ณะห้างสรรพสินค้า
อันนิกาค่อย ๆ เลือกซื้อของอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียงของตัวเองและของลูกชาย อุปกรณ์เครื่องครัวและของใช้อย่างอื่นที่คิดว่าจำเป็นสำหรับทั้งตัวเองและไอ้ต้าวตัวน้อย
สายตาคู่สวยสำรวจดูของบนรถเข็นอย่างถี่ถ้วนก่อนจะเข็นรถเข็นเพื่อที่จะไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์และกลับมายังคอนโดของพี่ชาย
เมื่อมาถึงคอนโดอันนิกาค่อย ๆ จัดข้าวของที่ซื้อมาให้เข้าที่เข้าทางถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับความสะดวกสบายของลูกชาย
จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็นที่เป็นเวลาเลิกเรียนของไอ้ต้าวตัวน้อยอันนิกาจึงเลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปหาลูกชายที่โรงเรียนโดยมีคุณลุงมาจอดรถรออยู่ที่โรงเรียนอยู่ก่อนแล้วเพราะว่าคืนนี้ต้องกลับไปนอนที่บ้านและต้องโทรไปคุยกับพ่อและแม่เรื่องที่จะย้ายมาอยู่ที่คอนโดของพี่ชายด้วย
@โรงเรียน
"แม่ครับ"เสียงใสของไอ้ต้าวตัวน้อยเรียกฉันก่อนจะเห็นไอ้ต้าวตัวน้อยวิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมกับชู้แขนให้ฉันอุ้ม ฉันถึงกับย่อตัวให้ต่ำลงรับไอ้ต้าวตัวน้อยไว้อยู่ในอ้อมกอดพร้อมกับหอมลงแก้มซ้ายขวาด้วยความคิดถึง
"เป็นไงลูกมาเรียนวันแรก สนุกไหม มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นเล่าให้แม่ฟังหรือเปล่า"ฉันถามไอ้ต้าวตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดพร้อมกับเดินไปทิศทางของรถที่คุณลุงจอดอยู่
"สนุกมากเลยครับ คุณครูให้ซีนายเต้นด้วย"เสียงใสเอ่ยบอกด้วยท่าทีตื่นเต้นแววตาเปล่งประกายของความสดใสที่ส่งต้องมาหาฉันทำให้ฉันเบาใจกับการมาเรียนในวันแรกของไอ้ต้าวตัวน้อย
"เหรอคุณครูให้เต้นเพลงอะไรครับ"
"เพลงช้างครับ สนุกมากเลย แม่ครับซีนายอยากไปดูช้าง "เสียงใสไอ้ต้าวตัวน้อยเอ่ยบอกพร้อมทำท่าทางที่คุณครูสอนทำให้ฉันถึงยิ้มกับท่าทางของลูกชาย
"ได้ครับ วันหยุดแม่พาไปดูเนอะว่าแต่หนูหิวไหมหรือแวะหาอะไรกินกันก่อนกว่าจะถึงบ้านน่าจะมืด"ฉันถามไอ้ต้าวตัวน้อยขณะที่รถขับเคลื่อนไปได้ระยะหนึ่ง เพราะกว่าจะถึงบ้านน่าจะนานกว่าจะฝ่ารถติดและระยะทางจากโรงเรียนถึงบ้านก็ช่างห่างกันเหลือเกิน
"หิวครับ"เสียงใสเปล่งบอกขณะที่อีกไม่ถึงกิโลก็ถึงห้างแล้ว ฉันเลยรีบหันไปบอกคุณลุงเพราะว่ากลัวว่าจะเลยห้าง
"คุณลุงคะ แวะห้างข้างหน้าให้ฉันหน่อย เดียวอันพาลูกไปทานข้าวก่อนเดี๋ยวค่อยกลับบ้าน"
"ครับ"คุณลุงขานรับก่อนจะหักพ่วงมาลัยเข้ามายังห้างดังแล้วนำรถไปจอดที่ลานจอดรถเพื่อรอเราสองคน ฉันที่อดไม่ได้กลัวว่าคุณลุงจะรอนานเลยควักเงินให้คุณลุงเพื่อว่าคุณลุงอยากจะไปเดินเล่นหรืออยากไปทานอาหารระหว่างรอเราสองคนแม่ลูก
ฉันพาไอ้ต้าวตัวเล็กเข้ามาในห้างก่อนจะพาไปร้านอาหาร โดยอาหารที่ไอ้ต้าวตัวเล็กเลือกทานคือ สปาเก็ตตี้ผัดครีมซอส ส่วนของฉันก็เป็นสลัดผักแบบง่าย ๆ เราสองคนทานอาหารอยู่สักพักก็ได้เวลาที่ต้องกลับ เมื่อเดินออกจากร้านเพื่อจะไปยังลานจอดรถสายตาอันแหลมคมของไอ้ต้าวตัวน้อยส่องไปเห็นร้านไอศรีมร้านโปรดจึงไม่พลาดโอกาสสำคัญรีบบอกคนเป็นแม่ก่อนที่จะเดินเลยร้านไป
"แม่ซีนายอยากกินไอ้ติมครับ"
"ได้ครับ หนูเลือกเลยว่าอยากกินแบบไหนรสชาติอะไร"ฉันบอกลูกก่อนที่จะจูงมือเล็กเข้ามายังหน้าร้านพร้อมกับเปิดเมนูไอศรีมให้ไอ้ต้าวตัวน้อยเลือกรสชาติ
มือน้อยชี้ไปที่รูปภาพของเมนูไอศรีมก่อนที่ฉันจะสั่งพนักงาน เวลาไม่นานไอศรีมวนิลาสีขาวที่อยู่บนกรวยสีน้ำตาลก็อยู่ในมือน้อยของไอ้ต้าวตัวน้อย
ความสนในไอศรีมมีมากว่าทางที่เดินเมื่อฉันจูงมือเล็กเดินไปตามทางบริเวณห้างที่มีผู้คนเดินกันพลุกพล่านแต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ ไอ้ต้าวตัวเล็กล้มลงเพราะชนเขากับผู้ชายคนหนึ่งที่บังเอิญเดินส่วนทางมาพอดี ปรึก!!!
"โอ้ย"เสียงใสร้องออกมาจนเสียงดังขณะที่มือบางของฉันรีบจับลูกชายลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะใช้สายตาสำรวจดูว่าลูกชายมีแผลตรงไหนหรือเปล่า
"ซีนายเจ็บต้องไหนหรือเปล่าลูก"เสียงหวานเอ่ยถามลูกชายด้วยความตกใจขณะไอ้ต้าวตัวน้อยกับส่ายหน้าไปมา
"ซีนายไม่เป็นอะไรครับ แต่คุณลุงคนนั้นน่าจะเป็น"เสียงใสของไอ้ต้าวตัวน้อยบอกขณะที่สายตาคู่สวยมองไปตามนิ้วมือของลูกชายที่ชี้ตรงรอยเปื้อนบนเสื้อสูทสีดำของผู้ชายตรงหน้า
"ขอโทษนะค่ะ เป็นอะไรมากไหม"เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนที่มือเรียวเริ่มคว้าหากระดาษทิชชูเปียกในกระเป๋าสะพายพร้อมกับดึงทิชชูเปียกเช็ดลงรอยคราบเปื้อนอย่างรู้สึกผิด โดยไม่สนใจว่าผู้ชายคนนั้นจะหน้าตาเป็นเช่นไรเพราะตอนนี้รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ครั้งนี้
"ไม่เป็นไรครับ"ผู้ประสบภัยบอกก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่มือฉันให้หยุด แต่เอะทำไมเขาไม่ปล่อยมือฉันเสียที ทำให้ฉันค่อย ๆ เสยหน้าขึ้นดูคนตรงหน้า
"..."
"ขอบโทษนะครับคุณลุงซีนายไม่ระวังเอง"เสียงใสของไอ้ต้าวตัวน้อยรีบขอโทษทันควัน
"จำผมได้ไหม"เสียงทุ้มเอ่ยถามขณะที่มือหนายังจับมือฉันอยู่
ขณะที่ฉันไม่รู้ว่าจะดีใจที่เจอเขาอีกครั้งหรือจะต้องทำไงฉันก็ยังคิดไม่ออก แต่ที่แน่ๆ เขาจะรู้ไหมนะว่าไอ้ต้าวตัวน้อยที่ยืนข้างฉันช่างมีใบหน้าเหมือนเขาเหลือเกิน
"อ๋อ คุณคงจำคนผิดแล้วคะ"ฉันเอ่ยบอกเพราะสับสนกับเหตุด้านหน้า ขณะที่ไอ้ต้าวตัวน้อยกับรีบขอโทษและถามคำถามที่ไอ้ต้าวตัวน้อยนั้นสงสัย แต่ขณะเวลานี้ขอฉันออกจากสถานการณ์ตรงนี้ก่อนแล้วกันจะว่าหนีก็ใช่เราคงไม่เจอกันอีกครั้งหรอกมั่งคิดได้ดั่งนั้นจึงขอโทษเขาอีกรอบ
"ขอโทษอีกครั้งนะคะ/ไปลูกคุณลุงรอนานแล้ว"ก่อนมือเรียวสวยรีบช้อนอุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากห้างเพื่อที่จะไปขึ้นรถที่คุณลุงจอดอยู่
ด้านเจแปน
วันนี้ผมมีคุยงานกับลูกค้าที่ห้างเมื่อการคุยงานผ่านชะลุยราบรื่นดีผมตั้งใจว่าจะกลับไปพักผ่อนหรือไม่ก็ออกไปเที่ยวที่ร้านประจำที่ผมชอบไปทุกคืน แต่ขณะที่ผมกำลังจะเดินไปลานจอดรถสายตาคู่คมดันไปเห็นสาวลูกครึ่งที่เดินมากับเด็กชายตัวเล็ก ผมจำได้ทันทีว่าเธอคือสาวน้อยคนนั้น จะให้ผมทำไงได้กลัวว่าจะพลาดโอกาสสำคัญ สองขารีบก้าวเข้าไปหาสาวใบหน้าลูกครึ่งทันทีเป็นจังหวะเดียวกันกับเด็กชายตัวน้อยเผลอชนเข้ากับผมโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เสื้อผมเปื้อนไอศรีมเพียงเล็กน้อย
ก่อนที่สาวใบหน้าลูกครึ่งรีบหาผ้าในกระเป๋ามาเช็ดทำความสะอาดให้ผมขณะที่มือหนาของผมรีบจับลงที่มือนุ่มนิ่มอย่างไว
"ไม่เป็นไรครับ"ผมเอ่ยบอกขณะที่สาวใบหน้าลูกครึ่งค่อย ๆ เสยหน้าขึ้นมองผมก่อน คนตรงหน้าจะทำตาโต
"..."
"ขอบโทษนะครับคุณลุงซีนายไม่ระวังเอง"
"ไม่ไรครับ"ผมหันไปบอกเด็กน้อยที่ทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะเอ่ยถามสาวใบหน้าลูกครึ่งในทันทีที่ตอนนี้เธอเองแต่ก้มหน้าหลบสายตาผม
"จำผมได้ไหม"
"อ๋อ คุณคงจำคนผิดแล้วคะ"เสียงหวานเอ่ยบอกผม หึ! จะให้ผมจำผิดได้ไงผมจำเธอได้ยิ่งกว่าอะไรเสียอีก ผ่านมาเกือบ 6 ปีแล้วผมยังจำใบหน้าคนตรงหน้าได้ดี และกลิ่นตัวที่หอมสดชื่นที่ผมสูดดมค่ำคืนนั้นยังตราตรึงอยู่ในโซนประสาทขอผมไม่อาจจะลืมเลือน
"เพื่อนมี้เหรอ"ไอ้ต้าวตัวน้อยที่ได้ยินผู้ชายคนด้านหน้าถามแม่ตัวเองอดจะสงสัยไม่ได้จึงหันไปถามคนเป็นแม่ในทันทีแต่คนเป็นแม่กับเงียบเหมือนเป็นใบ้ส่งผมให้ผมต้องรีบต้องเด็กน้อยขี้สงสัยไปก่อน
"ครับลุงเป็นเพื่อนแม่หนูแล้วพ่อหนูไม่ได้มาด้วยเหรอ"เสียงทุ้มเปล่งถามเพื่อให้คลายความสงสัยในทันที เด็กคนนี้ทำไมเขายิ่งดู ยิ่งคุ้น เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ที่สำคัญเขารู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้มาก
"ป๋อ แด๊ดดี้เหรอครับ ไม่ได้มาครับแดดดี้ทำงาน งานยุ่งมาก"
"ขอโทษอีกครั้งนะคะ/ไปลูกคุณลุงรอนานแล้ว"เสียงหวานเอ่ยบอกไอ้ต้าวตัวน้อยก่อนจะช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอกแล้วรีบสาวเท้าเดินผ่านหน้าผมไปอย่างไว
ผมก็ไม่รีบรอเหมือนกันรีบสาวเท้าตามไปติด ๆ จนเห็นเธอขึ้นรถยนต์ที่ลานจอดรถด้วยความบังเอิญรถที่เธอขึ้นจอดไม่ห่างผมมาก และผมถึงมีเวลาขับรถตามรถยนต์ของ
เธอไปติด ๆ อยากจะรู้ว่าเธอพักอาศัยอยู่ที่ไหนแค่นั้น แค่นั้นจริง ๆ
ฝากคอมเม้นให้กำลังใจไรท์หน่อยนะคะที่รัก❤️
รถยนต์คันหรูขับตามรถยนต์คันหน้าอย่างไม่ลดล่ะ จนมาหยุดที่ประตูบ้านหลังใหญ่ที่ผมนั้นคุ้ยเคยเป็นอย่างดีขณะที่รถยนต์คันนั้นเลี้ยวเข้าไปในบ้านผมเลือกที่จะจอดอยู่ที่รั่วบ้านที่เป็นมุมอับถ้าคนข้างในมองออกมาจะไม่เห็นรถผมแต่ตรงกันข้ามผมสามารถมองเห็นคนข้างในได้อย่างชัดเจนขณะที่ในหัวของผมกับตั้งคำถามมากมาย บวกกับคำตอบที่นำเข้ามาหักล้างในสิ่งที่ผมคิดกับผู้หญิงคนที่ผมตามหาในช่วงเวลาหนึ่งถึงความเกี่ยวพันกับเพื่อนสนิทผมหรือว่าจะเป็นเมียแต่ทำไมเพื่อนผมไม่เห็นจะบอกอะไรพวกผมเลยทั้งที่เราสนิทกันมาก หรือจะเป็นญาติที่มาพักอยู่ด้วย หรือว่าจะเป็นน้องสาว สมองผมค่อย ๆ ประมวลผลเรื่อยๆ มาหยุดคำว่าน้องสาว ใช่มันมีน้องสาวแล้วน้องสาวมันมีลูกแล้วตอนนั้นมันขยันอัพรูปภาพของหลานชายลงกลุ่มไลน์บ่อย ๆ แต่มาช่วงหลังมันหยุดอัพไม่รู้ว่าเพราะอะไร สงสัยพรุ่งนี้ผมต้องเจ้าไปทักทายมันที่ทำงานซะหน่อยเมื่อคิดได้เช่นนั้นผมจึงหยุดความคิดนี้ไปก่อนของเฝ้าดูคนที่ผมตามหาให้หน่ำใจก่อนค่อยว่ากันขณะที่สายตาคู่คมยังคมมองเข้าไปด้านในที่ตอนนี้สาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งก้าวลงจากรถก่อนที่จะอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกสาวเท้าเข้าไปในตัวบ้านผมเลือกที่จะจ
หลังจากโดนเพื่อนสนิทอย่างออกัสชิงหนีไป ผมสาวเท้าออกมาจากบริษัทของเพื่อนด้วยอารมณ์ว้าวุ่น จะโกรธเพื่อนก็ไม่ได้เพราะเพื่อนมีหน้าที่รับผิดชอบเหมือนกันรถยนต์คันหรูขับมุ่งตรงเข้าไปยังโชว์รูมรถหรูเพราะมีเอกสารมากมายที่ต้องเคลียร์เหมือนกันอีกทั้งอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงงานมอเตอร์โชว์แล้ว"คุณเจแปนมาแล้วเหรอครับ"เลขาคนสนิทที่ทำงานตั้งแต่เปิดโชว์รูมใหม่ ๆ เอ่ยถามขณะเห็นร่างสูงของคนเป็นเจ้านายสาวเท้าเข้ามา เจแปนได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขอยาพาราเพราะตอนนี้ในหัวของเจแปนรู้สึกปวด และมึนไปหมด น่าจะเป็นเพราะการนอนน้อยและยังมีเรื่องสาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งให้คิดอีก"มีเอกสารอะไรก็เอาเข้ามาให้ผมเซ็นเลยนะ และอีกอย่างผมของยาพาราด้วยรู้สึกปวดหัวอย่างไงไม่รู้""ครับ"เวลาไม่นานเลขาหนุ่มก็ถือเอกสารเข้ามาในห้องก่อนจะออกไปสั่งแม่บ้านให้เอาน้ำและยาที่เจ้านายสั่งเอาไว้ก่อนเข้าห้องทำงานเจแปนเปิดเอกสารเซ็นทีล่ะเล่มจนแม่บ้านยกแก้วน้ำและยามา เขาถึงว่างปากกาลงหยิบเม็ดยาสีขาวเข้าปากก่อนจะตามด้วยน้ำอึกใหญ่ขณะเซ็นเอกสารอยู่ยาที่เริ่มทำงานทำให้อาการปวดหัวทุเลา แต่ถ้าได้พักสายตาอีกสักนิดอาการน่าจะกับมาดีเหมือนเดิม เ
เมื่อเข้ามายังห้องของคอนโด คนตัวเล็กที่อุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้แนบอกขณะที่ไอ้ต้าวตัวน้อยยังอยู่ห้วงในนิทรา อันนิการีบสาวเท้าเข้าห้องนอนเพื่อว่างไอ้ต้าวตัวน้อยให้นอนบนเตียงก่อนจะพาตัวเองออกมาเมื่อออกมาถึงก็เห็นของที่ซื้อมาอยู่บนโต๊ะอาหารในโซนที่จัดเป็นครัวทำอาหารแต่กับไร้เงาของคนใจดี จนได้ยินเสียงบานประตูห้องน้ำเปิดออก สายตาคู่หวานมองไปยังห้องน้ำถึงได้รู้ว่าหลังจากคนใจดีว่างของที่ซื้อมาห้างไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว คนใจดีนั้นได้เดินเข้าไปยังห้องน้ำแต่เขารู้ได้อยากไรว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนแต่ก็เลือกเก็บความสงสัยไว้ในใจไม่ได้ถามคนใจดีออกมาคนใจดีสาวเท้าเข้าไปนั่งที่โซฟารับแขกเรียบร้อยแล้วฉันถึงเลือกที่จะเดินเข้าไปยังโซนห้องครัว เก็บของสด และอาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็นก่อนที่ จะหยิบขวดน้ำรินน้ำเปล่าใส่แก้วแล้วถือมาให้คนใจดีโดยไม่ลืมจะที่กล่าวขอบคุณ เอาจริงถ้าไม่ได้เขาฉันก็แย่เหมือนกัน"น้ำคะ""ขอบคุณครับ.คุณชื่ออันใช่ไหม ส่วนผมชื่อเจแปนนะครับ"เจแปนรับแก้วน้ำไว้ในมือก่อนจะเอ่ยขอบคุณพร้อมกับถามชื่อและแนะนำตัวเองเสร็จสรรพและนี่คือการแนะนำตัวครั้งแรกของเราทั้งสองคนก็ว่าได้เจแปนได้แต่คิด"ขอบคุณคุ
จากตอนแรกที่คิดว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดของตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไมเจแปนถึงหันหัวรถยนต์ไปยังบ้านของตัวเองแทนเมื่อมาถึงบ้านก็พบกับความเงียบสนิทคาดเดาว่าคนในบ้านน่าจะหลับกันหมดแล้ว ตัวเองเลยเลือกที่จะขึ้นไปนอนเช่นกันช่วงสายของวันเจแปนตื่นขึ้นมาก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกับพบว่าคนเป็นแม่ที่นั่งเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่น กำลังเปิดดูอัลบั้มรูปที่แม่จะชอบเก็บไว้ในห้องนั่งเล่น"ทำอะไรอยู่ครับแล้วนั้น ดูรูปอะไรอยู่เหรอ"คนเป็นแม่หันไปตามเสียงเรียกพร้อมส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้คนเป็นลูกชายที่นาน ๆ ทีลูกชายจะกลับมานอนบ้านสักครั้งแต่รอบนี้มาแปลกทำไมถึงกลับมานอนบ้านได้"ทำไมถึงกลับบ้านได้ล่ะเรา มาแปลกนะถ้าแม่ไม่เรียกมาหาก็ไม่อยากที่จะกลับบ้านหรอก"คนเป็นแม่เอ่ยออกมาปนน้อยใจนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเข้าใจดีว่าลูกชายต้องทำงานขณะที่เจแปนที่ได้ยินแม่เอ่ยถึงกับยกยิ้มก่อนจะสาวเท้าเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกับคนเป็นแม่ก่อนจะกอดเอวและซบลงหัวไหล่คนเป็นแม่อย่างออดอ้อน"คิดถึงแม่ครับเลยมานอนบ้าน แล้วนี่ดูอะไรอยู่ครับแม่"สายตาคมมองไปยังอัลบั้มรูปที่แม่เปิดค้างไว้เขายังจำได้ดีคือรูปตอนเขายังเป็นเด็กแต่ก็ยังแกล้งถามคน
อันนิกานั่งรถพี่ชายมาถึงคอนโดแห่งหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นของพี่ชายตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีรถอีกคันขับตามมาเมื่อพี่ชายอย่างออกัสขับมายังลานจอดรถของคอนโดคนร่างบางของน้องสาวก็ก้าวลงจากรถก่อนที่คนเป็นลูกอย่างไอ้ต้าวตัวน้อยจะลงรถตามคนเป็นแม่มา"อุ้มหน่อย ซีนายเหนื่อย แดดดี้อุ้มซีนายหน่อยครับ"เสียงใสเอ่ยออดอ้อนคนเป็นลุงเมื่อเห็นคนเป็นลุงลงจากรถ แล้วทำท่าจะเดินนำเข้าไปด้านในคอนโด"เรานี่จริง ๆ เลยนะโตขนาดยังจะให้อุ้ม"เสียงทุ้มของคนเป็นลุงบ่นออกมาเบา ๆ แต่ก็ยอมอุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้ในอ้อมกอดก่อนจะเดินนำฉันเข้าไปด้านในคอนโดขณะที่ฉันถึงกับส่ายหน้าเบา ๆ กับการกระทำของไอ้ต้าวตัวน้อยก่อนจะเดินตามหลังพี่ชายไปติด ๆด้านเจแปนผมขับรถตามรถที่คนตัวเล็กนั่งมาจนถึงคอนโดหรูแห่งหนึ่ง หัวใจผมชาวาบหรือเขาคนนั้นจะเป็นสามีของคนตัวเล็กถ้าอย่างงั้นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ว่าน้องซีนายเป็นลูกของผม ก็เป็นเรื่องที่ผมคิดไปเองนะซิผมขับรถมาจอดในลานจอดรถของคอนโดที่มีความรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จึงทำให้ผมเข้าไปภายในคอนโดนั้นไม่ได้ ขนาดจะเข้ามายังพื้นที่ลานจอดรถยังต้องแลกบัตรเลย แล้วอย่าคิดว่าผมจะเข้าไปยังภายในอาคารของคอ
ตี 5 ของวันใหม่ฉันรีบตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อต้องการจะปลุกคนหน้ามึนให้ตื่นก่อนไอ้ต้าวตัวน้อยจะตื่นขึ้นมาเพื่อไปโรงเรียนสองขาวาดลงจากเตียงก่อนจะสาวเท้าด้วยความเร็วออกไปทิศทางของโซฟาที่ตอนนี้เป็นที่นอนให้กับคนที่เป็นพ่อของลูก ก่อนจะยื่นฝ่ามือบางเขย่าร่างหนาที่ตอนนี้หลับไม่รู้เรื่อง"คุณ คุณ ตื่นเถอะ กลับไปก่อนเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเจอ"ขณะที่เจแปนนั้นรู้สึกตัวตั้งแต่คนตัวเล็กเปิดประตูออกมาแล้วแต่เจ้าตัวกับทำตัวเจ้าเล่ห์แกล้งหลับตาเสมือนว่าตัวเองนั้นยังนอนหลับยังไม่ตื่น"อืม..."เสียงทุ้มเปล่งออกมาทำเหมือนรำคาญแต่ในใจกับยกยิ้มก่อนที่เจแปนจะวาดท่อนแขนพร้อมกับส่งฝ่ามือหนาดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด"ว๊าย..."เสียงหวานเปล่งออกด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้ก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงอีกทั้งตอนนี้ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงเซน จนรับรู้ถึงกลิ่นไอลมหายใจของกันและกัน สายตาคู่สวยกวาดมองไปที่ใบหน้าหล่อที่ตอนนี้ปิดเปลือกตาสนิท ด้วยความสงสัยในพฤติกรรมอดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าหลับจริงหรือไม่"หลับจริงหรือเปล่านี่ คุณตื่นเถอะเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเห็น""....." คนที่แกล้งกับแสดงออกมาอย่าเ
คำโปรยการกลับมาเที่ยวบ้านเกิดของ.... ในครั้งนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่าจากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบภัย...ในคำคืนก่อนบินกลับไปเรียน เพื่อนสาวคนสนิท...อยากเลี้ยงอำลา เธอผู้ไม่ชอบแสงสีและเสียงที่ดังอย่างการเข้าผับบาร์แต่เพียงเพราะเพื่อนคนสนิทร้องขอเธอจะปฎิเสธก็กะไรอยู่ในที่อโคจร....ความประมาทเกิดขึ้นได้เสมอใช่มันเกิดขึ้นกับเธอเร็วมากร่างกายโดนสิ่งแปลกปลอมวิ่งเข้าสู่ร่างกายทำเธอร้อนรุ่มหาที่เปรียบไม่ได้นาทีนี้เธอจะตายไหมนะ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือฟ้าลิขิตในคำคืนนี้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครคนหนึ่ง...เขาคือใคร...?อันนิกาตื่นขึ้นมาตอนเช้าร่างกายที่ โดนคนบนเตียงปูยี้ปูยำ..ตัวเธอยืน มองชายหนุ่มร่างกำยำผู้พรากความ สาวไปจากเธอ...แต่วินาทีนั้นเธอต้องบินแล้ว"เธอจากมาโดนไม่ลา3เดือนต่อมาในต่างประเทศ ร่างกายของเธอมีการต่อต้านอาหารที่โปรดปรานเอามาก"อันท้องหรือ..."บ้า..... แต่ในใจเธอมันมีมากกว่าหมื่นแสนล้านคำ..เธอท้องหริอชิบหายคืนนั้นฉันลืมเลยแนะนำตัวละครเจแปน หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เจ้าของโชว์รูมรถชื่อดังที่นำเข้าและขายรถหรู หล่อ รวย เจ้าชู้นิด ๆ ตามแบบฉบับคนโสดอันนิกา แอนดิสัน ล
เวลาเริ่มดึกคนต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายส่งผลให้บรรยากาศภายในร้านเริ่มมีนักท่องเที่ยวแน่นและเยอะกว่าทุกวันหรือนี่อาจจะเป็นวันศุกร์ของสิ้นเดือนนักท่องเที่ยวเลยเยอะมากกว่าปกติสามสาวนั่งดื่มค๊อกเทลบนโต๊ะจนเริ่ม หร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ตลอดการนั่งดื่มของสามสาวต่างมีหนุ่ม ๆ ค่อยแวะเวียนมาขอชนแก้วไม่ขาดสายยิ่งดึกเสียงเพลงยิ่งเป็นจังหวะที่สนุกสนามสองสาวอย่างนิสากับปานดาวลุกขึ้นอวดลวดลายโชว์สเต็ปการเต้นข้างโต๊ะที่หญิงสาวนั่งแบบไม่มีใครยอมใครและขาดไม่ได้เลยที่จะมีหนุ่ม ๆ ขยับมาเต้นใกล้ ๆ เพื่อนทั้งสองฉันมองแล้วกับยิ้มที่นาน ๆ ทีจะเห็นเพื่อนทั้งสองสนุกขนาดนี้ ก่อนจะรู้สึกปวดท้องน้อยขึ้นมาเป็นเพราะปวดฉี่ อยากจะเข้าห้องน้ำก็แหมจะไม่ปวดได้อย่างไรในเมื่อฉันดื่มค๊อกเทลด้านหน้าหมดไปแล้วไม่รู้กี่แก้วแต่ที่รู้คือค๊อกเทลที่สองสาวสั่งมาเราสามคนต่างช่วยกันดื่ม"นี่แกฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"ฉันบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายที่ด้านในมีโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ติดตัวไปด้วย"อืม รีบไปรีบมานะ กระเป๋าก็ว่างที่โต๊ะแหละไม่หายหรอก""ว่าจะไปโทรศัพท์หาพี่ออกัสด้วยตั้งแต่มายังไม่ได้บอกพี่ออกัสเลยว่าอยู