“ห๊า…..”
หญิงสาวตะลึงจนอ้าปากหวอไม่คิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอและเขามาพบกันอีกแถมยังต้องมาอยู่บ้านเดียวกันอีกเนี่ยนะมีหวังเธอประสาทกินตายแล้วเรื่องเมื่อกี้ที่เธอพูดไปล่ะก็โป้ะแตกน่ะสิหญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบรู้สึกหน้าแตกจนไปไม่เป็นเมื่อโดนชายหนุ่มแซวเรื่องที่เธอบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้าน
“อะ…เอ่อ..แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าฉันก็คิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิตน่ะสิ….งั้นชะ..ไปแล่วววว”
หญิงสาวยกมือเกาหัวแกลกๆแก้เขินและรีบตีเนียนจะเดินออกจากห้องของชายหนุ่มแต่ก็ไม่ทันเพราะมือของชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอไว้ซะอยู่เลย
“อะไรอีกเล่า”
หญิงสาวชะงักหันมาถามชายหนุ่มแบบไม่กล้าสบตาเพราะเธอรู้ว่าเธอผิดแถมด่าเขาไว้เยอะด้วยทั้งบ้าทั้งโรคจิต
“คุณเจอกับผมทีไรนี่ผมต้องเป็นคนที่ทั้งบ้าและโรคจิตตลอดเลยนะ…นี่จะไปทั้งที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักคำเลยเนี่ยนะ”
ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆแกมประชดหญิงสาวยิ่งเห็นสีหน้าเธอรู้สึกผิดเขายิ่งคิดว่ายิ่งน่าแกล้ง
“งั้นฉันขอโทษก็ได้….จะปล่อยได้หรือยังฉันหิวจะแย่แล้ว”
หญิงสาวพูดเสียงแผ่วทั้งยังแอบเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มอีกแต่ก็มองได้แวบเดียวเธอเองก็ต้องก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้สายตาของเธอมองเห็นแผงอกของเขาอีก
“ยัง…พูดกับผมทำไมไม่มองหน้าล่ะคุณ…เมื่อกี้ยังบอกว่าผมเป็นแฟนอยู่เลยจู่ๆไม่กล้ามองแฟนซะงั้น”
ชายหนุ่มยังคงใช้คำพูดแกล้งแกมประชดหญิงสาวก็เพราะปากเขาเป็นแบบนี้ไงจึงได้รับฉายาว่าปากปีจอ
“แฟนเฟินอะไรเล่า…ฉันก็แค่พูดเพื่อปกป้องตัวเองไปงั้น..จะปล่อยได้หรือยังก็บอกว่าหิว…ได้ยินมั้ยว่าหิวอ่ะ”
หญิงสาวเริ่มอารมณ์เสียเพราะชายหนุ่มยังแกล้งพูดใส่เธอไม่เลิกบวกกับความหิวความโมโหมันก็เลยเพิ่มเป็นทวีคูณ
“อืมมม…ผมไม่แกล้งคุณละผมก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน…เอาเป็นว่าอาหารจานที่คุณจะกินเมื่อกี้ผมเป็นคนทำให้คุณแล้วก็เพื่อนของคุณเค้ากินเรียบร้อยแล้วแล้วก็ฝากผมบอกคุณว่าจะไปเดินเที่ยวชมวิวแถวนี้สักพักอีกเดี๋ยวคงกลับ”
ชายหนุ่มปล่อยแขนหญิงสาวพร้อมบอกเรื่องอาหารที่เขาทำไว้ให้และเรื่องที่พาฝันฝากบอกกับหญิงสาวแล้วเขาเองจึงเดินลอยหน้าลอยตาเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สนใจคนที่ยืนอึ้งอยู่ในห้องของเขา
“ทำอาหารเป็นด้วยหรอ”
หญิงสาวเดินลงมาจากในห้องของชายหนุ่มอย่างงงๆไม่คิดว่าอาหารที่หน้าตาเหมือนสั่งมาจากภัตตาคารจะเป็นฝีมือของชายหนุ่มแต่ยังไงตอนนี้เธอก็คงต้องพึ่งอาหารฝีมือของเขาไปก่อนแล้วแหละก่อนที่ท้องของเธอจะร้องหนักไปกว่านี้
ทางด้านพาฝันเมื่อหญิงสาวเดินเตร็ดเตร่ชมวิวมาเรื่อยๆจนตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆแล้วเธอก็ยังเพลิดเพลินตื่นเต้นกับการชมวิวสวยๆอยู่เลยตอนนี้เธอรู้สึกปวดเท้านิดหน่อยเป็นเพราะรองเท้าที่เธอใส่เป็นส้นสูงบวกกับผืนดินที่ไม่สม่ำเสมอทำให้เธอเดินลำบากขึ้นไปอีกหญิงสาวคิดในใจว่าเป็นความไม่รอบคอบของเธอแท้ๆที่ไม่ได้หยิบรองเท้าแตะหรือผ้าใบมาด้วยเพราะปกติเธอชินแต่กับการใส่ส้นสูงแถมเสื้อผ้าที่เธอเอามาใส่ก็ดูว่าจะไม่เข้ากับป่ากับเขาเลยสักนิดเหมือนวันนี้ที่เธอเลือกชุดเดรสรัดรูปสีแดงมาใส่มันทำให้เธอเดินเหินบนทางที่ชันลำบากเหลือเกินแต่เพราะความอยากที่จะเดินเที่ยวอุปสรรคแค่ไหนก็ขัดขวางเธอไม่ได้อยู่ดี
“ว้าวสวยจังเลย”
หญิงสาวเดินลัดเนินเขามานิดหน่อยก็เห็นเป็นทุ่งนาและพืชผักน่าจะเป็นสวนผสมที่ดูน่าจะเป็นการทำเกษตรพอเพียงที่จัดพื้นที่ได้อย่างลงตัวที่สุดที่นี่ที่เธอเห็นถึงจะเป็นพื้นที่น้อยๆแต่มันก็ดูเหมือนคนละโลกกับชีวิตที่เธอเคยอยู่ยิ่งมองไปยิ่งเห็นฝูงควายที่มันกำลังเล็มหญิงอยู่ละชาวนาที่กำลังปักดำมันช่างเป็นภาพที่เธอประทับใจยิ่งนักติดตรงมือถือเธอแบตหมดนี่แหละไม่อย่างนั้นเธอคงจะต้องหยิบขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้แล้ว
“พ่อเลี้ยงครับนั่นผู้หญิงชุดแดงที่ไหนมาครับน่ะ”
อัคคีหันไปมองตามเสียงที่ลุงสมหมายบอกเขามองออกไปก็เห็นผู้หญิงสาวร่างเล็กที่ใส่ชุดแดงยืนชื่นชมบรรยากาศอยู่เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงยืนส่ายหัวก็เธอช่างแต่งตัวไม่ได้เข้ากับสถานที่เอาเสียเลยว่าแต่เธอมาจากไหนกันนะเพราะที่นี่น้อยคนนักที่จะเข้ามาที่นี่ได้ถ้าไม่ใช่คนงานในไร่
“ผมว่าต้องรีบไปบอกเธอให้ออกไปจากตรงนั้นก่อนนะครับผมกล้วว่าควายจะตื่น”
สมหมายทำหน้ากังวลเมื่อเริ่มเห็นควายของเขาที่เล็มหญ้าอยู่ที่ผืนดินอีกแปลงเริ่มที่จะหันมองเธอเป็นตาเดียวกันแล้ว
“นั่นไงครับพ่อเลี้ยงผมว่าแล้วววววววว”
สมหมายร้องลั่นเป็นอย่างที่เขาคิดไม่ผิดเพราะเจ้าควายสามตัวที่เขาเลี้ยงไว้เร่มที่จะกรูกันเข้าไปหาหญิงสาวใส่ชุดแดงแล้ว
“หือออ….อะไรอ่า....ทำไมน้องควายวิ่งมาทางนี้ล่ะ.......ไม่นะอร๊ายย”
หลังจากที่หญิงสาวยืนชื่นชมบรรยากาศอยู่ดีๆจู่ๆพวกควายที่ยืนเล็มหญ้าอยู่เมื่อครู่กลับพากันวิ่งดิ่งตรงมาทางเธอทำเอาเธอต้องรีบวิ่งหนีเจ้าละหวั่นทั้งชุดละรองเท้าเธอช่างเป็นอุปสรรคต่อการวิ่งยิ่งนักเธอสัญญาว่าตรบใดที่ต้องอยู่ทีนี่จะไม่ใส่ไอ้ชุดบ้าๆกับรองเท้าส้นสูงนี้อีกแล้ว
“ลุงสมหมายไปไล่ต้อนฝูงควายนะครับเด่ยวผมจะรีบไปช่วยเธอ”
อัคคีรีบตะโกนบอกลุงสมหมายที่ตอนนี้กำลังรีบวิ่งตามควายอยู่ส่วนเขาเองก็วิ่งตามหญิงสาวเช่นกันเขาเองนึกโมโหหญิงสาวชุดแดงชะมัดเพราะทำให้พวกเขาวุ่นวายกันไปหมด
“ว้ายช่วยด้วยยยยยย.....โอ้ยยยย”
พาฝันหลับหูหลับตาวิ่งเธอคงลืมไปว่าไอ้ที่เธอวิ่งอยู่น่ะมันบนคันนาที่พวกชาวนากำลังปักดำกันอยู่ทำให้เธอพลาดก้าวลื่นไถลลงไปนอนอยู่ในผืนนาเรียบร้อย
“ว้ายยน้องควายยอย่ามาขวิดพี่นะพี่กลัวแล้ววว”
“นี่คุณผมเป็นคนไม่ใช่ควาย....ลืมตามองสิ”
ชายหนุ่มเริ่มฉุนอีกครั้งเขาอุตสาห์มาช่วยเธอแท้ๆกลับมาว่าเขาเป็นควายไอ้ควายมันไปหมดแล้วเพราะลุงสมหมายวิ่งมาต้อนไว้ทันก่อนที่มันจะเข้ามาถึงตัวเธอ
“อะ...อ้าวคนเองหรอแฮร่ๆๆๆ...หล่อด้วย”เมื่อหญิงสาวลืมตามองหน้าคนที่ลากเธอขึ้นมาจากโคนตมแล้วนั่งตรงคันนาอยู่ตอนนี้จากอาการกลัวควายขวิดกลับกลายเป็นอาการเขินที่เข้ามาแทนเพราะคนที่เข้ามาช่วยเธอเขาตรงตามสเปคของเธอทุกอย่างแม้จะเนื้อตัวมอมแมมไปหน่อยก็เถอะเธอนั่งเกาหัวแกรกๆพูดชมเขาเบาๆโดยที่เขาไม่ได้ยิน“แล้วคุณลุกขึ้นไหวมั้ยเนี่ย”ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เนื้อตัวเปื้อนโคลนแถมชุดที่เธอใส่ก็ยังหมิ่นเหม่จะเห็นอะไรต่อมิอะไรอีกเขามองเธอด้วยสายตาระอาคิดในใจว่าเอจะรู้ตัวเองมั้ยว่าทำให้คนอื่นเค้าวุ่นวายกันหมด“เอ่อ...มะ..ไม่ไหว....เจ็บขาไปหมดแล้ว”หญิงสาวตอบคนตรงหน้าพร้อมก้มหน้าลงเธอคิดว่าต้องทำตัวน่าสงสารเข้าไว้คนตรงหน้าจะได้เห็นใจและช่วยเธอ“เฮ้ออก็ใครใช้ให้คุณใส่ส้นสูงแล้วก็ไอ้ชุดแบบนี้มาเดินแถวนี้เล่า”“อะ..เอ่อ..คุณ..จะอุ้มก็บอกกันก่อนสิตกใจหมด”ชายหนุ่มต้องออกปากบ่นหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่พร้อมช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าเธอคงจะเดินไม่ไหวจริงๆยิ่งเห็นชุดกับรองเท้าที่เธอใส่เขาล่ะอ่อนใจ“นี่คุณจะพาฉันไปไหนหรอ”หญิงสาวที่ตอนนี้ถือโอกาสซบหน้าตัวเองที่แผงอกของคนที่อุ้มอยู่เธอเองเห็นเขาอุ้มเธอเดินด
“ไม่ๆ....งั้นพาฉันไปบ้านคุณเดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มเดินอุ้มหญิงสาวกลับมาที่เรือนไม้ที่อยู่ห่างจากน้ำตกไม่มากนักแต่ก็เป็นบ้านที่อยู่บนเนินสูงเป็นที่ที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติเพราะก่อนที่จะสร้างเรือนหลังนี้เขาศึกษามาอย่างดีแล้วเมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็รีบอุ้มเธอเดินเข้าไปที่ห้องน้ำในห้องของเขาเพราะเรือนไม้ที่เขาสร้างมีแค่ห้องเดียวเอาไว้ใช้เวลาที่อยากจะมานอนพักผ่อน“นี่บ้านคุณหรอน่ารักดีนะ...ฉันชอบ”พาฝันเห็นบ้านหลังนี้ก็รู้สึกตกหลุมรักมันในทันทีเพราะที่นี่ถึงจะเป็นเรือนไม้เล็กๆแต่จากที่เธอมองผ่านๆมันน่าจะสามรถมองเหนวิวได้ทุกด้านอีกทั้งยังดูเล็กๆดูอบอุ่นมากๆอีกด้วย“อืมมม...เดี๋ยวคุณนั่งอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวผมไปหาผ้าขนหนูกับเสื้อมาให้คุณเปลี่ยน”หญิงสาวพยักหน้ารับเมื่อคนตัวโตอุ้มเธอมาวางนั่งอยู่ที่เก้าอีในห้องน้ำและเดินออกไปแล้วเธอจึงยื่นมือไปหยิบฝักบัวแล้วเปิดราดตัวเองทันทีเพราะเธอตอนนี้ทั้งตัวที่ยังเลอะโคลนที่ล้างยังไม่หมดแถมเปียกฝนอีกเธอจึงต้องรีบล้างตัวในทันที“อะนี่คุณผมแขวนไว้ตรงนี้นะเสร็จแล้วก็เรียกผมนะเดี๋ยวมาอุ้มออกไป”“โอเค”อัคคีรีบไปหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในตู้ละเสื้อเชิ้ตของเขาที่ผ
“นี่ผมถามจริงคุณไม่กลัวผมเลยหรือไงทั้งๆที่เราพึ่งเจอกัน”ชายหนุ่มถึงกับหันควับคราแรกเขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมอยู่กับคนที่พึ่งเจออย่างเขาเสียอีกเขายังนึกแปลกใจว่าเธอทำไมไว้ใจที่จะอยู่ที่นี่กับเขาง่ายจัง“ไม่กลัวววเพราะถ้าพี่เพลิงจะทำอะไรฝันคงทำไปนานแล้ว....อืมมแล้วท่าทางจะพี่เพลิงยังจะรำคาญฝันด้วยน้า..”หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มหวานส่งไปให้ชายหนุ่มเธอไม่แคร์ว่าชายหนุ่มจะยิ้มตอบหรือไม่แต่เธอแค่อยากจะยิ้มให้เขาดูจากอาการเขาตอนนี้แล้วก็คงจะรำคาญเธออยู่ไม่น้อย“รู้ตัวก็ดีแล้วคุณ...รีบๆโทรบอกเพื่อนคุณได้แล้วเดี๋ยวเขาจะเป็นห่วง”“โอเค”หญิงสาวพยักหน้ารับพร้อมกดมือถือโทรหาเพลงพิณทันทีเมื่อคุยกันได้สักแปปเธอก็ยื่นมือถือคืนชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“เรียบร้อยแล้วหรอคุณ”“ใช่ค่ะ...อ้อแล้วก็ฝันเมมเบอพร้อมถ่ายรูปหน้าฝันลงในเครื่องพี่เพลิงแล้วนะคะเวลาฝันโทรหาพี่เพลิงพี่เพลิงจะได้เห็นหน้าฝันชัดๆไงคะ”ชายหนุ่มถึงกับหนาเหวอคนแบบนี้ก็มีด้วยแฮะเขาเองไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอพร้อมหมุนตัวจะออกไปนอกห้องทันที“เดี๋ยวพี่เพลิงจะไปไหนคะ”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จาเธอจึงต้องรีบตะ
“เมื่อกลางวันผมแนะนำเพื่อนคุณให้ไปเที่ยวที่ไร่เธอคงจะเดินลัดไปทางหลังบ้านแล้วไปที่ไร่แหละคุณ...อืมมเอางี้ผมพอรู้จักอยู่กับลุงสมหมายที่ทำงานที่ไร่นั้นอยู่บ้านแกอยู่ใกล้ๆเรานี่เองเดี๋ยวผมไปถามลุงแกให้ว่าเห็นเพื่อนคุณหรือป่าว”ชายหนุ่มจำได้ว่าลุงสมหมายที่ปลูกบ้านอยู่ระแวกที่ใกล้สุดแถวนี้แกทำงานอยู่ที่ไร่มีรักถ้าพาฝันไปที่นั่นจริงแกก็คงจะต้องเห็นบ้างเพราะเธอแต่งตัวต่างจากคนที่นี่คนงานในไร่เห็นก็ต้องพูดกันอยู่บ้างแหละตอนนี้เขาเองร้อนใจไม่แพ้หญิงสาวเหมือนกันแต่ก็ต้องคุมสติไว้ก่อนเพราะเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่มีสติแล้วที่เขากังวลคือตอนนี้ฝนตกหนักเกิดพาฝันอยู่ในป่าที่ใกล้กับไร่คงไม่ดีแน่เพราะมันอันตรายมาก“ไปกันเลยคุณ”“หืออ..โอ้ยยยยยยคุณ”“ว้ายยยยยย”เพลงพิณคว้ามือชายหนุ่มเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้ทันตั้งตัวล้มลงกลิ้งลงไปกองอยู่ที่พื้นทำเอาหญิงสาวส่งเสียงกรี้ดดดลั่นบ้านเพราะเธอเกือบจะฆ่าชายหนุ่มแล้วมั้ยล่ะ“คุณเป็นยังไงบ้าง...ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ”หญิงสาวรีบวิ่งลงมาดูอาการของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขายังนอนร้องโอดโอยอยู่เธอจึงโล่งใจที่เขาไม่ได้ตายเพราะฝีมือเธอพ
“นี่คุณลืมตาได้แล้ว”หญิงสาวเดินไปหยิบไฟฉายในมือของชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาลืมตาได้เพราะตอนนี้เธอพันผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้ว“อะ..เอ่อ..ผมเอาไฟฉายมาให้แล้วเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดังโครมครามคุณเป็นอะไรหรือป่าว”ชายหนุ่มรีบหาเรื่องคุยเปลี่ยนเรื่องทันทีหวังว่าหญิงสาวคงไม่ถือสาเขาเรื่องเมื่อครู่นี้นะ“ไม่อะฉันแค่เดินชนโต้ะที่หัวเตียงแล้วคมไฟมันตกลงมา..”หญิงสาวพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มเพราะเธอรู้สึกเขินที่เมื่อครู่เขาจะเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอบ้างหรือป่าวก็ไม่รู้“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว....งั้นผมไปล่ะ”ชายหนุ่มดูก็รู้ว่าที่หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ยอมสบตาเขาเธอคงจะอายเรื่องเมื่อครู่เขาจึงคิดว่าขอปลีกตัวออกไปโดยเร็วจะดีกว่า“เดี๋ยวคุณ....เอ่อ..เมื่อกี้..ค..คุณไม่ได้เห็นอะไรใช่มั้ย”เมื่อเห็นชายหนุ่มหันหลังจะเดินออกไปเธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่มันยังคาใจของเธออยู่ว่าเมื่อครู่นี้เขาได้เห็นอะไรของเธอใช่มั้ย“อ๋อ..อะ..อืมมมม”ชายหนุ่มที่เดินหันหลังจะออกไปจากห้องเมื่อได้ยินที่หญิงสาวถามเลยตอบอึกๆอักๆจำใจโกหกว่าไม่เห็นอะไรทั้งที่เมื่อกี้อะไรๆของเธอมันปรากฎต่อสายตาของเขาหมดแล้วดีที่มันยังเห็นไม่ชัดเท่านันเอง
“ไม่ต้องผมว่าผมนอนในห้องนี้กับคุณเลยดีกว่า..ผมว่าเดี๋ยวคุณก็ต้องส่งเสียงรบกวนการนนของผมอีก”ชายหนุ่มเดินดุ่มๆมานอนที่ข้างๆหญิงสาวพร้อมหันหลังให้เธอกอดหมอนข้างนอนอย่างสบายใจเขาคิดว่าถ้าเขายังนอนอยู่ข้างนอกเขาได้วิ่งเข้าวิ่งออกห้องนี้เป็นแน่“อะ..เอ่อ..จะนอนที่นี่หรอคะพี่เพลิงออกไปนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ..ฝ..ฝันไม่กวนแล้วก็ได้”หญิงสาวตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็มานอนอยู่ข้างๆเธอหญิงสาวพอจะรู้อยู่ว่าชายหนุ่มรำคาญเธอจึงบอกเขาไปว่าจะไม่รบกวนอีกเพราะไม่ได้อยากให้ชายหนุ่มนอนอยู่ที่นี่เธอเองถึงจะดูเหมือนผู้หญิงใจกล้าพูดมากแต่เธอเองก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองเลยสักครั้งขนาดเพื่อนที่เป็นเกย์สมัยเรียนจะมาขอนอนด้วยเธอยังปฏิเสธหัวชนฝาเลย“ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดผมจะหาอะไรมาอุดปากคุณเดี๋ยวนี้แหละ”“หือ..อุ้ปป”เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ดูจะเอาจริงแล้วเธอจึงรีบหยุดพูดทันทีพร้อมนอนลงหันหลังให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่อย่างสบายใจหญิงสาวพยายามข่มตาให้มันหลับแล้วแต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้เธอได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่แบบนั้นก็จะให้เธอหลับลงได้ยังไงเล่ามีผู้ชายมานอนข้างๆเธออยู่แบบนี้ถึงเธอจะไว้ใจเขาก็ไม่ได้แปลว่าจะ
“ไปคุณ”“หืมมมมมม”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงม้าออกมาจากหลังบ้านของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่าเขาจูงม้าออกมาทำไมไหนบอกว่าจะไปส่งเธอไงอย่าบอกนะว่าจะขี่ม้าไป“ไปยังไงคะ”“ก็ขี่เจ้าอาชานี่ไปไง...ยืนขึ้นไหวมั้ยคุณ”“หา....วะ...ไหวค่ะ”ชายหนุ่มขึ้นขี่เจ้าอาชาม้าเพศผู้ของเขาที่เลี้ยงไว้ใช้งานเวลาที่เดินตรวจในไร่พร้อมอุ้มหญิงสาวที่ยืนอยู่บนแคร่ไม้มานั่งไพล่บนหลังม้าหน้าตัวเขา“พี่เพลิงขี่ม้ามาในไร่เป็นประจำหรอคะ..”“อืมมมม”“แล้วพี่เพลิงตื่นเช้าทำงานเป็นประจำทุกวันเลยใช่มั้ยคะ”“ใช่”หญิงสาวที่นั่งเกาะเอวเอาหัวซบอกของชายหนุ่มอยู่เธอเห็นว่าเขาเงียบไปเลยชวนคุยเธอสรรหาเรื่องคุยสารพัดจะเรื่องแต่ก็ได้รับคำตอบมาแค่เพียงว่าอืมมมม/ใช่/ไม่ใช่/ไม่รู้แค่นั้นเองและก็ไม่มีทีว่าว่าเขาอยากจะสนธนากับเธอเลยสักนิด“หยุดก่อนค่ะพี่เพลิง...”หญิงสาวเหลือบมองไปเห็นพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าออกมาเธอถึงกับตาลุกวาวเพราะเมื่อชายหนุ่มพาเธอนั่งบนหลังม้ามาจนเกือบถึงท้ายไร่ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์สวยและชัดที่สุดแล้ว“มีอะไรอีก...”ชายหนุ่มใช้มือกระตุกที่เชือกของเจ้าอาชาเพื่อให้มันหยุดเดิน
ชาวบ้านที่นั่นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดเรื่องนี้ออกมาสักคนเพราะกลัวพวกที่มีอิทธิพลเถื่อนกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้วภัยจะมาถึงตัวเขาเองที่ขึ้นไปบนดอยบ่อยๆเพราะต้องการหาหลักฐานเอาผิดคนที่ค้ายาค้ามนุษย์แล้วยังได้ให้ความรู้แก่เด็กๆและชาวบ้านไปด้วย“อืมมมม...เอางี้ยังไงช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่ดีเอาเป็นว่าฉันจะขึ้นดอยไปช่วยคุณก็แล้วกันเป็นการไถ่โทษที่ฉันทำคุณเจ็บ”หญิงสาวไตร่ตรองอยู่ครู่หนึงจึงเอ่ยปากว่าจะไปช่วยชายหนุ่มเพราะเธอเองก็เห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอีกอย่างถ้าเธอได้ทำประโยชน์ให้กับเด็กๆที่อยู่บนดอยบ้างก็คงจะดีต่อจิตใจเธอไม่น้อย“แน่ใจหรอคุณ...บนดอยมันไม่ได้สะดวกสบายแบบที่คุณเคยอยู่หรอกนะ”ชายหนุ่มถึงกับจ้องหน้าเธออย่างจริงจังเขาถามย้ำเธออีกรบเพราะที่ที่เขาจะไปมันไม่ได้สะดวกสบายเลยแม้แต่น้อยเขากลัวว่าลูกคุณหนูอย่างเธอจะอยู่ไม่ได้แล้วร้องกลับเสียเปล่าๆ“แน่ใจสิคุณ...ฉันขอขับรถก่อนเรื่องนี้ค่อยคุยกันที่บ้านอีกทีก็แล้วกัน”“โอเค...”ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับคำว่าแน่ใจของหญิงสาวเขาเองยังนึกสภาพขงหญิงสาวว่าตอนที่เธออยู่ที่นั่นจะเป็นยังไงไม่ออกเพราะที่นั่นมันทั้งกันดารทั้งลำบากกว่าบ้านที่