เช้าวันต่อมา
“ตื่นเร็วแกฉันหิวไปหารัยกินกัน”
พาฝันรีบตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเพราะตอนนี้เธอเริ่มหิวมากซึ่งเป็นผลจากการที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่มื้อเที่ยงเมื่อวานเมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องของเพลงพิณอย่างรวดเร็วเพราะประตูด้านในห้องมันสามารถทะลุถึงกันได้
“อื้มมมมม….ขอนอนอีกนิดนะแกอากาศกำลังดีเลยแกหิวก็ไปหาอะไรกินก่อนเลยเผื่อฉันด้วย”
เพลงพิณตอบเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการงัวเงียวันนี้อากาศดีเธอจึงอยากจะนอนต่ออีกสักพัก
“โถ่…ยัยขี้เซาเอ้ยฉันไปคนเดียวก็ได้”
พาฝันถึงกับบ่นอุกในความขี้เซาของเพื่อนเธอในเมื่อไม่ยอมตื่นเธอไปหาอะไรทานคนเดียวก็ได้
11.00 น.
“ไปไหนของเธอกันนะยัยฝันโทรก็ไม่ติด”
เพลงพิณตื่นขึ้นมาในช่วงสายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเช้าพอดีเธอจำได้ว่าเมื่อเช้าพาฝันชวนเธอไปหาอะไรทานแล้วพอเธอไม่ตื่นเพื่อนของเธอก็จำใจจะต้องไปคนเดียวเธอจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวในห้องเพราะคิดว่าน่าจะกลับมาแล้วแต่กลับไม่มี
“หูยยยยสเต็คหมูของโปรดฉัน…”
เมื่อเพลงพิณหาพาฝันในห้องไม่เจอเธอจึงเดินลงมาหาที่ด้านล่างคิดว่าเพื่อนเธออาจจะนั่งเล่นอยู่ที่ข้างล่างก็ได้แต่เมื่อลงมาเธอไม่เห็นเพื่อนสาวของเธอกลับเห็นแต่จานสเต็คที่น่าจะพึ่งทำเสร็จมาหมาดๆวางอยู่ที่โต้ะพร้อมฝาครอบอาหารครอบอยู่หญิงสาวจึงต้องกลืนน้ำลายในทันทีคิดว่าเพื่อนของเธอก็เก่งเหมือนกันนะที่ในป่าในเขาแบบนี้กลับหาร้านสเต็คแล้วซื้อมาฝากเธอได้
“แล้วเจ้าตัวไปไหนล่ะเนี่ยยย…อุตส่าห์จะขอบคุณซะหน่อย”
เพลงพิณมองซ้ายมองขวาหาเพื่อนสาวของเธอแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาเธอจึงแสร้งพูดดังๆขึ้นมาเผื่อเจ้าตัวจะได้ยินพร้อมเปิดฝาครอบอาหารแล้วนั่งที่เก้าอี้เตรียมหั่นสเต็คชิ้นโตทานทันที
“มาแอบกินอาหารคนอื่นโดยที่ไม่ขออนุญาตแบบนี้เค้าเรียกว่าขโมยหรือป่าวคุณ”
ดินแดนเองเจอพาฝันตั้งแต่เมื่อเช้าที่เธอลงมาแล้วพอได้พูดคุยกันจึงรู้ว่าใครเป็นใครและคนที่นอนขี้เซาอยู่ข้างบนเป็นใครด้วยพร้อมคำรับสารภาพว่าทั้งคู่ทำอาหารไม่เป็นเขาเองที่พึ่งลงจากดอยมาก็ต้องโชว์ฝีมือการทำอาหารให้พาฝันทานเมื่อหญิงสาวทานเรียบร้อยแล้วก็บอกเขาอีกว่าให้ทำสเต็คหมูของโปรดของเพื่อนสาวเธอที่นอนอยู่ข้างบนหนึ่งที่เพราะคาดว่าเมื่อเพื่อนของเธอตื่นขึ้นมาคงจะหิวใส้กริ่วเป็นแน่
พาฝันเองเมื่อเห็นว่าข้างนอกอากาศดีเธอเลยขอไปเดินเล่นข้างนอกแล้วพร้อมถามเขาว่าที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยๆตรงไหนบ้างเขาเลยบอกว่าถ้าเดินออกไปทางหลังบ้านจะมีไร่มีรักที่มีพืชพันธ์หลากหลายอยู่ตรงนั้นก็พอจะเป็นที่ที่จะทำให้หญิงสาวได้เจริญหูเจริญตาได้บ้าง
“อร้าย…..อีตาบ้าเข้ามาได้ยังไงเนี่ยไอ้โรคจิตออกไปจากบ้านนี้เลยนะ”
เพลงพิณหันไปตามเสียงภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องส่งเสียงกรี๊ดโวยวายพร้อมเอามือปิดหน้าทันทีเธอพอจะจำได้ว่าคนที่เดินลงมาเป็นใครแต่เขามาทำอะไรที่นี่ล่ะแถมยังพันแค่ผ้าขนหนูที่ช่วงล่างเดินอยู่ในบ้านนี้อยู่อีก
“หึ….คุณเป็นเจ้าของบ้านหรอถึงมาไล่ผม”
ชายหนุ่มจงใจเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่ใช้มือปิดหน้าอยู่เขาตลกภาพตรงหน้าตอนนี้เหลือเกินไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนากะอีแค่ผู้ชายถอดเสื้อเนี่ย
“ทำไมฉันจะไล่ไม่ได้ก็ฉัน…ฉัน..เป็น..เป็นแฟนเจ้าของบ้านนี่ถ้าเค้ารู้ว่าคุณมาบุกรุกในบ้านเค้าแล้วมาทำอนาจารแบบนี้เค้าไม่ปล่อยคุณไว้แน่”
หญิงสาวลืมไปเสียสนิทว่าที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเธอเลยใช้มุขเป็นแฟนเจ้าของบ้านทนละกันอย่างน้อยก็น่าจะทำให้ผู้ชายที่ยืนเป็นชีเปลือยอยู่ตรงหน้าสลดได้บ้าง
“เป็นแฟนเจ้าของบ้าน….อ๋ออ..อย่างนั้นแฟนคุณเค้าอยู่ไหนล่ะผมไม่ยักจะเห็น”
ชายหนุ่มตะลึงเล็กน้อยที่จู่ๆหญิงสาวมาบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้านเธอเองโกหกไม่เนียนเลยสักนิดก็เจ้าของบ้านยืนโทนโท่อยู่เธอยังไม่รู้จักเลยแถมยังออกปากไล่เขาอีกเขาจึงขอลองแกล้งเล่นตามเกมส์เธอหน่อยแล้วกัน
“นี่คุณ…คุ้นนนจะขึ้นไปไหนลงมาเดี๋ยวนี้นะ”
หลังจากที่หญิงสาวอ้ำอึ้งเรื่องแฟนอยู่นานในเมื่อเธอให้คำตอบเรื่องแฟนของเธอไม่ได้ชายหนุ่มจงใจเดินขึ้นห้องของตัวเองและทำเป็นไม่สนใจหญิงสาวทำเอาเธอต้องวิ่งตามเข้ามาในห้องของเขา
“นี่คุณขึ้นมาบนนี้ได้ยังไง…”
หญิงสาวรีบวิ่งมาดึงแขนชายหนุ่มเพราะคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันดูล้ำเส้นและไร้มารยาทเกินไปในเมื่อบ้านตัวเองก็ไม่ใช่ยังจะมาทำอะไรตามอำเภอใจที่นี่อีก
“ทำไมผมจะขึ้นมาไม่ได้ก็ผมจะอาบน้ำ…และ…ผม เป็น เจ้า ของ บ้าน คนที่คุณบอกว่าเป็นแฟนเมื่อกี้”
อันที่จริงชายหนุ่มตั้งใจจะอาบน้ำตั้งนานแล้วแต่ลืมไปว่าตนเองลืมมือถืออยู่ด้านล่างเลยจะลงไปหยิบด้วยความเคยชินที่อยู่คนเดียวและไม่คิดว่าหญิงสาวจะนั่งอยู่ด้านล่างเขาจึงพันผ้าขนหนูผืนเดียวลงมาเมื่อเห็นอาการของหญิงสาวเขาจึงขอแกล้งเธอสักนิดแต่ตอนนี้เขาคิดว่ามันหมดเวลาที่เขาจะล้อเล่นกับเธอแล้วเพราะเขาเหนื่อยอยากพักผ่อนจึงบอกความจริงกับเธอว่าเขาเป็นเจ้าของบ้าน
“ห๊า…..”หญิงสาวตะลึงจนอ้าปากหวอไม่คิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอและเขามาพบกันอีกแถมยังต้องมาอยู่บ้านเดียวกันอีกเนี่ยนะมีหวังเธอประสาทกินตายแล้วเรื่องเมื่อกี้ที่เธอพูดไปล่ะก็โป้ะแตกน่ะสิหญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบรู้สึกหน้าแตกจนไปไม่เป็นเมื่อโดนชายหนุ่มแซวเรื่องที่เธอบอกว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้าน“อะ…เอ่อ..แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าฉันก็คิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิตน่ะสิ….งั้นชะ..ไปแล่วววว”หญิงสาวยกมือเกาหัวแกลกๆแก้เขินและรีบตีเนียนจะเดินออกจากห้องของชายหนุ่มแต่ก็ไม่ทันเพราะมือของชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอไว้ซะอยู่เลย“อะไรอีกเล่า”หญิงสาวชะงักหันมาถามชายหนุ่มแบบไม่กล้าสบตาเพราะเธอรู้ว่าเธอผิดแถมด่าเขาไว้เยอะด้วยทั้งบ้าทั้งโรคจิต“คุณเจอกับผมทีไรนี่ผมต้องเป็นคนที่ทั้งบ้าและโรคจิตตลอดเลยนะ…นี่จะไปทั้งที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักคำเลยเนี่ยนะ”ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆแกมประชดหญิงสาวยิ่งเห็นสีหน้าเธอรู้สึกผิดเขายิ่งคิดว่ายิ่งน่าแกล้ง“งั้นฉันขอโทษก็ได้….จะปล่อยได้หรือยังฉันหิวจะแย่แล้ว”หญิงสาวพูดเสียงแผ่วทั้งยังแอบเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มอีกแต่ก็มองได้แวบเดียวเธอเองก็ต้องก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้สายตาของเธอมองเห็นแผ
“อะ...อ้าวคนเองหรอแฮร่ๆๆๆ...หล่อด้วย”เมื่อหญิงสาวลืมตามองหน้าคนที่ลากเธอขึ้นมาจากโคนตมแล้วนั่งตรงคันนาอยู่ตอนนี้จากอาการกลัวควายขวิดกลับกลายเป็นอาการเขินที่เข้ามาแทนเพราะคนที่เข้ามาช่วยเธอเขาตรงตามสเปคของเธอทุกอย่างแม้จะเนื้อตัวมอมแมมไปหน่อยก็เถอะเธอนั่งเกาหัวแกรกๆพูดชมเขาเบาๆโดยที่เขาไม่ได้ยิน“แล้วคุณลุกขึ้นไหวมั้ยเนี่ย”ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เนื้อตัวเปื้อนโคลนแถมชุดที่เธอใส่ก็ยังหมิ่นเหม่จะเห็นอะไรต่อมิอะไรอีกเขามองเธอด้วยสายตาระอาคิดในใจว่าเอจะรู้ตัวเองมั้ยว่าทำให้คนอื่นเค้าวุ่นวายกันหมด“เอ่อ...มะ..ไม่ไหว....เจ็บขาไปหมดแล้ว”หญิงสาวตอบคนตรงหน้าพร้อมก้มหน้าลงเธอคิดว่าต้องทำตัวน่าสงสารเข้าไว้คนตรงหน้าจะได้เห็นใจและช่วยเธอ“เฮ้ออก็ใครใช้ให้คุณใส่ส้นสูงแล้วก็ไอ้ชุดแบบนี้มาเดินแถวนี้เล่า”“อะ..เอ่อ..คุณ..จะอุ้มก็บอกกันก่อนสิตกใจหมด”ชายหนุ่มต้องออกปากบ่นหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่พร้อมช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าเธอคงจะเดินไม่ไหวจริงๆยิ่งเห็นชุดกับรองเท้าที่เธอใส่เขาล่ะอ่อนใจ“นี่คุณจะพาฉันไปไหนหรอ”หญิงสาวที่ตอนนี้ถือโอกาสซบหน้าตัวเองที่แผงอกของคนที่อุ้มอยู่เธอเองเห็นเขาอุ้มเธอเดินด
“ไม่ๆ....งั้นพาฉันไปบ้านคุณเดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มเดินอุ้มหญิงสาวกลับมาที่เรือนไม้ที่อยู่ห่างจากน้ำตกไม่มากนักแต่ก็เป็นบ้านที่อยู่บนเนินสูงเป็นที่ที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติเพราะก่อนที่จะสร้างเรือนหลังนี้เขาศึกษามาอย่างดีแล้วเมื่อมาถึงบ้านชายหนุ่มก็รีบอุ้มเธอเดินเข้าไปที่ห้องน้ำในห้องของเขาเพราะเรือนไม้ที่เขาสร้างมีแค่ห้องเดียวเอาไว้ใช้เวลาที่อยากจะมานอนพักผ่อน“นี่บ้านคุณหรอน่ารักดีนะ...ฉันชอบ”พาฝันเห็นบ้านหลังนี้ก็รู้สึกตกหลุมรักมันในทันทีเพราะที่นี่ถึงจะเป็นเรือนไม้เล็กๆแต่จากที่เธอมองผ่านๆมันน่าจะสามรถมองเหนวิวได้ทุกด้านอีกทั้งยังดูเล็กๆดูอบอุ่นมากๆอีกด้วย“อืมมม...เดี๋ยวคุณนั่งอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวผมไปหาผ้าขนหนูกับเสื้อมาให้คุณเปลี่ยน”หญิงสาวพยักหน้ารับเมื่อคนตัวโตอุ้มเธอมาวางนั่งอยู่ที่เก้าอีในห้องน้ำและเดินออกไปแล้วเธอจึงยื่นมือไปหยิบฝักบัวแล้วเปิดราดตัวเองทันทีเพราะเธอตอนนี้ทั้งตัวที่ยังเลอะโคลนที่ล้างยังไม่หมดแถมเปียกฝนอีกเธอจึงต้องรีบล้างตัวในทันที“อะนี่คุณผมแขวนไว้ตรงนี้นะเสร็จแล้วก็เรียกผมนะเดี๋ยวมาอุ้มออกไป”“โอเค”อัคคีรีบไปหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในตู้ละเสื้อเชิ้ตของเขาที่ผ
“นี่ผมถามจริงคุณไม่กลัวผมเลยหรือไงทั้งๆที่เราพึ่งเจอกัน”ชายหนุ่มถึงกับหันควับคราแรกเขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมอยู่กับคนที่พึ่งเจออย่างเขาเสียอีกเขายังนึกแปลกใจว่าเธอทำไมไว้ใจที่จะอยู่ที่นี่กับเขาง่ายจัง“ไม่กลัวววเพราะถ้าพี่เพลิงจะทำอะไรฝันคงทำไปนานแล้ว....อืมมแล้วท่าทางจะพี่เพลิงยังจะรำคาญฝันด้วยน้า..”หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มหวานส่งไปให้ชายหนุ่มเธอไม่แคร์ว่าชายหนุ่มจะยิ้มตอบหรือไม่แต่เธอแค่อยากจะยิ้มให้เขาดูจากอาการเขาตอนนี้แล้วก็คงจะรำคาญเธออยู่ไม่น้อย“รู้ตัวก็ดีแล้วคุณ...รีบๆโทรบอกเพื่อนคุณได้แล้วเดี๋ยวเขาจะเป็นห่วง”“โอเค”หญิงสาวพยักหน้ารับพร้อมกดมือถือโทรหาเพลงพิณทันทีเมื่อคุยกันได้สักแปปเธอก็ยื่นมือถือคืนชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“เรียบร้อยแล้วหรอคุณ”“ใช่ค่ะ...อ้อแล้วก็ฝันเมมเบอพร้อมถ่ายรูปหน้าฝันลงในเครื่องพี่เพลิงแล้วนะคะเวลาฝันโทรหาพี่เพลิงพี่เพลิงจะได้เห็นหน้าฝันชัดๆไงคะ”ชายหนุ่มถึงกับหนาเหวอคนแบบนี้ก็มีด้วยแฮะเขาเองไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอพร้อมหมุนตัวจะออกไปนอกห้องทันที“เดี๋ยวพี่เพลิงจะไปไหนคะ”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จาเธอจึงต้องรีบตะ
“เมื่อกลางวันผมแนะนำเพื่อนคุณให้ไปเที่ยวที่ไร่เธอคงจะเดินลัดไปทางหลังบ้านแล้วไปที่ไร่แหละคุณ...อืมมเอางี้ผมพอรู้จักอยู่กับลุงสมหมายที่ทำงานที่ไร่นั้นอยู่บ้านแกอยู่ใกล้ๆเรานี่เองเดี๋ยวผมไปถามลุงแกให้ว่าเห็นเพื่อนคุณหรือป่าว”ชายหนุ่มจำได้ว่าลุงสมหมายที่ปลูกบ้านอยู่ระแวกที่ใกล้สุดแถวนี้แกทำงานอยู่ที่ไร่มีรักถ้าพาฝันไปที่นั่นจริงแกก็คงจะต้องเห็นบ้างเพราะเธอแต่งตัวต่างจากคนที่นี่คนงานในไร่เห็นก็ต้องพูดกันอยู่บ้างแหละตอนนี้เขาเองร้อนใจไม่แพ้หญิงสาวเหมือนกันแต่ก็ต้องคุมสติไว้ก่อนเพราะเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่มีสติแล้วที่เขากังวลคือตอนนี้ฝนตกหนักเกิดพาฝันอยู่ในป่าที่ใกล้กับไร่คงไม่ดีแน่เพราะมันอันตรายมาก“ไปกันเลยคุณ”“หืออ..โอ้ยยยยยยคุณ”“ว้ายยยยยย”เพลงพิณคว้ามือชายหนุ่มเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้ทันตั้งตัวล้มลงกลิ้งลงไปกองอยู่ที่พื้นทำเอาหญิงสาวส่งเสียงกรี้ดดดลั่นบ้านเพราะเธอเกือบจะฆ่าชายหนุ่มแล้วมั้ยล่ะ“คุณเป็นยังไงบ้าง...ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ”หญิงสาวรีบวิ่งลงมาดูอาการของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขายังนอนร้องโอดโอยอยู่เธอจึงโล่งใจที่เขาไม่ได้ตายเพราะฝีมือเธอพ
“นี่คุณลืมตาได้แล้ว”หญิงสาวเดินไปหยิบไฟฉายในมือของชายหนุ่มพร้อมบอกให้เขาลืมตาได้เพราะตอนนี้เธอพันผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้ว“อะ..เอ่อ..ผมเอาไฟฉายมาให้แล้วเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดังโครมครามคุณเป็นอะไรหรือป่าว”ชายหนุ่มรีบหาเรื่องคุยเปลี่ยนเรื่องทันทีหวังว่าหญิงสาวคงไม่ถือสาเขาเรื่องเมื่อครู่นี้นะ“ไม่อะฉันแค่เดินชนโต้ะที่หัวเตียงแล้วคมไฟมันตกลงมา..”หญิงสาวพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มเพราะเธอรู้สึกเขินที่เมื่อครู่เขาจะเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอบ้างหรือป่าวก็ไม่รู้“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว....งั้นผมไปล่ะ”ชายหนุ่มดูก็รู้ว่าที่หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ยอมสบตาเขาเธอคงจะอายเรื่องเมื่อครู่เขาจึงคิดว่าขอปลีกตัวออกไปโดยเร็วจะดีกว่า“เดี๋ยวคุณ....เอ่อ..เมื่อกี้..ค..คุณไม่ได้เห็นอะไรใช่มั้ย”เมื่อเห็นชายหนุ่มหันหลังจะเดินออกไปเธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่มันยังคาใจของเธออยู่ว่าเมื่อครู่นี้เขาได้เห็นอะไรของเธอใช่มั้ย“อ๋อ..อะ..อืมมมม”ชายหนุ่มที่เดินหันหลังจะออกไปจากห้องเมื่อได้ยินที่หญิงสาวถามเลยตอบอึกๆอักๆจำใจโกหกว่าไม่เห็นอะไรทั้งที่เมื่อกี้อะไรๆของเธอมันปรากฎต่อสายตาของเขาหมดแล้วดีที่มันยังเห็นไม่ชัดเท่านันเอง
“ไม่ต้องผมว่าผมนอนในห้องนี้กับคุณเลยดีกว่า..ผมว่าเดี๋ยวคุณก็ต้องส่งเสียงรบกวนการนนของผมอีก”ชายหนุ่มเดินดุ่มๆมานอนที่ข้างๆหญิงสาวพร้อมหันหลังให้เธอกอดหมอนข้างนอนอย่างสบายใจเขาคิดว่าถ้าเขายังนอนอยู่ข้างนอกเขาได้วิ่งเข้าวิ่งออกห้องนี้เป็นแน่“อะ..เอ่อ..จะนอนที่นี่หรอคะพี่เพลิงออกไปนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ..ฝ..ฝันไม่กวนแล้วก็ได้”หญิงสาวตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็มานอนอยู่ข้างๆเธอหญิงสาวพอจะรู้อยู่ว่าชายหนุ่มรำคาญเธอจึงบอกเขาไปว่าจะไม่รบกวนอีกเพราะไม่ได้อยากให้ชายหนุ่มนอนอยู่ที่นี่เธอเองถึงจะดูเหมือนผู้หญิงใจกล้าพูดมากแต่เธอเองก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองเลยสักครั้งขนาดเพื่อนที่เป็นเกย์สมัยเรียนจะมาขอนอนด้วยเธอยังปฏิเสธหัวชนฝาเลย“ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดผมจะหาอะไรมาอุดปากคุณเดี๋ยวนี้แหละ”“หือ..อุ้ปป”เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ดูจะเอาจริงแล้วเธอจึงรีบหยุดพูดทันทีพร้อมนอนลงหันหลังให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่อย่างสบายใจหญิงสาวพยายามข่มตาให้มันหลับแล้วแต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้เธอได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่แบบนั้นก็จะให้เธอหลับลงได้ยังไงเล่ามีผู้ชายมานอนข้างๆเธออยู่แบบนี้ถึงเธอจะไว้ใจเขาก็ไม่ได้แปลว่าจะ
“ไปคุณ”“หืมมมมมม”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงม้าออกมาจากหลังบ้านของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่าเขาจูงม้าออกมาทำไมไหนบอกว่าจะไปส่งเธอไงอย่าบอกนะว่าจะขี่ม้าไป“ไปยังไงคะ”“ก็ขี่เจ้าอาชานี่ไปไง...ยืนขึ้นไหวมั้ยคุณ”“หา....วะ...ไหวค่ะ”ชายหนุ่มขึ้นขี่เจ้าอาชาม้าเพศผู้ของเขาที่เลี้ยงไว้ใช้งานเวลาที่เดินตรวจในไร่พร้อมอุ้มหญิงสาวที่ยืนอยู่บนแคร่ไม้มานั่งไพล่บนหลังม้าหน้าตัวเขา“พี่เพลิงขี่ม้ามาในไร่เป็นประจำหรอคะ..”“อืมมมม”“แล้วพี่เพลิงตื่นเช้าทำงานเป็นประจำทุกวันเลยใช่มั้ยคะ”“ใช่”หญิงสาวที่นั่งเกาะเอวเอาหัวซบอกของชายหนุ่มอยู่เธอเห็นว่าเขาเงียบไปเลยชวนคุยเธอสรรหาเรื่องคุยสารพัดจะเรื่องแต่ก็ได้รับคำตอบมาแค่เพียงว่าอืมมมม/ใช่/ไม่ใช่/ไม่รู้แค่นั้นเองและก็ไม่มีทีว่าว่าเขาอยากจะสนธนากับเธอเลยสักนิด“หยุดก่อนค่ะพี่เพลิง...”หญิงสาวเหลือบมองไปเห็นพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าออกมาเธอถึงกับตาลุกวาวเพราะเมื่อชายหนุ่มพาเธอนั่งบนหลังม้ามาจนเกือบถึงท้ายไร่ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์สวยและชัดที่สุดแล้ว“มีอะไรอีก...”ชายหนุ่มใช้มือกระตุกที่เชือกของเจ้าอาชาเพื่อให้มันหยุดเดิน