6
มองหาเป้าหมาย
“เดี๋ยวเราแวะกินอาหาร ที่ร้านอาหารใกล้สนามบินกันนะ มีร้านอร่อยๆอยู่”
ธรรมสรณ์พยายามจะทำความสนิทสนมให้เกิดขึ้น ระหว่างครอบครัวของเขากับปาลิดา
“สวัสดีค่ะเขม ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่ร้านนี้เลย”
นางแบบหุ่นสวย ส่งเสียงทักทายมาก่อนที่มือบางจะจับแขนของชายหนุ่มตรงหน้ามากอดอย่างคุ้นเคย
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวละมือจากแขนของเขมกร มายกมือไหว้ผู้ใหญ่สองคน
“สวัสดีจ้าหนูรสริน” ภาวินีส่งยิ้มทักทาย
“แล้วนี่ใครคะ ไม่เห็นเขมแนะนำให้รินรู้จักเลย เอ่...หรือว่าแม่บ้านคนใหม่”
“ถ้าหมายถึงฉัน คงไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ แต่ที่พี่เขมไม่แนะนำ อาจเป็นเพราะคุณไม่จำเป็นต้องรู้จักทุกคนในครอบครัวของพี่เขาก็ได้นะคะ”
รู้จักปาลิดาน้อยไปแล้ว ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ดีๆ ก็มาใช้คำพูดที่ดูแคลนกันแบบนี้ มีเหรอนักเรียนนอกอย่างเธอจะยืนนิ่งๆให้ดูถูก
เมื่อเจอตอกกลับแบบนี้ รสรินนางแบบสาวที่พยายามทำตัวเป็นผู้ดี ก็แทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ แต่ด้วยตัวเธอยังไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ต่อปากต่อคำกับเธอเป็นใคร เธอจึงเลือกที่จะยอมก่อนดีกว่า
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่รินเผลอพูดจาไม่ดีไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ คนเราถูกสอนในเรื่องมารยาทมาต่างกัน”
“หนูรินจ๊ะ นี่หนูปาลิดา เป็นสมาชิกคนใหม่ของครอบครัวเรา ส่วนรายละเอียดแม่ขอเก็บไว้เป็นเรื่องในครอบครัวนะจ๊ะ”
ถึงแม้ภาวินีจะแทนตัวเองว่าแม่ กับรสรินแต่เธอก็หาได้ชอบในตัวหญิงสาวไม่ แต่ในเมื่อรสรินเรียกเธอว่าแม่ เธอก็จำเป็นต้องตามน้ำไป
“ค่ะคุณแม่รินเข้าใจ ถ้าอย่างนั้นรินขอตัวก่อนนะคะ ช่วงเย็นมีคิวเดินแบบ จะได้รีบกลับไปเตรียมตัว”
“ขับรถดีๆนะครับริน” เขมกรส่งยิ้มหวานแบบเจ้าชู้ให้นางแบบสาวที่หันมามองเขาจนลับสายตา
เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ลิดาสังเกตสีหน้าของธรรมสรณ์และภาวินี ที่มองลูกชายแบบไม่ค่อยถูกใจ
“คุณพ่อกับคุณแม่ มองผมเหมือนอยากจะเอาไม้เรียวมาตีผมเลย”
ชายหนุ่มพยายามพูดตลกเพื่อให้สถานการณ์หายตึงเครียด
“นี่เจ้าเขม พ่อไม่ตลกด้วยนะ จะเจ้าชู้ก็ทำให้มันได้จริงๆ ไม่ใช่พลาดท่าไปโดนแม่นางแบบสาว ตัวแม่จับเอาเสียล่ะ”
ธรรมสรณ์พูดด้วยน้ำเสียงดุดัน ท่าทางเอาจริง จนลิดาเองต้องก็มหน้าเพราะรู้สึกกลัว
“โถ่...คุณพ่อ ผมไม่ได้จริงจังอะไรกับรสรินเลย แค่เพื่อนกัน คุณพ่ออย่าคิดมากสิครับ” เขมกรยังตอบด้วยหน้าทะเล้น
“ลูกไม่จริงจัง แต่อีกฝ่ายเขาดูเอาจริง ทำอะไรก็ป้องกัน อย่าให้มันพลาด จนเป็นเชือกมัดตัวลูกเองแล้วกัน”
ภาวินีพูดบ้าง หลังจากต้องเสแสร้งพูดจาดี กับหญิงสาวที่อยากจะมาเป็นลูกสะใภ้เธอจนตัวสั่น
“คุณแม่พูดอะไรนี่ ลิดาเขายังเด็กอยู่แถมเป็นผู้หญิง พูดแบบนี้น้องเขาอายหมด”
เขมกรหันตาเจ้าเล่ห์มาสบตาคู่สวยของหญิงสาวที่นั่งข้างๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สมัยลิดาอยู่อเมริกา เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังค่ะ”
ความเป็นสาวนักเรียนนอก เธอเรียนรู้เรื่องเพศได้อย่างเปิดเผย แต่ปาลิดายังคงรักนวลสงวนตัวตามแบบหญิงไทยเต็มตัว หรืออาจจะเป็นเพราะเธอยังไม่เจอคนที่รักก็เป็นได้
“เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า” ธรรมสรณ์ชวนเปลี่ยนเรื่อง
“หนูลิดาหนูจบเกี่ยวกับงานทางบัญชีมา พรุ่งนี้ลองมาช่วยพี่เขาหน่อยไหม”
งานที่เขมกรทำก็คืองานในบริษัทที่พ่อของเธอเคยเป็นเจ้าของนั่นแหละ
“เกี่ยวกับอะไรคะ”
ปาลิดายังไม่ตบปากรับคำ เพราะต้องการเข้าไปทำในตำแหน่งที่พอจะมีหนทางในการเอาหุ้นของบริษัทคืน
“พี่ทำเกี่ยวกับเรื่องการเงินทั้งหมด ของบริษัท ลิดาก็มาช่วยในเรื่องบัญชี ความจริงแล้ว มีพนักงานทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว แต่ให้ลิดาช่วยตรวจสอบความถูกต้องอีกที”
เขมกรอธิบายรายละเอียดของงาน ให้ปาลิดาฟัง เพราะตัวเขาเอง อยากได้คนเก่งๆไปคอยช่วยงานอยู่แล้ว เพราะด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย จึงไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่
“ค่ะ ลิดาว่าน่าสนใจดี และตรงกับที่เรียนมาด้วย จะได้ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์”
หญิงสาวมองเห็นลู่ทางในการรู้เรื่องการเงินของบริษัท เรื่องตำแหน่งในการทำงานถือว่าผ่านเอื้อต่อการหาทางแก้แค้นได้
ยังเหลือเรื่องการทำลายครอบครัวของคนที่ทำให้พ่อเธอต้องตาย ครอบครัวของพวกเขาจะต้องทุกข์ไม่ต่างจากเธอ
เป้าหมายที่ลิดามองเห็นตอนนี้คือ เขมกร ลูกชายคนเดียว ที่พ่อแม่แสนจะรัก ถ้าเธอสามสารถทำลายหรือทำร้ายเขมกรได้ รับรองเธอยิงปืนนัดเดียว ได้นกถึงสามตัวแน่ๆ รับรองลูกเจ็บ คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเจ็บมากว่า
“เริ่มพรุ่งนี้เลยแล้วกัน” ธรรมสรณ์สรุป
“ถ้าอย่างนั้นเวลาไปทำงานและเวลากลับ ลิดาขออาศัยพี่เขมนะคะ ลิดายังขับรถในเมืองไทยไม่เป็นเลย แถมยังไม่ค่อยชินกับเส้นทางอีก”
ปาลิดายังคิดแผนไม่ออกว่าจะแก้แค้นอย่างไร เธอรู้แต่เพียงว่า ต้องตีสนิทเขมกรให้ได้ก่อน ให้เขาเชื่อใจในตัวเธอ เดี๋ยวแผนต่อไปค่อยว่ากัน
“ได้เลยครับ คนสวย พี่จะได้มีตุ๊กตาหน้ารถ คอยนั่งไปด้วยทุกวัน”
ชายหนุ่มปากหวานทันที ตามนิสัยของชายเจ้าชู้ ที่ไม่รู้ไปติดมาจากใคร เพราบิดาของเขารักภรรยายิ่งชีพ
7เริ่มสืบ “ทุกคนครับ ผมขอแนะนำเลขาส่วนตัวของผมคนใหม่ เธอชื่อปาลิดา เป็นลูกสาวของคุณอานิรัช เจ้าของที่นี่ครับ” เขาแนะนำเธอด้วยคำพูดที่ดูยกย่อง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะถือหุ้นแค่ไม่ถึงครึ่ง แต่เขาพูดเสียเหมือนเธอถือหุ้นทั้งบริษัท “เรียกลิดาเฉยๆก็ได้ ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ” หญิงสาวอยากเป็นมิตรและสนิทกับทุกคน เพราะพนักงานที่นี่ ต้องรู้แน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องดื่มเมามาย จนเกิดอุบัติเหตุ “พวกเราสิคะ ต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณลิดา” หนึ่งในพนักงานสาว ส่งเสียงเอาใจดังออกมาจากลุ่มของพนักงานที่ยืนอยู่เกือบยี่สิบคน “แยกย้ายกันทำงานได้แล้วเนาะ ” เขมกรตัดบทเพราะกลัวจะมัวแต่ทักทายกันจนงานไม่เดิน โต๊ะทำงานของปาลิดาอยู่ห่างจากโต๊ะทำงานของเขมกรเกือบห้าเมตร มีฉากกั้นอยู่ตรงโต๊ะ เพื่อความเป็นส่วนตัวในการทำงาน “ให้ลิดานั่งใกล้ประตูเลยเหรอคะ” หญิงสาวรู้สึกว่าเธอ จะต้องเวียนหัวกับการเข้าออกของคนที่มาหาเจ้านายคนใหม่ของเธอแน่ๆ “ปกติโต๊ะที่คุณนั่งคือโต๊ะทำงานของผม แ
8สร้างความไว้วางใจ ร้านอาหารใกล้ตึกของบริษัท เป็นร้านโปรดของ เขมกร เพราะอยู่ใกล้ อาหารรสชาติอร่อย เขาจึงชอบมากินที่นี่ถ้าไม่ได้ออกนอกพื้นที่ไปไหน “ร้านนี้เหรอคะที่พี่เขมชอบ” ปาลิดาแปลกใจ “ใช่ พี่ชอบอะไรที่ดูสบายๆ ง่ายๆ” “รวมถึงผู้หญิงด้วยไหมคะ ที่ว่าชอบง่ายๆ” เขมกรหันมาจ้องตา สาวสวยเลขาส่วนตัวคนใหม่ นอกจากหน้าตาที่ดูจะถูกใจแล้ว คารมที่ดูจะทันเขาแบบนี้ ยิ่งน่าเอาชนะนัก “ถ้าเป็นผู้หญิง พี่ก็ชอบแบบไม่ง่ายและก็ไม่อยากจนเกินไป ถ้ายิ่งหน้าตาดี หุ่นดี ดีกรีนักเรียนนอก แบบนี้ยิ่งถูกใจเลย” สายตาเจ้าชู้จับจ้องมาที่ใบหน้ารูปไข่ของปาลิดา ที่มองสบตาชายหนุ่มอย่างไม่ลดละเหมือนกัน “ถ้าอย่างนั้นลิดาก็ใช่เลย” หญิงสาวเสนอตัว “อย่าพูดเล่นกับพี่นะ เดี๋ยวพี่เดินหน้าจีบจริง แล้วจะมาเล่นตัวทีหลังไม่ได้นะแบบนี้” เขมกรถูกใจปาลิดาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่เขาไม่กล้าเดินหน้าจีบ เพราะกลัวจะโดนผู้เป็นพ่อเล่นงานเอา ถ้าเขาเกิดแค่เล่นๆกับหญิงสาวขึ้นมา ตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนใจ เพราะอีกฝ่ายก็ดูจะทอดสะพานใ
9เสน่ห์ดึงใจ ระหว่างทางกลับบ้าน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สองคนจึงพากันแวะเพื่อพาปาลิดาเข้าร้านเครื่องเขียน “หนังน่าดูจังเลยค่ะพี่เขม” อยู่ดีๆหญิงสาวก็คิดแผนพัฒนาความใกล้ชิดขึ้นมาได้ เมื่อเธอเดินผ่านป้ายโฆษณาที่บอกตารางของหนังที่จะฉายในวันนี้ “อยากดูเหรอ เลือกเลยว่าอยากดูเรื่องอะไร” เขมกรเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยเวลางานที่กำลังต้องเรียนรู้อีกมาก เขาจึงไม่ค่อยมีเวลา “มีแต่รอบดึกทั้งนั้นเลย พี่เขมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ลิดาเกรงใจ ไว้วันหลังดีกว่า” หญิงสาวหันมาคว้าแขนชายหนุ่มไปกอดอย่างสนิทสนม ลูบแขนขึ้นลงด้วยใบหน้าใสๆ แบบไม่คิดอะไร ถึงแม้ใบหน้าของเธอจะดูไม่คิดอะไรมากกว่าการ คว้าแขนพี่ชายมากอดไว้ แต่สำหรับชายหนุ่มที่ผ่านอะไรมามากมายอย่างเขมกร เขาจะไม่ยอมเสียโอกาส ที่จะได้เข้าโรงหนังในยามค่ำคืนแบบนี้กับปาลิดาแน่ๆ “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเรากินข้าวเย็นกันที่นี่เลย ระหว่างที่รอ ลิดาก็ไปเดินเล่นร้านเครื่องเขียน อีกแค่สองชั่วโมงเอง” เขมกรออกความคิดเห็น เพราะจริงๆมันก็เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมง
10หว่านเสน่ห์ หลายวันผ่านไปกับการศึกษาเอกสารทางด้านการเงิน ปาลิดาพบแต่ความผิดปกติทางด้านการเงิน ที่เกิดจากลายเซ็นของพ่อเธอเท่านั้น จากที่คิดมุ่งมั่นว่าจะต้องสืบให้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทระหว่างที่เธอเรียนอยู่ที่อเมริกา ปาลิดาเปลี่ยนเป็นเดินหน้าหาทางใช้หนี้ธรรมสรณ์ให้หมด เพื่อเอาบ้านและที่ดินของแม่คืนให้ได้ “หนูลิดา ตอนนี้น้าออกมาอยู่ข้างนอกแล้วนะ สงสารบ้านจัง พ่อของหนูคงยังอยู่ที่นั่น คงยังไปไหน เพราะท่านคงอยู่รอวันที่เราจะได้บ้านคืนมา” เสียงปลายสายที่พูดด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนเศร้ากระตุ้นความแค้นในใจของปาลิดาให้ลุกเป็นไฟ “ลิดาสงสารคุณน้า แต่ยังคิดหาทางไม่ได้เลยค่ะ เงินตั้งมากมาย ไม่รู้จะไปหามาจากไหน” “น้ามีวิธีนะ แต่น้าไม่กล้าแนะนำหนู มันเป็นวิธีที่ไม่ดี น้ากลัวพูดไปหนูลิดาจะโกรธน้า” อัสมาทำน้ำเสียงแบบลังเล ว่าเธอจะให้คำแนะนำลูกลี้ยงดีไหม “คุณน้าบอกลิดามาเถอะค่ะ ถึงลิดาจะไม่ได้สนิทกับคุณน้ามาก แต่เราก็คือครอบครัวเดียวกัน เราทั้งคู่ต่างสูญเสีย” หญิงสาวคิดหาวิธีการมาหลายวัน ที่จะหาหนทา
11สาวแซ่บ ร้านอาหารทะเลที่เขมกรเลือก เป็นร้านอาหารบรรยากาศติดชายทะเลกรุงเทพ อยู่ห่างจากที่ทำงานอยู่ไกลพอควร แต่ถ้าเทียบกับบรรยากาศก็ถือว่าคุ้มที่ต้องเดินทางมาไกล และถูกใจปาลิดามาก “บรรยากาศดีมากเลยค่ะ” ปาลิดาพูดจากใจจริง “พี่ซะอย่าง มีเหรอจะเลือกไม่ถูกใจ” เขมกรทำท่ากอดอกภูมิใจ ในการเลือกร้านอาหารได้ถูกใจหญิงสาวตรงหน้า “สงสัยร้านนี้พี่เขม จะพาสาวๆมากินบ่อย” ปาลิดาลองหยอดถาม เพราะหญิงสาวไม่แน่ใจ ว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีคนรักหรือยัง เกือบเดือนที่เธอมาทำงานกับเขา ปาลิดาเคยเห็นเขาออกไปคุยโทรศัพท์อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นมีผู้หญิงมาหาที่ทำงาน “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ พี่ก็พามาแต่เฉพาะคนสำคัญ” เขมกรมองตาคนถาม ด้วยสายตาที่น้ำตาลยังเรียกพี่ จนปาลิดาที่ตั้งใจว่าจะมาทำให้หัวใจชายหนุ่มหวั่นไหว แต่เธอกลับต้องยอมหลบตาเขาเพราะหวั่นไหวเสียเอง “อาหารอร่อยไหม” เขมกรหาเรื่องคุย เมื่อเห็นหน้าของปาลิดา เริ่มแดงเป็นลูกตำลึง เพราะอายเมื่อเจอสายตาหวานของเขาไป “อร่อยน้อยกว่าลิดานิดนึงค่ะ”
12ทะเลและสองเรา เป็นไปตามคาด ธรรมสรณ์กับภาวินีไม่ยอมไปทะเลกับทั้งคู่ ปล่อยให้หนุ่มสาวไปด้วยกันเพียงสองคน ปาลิดาไม่รู้จะเลือกชุดที่จะไปใส่ที่ทะเลแบบไหน เธอจึงโทรศัพท์ไปขอให้อัสมาช่วยเลือกให้เธอ “กลางวันนี้ ลิดาขอไปกินข้าวกับคุณน้าอัสมานะคะ” ปกติหญิงสาวจะไปกินข้าวกลางวันกับเขมกรตลอด วันนี้เธอจึงขอตัว แต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริง “พี่ไปด้วยได้ไหม” เขมกรได้รับมอบหมายจากบิดา ให้ดูแลปาลิดาอย่างดี และธรรมสรณ์ก็ไม่ไว้วางใจอัสมา เพราะเขารู้จักผู้หญิงคนนี้ดี “ไม่ได้ค่ะ ลิดาขอไปเจอคุณน้าแบบส่วนตัวนะคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่พูดคุยกันตามประสาผู้หญิง แล้วจะรีบกลับมานะคะ” ใช้เวลาแค่เพียงไม่นานอัสมาก็เลือกชุดว่ายน้ำ ชุดเดินเล่นชายหาด และชุดใส่ตอนกลางคืน ให้กับลูกเลี้ยง “แต่ละชุด ถ้าคุณน้ากานดามาเห็น มีหวังหัวใจวายแน่ๆค่ะ” ถึงแม้กานดา จะไปอยู่อเมริกานาน แต่เธอก็ยังคงรักษาความเป็นผู้หญิงไทย และปลูกฝังหลานสาวเสมอ ตลอดเวลาที่ปาลิดาอาศัยอยู่กับเธอ “แบบนี้นี่เอง หนูลิดาถึงได้ยังไม่มีแฟนเสียที น้านึกว
13ทะเลสวาท “สวยมากเลยค่ะ คนไม่เยอะด้วย ลิดาคิดว่าวันหยุดแบบนี้คนต้องเยอะ วุ่นวายแน่ๆ” ปาลิดาตื่นเต้น เมื่อเรือพาเธอมาถึง ท่าเรือของเกาะ ทะเลสีฟ้า หาดทรายสีขาว มองจากท่าเรือ ผู้คนไม่มากอย่างที่เธอคิดไว้ “เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวของเพื่อนพี่ เขาเปิดรับนักท่องเที่ยวจำกัด เพื่อความเป็นส่วนตัว” รถจากรีสอร์ทมารับทั้งคู่จากท่าเรือ เพื่อไปส่งยังที่พัก ที่อยู่อีกฝั่งของเกาะ แถวที่พักค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก จึงอยู่ห่างจากท่าเรือ “เราพักที่นี่เหรอคะ เหมือนมีแค่ห้องเดียวเลย” เมื่อมาถึงที่พักปาลิดา มองเข้าไป เป็นบ้านสไตล์วินเทจ ปูนเปลือย ด้านที่หันเข้าทะเล เป็นกระจกใส ในบ้านไม่มีห้องนอน เปิดเข้าไปเจอเตียงนอน และมองเห็นส่วนที่ทำครัวอยู่ด้วยกัน “ใช่ครับ มีแค่เตียงเดียว กลัวพี่ทำอะไรเหรอครับ” เขมกรหยอดเปิดทาง “ถ้ากลัวคงไม่มาด้วยหรอกค่ะ ก็แค่ถามดู” ปาลิดาตอบไม่ตรงกับเสียงของหัวใจเลย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกชายใดนอกจากพ่อมากอด มาหอมเลย แต่วันนี้ดูแววจะโดนมากว่าแน่ๆ “แดดยังร้อนอยู่เลย ไว้เย็นๆค่อยออกไปเดินเล
14น้ำตาแห่งการเริ่มต้น เมื่อแน่ใจว่าชายหนุ่มร่างเปลือยที่นอนอยู่บนตัวเธอ หลับสนิทแล้ว ปาลิดาค่อยขยับตัวออกจากการถูกทับจากตัวเขา ประตูกระจกถูกเลื่อนออก หญิงสาวออกมานั่งเพื่อปล่อยความรู้สึกทั้งหมด ให้ลอยไปกับลมทะเล “คุณพ่อคะ ลิดาทำถูกแล้วใช่ไหม” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง เหมือนต้องการคำตอบ จากบิดาที่อยู่บนสวรรค์และตอนนี้คงกำลังมองเธออยู่ “เราจะต้องได้ทุกอย่างคืน” จากน้ำเสียงที่ดูเสียใจ เพียงชั่วครู่ ความแค้นที่อัสมาฝังหัวไว้ ก็ชนะความรู้สึกทุกอย่าง ปาลิดานั่งคิดแผนการต่อไป ว่าเธอต้องทำอย่างไรต่อ ในเมื่อเธอยอมเสียตัวแบบนี้แล้ว เธอต้องได้มากกว่าเสีย “เดี๋ยวก็ไม่สบายไปหรอก มานั่งตากลมแบบนนี้” เขมกรส่งเสียงมาจากด้านหลัง ความจริงแล้วเขารู้สึกตัวตั้งแต่หญิงสาว ผลักตัวเขาออก “พี่ขอโทษนะ พี่คิดว่า....”ชายหนุ่มลากเสียง เพราะไม่แน่ใจว่าจะพูดต่อด้วยคำไหนดี ถึงจะดูไม่น่าเกลียดถึงแม้จะมีเก้าอี้ตัวข้างๆว่างอยู่ แต่เขมกรเลือกที่จะนอนลงบนเก็าอี้หวายแบบที่นอนได้ และดึงมือปาลิดาให้ลุกมานอนอยู่ในอ้อมแขนเขา“พ