หน้าหลัก / แฟนตาซี / ฤาจันทราเร้นรัก / 4.ผู้ที่จะเป็นราชบุตรเขย (2)

แชร์

4.ผู้ที่จะเป็นราชบุตรเขย (2)

ผู้เขียน: rasita_suin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-27 01:44:13

ในรถม้าองค์หญิงหนิงเซียงมองพัดในมือตนพลางถอนหายใจ ขณะที่หลิงเอ๋อร์ก็มีพัดคอยพัดวีไล่ความร้อนอบอ้าวให้ผู้เป็นนาย ด้วยพัดจากใต้เท้าหลิวนั้นองค์หญิงจะถือไว้ด้วยตนเองเสมอ

“น่าเสียดายที่ก่อนกลับไม่ได้บอกกล่าวใต้เท้ามู่กับใต้เท้าหลิวนะเพคะ”

หลิงเอ๋อร์เอ่ยอย่างรู้ใจว่าแท้จริงแล้วนายตนอยากพบหน้าผู้ใดก่อนเข้าวัง เพราะนับแต่พ่ายแพ้หลิวซูหยวนก็ไปนั่งดูการแข่งขันร่วมกับสหายในสำนักราชเลขาธิการ ไม่ได้มานั่งร่วมโต๊ะกับราชบุตรเขยอีก

“หลิงเอ๋อร์”

ใบหน้าหวานงดงามงอง้ำพลางเอ่ยปรามคนสนิทเสียงอุบอิบเพราะรู้แก่ใจว่าความรู้สึกของตนนั้นกำลังเริ่มไม่เหมาะไม่ควร

ขณะนั้นเสียงม้าร้องดังขึ้นทั้งรถม้ายังกระชากอย่างแรงจนร่างอรชรกระแทกเข้ากับด้านข้างรถม้า

“โอ๊ะ...เกิดอะไรขึ้น”

หลิงเอ๋อร์ร้องขึ้นพลางรีบประคองนายตน

“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงคนที่ควบคุมม้าด้านนอกตะโกนลั่น

“ระวัง! ด้านหน้าระวังด้วย!”

หลายเสียงเริ่มตะโกนดัง รถม้าขององค์หญิงหนิงเซียงอยู่ท้ายขบวน หากม้าตื่นตระหนกวิ่งเร็วอาจลากจูงให้รถม้าไปชนกับทหารองครักษ์รวมถึงรถม้าด้านหน้าได้ นั่นอาจพลอยทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ทั้งกับองค์ชายรองและองค์ชายสาม

รถม้ายังถูกแรงม้ากระชากไปอย่างรวดเร็วและหักเลี้ยวกะทันหัน ทั้งองค์หญิงหนิงเซียงและหลิงเอ๋อร์ต่างก็เอียงไปมาชนเข้ากับไม้แข็งภายในรถม้าไม่หยุด แม้ว่าหลิงเอ๋อร์จะพยายามกอดร่างอรชรอย่างปกป้องแต่ก็มีบางครั้งที่ไม่อาจป้องกันได้

“เหมือนเรากำลังถูกพาไปทางอื่นนะเพคะ”

“นั่นสิ”

องค์หญิงหนิงเซียงพยายามจะเปิดม่านดูด้านนอกหากก็ไม่อาจทำได้ รถม้ากระตุกและกระชากแรงหลายครั้งราวมีคนกำลังพยายามยั้งม้าให้หยุด

“ว้าย!”

รถม้าเอียงซ้ายขวาทั้งองค์หญิงและหลิงเอ๋อร์โอนเอนตามก่อนจะล้มลงไปบนพื้นทั้งคู่

“องค์หญิง”

หลิงเอ๋อร์กำลังจะเข้าไปประคองร่างนายตนขึ้น ทว่าม่านด้านหน้าก็เปิดขึ้นกะทันหัน ทั้งสองสะดุ้งตกใจ หากผู้ที่ชะโงกหน้ามาเป็นราชองครักษ์คนสนิทขององค์ชายรองจึงพอโล่งใจได้

“องค์หญิง ท่านต้องรีบไปจากรถม้านี้โดยเร็ว”

อีกฝ่ายเอ่ยทันควัน

“เชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ”

“จะไปได้ยังไงกัน”

เป็นหลิงเอ๋อร์ถาม ทว่ารถม้ากำลังเหวี่ยงหมุนคว้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่แขนกำยำคว้าร่างอรชรพาออกมาจากรถม้ารั้งแนบอกตน

“หลิงเอ๋อร์ล่ะ...เดี๋ยว...”

องค์หญิงพยายามจะเอื้อมมือไปฉุดคนของตนอย่างเป็นห่วง หากก็ไม่อาจทำได้แต่เมื่อออกมาด้านนอกก็ทันได้เห็นว่าผู้ที่พยายามดึงบังเหียนหยุดยั้งม้าอยู่เป็นหลิวซูหยวน

“นางกำนัลผู้นั้นฝากท่านด้วย”

จางฮ่าวหมิวกล่าวสั้นๆ แล้วโอบร่างอรชรแนบอกพากระโดดลอยสูงออกจารถม้า ขณะเดียวกันหลิงเอ๋อร์ก็ถลันตามออกมา หลิวซูหยวนจึงฉุดมือนางให้กระโดดพร้อมกันหลังจากชะลอม้าลงได้ ซึ่งเป็นเวลาที่รถม้าหมุนตีวงรุนแรงกลางถนนเอียงล้มกระทบพื้นอย่างจัง

ร่างอรชรขององค์หนิงเซียงมีองครักษ์หนุ่มช้อนอุ้มไว้อย่างปลอดภัย ส่วนหลิงเอ๋อร์กับหลิวซูหยวนกลิ้งไปบนพื้นหลายตลบตามแรงเหวี่ยงของรถม้า หากก็ลุกขึ้นมายืนได้ ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็อ้าปากค้างก่อนจะปรบมือและโห่ร้องอย่างยินดีเมื่อผู้อยู่ในรถปลอดภัยจากการช่วยเหลือของบุรุษทั้งสอง

เสียงควบมุ่งหน้าเข้ามาชาวบ้านหลายคนจึงหลบเลี่ยง แล้วก็เห็นว่าเป็นองค์ชายรองกับองค์ชายสาม รวมถึงองครักษ์คนอื่น

“เซียงเอ๋อร์ เจ้าปลอดภัยใช่หรือไม่”

ร่างสูงใหญ่ขององค์ชายรองรีบลงจากม้าพลางเอ่ยถาม ทันได้เห็นว่าสหายคนสนิทปล่อยร่างน้องสาวลงจากอ้อมแขน เมื่อเข้ามาใกล้ก็รีบโอบร่างอรชรมากอดอย่างห่วงใยแล้วกวาดมองซ้ำอีกครั้ง

“เพคะ”

“เฮ้อ โล่งอกไปที ไม่รู้ว่าอยู่ๆ ม้าพยศขึ้นมาได้อย่างไร”

องค์ชายสามที่ตามมาสมทบเอ่ย

“ขอบใจเจ้าทั้งสองคนมากที่ช่วยเซียงเอ๋อร์”

องค์ชายรองเอ่ยเมื่อหลิวซูหยวนพาหลิงเอ๋อร์เดินเข้ามาใกล้

“เจ้าคนดูแลม้านั่นมีโทษหนัก ไม่อาจบังคับม้าได้ทำให้องค์หญิงตกอยู่ในอันตรายถึงเพียงนี้ เอาไว้ไม่ได้”

องค์ชายสามเอ่ยน้ำเสียงเข้ม

“คนผู้นั้นพยายามหยุดยั้งม้าจนถึงขั้นตกจากรถม้าบาดเจ็บไม่น้อย เซียงเอ๋อร์ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

แม้จะบอกอย่างนั้น หากองค์ชายรองกลับสบตากับจางฮ่าวหมิงแทนคำสั่งให้ตรวจสอบเหตุการณ์นี้อย่างละเอียด

ไม่นานนักรถม้าขององค์ชายทั้งสองก็ตามมาถึง องค์ชายรองโอบไหล่บางพาร่างอรชรไปขึ้นรถม้ากับตน องค์หญิงหนิงเซียงเหลือบมองหลิวซูหยวนแวบหนึ่งด้วยอยากรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บตรงส่งใดหรือไม่ เห็นว่าท่าทางปกติก็ลอบถอนหายใจโล่งใจ

“ลูกขอร้อง เสด็จพ่อ เมตตาลูกด้วยเถิด”

ร่างอรชรนั่งคุกเข่าร้องไห้หน้าตำหนักหนิงจินของฮ่องเต้เพราะไม่ทรงอนุญาตให้เข้าเฝ้า นานครู่หนึ่งร่างสูงใหญ่ขององค์ชายรองก็มาถึง

“เซียงเอ๋อร์ เจ้าทำอะไร กลับไปเดี๋ยวนี้”

องค์ชายรองเสวียนหลินได้รู้ว่าองค์หญิงหนิงเซียงมาเข้าเฝ้าพระบิดาเพื่อทัดทาน หลังจากมีราชโองการพระราชทานอภิเษกสมรสระหว่างน้องสาวตนกับจางฮ่าวหมิงเพราะหลิงเอ๋อร์ไปทูลก็รีบรุดมายับยั้งไว้

“พี่รอง ช่วยข้าด้วย ช่วยทูลขอเสด็จพ่อทีว่าข้าไม่อยากแต่งงาน”

องค์หญิงหนิงเซียงจับมือพี่ชายเขย่าพลางขอร้องทั้งน้ำตา

“เจ้าทำเช่นนี้ก็หามีประโยชน์อันใด เสด็จพ่อไม่เปลี่ยนพระทัยแน่”

“อยู่ๆ ก็จะให้ข้าแต่งงาน เสด็จพ่อไม่รักข้าแล้ว พี่รองก็ไม่รักข้า พวกท่านผลักไสข้า”

ผู้ที่คุกเข่าคร่ำครวญตัดพ้อทำเอาองค์ชายรองถึงกับถอนหายใจด้วยความหนักใจ

“เสด็จพ่อโปรดเจ้ามาก แทบไม่อนุญาตให้ออกจากวังด้วยซ้ำมีหรือจะคิดผลักไสเจ้า กลับตำหนักเถิด หากเรื่องเจ้ามาที่นี่แพร่งพรายออกไปคงไม่ดีนัก”

เวลานั้นประตูตำหนักเปิดออกและขันทีคนสนิทฮ่องเต้ก็ออกมา องค์หญิงเซียงสีหน้ามีความหวังทว่ากลับต้องสลดลงเมื่ออีกฝ่ายเอ่ย

“ฝ่าบาทมีรับสั่งให้องค์ชายรองเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

“พี่รอง...ได้โปรด ช่วยข้าด้วยเถิด”

องค์หญิงหนิงเซียงจับมือพร้อมเงยหน้าขอร้องพี่ชายอีกครั้งก่อนเขาจะเข้าไปด้านใน จากนั้นก็เพียงร้องไห้สะอึกสะอื้นคุกเข่าอยู่ที่เดิมทว่าขันทีอาวุโสคนสนิทของฮ่องเต้กลับออกมาพร้อมพยักหน้าให้ขันทีติดตามสองคนก้าวเข้ามาฉุดนางให้ลุกขึ้น

“พวกเจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้านะ”

“พวกท่าน ปล่อยองค์หญิงนะ”

หลิงเอ๋อร์ที่ตามองค์ชายรองมา รีบมากอดนายตนโดยไม่ยอมให้ผู้ใดแตะต้อง

“เชิญเสด็จองค์หญิงหนิงเซียงกลับตำหนัก”

ขันทีอาวุโสเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ ขันทีติดตามทั้งสองก็รีบพาทั้งองค์หญิงหนิงเซียงและหลิงเอ๋อร์ให้ออกจากหน้าตำหนักหนิงจิน โดยมีขันทีอาวุโสนำทางพลางลอบถอนหายใจอย่างหนักใจ

“ไม่นะ ข้าไม่ไป ปล่อยข้า เสด็จพ่อ...”

=====

อ้าว? หวยมาออกที่จางฮ่าวหมิง องค์หญิงหนิงเซียงจะทำยังไงล่ะเนี่ย? ^-^"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฤาจันทราเร้นรัก   5.คนขี้ขลาด (1)

    “เซียงเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำให้สด็จพ่อโกรธมาก อย่าได้ทำเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจถูกลงทัณฑ์”องค์ชายรองเสวียนหลินตามมายังตำหนักองค์หญิงหนิงเซียงหลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้ว“ให้เสด็จพ่อลงทัณฑ์ข้าเสียยังดีกว่าให้ข้าแต่งงาน”เห็นน้ำตาที่รินไหลไม่ขาดสาย ทว่าสีหน้ากลับมุ่งมั่นแข็งขืนของน้องสาวแล้วสีหน้าองค์ชายรองกลับยิ่งเคร่งเครียด เจ้าตัวยังนั่งคุกเข่าอยู่ในตำหนักตนไม่ขยับแม้หลิงเอ๋อร์กับนางกำนัลคนอื่นจะช่วยกันเลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เป็นผล“เซียงเอ๋อร์”องค์ชายรองอ่อนใจในความดื้อดึงของน้องสาว แปลกใจนักที่น้องน้อยผู้เรียบร้อยและหัวอ่อนเสมอมาของตนกลับกล้าขัดรับสั่งพระบิดา‘ช่างดื้อรั้นเอาแต่ใจนัก หากขอสิ่งใดข้าก็อนุญาต กลับคำ พลิกราชโองการ คำพูดของข้าจะยังศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้อีกหรือ เจ้าพูดกับน้องเจ้าให้นางเข้าใจ ข้าตัดสินใจเช่นนี้ก็เพื่อนาง’พระบิดารับสั่งย้ำอย่างขุ่นเคืององค์ชายรองย่อกายลงตรงหน้าอีกฝ่าย วางมือสองข้างบนบ่าบอบบาง“เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า ชาวเมืองมากมายต่างก็เห็นฮ่าวหมิงอุ้มเจ้า แตะต้องเนื้อตัวและช่วยชีวิตเจ้าไว้ เขามีความดีความชอบ ส่วนเจ้าเป็นถึงองค์หญิง ไม่ควรมีผู้ใดแตะต้องชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   5.คนขี้ขลาด (2)

    “ใต้เท้าหลิว”ชายหนุ่มกับมองผู้เข้ามาหาด้วยสีเข้มขรึม ขณะสหายที่มาด้วยกันแปลกใจ หากเมื่อนางกำนัลเอ่ยต่อเขาก็ขอตัว“เอ่อ ข้ามีเรื่องขอพูดกับใต้เท้าตามลำพังได้หรือไม่เจ้าคะ”“ข้าขอตัวก่อนก็แล้วกัน”อีกฝ่ายจากไปโดยง่าย เพราะหลิวซูหยวนเป็นที่สนใจของสตรีทั้งในวังและบรรดาบุตรสาวขุนนางหรือแม้แต่ท่านหญิง หลายคนเพียงแอบเมียงทว่านางกำนัลผู้นี้ช่างกล้าหาญนักในความคิดของเขาจึงไม่อยากขัด“มีเรื่องใดหรือ”“เชิญใต้เท้าตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ”หลิงเอ๋อร์ผายมือไปยังหลังต้นไม้ใหญ่ริมกำแพงอุทยานแล้วเดินนำ หลิวซูหยวนลังเลหากก็ก้าวตามด้วยความตงิดใจ กระทั่งพ้นต้นไม้มาก็เห็นร่างอรชรที่ทำเอาคิ้วเข้มขมวด ส่วนนางกำนัลสาวกลับไปดูต้นทาง“ถวายพระพรองค์หญิง”“ใต้เท้าหลิว”องค์หญิงหนิงเซียงมองผู้ที่อยู่ในหัวใจตนด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวัง กระนั้นก็ไม่มั่นใจนักว่าสิ่งที่นางต้องการพูดกับอีกฝ่าย ชายหนุ่มจะคิดเห็นอย่างไร“ข้า...เอ่อ...”สบตาคมเข้มนิ่งเฉยแล้วนางกลับพูดไม่ออก“องค์หญิงมีสิ่งใดรับสั่งกับกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ หากมีผู้ใดผ่านมาเห็นเข้าคงไม่เหมาะนัก”อีกฝ่ายถามเสียงเรียบ บั่นทอนกำลังใจของผู้ที่เตรียมตัวเตรียมใจมาแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (1)

    “องค์หญิง กินอีกคำสองคำก็ยังดีนะเพคะ”หลิงเอ๋อร์พยายามคะยั้นคะยอเมื่อองค์หญิงหนิงเซียงกินอาหารไปเพียงเล็กน้อย ร่างอรชรผ่ายผอมบอบบางยิ่งกว่าเดิมจนดวงหน้างดงามซีดตอบ นางกำนัลคนสนิทที่เอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดในทุกวันเห็นแล้วก็ปวดใจนัก“เอาออกไปเถิด ข้าไม่อยากกินแล้ว”“โธ่ องค์หญิง”องค์หญิงหนิงเซียงไม่สนใจเสียงโอดของนางกำนัลคนสนิท ร่างบอบบางลุกจากโต๊ะทานอาหารกลับเข้าไปในห้องนอน หลิงเอ๋อร์จึงได้แต่พยักหน้าเรียกให้นางกำนัลอีกสองคนเข้ามาเก็บอาหารออกไปแล้วก้าวตามนายตนร่างอรชรทรุดลงนั่งตรงโต๊ะเขียนหนังสือ หลิงเอ๋อร์ก็รีบเข้ามาช่วยฝนหมึก จัดกระดาษกับพู่กันให้“ข้าอยากได้ชากุหลาบ เจ้าไปสั่งที่ห้องเครื่องให้หน่อยนะหลิงเอ๋อร์”“เพคะ”หลิงเอ๋อร์ออกไปแล้วองค์หญิงหนิงเซียงก็เริ่มเขียนอักษรลงบนกระดาษช้าๆ มือที่จับพู่กันมั่นคง แม้กายจะสั่นด้วยแรงสะอื้นเบาๆ ทว่าเมื่อน้ำตาเริ่มรื้นใกล้หยาดรินปลายนิ้วเรียวก็กรีดทิ้ง ไม่ยอมให้หยดลงบนกระดาษ ไม่นานนักหนังสือสองฉบับก็ถูกพับใส่ซอง ก่อนนางจะเขียนนามผู้ที่ต้องการส่งถึง แล้วก็เป็นเวลาเดียวกับที่หลิงเอ๋อร์เดินนำนางกำนัลอีกคนยกกากับถ้วยน้ำชาเข้ามาพร้อมขนมและรินให้นายต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (2)

    องค์หญิงหนิงเซียงนั่งรถม้าแยกกับองค์หญิงเจียวมิ่งเพื่อเวลากลับจะได้ตรงเข้าวังมาเลยเพราะดูไปแล้วน่าจะกลับเข้าเมืองค่อนข้างเย็น ไหว้พระขอพรเสร็จออกมาจากอารามก็แวะพักริมน้ำตกกินของว่าง เป็นความตั้งใจของพี่สาวที่อยากให้น้องได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติอันสดชื่น“ทำใจให้สบายเถิดนะเซียงเอ๋อร์ อย่าได้กังวลเกินไป เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า องครักษ์จางเองก็เหมาะสมคู่ควร แม้เป็นองครักษ์หากก็เป็นถึงบุตรเจ้ากรมคลัง เป็นสหายสนิทของพี่รอง”องค์หญิงเจียวมิ่งสงสารน้องสาวยิ่งนัก หากก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากให้กำลังใจ“เสด็จพ่อเองก็คงปวดพระทัย หากทรงรับรู้ว่าเจ้ากินไม่ได้นอนไม่หลับจนผ่ายผอมเช่นนี้ ดูแลตัวเองให้ดีจนถึงวันแต่งงานเถิด เจ้าสาวควรมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งผุดผาด”ผู้เป็นน้องยิ้มบางไม่แย้งสิ่งใด นางยังทำใจไม่ได้และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำใจยอมรับการแต่งงานได้หรือไม่ได้เวลากลับองค์หญิงทั้งสองต่างก็ขึ้นรถม้าของตน องค์หญิงหนิงเซียงมีหลิงเอ๋อร์คอยดูแลอยู่ภายในรถม้าด้วย สีหน้าเจ้าตัวดูเคร่งเครียดและครุ่นคิดตลอดเวลา ทว่าองค์หญิงหนิงเซียงไม่ได้สังเกตสิ่งอื่นมากนัก ใบหน้างดงามหมองเศร้าและเหม่อลอย แม้อยู่กับพี่สาวจะทำให้ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   7.น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ (1)

    นางหลงทาง...ผู้ที่ไม่เคยไปมาในเมืองหลวงด้วยตนเองเดินโผเผอย่างเหนื่อยล้า นับแต่หนีจากร้านผ้ามาองค์หญิงหนิงเซียงกลับก้าวไปอย่างไร้จุดหมาย หลิงเอ๋อร์กำชับว่าให้หาโรงเตี๊ยมเพื่อพักทว่านางกลับไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน เดินไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่พบโรงเตี๊ยมและเวลาก็ใกล้จะเย็นแล้วจำเป็นต้องมีที่พักหลับนอนองค์หญิงหนิงเซียงเป็นห่วงหลิงเอ๋อร์มากกว่าตนเอง ทว่าเพราะอีกฝ่ายยอมทำทุกอย่างเพื่อตนนางจึงมุ่งมั่นที่จะหนีดรอดให้ได้‘ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร’ขณะที่อยู่ในรถม้านางยังตัดสินใจไม่ได้ ทว่าอีกฝ่ายก็คุกเข่าอ้อนวอน‘องค์หญิงของหลิงเอ๋อร์ หลิงเอ๋อร์ไม่อยากให้ท่านทุกข์ทรมานทั้งกายใจ เห็นท่านมีคราบน้ำตาอาบแก้มในทุกวันคืน กินอาหารน้อยนิด หลิงเอ๋อร์ก็ทุกข์ทรมานไปพร้อมท่าน ยิ่งท่านทำร้ายตัวเอง หลิงเอ๋อร์ยิ่งกลัว ได้โปรด ไม่ว่าสิ่งใด ขอเพียงท่านกลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลิงเอ๋อร์พร้อมเผชิญเพคะ’เจ้าตัวเอ่ยเจือสะอื้น ทำเอาองค์หญิงหนิงเซียงน้ำตาไหลไปด้วย ดวงตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำตานั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวปวดร้าวในอกเพียงใดที่เห็นนางปราศจากความสุขทั้งกายและใจ‘ไปจากวังหลวง เพื่อพบชีวิตที่อิสระและมีความสุขอย่างแท้จริงเถิดเพค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   7.น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ (2)

    ใจดวงน้อยสั่นไหวด้วยความไม่มั่นใจขณะนั่งอยู่ในรถม้าที่กำลังเคลื่อนมาหน้าประตูเมือง เหลือบมองผู้ที่นั่งอีกด้านในรถม้าซึ่งใบหน้านิ่งสนิทแล้วก็เม้มริมฝีปากก้มหน้าลงครุ่นคิด‘ท่านคิดจะไปที่ใด’หลังหลบทหารมายังที่หนึ่งนางสะบัดตัวจะเดินหนีอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้น‘ข้าไม่จำเป็นต้องบอกท่าน’‘ท่านยังไม่รู้จะไปที่ใดมากกว่า’ใบหน้าเฉยชากับคำพูดกระด้างราวเย้ยหยันนั้นกวนอารมณ์นางให้ขุ่นนัก‘ไยท่านต้องมายุ่งกับข้าอีก ในเมื่อปฏิเสธข้าแล้วก็ปล่อยให้ข้าไปตามทางของข้า ไม่ต้องข้องเกี่ยวหรือใส่ใจใดๆ อีก’‘เห็นท่านกำลังพาตัวเองก้าวเข้าสู่อันตรายจะให้ข้าละเลยได้อย่างไร’ริมฝีปากอิ่มสวยขยับยิ้มหยันกับคำเอ่ยราวใส่ใจ‘ทั้งที่ท่านทำให้ข้าอับอายขายหน้า เป็นผู้หญิงไร้ยางอายไปแล้วยังบอกว่าไม่อาจละเลยอีกหรือ หึ...น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ’องค์หญิงหนิงเซียงเมินหน้าหนีจะเดินจากมา ทว่ากลับต้องชะงักอย่างลังเลในคำพูดของหลิวซูหยวน‘หากท่านต้องการออกนอกเมืองไปกับข้าก็ได้ อีกอย่างท่านไม่ควรอยู่ในชุดสตรี’และแล้วนางก็จำต้องให้ชายหนุ่มช่วยเหลือแม้ไม่รู้ว่าออกนอกเมืองไปแล้วจะทำอย่างไรต่อไป แต่หากยังอยู่ในนี้นางต้องถูกเจอตัวและพาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • ฤาจันทราเร้นรัก   บทนำ

    ผ้าห่มแพรมันลื่นถูกกระชากออกพร้อมกับรู้สึกได้ว่ามีการขยับเขยื้อนทั้งที่ตนยังนิ่งทำให้ผู้ที่หนักศีรษะรวมไปถึงร่างกายพยายามลืมตาพร้อมได้ยินเสียงกร้าวลั่น“หญิงโฉดชายชั่ว บังอาจนัก!”ร่างอรชรสะดุ้งเฮือก เปลือกตาที่กำลังปรือปรอยเปิดขึ้นแล้วก็เห็นคนผู้หนึ่งถูกยันตกลงจากเตียง ส่วนตนรีบคว้าผ้าห่มปกปิดเรือนกายด้วยรู้สึกโล่งจนน่าหวั่นใจ“ฝ่าบาท ข้าน้อยมิบังอาจ ขอฝ่าบาททรงเมตตา”ผู้ที่ตกไปด้านล่างเหมือนจะตื่นเต็มตาในทันใดแล้วรีบโขกศีรษะลงพื้นเมื่อเห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ยืนตระหง่านใบหน้าถมึงทึงสายตาหญิงสาวกระจ่างชัดแล้วในตอนนี้ ร่างอรชรตัวสั่นเทา สองมือกุมผ้าแพรแน่นกระชับลำคอ ขณะสบกับดวงตาคู่คมดุกร้าวของผู้มาเยือน นางส่ายหน้าปฏิเสธให้อีกฝ่ายขณะศีรษะปวดร้าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแม้จะยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ทว่าตื่นขึ้นมาโดยมีชายอื่นอยู่บนเตียงตนเช่นนี้อย่างไรนางก็มีความผิดมุมปากได้รูปงามบนใบหน้าขาวคมคายกระตุกหยัน แววตาไร้ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจทำเอาหญิงสาวใจหายวาบ“ข้าน้อยไม่รู้ว่ามาอยู่ในห้องบรรทมของพระสนมได้อย่างไร ขอฝ่าบาททรงเมตตาไต่สวนหาความจริงด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ชายผู้นั้นยังโขกศีรษะร้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • ฤาจันทราเร้นรัก   1.วิบากกรรมพันครั้ง (1)

    หิมะขาวโพลนปกคลุมทั่วขุนเขา ภายในถ้ำลึกเต็มไปด้วยน้ำแข็ง บนแท่นน้ำแข็งเย็นยะเยียบมีร่างอรชรนั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรนิ่งพร้อมแสงวาบขึ้นกลางหน้าผากมนเป็นรูปคล้ายกลีบดอกโบตั๋น ดวงหน้างามหวานซึ้งมีเหงื่อซึมผุดพราย คิ้วเรียวคมขมวดมุ่น ราวกำลังต่อสู้กับบางอย่างก่อนทั้งร่างจะสะดุ้งเฮือกเพราะหัวใจปวดร้าวเหมือนถูกทิ่มแทงจนกระอักเลือดออกมา ดวงตาคู่เรียวงามเปิดขึ้นกะทันหัน หากไม่นานแสงเรืองรองกลีบดอกโบตั๋นก็จางหายไปพร้อมเปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงและร่างอรชรล้มลงนอนหมดสติกลางแท่นน้ำแข็งไอเย็นจัดเข้าแทรกซึมร่างกายจนใบหน้าขาวนวลเนียนซีดเผือด กลีบปากอิ่มสีหวานคล้ำขึ้น ร่างอรชรนอนนิ่งนานครู่หนึ่งจึงมีเสียงหินก้อนใหญ่เคลื่อนไหว แล้วใครคนหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นด้านหน้าช่องว่างพลางก้าวเข้ามาอย่างเร่งรีบ“เยว่เอ๋อร์”เจ้าของร่างอรชรเอ่ยเสียงเครียด ใบหน้าเรียวงดงามมีความวิตกกังวลเมื่อเห็นคนบนแท่นบาดเจ็บและรีบช่วยพยุง ทว่าไอเย็นเยียบที่ได้รับรู้จากร่างอีกฝ่ายทำให้นางยิ่งหน้าเสียพลางประคองเรือนร่างบอบบางใกล้เคียงตนขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะเร่งใช้พลังปราณเพื่อเยียวยาผู้หมดสติ หากก็เพียงช่วยได้บางส่วนเท่านั้น เมื่ออีกฝ่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23

บทล่าสุด

  • ฤาจันทราเร้นรัก   7.น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ (2)

    ใจดวงน้อยสั่นไหวด้วยความไม่มั่นใจขณะนั่งอยู่ในรถม้าที่กำลังเคลื่อนมาหน้าประตูเมือง เหลือบมองผู้ที่นั่งอีกด้านในรถม้าซึ่งใบหน้านิ่งสนิทแล้วก็เม้มริมฝีปากก้มหน้าลงครุ่นคิด‘ท่านคิดจะไปที่ใด’หลังหลบทหารมายังที่หนึ่งนางสะบัดตัวจะเดินหนีอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้น‘ข้าไม่จำเป็นต้องบอกท่าน’‘ท่านยังไม่รู้จะไปที่ใดมากกว่า’ใบหน้าเฉยชากับคำพูดกระด้างราวเย้ยหยันนั้นกวนอารมณ์นางให้ขุ่นนัก‘ไยท่านต้องมายุ่งกับข้าอีก ในเมื่อปฏิเสธข้าแล้วก็ปล่อยให้ข้าไปตามทางของข้า ไม่ต้องข้องเกี่ยวหรือใส่ใจใดๆ อีก’‘เห็นท่านกำลังพาตัวเองก้าวเข้าสู่อันตรายจะให้ข้าละเลยได้อย่างไร’ริมฝีปากอิ่มสวยขยับยิ้มหยันกับคำเอ่ยราวใส่ใจ‘ทั้งที่ท่านทำให้ข้าอับอายขายหน้า เป็นผู้หญิงไร้ยางอายไปแล้วยังบอกว่าไม่อาจละเลยอีกหรือ หึ...น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ’องค์หญิงหนิงเซียงเมินหน้าหนีจะเดินจากมา ทว่ากลับต้องชะงักอย่างลังเลในคำพูดของหลิวซูหยวน‘หากท่านต้องการออกนอกเมืองไปกับข้าก็ได้ อีกอย่างท่านไม่ควรอยู่ในชุดสตรี’และแล้วนางก็จำต้องให้ชายหนุ่มช่วยเหลือแม้ไม่รู้ว่าออกนอกเมืองไปแล้วจะทำอย่างไรต่อไป แต่หากยังอยู่ในนี้นางต้องถูกเจอตัวและพาก

  • ฤาจันทราเร้นรัก   7.น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ (1)

    นางหลงทาง...ผู้ที่ไม่เคยไปมาในเมืองหลวงด้วยตนเองเดินโผเผอย่างเหนื่อยล้า นับแต่หนีจากร้านผ้ามาองค์หญิงหนิงเซียงกลับก้าวไปอย่างไร้จุดหมาย หลิงเอ๋อร์กำชับว่าให้หาโรงเตี๊ยมเพื่อพักทว่านางกลับไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน เดินไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่พบโรงเตี๊ยมและเวลาก็ใกล้จะเย็นแล้วจำเป็นต้องมีที่พักหลับนอนองค์หญิงหนิงเซียงเป็นห่วงหลิงเอ๋อร์มากกว่าตนเอง ทว่าเพราะอีกฝ่ายยอมทำทุกอย่างเพื่อตนนางจึงมุ่งมั่นที่จะหนีดรอดให้ได้‘ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร’ขณะที่อยู่ในรถม้านางยังตัดสินใจไม่ได้ ทว่าอีกฝ่ายก็คุกเข่าอ้อนวอน‘องค์หญิงของหลิงเอ๋อร์ หลิงเอ๋อร์ไม่อยากให้ท่านทุกข์ทรมานทั้งกายใจ เห็นท่านมีคราบน้ำตาอาบแก้มในทุกวันคืน กินอาหารน้อยนิด หลิงเอ๋อร์ก็ทุกข์ทรมานไปพร้อมท่าน ยิ่งท่านทำร้ายตัวเอง หลิงเอ๋อร์ยิ่งกลัว ได้โปรด ไม่ว่าสิ่งใด ขอเพียงท่านกลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลิงเอ๋อร์พร้อมเผชิญเพคะ’เจ้าตัวเอ่ยเจือสะอื้น ทำเอาองค์หญิงหนิงเซียงน้ำตาไหลไปด้วย ดวงตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำตานั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวปวดร้าวในอกเพียงใดที่เห็นนางปราศจากความสุขทั้งกายและใจ‘ไปจากวังหลวง เพื่อพบชีวิตที่อิสระและมีความสุขอย่างแท้จริงเถิดเพค

  • ฤาจันทราเร้นรัก   6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (2)

    องค์หญิงหนิงเซียงนั่งรถม้าแยกกับองค์หญิงเจียวมิ่งเพื่อเวลากลับจะได้ตรงเข้าวังมาเลยเพราะดูไปแล้วน่าจะกลับเข้าเมืองค่อนข้างเย็น ไหว้พระขอพรเสร็จออกมาจากอารามก็แวะพักริมน้ำตกกินของว่าง เป็นความตั้งใจของพี่สาวที่อยากให้น้องได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติอันสดชื่น“ทำใจให้สบายเถิดนะเซียงเอ๋อร์ อย่าได้กังวลเกินไป เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า องครักษ์จางเองก็เหมาะสมคู่ควร แม้เป็นองครักษ์หากก็เป็นถึงบุตรเจ้ากรมคลัง เป็นสหายสนิทของพี่รอง”องค์หญิงเจียวมิ่งสงสารน้องสาวยิ่งนัก หากก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากให้กำลังใจ“เสด็จพ่อเองก็คงปวดพระทัย หากทรงรับรู้ว่าเจ้ากินไม่ได้นอนไม่หลับจนผ่ายผอมเช่นนี้ ดูแลตัวเองให้ดีจนถึงวันแต่งงานเถิด เจ้าสาวควรมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งผุดผาด”ผู้เป็นน้องยิ้มบางไม่แย้งสิ่งใด นางยังทำใจไม่ได้และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำใจยอมรับการแต่งงานได้หรือไม่ได้เวลากลับองค์หญิงทั้งสองต่างก็ขึ้นรถม้าของตน องค์หญิงหนิงเซียงมีหลิงเอ๋อร์คอยดูแลอยู่ภายในรถม้าด้วย สีหน้าเจ้าตัวดูเคร่งเครียดและครุ่นคิดตลอดเวลา ทว่าองค์หญิงหนิงเซียงไม่ได้สังเกตสิ่งอื่นมากนัก ใบหน้างดงามหมองเศร้าและเหม่อลอย แม้อยู่กับพี่สาวจะทำให้ต

  • ฤาจันทราเร้นรัก   6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (1)

    “องค์หญิง กินอีกคำสองคำก็ยังดีนะเพคะ”หลิงเอ๋อร์พยายามคะยั้นคะยอเมื่อองค์หญิงหนิงเซียงกินอาหารไปเพียงเล็กน้อย ร่างอรชรผ่ายผอมบอบบางยิ่งกว่าเดิมจนดวงหน้างดงามซีดตอบ นางกำนัลคนสนิทที่เอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดในทุกวันเห็นแล้วก็ปวดใจนัก“เอาออกไปเถิด ข้าไม่อยากกินแล้ว”“โธ่ องค์หญิง”องค์หญิงหนิงเซียงไม่สนใจเสียงโอดของนางกำนัลคนสนิท ร่างบอบบางลุกจากโต๊ะทานอาหารกลับเข้าไปในห้องนอน หลิงเอ๋อร์จึงได้แต่พยักหน้าเรียกให้นางกำนัลอีกสองคนเข้ามาเก็บอาหารออกไปแล้วก้าวตามนายตนร่างอรชรทรุดลงนั่งตรงโต๊ะเขียนหนังสือ หลิงเอ๋อร์ก็รีบเข้ามาช่วยฝนหมึก จัดกระดาษกับพู่กันให้“ข้าอยากได้ชากุหลาบ เจ้าไปสั่งที่ห้องเครื่องให้หน่อยนะหลิงเอ๋อร์”“เพคะ”หลิงเอ๋อร์ออกไปแล้วองค์หญิงหนิงเซียงก็เริ่มเขียนอักษรลงบนกระดาษช้าๆ มือที่จับพู่กันมั่นคง แม้กายจะสั่นด้วยแรงสะอื้นเบาๆ ทว่าเมื่อน้ำตาเริ่มรื้นใกล้หยาดรินปลายนิ้วเรียวก็กรีดทิ้ง ไม่ยอมให้หยดลงบนกระดาษ ไม่นานนักหนังสือสองฉบับก็ถูกพับใส่ซอง ก่อนนางจะเขียนนามผู้ที่ต้องการส่งถึง แล้วก็เป็นเวลาเดียวกับที่หลิงเอ๋อร์เดินนำนางกำนัลอีกคนยกกากับถ้วยน้ำชาเข้ามาพร้อมขนมและรินให้นายต

  • ฤาจันทราเร้นรัก   5.คนขี้ขลาด (2)

    “ใต้เท้าหลิว”ชายหนุ่มกับมองผู้เข้ามาหาด้วยสีเข้มขรึม ขณะสหายที่มาด้วยกันแปลกใจ หากเมื่อนางกำนัลเอ่ยต่อเขาก็ขอตัว“เอ่อ ข้ามีเรื่องขอพูดกับใต้เท้าตามลำพังได้หรือไม่เจ้าคะ”“ข้าขอตัวก่อนก็แล้วกัน”อีกฝ่ายจากไปโดยง่าย เพราะหลิวซูหยวนเป็นที่สนใจของสตรีทั้งในวังและบรรดาบุตรสาวขุนนางหรือแม้แต่ท่านหญิง หลายคนเพียงแอบเมียงทว่านางกำนัลผู้นี้ช่างกล้าหาญนักในความคิดของเขาจึงไม่อยากขัด“มีเรื่องใดหรือ”“เชิญใต้เท้าตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ”หลิงเอ๋อร์ผายมือไปยังหลังต้นไม้ใหญ่ริมกำแพงอุทยานแล้วเดินนำ หลิวซูหยวนลังเลหากก็ก้าวตามด้วยความตงิดใจ กระทั่งพ้นต้นไม้มาก็เห็นร่างอรชรที่ทำเอาคิ้วเข้มขมวด ส่วนนางกำนัลสาวกลับไปดูต้นทาง“ถวายพระพรองค์หญิง”“ใต้เท้าหลิว”องค์หญิงหนิงเซียงมองผู้ที่อยู่ในหัวใจตนด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวัง กระนั้นก็ไม่มั่นใจนักว่าสิ่งที่นางต้องการพูดกับอีกฝ่าย ชายหนุ่มจะคิดเห็นอย่างไร“ข้า...เอ่อ...”สบตาคมเข้มนิ่งเฉยแล้วนางกลับพูดไม่ออก“องค์หญิงมีสิ่งใดรับสั่งกับกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ หากมีผู้ใดผ่านมาเห็นเข้าคงไม่เหมาะนัก”อีกฝ่ายถามเสียงเรียบ บั่นทอนกำลังใจของผู้ที่เตรียมตัวเตรียมใจมาแล

  • ฤาจันทราเร้นรัก   5.คนขี้ขลาด (1)

    “เซียงเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำให้สด็จพ่อโกรธมาก อย่าได้ทำเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจถูกลงทัณฑ์”องค์ชายรองเสวียนหลินตามมายังตำหนักองค์หญิงหนิงเซียงหลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้ว“ให้เสด็จพ่อลงทัณฑ์ข้าเสียยังดีกว่าให้ข้าแต่งงาน”เห็นน้ำตาที่รินไหลไม่ขาดสาย ทว่าสีหน้ากลับมุ่งมั่นแข็งขืนของน้องสาวแล้วสีหน้าองค์ชายรองกลับยิ่งเคร่งเครียด เจ้าตัวยังนั่งคุกเข่าอยู่ในตำหนักตนไม่ขยับแม้หลิงเอ๋อร์กับนางกำนัลคนอื่นจะช่วยกันเลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เป็นผล“เซียงเอ๋อร์”องค์ชายรองอ่อนใจในความดื้อดึงของน้องสาว แปลกใจนักที่น้องน้อยผู้เรียบร้อยและหัวอ่อนเสมอมาของตนกลับกล้าขัดรับสั่งพระบิดา‘ช่างดื้อรั้นเอาแต่ใจนัก หากขอสิ่งใดข้าก็อนุญาต กลับคำ พลิกราชโองการ คำพูดของข้าจะยังศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้อีกหรือ เจ้าพูดกับน้องเจ้าให้นางเข้าใจ ข้าตัดสินใจเช่นนี้ก็เพื่อนาง’พระบิดารับสั่งย้ำอย่างขุ่นเคืององค์ชายรองย่อกายลงตรงหน้าอีกฝ่าย วางมือสองข้างบนบ่าบอบบาง“เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า ชาวเมืองมากมายต่างก็เห็นฮ่าวหมิงอุ้มเจ้า แตะต้องเนื้อตัวและช่วยชีวิตเจ้าไว้ เขามีความดีความชอบ ส่วนเจ้าเป็นถึงองค์หญิง ไม่ควรมีผู้ใดแตะต้องชิ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   4.ผู้ที่จะเป็นราชบุตรเขย (2)

    ในรถม้าองค์หญิงหนิงเซียงมองพัดในมือตนพลางถอนหายใจ ขณะที่หลิงเอ๋อร์ก็มีพัดคอยพัดวีไล่ความร้อนอบอ้าวให้ผู้เป็นนาย ด้วยพัดจากใต้เท้าหลิวนั้นองค์หญิงจะถือไว้ด้วยตนเองเสมอ“น่าเสียดายที่ก่อนกลับไม่ได้บอกกล่าวใต้เท้ามู่กับใต้เท้าหลิวนะเพคะ”หลิงเอ๋อร์เอ่ยอย่างรู้ใจว่าแท้จริงแล้วนายตนอยากพบหน้าผู้ใดก่อนเข้าวัง เพราะนับแต่พ่ายแพ้หลิวซูหยวนก็ไปนั่งดูการแข่งขันร่วมกับสหายในสำนักราชเลขาธิการ ไม่ได้มานั่งร่วมโต๊ะกับราชบุตรเขยอีก“หลิงเอ๋อร์”ใบหน้าหวานงดงามงอง้ำพลางเอ่ยปรามคนสนิทเสียงอุบอิบเพราะรู้แก่ใจว่าความรู้สึกของตนนั้นกำลังเริ่มไม่เหมาะไม่ควรขณะนั้นเสียงม้าร้องดังขึ้นทั้งรถม้ายังกระชากอย่างแรงจนร่างอรชรกระแทกเข้ากับด้านข้างรถม้า“โอ๊ะ...เกิดอะไรขึ้น”หลิงเอ๋อร์ร้องขึ้นพลางรีบประคองนายตน“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”เสียงคนที่ควบคุมม้าด้านนอกตะโกนลั่น“ระวัง! ด้านหน้าระวังด้วย!”หลายเสียงเริ่มตะโกนดัง รถม้าขององค์หญิงหนิงเซียงอยู่ท้ายขบวน หากม้าตื่นตระหนกวิ่งเร็วอาจลากจูงให้รถม้าไปชนกับทหารองครักษ์รวมถึงรถม้าด้านหน้าได้ นั่นอาจพลอยทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ทั้งกับองค์ชายรองและองค์ชายสามรถม้ายังถูกแ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   4.ผู้ที่จะเป็นราชบุตรเขย (1)

    แคว้นอันมีการแข่งขันเตะลูกหนังเป็นการละเล่นประจำปี แต่ละกรมจะจัดกลุ่มคนเพื่อแข่งขันเจ็ดคน กรมใดมีชัยได้อันดับหนึ่งจะได้รับพระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้เป็นทองคำยี่สิบก้อน และได้นั่งด้านหน้าสุดในงานพระราชสมภพของฮ่องเต้กับฮองเฮาในปีนั้น นับว่าเป็นเกียรติอย่างมากทุกกรมจึงจริงจังกับการแข่งนี้แม้สำนักราชเลขาธิการจะไม่ได้แข็งแกร่งเช่นกรมทหารรักษาพระราชวังหรือทหารองครักษ์ หากส่วนใหญ่ก็เคยผ่านการละเล่นนี้มาแล้วในตอนศึกษาอยู่ในสำนักศึกษา หลิวซูหยวนกับมู่ฉางเหยียนจึงเข้าร่วมเป็นตัวแทนองค์หญิงหนิงเซียงเคยมาชมการแข่งขันพร้อมองค์หญิงเจียวมิ่งที่สามารถมาชมเพื่อให้กำลังใจพระสวามีแล้วในสองปีที่ผ่านมา หากไม่ได้สนใจการแข่งจริงจังนัก ทว่าในปีนี้กลับต่างออกไปเมื่อได้เห็นหนึ่งในผู้ร่วมเล่นลูกหนังจากสำนักราชเลขาธิการ“ใต้เท้าหลิวฝีมือไม่เบาทีเดียว ทั้งยังเล่นได้เข้าขากับท่านพี่มากอีกด้วย”ผู้เป็นพี่สาวหันมากระซิบกับนาง องค์หญิงหนิงเซียงเพียงยิ้มรับ ไม่ได้แสดงทีท่าตื่นเต้นเท่าใดนัก หากความจริงนางแทบไม่อาจละสายตาจากร่างสูงใหญ่ที่เล่นลูกหนังอย่างคล่องแคล่ว ทั้งแย่งทั้งส่ง หรือกระทั่งกระโดดม้วนตัวเตะลูกหนังเข้าไ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   3.หัวใจผลิบาน (2)

    “เอ่อ คุณหนู...”หลิงเอ๋อร์เอ่ยเตือนถึงความไม่เหมาะสมราวดึงสติของผู้เป็นนายกลับมา องค์หญิงหนิงเซียงรีบดึงมือตนเองจากเสื้ออีกฝ่ายแล้วจะผละกายออก หากเขากลับนำพาให้นางเดินออกจากกลุ่มคนโดยไม่คิดปล่อยแขนจากเอวบาง ทำเอาสองสาวมองกันด้วยความงุนงง ออกอาการเลิ่กลั่กทั้งนายและบ่าวแต่เมื่อห่างจากผู้คนที่เบียดเสียดชายหนุ่มก็ปล่อยและขยับไปยืนเว้นระยะด้วยตัวเอง หลิงเอ๋อร์เองก็ประคองนายตนราวหวงแหน ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงองค์หญิงเจียวมิ่งพร้อมร่างอรชรก็ตรงเข้ามาหาน้องสาวอย่างร้อนใจ โดยผู้เป็นสวามีตามมาเช่นกัน“เซียงเอ๋อร์ พี่ตกใจแทบแย่ที่อยู่ๆ ก็ไม่เห็นเจ้า”มือบางถูกจับพร้อมสายตาที่ฉายแววห่วงกังวลก็กวาดมองร่างผู้เป็นน้องจนทั่ว“อ้าว หลิวซูหยาง”“ใต้เท้ามู่...ถวายพระพรองค์หญิง”หลิวซูหยางเอ่ยนามผู้ที่มาใหม่อย่างให้เกียรติทว่าอีกฝ่ายกลับตบบ่าเขาอย่างแรง“ใต้ทงใต้เท้าอะไรกัน บอกแล้วว่าพบกันข้างนอกเราก็ยังเป็นสหายเช่นเดิม”มู่ฉางเหยียนนั้นเข้ารับราชการในสำนักราชเลขาก่อนหลิวซูหยางแล้วได้รับพระราชทานอภิเษกหลังจากนั้น เวลานี้มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ช่วยราชเลขาธิการส่วนพระองค์ทั้งยังเป็นถึงเป็นราชบุตรเขยด้ว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status