ตอนที่5
ครอบครัวที่เคยฝัน
“เลือกซื้อเลยนะ ผมทำอาหารไม่เป็นแต่ชอบให้คนทำให้กิน ผมขอตัวเดินไปดูเครื่องใช้ไฟฟ้าทางด้านหลัง”
ราเชนเขาเคยมีแม่ที่คอยทำกับข้าวให้เขากินทุกมื้อมาตั้งแต่เด็กๆ แม้แต่ตอนไปโรงเรียนเขายังไม่ยอมกินข้าวของโรงเรียน ต้องให้แม่ทำใส่กล่องไปให้
แม่ของเขาเสียไปได้หลายปี ก่อนที่เขาจะแต่งงานได้ไม่นาน พอหลังจากแต่งงาน ราเชนตั้งใจที่จะทำครอบครัวให้อบอุ่น อยากให้นิศาอยู่บ้านคอยเป็นแม่บ้านแม่เรือนดูแลเขา แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ แรกๆ ภรรยาของเขาก็กลับบ้านตามปกติ ตั้งแต่เพื่อนที่กลับจากอเมริกากลับมา เธอก็เที่ยวกลางคืนตลอด ส่วนกลางวันก็เอาแต่ช่วยบิดาของเธอดูแลกิจการ บางวันแทบจะไม่ได้คุยกันสักคำ
การมีแพทเข้ามาในชีวิต ขายหนุ่มหวังว่าความฝันของเขาคงจะได้เป็นจริง ถ้าเธอไม่ทิ้งเขาไปก่อน เพราะราเชนก็รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนดี คงทนกับสภาพภรรยาน้อยได้ไม่นาน
“สวัดดีจ๊ะ ไม่ไปทำงานแต่มีเวลามาเดินซื้อของ อยากให้ฝ่ายบุคคลได้มาเห็นจัง”
หญิงสาวหันไปตามเสียง ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือผู้หญิงที่แย่งคนรักของเธอไปนั่นเอง
“ทรายไปกลับเถอะได้ครบแล้วนี่”
ดิวเดินเข้ามาคว้าแขนทรายไว้ โดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่า ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือใคร พอเห็นเต็มตาดิวถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ
“ผมไปรอที่หน้าห้องน้ำนะ”
ไม่ใช่แค่สะดุ้งแต่เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตา ผู้หญิงที่เขาเคยรักมาหลายปี แต่ตอนนี้เขากลับทั้งทุบทั้งตีเธอ
“ซื้อของเยอะจัง เอาไปทำขายเหรอจ๊ะ ลางานนานแบบนี้ระวังจะตกงาน ที่เตือนก็เพราะสงสาร เห็นว่าผัวก็ทิ้งแล้ว ไม่อยากให้ต้องไม่มีงานทำอีก”
“ขอบใจนะที่เป็นห่วง ชีวิตฉันหลุดพ้นจากนรกแล้ว ขอบคุณเธอด้วยนะที่ลงไปอยู่ในนั้นแทน”
แพทไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว ความเจ็บช้ำมันทำให้เธอทันคนมากขึ้น เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้คำหยาบคาย แต่ก็ทำให้ผู้หญิงตรงหน้ายืนกำมือแน่นด้วยความโมโห
เมื่อเห็นว่าพูดจนสะใจแล้ว แพทก็เดินไปทางอื่น เพราะไม่อยากจะมีเรื่องให้อายคน เธอเลือกที่จะโทรศัพท์บอกให้ราเชนมาเอาตะกร้ารถเข็นไปคิดเงิน ส่วนเธอจะไปรอที่รถ เพราะไม่อยากให้ทั้งสองคนเห็นว่าเธอมากับใคร
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าแพท”
ราเชนถามเมื่อว่าเห็นตั้งแต่ออกมาจากห้างสรรพสินค้า คนข้างๆเขาเอาแต่นั่งเงียบ
“แพทแค่รู้สึกว่าดิวเขาเปลี่ยนไป หรือจริงๆแล้วเขาเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่แรก แต่แพทเองที่มองผิดไป”
“ทำไมล่ะ” คนขับหันมาถาม
“ก็ตอนที่ดิวหันมาเห็นว่าทรายกำลังคุยกับแพท เขาก็ชิงเดินหนีออกมาเลย แบบนี้แพทว่ามันดูไม่แมน ตลอดเวลาที่คบกันมา แพทคิดว่าดิวเป็นสุภาพบุรุษที่สุด แต่ตอนนี้คิดว่าตัวเองคงมองคนผิดไป”
“ผมแอบเห็นนะ ว่าคุณพูดอะไรสักอย่างจนทำให้ทรายเขาสั่นไปทั้งตัว ผมคิดว่าจะมีเรื่องกันเสียแล้ว”
“นี่คุณแอบดูเหรอคะ ร้ายจริงๆ”
หญิงสาวหันเอามือเล็กมาตีไปที่แขนของคนขับด้วยความหมั่นไส้
“แพทจะให้ผมเดินเข้าไปแสดงตัวหรือไงล่ะ ว่าแต่คุณบอกผมสิว่าคุณพูดอะไรกับเขา”
หญิงสาวเล่าความจริงทุกบทสนทนาให้สามีฟัง ราเชนถึงกับอึ้งไปเลยกับคำพูดของแพทที่ทั้งคมและเป็นการด่าที่สุภาพมาก
“วาจาใช่เล่นเลยนะ สงสัยถ้าวันไหนนิศาเข้ารู้เรื่องเรา มีหวังคุณเถียงชนะแน่”
ราเชนเผลอพูดไปโดยที่ไม่ทันได้คิด กว่าจะคิดได้ก็หลุดปากไปเต็มๆแล้ว
“ถ้าเป็นคุณนิศา แพทจะยืนให้เธอตบตรงนั้นเลยค่ะ จะไม่ตอบโต้ใด ๆและพร้อมที่จะก้มลงกราบเธอถ้ามันจะทดแทนความผิดที่แพททำกับเธอได้”
บรรยากาศในรถกลับมาเงียบอีกครั้ง แต่ช่วงนี้เป็นช่วงรถติดเพราะคนกำลังเลิกงานทั้งคู่จึงต้องอยู่บนรถด้วยกันอีกนาน ราเชนไม่ชอบให้เป็นแบบนี้เลย เขาจึงพยายามคิดเรื่องที่จะเอามาชวนคนข้างๆคุย
“เออเกือบลืมบอกเลย ผมซื้อเครื่องซักผ้า ตู้เย็นแล้วก็เครื่องอบอาหาร พรุ่งนี้ทางห้างจะเอาไปส่ง ผมให้เบอร์คุณไว้แล้ว”
ราเชนตั้งใจจะบอกพรุ่งนี้ตอนเขาไปทำงานแล้ว เพื่อให้หญิงสาวแปลกใจ แต่เพราะตอนนี้ไม่มีเรื่องจะพูดแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องบอกก่อน
“ตู้เย็นก็มีแล้วนี่คะ จะซื้อใหม่ทำไม” แพทหันมามองหน้าอย่างสงสัย
“ตู้เก่ามันเล็กเกินไป เดี๋ยวถ้าคุณไปทำงานแล้วเราคงไม่มีเวลาไปซื้อของบ่อยๆ ผมอยากกินอาหารฝีมือคุณทุกวัน เราจะได้ซื้อของสดมาตุนไว้”
ราเชนอธิบายตามเหตุผลจริงๆ เพราะตู้เย็นที่มีอยู่แช่ขวดน้ำแค่ไม่กี่ขวด หมูแค่ไม่กี่ถุงก็เต็มแล้ว
“คุณจะมากินข้าวกับแพททุกวันเลยเหรอคะ แล้วคุณนิศาเธอจะกินกับใคร” คนถามทำเสียงเหมือนรู้สึกผิด
“แพทคุณรู้ไหมเกือบปีแล้วที่ผมกินข้าวคนเดียว นิศาเขามีเวลาอยู่บ้านแค่หลังตีสองจนถึงสามโมงเช้าเท่านั้น”
“แล้วที่คุณบอกว่าของจะมาส่งพรุ่งนี้ หมายความว่าพรุ่งนี้คุณก็ยังจะไม่ให้แพทไปทำงานเหรอคะ”
เธอหยุดงานมาสองวันแล้ว ถ้าพรุ่งนี้อีกวันเธอก็จะโดนไล่ออก เพราะไม่มีใบรับรองแพทย์
“หน้ายังไม่หายดีเลย คุณไต้องกลัวหรอกว่าคนอื่นจะสงสัยหรือคุณจะถูกไล่ออก ผมบอกฝ่ายบุคคลว่าผมขับรถเชี่ยวคุณก็เลยต้องให้คุณลางาน และขอให้เขาเก็บเป็นความลับ เพราะผมกลัวคุณไปแจ้งความเรียกเงิน”
หญิงสาวหันไปมองหน้าคนเล่า เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างราเชนจะโกหกได้เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้
“สงสัยต่อไปถ้าคุณบอกอะไรแพท แพทคงต้องคิดก่อนเชื่อเสียแล้ว เพราะคุณโกหกเก่งใช่เล่นเลย”
ทั้งคู่ต่างพากันขำ ที่ฝ่ายบุคคลก็ยอมเชื่อในสิ่งที่เจ้านายโกหก
กว่าจะถึงคอนโดก็เป็นชั่วโมงทั้งที่จริงแล้วคอนโดกับห้างสรรพสินค้าอยู่ห่างกันแค่2กิโลเมตรเท่านั้น แต่รถติดทุกแยกเลย เพราะเป็นช่วงที่คนกำลังเลิกงานแล้วพากันกลับที่พัก
“วันนี้เหนื่อยแล้วก็ดึกแล้ว แพทขอทำอะไรง่ายๆให้คุณกินไปก่อนนะคะ ขอเวลาไม่เกินยี่สิบนาที”
ราเชนนั่งเลื่อนโทรศัพท์ไปมา เขารู้สึกผิดขึ้นมาจึงส่งข้อความไปบอกนิศาว่าเขาไม่ได้กลับบ้านนะ ข้อความถูกอ่านแต่ตอบกลับมาเป็นสติ๊กเกอร์ว่าโอเค ชายหนุ่มคิดในใจเขาไม่น่าส่งไปเลย เพราะสุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวเขา
ตอนที่6เล่นไปตามบทบาท “ข้าวผัดกระเพราไข่ดาวและต้มจืดร้อนๆ มาแล้วค่ะ ท่านผู้จัดการ” หญิงสาวเดินถือถาดอาหารมาวางที่โต๊ะ โดยที่ราเชนตามไปช่วยหยิบน้ำและแก้วจากในครัว “กลิ่นหอมมากเลย” “อาหารหรือแพทคะที่หอม” หญิงสาวแค่ต้องการพูดให้ตลก แต่มารู้ตัวว่าได้จุดไฟในตัวของชายหนุ่มเข้าแล้ว ก็เมื่อหันไปสบตาเขา “กินข้าวอิ่มแล้ว ผมขอกินแพทต่อเลยแล้วกัน” ราเชนก็ใช่เล่น พูดเหมือนตลก แต่ก็ทำเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาทันทีดึกมาแล้วทั้งคู่รีบเข้านอน แพทกลัวว่าราเชนจะนอนดึกและตื่นไปทำงานไม่ไหว ส่วนชายหนุ่มเองรีบนอนเพราะอยากใช้เวลาทำกิจกรรมก่อนนอนมากกว่า“ผู้จัดการคะ ดึกแล้ว”แพททำท่าดันตัวชาหนุ่มให้ออกห่างตัว ทั้งที่หัวใจมันร้องเรียกหาเขาแทบจะขาดใจ“เรียกผู้จัดการอีกแล้วแบบนี้ต้องทำโทษ”พูดจบเจ้านายสายหื่น ก็เริ่มซุกซนไปตามเรือนร่างของลูกน้องสาวทันทีหญิงสาวถึงปากจะปฏิเสธแต่ร่างกายส่วนอื่นมันกลับทำตรงข้ามปากหนาประกบเข้ากับร่องปากบาง ทั้งแลกลิ้นกันอย่างดุเดือน มีบางช่วยที่ราเชนรู้สึกหมั่นเคี่ยวก็แอบใช้ฟันขบเบาๆที่ลิ้นเล็กของหญิงส
ตอนที่7คำสั่งของบิดา ราเชนขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปเพื่ออะไร และก็ไม่คิดว่ากลับไปจะเจอใครด้วยซ้ำ “เอ้า! วันนี้ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเหรอ” ราเชนแปลกใจที่เห็นนิศานอนกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียงนอน ในชุดนอนแทนชุดเที่ยวกลางคืน “ก็พ่อเชนเพิ่งจะกลับไปบ้านไม่ถึงชั่วโมง ท่านมาขอให้นิศาอยู่บ้านบ้าง ไม่รู้ว่าใครไปฟ้องอะไร” ปากก็เล่า แต่มือก็ยังพิมพ์โทรศัพท์อยู่ไม่เลิก แสดงถึงความไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่กำลังพูด “ท่านคงอยากให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง” ราเชนเข้าใจในสิ่งที่บิดาเขาทำ ชีวิตของเขากับนิศาหลังแต่งงาน ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนคนรักกันเลย เพราะความจริงแล้ว การแต่งงานก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักแต่มันเกิดขึ้นจากผลประโยชน์ของผู้ใหญ่มากกว่า พ่อของนิศาเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการค้า จึงสามารถช่วยหาตลาดให้โรงงานของราเชนได้ตลอด ส่วนพ่อของราเชน ก็เป็นตระกูลเก่านักการเมืองท้องถิ่น ช่วยคุ้มครองการทำธุรกิจที่ไม่ค่อยจะถูกต้องของครอบครัวนิศาได้ ทั้งสองครอบครัวจึงมองเห็นประโยชน์ร่วมกัน นิศาและราเชนก
ตอนที่8เมื่อไม่มีเธอมันเหงา ค่ำคืนแห่งการเยียวยาหัวใจ ของชายหนุ่มที่ทั้งโมโหเสียใจ เสียความรู้สึก และเมามาทำให้คืนนี้หญิงสาวต้องรับบทหนักหลายรอบกว่าเขาจะหายต้องการ เมื่อความทุกข์ใจได้ถูกปลดปล่อยออกทางกาย ราเชนก็หลับสนิท แต่สำหรับแพทแล้ว เธอเริ่มรู้สึกรักเขา และไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ เพราะโลกแห่งความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ สนองราคะเป็นที่ระบายความทุกข์ให้เขาเท่านั้น เมื่อถึงเวลา สักวันเจ้าของตัวจริงก็ต้องมาเอาคืน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่ทั้งคู่พัฒนาจากเจ้านายกับลูกน้องมาเป็นอย่างอื่นกัน เกือบทุกคืนที่ราเชนมานอนที่คอนโดน้อยครั้งที่เขากลับไปนอนบ้าน แต่ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่มาหาหญิงสาวเพราะหัวใจมันเรียกร้องอยากกอดทุกวัน แพทไปถอนเงินทุกครั้ง เธอก็ไม่เคยเห็นเงินเธอลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจว่าราเชน คงเอาข้อมูลเลขบัญชีจากฝ่ายบุคคคลและโอนเงินให้เธออยู่เรื่อยๆ เงินที่ได้มาหญิงสาวส่งไปบ้านเพื่อเป็นค่ารักษาพ่อและซ่อมแซมบ้าน น้องสาวส่งภาพมาให้ดูตอนนี้บ้านของเธอดูดีและน่าอยู่มาก น้องคนกลางก็
ตอนที่9กอดที่แน่นที่สุด “คิดถึงจังเลย มาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อยสิ” ราเชนโผเข้ากอดสาวโรงงานที่เขาสุดแสนจะคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันนาน “แพทก็คิดถึงคุณค่ะ ” หญิงสาวใช้มือข้างขวาลูบท้องของเธอไว้ เพื่อหวังว่าความอบอุ่นของอ้อมกอดราเชนจะส่งไปถึงลูกที่อยู่ในท้อง อาหารมื้อเย็นวันนี้หญิงสาวจัดเต็ม เพราะเธอรู้ตัว ว่าคงมีโอกาสทำให้เขากินได้อีกไม่นาน เธอกับลูกก็ต้องไปจากที่นี่แล้ว คืนนี้หญิงสาวแทบจะไม่ได้นอน เพราะถูกอีกฝ่ายแสดงความคิดถึงทั้งคืน แพทก็พยายามระวังเพราะกลัวจะส่งผลถึงลูกของเธอ วันนี้เป็นวันหยุดราเชนพาหญิงสาวไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ ไปไหว้พระ หาของกินอร่อยๆกิน รวมทั้งตอนกลับเขาพาเธอไปซื้อสร้อยคอที่เป็นทองหนักห้าบาท ถ้าเป็นปกติหญิงสาวคงไม่ยอมรับไหว แต่เพราะเธอรู้ ว่าการเลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้เงิน ถ้ากลับไปอยู่บ้านเธอคงไม่ค่อยมีรายได้อะไร ทองนี้คงช่วยเธอกับลูกได้ในตอนนั้น ก่อนจะกลับคอนโด ชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะไปที่ร้านเพชรที่อยู่ในห้างใหญ่ ตอนแรกแพทคิดว่าราเชนคงมาซื้อให้กับนิศา เพราะเขาซื้อทองให้เธอแล้ว แต่เม
ตอนที่10สูญเสีย วันนี้ทั้งวันราเชนทำงานอย่างไม่มีความสุขเลย เพราะเขาติดต่อแพทไม่ได้ ไม่ว่าแชทหรือการโทรศัพท์ ติดต่อไปที่ฝ่ายบุคคลเขาก็แจ้งว่าหญิงสาวไม่ได้มาทำงาน สิ่งแรกที่ทำหลังจากงานที่ทำเสร็จ คือการรีบกลับมาที่คอนโด “แพทคุณอยู่ไหน แพท คุณได้ยินผมไหม” ราเชนเหมือนคนเสียสติวิ่งไปทั่วห้องพยายามหาภรรยาของเขา ในมือเขาถือทะเบียนหย่าที่วันนี้เขากับนิศาได้ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่คนที่ชายหนุ่มต้องการเอามาอวดกับไม่อยู่แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญหายไป ราเชนมั่นใจว่าเขาได้เสียเธอไปแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกขว้างปาทั่วห้องไปหมด ราเชนกำลังเสียสติ เขาคิดว่าแพทต้องกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าแน่ๆ เมื่อไม่มีทางออกเขาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่โรงงานเพื่อขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของดิว ราเชนตั้งใจจะไปบุกให้ถึงที่ “เปิด เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ราเชนบุกไปที่ห้องของดิวแล้วทุบประตูห้องเช่าขนาดเล็กด้วยความโมโห “อะไรกัน คุณราเชน” คนที่มาเปิดประตูคือทราย เพราะตัวดิวเองกำลังอาบน้ำอยู่
ตอนที่11ตามหาหัวใจ “ราเชน วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงงาน มานั่งคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง อย่าให้พ่อต้องกลายเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองเลย” ชาติชายมานั่งรอราเชนอยู่ที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้า เพราะเขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้เขาต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้ “พ่อแน่ใจนะครับว่าพร้อมจะฟัง” ราเชนคิดมาตลอด ว่าบิดาของเขาไม่มีทางรับได้ที่เขาจะมีภรรยาเป็นแค่เพียงพนักงาน เขาจึงไม่คิดจะเล่าให้ฟัง “คงไม่มีอะไรทำให้พ่อทุกข์ใจ มากไปกว่าการที่พ่อต้องมาเห็นลูกเอาแต่เมาทุกวันแบบนี้” ชาติชายคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาทุกข์ใจมาหลายวันแล้วกับพฤติกรรมของลูกชาย วันนี้เขาจึงต้องการรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อหาทางแก้ไข ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ราเชนเล่าทุกเรื่องตั้งแต่ปัญหาระหว่างเขากับนิศาจนถึงที่เขาไปเจอแพทกำลังโดนดิวตบตีและเขาพาเธอมาอยู่ที่คอนโดแล้วได้มีความสัมพันธ์กัน จนในที่สุดตอนนี้เธอหนีเขาไปแล้ว “ถ้าคนทั้งโรงงานเขาไม่พูดกัน พ่อคงไม่มีทางได้รู้เรื่องจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชาติชายตัดพ้อลูกชายด้วยความรู้สึกน้อยใจ แ
ตอนที่12หัวใจที่หายไป “แพทคุณท้อง ทำไมคุณไม่บอกผม” เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากร้าน ราเชนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาถามสิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่าการที่ได้เจอแพทเสียอีก นั่นคือการที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ “ไว้เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าไร้รอยยิ้ม เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อที่จะทำใจให้ลืมชายหนุ่มให้ได้ แต่วันนี้เมื่อเธอได้เจอเขา ทุกอย่างที่พยายามมา มันช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ บ้านของแพทอยู่ชายเขา มีบ้านเพียงไม่กี่หลังที่อยูใกล้ เพราะหลายครอบครัวต่างก็อยากมีบ้านอยู่ติดถนนแต่พ่อของเธอไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินติดถนน จึงต้องหลบมาอยู่ชายเขาแบบนี้ “พ่อคะนี่คุณราชัน” แพทแนะนำให้พ่อของเธอรู้จักชายหนุ่มที่เธอพามาด้วยภาษาเหนือ พ่อของหญิงสาวรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวหิ้วท้องกลับมาบ้าน ถึงแม้จะแอบเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจดีว่าทุกวันนี้ ทุกคนในครอบครัวมีกินมีใช้เพราะใคร “พ่อรู้เรื่องคุณกับลูกสาวพ่อหมดแล้ว แพทไม่เคยปิดบังอะไรพ่อกับแม่ คุณกลับกรุงเทพไปเถอะ อย
1การเดินทาง “คุณพ่อจะให้ลิดาไปเรียนต่อที่อเมริกาจริงๆเหรอคะ” ปาลิดาเด็กสาววัยเพียงสิบเจ็ดปี เธอเพิ่งสูญเสียมารดา จากโรคเส้นเลือดในสมองแตกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่องานศพเสร็จสิ้น น้ำตายังไม่ทันแห้งไปจากหัวใจ พ่อของเธอก็เตรียมส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศทันที “ลิดาลูกเห็นที่เราต้องสูญเสียแม่ไปไหม ทุกอย่างมันไม่ได้มีอะไรมาบอกล่วงหน้า ถ้าวันหนึ่ง พ่อต้องจากลูกไป มีแต่การศึกษาเท่านั้น ที่พ่อจะให้ลูกได้ นอกจากทรัพย์สมบัติ” นิรัชให้เหตุผลกับลูกสาว เขาอ้างความสูญเสียในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่า ลูกสาวของเขาจะต้องยอมรับ และทำตามที่เขาต้องการ “แล้วคุณพ่อจะอยู่กับใครคะ ลิดาเป็นห่วงพ่อ” เด็กสาวเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ เพราะเธอไม่เหลือใครแล้ว แล้วการไปครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงไปเรียนต่างจังหวัด แต่มันคือต่างประเทศ “พ่อดูแลตัวเองได้ ถ้าลูกรักพ่อ ตั้งใจเรียนให้จบ กลับมาช่วยงานที่บริษัทของเรา พ่อจะได้นอนตายตาหลับเสียที” นิรัชเองมีบริษัท ที่กิจการยังเพิ่งเริ่มต้นได้กำไร เขาอยากใช้โอกาสนี้ ส่งลูกสาวไปเรียนในที่ดีๆ เพราะขึ้นชื่อว่าธุรกิจ