หลังจากโดนเพื่อนสนิทอย่างออกัสชิงหนีไป ผมสาวเท้าออกมาจากบริษัทของเพื่อนด้วยอารมณ์ว้าวุ่น จะโกรธเพื่อนก็ไม่ได้เพราะเพื่อนมีหน้าที่รับผิดชอบเหมือนกัน
รถยนต์คันหรูขับมุ่งตรงเข้าไปยังโชว์รูมรถหรูเพราะมีเอกสารมากมายที่ต้องเคลียร์เหมือนกันอีกทั้งอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงงานมอเตอร์โชว์แล้ว
"คุณเจแปนมาแล้วเหรอครับ"เลขาคนสนิทที่ทำงานตั้งแต่เปิดโชว์รูมใหม่ ๆ เอ่ยถามขณะเห็นร่างสูงของคนเป็นเจ้านายสาวเท้าเข้ามา เจแปนได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขอยาพาราเพราะตอนนี้ในหัวของเจแปนรู้สึกปวด และมึนไปหมด น่าจะเป็นเพราะการนอนน้อยและยังมีเรื่องสาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งให้คิดอีก
"มีเอกสารอะไรก็เอาเข้ามาให้ผมเซ็นเลยนะ และอีกอย่างผมของยาพาราด้วยรู้สึกปวดหัวอย่างไงไม่รู้"
"ครับ"
เวลาไม่นานเลขาหนุ่มก็ถือเอกสารเข้ามาในห้องก่อนจะออกไปสั่งแม่บ้านให้เอาน้ำและยาที่เจ้านายสั่งเอาไว้ก่อนเข้าห้องทำงาน
เจแปนเปิดเอกสารเซ็นทีล่ะเล่มจนแม่บ้านยกแก้วน้ำและยามา เขาถึงว่างปากกาลงหยิบเม็ดยาสีขาวเข้าปากก่อนจะตามด้วยน้ำอึกใหญ่
ขณะเซ็นเอกสารอยู่ยาที่เริ่มทำงานทำให้อาการปวดหัวทุเลา แต่ถ้าได้พักสายตาอีกสักนิดอาการน่าจะกับมาดีเหมือนเดิม เมื่อคิดได้เช่นนั้นเจแปนเลือกที่จะปิดเอกสารลงก่อนจะปิดเปลือกตาลงตามความคิดจนเวลาผ่านถึงช่วงเย็นเลขาคนสนิทที่ได้เวลากลับบ้านจึงเลือกที่จะเข้ามาดูเจ้านายหนุ่มที่ตอนนี้ยังคงหลับอยู่ที่โต๊ะทำงาน
"คุณเจแปนครับ"เสียงทุ้มของเลขาหนุ่มเอ่ยเรียกเจ้านายขณะที่เจ้านายกับขานรับเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง "อืม"ก่อนจะค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ
"คือผมจะบอกว่าตอนนี้เย็นมากแล้วผมคิดว่าคุณเจแปนกลับไปพักผ่อนที่คอนโดน่าจะดีกว่า"เสียงทุ้มของเลขาหนุ่มบอกด้วยความห่วงใย อยากให้เจ้านายกลับไปพักผ่อนที่คอนโดของตัวเองน่าจะสบายกว่าที่ต้องนอนที่เก้าอี้ทำงาน
"อืมดีเหมือนกัน ขอบใจนายมาก"ตอบเสร็จคนเป็นเจ้านายก็เลือกทำตามเลขาบอก
เจแปนขับรถตรงไปยังคอนโดที่อยู่ใจกลางเมื่อต้องขับรถผ่านหน้าห้างที่บังเอิญเจอสาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งเมื่อวานทำให้เจแปนเริ่มที่จะชะลอรถก่อนจะใช้สายตาคู่คมสอดส่องบริเวณหน้าห้างเพื่อบังเอิญเขาจะเจอคนที่เขาคิดถึงมาตลอด
แต่แล้วสวรรค์ก็เป็นใจเมื่อสายตาคู่คมมองเห็นร่างบอบบางยืนอยู่กับเด็กน้อยวัยน่ารักและในมือยังถือถุงพะรุงพะรังบริเวณหน้าห้างเท้าแกร่งเหยียบเบรคทันทีเมื่อขับมาถึงคนที่เขาคิดถึงก่อนจะลดกระจกด้านข้างฝั่งคนนั่งลงพร้อมกับเอ่ยเรียกคนที่เขาคิดถึงตลอดให้มาขึ้นรถ"จะไปไหนขึ้นรถเถอะเดี๋ยวผมไปส่ง"
"ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวแท็กซี่ก็มาแล้วไม่รบกวนดีกว่า"
"ขึ้นมาเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกเห็นไหมว่าตอนนี้รถติดยาวมากแล้ว"สายตาคู่หวานมองไปยังไอ้ต้าวตัวน้อยก่อนที่มีสภาพอิดโรยกรอบหน้าน้อยมีเหงื่อผุดขึ้นมาเล็กน้อยถึงกับสงสารไอ้ต้าวตัวน้อยจับใจ อีกทั้งถุงในมือทั้งสองข้างยังถือของพะรุงพะรังอันนิกาจึงยอมเปิดประตูสาวเท้าขึ้นรถยนต์ด้านหลังคนขับตามที่คนใจดีบอก
ย้อนตอนเย็นช่วงหลังเลิกเรียนของไอ้ต้าวตัวน้อยอันนิกานั่งรถแท็กซี่ไปรับลูกชายที่โรงเรียน ก่อนจะกลับคอนโดคนเป็นแม่เลือกที่จะพาไอ้ต้าวตัวน้อยแวะไปทานอาหารที่ห้างเหมือนดั่งเช่นเมื่อวาน หลังจากทานข้าวเสร็จคนเป็นแม่พาไอ้ต้าวตัวน้อยมาเลือกซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้ลูกชายช่วงเช้าก่อนที่ลูกชายจะไปโรงเรียน
สองแม่ลูกต่างเดินเตร็ดเตร่เลือกหาซื้อ ผัก ผล ขนม นม เนย และอาหารสดจนเต็มรถเข็นก่อนจะคิดเงินที่แคชเชียร์เมื่อคิดว่าได้วัตถุครบแล้ว มือบางถือถุงเต็มสองไม้สองมือก่อนที่จะพาไอ้ต้าวตัวน้อยมาเรียกรถแท็กซี่หน้าห้าง แต่ไม่คิดว่าช่วงเย็นเป็นช่วงเวลาของคนเลิกงานคนจึงเยอะกว่าเวลาปกติทำให้เรียกรถแท็กซี่ยากกว่าทุกครั้ง สายตาคู่หวานมองไปยังไอ้ต้าวตัวน้อยที่ตอนนี้เริ่มมีเหงื่อชื้นขึ้นตามกรอบหน้าและรู้สึกว่าลูกชายมีสภาพอิดโรยคงเป็นเพราะเมื่อเช้านี้ต้องตื่นเช้าเพื่อต้องมาให้ทันโรงเรียนแน่ ๆ เห็นแล้วก็สงสารลูกจับใจ
สายตาคู่สวยยังสอดส่องหาแท็กซี่ก่อนจะเห็นรถยนต์คันหรูสีดำลดกระจกลง และมีเสียงคนในรถเปล่งออกมาเรียกฉันจนเสียงดัง
"จะไปไหนขึ้นรถเถอะเดี๋ยวผมไปส่ง"พร้อมกับก้มหน้าให้ฉันเห็นชัด ๆ ว่าเป็นใครขณะที่ฉันตกใจเล็กน้อยไม่คิดว่าจะเจอกันอีกครั้งก่อนบอกคนใจดีด้วยความเกรงใจ
"ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวแท็กซี่ก็มาแล้วไม่รบกวนดีกว่า"
"ขึ้นมาเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกเห็นไหมว่าตอนนี้รถติดยาวมากแล้ว"เสียงทุ่มเปล่งออกมาทำให้สายตาคู่หวานมองไปด้านหลังรถ ก็จริงแบบเขาบอกตอนนี้รถติดยาวเยียดก่อนจะมองไปยังไอ้ต้าวตัวน้อยที่ตอนนี้มีสภาพดูอิดโรย และอากาศที่เมืองไทยนั้นร้อนอบอ้าวทำให้เห็นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นรอบกรอบหน้าไอ้ต้าวตัวน้อย
ฉันจึงยอมเปิดประตูรถด้านหลังให้ไอ้ต้าวตัวน้อยขึ้นมาก่อนที่ฉันจะหิ้วข้าวของที่ซื้อมาขึ้นนั่งตามลูกชาย"ให้ผมไปส่งที่ไหนครับ"เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อขับรถออกจากหน้าห้างแล้ว
"คอนโด A ค่ะ"
รถยนต์คันหรูขับมุ่งหน้าไปทิศทางคอนโด A ตามที่อันนิกาบอกขณะที่ขับรถสายตาคู่คมมองกระจกหลังเกือบตลอดเวลาขณะที่อันนิการู้สึกตัวถึงสายตาคู่คมจ้องมองตัวเองเช่นกันมือเรียวสวยจึงเลือกหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาดูแกล้งทำเป็นไม่สนใจสายตาคู่นั้น
จนรถมาจอดด้านหน้าคอนโดสายตาคู่สวยหันไปขอบคุณคนใจดีก่อนที่จะเรียกไอ้ต้าวตัวน้อยให้ลงจากรถ ก่อนหน้านั้นขณะที่รถยนต์ขับออกมาไม่กี่นาทีไอ้ต้าวตัวน้อยหลับไปตอนไหนไม่รู้คนเป็นแม่หันหน้ามาดูลูกชายอีกทีไอ้ต้าวตัวน้อยก็หลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ซีนายตื่นเถอะลูกถึงแล้ว"ไอ้ต้าวตัวน้อยกับเงียบขณะที่สายตาคู่คมหันมามองด้านหลังก็เห็นว่าเด็กน้อยตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่บนเบาะด้านหลัง
"ให้ผมถือของไปส่งดีกว่า ไม่ต้องไปปลุกแกหรอกสงสัยจะเหนื่อยมาก"
"ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวอันลองปลุกน้องซีนายอีกที"เสียงหวานเอ่ยบอกผมทำให้ผมรู้จักชื่อของคนที่ผมคิดถึงแบบไม่ได้ตั้งใจ
"ให้ผมไปส่งเถอะ ดูท่าแล้วแกคงจะเหนื่อยมากอย่าปลุกแกเลย"เสียงทุ้มเอ่ยบอกด้วย ใจ ตุ๊บ ๆ ต่อม ๆ ว่าคนด้านหลังจะว่าอย่างไรขณะที่อันนิกามองไปไอ้ต้าวตัวน้อยที่ยังหลับอยู่ก่อนจะถอนหายใจออกมา
"เฮ้อ!"ในใจคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วเหตุการณ์กลับพลิกผันต้องวนกับมาเจอกันอีกรอบและตอนนี้เขายังเสนอตัวจากพลเมืองดีกลายเป็นคนใจดีให้จิตใจดวงน้อยสั่นไหวอีกรอบ
"ถ้างั้นฝากด้วยแล้วกันรู้สึกเกรงใจเหลือเกินที่ให้คุณลำบาก"เสียงหวานเอ่ยบอกอย่างเลือกอะไรไม่ได้ส่งถุงหลายใบให้คนใจดีก่อนแล้วตัวเองหันมาอุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด
ขาเรียวสวยสาวเท้านำหน้าคนใจดีก่อนจะให้คนใจดีกดลิฟท์เพื่อที่จะโดยสารมายังห้องของตัวเองขณะที่ลิฟต์เปิดออกใจแกร่งสั่นไหวอีกรอบกลัวว่าห้องที่คนตัวเล็กจะพาไปเป็นห้องของเพื่อนสนิทและสิ่งที่เขาคิดไว้ก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อร่างบางมาหยุดที่หน้าห้องที่เขาคุ้นเคย
"คุณพักอยู่ห้องนี้เหรอครับ"
"ใช่ค่ะ"อันนิกาบอกพร้อมกับกดรหัสเพื่อที่จะเข้าไปในห้อง
คนตัวสูงสาวเท้าเข้ามาในห้องก่อนจะวางของที่ซื้อไว้บนโต๊ะอาหารโซนห้องครัว สายตาคู่หวานมองก็กระทำของคนใจดีกับมีความสงสัยอะไรบ้างอย่างดูการกระทำที่คนตัวสูงทำเหมือนคุ้นชินห้องที่ตัวเองอยู่เป็นอย่างดีเพราะหลังจากว่างของที่ซื้อบนโต๊ะอาหารโซนห้องครัวแล้วคนใจดีกับเดินดิ่งไปเข้าห้องน้ำโดยไม่ถามเจ้าของห้องสักคำว่าห้องน้ำไปทางไหน
เมื่อเข้ามายังห้องของคอนโด คนตัวเล็กที่อุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้แนบอกขณะที่ไอ้ต้าวตัวน้อยยังอยู่ห้วงในนิทรา อันนิการีบสาวเท้าเข้าห้องนอนเพื่อว่างไอ้ต้าวตัวน้อยให้นอนบนเตียงก่อนจะพาตัวเองออกมาเมื่อออกมาถึงก็เห็นของที่ซื้อมาอยู่บนโต๊ะอาหารในโซนที่จัดเป็นครัวทำอาหารแต่กับไร้เงาของคนใจดี จนได้ยินเสียงบานประตูห้องน้ำเปิดออก สายตาคู่หวานมองไปยังห้องน้ำถึงได้รู้ว่าหลังจากคนใจดีว่างของที่ซื้อมาห้างไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว คนใจดีนั้นได้เดินเข้าไปยังห้องน้ำแต่เขารู้ได้อยากไรว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนแต่ก็เลือกเก็บความสงสัยไว้ในใจไม่ได้ถามคนใจดีออกมาคนใจดีสาวเท้าเข้าไปนั่งที่โซฟารับแขกเรียบร้อยแล้วฉันถึงเลือกที่จะเดินเข้าไปยังโซนห้องครัว เก็บของสด และอาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็นก่อนที่ จะหยิบขวดน้ำรินน้ำเปล่าใส่แก้วแล้วถือมาให้คนใจดีโดยไม่ลืมจะที่กล่าวขอบคุณ เอาจริงถ้าไม่ได้เขาฉันก็แย่เหมือนกัน"น้ำคะ""ขอบคุณครับ.คุณชื่ออันใช่ไหม ส่วนผมชื่อเจแปนนะครับ"เจแปนรับแก้วน้ำไว้ในมือก่อนจะเอ่ยขอบคุณพร้อมกับถามชื่อและแนะนำตัวเองเสร็จสรรพและนี่คือการแนะนำตัวครั้งแรกของเราทั้งสองคนก็ว่าได้เจแปนได้แต่คิด"ขอบคุณคุ
จากตอนแรกที่คิดว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดของตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไมเจแปนถึงหันหัวรถยนต์ไปยังบ้านของตัวเองแทนเมื่อมาถึงบ้านก็พบกับความเงียบสนิทคาดเดาว่าคนในบ้านน่าจะหลับกันหมดแล้ว ตัวเองเลยเลือกที่จะขึ้นไปนอนเช่นกันช่วงสายของวันเจแปนตื่นขึ้นมาก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกับพบว่าคนเป็นแม่ที่นั่งเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่น กำลังเปิดดูอัลบั้มรูปที่แม่จะชอบเก็บไว้ในห้องนั่งเล่น"ทำอะไรอยู่ครับแล้วนั้น ดูรูปอะไรอยู่เหรอ"คนเป็นแม่หันไปตามเสียงเรียกพร้อมส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้คนเป็นลูกชายที่นาน ๆ ทีลูกชายจะกลับมานอนบ้านสักครั้งแต่รอบนี้มาแปลกทำไมถึงกลับมานอนบ้านได้"ทำไมถึงกลับบ้านได้ล่ะเรา มาแปลกนะถ้าแม่ไม่เรียกมาหาก็ไม่อยากที่จะกลับบ้านหรอก"คนเป็นแม่เอ่ยออกมาปนน้อยใจนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเข้าใจดีว่าลูกชายต้องทำงานขณะที่เจแปนที่ได้ยินแม่เอ่ยถึงกับยกยิ้มก่อนจะสาวเท้าเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกับคนเป็นแม่ก่อนจะกอดเอวและซบลงหัวไหล่คนเป็นแม่อย่างออดอ้อน"คิดถึงแม่ครับเลยมานอนบ้าน แล้วนี่ดูอะไรอยู่ครับแม่"สายตาคมมองไปยังอัลบั้มรูปที่แม่เปิดค้างไว้เขายังจำได้ดีคือรูปตอนเขายังเป็นเด็กแต่ก็ยังแกล้งถามคน
อันนิกานั่งรถพี่ชายมาถึงคอนโดแห่งหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นของพี่ชายตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีรถอีกคันขับตามมาเมื่อพี่ชายอย่างออกัสขับมายังลานจอดรถของคอนโดคนร่างบางของน้องสาวก็ก้าวลงจากรถก่อนที่คนเป็นลูกอย่างไอ้ต้าวตัวน้อยจะลงรถตามคนเป็นแม่มา"อุ้มหน่อย ซีนายเหนื่อย แดดดี้อุ้มซีนายหน่อยครับ"เสียงใสเอ่ยออดอ้อนคนเป็นลุงเมื่อเห็นคนเป็นลุงลงจากรถ แล้วทำท่าจะเดินนำเข้าไปด้านในคอนโด"เรานี่จริง ๆ เลยนะโตขนาดยังจะให้อุ้ม"เสียงทุ้มของคนเป็นลุงบ่นออกมาเบา ๆ แต่ก็ยอมอุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้ในอ้อมกอดก่อนจะเดินนำฉันเข้าไปด้านในคอนโดขณะที่ฉันถึงกับส่ายหน้าเบา ๆ กับการกระทำของไอ้ต้าวตัวน้อยก่อนจะเดินตามหลังพี่ชายไปติด ๆด้านเจแปนผมขับรถตามรถที่คนตัวเล็กนั่งมาจนถึงคอนโดหรูแห่งหนึ่ง หัวใจผมชาวาบหรือเขาคนนั้นจะเป็นสามีของคนตัวเล็กถ้าอย่างงั้นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ว่าน้องซีนายเป็นลูกของผม ก็เป็นเรื่องที่ผมคิดไปเองนะซิผมขับรถมาจอดในลานจอดรถของคอนโดที่มีความรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จึงทำให้ผมเข้าไปภายในคอนโดนั้นไม่ได้ ขนาดจะเข้ามายังพื้นที่ลานจอดรถยังต้องแลกบัตรเลย แล้วอย่าคิดว่าผมจะเข้าไปยังภายในอาคารของคอ
ตี 5 ของวันใหม่ฉันรีบตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อต้องการจะปลุกคนหน้ามึนให้ตื่นก่อนไอ้ต้าวตัวน้อยจะตื่นขึ้นมาเพื่อไปโรงเรียนสองขาวาดลงจากเตียงก่อนจะสาวเท้าด้วยความเร็วออกไปทิศทางของโซฟาที่ตอนนี้เป็นที่นอนให้กับคนที่เป็นพ่อของลูก ก่อนจะยื่นฝ่ามือบางเขย่าร่างหนาที่ตอนนี้หลับไม่รู้เรื่อง"คุณ คุณ ตื่นเถอะ กลับไปก่อนเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเจอ"ขณะที่เจแปนนั้นรู้สึกตัวตั้งแต่คนตัวเล็กเปิดประตูออกมาแล้วแต่เจ้าตัวกับทำตัวเจ้าเล่ห์แกล้งหลับตาเสมือนว่าตัวเองนั้นยังนอนหลับยังไม่ตื่น"อืม..."เสียงทุ้มเปล่งออกมาทำเหมือนรำคาญแต่ในใจกับยกยิ้มก่อนที่เจแปนจะวาดท่อนแขนพร้อมกับส่งฝ่ามือหนาดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด"ว๊าย..."เสียงหวานเปล่งออกด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้ก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงอีกทั้งตอนนี้ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงเซน จนรับรู้ถึงกลิ่นไอลมหายใจของกันและกัน สายตาคู่สวยกวาดมองไปที่ใบหน้าหล่อที่ตอนนี้ปิดเปลือกตาสนิท ด้วยความสงสัยในพฤติกรรมอดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าหลับจริงหรือไม่"หลับจริงหรือเปล่านี่ คุณตื่นเถอะเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเห็น""....." คนที่แกล้งกับแสดงออกมาอย่าเ
คำโปรยการกลับมาเที่ยวบ้านเกิดของ.... ในครั้งนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่าจากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบภัย...ในคำคืนก่อนบินกลับไปเรียน เพื่อนสาวคนสนิท...อยากเลี้ยงอำลา เธอผู้ไม่ชอบแสงสีและเสียงที่ดังอย่างการเข้าผับบาร์แต่เพียงเพราะเพื่อนคนสนิทร้องขอเธอจะปฎิเสธก็กะไรอยู่ในที่อโคจร....ความประมาทเกิดขึ้นได้เสมอใช่มันเกิดขึ้นกับเธอเร็วมากร่างกายโดนสิ่งแปลกปลอมวิ่งเข้าสู่ร่างกายทำเธอร้อนรุ่มหาที่เปรียบไม่ได้นาทีนี้เธอจะตายไหมนะ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือฟ้าลิขิตในคำคืนนี้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครคนหนึ่ง...เขาคือใคร...?อันนิกาตื่นขึ้นมาตอนเช้าร่างกายที่ โดนคนบนเตียงปูยี้ปูยำ..ตัวเธอยืน มองชายหนุ่มร่างกำยำผู้พรากความ สาวไปจากเธอ...แต่วินาทีนั้นเธอต้องบินแล้ว"เธอจากมาโดนไม่ลา3เดือนต่อมาในต่างประเทศ ร่างกายของเธอมีการต่อต้านอาหารที่โปรดปรานเอามาก"อันท้องหรือ..."บ้า..... แต่ในใจเธอมันมีมากกว่าหมื่นแสนล้านคำ..เธอท้องหริอชิบหายคืนนั้นฉันลืมเลยแนะนำตัวละครเจแปน หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เจ้าของโชว์รูมรถชื่อดังที่นำเข้าและขายรถหรู หล่อ รวย เจ้าชู้นิด ๆ ตามแบบฉบับคนโสดอันนิกา แอนดิสัน ล
เวลาเริ่มดึกคนต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายส่งผลให้บรรยากาศภายในร้านเริ่มมีนักท่องเที่ยวแน่นและเยอะกว่าทุกวันหรือนี่อาจจะเป็นวันศุกร์ของสิ้นเดือนนักท่องเที่ยวเลยเยอะมากกว่าปกติสามสาวนั่งดื่มค๊อกเทลบนโต๊ะจนเริ่ม หร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ตลอดการนั่งดื่มของสามสาวต่างมีหนุ่ม ๆ ค่อยแวะเวียนมาขอชนแก้วไม่ขาดสายยิ่งดึกเสียงเพลงยิ่งเป็นจังหวะที่สนุกสนามสองสาวอย่างนิสากับปานดาวลุกขึ้นอวดลวดลายโชว์สเต็ปการเต้นข้างโต๊ะที่หญิงสาวนั่งแบบไม่มีใครยอมใครและขาดไม่ได้เลยที่จะมีหนุ่ม ๆ ขยับมาเต้นใกล้ ๆ เพื่อนทั้งสองฉันมองแล้วกับยิ้มที่นาน ๆ ทีจะเห็นเพื่อนทั้งสองสนุกขนาดนี้ ก่อนจะรู้สึกปวดท้องน้อยขึ้นมาเป็นเพราะปวดฉี่ อยากจะเข้าห้องน้ำก็แหมจะไม่ปวดได้อย่างไรในเมื่อฉันดื่มค๊อกเทลด้านหน้าหมดไปแล้วไม่รู้กี่แก้วแต่ที่รู้คือค๊อกเทลที่สองสาวสั่งมาเราสามคนต่างช่วยกันดื่ม"นี่แกฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"ฉันบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายที่ด้านในมีโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ติดตัวไปด้วย"อืม รีบไปรีบมานะ กระเป๋าก็ว่างที่โต๊ะแหละไม่หายหรอก""ว่าจะไปโทรศัพท์หาพี่ออกัสด้วยตั้งแต่มายังไม่ได้บอกพี่ออกัสเลยว่าอยู
ด้านอันนิกา ฉันดีใจมากที่มีผลเมืองดีมาช่วยฉันไว้ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนก่อนหน้านั้นฉันคิดว่าเขาน่าไว้ใจและดูปลอดภัยกว่าผู้ชายคนนั้นดีเท่าไหร่แล้วที่เมื่อครู่ฉันรวบรวมแรงที่มีอยู่สะบัดท่อนแขนออกจากการจับกุมจากผู้ชายที่อันตรายคนนั้นได้คิดถึงช่วงเวลานั้นฉันยังกลัวไม่หาย เมื่อได้ยินคนใจดีเอ่ยชวนฉันว่าจะไปส่งฉันจึงไม่คิดที่ปฎิเสธเลย ยอมก้าวเดินตามชายรูปร่างสูงไปยังรถอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเข้าไปนั่งด้านในรถฝั่งข้างคนขับรถยนต์คันหรูถูกขับออกจากผับที่มี รถสัญจรไม่หนาแน่นเท่าช่วงเช้าหรือช่วงเย็นอาจเป็นเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่ดึกและเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลาย ๆ คนแต่เมื่อรถถูกขับไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งฉันกับมีอาการบ้างอย่างแล่นเข้ามาภายในร่างกายความรู้สึกร้อนวูบวาบจากภายใน จิตใจเริ่มสั่นไหว"น้องยังไม่บอกพี่เลยว่าบ้านอยู่ไหน"ฉันได้ยินเสียงทุ้มของคนที่นั่งด้านข้างเอ่ยถามฉัน ขนาดที่สมองกับอื้ออึงคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันเริ่มจะทนอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว"...""น้องไม่ได้ยินที่พี่ถามเหรอ พี่ถามว่าจะให้พี่ไปส่งที่ไหน"เสียงทุ้มเอ่ยถามฉันอีกรอบ ก่อนที่พี่ชาย
ขณะคนตัวเล็กกับพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับพร้อมกับยกท่อนแขนเรียวโอบรอบลำคอหนาบดเบียดอกนุ่มนิ่มแนบชิดแผงอกแกร่งพร้อมกับส่งสายตาคู่สวยสบตาคมของผมอย่างหยาดเยิ้มสติสัมปชัญญะของผมแตกกระเจิง หัวใจเต้นเร้า ฝ่ามือหนายกขึ้นจับท้ายทอยพร้อมส่งจูบอันเร้าร้อนเข้าไปตักตวงหาความหอมหวานจากโพร่งปากด้านในปลายลิ้นหนากวาดต้อนหาความหอมหวานก่อนจะเกี่ยวตวัดหยอกเหย้าเรียวลิ้นบางที่เปียกชื้นอย่างเร้าร้อน ในขณะที่สาวสวยในอ้อมกอดกับตอบกับเรียวลิ้นหนาเหมืิอนคนไร้ประสบการณ์ แม้จะดูเงะงะไปบางแต่กับทำสร้างความหอมหวานปลุกกระสันความเป็นชายจนไม่อาจจะหักห้ามใจจากตอนแรกคิดจะทัดทานความสัมพันธ์อันจาบจ้วงแต่เมื่อโดนรุกเร้ามาก ๆ ผมไม่อาจจะหักห้ามใจได้เลย มาถึงขนาดนี้แล้วอะไรจะเกิดก็เกิดเถอะผมยอมรับผลกรรมมือหนาจับใบหน้าเรียวสวยออกห่างพร้อมกับแนบจมูกโด่งจรดแก้มเนียนใสก่อนจะกระซิบลงข้างใบหูของคนบนตักด้วยน้ำเสียงกระเส่า"ทนได้ไหมเดี๋ยวก็ถึงคอนโดพี่แล้ว"คนร่างเล็กส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มขณะที่มือเรียวบางทั้งสองจับไหล่หนาผมไว้แน่น กดส่ายสะโพกบดเบียดเนินเนี้อนางถูไถลงที่ท่อนเอ็นลำใหญ่ ผมถึงกับครางด้วยความเสีย