“ไหนบอกจะโทรมาไงยัยบ๊องเอ๊ยยย”
เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าไม่มีใครโทรเข้ามาเขาเลยวางโยนมือถือลงข้างๆตัวด้วยความหงุดหงิดเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหงุดหงิดเพื่ออะไร
Rrrrr
เมื่อชายหนุ่มเริ่มหลับตาได้ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเบอที่โชว์อยู่หน้าจอเขาไม่คุ้นสักเท่าไรแต่เขาคิดว่าอาจจะเป็นหญิงสาวที่โทรหาเขาก็ได้เลยกดรับอย่างรวดเร็ว
“พี่เพลิงฝันเองค่า”
เมื่อชายหนุ่มกดรับสายยังไม่ทันได้พูดอะไรหญิงสาวก็ส่งเสียงแหลมๆมาทักทายเขาก่อนจนเขาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูตัวเองเพราะรู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกิน
“โอ้ยย...พูดเบาๆก็ได้คุณ...ทำไมโทรมาเอาป่านนี้”
ชายหนุ่มต้องปรามหญิงสาวที่ส่งเสียงแหลมมาใส่เขาให้เบาลงกว่านี้หน่อย
“ก็ฝันคิดว่าตอนกลางวันพี่เพลิงน่าจะทำงานอยู่นี่คะฝันก็เลยไม่โทรไปกวนเดี๋ยวพี่เพลิงโดนเจ้าของไล่หักเงินเดือนก็เป็นความผิดฝันสิคะ”
หญิงสาวตอบตามความจริงเธอพูดไปยิ้มไปดีใจที่ชายหนุ่มกดรับสายของเธอตั้งแต่โทรครั้งแรก
“หืมมม....หักเงินหรอ555”
ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำไม่อยู่กับคำพูดของหญิงสาวเขาเป็นคนบอกเธอเองนี่นาว่าเป็นคนงานในไร่
“พี่เพลิงขำอะไรหรอคะ”
“ป่าว...นี่คุณยังไม่นอนอีกหรอ”
เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวถามด้วยความแปลกใจด้วยความที่ขี้เกียจอธิบายเขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุยกับเธอทันที
“ก็เดี๋ยวคุยกับพี่เพลิงเสร็จเดี๋ยวขวัญก็นอนแล้วค่ะ”
“งั้นก็นอนเลยเดี๋ยวผมก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”
“อ้าววคุยกันแค่แปปเดียวเองง”
หญิงสาวรู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่พึ่งจะคุยกับเขาได้แค่แปปเดียวเองทั้งที่ตั้งหน้าตั้งตารอโทรคุยกับเขาตั้งนาน
“ก็คุณอยากโทรมาตอนผมจะนอนแล้วทำไมนะ...แค่นี้นะยัยเด็กบ๊องไปนอนได้แล้ว”
ชายหหนุ่มไม่รอให้หญิงสาวได้ค้านอะไรพอเขาพูดเสร็จเขาจึงกดตัดสายทันทีชายหนุ่มยังไม่รู้ตัวเองเลยว่ตอนนี้เขายิ้มให้กับมือถือจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นยิ้มให้กับมือถืออยู่เขาจึงรีบหุบยิ้มวางมือถือพยายามสลัดเสียงของหญิงสาวที่อยู่ในหัวออกให้หมดแล้วหลับตาลงทันที
ทางด้านเพลงพิณ
หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงชายหนุ่มอยู่ไม่น้อยว่าเขาจะช่วยเหลือตัวเองได้มั้ยในเมื่อแขนยังใส่เฝือกอยู่จึงเดินออกไปนอกห้องเพื่อที่จะไปดูชายหนุ่มว่ามีอะไรให้เธอช่วยมั้ยเมื่อเห็นประตูห้องของเขาแง้มอยู่เธอจึงเดินพรวดพราดเข้าไปโดยที่ลืมเคาะประตู
“แขนเป็นยังไงบ......ว้ายยยยย”
“เฮ้ยย..คุณ”
หญิงสาวที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาในห้องเธอเคาะประตูไปเสียสนิทเลยเมื่อเข้ามภาพตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มถอดเสื้อออกจนหมดและเขากำลังพยายามใช้มืออีกข้างนึงดึงกางเกงออกอยู่เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปเขาจึงตกใจรีบดึงกางเกงขึ้นทันที
“นี่คุณจะเอาคืนผมหรอ....หืมมมมม”
ชายหนุ่มแกล้งแซวหญิงสาวที่เดินเข้ามาในห้องของเขาโดยที่ไม่เคาะประตูก่อนเขาเองก็ไม่ทันได้ปิดประตูด้วยและก็ไม่คิดว่าหญิงสาวจู่ๆจะเดินเข้ามาที่ห้องของเขาดีนะที่เขายังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกหมดไม่อย่างนั้นเธอคงได้ช็อคกว่านี้แน่
“เอาคืนอะไรเล่าคุณ...ฉันแค่มาดูคุณต่างหากว่าให้ฉันช่วยอะไรมั้ย”
เมื่อเหลือบมองแล้วเห็นว่าชายหนุ่มดึงกางเกงขึ้นแล้วเธอจึงกลาที่จะหันไปคุยกับเขาตามปกติ
“อืมมมช่วยหรอ..ก็ดีนะคุณงั้นคุณไปหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ผมหน่อยสิ”
ชายหนุ่มกำลังจะเข้าไปเช็ดตัวในห้องน้ำอยู่พอดีเมื่อคิดไปคิดมามือของเขาใช้การได้อยู่ข้างเดียวคงทำอะไรไม่สะดวกแน่เขาจำได้ว่าเธอเป็นหมอเรื่องเช็ดตัวคนไข้คงไม่ลำบากเท่าไรสำหรับเธอหรอกมั้ง
“หืมมม...เช็ดตัว”
“ก็ใช่น่ะสิตอนนี้ผมเหลือมือเดียวจะบิดผ้ายังไงล่ะคุณ”
“อะ..โอเคก็ได้ๆ”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มคงจะทำอะไรไม่ถนัดจริงๆไหนๆเธอก็จะเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเขาอยู่แล้วเธอจึงไปหยิบกะละมังกับผ้าขนหนูเข้าไปในห้งน้ำเพื่อจะเอาน้ำมาเช็ดตัวให้เขา
“ฉันเช็ดให้แค่ท่อนบนเท่านั้นนะคุณส่วนอื่นคุณก็จัดการเองละกัน”
“อืมมงั้นก็ได้....ผมคิดว่าคุณจะจัดการเช็ดตัวให้ผมหมดทุกซอกทุกมุมซะอีก”
ปึกก
“นี่แน่ะ...ไอ้ลามกฉันไม่น่าเข้ามาช่วยคุณเลย”
หญิงสาวใช้ผ้าฟาดไปที่บนหลังของชายหนุ่มเพราะหมั่นใส้กับความชอบกวนประสาทของเขาหญิงสาวจึงรับเช็ดตัวให้เขาให้เสร็จโดยเร็วแล้วจึงเดินออกจากห้องไปทำเอาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ถึงกับงงกับอาการของเธอที่นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไปแล้วเขาจึงไปจัดการทำความสะอาดร่างกายของเขาต่อ
เช้าวันต่อมา
“แกดูแลตัวเองดีๆนะคุณดินฝากดูเพื่อนฝันด้วยนะคะ”
พาฝันมายืนรอส่งทั้งเพื่อนสาวและดินแดนที่หน้าบ้านพร้อมฝากฝังดินแดนให้ดูแลเพื่อนสาวของเธอด้วยเพราะเธอรู้ดีว่าที่ที่ทั้งสองจะไปมันคงจะลำบากสำหรับเพื่อนเธอน่าดู
“ครับ..”
ดินแดนอมยิ้มเล็กๆพร้อมตอบรับหญิงสาวทันทีเพราะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเมื่อมีเพลงพิณไปด้วยเท่ากับเพิ่มภาระให้เขาขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่องแต่เมื่อหญิงสาวอยากจะไปเขาก็เหนื่อยที่จะห้ามให้เธอไปเรียนรู้ด้วยตัวเองเลยแล้วกัน
“ฉันดูแลตัวเองได้ย่ะ...แกนั่นแหละอยู่ได้แน่นะ”
“ได้อยู่แล้วจร้า”
เพลงพิณมองค้อนให้เพื่อนสาวนึกหมั่นใส้ที่คิดว่าเธอจะดูแลตัวเองที่นั่นไม่ได้พร้อมหันหลังยกกระเป๋าสัมภาระของเธอขึ้นบนรถกะบะของชายหนุ่ม
ดินแดนกับเพลงพิณใช้เวลาขับรถขึ้นดอยมาประมาณสองชั่วโมงกว่าๆโดยมีหญิงสาวเป็นคนขับเพราะหยิงสาวอาสามาขับรถให้เพราะคิดว่าชายหนุ่มคงใช้มือเดียวขับไม่ได้ถนัดแน่ๆไหนจะต้องเปลี่ยนเกียร์อีกดีนะที่เธอขับรถเกียร์กระปุกเป็นเพราะพี่ชายเธอเคยสอน(เพลงพิณคือผู้หญิงสตรอง)เพราะหนทางที่ยากลำบากและแถมยังมีหลุมมีบ่อและเส้นทางที่รถผ่านไปยากอีกกว่าทั้งสองจะมาถึงก็ทุลักทุเลกันพอสมควร
“นี่คุณใส้ฉันกองรวมกันหมดแล้วนะ...นี่ขนาดใช้รถเรายังมาถึงกันป่านนี้.....เฮ้ออ.”
เมื่อหญิงสาวขับรถมาจอดที่หน้าหมู่บ้านได้ก็ถึงกับมองบนและถอนหายใจอย่างแรงๆหนึ่งทีคิดว่าเธอจะตายก่อนที่จะมาถึงเสียแล้ว
“ไงคุณ...ยังไหวอยู่หรือป่าว”
ดินแดนเห็นอาการของหญิงสาวก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจแล้วไอ้ที่เธอบ่นออกมาเมื่อครู่เขาเองก็คิดเหมือนกับเธอว่ากว่าจะมาถึงที่นี่แต่ละทีเล่นเอาร่างกายของเขาแทบพังเหมือนกันยิ่งครั้งนี้ฝนพึ่งตกไปหมาดๆอีกด้วยทำให้หนทางที่มาวันนี้ยากลำบากไปอีกเท่าตัว
“คุณครูมาแล้ววว”เด็กๆที่เล่นกันอยู่ตรงลานที่หมู่บ้านเมื่อเห็นชายหนุ่มซึ่งเป็นครูของพวกเขาก็รีบวิ่งมาหาทันทีเด็กๆต่างวิ่งมาล้อมรอบตัวชายหนุ่มพร้อมทักทายกันอย่างดีใจเพราะเด็กๆที่นี่ชอบในความใจดีของชายหนุ่มและชายหนุ่มก็ยังเป็นที่รักของคนที่นี่มากๆด้วยเพราะเขาทั้งช่วยสอนหนังสือลูกหลานของคนที่นี่แถมยังสอนการทำการเกษตรพอเพียงและไร้สารเคมีแถมยังหาตลาดส่งออกผลผลิตให้กับคนที่นี่ด้วยจะมีแค่บางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่ค่อยจะพอใจในการกระทำที่เป็นการช่วยพัฒนาชาวบ้านที่นี่ของชายหนุ่มเท่าไรที่ดูว่าว่าชายหนุ่มจะไปขัดผลประโยชน์ของคนพวกนั้นอยู่ไม่น้อย“ว่าไงเด็กๆ...ได้อ่านหนังสือตามที่ครูให้ไปอ่านกันหรือป่าวครับ”“อ่านค่า/อ่านครับ”เพลงพิณมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กับเด็กๆโดยมีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายล้อมรอบภาพตรงหน้ามันช่างดูเป็นภาพที่ดูอบอุ่นสำหรับเธอเหลือเกินจึงเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว“เดี๋ยวครูขอไปพักก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนตอนเช้านะครับ”“ค่ะคุณครู/ครับคุณครู”ชายหนุ่มมองเด็กๆที่วิ่งกลับไปเล่นกันได้สักพักแล้วจึงเดินกลับมาที่รถพลางบอกหญิงสาวให้ขับรถไปที่ท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านพักของเขา
“ข้าต้องขอโทษครูกับเมียครูด้วยนะที่เจ้าสองคนนี้มันทำกิริยาไม่ดีด้วย”ปู่อินทร์แปงต้องเอ่ยขอโทษแทนลูกบ้านเก่าที่ทำกิริยาไม่ดีต่อทั้งคู่เมื่อครู่ชายแก่เองก็นึกตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะพึ่งจะรู้ว่าชายหนุ่มมีภรรยาแล้วจากปากของเขาเมื่อครู่ไม่ยักรู้ว่าไปมีตั้งแต่เมื่อไรเพราะตอนที่มาสอนที่นี่ทีแรกก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาเหมือนกัน“อะ..เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ”ชายหนุ่มเอ่ยรับคำขอโทษแบบแบ่งรับแบ่งสู้เขาไม่คิดว่าปู่อินทร์แปงจะมาได้ยินที่เขาพูดเมื่อครู่ด้วยทีนี้เขาก็คงจะต้องโกหกเรื่องนี้ต่อไปซะแล้วสิหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มตอนนี้ก็ทำหน้านอยไม่แพ้กันเธอพอจะดูออกแล้วว่าระหว่างที่เธออยู่ที่นี่เธอจะต้องถูกคนที่นี่คิดว่าเธอและชายหนุ่มเป็นผัวเมียกันจริงๆแน่ๆ“ข้าขอฝากลูกจันทร์ไว้กับครูด้วยนะแล้วพวกเอ็งตามข้ามานี่”เมื่อชายแก่เดินไปแล้วชายทั้งสองจึงเดินตามไปทันทีเพราะต้องการที่จะคุยธุระที่มาวันนี้ให้เสร็จสิ้นโดนเร็วเช่นกัน“พ่อขาลูกจันทร์คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ”ลูกจันทร์เด็กหญิงอายุเพียงหกขวบที่น่าตาจิ้มลิ้มผิวขาวเมื่อปล่อยมือจากคนเป็นตาได้ก็โผเข้ามากอดชายหนุ่มทันทีทำเอาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขาตกใจอยู่ไ
“ผมไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นคนใจดีกับเค้าก็เป็นด้วยนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปในบ้านเพราะเขารู้ว่าเขาได้ปากหมาใส่หญิงสาวอีกแล้วและเพื่อไม่ให้หญิงสาวลงไม้ลงมือกับตัวเขาเองจึงรีบเดินหลบเข้าไปในบ้านโดยด่วน“หือออ….นี่คุณหลอกด่าฉันหรอห๊าาาาา”เมื่อหญิงสาวไล่ความโมโหออกได้และหันมาสนใจกับที่พักอาศัยของเธอต่อเธอเดินสำรวจรอบๆบ้านก็พบว่าหลังบ้านมีธารน้ำตกไหลผ่านเธอคิดว่าอย่างน้อยถึงที่นี่จะดูลำบากไปนิดแต่ก็มีธรรมชาติสวยๆอยู่ใกล้ๆเธอมันก็ดีไปอีกแบบหญิงสาวเดินเล่นสำรวจพื้นที่ได้สักพักจึงกลับเข้ามาในบ้าน“คุณที่นี่มีแค่ห้องเดียวหรอ”“ใช่”หญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นชายหนุ่มกำลังจัดแจงเตรียมเก็บของและเตรียมปูฟูกนอนอยู่เธอเดินเข้ามาในบ้านเห็นอยู่แล้วว่ามีก็ห้องนอนอยู่ห้องเดียวแต่ด้วยความที่สงสัยว่าถ้ามีห้องเดียวแล้วเธอจะนอนที่ไหนคงจะไม่ใช่นอนห้องเดียวกันหรอกนะจึงแกล้งเอ่ยถามชายหนุ่มออกไป “คุณไม่ต้องห่วงหรอกผมเตรียมที่นอนมาด้วยเดี๋ยวผมออกมานอนหน้าห้องเอง”สีหน้าหญิงสาวมันบ่งบอกได้ชัดว่าตกใจคงคิดว่าเขาจะนอนห้องเดียวกับเธอล่ะสิเขาเองรู้ตั้งแต่ก่อนมาว่าจะเจออะไรจึงเตรียมฟูกนอนของเขามาด้วย“อื้มมมก็ดี…ง
“เมื่อกี้ครูได้ออกไปไหนมารึป่าว”"จะออกไปไนทำไมเล่า….บรรยากาศดีแบบนี้ขอนอนกกเมียอยู่ที่นี่ดีกว่าพวกนายมีอะไรหรือป่าวมากันเยอะแยะหรือในหมู่บ้านจัดงานอะไรกันหรอ”ชายหนุ่มแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ยืนยันว่าเขาและหญิงสาวอยู่ในบ้านกันอย่างเดียวไม่ได้ออกไปไหนวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้คนพวกนี้ไม่สงสัย“งั้นพวกเราไม่กวนครูแล้ว…ไปโว้ยพวกเอ็งกลับ”อินคิดว่าในเมื่อทั้งสองออกมากันสภาพนี้ก็คงจะไม่ได้ไปไหนกันจริงๆชายหนุ่มคิดว่าเขาคงจะระแวงไปเองเลยชวนลูกน้องกลับแต่เขาจำได้ว่ารอยเท้ามันมาแถวนี้หรืออาจจะเป็นเพราะมันมืดบวกกับสุราที่พวกเขากินไปด้วยเลยทำให้คิดไปเองเขาคิดในใจ“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะคุณไม่รู้ว่าจะซนตามผมไปทำไม”เมื่อทั้งสองแต่งตัวเสร็จก็มานั่งคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ด้วยความที่วันนี้ชายหนุ่มเตรียมแผนที่จะนำพวกกล้องไปบันทึกภาพกลับมีหญิงสาวตามเขาไปจนทำให้เสียแผนจนได้เขาจึงนึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่เข้าไปใกล้พวกมันได้ถึงขนาดนั้นและเกือบจะเก็บหลักฐานชิ้นเด็ดได้แล้วแท้ๆ“ก็คุณอยู่ดีๆก็ออกไปทำลับๆล่อๆฉันก็อยากรู้นี่ว่าคุณไปทำอะไร”หญิงสาวยังไม่สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปจนเกือบจะทำให้ทั้งเขาและตัวเธ
“ค่ะ..ป้าสายกลับดีๆนะคะ”เมื่อหญิงชรากลับไปแล้วหญิงสาวจึงเดินขึ้นมานอนเล่นที่ห้องพร้อมหยิบมือถือโทรหาชายหนุ่มเธอไม่สนว่าตอนนี้เขาจะทำงานอยู่หรือป่าวแต่ยังไงเธอก็จะโทรเพราะที่ผ่านมาหลังจากคืนนั้นที่คุยกับเขาเธอเองก็ติดต่อเขาอีกไม่ได้เลย“โทรไม่ติดใช่มั้ย...ไปหาเองก็ได้”หญิงสาวนอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนเกือบจะเย็นเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงติดต่อชายหนุ่มไม่ได้อีกอย่างเขาคงจะไม่บล็อกเบอเพราะรำคาญเธอหรอกนะเมื่อหลายคำถามคาใจเธอเลยตัดสินใจที่จะไปหาเขาเองเลยแล้วกันเพราะว่าเธอก็พอที่จะจำทางอยู่ได้ว่าบ้านเรือนไม้ของชายหนุ่มอยู่ที่ไหนพาฝันเดินมาได้สักพักก็มาถึงที่บ้านของชายหนุ่มแต่เมื่อเข้าไปสำรวจดูก็ยังไม่เห็นมีใครอยู่แถมบ้านยังล็อคเอาไว้อีกด้วยเธอจึงคิดว่าชายหนุ่มอาจจะยังไม่เลิกงานคราแรกหญิงสาวกะว่าจะรอเขาอยู่ที่บ้านแต่เมื่อรู้สึกเบื่อๆเลยเดินย้อนกลับไปที่ธารน้ำตกที่เธอเคยล้างตัววันนั้นคิดว่าจะไปเดินเล่นสักพักแล้วจึงกลับมาที่เรือนไม้ของชายหนุ่ม“ว้าว..สวยจังเลย”หญิงสาวเดินชมธรรมชาติความสวยงามของน้ำตกได้สักพักก็เห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมาอยู่ตรงที่น่าจะป็นแอ่งน้ำลึกวันนั้นที่ชายหนุ่มดำผุดดำว่ายหญิงสาวจึง
“มีสักอย่างมั้ยที่จะบอกว่าไม่น่ากินเนี่ยยยย”ชายหนุ่มเห็นอาการของหญิงสาวก็อดแซวไม่ได้เขาสังเกตุเธอแล้วว่าเมื่อหญิงสาวเห็นอาหารทไรจะต้องตาลุกวาวทันทีเห็นตัวเล็กๆแค่นี้กินโคตรเก่ง“ถ้าเป็นฝีมือของพี่เพลิงก็น่ากินทุกอย่างแหละค่ะ...ฝันไม่เกรงใจละน้า”ชายหนุ่มถึงกับต้องยิ้มแล้วส่ายหัวให้กับหญิงสาวเขาไม่รู้ว่าเธอพูดจริงหรือป่าวว่าอาหารฝีมือของเขามันอร่อยสำหรับเธอทุกอย่างแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีกับคำพูดของเธออยู่ไม่น้อย“นี่เริ่มมืดแล้ว....เดี๋ยวฝันขอตัวกลับก่อนนะคะพี่เพลิง”หลังจากที่หญิงสาวกินอาหารเสร็จก็เห็นว่ามันเริ่มที่จะไม่เหลือแสงของพระอาทิตย์แล้วเธอจึงขอตัวกลับก่อน“เอ่อ...จะกลับแล้วหรอ..น...นอนที่นี่ก็ได้นะฝันเกิดฝันเป็นอะไรขึ้นมาแล้วอยู่คนเดียวใครจะช่วย”ชายหนุ่มรู้สึกใจแป้วแปลกๆเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวเตรียมตัวจะกลับแล้วเขาจึงขอให้เธออยู่ที่นี่เพราะเขายังเห็นอาการเธอไม่ดียู่เลยแถมเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวอีกต่างหากเขารู้สึกเป็นห่วงเธอและอีกใจนึงมันก็บอกว่าอยากให้เธออยู่ที่นี่ต่อ“เอ๋!!!.....เอ่อ...แล้วพี่เพลิงรู้ได้ไงคะว่าฝันอยู่คนเดียว”หญิงสาวแปลกใจอยู่ไม่น้อยเธอเองยังไม่ได้บอกเขาด้วย
“พี่เพลิงรู้มั้ยคะว่าฝันอยากนอนดูดาวแบบนี้มาตั้งนานแล้วแต่ฝันก็ไม่ค่อยจะได้มีโอกาสมาที่แบบนี้บ่อยนักหรอกค่ะ”“ทำไมหรอ”ชายหนุ่มนึกแปลกใจหญิงสาวที่ดูออกจะเป็นคุณหนูไม่ใช่ว่าอยากไปไหนก็จะได้ไปไม่ใช่หรอ“ก็ตั้งแต่จำความได้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็ว่างไม่ค่อยจะตรงกันเวลาที่ออกมาเที่ยวกันก็จะน้อยและต้องรีบไปรีบกลับอีกด้วยค่ะส่วนมากที่ได้เที่ยวก็จะเป็นคุณพ่อพาไปครั้งคุณแม่พาไปครั้งมากกว่าจนกระทั่ง....แม่ฝันเสียขวัญก็ไม่ค่อยได้ไปไหนอีกเลยเพราะคุณพ่อเองก็ไม่ค่อยอนุญาติให้ฝันไปไหนตามลำพังถ้าไม่มีคุณพ่อไปด้วยแถมคุณพ่อก็ไม่ค่อยว่างพาฝันไปเที่ยวสักเท่าไรค่ะมีครั้งนี้ที่ฝันออกมาอยู่ข้างนอกได้นานก็เพราะว่าฝันมากับยัยเพลงไม่งั้นคุณพ่อไม่ปล่อยให้มาแน่ๆค่ะ”“อืมมมงั้นหรอเอาแบบนี้มั้ยถ้าฝันไม่ค่อยได้เจอบรรยากาศแบบนี้เท่าไรงั้นเดี๋ยวตั้งแต่พรุ่งนี้พี่พาเที่ยวสักสามวันเลยดีมั้ย”“จริงหรอคะ...อ้าวแล้วพี่เพลิงไม่ทำงานหรอคะ”หญิงสาวถึงกับดีใจจนบอกไม่ถูกไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะอยากพาเธอเที่ยวตามที่เธอเคยขอไว้ซะอีกต่อีกใจก็คิดว่ามันจะรบกวนเวลางานของเขาหรือป่าวถ้าเป็นแบบนั้นเธอไม่ขอรบกวนเขาดีกว่าจึงถามชายหนุ่มออกไป“
“ออกมายืนตากหมอกตากน้ำค้างทำไมฝันเดี๋ยวก็ไข้ขึ้นอีกหรอก”ชายหนุ่มรีบเดินมาจูงมือเธอเข้าไปในบ้านเพราะกลัวว่าเธอยืนตากน้ำค้างนานๆจะไข้ขึ้นมาอีก“เดี๋ยวๆพี่เพลิงฝันดีขึ้นมากแล้วค่ะขอบคุณนะคะที่ดูแลฝันทั้งคืนเลย”“อืมมมม…ก็มีคนป่วยอยู่ในบ้านทั้งคนจะให้ใจจืดใจดำไม่ดูแลคงจะไม่ได้”ชายหนุ่มตอบหญิงสาวออกไปอย่างรักษาฟอร์มตัวเองอีกเช่นเคย“ไหนๆพี่เพลิงก็ตื่นแล้ว...คือตอนนี้ฝันเริ่มหิวแล้วพี่เพลิงทำกับข้าวให้ฝันกินหน่อยสิคะ”“ห่วงเรื่องกินอีกตามเคยสินะ”ชายหนุ่มไม่รู้ว่าตัวเองต้องผันตัวมาเป็นพ่อครัวให้เธอตั้งแต่เมื่อไรแต่พอรู้ว่าหญิงสาวหิวเขาจำต้องรีบเข้าครัวทำอาหารให้เธอทันที2 เดือนต่อมาตั้งแต่วันนั้นก็เกือบสองเดือนแล้วที่ทั้งพาฝันและอัคคีก็ไปมาหาสู่กันตลอดจนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆตัวติดกันเป็นแตงเมดูท่าจะเป็นชายหนุ่มเองเสียมากกว่าที่ชอบทำตัวติดอยู่กับหญิงสาวพอมีเวลาว่างเมื่อไรก็จะพาเธอไปโน่นไปนี่ตลอดแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่มีโอกาสที่จะบอกเธอเรื่องสถานะที่แท้จริงของเขาเสียทีเพราะตอนนี้เขากลัวว่าถ้าบอกกับเธอไปความสัมพันธ์ของเขาและเธอมันจะไม่เหมือนเดิมทางด้านเพลงพิณและดินแดนก็ขึ้นลงดอ