บ้านเดชณรงค์
20.00
กว่าเพลงพิณและพาฝันจะเดินทางมาถึงที่บ้านเดชณรงค์ก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มเพราะหนทางที่ทั้งสองเดินทางเข้ามามันช่างยากลำบากเหลือเกินอีกทั้งสัมภาระของทั้งสองยังพะลุงพะลังอีก
“นี่ยัยเพลงฉันไม่คิดว่าแม่แกจะหาที่อยู่ที่มันช่างเข้าถึงได้ยากลำบากขนาดนี้เลย”
พาฝันเดินบ่นอุกเมื่อลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาถึงหน้าบ้านกว่ารถสองแถวจะมาส่งเธอถึงหน้าปากทางบ้านก็เล่นเอาพวกเธอทั้งสองหัวฟูยุ่งเหยิงกันเลยทีเดียวถ้าหญิงสาวไม่ติดว่าสงสารเพื่อนที่กำลังอกหักอยู่มีหวังที่กันดารแบบนี้เธอก็ไม่ขอมาด้วยหรอก
“เอาน่ายัยฝันแล้วแกจะให้ฉันทำยังไงไม่อย่างนั้นคุณแม่ฉันก็ไม่ยอมให้มาอยู่ที่นี่อยู่ดีอะ”
เพลงพิณพูดพร้อมหยิบกุญแจออกมาเพื่อไขประตูบ้าน
“เสร็จหรือยังแกยุงจะหามฉันไปกินในป่าแล้วเนี่ยนี่ถ้าขาสวยๆของฉันลายมันเป็นเพราะแกเลยยัยเพลง”
พาฝันใช้มือปัดยุงที่รายล้อมเธอมือเป็นพัลวันยุงที่นี่เยอะมากซะจนแทบจะหามตัวเธอไปได้อยู่แล้ว
“แล้วเปิดไฟตรงไหนล่ะเนี่ย...นี่แกเจ้าของบ้านเขาไม่คิดจะมาดูมาแลแขกบ้างหรือไง”
เมื่อเพลงพิณไขกุญแจเปิดเข้ามาในบ้านได้ทั้งสองก็รีบเดินหาสวิทช์ไฟกันทันทีพาฝันรู้สึกแปลกใจที่เจ้าของบ้านไม่คิดจะห่วงใยแขกที่มาพักบ้านตัวเองเลยหรือไงว่าจะหยิบจะจับอะไรถูกมั้ย
“คุณแม่ฉันโทรมาบอกว่าวันนี้พี่เค้าไม่ว่างน่าจะมาพรุ่งนี้เช้าเพราะติดธุระน่ะ”
พิมพาโทรบอกเพลงพิณตั้งแต่เมื่อหญิงสาวมาถึงสนามบินแล้วว่าวันนี้ลูกชายของเพื่อนแม่เธอที่เป็นเจ้าของบ้านไม่ว่างแล้ววันนี้ก็ไม่น่าจะกลับบ้านด้วยเพราะติดธุระจึงให้เธอหาทางเข้าบ้านกันไปก่อนกุญแจที่เธอได้มาก็ได้มาจากน้าดรุณีเพื่อนของแม่เธอที่เป็นคนส่งมาให้นี่แหละแต่เธอเองก็ยังไม่เคยเห็นลูกชายเขาเหมือนกันแม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จักเพราะตอนที่เคยเจอกันต่างคนก็ต่างรีบไม่ได้มีเวลาซักไซร้อะไรกันมากนัก
“พี่เค้าหรอ.....เค้าเป็นผู้ชายใช่ป่ะแล้วหล่อมั้ยอะแกอายุเท่าไร”
พาฝันยื่นหน้ามาใกล้ๆกับเพื่อนสาวด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามแบบของเธอ
“ฉันก็ไม่รู้อะแกไม่เคยเห็นหน้าแถมชื่อยังไม่รู้จักอีกด้วย”
เพลงพิณตอบไปตามความจริงเพราะเธอเองก็ไม่เคยเห็นแถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายของเพื่อนแม่เธอชื่อว่าอะไรอายุเท่าไร
“อ้าว....แล้วแม่แกไม่บอกเลยหรือไง”
พาฝันรู้สึกงงกับเพื่อนสาวของเธอที่จะมาอาศัยอยู่บ้านของเขาทั้งทีแต่กลับไม่รู้จักเจ้าของบ้าน
“ฉันก็ไม่เห็นคุณแม่จะบอกอะไรกว่าจะอนุญาติให้มาที่นี่ฉันก็ขอร้องแทบเป็นแทบตายแล้วฉันก็ไม่กล้าจะถามอะไรคุณแม่มากนักหรอกแก”
ด้วยความที่เพลงพิณเองอยากมาที่ใจจะขาดเพราะอยากตัดขาดจากโลกภายนอกสักพักเธอขอมารักษาแผลใจที่นี่สักระยะเมื่อคนเป็นแม่ยอมให้มาแต่มีข้อแม้ว่าต้องมาอยู่ที่นี่เธอจึงตอบตกลงในทันทีเพราะกลัวว่าแม่ของเธอจะเปลี่ยนใจโดยที่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อเลยสักนิด
“อืมมมมม...งั้นช่างเถอะเดี๋ยวก็คงได้เจอ”
พาฝันเห็นว่าในเมื่อไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านเป็นใครก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็คงได้เจอกันเอง
“นี่อะไรอะ....”
พาฝันหยิบโพสอิทที่แปะอยู่บนโต้ะตรงหน้าที่พวกเธอนั่งอยู่เลยหยิบขึ้นมาอ่าน
“ผมต้องขอโทษพวกคุณที่ไม่ได้อยู่ต้อนรับนะครับผมติดธุระด่วนจริงๆห้องของพวกคุณอยู่ทางซ้ายมือถัดจากบันไดมีสองห้องผมทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้วส่วนอาหารสดผมซื้อเตรียมไว้ที่ตู้เย็นในครัวเรียบร้อยแล้วพวกคุณจะทานอะไรก็ตามสบายเลยนะครับ…..โหหหหโคตรเอาใจใส่อะแก”
พาฝันอ่านข้อความไปยิ้มไปคิดว่าชายหนุ่มเจ้าของบ้านคงเป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่นอย่างดีเสียดายที่วันนี้ยังไม่มีโอกาสได้เจอเขาเสียนี่
“หรอ…เอาใจใส่…..แกลืมอะไรไปหรือป่าวยัยฝันว่าพวกเราทำกับข้าวไม่เป็น”
เพลงพิณถึงกับกรอกตามองบนแล้วถอนหายใจเธอไม่รู้จะซึ้งดีมั้ยที่ชายหนุ่มเจ้าของบ้านซื้ออาหารสดไว้ให้แต่พวกเธอดันทำกับข้าวไม่เป็น
“เออ…จริงด้วยฉันลืมไปเลยอ่า”
จากที่พาฝันทำหน้าซึ้งอยู่เมื่อครู่เมื่อฟังคำพูดของเพื่อนสาวที่ทำหน้าเซ็งอยู่ข้างๆถึงกับต้องเปลี่ยนสีหน้ากะทันหันเธอลืมไปซะสนิทเลยจริงๆว่าพวกเธอสองคนเป็นลูกคุณหนูไม่เคยทำกับข้าวและก็หยิบจับอุปกรณ์ในครัวไม่เป็นเลยด้วย
“งั้นคืนนี้เราคงต้องนอนกันพร้อมความหิวไปก่อนแล้วแหละแกพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
“เฮ้อออ”
พาฝันทำหน้าเศร้าบอกกับเพลงพิณทำเอาหญิงสาวต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ดูท่าว่าการที่พวกเธอมาพักผ่อนอยู่ที่นี่มันจะไม่สบายอย่างที่คิดซะแล้วสิ
ทั้งสองต่างแยกย้ายกันนอนคนละห้องที่ชายหนุ่มได้เตรียมไว้ให้พาฝันเมื่อหัวถึงหมอนก็ฟุบหลับลงในทันทีเพราะตอนนี้เธอเพลียมากเหลือเกินไอ้เรื่องความหิวของเธอขอเอาไว้ก่อนพรุ่งนี้เธอจะกินให้แหลกลานชดเชยกับวันนี้ที่เธออดมาตั้งแต่มื้อกลางวัน
ทางด้านเพลงพิณเมื่อลากกระเป๋าเข้าห้องของเธอด้วยความที่ทั้งเพลียและหิวหญิงสาวรีบเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อเธอมองรอบๆห้องก็คิดว่าคนที่ตกแต่งห้องนี้ต้องเป็นคนที่มีรสนิยมพอสมควรดูจากการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่คุมโทนและการจัดวางก็ยังดูทันสมัยอีกด้วย
หญิงสาวเดินสำรวจสักพักก็เข้าไปอาบน้ำแล้วหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต้ะขึ้นมาอ่านเมื่อหญิงสาวเลือกหยิบดูที่กองหนังสือก็พบว่าหนังสือที่วางอยู่มีแต่หนังสือที่เกี่ยวกับป่าเขาและพันธ์สัตว์ต่างๆแถมยังมีพวกวิธีทำเกษตรกรรมที่ไม่ใช้สารเคมีอีกด้วยเธอคิดว่าคงจะเป็นของเจ้าของบ้านนี้แหงๆเพราะเธอก็ได้รู้มาบ้างว่าเมื่อลูกชายของน้าดรุณีเพื่อนของแม่เธอมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ
ตอนนี้เธอก็ยังสงสัยอยู่ว่าคนที่จบเมืองนอกเมืองนาแถมที่บ้านก็มีธุรกิจใหญ่โตทำไมถึงเลือกใช้ชีวิตแบบนี้หญิงสาวรีบสลัดความคิดออกจากหัวในเมื่อเธอเป็นแค่คนที่มาอาศัยจะไปอยากรู้เรื่องอะไรของเจ้าของบ้านพลันสายตาก็เหลือบมองไปที่หน้าต่างที่มีแสงของดวงจันทร์และดวงดาวสลัวๆผ่านเข้ามาเธอเองจึงรีบเดินออกไปชะโงกมองนอกหน้าต่าง
ตอนนี้ตาของหญิงสาวโตเป็นประกายเพราะเมื่อแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าเธอเห็นทั้งดวงจันทร์กลมโตพร้อมหมู่ดาวที่รายล้อมแถมยังมีเสียงจิ้งหรีดร้องคลออยู่กับบรรยากาศยามค่ำคืนเธอเองยืนยิ้มกอดอกให้กับภาพตรงหน้าพลางคิดในใจว่าเธอไม่ได้มาพบเจอกับบรรยากาศแบบนี้นานเท่าไรแล้วน้าตั้งแต่เป็นหมอมาก็ไม่เคยที่จะว่างจนกระทั่งตัวเธอเองอกหักนี่แหละถึงได้มาเจอกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งจะว่าอกหักก็ไม่ได้สิเพราะเธอไม่เคยได้คบกับชายหนุ่มที่เธอแอบชอบแถมยังไม่เคยได้มีโอกาสบอกกับเขาด้วยซ้ำว่าเธอคิดยังไงเหตุการณ์วันนั้นเมื่อเดือนที่แล้วบ้านแอนเดอสัน“กลับมากันแล้วหรอคะ….ไหนน้องเพลินซื้อของฝากมาฝากอาเพลงหรือป่าวคะ”เพลงพิณเข้าไปกอดหอมหลานสาวด้วยความคิดถึงเพราะทั้งพี่ชายและแพรไหมไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลกันหลายวัน“ของฝากหรอคะ…คุณพ่อบอกว่าของฝากคือ..คือน้องค่ะ…ในนี้”เด็กหญิงพาเพลินพูดตามคำที่พ่อของเธอบอกถึงจะบอกว่าของฝากคือน้องแต่เหมือนเจ้าตัวก็ยังทำหน้างงๆอยู่ว่าน้องคืออะไรเพราะก็เห็นๆอยู่ว่าเป็นแค่พุงของแม่เธอ“555555555”ภูผาอดขำท่าทีของลูกสาวตัวเองไม่ได้ก่อนกลับเขานัดแนะกับลูกสาวตัวกลมของเขาแทบตายตอนแรกนึกว่าเข้าใจแล้วว่
เช้าวันต่อมา“ตื่นเร็วแกฉันหิวไปหารัยกินกัน”พาฝันรีบตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเพราะตอนนี้เธอเริ่มหิวมากซึ่งเป็นผลจากการที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่มื้อเที่ยงเมื่อวานเมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องของเพลงพิณอย่างรวดเร็วเพราะประตูด้านในห้องมันสามารถทะลุถึงกันได้“อื้มมมมม….ขอนอนอีกนิดนะแกอากาศกำลังดีเลยแกหิวก็ไปหาอะไรกินก่อนเลยเผื่อฉันด้วย”เพลงพิณตอบเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการงัวเงียวันนี้อากาศดีเธอจึงอยากจะนอนต่ออีกสักพัก“โถ่…ยัยขี้เซาเอ้ยฉันไปคนเดียวก็ได้”พาฝันถึงกับบ่นอุกในความขี้เซาของเพื่อนเธอในเมื่อไม่ยอมตื่นเธอไปหาอะไรทานคนเดียวก็ได้11.00 น. “ไปไหนของเธอกันนะยัยฝันโทรก็ไม่ติด”เพลงพิณตื่นขึ้นมาในช่วงสายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเช้าพอดีเธอจำได้ว่าเมื่อเช้าพาฝันชวนเธอไปหาอะไรทานแล้วพอเธอไม่ตื่นเพื่อนของเธอก็จำใจจะต้องไปคนเดียวเธอจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวในห้องเพราะคิดว่าน่าจะกลับมาแล้วแต่กลับไม่มี“หูยยยยสเต็คหมูของโปรดฉัน…”เมื่อเพลงพิณหาพาฝันในห้องไม่เจอเธอจึงเดินลงมาหาที่ด้านล่างคิดว่าเพื่อนเธออาจจะนั่งเล่นอยู่ที่ข้างล่างก็ได้แต่เมื่อลงมาเธอไม่เห็นเพื่อนสาวของ
“ห๊า…..”หญิงสาวตะลึงจนอ้าปากหวอไม่คิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอและเขามาพบกันอีกแถมยังต้องมาอยู่บ้านเดียวกันอีกเนี่ยนะมีหวังเธอประสาทกินตายแล้วเรื่องเมื่อกี้ที่เธอพูดไปล่ะก็โป้ะแตกน่ะสิหญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบรู้สึกหน้าแตกจนไปไม่เป็นเมื่อโดนชายหนุ่มแซวเรื่องที่เธอบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้าน“อะ…เอ่อ..แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าฉันก็คิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิตน่ะสิ….งั้นชะ..ไปแล่วววว”หญิงสาวยกมือเกาหัวแกลกๆแก้เขินและรีบตีเนียนจะเดินออกจากห้องของชายหนุ่มแต่ก็ไม่ทันเพราะมือของชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอไว้ซะอยู่เลย“อะไรอีกเล่า”หญิงสาวชะงักหันมาถามชายหนุ่มแบบไม่กล้าสบตาเพราะเธอรู้ว่าเธอผิดแถมด่าเขาไว้เยอะด้วยทั้งบ้าทั้งโรคจิต“คุณเจอกับผมทีไรนี่ผมต้องเป็นคนที่ทั้งบ้าและโรคจิตตลอดเลยนะ…นี่จะไปทั้งที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักคำเลยเนี่ยนะ”ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆแกมประชดหญิงสาวยิ่งเห็นสีหน้าเธอรู้สึกผิดเขายิ่งคิดว่ายิ่งน่าแกล้ง“งั้นฉันขอโทษก็ได้….จะปล่อยได้หรือยังฉันหิวจะแย่แล้ว”หญิงสาวพูดเสียงแผ่วทั้งยังแอบเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มอีกแต่ก็มองได้แวบเดียวเธอเองก็ต้องก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้สายตาของเธอมองเห็นแผ
“อะ...อ้าวคนเองหรอแฮร่ๆๆๆ...หล่อด้วย”เมื่อหญิงสาวลืมตามองหน้าคนที่ลากเธอขึ้นมาจากโคนตมแล้วนั่งตรงคันนาอยู่ตอนนี้จากอาการกลัวควายขวิดกลับกลายเป็นอาการเขินที่เข้ามาแทนเพราะคนที่เข้ามาช่วยเธอเขาตรงตามสเปคของเธอทุกอย่างแม้จะเนื้อตัวมอมแมมไปหน่อยก็เถอะเธอนั่งเกาหัวแกรกๆพูดชมเขาเบาๆโดยที่เขาไม่ได้ยิน“แล้วคุณลุกขึ้นไหวมั้ยเนี่ย”ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เนื้อตัวเปื้อนโคลนแถมชุดที่เธอใส่ก็ยังหมิ่นเหม่จะเห็นอะไรต่อมิอะไรอีกเขามองเธอด้วยสายตาระอาคิดในใจว่าเอจะรู้ตัวเองมั้ยว่าทำให้คนอื่นเค้าวุ่นวายกันหมด“เอ่อ...มะ..ไม่ไหว....เจ็บขาไปหมดแล้ว”หญิงสาวตอบคนตรงหน้าพร้อมก้มหน้าลงเธอคิดว่าต้องทำตัวน่าสงสารเข้าไว้คนตรงหน้าจะได้เห็นใจและช่วยเธอ“เฮ้ออก็ใครใช้ให้คุณใส่ส้นสูงแล้วก็ไอ้ชุดแบบนี้มาเดินแถวนี้เล่า”“อะ..เอ่อ..คุณ..จะอุ้มก็บอกกันก่อนสิตกใจหมด”ชายหนุ่มต้องออกปากบ่นหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่พร้อมช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าเธอคงจะเดินไม่ไหวจริงๆยิ่งเห็นชุดกับรองเท้าที่เธอใส่เขาล่ะอ่อนใจ“นี่คุณจะพาฉันไปไหนหรอ”หญิงสาวที่ตอนนี้ถือโอกาสซบหน้าตัวเองที่แผงอกของคนที่อุ้มอยู่เธอเองเห็นเขาอุ้มเธอเดินด
“ไม่ๆ....งั้นพาฉันไปบ้านคุณเดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มเดินอุ้มหญิงสาวกลับมาที่เรือนไม้ที่อยู่ห่างจากน้ำตกไม่มากนักแต่ก็เป็นบ้านที่อยู่บนเนินสูงเป็นที่ที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติเพราะก่อนที่จะสร้างเรือนหลังนี้เขาศึกษามาอย่างดีแล้วเมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็รีบอุ้มเธอเดินเข้าไปที่ห้องน้ำในห้องของเขาเพราะเรือนไม้ที่เขาสร้างมีแค่ห้องเดียวเอาไว้ใช้เวลาที่อยากจะมานอนพักผ่อน“นี่บ้านคุณหรอน่ารักดีนะ...ฉันชอบ”พาฝันเห็นบ้านหลังนี้ก็รู้สึกตกหลุมรักมันในทันทีเพราะที่นี่ถึงจะเป็นเรือนไม้เล็กๆแต่จากที่เธอมองผ่านๆมันน่าจะสามรถมองเหนวิวได้ทุกด้านอีกทั้งยังดูเล็กๆดูอบอุ่นมากๆอีกด้วย“อืมมม...เดี๋ยวคุณนั่งอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวผมไปหาผ้าขนหนูกับเสื้อมาให้คุณเปลี่ยน”หญิงสาวพยักหน้ารับเมื่อคนตัวโตอุ้มเธอมาวางนั่งอยู่ที่เก้าอีในห้องน้ำและเดินออกไปแล้วเธอจึงยื่นมือไปหยิบฝักบัวแล้วเปิดราดตัวเองทันทีเพราะเธอตอนนี้ทั้งตัวที่ยังเลอะโคลนที่ล้างยังไม่หมดแถมเปียกฝนอีกเธอจึงต้องรีบล้างตัวในทันที“อะนี่คุณผมแขวนไว้ตรงนี้นะเสร็จแล้วก็เรียกผมนะเดี๋ยวมาอุ้มออกไป”“โอเค”อัคคีรีบไปหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในตู้ละเสื้อเชิ้ตของเขาที่ผ
“นี่ผมถามจริงคุณไม่กลัวผมเลยหรือไงทั้งๆที่เราพึ่งเจอกัน”ชายหนุ่มถึงกับหันควับคราแรกเขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมอยู่กับคนที่พึ่งเจออย่างเขาเสียอีกเขายังนึกแปลกใจว่าเธอทำไมไว้ใจที่จะอยู่ที่นี่กับเขาง่ายจัง“ไม่กลัวววเพราะถ้าพี่เพลิงจะทำอะไรฝันคงทำไปนานแล้ว....อืมมแล้วท่าทางจะพี่เพลิงยังจะรำคาญฝันด้วยน้า..”หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มหวานส่งไปให้ชายหนุ่มเธอไม่แคร์ว่าชายหนุ่มจะยิ้มตอบหรือไม่แต่เธอแค่อยากจะยิ้มให้เขาดูจากอาการเขาตอนนี้แล้วก็คงจะรำคาญเธออยู่ไม่น้อย“รู้ตัวก็ดีแล้วคุณ...รีบๆโทรบอกเพื่อนคุณได้แล้วเดี๋ยวเขาจะเป็นห่วง”“โอเค”หญิงสาวพยักหน้ารับพร้อมกดมือถือโทรหาเพลงพิณทันทีเมื่อคุยกันได้สักแปปเธอก็ยื่นมือถือคืนชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“เรียบร้อยแล้วหรอคุณ”“ใช่ค่ะ...อ้อแล้วก็ฝันเมมเบอพร้อมถ่ายรูปหน้าฝันลงในเครื่องพี่เพลิงแล้วนะคะเวลาฝันโทรหาพี่เพลิงพี่เพลิงจะได้เห็นหน้าฝันชัดๆไงคะ”ชายหนุ่มถึงกับหนาเหวอคนแบบนี้ก็มีด้วยแฮะเขาเองไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอพร้อมหมุนตัวจะออกไปนอกห้องทันที“เดี๋ยวพี่เพลิงจะไปไหนคะ”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จาเธอจึงต้องรีบตะ
“เมื่อกลางวันผมแนะนำเพื่อนคุณให้ไปเที่ยวที่ไร่เธอคงจะเดินลัดไปทางหลังบ้านแล้วไปที่ไร่แหละคุณ...อืมมเอางี้ผมพอรู้จักอยู่กับลุงสมหมายที่ทำงานที่ไร่นั้นอยู่บ้านแกอยู่ใกล้ๆเรานี่เองเดี๋ยวผมไปถามลุงแกให้ว่าเห็นเพื่อนคุณหรือป่าว”ชายหนุ่มจำได้ว่าลุงสมหมายที่ปลูกบ้านอยู่ระแวกที่ใกล้สุดแถวนี้แกทำงานอยู่ที่ไร่มีรักถ้าพาฝันไปที่นั่นจริงแกก็คงจะต้องเห็นบ้างเพราะเธอแต่งตัวต่างจากคนที่นี่คนงานในไร่เห็นก็ต้องพูดกันอยู่บ้างแหละตอนนี้เขาเองร้อนใจไม่แพ้หญิงสาวเหมือนกันแต่ก็ต้องคุมสติไว้ก่อนเพราะเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่มีสติแล้วที่เขากังวลคือตอนนี้ฝนตกหนักเกิดพาฝันอยู่ในป่าที่ใกล้กับไร่คงไม่ดีแน่เพราะมันอันตรายมาก“ไปกันเลยคุณ”“หืออ..โอ้ยยยยยยคุณ”“ว้ายยยยยย”เพลงพิณคว้ามือชายหนุ่มเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้ทันตั้งตัวล้มลงกลิ้งลงไปกองอยู่ที่พื้นทำเอาหญิงสาวส่งเสียงกรี้ดดดลั่นบ้านเพราะเธอเกือบจะฆ่าชายหนุ่มแล้วมั้ยล่ะ“คุณเป็นยังไงบ้าง...ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ”หญิงสาวรีบวิ่งลงมาดูอาการของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขายังนอนร้องโอดโอยอยู่เธอจึงโล่งใจที่เขาไม่ได้ตายเพราะฝีมือเธอพ
“นี่คุณลืมตาได้แล้ว”หญิงสาวเดินไปหยิบไฟฉายในมือของชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาลืมตาได้เพราะตอนนี้เธอพันผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้ว“อะ..เอ่อ..ผมเอาไฟฉายมาให้แล้วเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดังโครมครามคุณเป็นอะไรหรือป่าว”ชายหนุ่มรีบหาเรื่องคุยเปลี่ยนเรื่องทันทีหวังว่าหญิงสาวคงไม่ถือสาเขาเรื่องเมื่อครู่นี้นะ“ไม่อะฉันแค่เดินชนโต้ะที่หัวเตียงแล้วคมไฟมันตกลงมา..”หญิงสาวพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มเพราะเธอรู้สึกเขินที่เมื่อครู่เขาจะเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอบ้างหรือป่าวก็ไม่รู้“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว....งั้นผมไปล่ะ”ชายหนุ่มดูก็รู้ว่าที่หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ยอมสบตาเขาเธอคงจะอายเรื่องเมื่อครู่เขาจึงคิดว่าขอปลีกตัวออกไปโดยเร็วจะดีกว่า“เดี๋ยวคุณ....เอ่อ..เมื่อกี้..ค..คุณไม่ได้เห็นอะไรใช่มั้ย”เมื่อเห็นชายหนุ่มหันหลังจะเดินออกไปเธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่มันยังคาใจของเธออยู่ว่าเมื่อครู่นี้เขาได้เห็นอะไรของเธอใช่มั้ย“อ๋อ..อะ..อืมมมม”ชายหนุ่มที่เดินหันหลังจะออกไปจากห้องเมื่อได้ยินที่หญิงสาวถามเลยตอบอึกๆอักๆจำใจโกหกว่าไม่เห็นอะไรทั้งที่เมื่อกี้อะไรๆของเธอมันปรากฎต่อสายตาของเขาหมดแล้วดีที่มันยังเห็นไม่ชัดเท่านันเอง