“ไปคุณ”
“หืมมมมมม”
จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงม้าออกมาจากหลังบ้านของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่าเขาจูงม้าออกมาทำไมไหนบอกว่าจะไปส่งเธอไงอย่าบอกนะว่าจะขี่ม้าไป
“ไปยังไงคะ”
“ก็ขี่เจ้าอาชานี่ไปไง...ยืนขึ้นไหวมั้ยคุณ”
“หา....วะ...ไหวค่ะ”
ชายหนุ่มขึ้นขี่เจ้าอาชาม้าเพศผู้ของเขาที่เลี้ยงไว้ใช้งานเวลาที่เดินตรวจในไร่พร้อมอุ้มหญิงสาวที่ยืนอยู่บนแคร่ไม้มานั่งไพล่บนหลังม้าหน้าตัวเขา
“พี่เพลิงขี่ม้ามาในไร่เป็นประจำหรอคะ..”
“อืมมมม”
“แล้วพี่เพลิงตื่นเช้าทำงานเป็นประจำทุกวันเลยใช่มั้ยคะ”
“ใช่”
หญิงสาวที่นั่งเกาะเอวเอาหัวซบอกของชายหนุ่มอยู่เธอเห็นว่าเขาเงียบไปเลยชวนคุยเธอสรรหาเรื่องคุยสารพัดจะเรื่องแต่ก็ได้รับคำตอบมาแค่เพียงว่าอืมมมม/ใช่/ไม่ใช่/ไม่รู้แค่นั้นเองและก็ไม่มีทีว่าว่าเขาอยากจะสนธนากับเธอเลยสักนิด
“หยุดก่อนค่ะพี่เพลิง...”
หญิงสาวเหลือบมองไปเห็นพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าออกมาเธอถึงกับตาลุกวาวเพราะเมื่อชายหนุ่มพาเธอนั่งบนหลังม้ามาจนเกือบถึงท้ายไร่ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์สวยและชัดที่สุดแล้ว
“มีอะไรอีก...”
ชายหนุ่มใช้มือกระตุกที่เชือกของเจ้าอาชาเพื่อให้มันหยุดเดินเมื่อหญิงสาวส่งเสียงบอกเขาให้หยุดด้วยที่ทีที่ตื่นเต้น
“ฝันขอดูพระอาทิตย์ขึ้นแปปนึงได้มั้ยคะ”
“ไม่เคยเห็นหรือไง”
ชายหนุ่มก็นึกว่าอะไรเรียกหญิงสาวเขาซะจนตกอกตกใจหมดเขาต้องส่ายหัวให้กับอาการที่ตื่นเต้นในการเห็นพระอาทิตย์ขึ้นของเธอ
“เคยเห็นแต่ในรูปกับในทีวีค่ะไม่คิดว่าของจริงจะสวยขนาดนี้”
หญิงสาวตอบไปตามความจริงก็เธอเองไม่เคยเห็นจริงๆนี่นาแถมคุณพ่อของเธอก็ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างพามาเที่ยวที่แบบนี้บ่อยสักเท่าไรนักเท่าที่จำได้เธอก็ได้แต่เรียนๆๆแม้แต่ปิดเทอมก็ยังต้องมีครูมาสอนพิเศษเพราะพ่อไม่ค่อยมีเวลาให้
“พี่เพลิงขอมือถือหน่อยค่ะ”
“จะเอาไปทำไมอีก”
ชายหนุ่มทำหน้างงที่จู่ๆหญิงสาวก็แบมือขอมือถือเขาหน้าตาเฉยคงจะไม่ได้โทรหาใครตอนนี้หรอกนะเธอทำอย่างกะมือถือของเขาเป็นของสาธารณะจริงๆนึกจะขอเมื่อไรก็ขอแต่ตัวเขาเองก็ต้องหยิบมือถือแล้วยื่นให้เธออยู่ดีไม่อย่างนั้นเธอก็ต้องอ้อนเขาอยู่แบบนี้เป็นแน่
“อื้อออ”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวหยิบมือถือมาได้ก็กดถ่ายรูปเธอกับพระอาทิตย์ดวงโตทันทีโดยไม่ได้เกรงใจเจ้าของเครื่องที่นั่งดูเธออยู่เลย
“ถ่ายพอใจหรือยังคุณ..จะได้รีบกลับ”
“อีกนิดนึงค่ะ...พี่เพลิงยิ้มหน่อยสิคะ..”
“อะไรของคุณเนี่ยยย”
อยู่ดีๆหญิงสาวก็หันกล้องมาทางชายหนุ่มพร้อมถ่ายรูปเซลฟี่ที่มีเธอกับเขาพร้อมพระอาทิตย์ดวงโตโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“555555...หน้าพี่เพลิงตลกจังเลยนะคะ...ไปกันเถอะค่ะ”
หญิงสาวขำออกมาทันทีเมื่อเลื่อนดูรูปที่เธอถ่ายเมื่อครู่ก็หน้าของชายหนุ่มที่โดนแอบถ่ายโดยไม่ทันตั้งตัวมันตลกชะมัดยิ่งคิ้วที่ขมวดชนกันเธอเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
“หลังนั้นแหละค่ะพี่เพลิง”
“อ๋อ..อืมมม”
“ไม่มีคนอยู่แล้วจะเข้าบ้านยังไงคุณ”
“อ๋อ...ยัยเพลงบอกไว้ว่าทิ้งกุญแจไว้ที่กระถางต้นไม้น่าบ้านค่ะ”
“อ๋อ...งั้นผมไปล่ะ”
เมื่อทั้งสองอยู่ที่หน้าบ้านชายหนุ่มจึงอุ้มเธอลงจากหลังม้าทันทีเมื่อเห็นประตูบ้านปิดอยู่จึงนึกสงสัยว่าเธอจะเข้าบ้านอย่างไรเมื่อหญิงสาวบอกว่ามีกุญแจเขาก็โล่งอก
“กลับดีๆนะคะพี่เพลิง....เดี๋ยวฝันชาร์จแบตเต็มแล้วจะโทรหานะค้า”
ชายหน่มหันหลังควบม้ากลับก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวตะโกนเสียงแหลมๆของเธอมาทางเขาแต่เขาเองก็ไม่ได้ตอบกลับเธอแต่อย่างใดเขาคิดว่าในเมื่อเธออยากจะโทรเขาก็ห้ามเธอไม่ได้อยู่แล้ว
โรงพยาบาลในตัวอำเภอ
เพลงพิณขับรถของชายหน่มพาเขามาตรวจที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเมื่อผลออกมาปรากฎว่าชายหนุ่มกระดูกแขนแตกอย่างที่เธอคิดจริงๆด้วยหญิงสาวจึงหน้าเสียเล็กน้อยที่เป็นสาเหตุทำให้เขาต้องเป็นถึงขนาดนี้เมื่อชายหนุ่มเข้าเฝือกเสร็จเธอจึงรีบขับรถพาเขากลับบ้านทันทีในระหว่างทางเธอสังเกตุเห็นสีหน้าชายหนุ่มดูเครียดๆแปลกๆคงไม่ได้โกรธเธอที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้หรอกนะ
“นี่คุณเป็นอะไรหรือป่าวเห็นทำหน้าเครียดๆ..มีอะไรบอกฉันได้น้า”
หญิงสาวขับรถไปพลางเหลือบมองชายหนุ่มเพื่อดูสีหน้าของเขาไปว่าสีหน้าเขากลับมาเป็นปกติหรือยังแต่เมื่อนานแล้วเขาก็ยังคิ้วขมวดไม่เลิกเธอจึงถามเขาขึ้นว่ามีเรื่องอะไรกังวลใจหรือป่าวหวังว่าคงไม่ใช่เรื่องที่เธอทำไว้กับเขาหรอกนะ
“คือ...วันพร่งนี้ผมต้องไปสอนหนังสือเด็กๆที่บนดอยน่ะสิคุณแต่ถ้าแขนผมเป็นอยู่แบบนี้คงจะสอนลำบากแน่ๆ”
ชายหนุ่มพูดเรื่องที่คาใจของเขาออกมาเขากังวลในเรื่องนี้จริงๆเพราะเขาเองจะต้องขึ้นไปสอนหนังสือเด็กๆเป็นประจำอีกทั้งยังสอนศิลปะการป้องกันตัวอีกด้วยเพราะเขารู้ว่าพวกเด็กๆพวกนั้นที่อยู่ที่นั่นไม่ค่อยได้รับการศึกษาที่ดีกันสักเท่าไรเพราะการศึกษาที่ดียังเข้าไม่ถึงและพ่อแม่ของเด็กๆก็ยังห่วงแต่งานกันซะส่วนใหญ่
และยิ่งไปกว่านั้นเด็กบางคนยังน่าสงสารเพราะบางทีต้องกำพร้าเพราะคนในครอบครัวโดนบังคับให้ไปทำงานกับแกงค์ค้ายาบ้าและค้ามนุษย์ของพวกที่มีอิทธิพลเถื่อนที่ตำรวจท้องถิ่นยังทำอะไรพวกมันไม่ได้เมื่อพวกมันไม่พอใจมันก็ยิงทิ้งเป็นผักเป็นปลา
ชาวบ้านที่นั่นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดเรื่องนี้ออกมาสักคนเพราะกลัวพวกที่มีอิทธิพลเถื่อนกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้วภัยจะมาถึงตัวเขาเองที่ขึ้นไปบนดอยบ่อยๆเพราะต้องการหาหลักฐานเอาผิดคนที่ค้ายาค้ามนุษย์แล้วยังได้ให้ความรู้แก่เด็กๆและชาวบ้านไปด้วย“อืมมมม...เอางี้ยังไงช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่ดีเอาเป็นว่าฉันจะขึ้นดอยไปช่วยคุณก็แล้วกันเป็นการไถ่โทษที่ฉันทำคุณเจ็บ”หญิงสาวไตร่ตรองอยู่ครู่หนึงจึงเอ่ยปากว่าจะไปช่วยชายหนุ่มเพราะเธอเองก็เห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอีกอย่างถ้าเธอได้ทำประโยชน์ให้กับเด็กๆที่อยู่บนดอยบ้างก็คงจะดีต่อจิตใจเธอไม่น้อย“แน่ใจหรอคุณ...บนดอยมันไม่ได้สะดวกสบายแบบที่คุณเคยอยู่หรอกนะ”ชายหนุ่มถึงกับจ้องหน้าเธออย่างจริงจังเขาถามย้ำเธออีกรบเพราะที่ที่เขาจะไปมันไม่ได้สะดวกสบายเลยแม้แต่น้อยเขากลัวว่าลูกคุณหนูอย่างเธอจะอยู่ไม่ได้แล้วร้องกลับเสียเปล่าๆ“แน่ใจสิคุณ...ฉันขอขับรถก่อนเรื่องนี้ค่อยคุยกันที่บ้านอีกทีก็แล้วกัน”“โอเค...”ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับคำว่าแน่ใจของหญิงสาวเขาเองยังนึกสภาพขงหญิงสาวว่าตอนที่เธออยู่ที่นั่นจะเป็นยังไงไม่ออกเพราะที่นั่นมันทั้งกันดารทั้งลำบากกว่าบ้านที่
“ไหนบอกจะโทรมาไงยัยบ๊องเอ๊ยยย”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าไม่มีใครโทรเข้ามาเขาเลยวางโยนมือถือลงข้างๆตัวด้วยความหงุดหงิดเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหงุดหงิดเพื่ออะไรRrrrrเมื่อชายหนุ่มเริ่มหลับตาได้ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเบอที่โชว์อยู่หน้าจอเขาไม่คุ้นสักเท่าไรแต่เขาคิดว่าอาจจะเป็นหญิงสาวที่โทรหาเขาก็ได้เลยกดรับอย่างรวดเร็ว“พี่เพลิงฝันเองค่า”เมื่อชายหนุ่มกดรับสายยังไม่ทันได้พูดอะไรหญิงสาวก็ส่งเสียงแหลมๆมาทักทายเขาก่อนจนเขาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูตัวเองเพราะรู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกิน“โอ้ยย...พูดเบาๆก็ได้คุณ...ทำไมโทรมาเอาป่านนี้”ชายหนุ่มต้องปรามหญิงสาวที่ส่งเสียงแหลมมาใส่เขาให้เบาลงกว่านี้หน่อย“ก็ฝันคิดว่าตอนกลางวันพี่เพลิงน่าจะทำงานอยู่นี่คะฝันก็เลยไม่โทรไปกวนเดี๋ยวพี่เพลิงโดนเจ้าของไล่หักเงินเดือนก็เป็นความผิดฝันสิคะ”หญิงสาวตอบตามความจริงเธอพูดไปยิ้มไปดีใจที่ชายหนุ่มกดรับสายของเธอตั้งแต่โทรครั้งแรก“หืมมม....หักเงินหรอ555”ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำไม่อยู่กับคำพูดของหญิงสาวเขาเป็นคนบอกเธอเองนี่นาว่าเป็นคนงานในไร่“พี่เพลิงขำอะไรหรอคะ”“ป่าว...นี่คุณยังไม่นอนอีกหร
“คุณครูมาแล้ววว”เด็กๆที่เล่นกันอยู่ตรงลานที่หมู่บ้านเมื่อเห็นชายหนุ่มซึ่งเป็นครูของพวกเขาก็รีบวิ่งมาหาทันทีเด็กๆต่างวิ่งมาล้อมรอบตัวชายหนุ่มพร้อมทักทายกันอย่างดีใจเพราะเด็กๆที่นี่ชอบในความใจดีของชายหนุ่มและชายหนุ่มก็ยังเป็นที่รักของคนที่นี่มากๆด้วยเพราะเขาทั้งช่วยสอนหนังสือลูกหลานของคนที่นี่แถมยังสอนการทำการเกษตรพอเพียงและไร้สารเคมีแถมยังหาตลาดส่งออกผลผลิตให้กับคนที่นี่ด้วยจะมีแค่บางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่ค่อยจะพอใจในการกระทำที่เป็นการช่วยพัฒนาชาวบ้านที่นี่ของชายหนุ่มเท่าไรที่ดูว่าว่าชายหนุ่มจะไปขัดผลประโยชน์ของคนพวกนั้นอยู่ไม่น้อย“ว่าไงเด็กๆ...ได้อ่านหนังสือตามที่ครูให้ไปอ่านกันหรือป่าวครับ”“อ่านค่า/อ่านครับ”เพลงพิณมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กับเด็กๆโดยมีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายล้อมรอบภาพตรงหน้ามันช่างดูเป็นภาพที่ดูอบอุ่นสำหรับเธอเหลือเกินจึงเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว“เดี๋ยวครูขอไปพักก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนตอนเช้านะครับ”“ค่ะคุณครู/ครับคุณครู”ชายหนุ่มมองเด็กๆที่วิ่งกลับไปเล่นกันได้สักพักแล้วจึงเดินกลับมาที่รถพลางบอกหญิงสาวให้ขับรถไปที่ท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านพักของเขา
“ข้าต้องขอโทษครูกับเมียครูด้วยนะที่เจ้าสองคนนี้มันทำกิริยาไม่ดีด้วย”ปู่อินทร์แปงต้องเอ่ยขอโทษแทนลูกบ้านเก่าที่ทำกิริยาไม่ดีต่อทั้งคู่เมื่อครู่ชายแก่เองก็นึกตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะพึ่งจะรู้ว่าชายหนุ่มมีภรรยาแล้วจากปากของเขาเมื่อครู่ไม่ยักรู้ว่าไปมีตั้งแต่เมื่อไรเพราะตอนที่มาสอนที่นี่ทีแรกก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาเหมือนกัน“อะ..เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ”ชายหนุ่มเอ่ยรับคำขอโทษแบบแบ่งรับแบ่งสู้เขาไม่คิดว่าปู่อินทร์แปงจะมาได้ยินที่เขาพูดเมื่อครู่ด้วยทีนี้เขาก็คงจะต้องโกหกเรื่องนี้ต่อไปซะแล้วสิหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มตอนนี้ก็ทำหน้านอยไม่แพ้กันเธอพอจะดูออกแล้วว่าระหว่างที่เธออยู่ที่นี่เธอจะต้องถูกคนที่นี่คิดว่าเธอและชายหนุ่มเป็นผัวเมียกันจริงๆแน่ๆ“ข้าขอฝากลูกจันทร์ไว้กับครูด้วยนะแล้วพวกเอ็งตามข้ามานี่”เมื่อชายแก่เดินไปแล้วชายทั้งสองจึงเดินตามไปทันทีเพราะต้องการที่จะคุยธุระที่มาวันนี้ให้เสร็จสิ้นโดนเร็วเช่นกัน“พ่อขาลูกจันทร์คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ”ลูกจันทร์เด็กหญิงอายุเพียงหกขวบที่น่าตาจิ้มลิ้มผิวขาวเมื่อปล่อยมือจากคนเป็นตาได้ก็โผเข้ามากอดชายหนุ่มทันทีทำเอาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขาตกใจอยู่ไ
“ผมไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นคนใจดีกับเค้าก็เป็นด้วยนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปในบ้านเพราะเขารู้ว่าเขาได้ปากหมาใส่หญิงสาวอีกแล้วและเพื่อไม่ให้หญิงสาวลงไม้ลงมือกับตัวเขาเองจึงรีบเดินหลบเข้าไปในบ้านโดยด่วน“หือออ….นี่คุณหลอกด่าฉันหรอห๊าาาาา”เมื่อหญิงสาวไล่ความโมโหออกได้และหันมาสนใจกับที่พักอาศัยของเธอต่อเธอเดินสำรวจรอบๆบ้านก็พบว่าหลังบ้านมีธารน้ำตกไหลผ่านเธอคิดว่าอย่างน้อยถึงที่นี่จะดูลำบากไปนิดแต่ก็มีธรรมชาติสวยๆอยู่ใกล้ๆเธอมันก็ดีไปอีกแบบหญิงสาวเดินเล่นสำรวจพื้นที่ได้สักพักจึงกลับเข้ามาในบ้าน“คุณที่นี่มีแค่ห้องเดียวหรอ”“ใช่”หญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นชายหนุ่มกำลังจัดแจงเตรียมเก็บของและเตรียมปูฟูกนอนอยู่เธอเดินเข้ามาในบ้านเห็นอยู่แล้วว่ามีก็ห้องนอนอยู่ห้องเดียวแต่ด้วยความที่สงสัยว่าถ้ามีห้องเดียวแล้วเธอจะนอนที่ไหนคงจะไม่ใช่นอนห้องเดียวกันหรอกนะจึงแกล้งเอ่ยถามชายหนุ่มออกไป “คุณไม่ต้องห่วงหรอกผมเตรียมที่นอนมาด้วยเดี๋ยวผมออกมานอนหน้าห้องเอง”สีหน้าหญิงสาวมันบ่งบอกได้ชัดว่าตกใจคงคิดว่าเขาจะนอนห้องเดียวกับเธอล่ะสิเขาเองรู้ตั้งแต่ก่อนมาว่าจะเจออะไรจึงเตรียมฟูกนอนของเขามาด้วย“อื้มมมก็ดี…ง
“เมื่อกี้ครูได้ออกไปไหนมารึป่าว”"จะออกไปไนทำไมเล่า….บรรยากาศดีแบบนี้ขอนอนกกเมียอยู่ที่นี่ดีกว่าพวกนายมีอะไรหรือป่าวมากันเยอะแยะหรือในหมู่บ้านจัดงานอะไรกันหรอ”ชายหนุ่มแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ยืนยันว่าเขาและหญิงสาวอยู่ในบ้านกันอย่างเดียวไม่ได้ออกไปไหนวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้คนพวกนี้ไม่สงสัย“งั้นพวกเราไม่กวนครูแล้ว…ไปโว้ยพวกเอ็งกลับ”อินคิดว่าในเมื่อทั้งสองออกมากันสภาพนี้ก็คงจะไม่ได้ไปไหนกันจริงๆชายหนุ่มคิดว่าเขาคงจะระแวงไปเองเลยชวนลูกน้องกลับแต่เขาจำได้ว่ารอยเท้ามันมาแถวนี้หรืออาจจะเป็นเพราะมันมืดบวกกับสุราที่พวกเขากินไปด้วยเลยทำให้คิดไปเองเขาคิดในใจ“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะคุณไม่รู้ว่าจะซนตามผมไปทำไม”เมื่อทั้งสองแต่งตัวเสร็จก็มานั่งคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ด้วยความที่วันนี้ชายหนุ่มเตรียมแผนที่จะนำพวกกล้องไปบันทึกภาพกลับมีหญิงสาวตามเขาไปจนทำให้เสียแผนจนได้เขาจึงนึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่เข้าไปใกล้พวกมันได้ถึงขนาดนั้นและเกือบจะเก็บหลักฐานชิ้นเด็ดได้แล้วแท้ๆ“ก็คุณอยู่ดีๆก็ออกไปทำลับๆล่อๆฉันก็อยากรู้นี่ว่าคุณไปทำอะไร”หญิงสาวยังไม่สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปจนเกือบจะทำให้ทั้งเขาและตัวเธ
“ค่ะ..ป้าสายกลับดีๆนะคะ”เมื่อหญิงชรากลับไปแล้วหญิงสาวจึงเดินขึ้นมานอนเล่นที่ห้องพร้อมหยิบมือถือโทรหาชายหนุ่มเธอไม่สนว่าตอนนี้เขาจะทำงานอยู่หรือป่าวแต่ยังไงเธอก็จะโทรเพราะที่ผ่านมาหลังจากคืนนั้นที่คุยกับเขาเธอเองก็ติดต่อเขาอีกไม่ได้เลย“โทรไม่ติดใช่มั้ย...ไปหาเองก็ได้”หญิงสาวนอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนเกือบจะเย็นเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงติดต่อชายหนุ่มไม่ได้อีกอย่างเขาคงจะไม่บล็อกเบอเพราะรำคาญเธอหรอกนะเมื่อหลายคำถามคาใจเธอเลยตัดสินใจที่จะไปหาเขาเองเลยแล้วกันเพราะว่าเธอก็พอที่จะจำทางอยู่ได้ว่าบ้านเรือนไม้ของชายหนุ่มอยู่ที่ไหนพาฝันเดินมาได้สักพักก็มาถึงที่บ้านของชายหนุ่มแต่เมื่อเข้าไปสำรวจดูก็ยังไม่เห็นมีใครอยู่แถมบ้านยังล็อคเอาไว้อีกด้วยเธอจึงคิดว่าชายหนุ่มอาจจะยังไม่เลิกงานคราแรกหญิงสาวกะว่าจะรอเขาอยู่ที่บ้านแต่เมื่อรู้สึกเบื่อๆเลยเดินย้อนกลับไปที่ธารน้ำตกที่เธอเคยล้างตัววันนั้นคิดว่าจะไปเดินเล่นสักพักแล้วจึงกลับมาที่เรือนไม้ของชายหนุ่ม“ว้าว..สวยจังเลย”หญิงสาวเดินชมธรรมชาติความสวยงามของน้ำตกได้สักพักก็เห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมาอยู่ตรงที่น่าจะป็นแอ่งน้ำลึกวันนั้นที่ชายหนุ่มดำผุดดำว่ายหญิงสาวจึง
“มีสักอย่างมั้ยที่จะบอกว่าไม่น่ากินเนี่ยยยย”ชายหนุ่มเห็นอาการของหญิงสาวก็อดแซวไม่ได้เขาสังเกตุเธอแล้วว่าเมื่อหญิงสาวเห็นอาหารทไรจะต้องตาลุกวาวทันทีเห็นตัวเล็กๆแค่นี้กินโคตรเก่ง“ถ้าเป็นฝีมือของพี่เพลิงก็น่ากินทุกอย่างแหละค่ะ...ฝันไม่เกรงใจละน้า”ชายหนุ่มถึงกับต้องยิ้มแล้วส่ายหัวให้กับหญิงสาวเขาไม่รู้ว่าเธอพูดจริงหรือป่าวว่าอาหารฝีมือของเขามันอร่อยสำหรับเธอทุกอย่างแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีกับคำพูดของเธออยู่ไม่น้อย“นี่เริ่มมืดแล้ว....เดี๋ยวฝันขอตัวกลับก่อนนะคะพี่เพลิง”หลังจากที่หญิงสาวกินอาหารเสร็จก็เห็นว่ามันเริ่มที่จะไม่เหลือแสงของพระอาทิตย์แล้วเธอจึงขอตัวกลับก่อน“เอ่อ...จะกลับแล้วหรอ..น...นอนที่นี่ก็ได้นะฝันเกิดฝันเป็นอะไรขึ้นมาแล้วอยู่คนเดียวใครจะช่วย”ชายหนุ่มรู้สึกใจแป้วแปลกๆเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวเตรียมตัวจะกลับแล้วเขาจึงขอให้เธออยู่ที่นี่เพราะเขายังเห็นอาการเธอไม่ดียู่เลยแถมเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวอีกต่างหากเขารู้สึกเป็นห่วงเธอและอีกใจนึงมันก็บอกว่าอยากให้เธออยู่ที่นี่ต่อ“เอ๋!!!.....เอ่อ...แล้วพี่เพลิงรู้ได้ไงคะว่าฝันอยู่คนเดียว”หญิงสาวแปลกใจอยู่ไม่น้อยเธอเองยังไม่ได้บอกเขาด้วย