แชร์

ต้าวตัวน้อย

ขณะที่ฉันเดินออกจากห้องตรวจเหมือนร่างไร้วิญญาณ แม่ที่นั่งรอฉันรีบเดินเข้ามาถามฉันถึงอาการป่วยทันที

"หมอว่าไงบ้างลูก"

ขณะที่ฉันทำสีหน้าท่าทางอึกอักเดินมานั่งเก้าอี้้ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ

"แม่คะ คือ..."

"หมอว่าไงลูกบอกแม่มาเถอะ"แม่ถามฉันขณะที่ลูบหัวฉันเหมือนกับท่านจะรู้อะไรบ้างอย่างฉันเลยกลั้นใจเอ่ยบอกเรื่องที่ฉันกำลังตั้งท้อง

"คือ ...หนูท้องคะ"ก่อนน้ำตาจะค่อย ๆ ไหลรินลงมาจากดวงตาคู่สวย

"ไม่เป็นไรนะลูก ท้องก็ไม่เป็นไร"แม่เอ่ยบอกขณะยกฝ่ามือเรียวใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจาพ่วงแก้มฉัน

"ฮึก...แต่...พ่อจะไม่ว่าอันเหรอคะ"ฉันถามด้วยความกังวล กลัวพ่อจะว่า

"เดี๋ยวแม่จัดการเรื่องพ่อเอง แต่หนูบอกแม่ได้ไหมว่าหนูท้องได้ไง มันเกิดอะไรขึ้น"แม่ถามด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนทำให้เบาใจขึ้นก่อนที่ฉันจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวที่เกินขึ้นที่ประเทศไทยให้แม่ฟัง

"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูกกลับบ้านกันก่อนเดี๋ยวเรื่องพ่อแม่จัดการเองหนูทำใจให้สบายนะไม่ต้องกังวลเดี๋ยวจะกระทบถึงลูกในท้อง"แม่ปลอบฉันอย่างอ่อนโยน

ฉันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่แม่ของฉันจะขับรถพาฉันกลับบ้าน

ช่วงเวลาอาหารค่ำ ที่ตอนนี้มีพ่อที่เพิ่งเลิกจากการทำงานนั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วย ตลอดระยะเวลาทานข้าวด้วยบรรยากาศที่เงียบผิดปกติ ส่งผลให้คนเป็นพ่อเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของภรรยากับลูกสาว

"มีเรื่องอะไรจะบอกพ่อหรือเปล่า"พ่อถามขณะที่สายตาคู่คมเลื่อนมองมายังแม่และมาหยุดลงที่ฉันทำให้ฉันต้องก้มหน้าต่ำหลบสายตาพ่อ มือที่จับช้อนเขี่ยอาหารเล่นในจานไปมา

"อัน ถ้าหนูอิ่มแล้วขึ้นไปพักผ่อนเถอะ"คนเป็นแม่บอกก่อนที่ฉันจะรวบช้อนเดินขึ้นข้างบนชั้นสองของบ้าน แต่ฉันเลือกที่จะไม่เข้าไปในห้องอยากรู้ว่าถ้าพ่อรู้เรื่องแล้วพ่อจะว่าอย่างไง ฉันเลยเลือกที่จะยืนฟังคนเป็นแม่พูดกับคนเป็นพ่ออยู่บริเวณบรรไดชั้นสองของบ้าน

"อันไม่สบายเหรอแม่ ลูกป่วยเป็นอะไรพ่อเห็นลูกทานข้าวได้นิดเดียว"เสียงทุ้มของคนเป็นพ่อเอ่ยถามแม่ด้วยความห่วงใยลูกสาว

"คะพ่อ ลูกไม่สบาย"

"ลูกเป็นอะไรเยอะไหมพาไปหาหมอหรือยัง"

"ไปมาแล้ว หมอบอกว่าลูกเราท้อง"เสียงคนเป็นแม่บอกพ่อก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงช้อนร่วงหล่นลงจานข้าว

แพร๊ง!

"แม่ว่าอะไรนะ ไม่พูดเล่นสิแม่"คนเป็นพ่อส่งยิ้มเจื่อน ๆ มาให้แม่ขณะที่แม่กับยืนยันว่าสิ่งที่ตัวพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทุกประการ

"พ่อใจเย็น ๆ ก่อนนะ คือเรื่องที่แม่บอกคือเรื่องจริง"

"แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวเรา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้"คุณพ่อเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นจนฉันได้ยินถึงกับสะดุ้งเพราะพ่อไม่เคยขึ้นเสียงใส่แม่ขนาดนี้

"ก็ช่วงที่ลูกไปเที่ยวที่ประเทศไทย...."แล้วแม่ก็เริ่มเล่าเรื่องราวให้พ่อฟังคราว ๆ ใบหน้าของพ่อเรียบนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบ้างอย่าง

"แล้วไอ้ลูกชายตัวดีไม่ได้ดูแลน้องสาวเลยเหรอ พ่อผิดหวังกับมันจริง ๆ "

"อันนี้แม่ก็ไม่ได้ถามอย่างละเอียดหรือเราจะเรียกออกัสมาสอบถามดี"คุณแม่เสนอความคิดขณะคุณพ่อพยักยอมรับกับความคิดของแม่ ขณะที่ฉันไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้อีกอยากจะโทษเป็นความผิดของพี่ออกัสก็ไม่ได้ ที่จริงแล้วฉันมานั่งคิดดูว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะฉันเองที่ผิดไม่เกี่ยวกับพี่ชายเลย

เมื่อฉันเห็นว่าอารมณ์ของพ่อเริ่มสงบลงแล้วฉันจึงค่อย ๆ ก้าวเท้าลงมาจากชั้นสองของตัวบ้านก่อนจะโน้มลำตัวต่ำก้มลงกราบเท้าของคนเป็นพ่อ

"พ่อหนูขอโทษ พ่ออย่าว่าพี่ออกัสเลยที่จริงวันนั้นเป็นหนูที่ผิด ผิดที่เผอเรอไม่ระมัดระวังตัว"

คนเป็นพ่อเมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักก้มลงกราบเท้าจากตอนแรกที่โกรธลูกสาวเช่นกันที่ไปเที่ยวที่อโคจรแบบนั้น ตอนจิตใจเริ่มหายโกรธเคืองลูกสาวเหลือแต่ความสงสารที่ส่งมาให้ลูกสาวแทน

ฝ่ามือหนาขอคนเป็นพ่อดึงร่างบอบบางของลูกสาวสุดที่รักขึ้นก่อนจะสวมกอดคนเป็นลูกพร้อมกับยกฝ่ามือลูบที่ศีรษะทุยเพื่อปลอบประโลมลูกสาว

"ไม่เป็นไรนะลูกคงไม่อยากให้มีใครเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว พวกเราช่วยกันแก้ไขกันไปแล้วกัน"เสียงทุ้มเปล่งบอกฉันด้วยความห่วงใยจนฉันเริ่มน้ำตาซึมอีกรอบ

"คะ พ่อ"ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"ไม่ต้องร้องแล้ว เรามาคุยถึงไอ้ตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมาดีกว่าว่าจะตั้งชื่อหลานว่าอะไรดี อ่ออีกอย่างเรื่องเรียนพ่อว่าหนูควรจะ ดอปเรียนเอาไว้ก่อนสักปีสองปีหนูคิดว่าดีไหม

"ดีคะ ขอบคุณพ่อกับแม่มากเลยนะคะ"ฉันก้มลงกราบทั้งสองเมื่อสถานการณ์ตึงเครียดเริ่มขี้คลายไปในทางที่ดีแล้ว คุณพ่อเสนอให้ฉันดอปเรียนจนกว่าจะคลอดไอ้ต้าวตัวเล็กออกมาก่อน

ซึ่งทางที่พ่อแนะนำเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับฉันถึงแม้ไอ้ต้าวตัวเล็กเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เขาเกิดมาแต่เมื่อเขาตั้งใจจะเกิดมาอยู่ในท้องฉันแล้วฉันสัญญาว่าจะดูแลให้ความรักเขาให้ดีที่สุดฉันจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เขา

ตลอดระยะเวลาที่ฉันเดินทางไปหาหมอเพื่อตรวจครรภ์คุณแม่จะเป็นคนพาฉันไปพบคุณหมอเสมอและวันนี้ก็เช่นกันวันที่ฉันตื่นเต้นที่สุดเพราะฉันจะได้รู้ว่าไอ้ต้าวตัวเล็กของฉันเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง

"คุณนอนรอหมอที่เตียงเลยนะคะ เดี๋ยววันนี้เราจะตรวจดูสุขภาพน้องกับตรวจดูเพศของน้องด้วย"คุณหมอเอ่ยบอกขณะที่ฉันเดินขึ้นไปนอนรอหมอที่เตียงอย่างว่าง่าย ตอนนี้อายุครรภ์ของฉัน 16 สัปดาห์แล้ว ไอ้ต้าวตัวน้อยที่อยู่ในท้องก็ขยันดิ้นไปมา

คุณหมอเดินมานั่งข้างเตียงภายในห้องตรวจก่อนจะทาเจลหล่อลื่นทั่วบริเวณท้องน้อยก่อนจะใช้เครื่อง อัลตร้าซาวด์ลูบลงที่น้องนูนเสียงหวานของคุณหมอเอ่ยบอกฉันเรื่อย ๆ ขณะที่สายตาของฉันมองหน้าจอสี่เหลี่ยมไปด้วยเวลาคุณหมอบอก

"คุณแม่เห็นไหมค่ะ ตรงนี้มือของน้องมีนิ้วครบทั้งสองข้างนะคะ ส่วนนี้เท้าน้องมีนิ้วครบเหมือนกันคะ คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าน้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"คุณหมอบอกก่อนที่จะขยับเครื่องตรวจ ขณะที่ฉันจ้องมองจอสี่เหลี่ยมเขม่งไม่ว่าจะเป็นเด็กหญิงหรือเด็กชายฉันก็ยินดีที่เขาเข้ามาในชีวิตของฉัน

"น้องเป็นผู้ชายนะคะ ดูซิอวดจู๋ให้หมอดูด้วย"ฉันถึงกับอมยิ้มกับภาพตรงหน้าที่ไอ้ต้าวตัวน้อยอวดเบ่งความใหญ่ของตัวเอง

"เสร็จแล้วคะ แล้วช่วงนี้คุณแม่ยังแพ้ท้องอยู่หรือเปล่าคะ"คุณหมอเอ่ยถาม

"ไม่แพ้แล้วคะ ช่วงนี้รู้ว่าสึกกินอะไรได้เยอะขึ้น รู้สึกว่าหิวตลอดเวลาด้วย"ฉันตอบคุณหมอ เพราะช่วงก่อนที่อายุครรภ์อ่อน ๆ ฉันแพ้ท้องมากขนาดทานอะไรแทบไม่ได้เลย เมื่อฉันทานข้าวลงไปไม่ถึง 10 นาทีฉันก็วิ่งไปโก่งคอเอาสิ่งที่เพิ่งทานเข้าไปออกจนหมดแต่เมื่อช่วงอายุครรภ์ได้ 12 สัปดาห์อาการแพ้ท้องของฉันทุเลาลงไปเยอะจนช่วงนี้คือไม่มีอาการแพ้เลย มีแต่หิวอยู่ตลอดเวลาสงสัยไอ้ต้าวตัวเล็กที่อยู่ในท้องคงกินเก่งไม่ใช่เล่น

"ถ้างั้นหมอสั่งยาบำรุงครรภ์ให้กินเหมือนเดิมนะคะส่วนกำหนดคลอดก็ตามกำหนดที่เราแผลนเอาไว้ เสร็จแล้วคะเดี๋ยวรอใบสั่งยากับบัตรนัดด้านหน้าเลย"

"คะคุณหมอ"ฉันเอ่ยขอบคุณคุณหมอก่อนที่จะลุกไปรอหน้าห้องตามที่คุณหมอบอก

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status