ตอนที่7
คำสั่งของบิดา
ราเชนขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปเพื่ออะไร และก็ไม่คิดว่ากลับไปจะเจอใครด้วยซ้ำ
“เอ้า! วันนี้ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเหรอ”
ราเชนแปลกใจที่เห็นนิศานอนกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียงนอน ในชุดนอนแทนชุดเที่ยวกลางคืน
“ก็พ่อเชนเพิ่งจะกลับไปบ้านไม่ถึงชั่วโมง ท่านมาขอให้นิศาอยู่บ้านบ้าง ไม่รู้ว่าใครไปฟ้องอะไร”
ปากก็เล่า แต่มือก็ยังพิมพ์โทรศัพท์อยู่ไม่เลิก แสดงถึงความไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่กำลังพูด
“ท่านคงอยากให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง”
ราเชนเข้าใจในสิ่งที่บิดาเขาทำ ชีวิตของเขากับนิศาหลังแต่งงาน ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนคนรักกันเลย เพราะความจริงแล้ว การแต่งงานก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักแต่มันเกิดขึ้นจากผลประโยชน์ของผู้ใหญ่มากกว่า
พ่อของนิศาเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการค้า จึงสามารถช่วยหาตลาดให้โรงงานของราเชนได้ตลอด ส่วนพ่อของราเชน ก็เป็นตระกูลเก่านักการเมืองท้องถิ่น ช่วยคุ้มครองการทำธุรกิจที่ไม่ค่อยจะถูกต้องของครอบครัวนิศาได้
ทั้งสองครอบครัวจึงมองเห็นประโยชน์ร่วมกัน นิศาและราเชนก็เต็มใจทำตามความต้องของบุพการี ต่างคิดว่าพออยู่ด้วยกันไป เดี๋ยวก็รักกันเอง
“ผมไปอาบน้ำก่อนนะ”
“อืม นิศานอนก่อนแล้วกันกินยาแก้แพ้ไปเริ่มง่วงแล้ว”
คำพูดของภรรยาแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ต้องการจะมีอะไรกับเขาในคืนนี้ จึงอ้างว่ากินยาแก้แพ้ไป
ตั้งแต่ราเชนมีแพทเข้ามาในชีวิต เขาก็ไม่มีความรู้สึกต้องการนิศาอีกเลย ถ้าเป็นแบบนี้ปกติเขาคงรู้สึกน้อยใจ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกสบายใจ ที่ไม่ต้องฝืนใจตัวเอง
“กลับมากี่ทุ่มล่ะเมื่อคืน”
ชาติชายถามลูกชายทันที ที่เจอหน้ากันที่โรงงาน เพราะเมื่อคืนเขาทนรอลูกชายไม่ไหว
“เกือบตีหนึ่งครับ” ราเชนตอบตามจริง
“แกสองคนมันเป็นผัวเมียกันแบบไหน ผัวกลับบ้าน เมียออกจากบ้าน ผัวตื่นเช้า เมียตื่นเที่ยง แล้วเมื่อไหร่ครอบครัวมันจะเป็นครอบครัวเสียที”
ชาติชายถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่ไม่สบายใจเอามากๆ เพราะเขาก็อายุมากแล้ว ถ้าสองคนนี้ยังไม่มีลูกด้วยกัน เขากลัวว่า ธุรกิจของเขาและบ้านนิศาที่กำลังร่วมมือกันด้วยดีจะมีปัญหากัน ถ้าทั้งคู่เลิกรากันไป
“มันก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ผมก็ไม่ใช่เป็นคนผิดนะครับ ก็เพิ่งจะมีช่วงนี้ที่ผมไม่กลับมานอน เพราะไม่อยากรับรู้ว่านิศาเขากว่าจะกลับมาก็เกือบเช้าแล้ว”
ราเชนพยายามจะบอกบิดา ว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว อดทนมานานแล้ว และตอนนี้เขาอยากมีความสุขของเขาบ้าง
“พ่ออยากรู้จังว่าเมียแกไปไหนได้เกือบทุกวัน ราเชนนิศาเคยบอกแกบ้างไหม”
ชาติชายคิดไม่ออกว่าผู้หญิงท่าทางเรียบร้อยอย่านิศา เธอจะไปเที่ยวไหนทุกคืนดึกๆดื่นๆแบบนั้น
“แรกๆ ก็เคยบอกนะครับ งานวันเกิดเพื่อนบ้าง งานเลี้ยงฉลองเพื่อนเลื่อนตำแหน่งบ้าง แต่หลังๆก็ไม่เคยบอกอะไร แถมสั่งห้ามถามด้วย”
“แล้วแกก็เชื่อ ก็เลยไม่ถาม ลูกเอ๊ย...” ชาติชายส่ายหัว
“พ่อเป็นคนบอกผมเอง ว่าอย่าทำให้นิศาไม่ถูกใจ เพราะกลัวจะต้องมีปัญหากับพ่อของเขา ผมก็เลยทำตาม ถามไปถ้าเธอโกรธขึ้นมา ผมก็กลัวว่าพ่อจะเดือดร้อนไปด้วย”
ราเชนทั้งตอบคามความจริงและตั้งใจจะพูดให้ชาติชายได้คิด ว่าที่เขาต้องทนอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ที่พ่อเขาต้องการ
“ราเชนพ่อรู้ว่าพ่อก็มีส่วนที่ทำให้ลูกต้องไม่มีความสุขแบบนี้ แต่พ่อก็เชื่อนะว่าถ้าลูกพยายามเอาใจ ดูแล สักวันหนูนิศาต้องรักลูกและลูกก็จะรักเธอเหมือนกัน”
ราเชนอยากบอกบิดา ว่าตลอดเวลาตั้งแต่แต่งงานเขาก็คิดแบบที่ชาติชายพูด และพยายามทำมันมาตลอด ปีแรกนิศาก็เหมือนพยายามร่วมกับเขา แต่ตั้งแต่เพื่อนสาวคนสนิทของเธอกลับมา เธอก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย
เย็นนี้ราเชนยอมให้แพททำโอทีล่วงเวลา เพราะเขาตั้งใจที่จะทำให้พ่อของเขาสบายใจ จึงกลับไปบ้านเพื่อเตรียมดินเนอร์ไว้รอนิศากลับมา โดยที่เขาส่งข้อความไปบอกเธอไว้ก่อน เพราะกลัวเธอจะไม่กลับบ้าน
“นึกอะไรคะเชน จัดบรรยากาศดูโรแมนติกจัง แต่นิศามีเวลาแค่สี่ทุ่มนะคะ เพราะมีนัด”
ราเชนแทบอยากจะลุกจากเก้าอี้และล้มโต๊ะอาหารที่เขาจัดไว้ให้ล้มให้หมด แต่ก็ได้แต่ข่มใจไว้ และนั่งทนกินอาหารเพื่อให้หมดๆไป
นิศาออกจากบ้านแล้ว ราเชนทนไม่ไหวที่จะเป็นสามีโง่ๆ ที่นอนรอภรรยากลับ เขาจึงขับรถออกจากบ้านพร้อมเสื้อผ้าหลายชุดเพื่อไปหาที่ ที่ทำให้เขามีความสุข
ก่อนที่จะไป ราเชนได้ส่งภาพและเล่าทุกอย่างให้บิดาฟัง เพื่อให้ชาติชายรู้ว่า วันนี้เขาพยายามเต็มที่แล้วนะ
คนเป็นพ่อรู้ตัวว่าผิด แต่ก็มาไกลเกินกว่าจะกลับไปแก้ไข ได้แต่ภาวนาให้นิศาท้องทั้งคู่จะได้รักกัน เพราะชาติชายคิดว่า ต่อให้ไม่ได้รักกันแต่ผู้หญิงผู้ชายที่นอนด้วยกันทุกคืนคงต้องมีอะไรกันบ้าง แต่ความจริงแล้วมันตรงข้ามกับสิ่งที่เขาคิด
ราเชนแวะร้านสะดวกซื้อก่อนถึงคอนโด เขาซื้อเบียร์มานั่งดื่มคนเดียวจนรู้สึกเมา จึงขับรถเข้าไปจอดและขึ้นไปหาหญิงสาวที่เป็นภรรยาของเขาอีกคน
“เอ้า! ไหนบอกว่าคืนนี้ไม่มาล่ะคะ”
แพทในชุดทำงานที่กำลังนั่งกินข้าวผัดที่เธอทำเอง เพราะเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน
“ไม่รู้จะนอนกับใคร เบื่อ เซ็ง”
คำพูดที่ดูไม่เหมือนเดิมของราเชน ทำให้หญิงสาวรีบลุกจากเก้าอี้และเดินมาหาเขา
“คุณดื่มมาเหรอคะ ไม่ดีเลย คนเราเครียดก็ไม่จำเป็นต้องใช้ของมึนเมาช่วย”
หญิงสาวถึงจะเกิดในครอบครัวที่แสนจะยากจน แต่พ่อของเธอไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทุกครั้งที่มีความทุกข์พ่อของเธอมักจะพูดว่า แค่ได้นอนกอดเมียกับลูก กำลังใจก็กลับมาแล้ว เธอจึงไม่ชอบที่ราเชนทำแบบนี้
“ผมขอโทษแต่วันนี้ผมไม่ไหวจริงๆ”
ชายหนุ่มโผเข้ากอดหญิงสาวในชุดทำงานที่เต็มไปด้วยเหงื่อ จนแพทเองตกใจ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปื้อนเหงื่อของเธอ
“กินอะไรมาหรือยังคะ”
“ผมกินมาแล้ว คุณไปกินข้าวต่อเถอะ ผมจะไปอาบน้ำนอนแล้ว รีบตามไปนอนกับผมนะ”
เบียร์แค่ไม่กี่กระป๋องทำอะไรราเชนไม่ได้หรอก มันก็แค่ช่วยให้เขาลืมเรื่องที่ทุกข์ใจและปลุกอารมณ์ความเป็นชายให้มากขึ้นเท่านั้น
ตอนที่8เมื่อไม่มีเธอมันเหงา ค่ำคืนแห่งการเยียวยาหัวใจ ของชายหนุ่มที่ทั้งโมโหเสียใจ เสียความรู้สึก และเมามาทำให้คืนนี้หญิงสาวต้องรับบทหนักหลายรอบกว่าเขาจะหายต้องการ เมื่อความทุกข์ใจได้ถูกปลดปล่อยออกทางกาย ราเชนก็หลับสนิท แต่สำหรับแพทแล้ว เธอเริ่มรู้สึกรักเขา และไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ เพราะโลกแห่งความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ สนองราคะเป็นที่ระบายความทุกข์ให้เขาเท่านั้น เมื่อถึงเวลา สักวันเจ้าของตัวจริงก็ต้องมาเอาคืน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่ทั้งคู่พัฒนาจากเจ้านายกับลูกน้องมาเป็นอย่างอื่นกัน เกือบทุกคืนที่ราเชนมานอนที่คอนโดน้อยครั้งที่เขากลับไปนอนบ้าน แต่ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่มาหาหญิงสาวเพราะหัวใจมันเรียกร้องอยากกอดทุกวัน แพทไปถอนเงินทุกครั้ง เธอก็ไม่เคยเห็นเงินเธอลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจว่าราเชน คงเอาข้อมูลเลขบัญชีจากฝ่ายบุคคคลและโอนเงินให้เธออยู่เรื่อยๆ เงินที่ได้มาหญิงสาวส่งไปบ้านเพื่อเป็นค่ารักษาพ่อและซ่อมแซมบ้าน น้องสาวส่งภาพมาให้ดูตอนนี้บ้านของเธอดูดีและน่าอยู่มาก น้องคนกลางก็
ตอนที่9กอดที่แน่นที่สุด “คิดถึงจังเลย มาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อยสิ” ราเชนโผเข้ากอดสาวโรงงานที่เขาสุดแสนจะคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันนาน “แพทก็คิดถึงคุณค่ะ ” หญิงสาวใช้มือข้างขวาลูบท้องของเธอไว้ เพื่อหวังว่าความอบอุ่นของอ้อมกอดราเชนจะส่งไปถึงลูกที่อยู่ในท้อง อาหารมื้อเย็นวันนี้หญิงสาวจัดเต็ม เพราะเธอรู้ตัว ว่าคงมีโอกาสทำให้เขากินได้อีกไม่นาน เธอกับลูกก็ต้องไปจากที่นี่แล้ว คืนนี้หญิงสาวแทบจะไม่ได้นอน เพราะถูกอีกฝ่ายแสดงความคิดถึงทั้งคืน แพทก็พยายามระวังเพราะกลัวจะส่งผลถึงลูกของเธอ วันนี้เป็นวันหยุดราเชนพาหญิงสาวไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ ไปไหว้พระ หาของกินอร่อยๆกิน รวมทั้งตอนกลับเขาพาเธอไปซื้อสร้อยคอที่เป็นทองหนักห้าบาท ถ้าเป็นปกติหญิงสาวคงไม่ยอมรับไหว แต่เพราะเธอรู้ ว่าการเลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้เงิน ถ้ากลับไปอยู่บ้านเธอคงไม่ค่อยมีรายได้อะไร ทองนี้คงช่วยเธอกับลูกได้ในตอนนั้น ก่อนจะกลับคอนโด ชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะไปที่ร้านเพชรที่อยู่ในห้างใหญ่ ตอนแรกแพทคิดว่าราเชนคงมาซื้อให้กับนิศา เพราะเขาซื้อทองให้เธอแล้ว แต่เม
ตอนที่10สูญเสีย วันนี้ทั้งวันราเชนทำงานอย่างไม่มีความสุขเลย เพราะเขาติดต่อแพทไม่ได้ ไม่ว่าแชทหรือการโทรศัพท์ ติดต่อไปที่ฝ่ายบุคคลเขาก็แจ้งว่าหญิงสาวไม่ได้มาทำงาน สิ่งแรกที่ทำหลังจากงานที่ทำเสร็จ คือการรีบกลับมาที่คอนโด “แพทคุณอยู่ไหน แพท คุณได้ยินผมไหม” ราเชนเหมือนคนเสียสติวิ่งไปทั่วห้องพยายามหาภรรยาของเขา ในมือเขาถือทะเบียนหย่าที่วันนี้เขากับนิศาได้ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่คนที่ชายหนุ่มต้องการเอามาอวดกับไม่อยู่แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญหายไป ราเชนมั่นใจว่าเขาได้เสียเธอไปแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกขว้างปาทั่วห้องไปหมด ราเชนกำลังเสียสติ เขาคิดว่าแพทต้องกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าแน่ๆ เมื่อไม่มีทางออกเขาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่โรงงานเพื่อขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของดิว ราเชนตั้งใจจะไปบุกให้ถึงที่ “เปิด เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ราเชนบุกไปที่ห้องของดิวแล้วทุบประตูห้องเช่าขนาดเล็กด้วยความโมโห “อะไรกัน คุณราเชน” คนที่มาเปิดประตูคือทราย เพราะตัวดิวเองกำลังอาบน้ำอยู่
ตอนที่11ตามหาหัวใจ “ราเชน วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงงาน มานั่งคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง อย่าให้พ่อต้องกลายเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองเลย” ชาติชายมานั่งรอราเชนอยู่ที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้า เพราะเขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้เขาต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้ “พ่อแน่ใจนะครับว่าพร้อมจะฟัง” ราเชนคิดมาตลอด ว่าบิดาของเขาไม่มีทางรับได้ที่เขาจะมีภรรยาเป็นแค่เพียงพนักงาน เขาจึงไม่คิดจะเล่าให้ฟัง “คงไม่มีอะไรทำให้พ่อทุกข์ใจ มากไปกว่าการที่พ่อต้องมาเห็นลูกเอาแต่เมาทุกวันแบบนี้” ชาติชายคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาทุกข์ใจมาหลายวันแล้วกับพฤติกรรมของลูกชาย วันนี้เขาจึงต้องการรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อหาทางแก้ไข ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ราเชนเล่าทุกเรื่องตั้งแต่ปัญหาระหว่างเขากับนิศาจนถึงที่เขาไปเจอแพทกำลังโดนดิวตบตีและเขาพาเธอมาอยู่ที่คอนโดแล้วได้มีความสัมพันธ์กัน จนในที่สุดตอนนี้เธอหนีเขาไปแล้ว “ถ้าคนทั้งโรงงานเขาไม่พูดกัน พ่อคงไม่มีทางได้รู้เรื่องจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชาติชายตัดพ้อลูกชายด้วยความรู้สึกน้อยใจ แ
ตอนที่12หัวใจที่หายไป “แพทคุณท้อง ทำไมคุณไม่บอกผม” เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากร้าน ราเชนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาถามสิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่าการที่ได้เจอแพทเสียอีก นั่นคือการที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ “ไว้เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าไร้รอยยิ้ม เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อที่จะทำใจให้ลืมชายหนุ่มให้ได้ แต่วันนี้เมื่อเธอได้เจอเขา ทุกอย่างที่พยายามมา มันช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ บ้านของแพทอยู่ชายเขา มีบ้านเพียงไม่กี่หลังที่อยูใกล้ เพราะหลายครอบครัวต่างก็อยากมีบ้านอยู่ติดถนนแต่พ่อของเธอไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินติดถนน จึงต้องหลบมาอยู่ชายเขาแบบนี้ “พ่อคะนี่คุณราชัน” แพทแนะนำให้พ่อของเธอรู้จักชายหนุ่มที่เธอพามาด้วยภาษาเหนือ พ่อของหญิงสาวรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวหิ้วท้องกลับมาบ้าน ถึงแม้จะแอบเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจดีว่าทุกวันนี้ ทุกคนในครอบครัวมีกินมีใช้เพราะใคร “พ่อรู้เรื่องคุณกับลูกสาวพ่อหมดแล้ว แพทไม่เคยปิดบังอะไรพ่อกับแม่ คุณกลับกรุงเทพไปเถอะ อย
1การเดินทาง “คุณพ่อจะให้ลิดาไปเรียนต่อที่อเมริกาจริงๆเหรอคะ” ปาลิดาเด็กสาววัยเพียงสิบเจ็ดปี เธอเพิ่งสูญเสียมารดา จากโรคเส้นเลือดในสมองแตกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่องานศพเสร็จสิ้น น้ำตายังไม่ทันแห้งไปจากหัวใจ พ่อของเธอก็เตรียมส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศทันที “ลิดาลูกเห็นที่เราต้องสูญเสียแม่ไปไหม ทุกอย่างมันไม่ได้มีอะไรมาบอกล่วงหน้า ถ้าวันหนึ่ง พ่อต้องจากลูกไป มีแต่การศึกษาเท่านั้น ที่พ่อจะให้ลูกได้ นอกจากทรัพย์สมบัติ” นิรัชให้เหตุผลกับลูกสาว เขาอ้างความสูญเสียในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่า ลูกสาวของเขาจะต้องยอมรับ และทำตามที่เขาต้องการ “แล้วคุณพ่อจะอยู่กับใครคะ ลิดาเป็นห่วงพ่อ” เด็กสาวเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ เพราะเธอไม่เหลือใครแล้ว แล้วการไปครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงไปเรียนต่างจังหวัด แต่มันคือต่างประเทศ “พ่อดูแลตัวเองได้ ถ้าลูกรักพ่อ ตั้งใจเรียนให้จบ กลับมาช่วยงานที่บริษัทของเรา พ่อจะได้นอนตายตาหลับเสียที” นิรัชเองมีบริษัท ที่กิจการยังเพิ่งเริ่มต้นได้กำไร เขาอยากใช้โอกาสนี้ ส่งลูกสาวไปเรียนในที่ดีๆ เพราะขึ้นชื่อว่าธุรกิจ
“ลิดาจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังค่ะ” หญิงสาวเริ่มยิ้มได้ “แม่เลี้ยงคนใหม่ของหนูเป็นอย่างไรบ้าง พ่อเล่าให้ฟังบ้างไหม” กานดาแอบเป็นกังวลว่าเมื่อหลานสาวเธอกลับไปเมืองไทย จะมีปัญหากับแม่เลี้ยงเหมือนในหนังไทยหรือเปล่า เพราะตั้งแต่นิรัชมีภรรยาใหม่ ปาลิดายังไม่มีโอกาสได้เจอกับอัสมาเลย “คุณน้าอัสมาเขาดูเป็นคนดีนะคะ คุณพ่อเล่าให้ฟัง ว่าเขาดูแลทุกอย่าง เรื่องเงินก็ไม่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แถมยังช่วยงานบริษัทของพ่อได้ด้วย” ปาลิดารู้จักอัสมา จากคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อ และมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เธอมีโอกาสได้วิดีโอคลอกับผู้เป็นแม่เลี้ยง แต่หญิงสาวก็เชื่อและรู้สึกตามที่พ่อบอกเล่าให้ฟัง “ดีแล้ว แบบนี้น้าก็เบาใจ ถ้าเขารักคุณพ่อของหนู หนูก็ต้องรักเขานะลิดา อย่าให้ต้องเป็นปัญหาลูกเลี้ยงแม่เลี้ยง คุณพ่อของหนูจะหนักใจเปล่าๆ” กานดาสอนหลานสาว ก่อนที่อีกสองปี ปาลิดาจะได้กลับไปอยู่เมืองไทย เพราะเธอคิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ปาลิดาก็อดทนจนเธอสำเร็จการศึกษา และอีกไม่กี่วันเธอจะได้รับปริญญา “คุณพ่อของหนูจะเดินทางมาวันไหน”
อัสมาเธอเป็นคนปากหวาน พูดเป็น มาแต่ไหนแต่ไร ด้วยอาชีพนักร้องที่เธอเคยทำ สร้างความสามารพิเศษของเธอในเรื่องการเอาใจคนให้เก่งเป็นพิเศษอยู่แล้วกานดาพาแขกผู้มาใหม่เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางเธอแอบมองอัสมาอยู่หลายครั้งไม่รู้ทำไมเหมือนกัน กานดาถึงได้รู้สึกไม่ไว้วางใจ ในตัวแม่เลี้ยงของหลานสาว ทั้งที่อัสมาก็ดูไม่มีอะไรคืนนี้สามคนพ่อ ลูกและอัสมา นั่งพูดคุยกันเกือบทั้งคืน โดยมีกานดา คอยมองอยู่ห่าง เพื่อสังเกตแม่เลี้ยงคนใหม่ของหลานสาวหลายปีที่ปาลิดามาอยู่กับเธอที่นี่ เมื่อหลานจะกลับไป เธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กานดาจึงอยากแน่ใจ ว่าอัสมาเป็นคนดี ไม่ใช่แค่เพียงเสแสร้งแสดงออกมางานรับปริญญาผ่านไปอย่างมีความสุข ทุกคนต่างยินดีกับความสำเร็จของปาลิดา โดยเฉพาะนิรัส เขาดีใจ ที่ลูกสาวโตขึ้นและมีความสามารถ มีความรู้ติดตัวการกลับเมืองไทยครั้งนี้ ปาลิดายังไม่ได้กลับพร้อมกับบิดา เพราะติดขัดเรื่องต้องรอเอกสารเรื่องเรียนอีกนิดหน่อย และเธอตั้งใจจะกลับเมืองไทยพร้อมกับกานดาน้าสาว ที่สามารถลาพักร้อนได้ยาวหลายสัปดาห์“แล้วเจอกันที่เมืองไทยนะลูก” นิรัสหอมแก้มลูกสาว“กานดา พี่ฝากลิดาด้วยนะ ยังไงก็อย่าทิ้งหลาน เราก็เหล