ตอนนี้ตาของหญิงสาวโตเป็นประกายเพราะเมื่อแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าเธอเห็นทั้งดวงจันทร์กลมโตพร้อมหมู่ดาวที่รายล้อมแถมยังมีเสียงจิ้งหรีดร้องคลออยู่กับบรรยากาศยามค่ำคืนเธอเองยืนยิ้มกอดอกให้กับภาพตรงหน้าพลางคิดในใจว่าเธอไม่ได้มาพบเจอกับบรรยากาศแบบนี้นานเท่าไรแล้วน้าตั้งแต่เป็นหมอมาก็ไม่เคยที่จะว่างจนกระทั่งตัวเธอเองอกหักนี่แหละถึงได้มาเจอกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้ง
จะว่าอกหักก็ไม่ได้สิเพราะเธอไม่เคยได้คบกับชายหนุ่มที่เธอแอบชอบแถมยังไม่เคยได้มีโอกาสบอกกับเขาด้วยซ้ำว่าเธอคิดยังไง
เหตุการณ์วันนั้นเมื่อเดือนที่แล้ว
บ้านแอนเดอสัน
“กลับมากันแล้วหรอคะ….ไหนน้องเพลินซื้อของฝากมาฝากอาเพลงหรือป่าวคะ”
เพลงพิณเข้าไปกอดหอมหลานสาวด้วยความคิดถึงเพราะทั้งพี่ชายและแพรไหมไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลกันหลายวัน
“ของฝากหรอคะ…คุณพ่อบอกว่าของฝากคือ..คือน้องค่ะ…ในนี้”
เด็กหญิงพาเพลินพูดตามคำที่พ่อของเธอบอกถึงจะบอกว่าของฝากคือน้องแต่เหมือนเจ้าตัวก็ยังทำหน้างงๆอยู่ว่าน้องคืออะไรเพราะก็เห็นๆอยู่ว่าเป็นแค่พุงของแม่เธอ
“555555555”
ภูผาอดขำท่าทีของลูกสาวตัวเองไม่ได้ก่อนกลับเขานัดแนะกับลูกสาวตัวกลมของเขาแทบตายตอนแรกนึกว่าเข้าใจแล้วว่าน้องที่อยู่ในท้องคืออะไรแต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงต้องอธิบายกันอีกยาว
เพลงพิณเองก็ต้องทำหน้ากลั้นขำให้กับการทำหน้างงของหลานสาวและเธอเองก็ดีใจมากๆที่จะมีหลานตัวเล็กๆอีกคนมาวิ่งเล่นอยู่ในบ้านแล้ว
“กำลังคุยอะไรกันอยู่หรอทุกคนเสียงหัวเราะดังเชียว”
จู่ๆอัคนีก็เดินเข้ามาในบ้านแต่เช้าโดยที่ไม่ได้นัดกันมาก่อนทุกคนก็เลยค่อนข้างที่จะงงเพราะปกติชายหนุ่มจะนัดก่อนมาทุกครั้ง
“อ้าวอัคแกมาทำไมแต่เช้าวะ”
ภูผาที่ยืนทำหน้าสงสัยอยู่เป็นคนเปิดประเด็นถามเพื่อนของเขาว่ามาทำอะไรแต่เช้า
“ฉันแค่แวะเอาการ์ดแต่งงานฉันมาให้”
อัคนีตอบเพื่อนเขาด้วยสีหน้าเซ็งๆแต่คนที่ฟังกลับอึ้งไปตามๆกันร้อยวันพันปีไม่เห็นชายหนุ่มเปิดตัวแฟนจู่ๆก็มาแจกการ์ดแต่งงานซะงั้นแต่คนที่ท่าจะอึ้งที่สุดคงจะเป็นเพลงพิณเพราะตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนสมองเธอไม่รับรู้อะไรแล้วเมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่มัธยมกำลังจะแต่งงาน
“เห้ยยย....จริงดิฉันไม่เห็นแกจะมีแฟนจู่ๆมาแต่งงานไม่ใช่ว่าไปทำใครท้องเข้าล่ะ”
ภูผายังตกใจไม่หายมันจะมีเรื่องอะไรกันนะที่ทำให้เพื่อนของเขาที่ครองความโสดมานานพอๆกับเขาจู่ๆกลับจะแต่งงานกะทันหัน
“มันมีเรื่องนิดหน่อยเดี๋ยวฉันค่อยคุยกับแกทีหลังก็แล้วกันวันนี้ฉันมีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะเลยขอตัวก่อนนะ”
“เอ่อ…ยินดีด้วยนะคะพี่หมออัค”
“ครับ..พี่ไปก่อนนะ”
เพลงพิณที่ตอนนี้เหมือนมีก้อนอะไรติดอยู่ที่คอแต่เมื่อได้ยินว่าคนตรงหน้ากำลังจะกลับแล้วเธอจึงรีบเค้าเสียงพูดออกมาเพื่อแสดงความยินดีกับเขาทั้งที่ในใจเธอนั้นมันร้าวไปหมดแล้ว
“เดี๋ยวเพลงขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ”
เมื่ออัคนีเดินออกไปหญิงสาวก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องของเธอทันทีทำเอาแพรไหมถึงกับต้องทำหน้างงและหันหน้าไปหาสามีของเธอเป็นเชิงถามว่าเพลงพิณเป็นอะไร
ภูผาเห็นสายตาของภรรยาก็รู้ทันทีว่าเธอสงสัยในอาการของเพลงพิณแน่ๆจึงพยักหน้าน้อยๆและกอดไหล่เธอเบาๆค่อยๆเล่าว่าเกิดขึ้นอะไรกับน้องสาวของเขาชายหนุ่มเองพอจะมองออกตั้งแต่ที่น้องสาวของเขาเริ่มเข้ามหาลัยใหม่ๆแล้วที่อยากจะเข้าคณะแพทย์นักหนาก็เพราะอยากจะเป็นหมอเหมือนคนที่เธอมองอยู่น่ะสิเขาไม่รู้หรอกนะว่าเพื่อเขาดูออกหรือป่าวว่าน้องสาวเขาคิดยังไงแต่ในเมื่อน้องสาวเขาดันปากแข็งไม่ยอมเปิดเผยความในใจออกมาเองเขาคิดไว้แล้วว่าสักวันน้องสาวของเขาก็ต้องอกหักเพราะการแอบรักข้างเดียวแน่นอนแต่เขาก็ขอไม่ก้าวก่ายเรื่องของเธอหรอกนะเขาเองขอเอาใจช่วยให้น้องสาวของเขาดีขึ้นในเร็ววันก็แล้วกัน
ทางด้านเพลงพิณเมื่อขึ้นห้องมาได้ก็นั่งอึ้งอยู่กับตัวเองสักพักเธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่มันจะเป็นเรื่องจริงเมื่อตั้งสติได้น้ำตาเม็ดเล็กก็เริ่มไหลย้อยลงมาอาบแก้มนึกสมน้ำหน้าตัวเองที่ปากแข็งแอบรักเขาอยู่ตั้งนานไม่เคยจะบอกแถมตัวเธอเองมีชายหนุ่มมารุมจีบมากหน้าหลายตาแต่เธอก็ไม่เคยสนเพราะเฝ้ารักพี่อัคนีของเธออยู่คนเดียวแล้วดูสิวันนี้สิ่งที่เธอได้ยินคือเขากำลังจะแต่งงานเธอถึงกับไปไม่เป็นตอนนี้เธอรู้สึกไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเธอไม่อยากเป็นแบบนี้เลย
“นี่สินะที่เค้าเรียกกันว่าอกหัก…หึ”
หญิงสาวหัวเราะในลำคอให้ตัวเองเธอเคยพบเจอคนมีอาการแบบเธออยู่เป็นประจำในช่วงที่อยู่มหาลัยเธอเองคิดว่ามันคือการเรียกร้องความสนใจคนอกหักมันต้องทำท่าจะเป็นจะตายขนาดนั้นจริงหรอแต่วันนี้เธอได้รู้ซึ้งแล้วว่ามันเป็นยังไง
เพลงพิณยืนดูดาวพลางคิดเรื่องที่ทำให้เธอมาที่นี่พักใหญ่หญิงสาวจึงเดินกลับมาที่เตียงพร้อมปิดไฟนอนและภาวนาว่าขอให้ตนเองนั้นทำใจได้ในเร็ววันเพราะเธอเองยังคงจะต้องไปร่วมแสดงความยินดีกับงานแต่งของอัคนีในเร็ววันนี้
เช้าวันต่อมา“ตื่นเร็วแกฉันหิวไปหารัยกินกัน”พาฝันรีบตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเพราะตอนนี้เธอเริ่มหิวมากซึ่งเป็นผลจากการที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่มื้อเที่ยงเมื่อวานเมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องของเพลงพิณอย่างรวดเร็วเพราะประตูด้านในห้องมันสามารถทะลุถึงกันได้“อื้มมมมม….ขอนอนอีกนิดนะแกอากาศกำลังดีเลยแกหิวก็ไปหาอะไรกินก่อนเลยเผื่อฉันด้วย”เพลงพิณตอบเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการงัวเงียวันนี้อากาศดีเธอจึงอยากจะนอนต่ออีกสักพัก“โถ่…ยัยขี้เซาเอ้ยฉันไปคนเดียวก็ได้”พาฝันถึงกับบ่นอุกในความขี้เซาของเพื่อนเธอในเมื่อไม่ยอมตื่นเธอไปหาอะไรทานคนเดียวก็ได้11.00 น. “ไปไหนของเธอกันนะยัยฝันโทรก็ไม่ติด”เพลงพิณตื่นขึ้นมาในช่วงสายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเช้าพอดีเธอจำได้ว่าเมื่อเช้าพาฝันชวนเธอไปหาอะไรทานแล้วพอเธอไม่ตื่นเพื่อนของเธอก็จำใจจะต้องไปคนเดียวเธอจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวในห้องเพราะคิดว่าน่าจะกลับมาแล้วแต่กลับไม่มี“หูยยยยสเต็คหมูของโปรดฉัน…”เมื่อเพลงพิณหาพาฝันในห้องไม่เจอเธอจึงเดินลงมาหาที่ด้านล่างคิดว่าเพื่อนเธออาจจะนั่งเล่นอยู่ที่ข้างล่างก็ได้แต่เมื่อลงมาเธอไม่เห็นเพื่อนสาวของ
“ห๊า…..”หญิงสาวตะลึงจนอ้าปากหวอไม่คิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอและเขามาพบกันอีกแถมยังต้องมาอยู่บ้านเดียวกันอีกเนี่ยนะมีหวังเธอประสาทกินตายแล้วเรื่องเมื่อกี้ที่เธอพูดไปล่ะก็โป้ะแตกน่ะสิหญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบรู้สึกหน้าแตกจนไปไม่เป็นเมื่อโดนชายหนุ่มแซวเรื่องที่เธอบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้าน“อะ…เอ่อ..แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าฉันก็คิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิตน่ะสิ….งั้นชะ..ไปแล่วววว”หญิงสาวยกมือเกาหัวแกลกๆแก้เขินและรีบตีเนียนจะเดินออกจากห้องของชายหนุ่มแต่ก็ไม่ทันเพราะมือของชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอไว้ซะอยู่เลย“อะไรอีกเล่า”หญิงสาวชะงักหันมาถามชายหนุ่มแบบไม่กล้าสบตาเพราะเธอรู้ว่าเธอผิดแถมด่าเขาไว้เยอะด้วยทั้งบ้าทั้งโรคจิต“คุณเจอกับผมทีไรนี่ผมต้องเป็นคนที่ทั้งบ้าและโรคจิตตลอดเลยนะ…นี่จะไปทั้งที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักคำเลยเนี่ยนะ”ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆแกมประชดหญิงสาวยิ่งเห็นสีหน้าเธอรู้สึกผิดเขายิ่งคิดว่ายิ่งน่าแกล้ง“งั้นฉันขอโทษก็ได้….จะปล่อยได้หรือยังฉันหิวจะแย่แล้ว”หญิงสาวพูดเสียงแผ่วทั้งยังแอบเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มอีกแต่ก็มองได้แวบเดียวเธอเองก็ต้องก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้สายตาของเธอมองเห็นแผ
“อะ...อ้าวคนเองหรอแฮร่ๆๆๆ...หล่อด้วย”เมื่อหญิงสาวลืมตามองหน้าคนที่ลากเธอขึ้นมาจากโคนตมแล้วนั่งตรงคันนาอยู่ตอนนี้จากอาการกลัวควายขวิดกลับกลายเป็นอาการเขินที่เข้ามาแทนเพราะคนที่เข้ามาช่วยเธอเขาตรงตามสเปคของเธอทุกอย่างแม้จะเนื้อตัวมอมแมมไปหน่อยก็เถอะเธอนั่งเกาหัวแกรกๆพูดชมเขาเบาๆโดยที่เขาไม่ได้ยิน“แล้วคุณลุกขึ้นไหวมั้ยเนี่ย”ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เนื้อตัวเปื้อนโคลนแถมชุดที่เธอใส่ก็ยังหมิ่นเหม่จะเห็นอะไรต่อมิอะไรอีกเขามองเธอด้วยสายตาระอาคิดในใจว่าเอจะรู้ตัวเองมั้ยว่าทำให้คนอื่นเค้าวุ่นวายกันหมด“เอ่อ...มะ..ไม่ไหว....เจ็บขาไปหมดแล้ว”หญิงสาวตอบคนตรงหน้าพร้อมก้มหน้าลงเธอคิดว่าต้องทำตัวน่าสงสารเข้าไว้คนตรงหน้าจะได้เห็นใจและช่วยเธอ“เฮ้ออก็ใครใช้ให้คุณใส่ส้นสูงแล้วก็ไอ้ชุดแบบนี้มาเดินแถวนี้เล่า”“อะ..เอ่อ..คุณ..จะอุ้มก็บอกกันก่อนสิตกใจหมด”ชายหนุ่มต้องออกปากบ่นหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่พร้อมช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าเธอคงจะเดินไม่ไหวจริงๆยิ่งเห็นชุดกับรองเท้าที่เธอใส่เขาล่ะอ่อนใจ“นี่คุณจะพาฉันไปไหนหรอ”หญิงสาวที่ตอนนี้ถือโอกาสซบหน้าตัวเองที่แผงอกของคนที่อุ้มอยู่เธอเองเห็นเขาอุ้มเธอเดินด
“ไม่ๆ....งั้นพาฉันไปบ้านคุณเดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มเดินอุ้มหญิงสาวกลับมาที่เรือนไม้ที่อยู่ห่างจากน้ำตกไม่มากนักแต่ก็เป็นบ้านที่อยู่บนเนินสูงเป็นที่ที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติเพราะก่อนที่จะสร้างเรือนหลังนี้เขาศึกษามาอย่างดีแล้วเมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็รีบอุ้มเธอเดินเข้าไปที่ห้องน้ำในห้องของเขาเพราะเรือนไม้ที่เขาสร้างมีแค่ห้องเดียวเอาไว้ใช้เวลาที่อยากจะมานอนพักผ่อน“นี่บ้านคุณหรอน่ารักดีนะ...ฉันชอบ”พาฝันเห็นบ้านหลังนี้ก็รู้สึกตกหลุมรักมันในทันทีเพราะที่นี่ถึงจะเป็นเรือนไม้เล็กๆแต่จากที่เธอมองผ่านๆมันน่าจะสามรถมองเหนวิวได้ทุกด้านอีกทั้งยังดูเล็กๆดูอบอุ่นมากๆอีกด้วย“อืมมม...เดี๋ยวคุณนั่งอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวผมไปหาผ้าขนหนูกับเสื้อมาให้คุณเปลี่ยน”หญิงสาวพยักหน้ารับเมื่อคนตัวโตอุ้มเธอมาวางนั่งอยู่ที่เก้าอีในห้องน้ำและเดินออกไปแล้วเธอจึงยื่นมือไปหยิบฝักบัวแล้วเปิดราดตัวเองทันทีเพราะเธอตอนนี้ทั้งตัวที่ยังเลอะโคลนที่ล้างยังไม่หมดแถมเปียกฝนอีกเธอจึงต้องรีบล้างตัวในทันที“อะนี่คุณผมแขวนไว้ตรงนี้นะเสร็จแล้วก็เรียกผมนะเดี๋ยวมาอุ้มออกไป”“โอเค”อัคคีรีบไปหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในตู้ละเสื้อเชิ้ตของเขาที่ผ
“นี่ผมถามจริงคุณไม่กลัวผมเลยหรือไงทั้งๆที่เราพึ่งเจอกัน”ชายหนุ่มถึงกับหันควับคราแรกเขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมอยู่กับคนที่พึ่งเจออย่างเขาเสียอีกเขายังนึกแปลกใจว่าเธอทำไมไว้ใจที่จะอยู่ที่นี่กับเขาง่ายจัง“ไม่กลัวววเพราะถ้าพี่เพลิงจะทำอะไรฝันคงทำไปนานแล้ว....อืมมแล้วท่าทางจะพี่เพลิงยังจะรำคาญฝันด้วยน้า..”หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มหวานส่งไปให้ชายหนุ่มเธอไม่แคร์ว่าชายหนุ่มจะยิ้มตอบหรือไม่แต่เธอแค่อยากจะยิ้มให้เขาดูจากอาการเขาตอนนี้แล้วก็คงจะรำคาญเธออยู่ไม่น้อย“รู้ตัวก็ดีแล้วคุณ...รีบๆโทรบอกเพื่อนคุณได้แล้วเดี๋ยวเขาจะเป็นห่วง”“โอเค”หญิงสาวพยักหน้ารับพร้อมกดมือถือโทรหาเพลงพิณทันทีเมื่อคุยกันได้สักแปปเธอก็ยื่นมือถือคืนชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“เรียบร้อยแล้วหรอคุณ”“ใช่ค่ะ...อ้อแล้วก็ฝันเมมเบอพร้อมถ่ายรูปหน้าฝันลงในเครื่องพี่เพลิงแล้วนะคะเวลาฝันโทรหาพี่เพลิงพี่เพลิงจะได้เห็นหน้าฝันชัดๆไงคะ”ชายหนุ่มถึงกับหนาเหวอคนแบบนี้ก็มีด้วยแฮะเขาเองไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอพร้อมหมุนตัวจะออกไปนอกห้องทันที“เดี๋ยวพี่เพลิงจะไปไหนคะ”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จาเธอจึงต้องรีบตะ
“เมื่อกลางวันผมแนะนำเพื่อนคุณให้ไปเที่ยวที่ไร่เธอคงจะเดินลัดไปทางหลังบ้านแล้วไปที่ไร่แหละคุณ...อืมมเอางี้ผมพอรู้จักอยู่กับลุงสมหมายที่ทำงานที่ไร่นั้นอยู่บ้านแกอยู่ใกล้ๆเรานี่เองเดี๋ยวผมไปถามลุงแกให้ว่าเห็นเพื่อนคุณหรือป่าว”ชายหนุ่มจำได้ว่าลุงสมหมายที่ปลูกบ้านอยู่ระแวกที่ใกล้สุดแถวนี้แกทำงานอยู่ที่ไร่มีรักถ้าพาฝันไปที่นั่นจริงแกก็คงจะต้องเห็นบ้างเพราะเธอแต่งตัวต่างจากคนที่นี่คนงานในไร่เห็นก็ต้องพูดกันอยู่บ้างแหละตอนนี้เขาเองร้อนใจไม่แพ้หญิงสาวเหมือนกันแต่ก็ต้องคุมสติไว้ก่อนเพราะเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่มีสติแล้วที่เขากังวลคือตอนนี้ฝนตกหนักเกิดพาฝันอยู่ในป่าที่ใกล้กับไร่คงไม่ดีแน่เพราะมันอันตรายมาก“ไปกันเลยคุณ”“หืออ..โอ้ยยยยยยคุณ”“ว้ายยยยยย”เพลงพิณคว้ามือชายหนุ่มเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้ทันตั้งตัวล้มลงกลิ้งลงไปกองอยู่ที่พื้นทำเอาหญิงสาวส่งเสียงกรี้ดดดลั่นบ้านเพราะเธอเกือบจะฆ่าชายหนุ่มแล้วมั้ยล่ะ“คุณเป็นยังไงบ้าง...ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ”หญิงสาวรีบวิ่งลงมาดูอาการของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขายังนอนร้องโอดโอยอยู่เธอจึงโล่งใจที่เขาไม่ได้ตายเพราะฝีมือเธอพ
“นี่คุณลืมตาได้แล้ว”หญิงสาวเดินไปหยิบไฟฉายในมือของชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาลืมตาได้เพราะตอนนี้เธอพันผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้ว“อะ..เอ่อ..ผมเอาไฟฉายมาให้แล้วเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดังโครมครามคุณเป็นอะไรหรือป่าว”ชายหนุ่มรีบหาเรื่องคุยเปลี่ยนเรื่องทันทีหวังว่าหญิงสาวคงไม่ถือสาเขาเรื่องเมื่อครู่นี้นะ“ไม่อะฉันแค่เดินชนโต้ะที่หัวเตียงแล้วคมไฟมันตกลงมา..”หญิงสาวพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มเพราะเธอรู้สึกเขินที่เมื่อครู่เขาจะเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอบ้างหรือป่าวก็ไม่รู้“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว....งั้นผมไปล่ะ”ชายหนุ่มดูก็รู้ว่าที่หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ยอมสบตาเขาเธอคงจะอายเรื่องเมื่อครู่เขาจึงคิดว่าขอปลีกตัวออกไปโดยเร็วจะดีกว่า“เดี๋ยวคุณ....เอ่อ..เมื่อกี้..ค..คุณไม่ได้เห็นอะไรใช่มั้ย”เมื่อเห็นชายหนุ่มหันหลังจะเดินออกไปเธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่มันยังคาใจของเธออยู่ว่าเมื่อครู่นี้เขาได้เห็นอะไรของเธอใช่มั้ย“อ๋อ..อะ..อืมมมม”ชายหนุ่มที่เดินหันหลังจะออกไปจากห้องเมื่อได้ยินที่หญิงสาวถามเลยตอบอึกๆอักๆจำใจโกหกว่าไม่เห็นอะไรทั้งที่เมื่อกี้อะไรๆของเธอมันปรากฎต่อสายตาของเขาหมดแล้วดีที่มันยังเห็นไม่ชัดเท่านันเอง
“ไม่ต้องผมว่าผมนอนในห้องนี้กับคุณเลยดีกว่า..ผมว่าเดี๋ยวคุณก็ต้องส่งเสียงรบกวนการนนของผมอีก”ชายหนุ่มเดินดุ่มๆมานอนที่ข้างๆหญิงสาวพร้อมหันหลังให้เธอกอดหมอนข้างนอนอย่างสบายใจเขาคิดว่าถ้าเขายังนอนอยู่ข้างนอกเขาได้วิ่งเข้าวิ่งออกห้องนี้เป็นแน่“อะ..เอ่อ..จะนอนที่นี่หรอคะพี่เพลิงออกไปนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ..ฝ..ฝันไม่กวนแล้วก็ได้”หญิงสาวตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็มานอนอยู่ข้างๆเธอหญิงสาวพอจะรู้อยู่ว่าชายหนุ่มรำคาญเธอจึงบอกเขาไปว่าจะไม่รบกวนอีกเพราะไม่ได้อยากให้ชายหนุ่มนอนอยู่ที่นี่เธอเองถึงจะดูเหมือนผู้หญิงใจกล้าพูดมากแต่เธอเองก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองเลยสักครั้งขนาดเพื่อนที่เป็นเกย์สมัยเรียนจะมาขอนอนด้วยเธอยังปฏิเสธหัวชนฝาเลย“ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดผมจะหาอะไรมาอุดปากคุณเดี๋ยวนี้แหละ”“หือ..อุ้ปป”เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ดูจะเอาจริงแล้วเธอจึงรีบหยุดพูดทันทีพร้อมนอนลงหันหลังให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่อย่างสบายใจหญิงสาวพยายามข่มตาให้มันหลับแล้วแต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้เธอได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่แบบนั้นก็จะให้เธอหลับลงได้ยังไงเล่ามีผู้ชายมานอนข้างๆเธออยู่แบบนี้ถึงเธอจะไว้ใจเขาก็ไม่ได้แปลว่าจะ