“ไม่ๆ....งั้นพาฉันไปบ้านคุณเดี๋ยวนี้เลย”
ชายหนุ่มเดินอุ้มหญิงสาวกลับมาที่เรือนไม้ที่อยู่ห่างจากน้ำตกไม่มากนักแต่ก็เป็นบ้านที่อยู่บนเนินสูงเป็นที่ที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติเพราะก่อนที่จะสร้างเรือนหลังนี้เขาศึกษามาอย่างดีแล้วเมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็รีบอุ้มเธอเดินเข้าไปที่ห้องน้ำในห้องของเขาเพราะเรือนไม้ที่เขาสร้างมีแค่ห้องเดียวเอาไว้ใช้เวลาที่อยากจะมานอนพักผ่อน
“นี่บ้านคุณหรอน่ารักดีนะ...ฉันชอบ”
พาฝันเห็นบ้านหลังนี้ก็รู้สึกตกหลุมรักมันในทันทีเพราะที่นี่ถึงจะเป็นเรือนไม้เล็กๆแต่จากที่เธอมองผ่านๆมันน่าจะสามรถมองเหนวิวได้ทุกด้านอีกทั้งยังดูเล็กๆดูอบอุ่นมากๆอีกด้วย
“อืมมม...เดี๋ยวคุณนั่งอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวผมไปหาผ้าขนหนูกับเสื้อมาให้คุณเปลี่ยน”
หญิงสาวพยักหน้ารับเมื่อคนตัวโตอุ้มเธอมาวางนั่งอยู่ที่เก้าอีในห้องน้ำและเดินออกไปแล้วเธอจึงยื่นมือไปหยิบฝักบัวแล้วเปิดราดตัวเองทันทีเพราะเธอตอนนี้ทั้งตัวที่ยังเลอะโคลนที่ล้างยังไม่หมดแถมเปียกฝนอีกเธอจึงต้องรีบล้างตัวในทันที
“อะนี่คุณผมแขวนไว้ตรงนี้นะเสร็จแล้วก็เรียกผมนะเดี๋ยวมาอุ้มออกไป”
“โอเค”
อัคคีรีบไปหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในตู้ละเสื้อเชิ้ตของเขาที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอน่าจะใส่เป็นชุดได้พอดีเอามาแขวนไว้ให้เธอพร้อมปิดประตูห้องน้ำแล้วนั่งรออยู่ในห้องนอนของเขา
“คุณ...คุณ...ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว”
“โอเค”
ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปอุ้มหญิงสาวที่อยู่ในห้องน้ำตอนนี้เขาเหลือบมองชุดที่เธอใส่เขาไม่รู้ว่าเสื้อของเขาที่เลือกมาให้เธอใส่มันจะทำร้ายตัวเขาเองขนาดนี้เพราะยัยตัวเล็กนี่พออยู่ในเสื้อของเขาแล้วมันดูเซ็กซี่ชะมัดจนเขาอดที่จะจินตนาการสิ่งที่อยู่ด้านในชุดไม่ได้แถมตอนนี้เขายังรู้ด้วยว่าเธอไม่ได้ใส่ฉันในเพราะสิ่งที่มันเด้งดึ๋งอยู่ตรงหน้าเขาตอนที่อุ้มเธอมามันเห็นชัดเหลือเกินเขารีบวางเธอไว้บนเตียงแล้วรีบเดินออกไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทันที
“นี่ทำไมข้อเท้าคุณแดงขนาดนี้เนี่ย….นี่คงไม่ใช่เพราะวิ่งหนีตอนนั้นอย่างเดียวละมั้งคุณ”
ชายหนุ่มนั่งที่พื้นพร้อมพลิกข้อเท้าหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงดูเขาเองก็พึ่งสังเกตุว่าข้อเท้าเธอมันดูช้ำแล้วก็บวมแดงมากกะอีแค่การวิ่งแค่นั้นคงไม่ทำให้เธอเป็นขนาดนี้หรอกมั้ง
“ก็ฉันเจ็บตั้งแต่ที่เดินเล่นแล้วนี่”
หญิงสาวสารภาพไปตามความจริงที่เธอเจ็บข้อเท้าแต่ก็ยังฝืนเดินเล่นต่อเพราะความรั้นอยากจะชื่นชมธรรมชาติของเธอนั่นเอง
“แล้วใครใช้ให้คุณใส่ส้นสูงมาเดินที่ป่าที่เขาแบบนี้เล่า”
ชายหนุ่มหยิบยามาทาที่ข้อเท้าของเธออย่างเบามือพร้อมตำหนิเธอเรื่องรองเท้าที่เธอใส่
“ก็ฉันลืมหยิบมาใส่กระเป๋ามานี่นา....ฉันอยู่ที่โน่นก็ใส่แต่ส้นสูงตลอด”
ชายหนุ่มแหงนมองหน้าเธอทันทีกับคำว่าอยู่ที่โน่นของเธอแสดงว่าเธอต้องมาที่นี่แค่ชั่วคราวแน่นอน
“คุณมาเที่ยวแถวนี้หรอ”
“ป่าวหรอกฉันมาอยู่เป็นเพื่อนกับเพื่อนสาวฉันอีกคนเพื่อนฉันอกหักก็เลยหนีมาย้อมใจที่นี่ฉันเองสงสารก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อน”
“อืมม...งั้นหรอ”
ชายหนุ่มได้ฟังที่เธอพูดก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักดีแล้วที่เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดเพราะถ้าเขาเจอเธอบ่อยๆเขาคงประสาทกินในไม่ช้า
“นี่คุณ...แล้วตกลงคุณชื่ออะไรอะ..คุณยังไม่บอกฉันเลยนะ”
เมื่อหญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มที่จะพูดคุยกับเธอมากขึ้นเลยถือโอกาสลองถามชื่อเขาดูอีกครั้ง
“ผมชื่อเพลิง”
ชายหนุ่มตอบทั้งที่ไม่มองหน้าหญิงสาวและมือของเขาก็ยังนวดที่ข้อเท้าของเธอต่อ
“แล้วคุณอายุเท่าไรหรอ...”
หญิงสาวยังยิงคำถามใส่เขาไม่เลิก
“อายุ 35 “
“อืมมมงั้นฉันก็ต้องเรียกคุณว่าพี่เพลิงน่ะสิ....แล้วคุณก็ต้องเรียกฉันว่าน้องฝันอิๆๆๆดีมั้ยยย”
หญิงสาวนั่งยิ้มอยู่กับคำพูดของตัวเองชายหนุ่มถึงกับต้องเงยหน้ามามองเธออีกรอบ
“น้องฝันหรอ....ฝันไปเถอะคุณผมไม่อยากมีน้องสาว”
ชายหนุ่มทำหน้านิ่งพร้อมหยิบกล่องยาแล้วจะเดินไปเก็บทันที
“อื้มมมหรอออ....ไม่ให้เป็นน้องสาวงั้นให้ฝันเป็นแฟนเลยละกันนนน”
เมื่อเห็นท่าทางไม่สบอารมณ์ของชายหนุ่มเธอจึงอยากแกล้งเขาต่อเธอชอบที่เขาพูดกับเธอแม้จะเป็นคำที่ต่อล้อต่อเถียงกันก็ตาม
“นี่คุณใช้มุขนี้จีบผู้ชายมากี่คนแล้วเนี่ยยย”
ชายหนุ่มต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองเธออย่างรวดเร็วไม่คิดว่าคำพูดแบบนี้จะออกมาจากปากของเธอ
“หึ...ยัยบ๊องเอ้ยย”
ต่อหน้าเธอเขาทำเป็นหน้าดุแต่พอออกจากห้องมาเขากลับนึกขำกับคำพูดคำจาของเธอแต่ละคำมันช่างเป็นคำที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากเธอด้วยซ้ำเธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักคนนึงเลยถ้าไม่ติดว่าเธอพูดมากใจกล้าเกินผู้หญิงและน่ารำคาญเกินไปหน่อยสำหรับเขา
“พี่เพลิงขาฝันขอยืมมือถือหน่อยจะโทรบอกเพื่อนว่าเดี๋ยวกลับพอดีมือถือฝันแบตหมดน่ะกลัวเพื่อนฝันเป็นห่วง...จะบอกนางว่าอีกสักพักเดี๋ยวก็กลับ”
เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเธอก็แบมือยื่นมาขอยืมมือถือของเขาทันทีเพราะป่านนี้เธอยังไม่ได้กลับไปคนที่บ้านนั้นต้องเป็นห่วงเธอแน่ๆแถมมือถือเธอก็แบตหมดนานแล้วด้วย
“แล้วคุณจะกลับยังไงนี่มันมืดแล้วนะคุณแล้วฝนก็ยังตกอยู่เลย...คุณนอนที่นี่ก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมไปส่ง”
ชายหนุ่มคิดไว้แล้วเมื่อตอนที่ฝนเทลงมายังไงหญิงสาวก็ต้องพักที่นี่ก่อนเพราะออกไปกลางดึกว่าอันตรายแล้วยิ่งฝนตกหนักแบบนี้ยิ่งอันตรายมากกว่าสองเท่าเขาจึงต้องจำใจให้เธอพักที่นี่ไปก่อน
“หืมมมมพี่เพลิงชวนฝันนอนที่นี่หรอคะ..อืมมม....นอนก็ได้ค่ะ”
เมื่อหญิงสาวเห็นว่าถ้าเธอจะกลับไปตอนนี้แล้วมันคงจะอันตรายอย่างที่ชายหนุ่มบอกจริงๆเธอจึงยอมพักที่นี่ก่อนที่เธอยอมอยู่ที่เพราะเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนที่ไว้ใจได้เพราะเขาทั้งช่วยเธอและอีกอย่างก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำมิดีมิร้ายเธอเลยสักนิดเพราะถ้าจะทำคงทำไปนานแล้วแถมเขายังดูว่าจะรำคาญเธออีกต่างหากเพราะฉนั้นเธอคิดไว้แล้วว่าผู้ชายตรงหน้าเธอไว้ใจได้แน่นอน
“นี่ผมถามจริงคุณไม่กลัวผมเลยหรือไงทั้งๆที่เราพึ่งเจอกัน”ชายหนุ่มถึงกับหันควับคราแรกเขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมอยู่กับคนที่พึ่งเจออย่างเขาเสียอีกเขายังนึกแปลกใจว่าเธอทำไมไว้ใจที่จะอยู่ที่นี่กับเขาง่ายจัง“ไม่กลัวววเพราะถ้าพี่เพลิงจะทำอะไรฝันคงทำไปนานแล้ว....อืมมแล้วท่าทางจะพี่เพลิงยังจะรำคาญฝันด้วยน้า..”หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มหวานส่งไปให้ชายหนุ่มเธอไม่แคร์ว่าชายหนุ่มจะยิ้มตอบหรือไม่แต่เธอแค่อยากจะยิ้มให้เขาดูจากอาการเขาตอนนี้แล้วก็คงจะรำคาญเธออยู่ไม่น้อย“รู้ตัวก็ดีแล้วคุณ...รีบๆโทรบอกเพื่อนคุณได้แล้วเดี๋ยวเขาจะเป็นห่วง”“โอเค”หญิงสาวพยักหน้ารับพร้อมกดมือถือโทรหาเพลงพิณทันทีเมื่อคุยกันได้สักแปปเธอก็ยื่นมือถือคืนชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“เรียบร้อยแล้วหรอคุณ”“ใช่ค่ะ...อ้อแล้วก็ฝันเมมเบอพร้อมถ่ายรูปหน้าฝันลงในเครื่องพี่เพลิงแล้วนะคะเวลาฝันโทรหาพี่เพลิงพี่เพลิงจะได้เห็นหน้าฝันชัดๆไงคะ”ชายหนุ่มถึงกับหนาเหวอคนแบบนี้ก็มีด้วยแฮะเขาเองไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอพร้อมหมุนตัวจะออกไปนอกห้องทันที“เดี๋ยวพี่เพลิงจะไปไหนคะ”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จาเธอจึงต้องรีบตะ
“เมื่อกลางวันผมแนะนำเพื่อนคุณให้ไปเที่ยวที่ไร่เธอคงจะเดินลัดไปทางหลังบ้านแล้วไปที่ไร่แหละคุณ...อืมมเอางี้ผมพอรู้จักอยู่กับลุงสมหมายที่ทำงานที่ไร่นั้นอยู่บ้านแกอยู่ใกล้ๆเรานี่เองเดี๋ยวผมไปถามลุงแกให้ว่าเห็นเพื่อนคุณหรือป่าว”ชายหนุ่มจำได้ว่าลุงสมหมายที่ปลูกบ้านอยู่ระแวกที่ใกล้สุดแถวนี้แกทำงานอยู่ที่ไร่มีรักถ้าพาฝันไปที่นั่นจริงแกก็คงจะต้องเห็นบ้างเพราะเธอแต่งตัวต่างจากคนที่นี่คนงานในไร่เห็นก็ต้องพูดกันอยู่บ้างแหละตอนนี้เขาเองร้อนใจไม่แพ้หญิงสาวเหมือนกันแต่ก็ต้องคุมสติไว้ก่อนเพราะเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่มีสติแล้วที่เขากังวลคือตอนนี้ฝนตกหนักเกิดพาฝันอยู่ในป่าที่ใกล้กับไร่คงไม่ดีแน่เพราะมันอันตรายมาก“ไปกันเลยคุณ”“หืออ..โอ้ยยยยยยคุณ”“ว้ายยยยยย”เพลงพิณคว้ามือชายหนุ่มเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้ทันตั้งตัวล้มลงกลิ้งลงไปกองอยู่ที่พื้นทำเอาหญิงสาวส่งเสียงกรี้ดดดลั่นบ้านเพราะเธอเกือบจะฆ่าชายหนุ่มแล้วมั้ยล่ะ“คุณเป็นยังไงบ้าง...ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ”หญิงสาวรีบวิ่งลงมาดูอาการของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขายังนอนร้องโอดโอยอยู่เธอจึงโล่งใจที่เขาไม่ได้ตายเพราะฝีมือเธอพ
“นี่คุณลืมตาได้แล้ว”หญิงสาวเดินไปหยิบไฟฉายในมือของชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาลืมตาได้เพราะตอนนี้เธอพันผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้ว“อะ..เอ่อ..ผมเอาไฟฉายมาให้แล้วเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดังโครมครามคุณเป็นอะไรหรือป่าว”ชายหนุ่มรีบหาเรื่องคุยเปลี่ยนเรื่องทันทีหวังว่าหญิงสาวคงไม่ถือสาเขาเรื่องเมื่อครู่นี้นะ“ไม่อะฉันแค่เดินชนโต้ะที่หัวเตียงแล้วคมไฟมันตกลงมา..”หญิงสาวพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มเพราะเธอรู้สึกเขินที่เมื่อครู่เขาจะเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอบ้างหรือป่าวก็ไม่รู้“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว....งั้นผมไปล่ะ”ชายหนุ่มดูก็รู้ว่าที่หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ยอมสบตาเขาเธอคงจะอายเรื่องเมื่อครู่เขาจึงคิดว่าขอปลีกตัวออกไปโดยเร็วจะดีกว่า“เดี๋ยวคุณ....เอ่อ..เมื่อกี้..ค..คุณไม่ได้เห็นอะไรใช่มั้ย”เมื่อเห็นชายหนุ่มหันหลังจะเดินออกไปเธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่มันยังคาใจของเธออยู่ว่าเมื่อครู่นี้เขาได้เห็นอะไรของเธอใช่มั้ย“อ๋อ..อะ..อืมมมม”ชายหนุ่มที่เดินหันหลังจะออกไปจากห้องเมื่อได้ยินที่หญิงสาวถามเลยตอบอึกๆอักๆจำใจโกหกว่าไม่เห็นอะไรทั้งที่เมื่อกี้อะไรๆของเธอมันปรากฎต่อสายตาของเขาหมดแล้วดีที่มันยังเห็นไม่ชัดเท่านันเอง
“ไม่ต้องผมว่าผมนอนในห้องนี้กับคุณเลยดีกว่า..ผมว่าเดี๋ยวคุณก็ต้องส่งเสียงรบกวนการนนของผมอีก”ชายหนุ่มเดินดุ่มๆมานอนที่ข้างๆหญิงสาวพร้อมหันหลังให้เธอกอดหมอนข้างนอนอย่างสบายใจเขาคิดว่าถ้าเขายังนอนอยู่ข้างนอกเขาได้วิ่งเข้าวิ่งออกห้องนี้เป็นแน่“อะ..เอ่อ..จะนอนที่นี่หรอคะพี่เพลิงออกไปนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ..ฝ..ฝันไม่กวนแล้วก็ได้”หญิงสาวตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็มานอนอยู่ข้างๆเธอหญิงสาวพอจะรู้อยู่ว่าชายหนุ่มรำคาญเธอจึงบอกเขาไปว่าจะไม่รบกวนอีกเพราะไม่ได้อยากให้ชายหนุ่มนอนอยู่ที่นี่เธอเองถึงจะดูเหมือนผู้หญิงใจกล้าพูดมากแต่เธอเองก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองเลยสักครั้งขนาดเพื่อนที่เป็นเกย์สมัยเรียนจะมาขอนอนด้วยเธอยังปฏิเสธหัวชนฝาเลย“ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดผมจะหาอะไรมาอุดปากคุณเดี๋ยวนี้แหละ”“หือ..อุ้ปป”เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ดูจะเอาจริงแล้วเธอจึงรีบหยุดพูดทันทีพร้อมนอนลงหันหลังให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่อย่างสบายใจหญิงสาวพยายามข่มตาให้มันหลับแล้วแต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้เธอได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่แบบนั้นก็จะให้เธอหลับลงได้ยังไงเล่ามีผู้ชายมานอนข้างๆเธออยู่แบบนี้ถึงเธอจะไว้ใจเขาก็ไม่ได้แปลว่าจะ
“ไปคุณ”“หืมมมมมม”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงม้าออกมาจากหลังบ้านของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่าเขาจูงม้าออกมาทำไมไหนบอกว่าจะไปส่งเธอไงอย่าบอกนะว่าจะขี่ม้าไป“ไปยังไงคะ”“ก็ขี่เจ้าอาชานี่ไปไง...ยืนขึ้นไหวมั้ยคุณ”“หา....วะ...ไหวค่ะ”ชายหนุ่มขึ้นขี่เจ้าอาชาม้าเพศผู้ของเขาที่เลี้ยงไว้ใช้งานเวลาที่เดินตรวจในไร่พร้อมอุ้มหญิงสาวที่ยืนอยู่บนแคร่ไม้มานั่งไพล่บนหลังม้าหน้าตัวเขา“พี่เพลิงขี่ม้ามาในไร่เป็นประจำหรอคะ..”“อืมมมม”“แล้วพี่เพลิงตื่นเช้าทำงานเป็นประจำทุกวันเลยใช่มั้ยคะ”“ใช่”หญิงสาวที่นั่งเกาะเอวเอาหัวซบอกของชายหนุ่มอยู่เธอเห็นว่าเขาเงียบไปเลยชวนคุยเธอสรรหาเรื่องคุยสารพัดจะเรื่องแต่ก็ได้รับคำตอบมาแค่เพียงว่าอืมมมม/ใช่/ไม่ใช่/ไม่รู้แค่นั้นเองและก็ไม่มีทีว่าว่าเขาอยากจะสนธนากับเธอเลยสักนิด“หยุดก่อนค่ะพี่เพลิง...”หญิงสาวเหลือบมองไปเห็นพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าออกมาเธอถึงกับตาลุกวาวเพราะเมื่อชายหนุ่มพาเธอนั่งบนหลังม้ามาจนเกือบถึงท้ายไร่ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์สวยและชัดที่สุดแล้ว“มีอะไรอีก...”ชายหนุ่มใช้มือกระตุกที่เชือกของเจ้าอาชาเพื่อให้มันหยุดเดิน
ชาวบ้านที่นั่นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดเรื่องนี้ออกมาสักคนเพราะกลัวพวกที่มีอิทธิพลเถื่อนกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้วภัยจะมาถึงตัวเขาเองที่ขึ้นไปบนดอยบ่อยๆเพราะต้องการหาหลักฐานเอาผิดคนที่ค้ายาค้ามนุษย์แล้วยังได้ให้ความรู้แก่เด็กๆและชาวบ้านไปด้วย“อืมมมม...เอางี้ยังไงช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่ดีเอาเป็นว่าฉันจะขึ้นดอยไปช่วยคุณก็แล้วกันเป็นการไถ่โทษที่ฉันทำคุณเจ็บ”หญิงสาวไตร่ตรองอยู่ครู่หนึงจึงเอ่ยปากว่าจะไปช่วยชายหนุ่มเพราะเธอเองก็เห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอีกอย่างถ้าเธอได้ทำประโยชน์ให้กับเด็กๆที่อยู่บนดอยบ้างก็คงจะดีต่อจิตใจเธอไม่น้อย“แน่ใจหรอคุณ...บนดอยมันไม่ได้สะดวกสบายแบบที่คุณเคยอยู่หรอกนะ”ชายหนุ่มถึงกับจ้องหน้าเธออย่างจริงจังเขาถามย้ำเธออีกรบเพราะที่ที่เขาจะไปมันไม่ได้สะดวกสบายเลยแม้แต่น้อยเขากลัวว่าลูกคุณหนูอย่างเธอจะอยู่ไม่ได้แล้วร้องกลับเสียเปล่าๆ“แน่ใจสิคุณ...ฉันขอขับรถก่อนเรื่องนี้ค่อยคุยกันที่บ้านอีกทีก็แล้วกัน”“โอเค...”ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับคำว่าแน่ใจของหญิงสาวเขาเองยังนึกสภาพขงหญิงสาวว่าตอนที่เธออยู่ที่นั่นจะเป็นยังไงไม่ออกเพราะที่นั่นมันทั้งกันดารทั้งลำบากกว่าบ้านที่
“ไหนบอกจะโทรมาไงยัยบ๊องเอ๊ยยย”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าไม่มีใครโทรเข้ามาเขาเลยวางโยนมือถือลงข้างๆตัวด้วยความหงุดหงิดเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหงุดหงิดเพื่ออะไรRrrrrเมื่อชายหนุ่มเริ่มหลับตาได้ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเบอที่โชว์อยู่หน้าจอเขาไม่คุ้นสักเท่าไรแต่เขาคิดว่าอาจจะเป็นหญิงสาวที่โทรหาเขาก็ได้เลยกดรับอย่างรวดเร็ว“พี่เพลิงฝันเองค่า”เมื่อชายหนุ่มกดรับสายยังไม่ทันได้พูดอะไรหญิงสาวก็ส่งเสียงแหลมๆมาทักทายเขาก่อนจนเขาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูตัวเองเพราะรู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกิน“โอ้ยย...พูดเบาๆก็ได้คุณ...ทำไมโทรมาเอาป่านนี้”ชายหนุ่มต้องปรามหญิงสาวที่ส่งเสียงแหลมมาใส่เขาให้เบาลงกว่านี้หน่อย“ก็ฝันคิดว่าตอนกลางวันพี่เพลิงน่าจะทำงานอยู่นี่คะฝันก็เลยไม่โทรไปกวนเดี๋ยวพี่เพลิงโดนเจ้าของไล่หักเงินเดือนก็เป็นความผิดฝันสิคะ”หญิงสาวตอบตามความจริงเธอพูดไปยิ้มไปดีใจที่ชายหนุ่มกดรับสายของเธอตั้งแต่โทรครั้งแรก“หืมมม....หักเงินหรอ555”ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำไม่อยู่กับคำพูดของหญิงสาวเขาเป็นคนบอกเธอเองนี่นาว่าเป็นคนงานในไร่“พี่เพลิงขำอะไรหรอคะ”“ป่าว...นี่คุณยังไม่นอนอีกหร
“คุณครูมาแล้ววว”เด็กๆที่เล่นกันอยู่ตรงลานที่หมู่บ้านเมื่อเห็นชายหนุ่มซึ่งเป็นครูของพวกเขาก็รีบวิ่งมาหาทันทีเด็กๆต่างวิ่งมาล้อมรอบตัวชายหนุ่มพร้อมทักทายกันอย่างดีใจเพราะเด็กๆที่นี่ชอบในความใจดีของชายหนุ่มและชายหนุ่มก็ยังเป็นที่รักของคนที่นี่มากๆด้วยเพราะเขาทั้งช่วยสอนหนังสือลูกหลานของคนที่นี่แถมยังสอนการทำการเกษตรพอเพียงและไร้สารเคมีแถมยังหาตลาดส่งออกผลผลิตให้กับคนที่นี่ด้วยจะมีแค่บางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่ค่อยจะพอใจในการกระทำที่เป็นการช่วยพัฒนาชาวบ้านที่นี่ของชายหนุ่มเท่าไรที่ดูว่าว่าชายหนุ่มจะไปขัดผลประโยชน์ของคนพวกนั้นอยู่ไม่น้อย“ว่าไงเด็กๆ...ได้อ่านหนังสือตามที่ครูให้ไปอ่านกันหรือป่าวครับ”“อ่านค่า/อ่านครับ”เพลงพิณมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กับเด็กๆโดยมีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายล้อมรอบภาพตรงหน้ามันช่างดูเป็นภาพที่ดูอบอุ่นสำหรับเธอเหลือเกินจึงเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว“เดี๋ยวครูขอไปพักก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนตอนเช้านะครับ”“ค่ะคุณครู/ครับคุณครู”ชายหนุ่มมองเด็กๆที่วิ่งกลับไปเล่นกันได้สักพักแล้วจึงเดินกลับมาที่รถพลางบอกหญิงสาวให้ขับรถไปที่ท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านพักของเขา