คำโปรย การกลับมาเที่ยวบ้านเกิดของ.... ในครั้งนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่าจากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบภัย... ในคำคืนก่อนบินกลับไปเรียน เพื่อนสาวคนสนิท...อยากเลี้ยงอำลา เธอผู้ไม่ชอบแสงสีและเสียงที่ดัง อย่างการเข้าผับบาร์ แต่เพียงเพราะเพื่อนคนสนิทร้องขอ เธอจะปฎิเสธก็กะไรอยู่ ในที่อโคจร....ความประมาทเกิดขึ้น ได้เสมอใช่มันเกิดขึ้นกับเธอเร็วมาก ร่างกายโดนสิ่งแปลกปลอมวิ่งเข้าสู่ ร่างกายทำเธอร้อนรุ่มหาที่เปรียบไม่ ได้นาทีนี้เธอจะตายไหมนะ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือฟ้าลิขิต ในคำคืนนี้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครคนหนึ่ง...เขาคือใคร...? อันนิกาตื่นขึ้นมาตอนเช้าร่างกายที่ โดนคนบนเตียงปูยี้ปูยำ..ตัวเธอยืน มองชายหนุ่มร่างกำยำผู้พรากความ สาวไปจากเธอ...แต่วินาทีนั้นเธอต้องบินแล้ว "เธอจากมาโดนไม่ลา 3เดือนต่อมาในต่างประเทศ ร่างกายของเธอมีการต่อต้านอาหารที่โปรดปรานเอามาก "อันท้องหรือ... "บ้า..... แต่ในใจเธอมันมีมากกว่าหมื่นแสนล้านคำ..เธอท้องหริอชิบหายคืนนั้นฉันลืมเลย
View Moreเมื่อเข้ามายังห้องของคอนโด คนตัวเล็กที่อุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้แนบอกขณะที่ไอ้ต้าวตัวน้อยยังอยู่ห้วงในนิทรา อันนิการีบสาวเท้าเข้าห้องนอนเพื่อว่างไอ้ต้าวตัวน้อยให้นอนบนเตียงก่อนจะพาตัวเองออกมาเมื่อออกมาถึงก็เห็นของที่ซื้อมาอยู่บนโต๊ะอาหารในโซนที่จัดเป็นครัวทำอาหารแต่กับไร้เงาของคนใจดี จนได้ยินเสียงบานประตูห้องน้ำเปิดออก สายตาคู่หวานมองไปยังห้องน้ำถึงได้รู้ว่าหลังจากคนใจดีว่างของที่ซื้อมาห้างไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว คนใจดีนั้นได้เดินเข้าไปยังห้องน้ำแต่เขารู้ได้อยากไรว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนแต่ก็เลือกเก็บความสงสัยไว้ในใจไม่ได้ถามคนใจดีออกมาคนใจดีสาวเท้าเข้าไปนั่งที่โซฟารับแขกเรียบร้อยแล้วฉันถึงเลือกที่จะเดินเข้าไปยังโซนห้องครัว เก็บของสด และอาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็นก่อนที่ จะหยิบขวดน้ำรินน้ำเปล่าใส่แก้วแล้วถือมาให้คนใจดีโดยไม่ลืมจะที่กล่าวขอบคุณ เอาจริงถ้าไม่ได้เขาฉันก็แย่เหมือนกัน"น้ำคะ""ขอบคุณครับ.คุณชื่ออันใช่ไหม ส่วนผมชื่อเจแปนนะครับ"เจแปนรับแก้วน้ำไว้ในมือก่อนจะเอ่ยขอบคุณพร้อมกับถามชื่อและแนะนำตัวเองเสร็จสรรพและนี่คือการแนะนำตัวครั้งแรกของเราทั้งสองคนก็ว่าได้เจแปนได้แต่คิด"ขอบคุณคุ
หลังจากโดนเพื่อนสนิทอย่างออกัสชิงหนีไป ผมสาวเท้าออกมาจากบริษัทของเพื่อนด้วยอารมณ์ว้าวุ่น จะโกรธเพื่อนก็ไม่ได้เพราะเพื่อนมีหน้าที่รับผิดชอบเหมือนกันรถยนต์คันหรูขับมุ่งตรงเข้าไปยังโชว์รูมรถหรูเพราะมีเอกสารมากมายที่ต้องเคลียร์เหมือนกันอีกทั้งอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงงานมอเตอร์โชว์แล้ว"คุณเจแปนมาแล้วเหรอครับ"เลขาคนสนิทที่ทำงานตั้งแต่เปิดโชว์รูมใหม่ ๆ เอ่ยถามขณะเห็นร่างสูงของคนเป็นเจ้านายสาวเท้าเข้ามา เจแปนได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขอยาพาราเพราะตอนนี้ในหัวของเจแปนรู้สึกปวด และมึนไปหมด น่าจะเป็นเพราะการนอนน้อยและยังมีเรื่องสาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งให้คิดอีก"มีเอกสารอะไรก็เอาเข้ามาให้ผมเซ็นเลยนะ และอีกอย่างผมของยาพาราด้วยรู้สึกปวดหัวอย่างไงไม่รู้""ครับ"เวลาไม่นานเลขาหนุ่มก็ถือเอกสารเข้ามาในห้องก่อนจะออกไปสั่งแม่บ้านให้เอาน้ำและยาที่เจ้านายสั่งเอาไว้ก่อนเข้าห้องทำงานเจแปนเปิดเอกสารเซ็นทีล่ะเล่มจนแม่บ้านยกแก้วน้ำและยามา เขาถึงว่างปากกาลงหยิบเม็ดยาสีขาวเข้าปากก่อนจะตามด้วยน้ำอึกใหญ่ขณะเซ็นเอกสารอยู่ยาที่เริ่มทำงานทำให้อาการปวดหัวทุเลา แต่ถ้าได้พักสายตาอีกสักนิดอาการน่าจะกับมาดีเหมือนเดิม เ
รถยนต์คันหรูขับตามรถยนต์คันหน้าอย่างไม่ลดล่ะ จนมาหยุดที่ประตูบ้านหลังใหญ่ที่ผมนั้นคุ้ยเคยเป็นอย่างดีขณะที่รถยนต์คันนั้นเลี้ยวเข้าไปในบ้านผมเลือกที่จะจอดอยู่ที่รั่วบ้านที่เป็นมุมอับถ้าคนข้างในมองออกมาจะไม่เห็นรถผมแต่ตรงกันข้ามผมสามารถมองเห็นคนข้างในได้อย่างชัดเจนขณะที่ในหัวของผมกับตั้งคำถามมากมาย บวกกับคำตอบที่นำเข้ามาหักล้างในสิ่งที่ผมคิดกับผู้หญิงคนที่ผมตามหาในช่วงเวลาหนึ่งถึงความเกี่ยวพันกับเพื่อนสนิทผมหรือว่าจะเป็นเมียแต่ทำไมเพื่อนผมไม่เห็นจะบอกอะไรพวกผมเลยทั้งที่เราสนิทกันมาก หรือจะเป็นญาติที่มาพักอยู่ด้วย หรือว่าจะเป็นน้องสาว สมองผมค่อย ๆ ประมวลผลเรื่อยๆ มาหยุดคำว่าน้องสาว ใช่มันมีน้องสาวแล้วน้องสาวมันมีลูกแล้วตอนนั้นมันขยันอัพรูปภาพของหลานชายลงกลุ่มไลน์บ่อย ๆ แต่มาช่วงหลังมันหยุดอัพไม่รู้ว่าเพราะอะไร สงสัยพรุ่งนี้ผมต้องเจ้าไปทักทายมันที่ทำงานซะหน่อยเมื่อคิดได้เช่นนั้นผมจึงหยุดความคิดนี้ไปก่อนของเฝ้าดูคนที่ผมตามหาให้หน่ำใจก่อนค่อยว่ากันขณะที่สายตาคู่คมยังคมมองเข้าไปด้านในที่ตอนนี้สาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งก้าวลงจากรถก่อนที่จะอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกสาวเท้าเข้าไปในตัวบ้านผมเลือกที่จะจ
ณะห้างสรรพสินค้าอันนิกาค่อย ๆ เลือกซื้อของอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียงของตัวเองและของลูกชาย อุปกรณ์เครื่องครัวและของใช้อย่างอื่นที่คิดว่าจำเป็นสำหรับทั้งตัวเองและไอ้ต้าวตัวน้อย สายตาคู่สวยสำรวจดูของบนรถเข็นอย่างถี่ถ้วนก่อนจะเข็นรถเข็นเพื่อที่จะไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์และกลับมายังคอนโดของพี่ชายเมื่อมาถึงคอนโดอันนิกาค่อย ๆ จัดข้าวของที่ซื้อมาให้เข้าที่เข้าทางถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับความสะดวกสบายของลูกชาย จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็นที่เป็นเวลาเลิกเรียนของไอ้ต้าวตัวน้อยอันนิกาจึงเลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปหาลูกชายที่โรงเรียนโดยมีคุณลุงมาจอดรถรออยู่ที่โรงเรียนอยู่ก่อนแล้วเพราะว่าคืนนี้ต้องกลับไปนอนที่บ้านและต้องโทรไปคุยกับพ่อและแม่เรื่องที่จะย้ายมาอยู่ที่คอนโดของพี่ชายด้วย@โรงเรียน"แม่ครับ"เสียงใสของไอ้ต้าวตัวน้อยเรียกฉันก่อนจะเห็นไอ้ต้าวตัวน้อยวิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมกับชู้แขนให้ฉันอุ้ม ฉันถึงกับย่อตัวให้ต่ำลงรับไอ้ต้าวตัวน้อยไว้อยู่ในอ้อมกอดพร้อมกับหอมลงแก้มซ้ายขวาด้วยความคิดถึง"เป็นไงลูกมาเรียนวันแรก สนุกไหม มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นเล่าให้แม่ฟังหรือเปล่า"ฉันถามไ
5 ปีต่อมาหลังจากคลอดน้องซีนายได้ 1 ปีฉันก็กลับไปเรียนมหาวิทยาลัยจนคว้าใบปริญญาสาขาบริหารธุรกิจมาฝากพ่อกับแม่ได้สำเร็จ โดยช่วงที่ฉันไปเรียนคุณแม่จะรับหน้าที่ดูแลน้องซีนายให้ ซึ่งแม่ของฉันเต็มใจที่จะดูแลให้อยู่และเพราะน้องซีนายเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยร้องไห้งอแงเหมือนเด็กคนอื่น ๆหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ น้องซีนายอายุเข้า 5 ขวบแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าลูกสุดที่รักของฉันจะขาดความรักเพราะน้องซีนายมีทั้งคุณตาคุณยายที่เป็นที่รัก และยังมีทั้งพี่ออกัสพี่ชายฉันที่รักไอ้ต้าวตัวน้อยประหนึ่งลูกชายตัวเอง ไม่ให้คิดแบบนั้นได้ไงเวลาที่พี่ชายฉันกลับมาสวีเดนไอ้ต้าวตัวน้อยก็จะค่อยตามติดเหมือนดังเงา และยิ่งเวลาที่ออกไปข้างนอกไอ้ต้วน้อยจะค่อยออดอ้อนเรียกพี่ชายว่าแดดดี้เวลาคนข้างนอกมองมาจึงไม่แปลกที่จะคิดว่าไอ้ต้าวตัวน้อยนั้นเป็นลูกชายของพี่ชายฉันถึงแม้ว่าหน้าตาจะไม่เหมือนกันก็ตามเถอะวันนี้เป็นวันที่ฉันจะต้องเดินทางกลับไปอยู่ที่เมืองไทยถาวรเพราะอะไรนั้นเหรอก็เพราะคุณแม่อยากกลับมาอยู่ประเทศไทยถาวรและยังเป็นโอกาสเหมาะที่พี่ออกัสกลับมาร่วมงานแต่งของญาติสนิทพอดีพ่อกับแม่เลยให้ฉันกลับมาประเทศไทยก่อนพร้อมกับพี่ชายเพราะคุ
พี่ชายอย่างออกัสเมื่อทราบข่าวว่าน้องสาวของตัวเองที่คลอดลูกก็รีบตรงมายังสวีเดน เพื่อที่อยากเห็นหน้าหลานชายของตัวเองว่าจะน่ารักขนาดไหนย้อนไปช่วงเวลานั้นเขายังจำได้ดีว่าทั้งพ่อกับแม่ต่อสายตรงมาต่อว่าเขาเรื่องที่ไม่ดูแลน้องสาวจนพลาดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น และเมื่อเขามารู้อีกว่าน้องสาวที่พลาดเสียความบริสุทธให้กับใครก็ไม่รู้ในคืนนั้นเกิดท้องขึ้นมาเขาก็ได้แต่โทษตัวเองว่าดูแลน้องไม่ดีแต่เมื่อทั้งหมดคุยและปรับความเข้าใจกันและน้องสาวยืนยันที่จะเก็บเจ้าก้อนกลมไว้ เขาที่เป็นพี่ชายจะพูดอะไรมากไม่ได้นอกจากเห็นดีเห็นงามไปด้วย"มาแล้วเหรอลูก มาดูหลานเร็วนอนหลับปุ๋ย น่ารักมากเลย"คนเป็นแม่เมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองมาหาน้องสาวที่ห้องฟักฟื้นภายในโรงพยาบาลต่างก็ดีใจ เสียงหวานของคนเป็นแม่รีบเรียกลูกชายให้มาดูหลายชายตัวน้อยใกล้ ๆ ที่ตอนนี้นอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ที่เป็นน้องสาวของเขา"สวัสดีครับ พ่อแม่ พอผมรู้ก็รีบให้เลขาจองตั๋วมาสวีเดนเลย"ออกัสรีบสาวเท้าเขามายังห้องที่น้องสาวนอน ว่างกระเป๋าเดินทางลงข้างโซฟาภายในห้องพักก่อนขาเรียวยาวจะรีบสาวด้วยก้าวยาว ๆ มาที่เตียงของน้องสาวสายตาคมไล่มองไปยัง
หลายเดือนต่อมาอีกด้านที่ประเทศไทย"เจแปนตกลงมึงไปหาหมอหรือยังไอ้อาการที่มึงกินอะไรไม่ได้ หมอเขาว่าอย่างไงบ้าง"เสียงทุ้มของน้ำเหนือถามเพื่อนด้วยความห่วงใย ขณะตัวเขาเองยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากเพราะอะไร ไม่รู้ว่าอาการที่เป็นช่วง 2-3 เดือนก่อน กินข้าวแทบไม่ได้ จะกินได้ก็พวกแต่ของเปรี้ยว ๆ"อืม...ช่วงนี้ดีขึ้นแล้ว แต่เดือนก่อนไปหาหมอ หมอบอกว่าปกติดีทุกอย่าง ขณะหมอยังงงว่าเป็นเพราะอะไร เลยสั่งยาแก้เครียดและยาแก้แพ้มาให้ แล้ววันนี้มึงมาหากูมีอะไรหรือเปล่า"ผมเริ่มอธิบายอาการที่เป็นให้เพื่อนฟัง ขณะที่เพื่อนพยักหน้าตอบรับ"ก็คิดว่าจะให้มึงหารถสวย ๆ ให้สักคัน กะจะเอาไว้ขับไปทำงาน แล้ววันนี้มึงจะไปร้านนั้นไหมวะที่มึงชอบไปเป็นประจำ"น้ำเหนือบอกเหตุผลที่เดินทางมาหาเพื่อน ก่อนจะถามถึงร้านประจำที่ผมชอบไปนั่ง ร้านนั้นก็คือร้านที่ผมพบกับสาวน้อยปริศนานั้นแหละ ผมไปรอเธอทุกวันที่ร้านเพื่อว่าจะมีโอกาสเจอกันสักครั้งแต่ความหวังก็ลิบลี่ลงเรื่อย ๆ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ เก้าเดือนแล้วมั่งถ้าผมจำไม่ผิด"สัปดาห์หน้ารถที่กูสั่งไว้จะถูกส่งมาที่โชว์รูมรถกู ถ้ามึงว่างค่อยมาดูมาเลือกก็ได้ว่าชอบคันไหน จะได้ไม่เอาขึ้นโ
ขณะที่ฉันเดินออกจากห้องตรวจเหมือนร่างไร้วิญญาณ แม่ที่นั่งรอฉันรีบเดินเข้ามาถามฉันถึงอาการป่วยทันที"หมอว่าไงบ้างลูก"ขณะที่ฉันทำสีหน้าท่าทางอึกอักเดินมานั่งเก้าอี้้ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ"แม่คะ คือ...""หมอว่าไงลูกบอกแม่มาเถอะ"แม่ถามฉันขณะที่ลูบหัวฉันเหมือนกับท่านจะรู้อะไรบ้างอย่างฉันเลยกลั้นใจเอ่ยบอกเรื่องที่ฉันกำลังตั้งท้อง"คือ ...หนูท้องคะ"ก่อนน้ำตาจะค่อย ๆ ไหลรินลงมาจากดวงตาคู่สวย"ไม่เป็นไรนะลูก ท้องก็ไม่เป็นไร"แม่เอ่ยบอกขณะยกฝ่ามือเรียวใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจาพ่วงแก้มฉัน"ฮึก...แต่...พ่อจะไม่ว่าอันเหรอคะ"ฉันถามด้วยความกังวล กลัวพ่อจะว่า"เดี๋ยวแม่จัดการเรื่องพ่อเอง แต่หนูบอกแม่ได้ไหมว่าหนูท้องได้ไง มันเกิดอะไรขึ้น"แม่ถามด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนทำให้เบาใจขึ้นก่อนที่ฉันจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวที่เกินขึ้นที่ประเทศไทยให้แม่ฟัง"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูกกลับบ้านกันก่อนเดี๋ยวเรื่องพ่อแม่จัดการเองหนูทำใจให้สบายนะไม่ต้องกังวลเดี๋ยวจะกระทบถึงลูกในท้อง"แม่ปลอบฉันอย่างอ่อนโยนฉันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่แม่ของฉันจะขับรถพาฉันกลับบ้านช่วงเวลาอาหารค่ำ ที่ตอนนี้มีพ
3 เดือนต่อมาวันนี้เป็นอีกวันที่ฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียน แต่ก็แปลกพอฉันตื่นขึ้นมากับมีอาการมึนหัว ก่อนจะรู้สึกว่ามีก้อนบางอย่างวิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ"ฮึก!!!"สองขาวาดลงจากเตียงวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโก่งคอเอาอาหารที่ทานเมื่อคืนออกมาจนหมด ก่อนจะค่อย ๆ ขยับออกจากห้องน้ำ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนอย่างคนหมดแรง ตาคู่สวยปิดเปลือกตาลงเพื่อที่ต้องการจะพักอีกสักนิดก่อนไปมหาลัยแกร๊ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดขึ้นขณะที่ฉันค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาในห้องฉันทันที ก่อนจะได้ยิ่งเสียงหวานอันคุ้นเคยส่งมาให้ฉัน"เป็นอะไรลูกวันนี้ไม่ไปมหาลัยเหรอ"คุณแม่กล่าวก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเดินตรงมาที่ฉัน ขณะที่ฉันชันตัวนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง"ไม่รู้คะตื่นมาก็เวียนหัวเลย วันนี้ขอนอนพักนะคะ"ฉันบอกเพราะว่าตอนนี้เริ่มจะรู้สึกหมดแรงถ้าได้หยุดและนอนพักน่าจะดีขึ้น"เป็นเยอะหรือเปล่า ไปหาหมอไหมลูก"แม่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่คงไม่ต้องไปถึงกับไปหาหมอหรอกมั่งแค่นอนพักอีกหน่อยอาการที่เปฺ็นอยู่น่าจะดีขึ้น"ยังพอไหวคะ ขออันนอนพักสักนิดน่าจะดีขึ้น"ฉันบอกแม่ขณะที่แม่ยกฝ่ามืลูบหัวฉันด้วยความห่วงใย"ถ้าไม่หายรีบบอกแม่เล
Comments