บ้านเดชณรงค์
“โถ่เอ้ยไอ้ผู้ชายขึ้โกหก..หึ.”
พาฝันวิ่งกลับมาเก็บของที่บ้านเดชณรงค์เตรียมตัวกลับทันทีเธอเก็บเสื้อผ้าไปด้วยบ่นไปด้วยด้วยความโมโหไม่คิดว่าจะโดนคนที่เธอรักโกหกกันมานานขนาดนี้
“ลุงคะ..คือพอดีว่าหนูจะเข้าไปในตัวเมืองค่ะลุงไปส่งหนูได้มั้ยคะเดี๋ยวหนูให้ค่ารถ 2000”
“อ๋อ..ได้เลยหนูขึ้นมาเลย”
พาฝันรีบเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านนั้นมาอย่างรวดเร็วคิดว่าถ้าเธอเดินออกมายืนรอที่หน้าถนนคงจะมีรถผ่านมาสักคันให้เธอพอได้อาศัยเข้าเมือง
พลันสายตาก็เห็นลุงที่เธอเคยเจอที่ไร่ขับรถกระบะเก่าๆผ่านมาพอดีเธอจึงโบกมือเรียกพร้อมให้ลุงไปส่งเธอที่ตัวเมืองเพื่อที่เธอจะไปสนามบินและกลับกรุงเทพทันที
ก๊อกๆๆ
“ฝันอยู่มั้ย..เปิดประตูให้พี่หน่อยฝัน”
อัคคีเดินกลับมาที่บ้นพร้อมดินแดนเมื่อมาถึงดินแดนจึงให้ชายหนุ่มรีบขึ้นไปหาหญิงสาวที่ห้องโดยทันที
แอ้ดดดดด
“ฝัน!!!”
อัคคียืนเคาะประตูห้องอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ยักเห็นว่าจะมีใครมาเปิดเขาจึงลองบิดลูกบิดที่ประตูดูปรากฏว่าห้องของหญิงสาวไม่ได้ล็อคเขาจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปที่ด้านในห้องของเธอทันที
“ฉันไม่ฝันอยู่บนห้องเลย”
เมื่อเข้ามาในห้องไม่เห็นมีใครอยู่เข้าจึงเดินสำรวจทั่วห้องแต่ก็ไม่เจอหญิงสาวเลยรีบวิ่งลงมาด้านล่างเพื่อถามเพื่อนของเขาว่าเห็นหญิงสาวอยู่ด้านล่างหรือป่าวเพราะในห้องไม่มีหญิงสาวอยู่
“คุณดินครับ..คุณดิน”
“ครับลุง”
ดินแดนได้ยินเสียงของลุงสมหมายมาเรียกอยู่ที่หน้าบ้านเลยรีบออกไปดูว่าแกมีธุระสำคัญอะไรหรือป่าว
“คุณฝันเธอบอกว่าเธอต้องกลับกรุงเทพกะทันหันเลยไม่มีเวลาบอกคุณดินเธอเลยฝากผมกลับมาบอกครับ”
“ห้ะ!!...กลับกรุงเทพตั้งแต่เมื่อไรลุง”
เมื่ออัคคีได้ยินที่สมหมายพูดเขาถึงกับหัวใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีไม่คิดว่าหญิงสาวจะหนีเขาไปเร็วขนาดนี้แค่คลาดกันเดี๋ยวเดียวเอง
“ผมพึ่งไปส่งเธอกลับมาเองครับ”
เมื่ออัคคีได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับเข่าทรุดลงทันทีเพราะเขาจะตามเธอไปตอนนี้ก็คงจะไม่ทันแน่ๆแต่ก็พอจำได้อยู่ว่าเธอบอกว่าที่อยู่เธออยู่ที่ไหนและเขาก็จะออกตามเธอไปทันทีด้วย
ทั้งสองหนุ่มตกลงกันเป็นอันว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพกันทั้งคู่ในวันพรุ่งนี้แต่แล้วก็ต้องมีเหตุให้ดินแดนไปไม่ได้เพราะชายหนุ่มได้รับข่าวจากปู่อินทร์แปงว่าที่หมู่บ้านเหตุการณ์เริ่มเลวร้ายมากขึ้นเขาจึงนิ่งนอนใจไม่ได้เลยต้องละเรื่องส่วนตัวของเขาไว้ก่อนพร้อมทั้งอวยพรให้อัคคีเพื่อนของเขาตามพาฝันให้เจอแล้วเคลียกันให้ได้เขาเองเสร็จจากงานตรงนี้เมื่อไรจะรีบไปหาเพลงพิณทันที
“แกแน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันไปช่วย”
“ไม่เป็นไรฉันไม่อยากให้ไก่ตื่นฉันเองพอรับมือไหว...เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรเลวร้ายลงฉันจะให้แกเรียกกำลังเสริมให้ฉันแล้วกัน”
“โอเค..มีอะไรส่งข่าวมาฉันพร้อมเสมอ”
อัคคีเองก็เป็นกังวลกับเหตการณ์ที่เพื่อนของเขาจะต้องไปเผชิญอยู่เหมือนกันจึงเอ่ยปากว่าจะไปช่วยแต่ดินแดนเองไม่อยากให้เป็นที่สงสัยว่าเพื่อของเขาเข้าไปที่หมู่บ้านเพื่ออะไรเขาจึงขอลุยเดี่ยวเองก่อนเพราะคิดว่าน่าจะรับมือไหว
เมื่ออัคคีเห็นว่าเพื่อนของเขามั่นใจแล้วว่าวิธีที่คิดดีที่สุดเขาจึงไม่อยากขัดเพราะเขารู้ว่าถ้าชายหนุ่มยังไหวอยู่คงไม่ให้เขายื่นมือเข้าไปช่วยง่ายๆแน่แต่เขาก็กำชับไว้แล้วว่าถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจเขาพร้อมที่จะช่วยเสมอ
คอนโดเพลงพิณ
21.00 น.
เพลงพิณเองเลือกที่จะกลับมาพักใจที่คอนโดของเธอแทนที่จะกลับไปที่บ้านเพราะกลัวว่าอาการของเธอตอนนี้จะทำให้ทุกคนที่บ้านเป็นห่วงและเธอก็ยังไม่พร้อมที่จะตอบคำถามคนที่บ้านตอนนี้ด้วยอีกอย่างถ้าเธอกลับไปลูกจันทร์จะต้องถามเธอเรื่องของชายหนุ่มแน่ๆว่าทำไมไม่มาด้วยกันซึ่งเรื่องนี้เองเธอก็ยังลำบากใจที่จะเอ่ยเรื่องของเขาอยู่จึงคิดว่าพักอยู่ที่นี่ก่อนเป็นดีที่สุด
บ้านพาฝัน
22.00 น.
ก๊อกๆๆ
“เห็นแม่บ้านบอกว่าลูกกลับมาตั้งแต่ตอนเย็นไม่เห็นโทรบอกพ่อก่อนล่ะลูก”
พิศิษฐ์ที่พึ่งเลิกจากการประชุมเมื่อมาถึงบ้านแม่บ้านก็บอกกับเขาว่าลูกสาวของเขากลับมาแล้วด้วยความคิดถึงจึงมาเคาะประตูเรียกทันที
“ก็ฝันโทรไม่ติดนี่คะคุณพ่อ”
“อ่อ..จริงด้วยพ่อลืมไปว่าประชุมอยู่เลยปิดมือถือ”
พิศิษฐ์รู้สึกผิดอีกครั้งที่เขาชอบทำงานจนลืมครอบครัวเป็นประจำแต่สิ่งที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อลูกสาวคนเดียวของเขานี่แหละเขาทำงานหนักก็เพราะคิดว่าวันนึงเขาจะพาลูกสาวเขาไปเที่ยวได้อย่างสบายใจไม่ต้องห่วงงานตามที่ลูกสาวเขาเคยขอและเพื่อที่จะมีเงินใช้ตอนที่ใช้เวลาอยู่กับลูกของเขานั่นเอง
“คุณพ่อก็เป็นแบบนี้ตลอด..ฝันขอตัวพักผ่อนก่อนนะคะ”
พาฝันรู้สึกว่าเอะอะในชีวิตพ่อของเธอก็มีแต่งานๆๆๆๆไม่ค่อยที่จะสนใจเธอเท่าที่ควรจนตอนนี้เธอก็เริ่มชินแล้วแต่ก็ยังอดน้อยใจไม่ได้อยู่ดี
“ฝันเดี๋ยว...คุยกับพ่อก่อนสิลูก”
พิศิษฐ์ต้องส่ายหัวให้กับอาการขี้งอนของลูกสาวเขาตามเคย
เช้าวันต่อมา
“ป้านิดคะทำไมวันนี้คุพ่อยังไม่ลงมาทานข้าวอีกล่ะคะ...”
พาฝันเห็นว่านี่มันก็เริ่มสายแล้วและวันนี้ก็ยังเป็นวันทำงานของพ่อของเธอด้วยแต่ทำไมพ่อของเธอยังไม่ลงมาเสียที
“เอ่อ...คุณท่านไม่สบายน่ะค่ะคุณหนู”
“ห้ะ!!!...งั้นเดี๋ยวฝันขอไปดูคุณพ่อก่อนนะคะ”
เมื่อพาฝันได้ยินแม่บ้านของเธอบอกว่าพ่อของเธอไม่สบายจึงรีบวิ่งขึ้นไปดูพ่อของเธอทันที
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะไปหาหมอมั้ยคะ”
เมื่อเข้ามาในห้องได้หญิงสาวก็รีบซักอาการของคนเป็นพ่อเธอทันที
“ไม่เป็นไรหรอกลูกนอนพักอีกเดี๋ยวก็คงจะหายเดี๋ยวบ่ายพ่อมีคุยงานต่อพ่อมียาที่หมอให้ไว้อยู่....ฝันไม่ต้องห่วงพ่อหรอกลูก”“กินยาหรอคะ...คุณพ่อกินยามานานเท่าไรแล้วคะทำไมฝันถึงไม่เห็นรู้เรื่องแล้วนี่คุณพ่อนอนซมขนาดนี้ยังห่วงงานอีกหรอคะฝันอยากจะรู้จริงๆเลยว่าคุณพ่อจะบ้างานไปจนถึงเมื่อไร”เมื่อพาฝันได้ยินที่พ่อของเธอพูดขึ้นอารมณ์ของเธอตอนนี้ก็เริ่มเดือดประทุขึ้นทันทีเพราะเธอพ่อเธอป่วยขนาดนี้ยังจะบ้างานอยู่อีกเธอไม่ได้อยากจะใช้คำพูดแรงๆกับพ่อเธอนักหรอกแต่มันอดไม่ได้แล้วจริงๆเธอพูดไปพลางน้ำตาคลอไป“ที่พ่อทำไปทั้งหมดก็เพื่อหนูไงลูก”“แต่คุณพ่อเคยรู้มั้ยคะว่าฝันไม่ได้ต้องการเงินจากคุณพ่อเลยฝันต้องการแค่เวลาที่คุณพ่อจะมีให้ฝันก็เท่านั้นฝันเคยนั่งอิจฉาคนอื่นนะคะที่เค้านั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกทั้งที่กับข้าวนั้นมันก็ไม่ได้มีหลายอย่างแบบเราเลยแต่พวกเค้าก็นั่งกินกันอย่างมีความสุขฝันอยากเป็นแบบนั้นค่ะคุณพ่อ....ฝันอยากให้คุณพ่อนั่งกินข้าวกับฝันแบบนั้นฝันอยากคุณพ่อไปเที่ยวกับฝันแบบไม่ห่วงงาน...ฝันอยากให้คุณพ่อได้เห็นเวลาที่ฝันทำอะไรสำเร็จแต่ไม่เคยเลย...ฮือๆๆๆ”หญิงสาวพูดระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใ
“อื้มมมม”เมื่ออัคคีเห็นว่าหญิงสาวจะตะโกนให้คนช่วยเขาจึงรีบปิดประตูล็อคกลอนดันตัวเธอเข้ามาในห้องพร้อมประกบจูบหญิงสาวทันทีเพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงดังโวยวายอีกต่อไปปั้กๆๆๆหญิงสาวตกใจอย่างมากที่จู่ๆร่างของเธอก็โดนเหวี่ยงมาในห้องของใครก็ไม่รู้เมื่อเห็นว่าคนที่ดึงเธอเข้ามาเป็นใครเธอก็รีบใช้สองมือทุบไปที่ตัวชายหนุ่มทันทีหญิงสาวเองไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ด้วยซ้ำปั้กกกก“โอ้ยยยย...ฝันหยุดเดี๋ยวนี้นะ”หญิงสาวเห็นว่าในเมื่อเธอทุบตีคนที่ประกบจูบเธออยู่อย่างนั้นแล้วเขาเองก็ยังไม่สะทกสะท้านต่อแรงเธอสักเล็กน้อยเธอจึงตัดสินใจใช้ขาของเธอถีบชายหนุ่มออกจากตัวของเธออย่างสุดแรงพร้อมวิ่งไปที่ประตูหมายจะเปิดออกแล้ววิ่งหนีไปแต่ก็ไม่ทันความไวของชายหนุ่มอยู่ดีชายหนุ่มที่กระเดนออกจากตัวหญิงสาวเพราะแรงถีบของเธอเขารีบลุกขึ้นวิ่งตามหญิงสาวพร้อมรวบกอดเธอจากข้างหลังได้ก่อนที่เธอจะถึงประตู“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไอ้คนหลอกลวงอย่ามายุ่งกับฝันนะ”เมื่อหญิงสาวถูกชายหนุ่มรวบตัวได้จากด้านหลังเธอก็ดิ้นจนสุดแรงปากก็พร้อมว่าเขาต่างๆนาๆที่โกหกเธออีกด้วยตอนนี้เธอยังโกรธเขาไม่หายและโกรธมากขึ้นอีกด้วยที่เขาทำกับเธอแบบนี้ตุ้บบบ“โอ้ย
“นี่ปล่อยฝันเดี๋ยวนี้เลยนะ”หญิงสาวเอาแต่ดิ้นแต่ก็ไม่มีแรงที่จะดิ้นให้หลุดพ้นพันธนาการของชายหนุ่มเพราะเธอยังรู้สึกเจ็บระบมจุดซ่อนเร้นของเธออยู่“อย่าดิ้นน่าฝันพี่ขอกอดเมียพี่สักพักนะ”ชายหนุ่มยังคงกอดหญิงสาวอยู่หน้าตาเฉย“ใครเมียพี่..มั่วแล้ว”ตอนนี้หน้าหญิงสาวแดงขึ้นมาเป็นลูกตำลึงเพราะเธอทั้งโกรธทั้งอาย“หรือจะให้พี่ฟื้นความจำว่าไอ้ที่ทำกันเมื่อคืนมันเรียกว่าอะไร”ชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันทีที่หญิงสาวไม่ยอมที่จะอ่อนลงให้เขาได้ง่ายๆ“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ...ผู้ชายอะไรขี้โกหกแล้วยังจะเผด็จการอีก..ฝันเกลียดดดดด”หญิงสาวเริ่มหมดความอดทนกับการเผด็จการของชายหนุ่มเธอจึงขึ้นเสียงใส่เขาแบบฟิวขาด“อื้มมมมมม....”เมื่อจบคำพูดของหญิงสาวชายหนุ่มก็บดจูบเธอทันทีเป็นการลงโทษที่เธอแผดเสียงใสเขาชายหนุ่มบดจูบหญิงสาวอยู่เนิ่นนานจนเธอเริ่มที่จะไม่ต่อต้านเขาแล้วแต่สิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่ตอนนี้มันทำให้เขาต้องผละออกจากเธออย่างรวดเร็ว“ฝันพี่ขอโทษ”“ฮึกๆ...ฮือๆๆๆ...ฮืออออ..เอาสิอยากทำ..ฮือๆๆ..อะไรฝันก็ทำเลย..ฮึกๆ”เมื่อน้ำตาของหญิงสาวไหลรินลงมาแถมเธอยังไม่ต่อต้านเขาอีกแบบนี้เขารู้สึกว่าเขาเห็นแก่ตัวที่รังแ
“นี่มันไม่ใช่ทางที่ไปงานนี่คะ...มาผิดทางหรือป่าวคะ”เพลงพิณนั่งเหม่อลอยมาตั้งแต่ขึ้นรถเธอนั่งมาได้สักระยะก็พึ่งจะสังเกตุเห็นว่าทางที่คนขับรถพาเธอมามันไม่ใช่ทางที่เธอคุ้นเคยอีกอย่างเธอก็จำได้ว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางที่จะไปโรงแรมที่จัดงานอย่างแน่นอนเธอจึงถามชายหนุ่มคนขับรถขึ้นว่าเขาพาเธอมาผิดทางหรือป่าว“ไม่ผิดหรอกเพลง”“พ...พี่..ดิน”เมื่อชายหนุ่มคนที่ขับรถให้เธออยู่หันหน้ามาหาเธอพร้อมถอดหมวกที่เขาใส่อยู่หญิงสาวถึงกับต้องตะลึงไม่คิดว่าจะเป็นเขาคนที่เธอเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอด“พาเพลงกลับไปที่งานเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”หญิงสาวเองอยากจะกระโจนเข้าไปกอดชายหนุ่มตรงหน้านี้ด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่เธอยังมีทิฐิอยู่ว่าชายหนุ่มหายไปอยู่กับแฟนเก่าแล้วไม่เคยติดต่อหาเธอเลยอันที่จริงที่ชายหนุ่มหายไปเขาไม่ได้หายไปไหนช่วงที่เขาต้องไปช่วยคนที่หมู่บ้านเขาเองร่วมมือกับตำรวจเพื่อเข้าจับกุมพวกกลุ่มอิทธิพลเขาจึงได้รับบาดเจ็บนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนโดยเรื่องนี้ทั้งพาฝันละอัคคีก็รู้แต่ดินแดนเองขอร้องทั้งสองว่าอย่าบอกหญิงสาวเพราะเขาไม่อยากทำให้หญิงสาวเป็นห่วงเขารับปากกับอัคคีละพาฝันไว้ว่าเขาใกล้ที่จะหายดีเมื่อไรเขาจะเป
บ้านเดชณรงค์20.00กว่าเพลงพิณและพาฝันจะเดินทางมาถึงที่บ้านเดชณรงค์ก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มเพราะหนทางที่ทั้งสองเดินทางเข้ามามันช่างยากลำบากเหลือเกินอีกทั้งสัมภาระของทั้งสองยังพะลุงพะลังอีก“นี่ยัยเพลงฉันไม่คิดว่าแม่แกจะหาที่อยู่ที่มันช่างเข้าถึงได้ยากลำบากขนาดนี้เลย”พาฝันเดินบ่นอุกเมื่อลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาถึงหน้าบ้านกว่ารถสองแถวจะมาส่งเธอถึงหน้าปากทางบ้านก็เล่นเอาพวกเธอทั้งสองหัวฟูยุ่งเหยิงกันเลยทีเดียวถ้าหญิงสาวไม่ติดว่าสงสารเพื่อนที่กำลังอกหักอยู่มีหวังที่กันดารแบบนี้เธอก็ไม่ขอมาด้วยหรอก“เอาน่ายัยฝันแล้วแกจะให้ฉันทำยังไงไม่อย่างนั้นคุณแม่ฉันก็ไม่ยอมให้มาอยู่ที่นี่อยู่ดีอะ”เพลงพิณพูดพร้อมหยิบกุญแจออกมาเพื่อไขประตูบ้าน“เสร็จหรือยังแกยุงจะหามฉันไปกินในป่าแล้วเนี่ยนี่ถ้าขาสวยๆของฉันลายมันเป็นเพราะแกเลยยัยเพลง”พาฝันใช้มือปัดยุงที่รายล้อมเธอมือเป็นพัลวันยุงที่นี่เยอะมากซะจนแทบจะหามตัวเธอไปได้อยู่แล้ว“แล้วเปิดไฟตรงไหนล่ะเนี่ย...นี่แกเจ้าของบ้านเขาไม่คิดจะมาดูมาแลแขกบ้างหรือไง”เมื่อเพลงพิณไขกุญแจเปิดเข้ามาในบ้านได้ทั้งสองก็รีบเดินหาสวิทช์ไฟกันทันทีพาฝันรู้สึกแปลกใจที่เจ้าของบ้านไม
ตอนนี้ตาของหญิงสาวโตเป็นประกายเพราะเมื่อแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าเธอเห็นทั้งดวงจันทร์กลมโตพร้อมหมู่ดาวที่รายล้อมแถมยังมีเสียงจิ้งหรีดร้องคลออยู่กับบรรยากาศยามค่ำคืนเธอเองยืนยิ้มกอดอกให้กับภาพตรงหน้าพลางคิดในใจว่าเธอไม่ได้มาพบเจอกับบรรยากาศแบบนี้นานเท่าไรแล้วน้าตั้งแต่เป็นหมอมาก็ไม่เคยที่จะว่างจนกระทั่งตัวเธอเองอกหักนี่แหละถึงได้มาเจอกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งจะว่าอกหักก็ไม่ได้สิเพราะเธอไม่เคยได้คบกับชายหนุ่มที่เธอแอบชอบแถมยังไม่เคยได้มีโอกาสบอกกับเขาด้วยซ้ำว่าเธอคิดยังไงเหตุการณ์วันนั้นเมื่อเดือนที่แล้วบ้านแอนเดอสัน“กลับมากันแล้วหรอคะ….ไหนน้องเพลินซื้อของฝากมาฝากอาเพลงหรือป่าวคะ”เพลงพิณเข้าไปกอดหอมหลานสาวด้วยความคิดถึงเพราะทั้งพี่ชายและแพรไหมไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลกันหลายวัน“ของฝากหรอคะ…คุณพ่อบอกว่าของฝากคือ..คือน้องค่ะ…ในนี้”เด็กหญิงพาเพลินพูดตามคำที่พ่อของเธอบอกถึงจะบอกว่าของฝากคือน้องแต่เหมือนเจ้าตัวก็ยังทำหน้างงๆอยู่ว่าน้องคืออะไรเพราะก็เห็นๆอยู่ว่าเป็นแค่พุงของแม่เธอ“555555555”ภูผาอดขำท่าทีของลูกสาวตัวเองไม่ได้ก่อนกลับเขานัดแนะกับลูกสาวตัวกลมของเขาแทบตายตอนแรกนึกว่าเข้าใจแล้วว่
เช้าวันต่อมา“ตื่นเร็วแกฉันหิวไปหารัยกินกัน”พาฝันรีบตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเพราะตอนนี้เธอเริ่มหิวมากซึ่งเป็นผลจากการที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่มื้อเที่ยงเมื่อวานเมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องของเพลงพิณอย่างรวดเร็วเพราะประตูด้านในห้องมันสามารถทะลุถึงกันได้“อื้มมมมม….ขอนอนอีกนิดนะแกอากาศกำลังดีเลยแกหิวก็ไปหาอะไรกินก่อนเลยเผื่อฉันด้วย”เพลงพิณตอบเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการงัวเงียวันนี้อากาศดีเธอจึงอยากจะนอนต่ออีกสักพัก“โถ่…ยัยขี้เซาเอ้ยฉันไปคนเดียวก็ได้”พาฝันถึงกับบ่นอุกในความขี้เซาของเพื่อนเธอในเมื่อไม่ยอมตื่นเธอไปหาอะไรทานคนเดียวก็ได้11.00 น. “ไปไหนของเธอกันนะยัยฝันโทรก็ไม่ติด”เพลงพิณตื่นขึ้นมาในช่วงสายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเช้าพอดีเธอจำได้ว่าเมื่อเช้าพาฝันชวนเธอไปหาอะไรทานแล้วพอเธอไม่ตื่นเพื่อนของเธอก็จำใจจะต้องไปคนเดียวเธอจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวในห้องเพราะคิดว่าน่าจะกลับมาแล้วแต่กลับไม่มี“หูยยยยสเต็คหมูของโปรดฉัน…”เมื่อเพลงพิณหาพาฝันในห้องไม่เจอเธอจึงเดินลงมาหาที่ด้านล่างคิดว่าเพื่อนเธออาจจะนั่งเล่นอยู่ที่ข้างล่างก็ได้แต่เมื่อลงมาเธอไม่เห็นเพื่อนสาวของ
“ห๊า…..”หญิงสาวตะลึงจนอ้าปากหวอไม่คิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอและเขามาพบกันอีกแถมยังต้องมาอยู่บ้านเดียวกันอีกเนี่ยนะมีหวังเธอประสาทกินตายแล้วเรื่องเมื่อกี้ที่เธอพูดไปล่ะก็โป้ะแตกน่ะสิหญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบรู้สึกหน้าแตกจนไปไม่เป็นเมื่อโดนชายหนุ่มแซวเรื่องที่เธอบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้าน“อะ…เอ่อ..แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าฉันก็คิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิตน่ะสิ….งั้นชะ..ไปแล่วววว”หญิงสาวยกมือเกาหัวแกลกๆแก้เขินและรีบตีเนียนจะเดินออกจากห้องของชายหนุ่มแต่ก็ไม่ทันเพราะมือของชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอไว้ซะอยู่เลย“อะไรอีกเล่า”หญิงสาวชะงักหันมาถามชายหนุ่มแบบไม่กล้าสบตาเพราะเธอรู้ว่าเธอผิดแถมด่าเขาไว้เยอะด้วยทั้งบ้าทั้งโรคจิต“คุณเจอกับผมทีไรนี่ผมต้องเป็นคนที่ทั้งบ้าและโรคจิตตลอดเลยนะ…นี่จะไปทั้งที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักคำเลยเนี่ยนะ”ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆแกมประชดหญิงสาวยิ่งเห็นสีหน้าเธอรู้สึกผิดเขายิ่งคิดว่ายิ่งน่าแกล้ง“งั้นฉันขอโทษก็ได้….จะปล่อยได้หรือยังฉันหิวจะแย่แล้ว”หญิงสาวพูดเสียงแผ่วทั้งยังแอบเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มอีกแต่ก็มองได้แวบเดียวเธอเองก็ต้องก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้สายตาของเธอมองเห็นแผ