“เมื่อกลางวันผมแนะนำเพื่อนคุณให้ไปเที่ยวที่ไร่เธอคงจะเดินลัดไปทางหลังบ้านแล้วไปที่ไร่แหละคุณ...อืมมเอางี้ผมพอรู้จักอยู่กับลุงสมหมายที่ทำงานที่ไร่นั้นอยู่บ้านแกอยู่ใกล้ๆเรานี่เองเดี๋ยวผมไปถามลุงแกให้ว่าเห็นเพื่อนคุณหรือป่าว”
ชายหนุ่มจำได้ว่าลุงสมหมายที่ปลูกบ้านอยู่ระแวกที่ใกล้สุดแถวนี้แกทำงานอยู่ที่ไร่มีรักถ้าพาฝันไปที่นั่นจริงแกก็คงจะต้องเห็นบ้างเพราะเธอแต่งตัวต่างจากคนที่นี่คนงานในไร่เห็นก็ต้องพูดกันอยู่บ้างแหละ
ตอนนี้เขาเองร้อนใจไม่แพ้หญิงสาวเหมือนกันแต่ก็ต้องคุมสติไว้ก่อนเพราะเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่มีสติแล้วที่เขากังวลคือตอนนี้ฝนตกหนักเกิดพาฝันอยู่ในป่าที่ใกล้กับไร่คงไม่ดีแน่เพราะมันอันตรายมาก
“ไปกันเลยคุณ”
“หืออ..โอ้ยยยยยยคุณ”
“ว้ายยยยยย”
เพลงพิณคว้ามือชายหนุ่มเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้ทันตั้งตัวล้มลงกลิ้งลงไปกองอยู่ที่พื้นทำเอาหญิงสาวส่งเสียงกรี้ดดดลั่นบ้านเพราะเธอเกือบจะฆ่าชายหนุ่มแล้วมั้ยล่ะ
“คุณเป็นยังไงบ้าง...ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ”
หญิงสาวรีบวิ่งลงมาดูอาการของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขายังนอนร้องโอดโอยอยู่เธอจึงโล่งใจที่เขาไม่ได้ตายเพราะฝีมือเธอพร้อมเข้าไปประคองชายหนุ่มให้มานั่งที่โซฟา
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกคุณผมแค่จุกกับเจ็บที่แขน...”
ชายหนุ่มแค่รู้สึกจุกที่ตกลงมาและเจ็บที่แขนเพราะจังหวะที่ล้มแขนของเขาฟาดกับขอบบันไดอย่างแรง
“ไหนดูซินี่กระดูกจะแตกหรือป่าวเนี่ย...คุณปวดมั้ย...ฉันมีผ้าพันเดี๋ยวฉันพันแขนไว้ให้ก่อนแล้วพรุงนี้ค่อยไปเอ็กซเรย์ที่โรพยาบาล..”
หญิงสาวจับแขนของชายหนุ่มดูเธอจึงนึกได้ว่าเธอเตียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลติดตัวไว้ตลอดเมื่อคิดได้ดังนั้นจึงรีบเดินขึ้นไปที่ห้องของเธอและหยิบกล่องพยาบาลลงมา
Rrrrrrrrrrrrrrr
“สวัสดีค่า....”
เพลงพิณรู้สึกไม่คนกับเบอที่โทรเข้ามาสักไรเธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งจึงกดรับ
“แกฉันเอง”
“ยัยฝันแกอยู่ไหนแกรู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วงแกแทบแย่เดี๋ยวให้กลับมาก่อนฉันจะตีแกให้ตายเลยคอยดู”
เมื่อหญิงสาวได้ยินว่าปลายสายเป็นใครเลยสวดยาวเพราะเธอเป็นห่วงเพื่อนสาวเธออย่างมาก
“ฉันขอโทษแกคือตอนนี้ฉันติดฝนอยู่แต่แกไม่ต้องห่วงพรุ่งนี้เช้าฉันก็กลับแล้ว”
“แล้วแกอยู่กับใครปลอดภัยดีหรือป่าว”
“ปลอดภัยดีเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันกลับไปเล่าให้ฟังเพราะตอนนี้ฝนตกอยู่ใช้มือถือนานมันไม่ดี”
“โอเคๆแกปลอดภัยฉันก็สบายใจ”
หญิงสาววางมือถือลงนึกโล่งอกที่เพื่อนของเธอไม่เป็นอะไรแต่เธอก็ลืมถามไปเสียนี่ว่าเอาเบอใครโทรมาแต่ก็ช่างเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็ได้คุยกันอยู่ดีตอนนี้เธอโล่งใจเรื่องเพื่อนเธอไปหนึ่งเรื่องแล้วแต่เธอต้องมาหนักใจกับชายหนุ่มที่นั่งบนโซฟาอยู่ตรงหน้าเธอนี่แหละ
“เพื่อนคุณปลอดภัยดีใช่มั้ย”
ชายหนุ่มได้ยินที่หญิงสาวคุยโทรศัพท์ก็พอจะรู้ว่าครโทรมาเขาเองก็โล่งอกที่พาฝันปลอดภัยดี
“อืมมม...เดี๋ยวฉันพันแขนให้”
หญิงสาวรีบทายาแก้ปวดที่แขนของชายหนุ่มพร้อมใช้ผ้าพันยึดเอาไว้ก่อนแล้วจึงขอตัวไปอาบน้ำเพราะเธอตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อนเธอทั้งวันตอนนี้มันก็ดึกแล้วเธอยังไม่ได้อาบเลย
“เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”
“ดีคุณรีบๆอาบเลยเพราะฝนตกหนักขนาดนี้ผมเกรงว่าไฟฟ้าจะดับ”
“ไฟดับงั้นหรอออ...”
หญิงสาวที่เดินขึ้นบันไดอยู่เมื่อได้ยินว่าฝนตกหนักจะทำให้ไฟดับจากที่เดินกลับต้องรีบวิ่งขึ้นบันไดอย่างเร่งด่วนเพราะถ้าไฟดับในตอนที่เธออาบน้ำอยู่ล่ะซวยแน่ๆ
ชายหนุ่มต้องขำกับท่าทีของหญิงสาวเขาค่อยๆลุกขึ้นไปหาตะเกียงกับไฟฉายไว้ใกล้ๆมือเพราะยังไงดูสถานการณ์คืนนี้แล้วยังไงก็ไม่รอดไฟดับเป็นแน่
ฟึบบบบบบบ
“ว่าแล้วเชียว”
ชายหนุ่มขึ้นมาที่ห้องได้ไม่นานไฟฟ้าก็ดับตามที่เขาคิดในใจนึกเป็นห่วงหญิงสาวว่าจะมีไฟฉายใช้หรือไม่เขาจึงหยิบไฟฉายอีกอันนึงที่อยู่บนหัวเตียงของเขาแล้วเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ลืมหยิบกุญแจสำรองห้องของเธอมาด้วย
โครมมมมมมมมม
“ว้ายยยยยยยย”
เพลงพิณอาบน้ำเสร็จกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำเป็นเวลาที่ไฟดับพอดีหญิงสาวจึงพยายามที่จะเดินออกมาเพื่อคลำหามือถือแต่ด้วยความที่ไม่ได้คุ้นชินกับห้องนี้เท่าไรนักหญิงสาวจึงเดินไปชนกับโต้ะที่วางอยู่หัวเตียงทำให้โคมไฟตกลงมาเธอจึงตกใจส่งเสียงกรีดร้องออกมา
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เป็นอะไรหรือป่าวคุณ...เดี๋ยวผมเข้าไป”
เมื่อชายหนุ่มเดินออกมานอกห้องก็ได้ยินเสียงดังโครมครามและเสียงกรีดร้องของเธอจึงรีบเคาะประตูห้องหญิงสาวตะโกนถามว่าเธอเป็นอะไรหรือป่าวแล้วเขาก็รีบใช้กุญแจสำรองไขเข้ามาหาเธอทันที
“เดี๋ยวคุณอย่าเข้ามา....โถ่ปิดตาเดี๋ยวนี้เลย”
“เฮ้ยยยยย....ผมขอโทษ”
หญิงงสาวได้ยินเสียงว่าเขากำลังจะใช้กุญแจไขเข้ามาในห้องของเธอจึงรีบห้ามเขาไว้เพราะตอนที่เธอล้มไอ้ผ้าขนหนูผืนจิ๋วที่มันพันตัวของเธอเอาไว้มันดันหลุดอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้เธอพยายามจะควานหาแล้วแต่ก็ไม่เจอ
เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูแล้วส่องไฟเข้ามาทำให้หญิงสาวใช้มือเล็กปิดของสงวนแทบไม่ทันนึกกร่นด่าเขาในใจที่พรวดพราดเข้ามาโดยที่ไม่ฟังเสียงของเธอพร้อมสั่งให้เขาหลับตาลงทันทีแสงไฟที่เขาส่องมาทำให้หญิงสาวต้องรีบหยิบผ้าขนหนูแล้วห่อตัวไว้อย่างรวดเร็ว
“นี่คุณลืมตาได้แล้ว”หญิงสาวเดินไปหยิบไฟฉายในมือของชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาลืมตาได้เพราะตอนนี้เธอพันผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้ว“อะ..เอ่อ..ผมเอาไฟฉายมาให้แล้วเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดังโครมครามคุณเป็นอะไรหรือป่าว”ชายหนุ่มรีบหาเรื่องคุยเปลี่ยนเรื่องทันทีหวังว่าหญิงสาวคงไม่ถือสาเขาเรื่องเมื่อครู่นี้นะ“ไม่อะฉันแค่เดินชนโต้ะที่หัวเตียงแล้วคมไฟมันตกลงมา..”หญิงสาวพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มเพราะเธอรู้สึกเขินที่เมื่อครู่เขาจะเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอบ้างหรือป่าวก็ไม่รู้“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว....งั้นผมไปล่ะ”ชายหนุ่มดูก็รู้ว่าที่หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ยอมสบตาเขาเธอคงจะอายเรื่องเมื่อครู่เขาจึงคิดว่าขอปลีกตัวออกไปโดยเร็วจะดีกว่า“เดี๋ยวคุณ....เอ่อ..เมื่อกี้..ค..คุณไม่ได้เห็นอะไรใช่มั้ย”เมื่อเห็นชายหนุ่มหันหลังจะเดินออกไปเธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่มันยังคาใจของเธออยู่ว่าเมื่อครู่นี้เขาได้เห็นอะไรของเธอใช่มั้ย“อ๋อ..อะ..อืมมมม”ชายหนุ่มที่เดินหันหลังจะออกไปจากห้องเมื่อได้ยินที่หญิงสาวถามเลยตอบอึกๆอักๆจำใจโกหกว่าไม่เห็นอะไรทั้งที่เมื่อกี้อะไรๆของเธอมันปรากฎต่อสายตาของเขาหมดแล้วดีที่มันยังเห็นไม่ชัดเท่านันเอง
“ไม่ต้องผมว่าผมนอนในห้องนี้กับคุณเลยดีกว่า..ผมว่าเดี๋ยวคุณก็ต้องส่งเสียงรบกวนการนนของผมอีก”ชายหนุ่มเดินดุ่มๆมานอนที่ข้างๆหญิงสาวพร้อมหันหลังให้เธอกอดหมอนข้างนอนอย่างสบายใจเขาคิดว่าถ้าเขายังนอนอยู่ข้างนอกเขาได้วิ่งเข้าวิ่งออกห้องนี้เป็นแน่“อะ..เอ่อ..จะนอนที่นี่หรอคะพี่เพลิงออกไปนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ..ฝ..ฝันไม่กวนแล้วก็ได้”หญิงสาวตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็มานอนอยู่ข้างๆเธอหญิงสาวพอจะรู้อยู่ว่าชายหนุ่มรำคาญเธอจึงบอกเขาไปว่าจะไม่รบกวนอีกเพราะไม่ได้อยากให้ชายหนุ่มนอนอยู่ที่นี่เธอเองถึงจะดูเหมือนผู้หญิงใจกล้าพูดมากแต่เธอเองก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองเลยสักครั้งขนาดเพื่อนที่เป็นเกย์สมัยเรียนจะมาขอนอนด้วยเธอยังปฏิเสธหัวชนฝาเลย“ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดผมจะหาอะไรมาอุดปากคุณเดี๋ยวนี้แหละ”“หือ..อุ้ปป”เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ดูจะเอาจริงแล้วเธอจึงรีบหยุดพูดทันทีพร้อมนอนลงหันหลังให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่อย่างสบายใจหญิงสาวพยายามข่มตาให้มันหลับแล้วแต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้เธอได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่แบบนั้นก็จะให้เธอหลับลงได้ยังไงเล่ามีผู้ชายมานอนข้างๆเธออยู่แบบนี้ถึงเธอจะไว้ใจเขาก็ไม่ได้แปลว่าจะ
“ไปคุณ”“หืมมมมมม”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงม้าออกมาจากหลังบ้านของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่าเขาจูงม้าออกมาทำไมไหนบอกว่าจะไปส่งเธอไงอย่าบอกนะว่าจะขี่ม้าไป“ไปยังไงคะ”“ก็ขี่เจ้าอาชานี่ไปไง...ยืนขึ้นไหวมั้ยคุณ”“หา....วะ...ไหวค่ะ”ชายหนุ่มขึ้นขี่เจ้าอาชาม้าเพศผู้ของเขาที่เลี้ยงไว้ใช้งานเวลาที่เดินตรวจในไร่พร้อมอุ้มหญิงสาวที่ยืนอยู่บนแคร่ไม้มานั่งไพล่บนหลังม้าหน้าตัวเขา“พี่เพลิงขี่ม้ามาในไร่เป็นประจำหรอคะ..”“อืมมมม”“แล้วพี่เพลิงตื่นเช้าทำงานเป็นประจำทุกวันเลยใช่มั้ยคะ”“ใช่”หญิงสาวที่นั่งเกาะเอวเอาหัวซบอกของชายหนุ่มอยู่เธอเห็นว่าเขาเงียบไปเลยชวนคุยเธอสรรหาเรื่องคุยสารพัดจะเรื่องแต่ก็ได้รับคำตอบมาแค่เพียงว่าอืมมมม/ใช่/ไม่ใช่/ไม่รู้แค่นั้นเองและก็ไม่มีทีว่าว่าเขาอยากจะสนธนากับเธอเลยสักนิด“หยุดก่อนค่ะพี่เพลิง...”หญิงสาวเหลือบมองไปเห็นพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าออกมาเธอถึงกับตาลุกวาวเพราะเมื่อชายหนุ่มพาเธอนั่งบนหลังม้ามาจนเกือบถึงท้ายไร่ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์สวยและชัดที่สุดแล้ว“มีอะไรอีก...”ชายหนุ่มใช้มือกระตุกที่เชือกของเจ้าอาชาเพื่อให้มันหยุดเดิน
ชาวบ้านที่นั่นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดเรื่องนี้ออกมาสักคนเพราะกลัวพวกที่มีอิทธิพลเถื่อนกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้วภัยจะมาถึงตัวเขาเองที่ขึ้นไปบนดอยบ่อยๆเพราะต้องการหาหลักฐานเอาผิดคนที่ค้ายาค้ามนุษย์แล้วยังได้ให้ความรู้แก่เด็กๆและชาวบ้านไปด้วย“อืมมมม...เอางี้ยังไงช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่ดีเอาเป็นว่าฉันจะขึ้นดอยไปช่วยคุณก็แล้วกันเป็นการไถ่โทษที่ฉันทำคุณเจ็บ”หญิงสาวไตร่ตรองอยู่ครู่หนึงจึงเอ่ยปากว่าจะไปช่วยชายหนุ่มเพราะเธอเองก็เห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอีกอย่างถ้าเธอได้ทำประโยชน์ให้กับเด็กๆที่อยู่บนดอยบ้างก็คงจะดีต่อจิตใจเธอไม่น้อย“แน่ใจหรอคุณ...บนดอยมันไม่ได้สะดวกสบายแบบที่คุณเคยอยู่หรอกนะ”ชายหนุ่มถึงกับจ้องหน้าเธออย่างจริงจังเขาถามย้ำเธออีกรบเพราะที่ที่เขาจะไปมันไม่ได้สะดวกสบายเลยแม้แต่น้อยเขากลัวว่าลูกคุณหนูอย่างเธอจะอยู่ไม่ได้แล้วร้องกลับเสียเปล่าๆ“แน่ใจสิคุณ...ฉันขอขับรถก่อนเรื่องนี้ค่อยคุยกันที่บ้านอีกทีก็แล้วกัน”“โอเค...”ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับคำว่าแน่ใจของหญิงสาวเขาเองยังนึกสภาพขงหญิงสาวว่าตอนที่เธออยู่ที่นั่นจะเป็นยังไงไม่ออกเพราะที่นั่นมันทั้งกันดารทั้งลำบากกว่าบ้านที่
“ไหนบอกจะโทรมาไงยัยบ๊องเอ๊ยยย”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าไม่มีใครโทรเข้ามาเขาเลยวางโยนมือถือลงข้างๆตัวด้วยความหงุดหงิดเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหงุดหงิดเพื่ออะไรRrrrrเมื่อชายหนุ่มเริ่มหลับตาได้ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเบอที่โชว์อยู่หน้าจอเขาไม่คุ้นสักเท่าไรแต่เขาคิดว่าอาจจะเป็นหญิงสาวที่โทรหาเขาก็ได้เลยกดรับอย่างรวดเร็ว“พี่เพลิงฝันเองค่า”เมื่อชายหนุ่มกดรับสายยังไม่ทันได้พูดอะไรหญิงสาวก็ส่งเสียงแหลมๆมาทักทายเขาก่อนจนเขาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูตัวเองเพราะรู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกิน“โอ้ยย...พูดเบาๆก็ได้คุณ...ทำไมโทรมาเอาป่านนี้”ชายหนุ่มต้องปรามหญิงสาวที่ส่งเสียงแหลมมาใส่เขาให้เบาลงกว่านี้หน่อย“ก็ฝันคิดว่าตอนกลางวันพี่เพลิงน่าจะทำงานอยู่นี่คะฝันก็เลยไม่โทรไปกวนเดี๋ยวพี่เพลิงโดนเจ้าของไล่หักเงินเดือนก็เป็นความผิดฝันสิคะ”หญิงสาวตอบตามความจริงเธอพูดไปยิ้มไปดีใจที่ชายหนุ่มกดรับสายของเธอตั้งแต่โทรครั้งแรก“หืมมม....หักเงินหรอ555”ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำไม่อยู่กับคำพูดของหญิงสาวเขาเป็นคนบอกเธอเองนี่นาว่าเป็นคนงานในไร่“พี่เพลิงขำอะไรหรอคะ”“ป่าว...นี่คุณยังไม่นอนอีกหร
“คุณครูมาแล้ววว”เด็กๆที่เล่นกันอยู่ตรงลานที่หมู่บ้านเมื่อเห็นชายหนุ่มซึ่งเป็นครูของพวกเขาก็รีบวิ่งมาหาทันทีเด็กๆต่างวิ่งมาล้อมรอบตัวชายหนุ่มพร้อมทักทายกันอย่างดีใจเพราะเด็กๆที่นี่ชอบในความใจดีของชายหนุ่มและชายหนุ่มก็ยังเป็นที่รักของคนที่นี่มากๆด้วยเพราะเขาทั้งช่วยสอนหนังสือลูกหลานของคนที่นี่แถมยังสอนการทำการเกษตรพอเพียงและไร้สารเคมีแถมยังหาตลาดส่งออกผลผลิตให้กับคนที่นี่ด้วยจะมีแค่บางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่ค่อยจะพอใจในการกระทำที่เป็นการช่วยพัฒนาชาวบ้านที่นี่ของชายหนุ่มเท่าไรที่ดูว่าว่าชายหนุ่มจะไปขัดผลประโยชน์ของคนพวกนั้นอยู่ไม่น้อย“ว่าไงเด็กๆ...ได้อ่านหนังสือตามที่ครูให้ไปอ่านกันหรือป่าวครับ”“อ่านค่า/อ่านครับ”เพลงพิณมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กับเด็กๆโดยมีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายล้อมรอบภาพตรงหน้ามันช่างดูเป็นภาพที่ดูอบอุ่นสำหรับเธอเหลือเกินจึงเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว“เดี๋ยวครูขอไปพักก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนตอนเช้านะครับ”“ค่ะคุณครู/ครับคุณครู”ชายหนุ่มมองเด็กๆที่วิ่งกลับไปเล่นกันได้สักพักแล้วจึงเดินกลับมาที่รถพลางบอกหญิงสาวให้ขับรถไปที่ท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านพักของเขา
“ข้าต้องขอโทษครูกับเมียครูด้วยนะที่เจ้าสองคนนี้มันทำกิริยาไม่ดีด้วย”ปู่อินทร์แปงต้องเอ่ยขอโทษแทนลูกบ้านเก่าที่ทำกิริยาไม่ดีต่อทั้งคู่เมื่อครู่ชายแก่เองก็นึกตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะพึ่งจะรู้ว่าชายหนุ่มมีภรรยาแล้วจากปากของเขาเมื่อครู่ไม่ยักรู้ว่าไปมีตั้งแต่เมื่อไรเพราะตอนที่มาสอนที่นี่ทีแรกก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาเหมือนกัน“อะ..เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ”ชายหนุ่มเอ่ยรับคำขอโทษแบบแบ่งรับแบ่งสู้เขาไม่คิดว่าปู่อินทร์แปงจะมาได้ยินที่เขาพูดเมื่อครู่ด้วยทีนี้เขาก็คงจะต้องโกหกเรื่องนี้ต่อไปซะแล้วสิหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มตอนนี้ก็ทำหน้านอยไม่แพ้กันเธอพอจะดูออกแล้วว่าระหว่างที่เธออยู่ที่นี่เธอจะต้องถูกคนที่นี่คิดว่าเธอและชายหนุ่มเป็นผัวเมียกันจริงๆแน่ๆ“ข้าขอฝากลูกจันทร์ไว้กับครูด้วยนะแล้วพวกเอ็งตามข้ามานี่”เมื่อชายแก่เดินไปแล้วชายทั้งสองจึงเดินตามไปทันทีเพราะต้องการที่จะคุยธุระที่มาวันนี้ให้เสร็จสิ้นโดนเร็วเช่นกัน“พ่อขาลูกจันทร์คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ”ลูกจันทร์เด็กหญิงอายุเพียงหกขวบที่น่าตาจิ้มลิ้มผิวขาวเมื่อปล่อยมือจากคนเป็นตาได้ก็โผเข้ามากอดชายหนุ่มทันทีทำเอาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขาตกใจอยู่ไ
“ผมไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นคนใจดีกับเค้าก็เป็นด้วยนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปในบ้านเพราะเขารู้ว่าเขาได้ปากหมาใส่หญิงสาวอีกแล้วและเพื่อไม่ให้หญิงสาวลงไม้ลงมือกับตัวเขาเองจึงรีบเดินหลบเข้าไปในบ้านโดยด่วน“หือออ….นี่คุณหลอกด่าฉันหรอห๊าาาาา”เมื่อหญิงสาวไล่ความโมโหออกได้และหันมาสนใจกับที่พักอาศัยของเธอต่อเธอเดินสำรวจรอบๆบ้านก็พบว่าหลังบ้านมีธารน้ำตกไหลผ่านเธอคิดว่าอย่างน้อยถึงที่นี่จะดูลำบากไปนิดแต่ก็มีธรรมชาติสวยๆอยู่ใกล้ๆเธอมันก็ดีไปอีกแบบหญิงสาวเดินเล่นสำรวจพื้นที่ได้สักพักจึงกลับเข้ามาในบ้าน“คุณที่นี่มีแค่ห้องเดียวหรอ”“ใช่”หญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นชายหนุ่มกำลังจัดแจงเตรียมเก็บของและเตรียมปูฟูกนอนอยู่เธอเดินเข้ามาในบ้านเห็นอยู่แล้วว่ามีก็ห้องนอนอยู่ห้องเดียวแต่ด้วยความที่สงสัยว่าถ้ามีห้องเดียวแล้วเธอจะนอนที่ไหนคงจะไม่ใช่นอนห้องเดียวกันหรอกนะจึงแกล้งเอ่ยถามชายหนุ่มออกไป “คุณไม่ต้องห่วงหรอกผมเตรียมที่นอนมาด้วยเดี๋ยวผมออกมานอนหน้าห้องเอง”สีหน้าหญิงสาวมันบ่งบอกได้ชัดว่าตกใจคงคิดว่าเขาจะนอนห้องเดียวกับเธอล่ะสิเขาเองรู้ตั้งแต่ก่อนมาว่าจะเจออะไรจึงเตรียมฟูกนอนของเขามาด้วย“อื้มมมก็ดี…ง