“ไม่ต้องผมว่าผมนอนในห้องนี้กับคุณเลยดีกว่า..ผมว่าเดี๋ยวคุณก็ต้องส่งเสียงรบกวนการนนของผมอีก”
ชายหนุ่มเดินดุ่มๆมานอนที่ข้างๆหญิงสาวพร้อมหันหลังให้เธอกอดหมอนข้างนอนอย่างสบายใจเขาคิดว่าถ้าเขายังนอนอยู่ข้างนอกเขาได้วิ่งเข้าวิ่งออกห้องนี้เป็นแน่
“อะ..เอ่อ..จะนอนที่นี่หรอคะพี่เพลิงออกไปนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ..ฝ..ฝันไม่กวนแล้วก็ได้”
หญิงสาวตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็มานอนอยู่ข้างๆเธอหญิงสาวพอจะรู้อยู่ว่าชายหนุ่มรำคาญเธอจึงบอกเขาไปว่าจะไม่รบกวนอีกเพราะไม่ได้อยากให้ชายหนุ่มนอนอยู่ที่นี่เธอเองถึงจะดูเหมือนผู้หญิงใจกล้าพูดมากแต่เธอเองก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองเลยสักครั้งขนาดเพื่อนที่เป็นเกย์สมัยเรียนจะมาขอนอนด้วยเธอยังปฏิเสธหัวชนฝาเลย
“ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดผมจะหาอะไรมาอุดปากคุณเดี๋ยวนี้แหละ”
“หือ..อุ้ปป”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ดูจะเอาจริงแล้วเธอจึงรีบหยุดพูดทันทีพร้อมนอนลงหันหลังให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่อย่างสบายใจหญิงสาวพยายามข่มตาให้มันหลับแล้วแต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้เธอได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่แบบนั้นก็จะให้เธอหลับลงได้ยังไงเล่ามีผู้ชายมานอนข้างๆเธออยู่แบบนี้ถึงเธอจะไว้ใจเขาก็ไม่ได้แปลว่าจะนอนเตียงเดียวกันอย่างสนิทใจสักหน่อย
“นี่คุณ...ขยับอยู่นั่นแหละผมนอนไม่หลับ..มานี่เลย”
“โอ้ยยๆๆพี่เพลิงจะทำอะไรอะ”
ชายหนุ่มรู้สึกรำคาญคนข้างๆที่เสียงเงียบไปแล้วแต่การขยับไปมาของเธอก็ยังกวนเขาอยู่ดีเขาจึงลากหญิงสาวจนตัวปลิวเธอมาวางบนผ้าห่มพร้อมพันห่อเธอเป็นดักแด้ให้ขยับไปมาไม่ได้แถมเมื่อห่อเสร็จยังใช้ขาข้างหนึ่งพาดไว้อีกต่างหากหญิงสาวเลยต้องจำใจนอนอยู่ในสภาพนั้นจนถึงเช้าดีนะที่อากาศเย็นไม่อย่างนั้นเธอคงได้ร้อนตายแน่
เช้าวันต่อมา
“คุณๆ...ตื่นได้แล้ว”
อัคคีตื่นมาในตอนเช้าก็เห็นหญิงสาวที่โดนพันเป็นดักแด้โดยฝีมือของเขายังหลับอยู่คราแรกที่เขาตื่นมาเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่ยังนอนหลับอย่างสบายใจอยู่เขาชันแขนนอนตะแคงมองมาทางเธอคิดในใจว่าตอนที่เธอหลับนี่มันช่างเหมือนผู้หญิงที่ดูอ่อนหวานเรียบร้อยเสียจริงผิดกับตอนตื่นที่นิสัยช่างขัดกับหน้าตาที่ช่างพูดมากกวนประสาทเก่งชายหนุ่มพลางคิดไปอมยิ้มไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขามีธุระต้องจัดการแต่เช้าจึงต้องรีบปลุกเธอ
“อื้อออ”
เมื่อมีคนรบกวนเวลานอนอันแสนสบายของเธอหญิงสาวเลยส่งเสียงประท้วงนิดหน่อยแล้วนอนต่อเพราะเมื่อคืนกว่าเธอจะทำใจหลับลงได้ก็เกือบเช้า
“ไม่ตื่นใช่มั้ยด้ายยยย...”
“อื้อออ.....อะไรเนี่ยยยยย”
เมื่อเขาเรียกให้เธอตื่นดีๆไม่ชอบเขาจึงดึงผ้าห่มที่พันตัวเธอออกแบบรวดเดียวทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตื่นตาสว่างโดยทันที
“ลุกได้แล้วเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้านคุณ....ว่าแต่ที่คุณอยู่มันอยู่ที่ไหน”
ชายหนุ่มเห็นว่าเธอตื่นดีแล้วจึงรีบถามที่อยู่ของเธอเพื่อที่จะได้รีบไปส่งเธอทันทีก่อนที่คนงานจะมาเต็มไร่เพราะเขาไม่อยากให้คนงานเห็นเขาอยู่กับเธอสองต่อสองเท่าไรนัก
“บ้านหรอ...ฝันพักอยู่ที่บ้านท้ายไร่นี้เองแต่ว่าก็เดินไกลอยู่นะคะทางที่ฝันมาไม่มีทางให้รถวิ่งด้วย”
หญิงสาวตอบชายหนุ่มไปตามความจริงเพราะที่เธอเดินผ่านมาก็เห็นมีแต่ป่าไม่เห็นมีทางที่จะให้รถวิ่งได้เลย
“ท้ายไร่หรอ...”
ชายหนุ่มนึกในใจบ้านที่อยู่ท้ายไร่ก็น่าจะมีหลังเดียวก็คงจะเป็นบ้านของเพื่อนเขานั่นเองแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้บอกหญิงสาวแต่อย่างใดเรื่องที่รู้จักกับดินแดน
Rrrrrrrr
“นี่เบอเพื่อนคุณหรือป่าว”
อัคคีหยิบมือถือขึ้นมาดูเมื่อมีคนโทรเข้ามาเขาคิดว่าน่าจะเป็นเบอของเพื่อนของหญิงสาวที่โทรคุยกันเมื่อคืนเป็นแน่จึงยื่นให้เธอ
“ใช่ค่ะ”
หญิงสาวรับมือถือจากชายหนุ่มแล้วเธอจึงกดรับสายทันทีเมื่อได้คุยกันแล้วก็ได้ความว่าเพลงพิณละดินแดนจะไม่อยู่บ้านในตอนเช้าเพราะเพลงพิณต้องพาดินแดนไปที่โรงพยาบาลเพราะเมื่อคืนชายหนุ่มตกบันไดที่เพลงพิณโทรมาบอกก่อนเพราะว่ากลัวว่าหญิงสาวกลับไปแล้วจะไม่เจอใครแล้วตกใจเท่านั้นเอง
“คืนค่ะพี่เพลิง”
“เพื่อนคุณโทรมาทำไมหรอ”
“อ๋อยัยเพลงบอกว่าจะพาคุณดินไปหาหมอที่โรงพยาบาลเช้านี้ค่ะเพราะเมื่อคืนคุณดินตกบันไดเลยโทรมาบอกก่อนเพราะกลัวว่าฝันกลับไปไม่เจอใครแล้วจะตกใจน่ะค่ะ”
“อ๋อ..งั้นหรอ..งั้นผมขอตัวไปล้างหน้าก่อนนะเสร็จแล้วเดี๋ยวไปส่ง”
“ค่ะ”
เมื่อชายหนุ่มจัดการธุระเสร็จก็เดินประคองหญิงสาวมาที่หน้าบ้านพร้อมหาเสื้อคลุมให้เธอใสทับอีกฉันนึงเพราะกลัวว่าเธอจะโป้เกินไปถ้ามีคนอื่นเห็นมันจะดูไม่ดีเท่าไร
“ไหนรถล่ะคะพี่เพลิง”
“ใครบอกจะใช้รถ”
หญิงสาวถึงกับทำหน้างงเพราะชายหนุ่มบอกว่าจะไปส่งเธอแต่ที่นี่ไม่เห็นจะมีรถสักคันแถมเขายังปล่อยให้เธอนั่งอยู่ที่แคร่ไม้หน้าบ้านแล้วเดินเข้าไปหลังบ้านอีก
“ไปคุณ”“หืมมมมมม”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงม้าออกมาจากหลังบ้านของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่าเขาจูงม้าออกมาทำไมไหนบอกว่าจะไปส่งเธอไงอย่าบอกนะว่าจะขี่ม้าไป“ไปยังไงคะ”“ก็ขี่เจ้าอาชานี่ไปไง...ยืนขึ้นไหวมั้ยคุณ”“หา....วะ...ไหวค่ะ”ชายหนุ่มขึ้นขี่เจ้าอาชาม้าเพศผู้ของเขาที่เลี้ยงไว้ใช้งานเวลาที่เดินตรวจในไร่พร้อมอุ้มหญิงสาวที่ยืนอยู่บนแคร่ไม้มานั่งไพล่บนหลังม้าหน้าตัวเขา“พี่เพลิงขี่ม้ามาในไร่เป็นประจำหรอคะ..”“อืมมมม”“แล้วพี่เพลิงตื่นเช้าทำงานเป็นประจำทุกวันเลยใช่มั้ยคะ”“ใช่”หญิงสาวที่นั่งเกาะเอวเอาหัวซบอกของชายหนุ่มอยู่เธอเห็นว่าเขาเงียบไปเลยชวนคุยเธอสรรหาเรื่องคุยสารพัดจะเรื่องแต่ก็ได้รับคำตอบมาแค่เพียงว่าอืมมมม/ใช่/ไม่ใช่/ไม่รู้แค่นั้นเองและก็ไม่มีทีว่าว่าเขาอยากจะสนธนากับเธอเลยสักนิด“หยุดก่อนค่ะพี่เพลิง...”หญิงสาวเหลือบมองไปเห็นพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าออกมาเธอถึงกับตาลุกวาวเพราะเมื่อชายหนุ่มพาเธอนั่งบนหลังม้ามาจนเกือบถึงท้ายไร่ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์สวยและชัดที่สุดแล้ว“มีอะไรอีก...”ชายหนุ่มใช้มือกระตุกที่เชือกของเจ้าอาชาเพื่อให้มันหยุดเดิน
ชาวบ้านที่นั่นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดเรื่องนี้ออกมาสักคนเพราะกลัวพวกที่มีอิทธิพลเถื่อนกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้วภัยจะมาถึงตัวเขาเองที่ขึ้นไปบนดอยบ่อยๆเพราะต้องการหาหลักฐานเอาผิดคนที่ค้ายาค้ามนุษย์แล้วยังได้ให้ความรู้แก่เด็กๆและชาวบ้านไปด้วย“อืมมมม...เอางี้ยังไงช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่ดีเอาเป็นว่าฉันจะขึ้นดอยไปช่วยคุณก็แล้วกันเป็นการไถ่โทษที่ฉันทำคุณเจ็บ”หญิงสาวไตร่ตรองอยู่ครู่หนึงจึงเอ่ยปากว่าจะไปช่วยชายหนุ่มเพราะเธอเองก็เห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอีกอย่างถ้าเธอได้ทำประโยชน์ให้กับเด็กๆที่อยู่บนดอยบ้างก็คงจะดีต่อจิตใจเธอไม่น้อย“แน่ใจหรอคุณ...บนดอยมันไม่ได้สะดวกสบายแบบที่คุณเคยอยู่หรอกนะ”ชายหนุ่มถึงกับจ้องหน้าเธออย่างจริงจังเขาถามย้ำเธออีกรบเพราะที่ที่เขาจะไปมันไม่ได้สะดวกสบายเลยแม้แต่น้อยเขากลัวว่าลูกคุณหนูอย่างเธอจะอยู่ไม่ได้แล้วร้องกลับเสียเปล่าๆ“แน่ใจสิคุณ...ฉันขอขับรถก่อนเรื่องนี้ค่อยคุยกันที่บ้านอีกทีก็แล้วกัน”“โอเค...”ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับคำว่าแน่ใจของหญิงสาวเขาเองยังนึกสภาพขงหญิงสาวว่าตอนที่เธออยู่ที่นั่นจะเป็นยังไงไม่ออกเพราะที่นั่นมันทั้งกันดารทั้งลำบากกว่าบ้านที่
“ไหนบอกจะโทรมาไงยัยบ๊องเอ๊ยยย”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าไม่มีใครโทรเข้ามาเขาเลยวางโยนมือถือลงข้างๆตัวด้วยความหงุดหงิดเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหงุดหงิดเพื่ออะไรRrrrrเมื่อชายหนุ่มเริ่มหลับตาได้ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเบอที่โชว์อยู่หน้าจอเขาไม่คุ้นสักเท่าไรแต่เขาคิดว่าอาจจะเป็นหญิงสาวที่โทรหาเขาก็ได้เลยกดรับอย่างรวดเร็ว“พี่เพลิงฝันเองค่า”เมื่อชายหนุ่มกดรับสายยังไม่ทันได้พูดอะไรหญิงสาวก็ส่งเสียงแหลมๆมาทักทายเขาก่อนจนเขาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูตัวเองเพราะรู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกิน“โอ้ยย...พูดเบาๆก็ได้คุณ...ทำไมโทรมาเอาป่านนี้”ชายหนุ่มต้องปรามหญิงสาวที่ส่งเสียงแหลมมาใส่เขาให้เบาลงกว่านี้หน่อย“ก็ฝันคิดว่าตอนกลางวันพี่เพลิงน่าจะทำงานอยู่นี่คะฝันก็เลยไม่โทรไปกวนเดี๋ยวพี่เพลิงโดนเจ้าของไล่หักเงินเดือนก็เป็นความผิดฝันสิคะ”หญิงสาวตอบตามความจริงเธอพูดไปยิ้มไปดีใจที่ชายหนุ่มกดรับสายของเธอตั้งแต่โทรครั้งแรก“หืมมม....หักเงินหรอ555”ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำไม่อยู่กับคำพูดของหญิงสาวเขาเป็นคนบอกเธอเองนี่นาว่าเป็นคนงานในไร่“พี่เพลิงขำอะไรหรอคะ”“ป่าว...นี่คุณยังไม่นอนอีกหร
“คุณครูมาแล้ววว”เด็กๆที่เล่นกันอยู่ตรงลานที่หมู่บ้านเมื่อเห็นชายหนุ่มซึ่งเป็นครูของพวกเขาก็รีบวิ่งมาหาทันทีเด็กๆต่างวิ่งมาล้อมรอบตัวชายหนุ่มพร้อมทักทายกันอย่างดีใจเพราะเด็กๆที่นี่ชอบในความใจดีของชายหนุ่มและชายหนุ่มก็ยังเป็นที่รักของคนที่นี่มากๆด้วยเพราะเขาทั้งช่วยสอนหนังสือลูกหลานของคนที่นี่แถมยังสอนการทำการเกษตรพอเพียงและไร้สารเคมีแถมยังหาตลาดส่งออกผลผลิตให้กับคนที่นี่ด้วยจะมีแค่บางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่ค่อยจะพอใจในการกระทำที่เป็นการช่วยพัฒนาชาวบ้านที่นี่ของชายหนุ่มเท่าไรที่ดูว่าว่าชายหนุ่มจะไปขัดผลประโยชน์ของคนพวกนั้นอยู่ไม่น้อย“ว่าไงเด็กๆ...ได้อ่านหนังสือตามที่ครูให้ไปอ่านกันหรือป่าวครับ”“อ่านค่า/อ่านครับ”เพลงพิณมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กับเด็กๆโดยมีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายล้อมรอบภาพตรงหน้ามันช่างดูเป็นภาพที่ดูอบอุ่นสำหรับเธอเหลือเกินจึงเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว“เดี๋ยวครูขอไปพักก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนตอนเช้านะครับ”“ค่ะคุณครู/ครับคุณครู”ชายหนุ่มมองเด็กๆที่วิ่งกลับไปเล่นกันได้สักพักแล้วจึงเดินกลับมาที่รถพลางบอกหญิงสาวให้ขับรถไปที่ท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านพักของเขา
“ข้าต้องขอโทษครูกับเมียครูด้วยนะที่เจ้าสองคนนี้มันทำกิริยาไม่ดีด้วย”ปู่อินทร์แปงต้องเอ่ยขอโทษแทนลูกบ้านเก่าที่ทำกิริยาไม่ดีต่อทั้งคู่เมื่อครู่ชายแก่เองก็นึกตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะพึ่งจะรู้ว่าชายหนุ่มมีภรรยาแล้วจากปากของเขาเมื่อครู่ไม่ยักรู้ว่าไปมีตั้งแต่เมื่อไรเพราะตอนที่มาสอนที่นี่ทีแรกก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาเหมือนกัน“อะ..เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ”ชายหนุ่มเอ่ยรับคำขอโทษแบบแบ่งรับแบ่งสู้เขาไม่คิดว่าปู่อินทร์แปงจะมาได้ยินที่เขาพูดเมื่อครู่ด้วยทีนี้เขาก็คงจะต้องโกหกเรื่องนี้ต่อไปซะแล้วสิหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มตอนนี้ก็ทำหน้านอยไม่แพ้กันเธอพอจะดูออกแล้วว่าระหว่างที่เธออยู่ที่นี่เธอจะต้องถูกคนที่นี่คิดว่าเธอและชายหนุ่มเป็นผัวเมียกันจริงๆแน่ๆ“ข้าขอฝากลูกจันทร์ไว้กับครูด้วยนะแล้วพวกเอ็งตามข้ามานี่”เมื่อชายแก่เดินไปแล้วชายทั้งสองจึงเดินตามไปทันทีเพราะต้องการที่จะคุยธุระที่มาวันนี้ให้เสร็จสิ้นโดนเร็วเช่นกัน“พ่อขาลูกจันทร์คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ”ลูกจันทร์เด็กหญิงอายุเพียงหกขวบที่น่าตาจิ้มลิ้มผิวขาวเมื่อปล่อยมือจากคนเป็นตาได้ก็โผเข้ามากอดชายหนุ่มทันทีทำเอาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขาตกใจอยู่ไ
“ผมไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นคนใจดีกับเค้าก็เป็นด้วยนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปในบ้านเพราะเขารู้ว่าเขาได้ปากหมาใส่หญิงสาวอีกแล้วและเพื่อไม่ให้หญิงสาวลงไม้ลงมือกับตัวเขาเองจึงรีบเดินหลบเข้าไปในบ้านโดยด่วน“หือออ….นี่คุณหลอกด่าฉันหรอห๊าาาาา”เมื่อหญิงสาวไล่ความโมโหออกได้และหันมาสนใจกับที่พักอาศัยของเธอต่อเธอเดินสำรวจรอบๆบ้านก็พบว่าหลังบ้านมีธารน้ำตกไหลผ่านเธอคิดว่าอย่างน้อยถึงที่นี่จะดูลำบากไปนิดแต่ก็มีธรรมชาติสวยๆอยู่ใกล้ๆเธอมันก็ดีไปอีกแบบหญิงสาวเดินเล่นสำรวจพื้นที่ได้สักพักจึงกลับเข้ามาในบ้าน“คุณที่นี่มีแค่ห้องเดียวหรอ”“ใช่”หญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นชายหนุ่มกำลังจัดแจงเตรียมเก็บของและเตรียมปูฟูกนอนอยู่เธอเดินเข้ามาในบ้านเห็นอยู่แล้วว่ามีก็ห้องนอนอยู่ห้องเดียวแต่ด้วยความที่สงสัยว่าถ้ามีห้องเดียวแล้วเธอจะนอนที่ไหนคงจะไม่ใช่นอนห้องเดียวกันหรอกนะจึงแกล้งเอ่ยถามชายหนุ่มออกไป “คุณไม่ต้องห่วงหรอกผมเตรียมที่นอนมาด้วยเดี๋ยวผมออกมานอนหน้าห้องเอง”สีหน้าหญิงสาวมันบ่งบอกได้ชัดว่าตกใจคงคิดว่าเขาจะนอนห้องเดียวกับเธอล่ะสิเขาเองรู้ตั้งแต่ก่อนมาว่าจะเจออะไรจึงเตรียมฟูกนอนของเขามาด้วย“อื้มมมก็ดี…ง
“เมื่อกี้ครูได้ออกไปไหนมารึป่าว”"จะออกไปไนทำไมเล่า….บรรยากาศดีแบบนี้ขอนอนกกเมียอยู่ที่นี่ดีกว่าพวกนายมีอะไรหรือป่าวมากันเยอะแยะหรือในหมู่บ้านจัดงานอะไรกันหรอ”ชายหนุ่มแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ยืนยันว่าเขาและหญิงสาวอยู่ในบ้านกันอย่างเดียวไม่ได้ออกไปไหนวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้คนพวกนี้ไม่สงสัย“งั้นพวกเราไม่กวนครูแล้ว…ไปโว้ยพวกเอ็งกลับ”อินคิดว่าในเมื่อทั้งสองออกมากันสภาพนี้ก็คงจะไม่ได้ไปไหนกันจริงๆชายหนุ่มคิดว่าเขาคงจะระแวงไปเองเลยชวนลูกน้องกลับแต่เขาจำได้ว่ารอยเท้ามันมาแถวนี้หรืออาจจะเป็นเพราะมันมืดบวกกับสุราที่พวกเขากินไปด้วยเลยทำให้คิดไปเองเขาคิดในใจ“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะคุณไม่รู้ว่าจะซนตามผมไปทำไม”เมื่อทั้งสองแต่งตัวเสร็จก็มานั่งคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ด้วยความที่วันนี้ชายหนุ่มเตรียมแผนที่จะนำพวกกล้องไปบันทึกภาพกลับมีหญิงสาวตามเขาไปจนทำให้เสียแผนจนได้เขาจึงนึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่เข้าไปใกล้พวกมันได้ถึงขนาดนั้นและเกือบจะเก็บหลักฐานชิ้นเด็ดได้แล้วแท้ๆ“ก็คุณอยู่ดีๆก็ออกไปทำลับๆล่อๆฉันก็อยากรู้นี่ว่าคุณไปทำอะไร”หญิงสาวยังไม่สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปจนเกือบจะทำให้ทั้งเขาและตัวเธ
“ค่ะ..ป้าสายกลับดีๆนะคะ”เมื่อหญิงชรากลับไปแล้วหญิงสาวจึงเดินขึ้นมานอนเล่นที่ห้องพร้อมหยิบมือถือโทรหาชายหนุ่มเธอไม่สนว่าตอนนี้เขาจะทำงานอยู่หรือป่าวแต่ยังไงเธอก็จะโทรเพราะที่ผ่านมาหลังจากคืนนั้นที่คุยกับเขาเธอเองก็ติดต่อเขาอีกไม่ได้เลย“โทรไม่ติดใช่มั้ย...ไปหาเองก็ได้”หญิงสาวนอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนเกือบจะเย็นเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงติดต่อชายหนุ่มไม่ได้อีกอย่างเขาคงจะไม่บล็อกเบอเพราะรำคาญเธอหรอกนะเมื่อหลายคำถามคาใจเธอเลยตัดสินใจที่จะไปหาเขาเองเลยแล้วกันเพราะว่าเธอก็พอที่จะจำทางอยู่ได้ว่าบ้านเรือนไม้ของชายหนุ่มอยู่ที่ไหนพาฝันเดินมาได้สักพักก็มาถึงที่บ้านของชายหนุ่มแต่เมื่อเข้าไปสำรวจดูก็ยังไม่เห็นมีใครอยู่แถมบ้านยังล็อคเอาไว้อีกด้วยเธอจึงคิดว่าชายหนุ่มอาจจะยังไม่เลิกงานคราแรกหญิงสาวกะว่าจะรอเขาอยู่ที่บ้านแต่เมื่อรู้สึกเบื่อๆเลยเดินย้อนกลับไปที่ธารน้ำตกที่เธอเคยล้างตัววันนั้นคิดว่าจะไปเดินเล่นสักพักแล้วจึงกลับมาที่เรือนไม้ของชายหนุ่ม“ว้าว..สวยจังเลย”หญิงสาวเดินชมธรรมชาติความสวยงามของน้ำตกได้สักพักก็เห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมาอยู่ตรงที่น่าจะป็นแอ่งน้ำลึกวันนั้นที่ชายหนุ่มดำผุดดำว่ายหญิงสาวจึง