“ไม่เป็นไรหรอกลูกนอนพักอีกเดี๋ยวก็คงจะหายเดี๋ยวบ่ายพ่อมีคุยงานต่อพ่อมียาที่หมอให้ไว้อยู่....ฝันไม่ต้องห่วงพ่อหรอกลูก”
“กินยาหรอคะ...คุณพ่อกินยามานานเท่าไรแล้วคะทำไมฝันถึงไม่เห็นรู้เรื่องแล้วนี่คุณพ่อนอนซมขนาดนี้ยังห่วงงานอีกหรอคะฝันอยากจะรู้จริงๆเลยว่าคุณพ่อจะบ้างานไปจนถึงเมื่อไร”
เมื่อพาฝันได้ยินที่พ่อของเธอพูดขึ้นอารมณ์ของเธอตอนนี้ก็เริ่มเดือดประทุขึ้นทันทีเพราะเธอพ่อเธอป่วยขนาดนี้ยังจะบ้างานอยู่อีกเธอไม่ได้อยากจะใช้คำพูดแรงๆกับพ่อเธอนักหรอกแต่มันอดไม่ได้แล้วจริงๆเธอพูดไปพลางน้ำตาคลอไป
“ที่พ่อทำไปทั้งหมดก็เพื่อหนูไงลูก”
“แต่คุณพ่อเคยรู้มั้ยคะว่าฝันไม่ได้ต้องการเงินจากคุณพ่อเลยฝันต้องการแค่เวลาที่คุณพ่อจะมีให้ฝันก็เท่านั้นฝันเคยนั่งอิจฉาคนอื่นนะคะที่เค้านั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกทั้งที่กับข้าวนั้นมันก็ไม่ได้มีหลายอย่างแบบเราเลยแต่พวกเค้าก็นั่งกินกันอย่างมีความสุขฝันอยากเป็นแบบนั้นค่ะคุณพ่อ....ฝันอยากให้คุณพ่อนั่งกินข้าวกับฝันแบบนั้นฝันอยากคุณพ่อไปเที่ยวกับฝันแบบไม่ห่วงงาน...ฝันอยากให้คุณพ่อได้เห็นเวลาที่ฝันทำอะไรสำเร็จแต่ไม่เคยเลย...ฮือๆๆๆ”
หญิงสาวพูดระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจเธอมานานพร้อมน้ำตาที่มันพรั่งพรู
ตอนนี้พิศิษฐ์ทำได้แค่เอื้อมมือมาปาดน้ำตาของลูกสาวคนเดียวของเขาเบาๆเขาคิดผิดมาตลอดว่าสิ่งที่เขาทำมันดีต่อลูกสาวเขาแล้วแต่มันไม่ใช่เลยสิ่งที่ลูกสาวเขาต้องการมันเป็นแค่เรื่องที่น้อยนิดมากแต่เขากลับไม่เคยใส่ใจไม่เคยถามไถ่ว่าลูกเขาต้องการอะไรต่อไปนี้เขาจะขอใช้วลาอยู่กับลูกสาวของเขาจริงจังเสียทีเรื่องงานเอาไว้ค่อยว่ากันตอนนี้ลูกสาวเขาสำคัญที่สุดเพราะเขาก็เหลือกันอยู่แค่นี้แล้ว
“พ่อขอโทษลูก..พ่อขอโทษที่ไม่ใส่ใจหนูเลยพ่อสัญญาว่าต่อไปนี้พ่อจะให้เวลากับหนูให้มากขึ้นนะลูกพ่อสัญญา”
“จริงหรอคะคุณพ่อ...ฝันดีใจที่สุดเลยค่ะ”
ทั้งสองสวมกอดกันร้องให้สองคนพ่อลูกอยู่พักใหญ่ปรับความเข้าใจกันจนดีแล้วหญิงสาวจึงบอกกับพ่อเธอว่าต่อจากนี้เธอจะเป็นคนมาช่วยงานพ่อของเธอเองโดยเริ่มจากวันนี้เลยแล้วกัน
“แน่ใจหรอลูกว่าหนูจะไปคุยงานแทนพ่อ”
“แน่ใจค่ะคุณพ่อแค่นี้สบายมาก”
หญิงสาวแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาเอาเอกสารที่ห้องของพ่อเธอถึงแม้เธอจะไม่เคยช่วยงานของพ่อเธอแต่เธอก็มั่นใจว่าเรื่องการเจรจากับหุ้นส่วนเธอก็ทำได้ดีไม่แพ้มืออาชีพอยู่แล้ว
ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่งใจกลางเมือง
พาฝันนั่งคุยกับฐากูรหุ้นส่วนคนสำคัญของโปรเจคใหม่ของพ่อเธอเป็นเวลานานเกือบชั่วโมงและสำเร็จไปด้วยดีชายหนุ่มพอใจอย่างมากในการเสนอแนวคิดดและวิธีกลยุทธ์ทางการตลาดแบบสมัยใหม่ของหญิงสาวไม่คิ ดว่าคนพึ่งลุยงานเองครั้งแรกจะไม่ติดขัดและทำได้ดีขนาดนี้
“คุณฝันเจรจาเก่งพอๆกับคุณพิศิษฐ์เลยนะครับสมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน...ยังไงก็ขอให้คุณพิศิษฐ์หายไวๆนะครับ”
ฐากูรหนุ่มวัยสามสิบปลายๆทึ่งในความสามารถของพาฝันจากการที่คุยงานกันหญิงสาวเจรจาได้ไม่มีติดขัดไม่แพ้มืออาชีพเลย
“คุณฐากูรก็ชมเกินไปค่ะฝันยังต้องหาประสบการณ์อีกเยอะค่ะ...ไว้ฝันจะบอกคุณพ่อให้นะคะ”
หญิงสาวพูดถ่อมตัวเธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าที่เธอทำวันนี้มันจะดีกว่าที่เธอคิดซะอีก
“แล้วคุณฝันจะไปไหนต่อหรือป่าวครับเผื่อไปทางเดียวกันเดี๋ยวผมไปส่งเห็นว่าไม่ได้เอารถมา”
“อ๋อ..ฝันจะไปหาเพื่อที่คอนโดXXXน่ะค่ะ...ไม่รบกวนคุณฐากูรดีกว่า”
“ไม่รบกวนเลยครับผมกำลังจะไปหาลูกกับภรรยาผมที่คอนโดที่นั่นพอดีพอดีผมมีคอนโดอยู่ที่นั่นครับ”
“จริงหรอคะ...ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนคุณฐากูรแล้วล่ะค่ะ”
พาฝันไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้เธอเลยถือโอกาสขึ้นรถมากับชายหนุ่มเลยเพราะเธอเองไม่ได้เอารถมากะว่าวันนี้จะมาดูอาการของเพื่อนสาวเธอสักหน่อย
คอนโดXXX
เมื่อทั้งสองมาถึงคอนโดแล้วฐากูรจึงถือโอกาสบอกให้หญิงสาวเข้ามาหาลูกละภรรยาเขาด้วยเพราะตอนนี้ลูกสาวของเขาวัย 9 เดือนกำลังน่ารักน่าชังเลยอยากจะอวดหญิงสาว
“น้องณดาน่ารักมากเลยนะคะคุณฐากูร...เสียดายหลับซะแล้วไว้วันหลังฝันจะมาเล่นกับน้องใหม่นะคะ”
“ยินดีครับเดี๋ยวผมเดินออกไปส่ง”
“ค่ะ”
เมื่อหญิงสาวเล่นกับน้องณดาลูกสาวของฐากูรได้พักหนึ่งเด็กหญิงก็เพลียจนหลับไปทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียดายที่เล่นได้พักเดียวเด็กหญิงก็หลับเสียแล้วเธอเลยต้องจำใจขอตัวไปหาเพื่อนเธอต่อทั้งที่อยากอยู่เล่นกับเด็กหญิงอีกใจจะขาดโดยมีฐากูรเดินออกมาส่งที่หน้าห้อง
“ฝัน!!!”
เมื่ออัคคีเดินทางมาถึงที่กรุงเทพชายหนุ่มก็ดิ่งตรงมาที่คอนโดของเขาทันทีตอนแรกเขากะว่าจะมานั่งคิดแผนก่อนว่าจะตามหาหญิงสาวอย่างไรดีแต่ตอนนี้เขาคงไม่ต้องคิดแผนแล้วหละเพราะหญิงสาวที่เขาต้องการตามหายืนอยู่ตรงหน้าเขาอยู่ไม่ไกลแล้ว
แถมยังพูดคุยดี๊ด๊ากับหนุ่มคนใหม่อย่างไม่สนใจว่าตัวเองเคยบอกรักเขาอีกด้วยตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มฉุนในการกระทำของหญิงสาวไม่คิดว่าแค่ห่างกันวันเดียวหญิงสาวจะมายิ้มหน้าระรื่นอยู่กับชายอื่นแบบนี้อย่างนี้ต้องสั่งสอนเสียให้เข็ดชายหนุ่มคิดในใจในเมื่อเป็นคนรักของเขาแล้วอย่าหวังว่าเขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆ
“ว้าย..”
หลังจากหญิงสาวร่ำรากับชายหนุ่มที่หน้าห้องเสร็จแล้วเธอก็เตรียมที่จะเดินไปขึ้นลิฟท์เพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องของเพลงพิณแต่จู่ๆก็โดนมือปริศนามาที่ไหนไม่รู้มากระชากร่างของเธอเข้ามาในห้อง
“อื้มมมม”เมื่ออัคคีเห็นว่าหญิงสาวจะตะโกนให้คนช่วยเขาจึงรีบปิดประตูล็อคกลอนดันตัวเธอเข้ามาในห้องพร้อมประกบจูบหญิงสาวทันทีเพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงดังโวยวายอีกต่อไปปั้กๆๆๆหญิงสาวตกใจอย่างมากที่จู่ๆร่างของเธอก็โดนเหวี่ยงมาในห้องของใครก็ไม่รู้เมื่อเห็นว่าคนที่ดึงเธอเข้ามาเป็นใครเธอก็รีบใช้สองมือทุบไปที่ตัวชายหนุ่มทันทีหญิงสาวเองไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ด้วยซ้ำปั้กกกก“โอ้ยยยย...ฝันหยุดเดี๋ยวนี้นะ”หญิงสาวเห็นว่าในเมื่อเธอทุบตีคนที่ประกบจูบเธออยู่อย่างนั้นแล้วเขาเองก็ยังไม่สะทกสะท้านต่อแรงเธอสักเล็กน้อยเธอจึงตัดสินใจใช้ขาของเธอถีบชายหนุ่มออกจากตัวของเธออย่างสุดแรงพร้อมวิ่งไปที่ประตูหมายจะเปิดออกแล้ววิ่งหนีไปแต่ก็ไม่ทันความไวของชายหนุ่มอยู่ดีชายหนุ่มที่กระเดนออกจากตัวหญิงสาวเพราะแรงถีบของเธอเขารีบลุกขึ้นวิ่งตามหญิงสาวพร้อมรวบกอดเธอจากข้างหลังได้ก่อนที่เธอจะถึงประตู“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไอ้คนหลอกลวงอย่ามายุ่งกับฝันนะ”เมื่อหญิงสาวถูกชายหนุ่มรวบตัวได้จากด้านหลังเธอก็ดิ้นจนสุดแรงปากก็พร้อมว่าเขาต่างๆนาๆที่โกหกเธออีกด้วยตอนนี้เธอยังโกรธเขาไม่หายและโกรธมากขึ้นอีกด้วยที่เขาทำกับเธอแบบนี้ตุ้บบบ“โอ้ย
“นี่ปล่อยฝันเดี๋ยวนี้เลยนะ”หญิงสาวเอาแต่ดิ้นแต่ก็ไม่มีแรงที่จะดิ้นให้หลุดพ้นพันธนาการของชายหนุ่มเพราะเธอยังรู้สึกเจ็บระบมจุดซ่อนเร้นของเธออยู่“อย่าดิ้นน่าฝันพี่ขอกอดเมียพี่สักพักนะ”ชายหนุ่มยังคงกอดหญิงสาวอยู่หน้าตาเฉย“ใครเมียพี่..มั่วแล้ว”ตอนนี้หน้าหญิงสาวแดงขึ้นมาเป็นลูกตำลึงเพราะเธอทั้งโกรธทั้งอาย“หรือจะให้พี่ฟื้นความจำว่าไอ้ที่ทำกันเมื่อคืนมันเรียกว่าอะไร”ชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันทีที่หญิงสาวไม่ยอมที่จะอ่อนลงให้เขาได้ง่ายๆ“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ...ผู้ชายอะไรขี้โกหกแล้วยังจะเผด็จการอีก..ฝันเกลียดดดดด”หญิงสาวเริ่มหมดความอดทนกับการเผด็จการของชายหนุ่มเธอจึงขึ้นเสียงใส่เขาแบบฟิวขาด“อื้มมมมมม....”เมื่อจบคำพูดของหญิงสาวชายหนุ่มก็บดจูบเธอทันทีเป็นการลงโทษที่เธอแผดเสียงใสเขาชายหนุ่มบดจูบหญิงสาวอยู่เนิ่นนานจนเธอเริ่มที่จะไม่ต่อต้านเขาแล้วแต่สิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่ตอนนี้มันทำให้เขาต้องผละออกจากเธออย่างรวดเร็ว“ฝันพี่ขอโทษ”“ฮึกๆ...ฮือๆๆๆ...ฮืออออ..เอาสิอยากทำ..ฮือๆๆ..อะไรฝันก็ทำเลย..ฮึกๆ”เมื่อน้ำตาของหญิงสาวไหลรินลงมาแถมเธอยังไม่ต่อต้านเขาอีกแบบนี้เขารู้สึกว่าเขาเห็นแก่ตัวที่รังแ
“นี่มันไม่ใช่ทางที่ไปงานนี่คะ...มาผิดทางหรือป่าวคะ”เพลงพิณนั่งเหม่อลอยมาตั้งแต่ขึ้นรถเธอนั่งมาได้สักระยะก็พึ่งจะสังเกตุเห็นว่าทางที่คนขับรถพาเธอมามันไม่ใช่ทางที่เธอคุ้นเคยอีกอย่างเธอก็จำได้ว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางที่จะไปโรงแรมที่จัดงานอย่างแน่นอนเธอจึงถามชายหนุ่มคนขับรถขึ้นว่าเขาพาเธอมาผิดทางหรือป่าว“ไม่ผิดหรอกเพลง”“พ...พี่..ดิน”เมื่อชายหนุ่มคนที่ขับรถให้เธออยู่หันหน้ามาหาเธอพร้อมถอดหมวกที่เขาใส่อยู่หญิงสาวถึงกับต้องตะลึงไม่คิดว่าจะเป็นเขาคนที่เธอเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอด“พาเพลงกลับไปที่งานเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”หญิงสาวเองอยากจะกระโจนเข้าไปกอดชายหนุ่มตรงหน้านี้ด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่เธอยังมีทิฐิอยู่ว่าชายหนุ่มหายไปอยู่กับแฟนเก่าแล้วไม่เคยติดต่อหาเธอเลยอันที่จริงที่ชายหนุ่มหายไปเขาไม่ได้หายไปไหนช่วงที่เขาต้องไปช่วยคนที่หมู่บ้านเขาเองร่วมมือกับตำรวจเพื่อเข้าจับกุมพวกกลุ่มอิทธิพลเขาจึงได้รับบาดเจ็บนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนโดยเรื่องนี้ทั้งพาฝันละอัคคีก็รู้แต่ดินแดนเองขอร้องทั้งสองว่าอย่าบอกหญิงสาวเพราะเขาไม่อยากทำให้หญิงสาวเป็นห่วงเขารับปากกับอัคคีละพาฝันไว้ว่าเขาใกล้ที่จะหายดีเมื่อไรเขาจะเป
บ้านเดชณรงค์20.00กว่าเพลงพิณและพาฝันจะเดินทางมาถึงที่บ้านเดชณรงค์ก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มเพราะหนทางที่ทั้งสองเดินทางเข้ามามันช่างยากลำบากเหลือเกินอีกทั้งสัมภาระของทั้งสองยังพะลุงพะลังอีก“นี่ยัยเพลงฉันไม่คิดว่าแม่แกจะหาที่อยู่ที่มันช่างเข้าถึงได้ยากลำบากขนาดนี้เลย”พาฝันเดินบ่นอุกเมื่อลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาถึงหน้าบ้านกว่ารถสองแถวจะมาส่งเธอถึงหน้าปากทางบ้านก็เล่นเอาพวกเธอทั้งสองหัวฟูยุ่งเหยิงกันเลยทีเดียวถ้าหญิงสาวไม่ติดว่าสงสารเพื่อนที่กำลังอกหักอยู่มีหวังที่กันดารแบบนี้เธอก็ไม่ขอมาด้วยหรอก“เอาน่ายัยฝันแล้วแกจะให้ฉันทำยังไงไม่อย่างนั้นคุณแม่ฉันก็ไม่ยอมให้มาอยู่ที่นี่อยู่ดีอะ”เพลงพิณพูดพร้อมหยิบกุญแจออกมาเพื่อไขประตูบ้าน“เสร็จหรือยังแกยุงจะหามฉันไปกินในป่าแล้วเนี่ยนี่ถ้าขาสวยๆของฉันลายมันเป็นเพราะแกเลยยัยเพลง”พาฝันใช้มือปัดยุงที่รายล้อมเธอมือเป็นพัลวันยุงที่นี่เยอะมากซะจนแทบจะหามตัวเธอไปได้อยู่แล้ว“แล้วเปิดไฟตรงไหนล่ะเนี่ย...นี่แกเจ้าของบ้านเขาไม่คิดจะมาดูมาแลแขกบ้างหรือไง”เมื่อเพลงพิณไขกุญแจเปิดเข้ามาในบ้านได้ทั้งสองก็รีบเดินหาสวิทช์ไฟกันทันทีพาฝันรู้สึกแปลกใจที่เจ้าของบ้านไม
ตอนนี้ตาของหญิงสาวโตเป็นประกายเพราะเมื่อแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าเธอเห็นทั้งดวงจันทร์กลมโตพร้อมหมู่ดาวที่รายล้อมแถมยังมีเสียงจิ้งหรีดร้องคลออยู่กับบรรยากาศยามค่ำคืนเธอเองยืนยิ้มกอดอกให้กับภาพตรงหน้าพลางคิดในใจว่าเธอไม่ได้มาพบเจอกับบรรยากาศแบบนี้นานเท่าไรแล้วน้าตั้งแต่เป็นหมอมาก็ไม่เคยที่จะว่างจนกระทั่งตัวเธอเองอกหักนี่แหละถึงได้มาเจอกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งจะว่าอกหักก็ไม่ได้สิเพราะเธอไม่เคยได้คบกับชายหนุ่มที่เธอแอบชอบแถมยังไม่เคยได้มีโอกาสบอกกับเขาด้วยซ้ำว่าเธอคิดยังไงเหตุการณ์วันนั้นเมื่อเดือนที่แล้วบ้านแอนเดอสัน“กลับมากันแล้วหรอคะ….ไหนน้องเพลินซื้อของฝากมาฝากอาเพลงหรือป่าวคะ”เพลงพิณเข้าไปกอดหอมหลานสาวด้วยความคิดถึงเพราะทั้งพี่ชายและแพรไหมไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลกันหลายวัน“ของฝากหรอคะ…คุณพ่อบอกว่าของฝากคือ..คือน้องค่ะ…ในนี้”เด็กหญิงพาเพลินพูดตามคำที่พ่อของเธอบอกถึงจะบอกว่าของฝากคือน้องแต่เหมือนเจ้าตัวก็ยังทำหน้างงๆอยู่ว่าน้องคืออะไรเพราะก็เห็นๆอยู่ว่าเป็นแค่พุงของแม่เธอ“555555555”ภูผาอดขำท่าทีของลูกสาวตัวเองไม่ได้ก่อนกลับเขานัดแนะกับลูกสาวตัวกลมของเขาแทบตายตอนแรกนึกว่าเข้าใจแล้วว่
เช้าวันต่อมา“ตื่นเร็วแกฉันหิวไปหารัยกินกัน”พาฝันรีบตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเพราะตอนนี้เธอเริ่มหิวมากซึ่งเป็นผลจากการที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่มื้อเที่ยงเมื่อวานเมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องของเพลงพิณอย่างรวดเร็วเพราะประตูด้านในห้องมันสามารถทะลุถึงกันได้“อื้มมมมม….ขอนอนอีกนิดนะแกอากาศกำลังดีเลยแกหิวก็ไปหาอะไรกินก่อนเลยเผื่อฉันด้วย”เพลงพิณตอบเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการงัวเงียวันนี้อากาศดีเธอจึงอยากจะนอนต่ออีกสักพัก“โถ่…ยัยขี้เซาเอ้ยฉันไปคนเดียวก็ได้”พาฝันถึงกับบ่นอุกในความขี้เซาของเพื่อนเธอในเมื่อไม่ยอมตื่นเธอไปหาอะไรทานคนเดียวก็ได้11.00 น. “ไปไหนของเธอกันนะยัยฝันโทรก็ไม่ติด”เพลงพิณตื่นขึ้นมาในช่วงสายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเช้าพอดีเธอจำได้ว่าเมื่อเช้าพาฝันชวนเธอไปหาอะไรทานแล้วพอเธอไม่ตื่นเพื่อนของเธอก็จำใจจะต้องไปคนเดียวเธอจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวในห้องเพราะคิดว่าน่าจะกลับมาแล้วแต่กลับไม่มี“หูยยยยสเต็คหมูของโปรดฉัน…”เมื่อเพลงพิณหาพาฝันในห้องไม่เจอเธอจึงเดินลงมาหาที่ด้านล่างคิดว่าเพื่อนเธออาจจะนั่งเล่นอยู่ที่ข้างล่างก็ได้แต่เมื่อลงมาเธอไม่เห็นเพื่อนสาวของ
“ห๊า…..”หญิงสาวตะลึงจนอ้าปากหวอไม่คิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอและเขามาพบกันอีกแถมยังต้องมาอยู่บ้านเดียวกันอีกเนี่ยนะมีหวังเธอประสาทกินตายแล้วเรื่องเมื่อกี้ที่เธอพูดไปล่ะก็โป้ะแตกน่ะสิหญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบรู้สึกหน้าแตกจนไปไม่เป็นเมื่อโดนชายหนุ่มแซวเรื่องที่เธอบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้าน“อะ…เอ่อ..แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าฉันก็คิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิตน่ะสิ….งั้นชะ..ไปแล่วววว”หญิงสาวยกมือเกาหัวแกลกๆแก้เขินและรีบตีเนียนจะเดินออกจากห้องของชายหนุ่มแต่ก็ไม่ทันเพราะมือของชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอไว้ซะอยู่เลย“อะไรอีกเล่า”หญิงสาวชะงักหันมาถามชายหนุ่มแบบไม่กล้าสบตาเพราะเธอรู้ว่าเธอผิดแถมด่าเขาไว้เยอะด้วยทั้งบ้าทั้งโรคจิต“คุณเจอกับผมทีไรนี่ผมต้องเป็นคนที่ทั้งบ้าและโรคจิตตลอดเลยนะ…นี่จะไปทั้งที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักคำเลยเนี่ยนะ”ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆแกมประชดหญิงสาวยิ่งเห็นสีหน้าเธอรู้สึกผิดเขายิ่งคิดว่ายิ่งน่าแกล้ง“งั้นฉันขอโทษก็ได้….จะปล่อยได้หรือยังฉันหิวจะแย่แล้ว”หญิงสาวพูดเสียงแผ่วทั้งยังแอบเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มอีกแต่ก็มองได้แวบเดียวเธอเองก็ต้องก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้สายตาของเธอมองเห็นแผ
“อะ...อ้าวคนเองหรอแฮร่ๆๆๆ...หล่อด้วย”เมื่อหญิงสาวลืมตามองหน้าคนที่ลากเธอขึ้นมาจากโคนตมแล้วนั่งตรงคันนาอยู่ตอนนี้จากอาการกลัวควายขวิดกลับกลายเป็นอาการเขินที่เข้ามาแทนเพราะคนที่เข้ามาช่วยเธอเขาตรงตามสเปคของเธอทุกอย่างแม้จะเนื้อตัวมอมแมมไปหน่อยก็เถอะเธอนั่งเกาหัวแกรกๆพูดชมเขาเบาๆโดยที่เขาไม่ได้ยิน“แล้วคุณลุกขึ้นไหวมั้ยเนี่ย”ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เนื้อตัวเปื้อนโคลนแถมชุดที่เธอใส่ก็ยังหมิ่นเหม่จะเห็นอะไรต่อมิอะไรอีกเขามองเธอด้วยสายตาระอาคิดในใจว่าเอจะรู้ตัวเองมั้ยว่าทำให้คนอื่นเค้าวุ่นวายกันหมด“เอ่อ...มะ..ไม่ไหว....เจ็บขาไปหมดแล้ว”หญิงสาวตอบคนตรงหน้าพร้อมก้มหน้าลงเธอคิดว่าต้องทำตัวน่าสงสารเข้าไว้คนตรงหน้าจะได้เห็นใจและช่วยเธอ“เฮ้ออก็ใครใช้ให้คุณใส่ส้นสูงแล้วก็ไอ้ชุดแบบนี้มาเดินแถวนี้เล่า”“อะ..เอ่อ..คุณ..จะอุ้มก็บอกกันก่อนสิตกใจหมด”ชายหนุ่มต้องออกปากบ่นหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่พร้อมช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าเธอคงจะเดินไม่ไหวจริงๆยิ่งเห็นชุดกับรองเท้าที่เธอใส่เขาล่ะอ่อนใจ“นี่คุณจะพาฉันไปไหนหรอ”หญิงสาวที่ตอนนี้ถือโอกาสซบหน้าตัวเองที่แผงอกของคนที่อุ้มอยู่เธอเองเห็นเขาอุ้มเธอเดินด