนึกแม้ได้ยินเพียงครั้งเดียว‘หลิวซูหยวน’และนางปล่อยให้เขาเดินจากไปโดยไม่ได้ถามสิ่งใดการสอบราชการเพิ่งผ่านพ้น บัณฑิตใหม่สามคนมาเฝ้าฮ่องเต้ โดยหนึ่งในนั้นคือหลิวซูหยวนบ

    Last Updated : 2025-02-23
  • ฤาจันทราเร้นรัก   3.หัวใจผลิบาน (2)

    “เอ่อ คุณหนู...”หลิงเอ๋อร์เอ่ยเตือนถึงความไม่เหมาะสมราวดึงสติของผู้เป็นนายกลับมา องค์หญิงหนิงเซียงรีบดึงมือตนเองจากเสื้ออีกฝ่ายแล้วจะผละกายออก หากเขากลับนำพาให้นางเดินออกจากกลุ่มคนโดยไม่คิดปล่อยแขนจากเอวบาง ทำเอาสองสาวมองกันด้วยความงุนงง ออกอาการเลิ่กลั่กทั้งนายและบ่าวแต่เมื่อห่างจากผู้คนที่เบียดเสียดชายหนุ่มก็ปล่อยและขยับไปยืนเว้นระยะด้วยตัวเอง หลิงเอ๋อร์เองก็ประคองนายตนราวหวงแหน ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงองค์หญิงเจียวมิ่งพร้อมร่างอรชรก็ตรงเข้ามาหาน้องสาวอย่างร้อนใจ โดยผู้เป็นสวามีตามมาเช่นกัน“เซียงเอ๋อร์ พี่ตกใจแทบแย่ที่อยู่ๆ ก็ไม่เห็นเจ้า”มือบางถูกจับพร้อมสายตาที่ฉายแววห่วงกังวลก็กวาดมองร่างผู้เป็นน้องจนทั่ว“อ้าว หลิวซูหยาง”“ใต้เท้ามู่...ถวายพระพรองค์หญิง”หลิวซูหยางเอ่ยนามผู้ที่มาใหม่อย่างให้เกียรติทว่าอีกฝ่ายกลับตบบ่าเขาอย่างแรง“ใต้ทงใต้เท้าอะไรกัน บอกแล้วว่าพบกันข้างนอกเราก็ยังเป็นสหายเช่นเดิม”มู่ฉางเหยียนนั้นเข้ารับราชการในสำนักราชเลขาก่อนหลิวซูหยางแล้วได้รับพระราชทานอภิเษกหลังจากนั้น เวลานี้มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ช่วยราชเลขาธิการส่วนพระองค์ทั้งยังเป็นถึงเป็นราชบุตรเขยด้ว

    Last Updated : 2025-02-23
  • ฤาจันทราเร้นรัก   4.ผู้ที่จะเป็นราชบุตรเขย (1)

    แคว้นอันมีการแข่งขันเตะลูกหนังเป็นการละเล่นประจำปี แต่ละกรมจะจัดกลุ่มคนเพื่อแข่งขันเจ็ดคน กรมใดมีชัยได้อันดับหนึ่งจะได้รับพระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้เป็นทองคำยี่สิบก้อน และได้นั่งด้านหน้าสุดในงานพระราชสมภพของฮ่องเต้กับฮองเฮาในปีนั้น นับว่าเป็นเกียรติอย่างมากทุกกรมจึงจริงจังกับการแข่งนี้แม้สำนักราชเลขาธิการจะไม่ได้แข็งแกร่งเช่นกรมทหารรักษาพระราชวังหรือทหารองครักษ์ หากส่วนใหญ่ก็เคยผ่านการละเล่นนี้มาแล้วในตอนศึกษาอยู่ในสำนักศึกษา หลิวซูหยวนกับมู่ฉางเหยียนจึงเข้าร่วมเป็นตัวแทนองค์หญิงหนิงเซียงเคยมาชมการแข่งขันพร้อมองค์หญิงเจียวมิ่งที่สามารถมาชมเพื่อให้กำลังใจพระสวามีแล้วในสองปีที่ผ่านมา หากไม่ได้สนใจการแข่งจริงจังนัก ทว่าในปีนี้กลับต่างออกไปเมื่อได้เห็นหนึ่งในผู้ร่วมเล่นลูกหนังจากสำนักราชเลขาธิการ“ใต้เท้าหลิวฝีมือไม่เบาทีเดียว ทั้งยังเล่นได้เข้าขากับท่านพี่มากอีกด้วย”ผู้เป็นพี่สาวหันมากระซิบกับนาง องค์หญิงหนิงเซียงเพียงยิ้มรับ ไม่ได้แสดงทีท่าตื่นเต้นเท่าใดนัก หากความจริงนางแทบไม่อาจละสายตาจากร่างสูงใหญ่ที่เล่นลูกหนังอย่างคล่องแคล่ว ทั้งแย่งทั้งส่ง หรือกระทั่งกระโดดม้วนตัวเตะลูกหนังเข้าไ

    Last Updated : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   4.ผู้ที่จะเป็นราชบุตรเขย (2)

    ในรถม้าองค์หญิงหนิงเซียงมองพัดในมือตนพลางถอนหายใจ ขณะที่หลิงเอ๋อร์ก็มีพัดคอยพัดวีไล่ความร้อนอบอ้าวให้ผู้เป็นนาย ด้วยพัดจากใต้เท้าหลิวนั้นองค์หญิงจะถือไว้ด้วยตนเองเสมอ“น่าเสียดายที่ก่อนกลับไม่ได้บอกกล่าวใต้เท้ามู่กับใต้เท้าหลิวนะเพคะ”หลิงเอ๋อร์เอ่ยอย่างรู้ใจว่าแท้จริงแล้วนายตนอยากพบหน้าผู้ใดก่อนเข้าวัง เพราะนับแต่พ่ายแพ้หลิวซูหยวนก็ไปนั่งดูการแข่งขันร่วมกับสหายในสำนักราชเลขาธิการ ไม่ได้มานั่งร่วมโต๊ะกับราชบุตรเขยอีก“หลิงเอ๋อร์”ใบหน้าหวานงดงามงอง้ำพลางเอ่ยปรามคนสนิทเสียงอุบอิบเพราะรู้แก่ใจว่าความรู้สึกของตนนั้นกำลังเริ่มไม่เหมาะไม่ควรขณะนั้นเสียงม้าร้องดังขึ้นทั้งรถม้ายังกระชากอย่างแรงจนร่างอรชรกระแทกเข้ากับด้านข้างรถม้า“โอ๊ะ...เกิดอะไรขึ้น”หลิงเอ๋อร์ร้องขึ้นพลางรีบประคองนายตน“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”เสียงคนที่ควบคุมม้าด้านนอกตะโกนลั่น“ระวัง! ด้านหน้าระวังด้วย!”หลายเสียงเริ่มตะโกนดัง รถม้าขององค์หญิงหนิงเซียงอยู่ท้ายขบวน หากม้าตื่นตระหนกวิ่งเร็วอาจลากจูงให้รถม้าไปชนกับทหารองครักษ์รวมถึงรถม้าด้านหน้าได้ นั่นอาจพลอยทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ทั้งกับองค์ชายรองและองค์ชายสามรถม้ายังถูกแ

    Last Updated : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   5.คนขี้ขลาด (1)

    “เซียงเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำให้สด็จพ่อโกรธมาก อย่าได้ทำเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจถูกลงทัณฑ์”องค์ชายรองเสวียนหลินตามมายังตำหนักองค์หญิงหนิงเซียงหลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้ว“ให้เสด็จพ่อลงทัณฑ์ข้าเสียยังดีกว่าให้ข้าแต่งงาน”เห็นน้ำตาที่รินไหลไม่ขาดสาย ทว่าสีหน้ากลับมุ่งมั่นแข็งขืนของน้องสาวแล้วสีหน้าองค์ชายรองกลับยิ่งเคร่งเครียด เจ้าตัวยังนั่งคุกเข่าอยู่ในตำหนักตนไม่ขยับแม้หลิงเอ๋อร์กับนางกำนัลคนอื่นจะช่วยกันเลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เป็นผล“เซียงเอ๋อร์”องค์ชายรองอ่อนใจในความดื้อดึงของน้องสาว แปลกใจนักที่น้องน้อยผู้เรียบร้อยและหัวอ่อนเสมอมาของตนกลับกล้าขัดรับสั่งพระบิดา‘ช่างดื้อรั้นเอาแต่ใจนัก หากขอสิ่งใดข้าก็อนุญาต กลับคำ พลิกราชโองการ คำพูดของข้าจะยังศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้อีกหรือ เจ้าพูดกับน้องเจ้าให้นางเข้าใจ ข้าตัดสินใจเช่นนี้ก็เพื่อนาง’พระบิดารับสั่งย้ำอย่างขุ่นเคืององค์ชายรองย่อกายลงตรงหน้าอีกฝ่าย วางมือสองข้างบนบ่าบอบบาง“เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า ชาวเมืองมากมายต่างก็เห็นฮ่าวหมิงอุ้มเจ้า แตะต้องเนื้อตัวและช่วยชีวิตเจ้าไว้ เขามีความดีความชอบ ส่วนเจ้าเป็นถึงองค์หญิง ไม่ควรมีผู้ใดแตะต้องชิ

    Last Updated : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   5.คนขี้ขลาด (2)

    “ใต้เท้าหลิว”ชายหนุ่มกับมองผู้เข้ามาหาด้วยสีเข้มขรึม ขณะสหายที่มาด้วยกันแปลกใจ หากเมื่อนางกำนัลเอ่ยต่อเขาก็ขอตัว“เอ่อ ข้ามีเรื่องขอพูดกับใต้เท้าตามลำพังได้หรือไม่เจ้าคะ”“ข้าขอตัวก่อนก็แล้วกัน”อีกฝ่ายจากไปโดยง่าย เพราะหลิวซูหยวนเป็นที่สนใจของสตรีทั้งในวังและบรรดาบุตรสาวขุนนางหรือแม้แต่ท่านหญิง หลายคนเพียงแอบเมียงทว่านางกำนัลผู้นี้ช่างกล้าหาญนักในความคิดของเขาจึงไม่อยากขัด“มีเรื่องใดหรือ”“เชิญใต้เท้าตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ”หลิงเอ๋อร์ผายมือไปยังหลังต้นไม้ใหญ่ริมกำแพงอุทยานแล้วเดินนำ หลิวซูหยวนลังเลหากก็ก้าวตามด้วยความตงิดใจ กระทั่งพ้นต้นไม้มาก็เห็นร่างอรชรที่ทำเอาคิ้วเข้มขมวด ส่วนนางกำนัลสาวกลับไปดูต้นทาง“ถวายพระพรองค์หญิง”“ใต้เท้าหลิว”องค์หญิงหนิงเซียงมองผู้ที่อยู่ในหัวใจตนด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวัง กระนั้นก็ไม่มั่นใจนักว่าสิ่งที่นางต้องการพูดกับอีกฝ่าย ชายหนุ่มจะคิดเห็นอย่างไร“ข้า...เอ่อ...”สบตาคมเข้มนิ่งเฉยแล้วนางกลับพูดไม่ออก“องค์หญิงมีสิ่งใดรับสั่งกับกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ หากมีผู้ใดผ่านมาเห็นเข้าคงไม่เหมาะนัก”อีกฝ่ายถามเสียงเรียบ บั่นทอนกำลังใจของผู้ที่เตรียมตัวเตรียมใจมาแล

    Last Updated : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (1)

    “องค์หญิง กินอีกคำสองคำก็ยังดีนะเพคะ”หลิงเอ๋อร์พยายามคะยั้นคะยอเมื่อองค์หญิงหนิงเซียงกินอาหารไปเพียงเล็กน้อย ร่างอรชรผ่ายผอมบอบบางยิ่งกว่าเดิมจนดวงหน้างดงามซีดตอบ นางกำนัลคนสนิทที่เอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดในทุกวันเห็นแล้วก็ปวดใจนัก“เอาออกไปเถิด ข้าไม่อยากกินแล้ว”“โธ่ องค์หญิง”องค์หญิงหนิงเซียงไม่สนใจเสียงโอดของนางกำนัลคนสนิท ร่างบอบบางลุกจากโต๊ะทานอาหารกลับเข้าไปในห้องนอน หลิงเอ๋อร์จึงได้แต่พยักหน้าเรียกให้นางกำนัลอีกสองคนเข้ามาเก็บอาหารออกไปแล้วก้าวตามนายตนร่างอรชรทรุดลงนั่งตรงโต๊ะเขียนหนังสือ หลิงเอ๋อร์ก็รีบเข้ามาช่วยฝนหมึก จัดกระดาษกับพู่กันให้“ข้าอยากได้ชากุหลาบ เจ้าไปสั่งที่ห้องเครื่องให้หน่อยนะหลิงเอ๋อร์”“เพคะ”หลิงเอ๋อร์ออกไปแล้วองค์หญิงหนิงเซียงก็เริ่มเขียนอักษรลงบนกระดาษช้าๆ มือที่จับพู่กันมั่นคง แม้กายจะสั่นด้วยแรงสะอื้นเบาๆ ทว่าเมื่อน้ำตาเริ่มรื้นใกล้หยาดรินปลายนิ้วเรียวก็กรีดทิ้ง ไม่ยอมให้หยดลงบนกระดาษ ไม่นานนักหนังสือสองฉบับก็ถูกพับใส่ซอง ก่อนนางจะเขียนนามผู้ที่ต้องการส่งถึง แล้วก็เป็นเวลาเดียวกับที่หลิงเอ๋อร์เดินนำนางกำนัลอีกคนยกกากับถ้วยน้ำชาเข้ามาพร้อมขนมและรินให้นายตน

    Last Updated : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (2)

    องค์หญิงหนิงเซียงนั่งรถม้าแยกกับองค์หญิงเจียวมิ่งเพื่อเวลากลับจะได้ตรงเข้าวังมาเลยเพราะดูไปแล้วน่าจะกลับเข้าเมืองค่อนข้างเย็น ไหว้พระขอพรเสร็จออกมาจากอารามก็แวะพักริมน้ำตกกินของว่าง เป็นความตั้งใจของพี่สาวที่อยากให้น้องได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติอันสดชื่น“ทำใจให้สบายเถิดนะเซียงเอ๋อร์ อย่าได้กังวลเกินไป เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า องครักษ์จางเองก็เหมาะสมคู่ควร แม้เป็นองครักษ์หากก็เป็นถึงบุตรเจ้ากรมคลัง เป็นสหายสนิทของพี่รอง”องค์หญิงเจียวมิ่งสงสารน้องสาวยิ่งนัก หากก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากให้กำลังใจ“เสด็จพ่อเองก็คงปวดพระทัย หากทรงรับรู้ว่าเจ้ากินไม่ได้นอนไม่หลับจนผ่ายผอมเช่นนี้ ดูแลตัวเองให้ดีจนถึงวันแต่งงานเถิด เจ้าสาวควรมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งผุดผาด”ผู้เป็นน้องยิ้มบางไม่แย้งสิ่งใด นางยังทำใจไม่ได้และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำใจยอมรับการแต่งงานได้หรือไม่ได้เวลากลับองค์หญิงทั้งสองต่างก็ขึ้นรถม้าของตน องค์หญิงหนิงเซียงมีหลิงเอ๋อร์คอยดูแลอยู่ภายในรถม้าด้วย สีหน้าเจ้าตัวดูเคร่งเครียดและครุ่นคิดตลอดเวลา ทว่าองค์หญิงหนิงเซียงไม่ได้สังเกตสิ่งอื่นมากนัก ใบหน้างดงามหมองเศร้าและเหม่อลอย แม้อยู่กับพี่สาวจะทำให้ตน

    Last Updated : 2025-02-27

Latest chapter

  • ฤาจันทราเร้นรัก   27.ลิขิตจันทรา (2)

    “ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ร่างสูงใหญ่เคลื่อนมาหานางพร้อมกับหลี่เหอจือเยว่ยืนนิ่งเพราะรู้สึกถึงแรงบีบถี่ในท้องของตน มือบางกุมท้องและทรุดกายลง เฟยอวี่ก็รีบช่วยประคอง“ปวดท้องหรือ”นางพยักหน้าให้สามี ก่อนจะพูดเสียงสั่น“ข้าทนไม่ไหวแล้ว”เฟยอวี่ตกใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายก็อุ้มภรรยาของตนไปยังดินแดนมนุษย์ หลี่เหอช่วยเนรมิตกระท่อมขึ้นมา“ทำอย่างไรดี หากหลี่เอินอยู่ที่นี่ด้วยก็คงดี”เขาอดคิดถึงน้องสาวไม่ได้เทพสงครามวางร่างอรชรที่งอตัวแล้วร้องดังขึ้นเรื่อยๆ พายุที่หยุดไปเมื่อครู่เริ่มกระหน่ำลงมาอีกครั้ง ฟ้าแลบฟ้าร้องดังสนั่น จือเยว่ยิ่งดิ้นทุรนทุราย ขณะที่เขาทำได้เพียงจับมือบางและโอบกอดอีกฝ่าย“เฟยอวี่...ช่วยด้วย กรี๊ดดดด!!”จือเยว่กรีดร้องออกมาลั่นทั่วทั้งป่า ก่อนแสงสว่างเรืองรองจะวาบขึ้นแล้วปรากฏร่างเด็กทารกใกล้ร่างบอบบางที่หมดสติเฟยอวี่มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก ขณะที่หลี่เหอถึงกับตกตะลึง หากก็รีบเข้ามาอุ้มร่างเล็กที่กำลังแผดเสียงร้องจ้าขึ้นเวลาเดียวกันนั้น ท้องฟ้ามืดมิดสว่างไสวในชั่วพริบตา พายุฝนฟ้าคะนองเลือนหายราวไม่เคยเกิดสภาพอากาศแปรปรวนโหดร้ายก่อนหน้านี้สองหนุ่มสบตา

  • ฤาจันทราเร้นรัก   27.ลิขิตจันทรา (1)

    สองร้อยปีต่อมา...“ให้ลูกไปเถิดนะท่านแม่”“เวลาเช่นนี้สุ่มเสี่ยงเกินกว่าที่ลูกจะไปเสี่ยงอันตราย ท่านย่ารู้ว่าแม่ให้ลูกไปต้องโกรธมากแน่”“ท่านพ่อ”จือเยว่หันไปหาบิดาให้ช่วยเหลือเมื่อมารดาส่ายหน้า ทว่าไท่จื่อจิ่นลี่กลับเหลือบสายตาไปยังภรรยา“ยังไงลูกก็จะไป”ใบหน้างดงามงอง้ำด้วยความขัดอกขัดใจ“เยว่เอ๋อร์ หากในเวลาปกติ พ่อก็คิดว่าเจ้าสมควรไป แต่เวลานี้...”ไท่จื่อสวรรค์ถอนหายยาว“พ่อไม่อนุญาต”จือเยว่มองบิดามารดาอย่างน้อยใจแล้วหันไปยังสามีซึ่งยืนเงียบทั้งยังมีสีหน้าลำบากใจ ริมฝีปากอิ่มสวยก็เม้มขุ่นเคือง“ลูกแข็งแรงดี ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ ก่อนหน้านี้ก็ยังลงไปช่วยเผ่าปีศาจพร้อมกับเฟยอวี่ ครั้งนี้ไยจึงไปไม่ได้”“เวลานั้นลูกไปโดยที่ไม่บอกผู้ใดว่าตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้คนรู้ทั่วทั้งสวรรค์ ยิ่งท่านปู่ท่านย่าของลูก ยิ่งไม่ต้องการให้ลูกทำงานราชกิจใด อีกอย่างก็น่าจะจวนเจียนคลอดแล้ว”“ลูกยังไม่รู้สึกว่าจะถึงเวลา”ผู้ที่ตั้งครรภ์ทว่าท้องไม่ได้โตขึ้นแม้แต่น้อยแย้งมารดา“แม่ก็คลอดลูกหลังตั้งครรภ์ไม่นานนัก”ด้วยบุญญาธิการของชนชั้นสูงเผ่าสวรรค์นั้นไม่อาจล่วงรู้ได้ ฤกษ์งามยามดีเหมาะสมเกิดจากญ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   26.เติมเต็มความคิดถึง (2)

    “จะไม่ให้ข้าได้พักเลยหรือ”“ท่านอยากพักก็พัก ข้าไม่ได้ห้าม”ใบหน้างดงามยังงอง้ำ ดวงตาคู่หวานซึ้งฉายแววขุ่นเคือง ทว่าเฟยอวี่ไม่รู้สึกเกรงกลัวทั้งยังเอ่ยหน้าตาย“ถึงท่านพัก ข้าก็ทำได้ โอ๊ย!”ชายหนุ่มสะดุ้งเพราะนิ้วเล็กจิกแล้วบิดอกหนาของตน“ตรงนี้มันเจ็บนะ”หญิงสาวสะบัดหน้าหนี เขาจึงจับมือที่ประทุษร้ายตนมาจูบ แล้วพาร่างอรชรลงไปนอนสบายๆ ส่วนตนตะแคงข้างกวาดมองเรือนกายเย้ายวน มีเสื้อรั้งอยู่ส่วนแขนและด้านหลัง หากก็แทบจะเปลือยเปล่า“เพิ่งบอกว่าคิดถึงข้า ตอนนี้มางอนเสียแล้ว”“ถึงข้าจะต้องการท่านมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ท่านเอาแต่ใจกับข้า”“อืม ส่วนท่านเอาแต่ใจกับข้าได้”“เฟยอวี่”จือเยว่เสียงเข้มขึ้น ทั้งยังมองสามีตนด้วยแววตาดุ“โธ่ เมื่อครู่เป็นท่านเองที่ปลุกเร้าข้า ทั้งที่ข้าอุตส่าห์ห้ามใจ เพราะเห็นว่าท่านเพิ่งบาดเจ็บและยังเศร้าเสียใจ”“ท่านโทษข้า”เฟยอวี่ยิ้มเจื่อน รู้แล้วว่าหากไม่ยอมก็คงไม่จบ จึงเปลี่ยนไปเป็นง้อภรรยาแทน“ไม่ได้โทษท่าน ข้าดีใจยิ่งนักที่ท่านต้องการข้าถึงเพียงนี้ ข้าผิดที่เย้าท่านให้ได้อาย อย่าโกรธเคืองข้าเลยนะจือเยว่”ชายหนุ่มส่งสายตาอ้อนวอนปริบๆ จือเยว่จึงพยักหน้า

  • ฤาจันทราเร้นรัก   26.เติมเต็มความคิดถึง (1)

    เฟยอวี่ไม่ยอมเป็นผู้รับเพียงฝ่ายเดียว ขยับริมฝีปากได้รูปจูบร้อนแรงกลับไป ขณะยกร่างอรชรให้ขยับขึ้นมาคร่อมตักตน อีกฝ่ายยอมทำตามโดยง่าย มือบางเลื่อนสอดเข้าไปในกลุ่มผมนวดคลึงพลางพัวพันลิ้นเล็กกับลิ้นตนเร่าร้อนจนหายใจลำบาก ทว่าปากนุ่มยังขยับมาเม้มใบหูของเขาต่อทำเอาชายหนุ่มครางครึ้ม“อืม จือเยว่ เวลาร้อยปีทำให้ท่านใจร้อนขึ้นมากนัก”“เพราะข้าคิดถึงอ้อมกอดของท่าน ช่วงเวลาแห่งความสุขแสนสั้นเกินไป”ชายหนุ่มต้องกัดริมฝีปากตนเพราะเจ้าตัวตอบเบาชิดหูทั้งยังกัดติ่งหูเขาหยอกเย้า“ท่านยั่วเย้าเก่งเกินไปแล้ว ข้าคิดว่าท่านคงลืมเลือนสัมผัสจากข้าไปเสียแล้ว”“ข้าเพียงทำตามเสียงเรียกร้องแห่งปรารถนา”บอกแล้วนางก็ไล่เม้มลำคอแกร่ง มือกระชากเสื้อคลุมอีกฝ่ายออกด้วยเวทของตน ก่อนจะไต่สองมือบางไปตามบ่าหนากับแขนกำยำ ทั้งยังจิกปลายนิ้วครูดไปตามแผ่นหลังกว้างเร้าอารมณ์หนุ่มพร้อมแนบหน้าอกตนชิดอกแกร่งเปลือยเปล่า ขยับบดเบียดเชิญชวนมือหนาเลื่อนมาวางแนบเอวบางค่อยๆ ปลดชุดสวยอย่างไม่เร่งร้อนผิดกับอีกฝ่าย ตั้งใจปลดเปลื้องเรือนกายอ้อนแอ้นให้เผยอย่างช้าๆ เพียงด้านหน้า ดูเย้ายวนกระตุ้นเลือดหนุ่มฉกรรจ์ให้ทะยานอยากมากยิ่งขึ้นชายห

  • ฤาจันทราเร้นรัก   25.จือเยว่แม่ทัพสวรรค์ (2)

    “หากไม่คิดบัญชีกับเจ้า ข้าก็ไม่อาจตายตาหลับ ฆ่ามัน!”นางสั่งเสียงเข้ม ฝูงจิ้งจอกก็กระโดดจู่โจม จือเยว่เหินลอยตัวสูงพร้อมหลี่เหอหลี่เอิน และฟาดพันพลังใส่จิ้งจอกที่ถูกวิชามารควบคุม แต่ละตัวตาแดงก่ำน่ากลัวจิ้งจอกกระเด็นไปไกลแต่ก็ผุดยืนขึ้นรวดเร็วราวไม่บาดเจ็บ คงกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกแล้ว ทั้งยังกระโดดได้สูงผิดจิ้งจอกทั่วไปและมีไอดำรอบกายซูเจินเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย นางพุ่งเข้ามาพร้อมสะบัดแขนส่งพลังทำลายล้างสีดำทะมึนเข้ามาใส่ จือเยว่หันไปตั้งรับขณะหลี่เหอหลี่เอินพะวงกับฝูงจิ้งจอก แม้นางจะสกัดพลังทมิฬนั้นได้และผลักดันกลับไปจนอีกฝ่ายผงะ ทว่ากลับมีจิ้งจอกตัวหนึ่งพุ่งมาใส่ หญิงสาวถอยหนีอย่างกะทันไปจนถึงหน้าผา เป็นเวลาเดียวกับที่ซูเจินตั้งตัวได้ซัดพลังตามมา ร่างอรชรถูกกระแทกจากไอดำหงายหลังลงหน้าผาโดยมีจิ้งจอกตัวนั้นตามมาเพื่อขย้ำจือเยว่ลอยลิ่ว กำหนดจิตได้ยากเพราะบาดเจ็บ แล้วอยู่ๆ กลับมีลูกไฟพุ่งลงมายังตัวจิ้งจอกจนถูกเผาไปต่อหน้า รวมทั้งซูเจินกับจิ้งจอกตัวอื่นก็ถูกลูกไฟตามๆ กันขณะได้ยินเสียงซูเจินกรีดร้องหญิงสาวรู้สึกได้ว่าร่างสูงใหญ่โผวูบเข้ามารองรับร่างตนและพาลอยสูงขึ้น ผู้ที่บาดเจ็บเหลือบมอง แ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   25.จือเยว่แม่ทัพสวรรค์ (1)

    เวลาล่วงเลยมาร้อยปี จากขุนพลสวรรค์จือเยว่สามารถขึ้นเป็นแม่ทัพสวรรค์ได้แล้ว นางเป็นผู้ดูแลราชกิจทั่วทั้งหกพิภพแทนไท่จื่อจิ่นลี่เต็มตัว แม้ผู้นำทัพสวรรค์ยังเป็นไท่จื่อ รวมถึงหน้าที่รับผิดชอบของเทพสงครามจือเยว่ก็เป็นผู้จัดการโดยปราศจากการแต่งตั้งเทพสงครามคนใหม่ หญิงสาวคิดว่าองค์จักรพรรดิสวรรค์ยังไม่เห็นว่าผู้ใดมีความสามารถเพียงพอ และตัวนางเองยังต้องได้รับความไว้วางใจจากขุนนางสวรรค์กับหกพิภพถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ตำแน่งใดไม่สำคัญ นางอยากทำหน้าที่ของตนกับเฟยอวี่ให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับเทพสงครามยังคงอยู่“ชายแดนเผ่าจิ้งจอกติดกับดินแดนมนุษย์มีอสูรร้ายอาละวาดกินผู้คนเป็นอาหาร ท่านแม่ทัพจะไปจัดการด้วยตนเองหรือให้ข้าไปแทนขอรับ”หลี่เหอถามขณะหารือในเรื่องฎีกาที่ส่งมา บางส่วนสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องทูลฮ่องเต้สวรรค์ก่อน แม่ทัพจือเยว่จะเป็นผู้ตัดสินใจหรือไม่ก็ปรึกษาไท่จื่อ ด้วยเวลานี้องค์จักรพรรดิวางมือในหลายส่วนแล้วจือเยว่นิ่งงันไป ชายแดนเผ่าจิ้งจอกกับดินแดนมนุษย์ก็หมายถึงเขตรอยเชื่อมต่อที่เคยไปครั้งก่อน ครั้งที่ทำให้นางสูญเสียที่สุดในชีวิต นางไม่ควรไปหากไม่ต้องการเจ็บปวด ทว่าก็คิ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   24.ชะตาผูกพัน (2)

    “ท่านย่ารู้เรื่องนี้ด้วยหรือเพคะ”ฮองเฮาฮุ่ยเฟิ่งอึกอักอ้ำอึ้ง ทว่าเห็นหลานรักเป็นเช่นนี้ก็ไม่อยากปิดบังไว้อีก“ผู้ที่รู้เรื่องนี้ มีท่านปู่ของหลาน ย่า อาจารย์ปู่กับอาจารย์ของหลาน”จือเยว่มองย่าของตนอย่างไม่คาดคิด ขณะที่ฮองเฮายังบอกเล่าต่อไป“เฟยอวี่เคยช่วยชีวิตหลาน เขาปลดผนึกวิชาแปลงกายจากตัวหลานทำให้กลายร่างเป็นหญิง และด้ายแดงก็ผูกพันชะตาหลานทั้งสองไว้นับแต่นั้น ในตอนที่เขาพาหลานมาให้อาจารย์ช่วยรักษา อาจารย์ของหลานจึงบอกให้เฟยอวี่ช่วยเก็บความลับนี้ไว้ อาจารย์ปู่สำนักเทียนซานส่งสารลับแจ้งมายังท่านปู่ ท่านปู่ของหลานจึงรับสั่งให้สะกดอารมณ์ความรู้สึกในหัวใจของหลานเอาไว้ ไม่ต้องการให้หลานผูกพันใจกับผู้ใดแม้แต่เฟยอวี่ และอาจารย์ของหลานก็มอบหมายหน้าที่ให้เขาลงไปขุนเขากลางเวหา”ริมฝีปากอิ่มเผยอ ยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บปวด เพราะศิษย์พี่ของนางเก่งกาจที่สุดในสำนัก นางจึงไม่แปลกใจ ทว่าจากนั้นไม่นานบิดาก็ส่งจางหย่งมารับตัวนางกลับสวรรค์ และไม่ได้พบเฟยอวี่อีกเพราะถูกเวทสะกดใจไว้นี่เอง นางจึงมักรู้สึกปวดหัวใจราวถูกบีบหรือทิ่มแทงทุกครั้งที่อารมณ์เฉียดใกล้ความรู้สึก ‘รัก’‘นางมีหน้าที่อันยิ่งใหญ่รออยู่ ชีว

  • ฤาจันทราเร้นรัก   24.ชะตาผูกพัน (1)

    ร่างบอบบางมุ่งหน้าเข้าป่าลึกภายในสำนักเทียนซาน มีผู้อื่นที่ว่องไวคล่องแคล่วกว่าตนหลายคน ทำให้ต้องเร่งฝีเท้ากระโดดลอยเหาะไปเกาะตามต้นไม้ใหญ่ ธงชัยสำหรับผู้ชนะในการประลองความเร็วนี้มีเพียงห้าคนเท่านั้น และนางก็อยากคว้ามันมาให้ได้จือเยว่ในเวลานี้อายุเพียงพันสองร้อยปี ยังเยาว์วัยและรูปร่างผอมบางสะโอดสะองกว่าบุรุษวัยเดียวกัน ฝีมือก็อ่อนด้อยกว่าศิษย์รุ่นเดียวกัน เพราะไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นสตรี หากคว้าชัยเป็นหนึ่งในห้าได้นางจะไม่ถูกมองว่าอ่อนแอเหมือนคนขี้โรคอีกทว่าเมื่อมองเห็นธงชัยที่อยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง นางก็รีบกระโจนไปให้ถึงโดยเร็ว หากก็มีศิษย์อีกคนเห็นด้วยเช่นกัน ต่างก็เร่งฝีเท้าและปีนป่ายเกาะต้นไม้นั้น แต่ที่ไม่มีใครทันสังเกตคือมีอสรพิษขดอยู่ด้านบนเหนือธงขึ้นไปราวเฝ้าระวัง ทั้งสองต่างขัดแข้งขัดขาช่วงชิงโอกาสที่จะไปให้ถึงธงนั้นก่อนอีกฝ่ายและจือเยว่ก็พลาดถูกเตะจนร่วงหล่นลงมายังดีที่คว้ากิ่งไม้ไว้ได้ นางเร่งปีนกลับขึ้นไปใหม่ เป็นจังหวะเดียวกับที่ศิษย์อีกคนเห็นว่ามีงูอยู่ เขาใช้เวทโจมตีเพื่อให้งูตกลงไป ทว่าโชคไม่ดีที่หล่นมาถูกจือเยว่ด้านล้าง และนางก็ถูกอสรพิษนั้นกัดเข้าที่แขน

  • ฤาจันทราเร้นรัก   23.ผู้ร่วมวิบากกรรม (2)

    “ระวังตัวด้วย”เทพสงครามสั่งเสียงดัง มั่นใจว่าชิงหลุนคงไม่ละมือโดยง่าย และก็เป็นอย่างที่คิด ชิงหลุนยกสองมือชูขึ้น ชั่วอึดใจท้องฟ้าด้านบนก็ดำทะมึนก่อนเหวี่ยงกรงเล็บจิ้งจอกทมิฬมาพร้อมพลังสายฟ้าฟาด ราวตั้งใจใช้พลังโจมตีทั้งหมดที่ตนมีเพื่อทำลายศัตรูเฟยอวี่พยายามเคลื่อนกายไปด้านหน้า หากรอรับเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ หลี่เหอเองก็ถอยไปบังร่างอรชรของนายตนไว้อย่างรู้ใจเทพสงครามว่าจะหาโอกาสเปลี่ยนรับเป็นรุกจากหลังเฟยอวี่ใช้พลังบังคับทวนให้หมุนสกัดกรงเล็บโดยไม่หยุดแล้ว เขาก็ร่ายเวทเพลิงวิหค ปล่อยพลังซัดเข้าหาชิงหลุน อีกฝ่ายตีลังกาหลบได้อย่างเฉียดฉิว นั่นทำให้กรงเล็บจิ้งจอกทมิฬหยุดลงชั่วขณะ เทพสงครามรีบคว้าทวนแล้วโผเข้าฟาดฟันอีกฝ่ายก็ปัดป้องด้วยพลังได้ทุกครั้งสายตาของชิงหลุนเหลือบไปยังจือเยว่ชั่วแวบ ก่อนจะหลบทวนของเทพสงครามหายวับไปใกล้ร่างอรชร ส่งกรงเล็บใส่หลี่เอินเพื่อให้พ้นทางก่อน“โอ๊ะ”“หลี่เอิน”ทั้งจือเยว่กับหลี่เหอต่างตะโกนขึ้นพร้อมกัน หลี่เหอรีบมาขวางแต่เพราะความกังวลห่วงน้องสาวที่กระเด็นไปไกลทำให้เกือบจะหลบพลังของชิงหลุนไม่ทัน ไม่ได้มองว่านายตนพุ่งกายไปหาหลี่เอิน นั่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status