1
การเดินทาง
“คุณพ่อจะให้ลิดาไปเรียนต่อที่อเมริกาจริงๆเหรอคะ”
ปาลิดาเด็กสาววัยเพียงสิบเจ็ดปี เธอเพิ่งสูญเสียมารดา จากโรคเส้นเลือดในสมองแตกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่องานศพเสร็จสิ้น น้ำตายังไม่ทันแห้งไปจากหัวใจ พ่อของเธอก็เตรียมส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศทันที
“ลิดาลูกเห็นที่เราต้องสูญเสียแม่ไปไหม ทุกอย่างมันไม่ได้มีอะไรมาบอกล่วงหน้า ถ้าวันหนึ่ง พ่อต้องจากลูกไป มีแต่การศึกษาเท่านั้น ที่พ่อจะให้ลูกได้ นอกจากทรัพย์สมบัติ”
นิรัชให้เหตุผลกับลูกสาว เขาอ้างความสูญเสียในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่า ลูกสาวของเขาจะต้องยอมรับ และทำตามที่เขาต้องการ
“แล้วคุณพ่อจะอยู่กับใครคะ ลิดาเป็นห่วงพ่อ”
เด็กสาวเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ เพราะเธอไม่เหลือใครแล้ว แล้วการไปครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงไปเรียนต่างจังหวัด แต่มันคือต่างประเทศ
“พ่อดูแลตัวเองได้ ถ้าลูกรักพ่อ ตั้งใจเรียนให้จบ กลับมาช่วยงานที่บริษัทของเรา พ่อจะได้นอนตายตาหลับเสียที”
นิรัชเองมีบริษัท ที่กิจการยังเพิ่งเริ่มต้นได้กำไร เขาอยากใช้โอกาสนี้ ส่งลูกสาวไปเรียนในที่ดีๆ เพราะขึ้นชื่อว่าธุรกิจ ย่อมมีขึ้นมีลง ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยลูกสาวคนเดียวของเขา ก็จะได้มีความรู้ติดตัว
“ลิดาจะไปเพื่อคุณพ่อนะคะ”
น้ำตาอาบสองแก้มขาว เพราะตั้งแต่เกิดมา ปาลิดายังไม่เคยห่างอกพ่อกับแม่ไปไหนไกล
หลังจากงานศพเสร็จสิ้น เพียงเจ็ดวันปาลิดาก็ถูกส่งตัวไปอเมริกาทันที
โชคดี ที่ที่นั่นมีญาติของมารดาอาศัยอยู่ เธอจึงไม่ได้ไปอยู่คนเดียวเพียงลำพัง
“มาอยู่ด้วยกันที่นี่นะหลานสาว” กานดาน้าสาวคนเดียวของเธอยินดีต้อนรับหลานสาว
“ขอบคุณ คุณน้ามากๆ นะคะ ที่ให้ลิดาได้มาอยู่ด้วย”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกจะ ดีเสียอีก ตัวน้าเองแทบไม่ได้กลับเมืองไทย มีหลานมาอยู่ด้วย น้าก็จะได้มีเพื่อนคุย ให้หายคิดถึงบ้าน”
กานดามาอยู่อเมริกานานถึงสิบปี เธอมีโอกาสได้กลับเมืองไทยแค่ปีละครั้ง มีบางปีที่แม่ของปาลิดาบินมาหาน้องสาวที่นี่
“ตากับยายก็ไม่อยู่แล้ว พี่สาวคนเดียวก็มาจากไป น้าเองคงไม่ค่อยได้กลับเมื่องไทยแล้วล่ะ กลับไปก็ไม่รู้จะไปหาใคร”
ครอบครัวของฝั่งทางแม่ปาลิดามีเพียงแค่น้าและแม่ของเธอ ซึ่งน้าของเธอแต่งงานกับชาวต่างชาติแต่ไม่มีลูกด้วยกัน
น้าเขยของเธอนานๆถึงจะมาที่นี่ เพราะเขาทำงานอยู่อีกรัฐซึ่งไกลจากที่นี่พอสมควร
วันเวลาผ่านไปช้ามาก ปาลิดามาอยู่ที่อเมริกาได้เพียงแค่สองเดือน เธอก็ได้ข่าวจากบิดา ว่าเขากำลังจะมีแม่เลี้ยงให้เธอใหม่
“คุณพ่อจะเอาผู้หญิงคนนั้นมาแทนที่แม่หรือคะ” เป็นคำถามที่เหมือนเธอยังไม่พร้อมจะฟังคำตอบ
“ไม่มีใครแทนที่แม่ของลูกได้ พ่อไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเขา และไม่ได้มีงานแต่งงานใดๆ น้าอัสมาเขาเข้ามาเพื่อดูแลพ่อ ลูกเข้าใจใช่ไหม”
นิรัสพยายามอธิบายให้ลูกสาวคนเดียวเข้าใจ ว่าอัสมาจะเข้ามาอยู่ในฐานะภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
“ลิดาเข้าใจค่ะ พ่อคงเหงา ขอให้คุณน้าเขาเป็นคนดี รักพ่อเหมือนที่ลิดากับคุณแม่รักคุณพ่อนะคะ”
ถึงแม้หัวใจจะบอบช้ำแค่ไหน แต่ปาลิดาก็เลือกที่จะยอมทำใจเพื่อมให้บิดาของเธอมีความสุข
เวลาเดินทางผ่านมาถึงสองปี ครึ่งทางของการอยู่อเมริกาแล้ว ปาลิดาไม่ได้กลับเมืองไทยเลย มีแต่บิดาที่เดินทางมหาเธอที่นี่ แต่ก็มาเพียงคนเดียว
จากเด็กสาวตอนนี้เธอก็กลายเป็นสาวน้อยเต็มตัว แถมยังหน้าตาสวยเหมือนแม่ของเธอ ยิ่งอยู่เมืองนอกผิวขาวของเธอดูจะยิ่งขาวไปตามคนที่นี่
“เป็นไงบ้างหลานสาว พ่อเพิ่งกลับไป คิดถึงล่ะสิ” กานดาน้าสาวเห็นหลานทำหน้าเศร้าๆ เลยพอเดาความรู้สึกออก
“คิดถึงค่ะ เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยเวลาคุณพ่อมาหาแล้วกลับไป”
“เพราะแบบนี้ไง น้าถึงไม่ค่อยกลับเมืองไทย เพราะเวลาที่กลับมาที่นี่จะทรมานมาก อดทนอีกหน่อยนะหลานรัก”
“ลิดาจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังค่ะ” หญิงสาวเริ่มยิ้มได้
“แม่เลี้ยงคนใหม่ของหนูเป็นอย่างไรบ้าง พ่อเล่าให้ฟังบ้างไหม”
“ลิดาจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังค่ะ” หญิงสาวเริ่มยิ้มได้ “แม่เลี้ยงคนใหม่ของหนูเป็นอย่างไรบ้าง พ่อเล่าให้ฟังบ้างไหม” กานดาแอบเป็นกังวลว่าเมื่อหลานสาวเธอกลับไปเมืองไทย จะมีปัญหากับแม่เลี้ยงเหมือนในหนังไทยหรือเปล่า เพราะตั้งแต่นิรัชมีภรรยาใหม่ ปาลิดายังไม่มีโอกาสได้เจอกับอัสมาเลย “คุณน้าอัสมาเขาดูเป็นคนดีนะคะ คุณพ่อเล่าให้ฟัง ว่าเขาดูแลทุกอย่าง เรื่องเงินก็ไม่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แถมยังช่วยงานบริษัทของพ่อได้ด้วย” ปาลิดารู้จักอัสมา จากคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อ และมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เธอมีโอกาสได้วิดีโอคลอกับผู้เป็นแม่เลี้ยง แต่หญิงสาวก็เชื่อและรู้สึกตามที่พ่อบอกเล่าให้ฟัง “ดีแล้ว แบบนี้น้าก็เบาใจ ถ้าเขารักคุณพ่อของหนู หนูก็ต้องรักเขานะลิดา อย่าให้ต้องเป็นปัญหาลูกเลี้ยงแม่เลี้ยง คุณพ่อของหนูจะหนักใจเปล่าๆ” กานดาสอนหลานสาว ก่อนที่อีกสองปี ปาลิดาจะได้กลับไปอยู่เมืองไทย เพราะเธอคิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ปาลิดาก็อดทนจนเธอสำเร็จการศึกษา และอีกไม่กี่วันเธอจะได้รับปริญญา “คุณพ่อของหนูจะเดินทางมาวันไหน”
อัสมาเธอเป็นคนปากหวาน พูดเป็น มาแต่ไหนแต่ไร ด้วยอาชีพนักร้องที่เธอเคยทำ สร้างความสามารพิเศษของเธอในเรื่องการเอาใจคนให้เก่งเป็นพิเศษอยู่แล้วกานดาพาแขกผู้มาใหม่เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางเธอแอบมองอัสมาอยู่หลายครั้งไม่รู้ทำไมเหมือนกัน กานดาถึงได้รู้สึกไม่ไว้วางใจ ในตัวแม่เลี้ยงของหลานสาว ทั้งที่อัสมาก็ดูไม่มีอะไรคืนนี้สามคนพ่อ ลูกและอัสมา นั่งพูดคุยกันเกือบทั้งคืน โดยมีกานดา คอยมองอยู่ห่าง เพื่อสังเกตแม่เลี้ยงคนใหม่ของหลานสาวหลายปีที่ปาลิดามาอยู่กับเธอที่นี่ เมื่อหลานจะกลับไป เธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กานดาจึงอยากแน่ใจ ว่าอัสมาเป็นคนดี ไม่ใช่แค่เพียงเสแสร้งแสดงออกมางานรับปริญญาผ่านไปอย่างมีความสุข ทุกคนต่างยินดีกับความสำเร็จของปาลิดา โดยเฉพาะนิรัส เขาดีใจ ที่ลูกสาวโตขึ้นและมีความสามารถ มีความรู้ติดตัวการกลับเมืองไทยครั้งนี้ ปาลิดายังไม่ได้กลับพร้อมกับบิดา เพราะติดขัดเรื่องต้องรอเอกสารเรื่องเรียนอีกนิดหน่อย และเธอตั้งใจจะกลับเมืองไทยพร้อมกับกานดาน้าสาว ที่สามารถลาพักร้อนได้ยาวหลายสัปดาห์“แล้วเจอกันที่เมืองไทยนะลูก” นิรัสหอมแก้มลูกสาว“กานดา พี่ฝากลิดาด้วยนะ ยังไงก็อย่าทิ้งหลาน เราก็เหล
3ปมแค้น “เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ คุณน้าบอกลิดามาสิคะ” ปาลิดาโวยวายด้วยคำถามที่เธอต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับบิดาของเธอ “คุณนิรัชประสบอุบัติเหตุรถชนคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ค่ะ” อัสมาทำท่าจะร้องไห้ เมื่อต้องเล่าเรื่องราว ที่เธอสุดจะเสียใจอีกครั้ง “คุณพ่อไม่ใช่คนขับรถประมาท ไม่มีทาง ต้องมีอะไรแน่ๆ ลิดาไม่เชื่อเด็ดขาด” ตั้งแต่เด็กจนโต หญิงสาวรู้ว่าพ่อของเธอ มีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในการขับรถยนต์ ปฏิบัติตากฎอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางที่พ่อจะมาตายแบบไม่มีใครมาชนแบบนี้ เธอส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ “คุณนิรัชดื่มสุราจนเมาค่ะ” อัสมาอธิบายต่อ “ปกติคุณพี่ไม่ดื่มนะคะ” คราวนี้กานดาสงสัยบ้าง “ใช่ค่ะ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นคุณนิรัชดื่ม เวลาไปเที่ยวร้านอาหาร ยังดื่มแค่เพียงน้ำอัดลมเท่านั้น แต่ตำรวจส่งชันสูตรเบื้องต้นแล้ว พบว่ามีการดื่มสุราค่ะ” ผลการสืบสวนของตำรวจ ลงความเห็นว่านิรัชเมาจนขับรถชนกับคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ เพราะคอหัก ซึ่งทั้งหมดมันคือความจริง สิ่งที่ยังค้างคาใ
4ความแค้นที่เริ่มต้น กานดาตัดสินใจ เดินทางไปหาทนายของนิรัช ถึงแม้เขาอาจไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างกับเธอ แต่ก็คงได้รู้อะไรเพิ่มมากขึ้น และข้อมูลก็คงน่าเชื่อถือกว่าการฟังจากอัสมา “คุณทนายคะ เรื่องจดทะเบียนสมรสเรื่องจริงใช่ไหม” กานดาเข้าเรื่องทันที เมื่อนั่งลงบนโซฟาที่ห้องรับแขกของทนายดนัย “ใช่ครับ เพิ่งไม่นานมานี้เอง” ทนายยืนยัน “แล้วแบบนี้ ลิดาจะต้องแบ่งครึ่งทุกอย่างให้เธอใช่ไหม” กานดาหมายถึงอัสมาผู้เป็นแม่เลี้ยง “ใช่ครับ เฉพาะทุกอย่างที่เป็นของคุณนิรัชเท่านั้นนะครับ ส่วนมรดกที่คุณแม่คุณลิดาได้มาจากบิดามารดาของท่านไม่เกี่ยว” ทนายอธิบายเพิ่มเติม “อันนั้นฉันเข้าใจ แต่สมบัติของพี่นิรัชไม่ใช่น้อยๆ” กานดากังวล “แต่ที่เหลือก็ไม่มากนะครับ คุณท่านมีหนี้สินที่ต้องชำระอยู่หลายอย่าง เราต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน ถึงจะแบ่งทรัพย์สินที่เหลือได้” ทนายความแสดงสีหน้าทำท่าไม่สบายใจ ที่จะต้องอธิบายรายละเอียดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดพินัยกรรม “อีกนานไหมคะ กว่าจะถึงวันเปิดพินัยกรรม” กา
5ก้าวแรกในบ้านหลังใหม่ เมื่อตัดสินใจแล้วหญิงสาวก็เก็บข้าวของที่จำเป็น เดินทางมายังบ้านของธรรมสรณ์ โดยที่คืนนี้ เธอยังจะมีกานดาน้าสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอมานอนด้วย ก่อนที่พรุ่งนี้เย็น น้าสาวจะเดินทางกลับอเมริกา “ยินดีต้อนรับนะหลานสาว” ธรรมสรณ์ยืนกอดอกคอยปาลิดาอยู่ที่หน้าประตูบ้าน “และนี่เขมกร ลูกชายคนเดียวของลุง” ปาลิดายกมือไหว้ ชายหนุ่มที่หน้าตาดีกว่าคนเป็นพ่ออยู่มาก “เขมนี่คุณน้ากานดา” ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม แสดงถึงการที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี “มากันแล้วเหรอจ๊ะ” ภาวินีหญิงเดียวของบ้านนี้ ส่งเสียงทักทายมาก่อนตัว เพราะเธอมัวแต่จัดแจงเรื่องห้องพักของปาลิดา “สวัสดีค่ะพี่ภาวินี” กานดาคุ้นเคยกับภาวินีเป็นอย่างดี เพราะเธอคือเพื่อนสนิทของพี่สาวของเธอ และเป็นยังเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พี่สาวของเธอกับนิรัช จนทั้งคู่ได้แต่งงานกัน “เขมพาน้องขึ้นไปที่ห้องหน่อย ช่วยยกกระเป๋าให้น้องกับน้ากานดาด้วย” ธรรมสรณ์หันไปสั่งลูกชาย เพื่อต้องการคุยกันสามคนแบบผู้ใหญ่ ไม่อยากให้เด็กๆอ
6มองหาเป้าหมาย “เดี๋ยวเราแวะกินอาหาร ที่ร้านอาหารใกล้สนามบินกันนะ มีร้านอร่อยๆอยู่” ธรรมสรณ์พยายามจะทำความสนิทสนมให้เกิดขึ้น ระหว่างครอบครัวของเขากับปาลิดา “สวัสดีค่ะเขม ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่ร้านนี้เลย” นางแบบหุ่นสวย ส่งเสียงทักทายมาก่อนที่มือบางจะจับแขนของชายหนุ่มตรงหน้ามากอดอย่างคุ้นเคย “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวละมือจากแขนของเขมกร มายกมือไหว้ผู้ใหญ่สองคน “สวัสดีจ้าหนูรสริน” ภาวินีส่งยิ้มทักทาย “แล้วนี่ใครคะ ไม่เห็นเขมแนะนำให้รินรู้จักเลย เอ่...หรือว่าแม่บ้านคนใหม่” “ถ้าหมายถึงฉัน คงไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ แต่ที่พี่เขมไม่แนะนำ อาจเป็นเพราะคุณไม่จำเป็นต้องรู้จักทุกคนในครอบครัวของพี่เขาก็ได้นะคะ” รู้จักปาลิดาน้อยไปแล้ว ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ดีๆ ก็มาใช้คำพูดที่ดูแคลนกันแบบนี้ มีเหรอนักเรียนนอกอย่างเธอจะยืนนิ่งๆให้ดูถูก เมื่อเจอตอกกลับแบบนี้ รสรินนางแบบสาวที่พยายามทำตัวเป็นผู้ดี ก็แทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ แต่ด้วยตัวเธอยังไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ต่อปากต่อคำกับเธอเป็นใคร เธอจึงเลื
7เริ่มสืบ “ทุกคนครับ ผมขอแนะนำเลขาส่วนตัวของผมคนใหม่ เธอชื่อปาลิดา เป็นลูกสาวของคุณอานิรัช เจ้าของที่นี่ครับ” เขาแนะนำเธอด้วยคำพูดที่ดูยกย่อง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะถือหุ้นแค่ไม่ถึงครึ่ง แต่เขาพูดเสียเหมือนเธอถือหุ้นทั้งบริษัท “เรียกลิดาเฉยๆก็ได้ ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ” หญิงสาวอยากเป็นมิตรและสนิทกับทุกคน เพราะพนักงานที่นี่ ต้องรู้แน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องดื่มเมามาย จนเกิดอุบัติเหตุ “พวกเราสิคะ ต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณลิดา” หนึ่งในพนักงานสาว ส่งเสียงเอาใจดังออกมาจากลุ่มของพนักงานที่ยืนอยู่เกือบยี่สิบคน “แยกย้ายกันทำงานได้แล้วเนาะ ” เขมกรตัดบทเพราะกลัวจะมัวแต่ทักทายกันจนงานไม่เดิน โต๊ะทำงานของปาลิดาอยู่ห่างจากโต๊ะทำงานของเขมกรเกือบห้าเมตร มีฉากกั้นอยู่ตรงโต๊ะ เพื่อความเป็นส่วนตัวในการทำงาน “ให้ลิดานั่งใกล้ประตูเลยเหรอคะ” หญิงสาวรู้สึกว่าเธอ จะต้องเวียนหัวกับการเข้าออกของคนที่มาหาเจ้านายคนใหม่ของเธอแน่ๆ “ปกติโต๊ะที่คุณนั่งคือโต๊ะทำงานของผม แ
8สร้างความไว้วางใจ ร้านอาหารใกล้ตึกของบริษัท เป็นร้านโปรดของ เขมกร เพราะอยู่ใกล้ อาหารรสชาติอร่อย เขาจึงชอบมากินที่นี่ถ้าไม่ได้ออกนอกพื้นที่ไปไหน “ร้านนี้เหรอคะที่พี่เขมชอบ” ปาลิดาแปลกใจ “ใช่ พี่ชอบอะไรที่ดูสบายๆ ง่ายๆ” “รวมถึงผู้หญิงด้วยไหมคะ ที่ว่าชอบง่ายๆ” เขมกรหันมาจ้องตา สาวสวยเลขาส่วนตัวคนใหม่ นอกจากหน้าตาที่ดูจะถูกใจแล้ว คารมที่ดูจะทันเขาแบบนี้ ยิ่งน่าเอาชนะนัก “ถ้าเป็นผู้หญิง พี่ก็ชอบแบบไม่ง่ายและก็ไม่อยากจนเกินไป ถ้ายิ่งหน้าตาดี หุ่นดี ดีกรีนักเรียนนอก แบบนี้ยิ่งถูกใจเลย” สายตาเจ้าชู้จับจ้องมาที่ใบหน้ารูปไข่ของปาลิดา ที่มองสบตาชายหนุ่มอย่างไม่ลดละเหมือนกัน “ถ้าอย่างนั้นลิดาก็ใช่เลย” หญิงสาวเสนอตัว “อย่าพูดเล่นกับพี่นะ เดี๋ยวพี่เดินหน้าจีบจริง แล้วจะมาเล่นตัวทีหลังไม่ได้นะแบบนี้” เขมกรถูกใจปาลิดาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่เขาไม่กล้าเดินหน้าจีบ เพราะกลัวจะโดนผู้เป็นพ่อเล่นงานเอา ถ้าเขาเกิดแค่เล่นๆกับหญิงสาวขึ้นมา ตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนใจ เพราะอีกฝ่ายก็ดูจะทอดสะพานใ