อันนิกานั่งรถพี่ชายมาถึงคอนโดแห่งหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นของพี่ชายตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีรถอีกคันขับตามมา
เมื่อพี่ชายอย่างออกัสขับมายังลานจอดรถของคอนโดคนร่างบางของน้องสาวก็ก้าวลงจากรถก่อนที่คนเป็นลูกอย่างไอ้ต้าวตัวน้อยจะลงรถตามคนเป็นแม่มา
"อุ้มหน่อย ซีนายเหนื่อย แดดดี้อุ้มซีนายหน่อยครับ"เสียงใสเอ่ยออดอ้อนคนเป็นลุงเมื่อเห็นคนเป็นลุงลงจากรถ แล้วทำท่าจะเดินนำเข้าไปด้านในคอนโด
"เรานี่จริง ๆ เลยนะโตขนาดยังจะให้อุ้ม"เสียงทุ้มของคนเป็นลุงบ่นออกมาเบา ๆ แต่ก็ยอมอุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้ในอ้อมกอดก่อนจะเดินนำฉันเข้าไปด้านในคอนโดขณะที่ฉันถึงกับส่ายหน้าเบา ๆ กับการกระทำของไอ้ต้าวตัวน้อยก่อนจะเดินตามหลังพี่ชายไปติด ๆ
ด้านเจแปน
ผมขับรถตามรถที่คนตัวเล็กนั่งมาจนถึงคอนโดหรูแห่งหนึ่ง หัวใจผมชาวาบหรือเขาคนนั้นจะเป็นสามีของคนตัวเล็กถ้าอย่างงั้นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ว่าน้องซีนายเป็นลูกของผม ก็เป็นเรื่องที่ผมคิดไปเองนะซิ
ผมขับรถมาจอดในลานจอดรถของคอนโดที่มีความรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จึงทำให้ผมเข้าไปภายในคอนโดนั้นไม่ได้ ขนาดจะเข้ามายังพื้นที่ลานจอดรถยังต้องแลกบัตรเลย แล้วอย่าคิดว่าผมจะเข้าไปยังภายในอาคารของคอนโดได้
สายตาคมมองคนตัวเล็กลงจากรถก่อนจะเห็นเด็กน้อยลงตามคนเป็นแม่ก่อนจะเห็นผู้ชายที่เป็นคนขับรถลงตามมาติด ๆ สายตาคู่คมมองไปที่ผู้ชายคนนั้นถึงกับยกยิ้มจากช่วงแรกนึกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นสามีของคนตัวเล็ก แต่เนื่องจากผมคบกับมานานจึงจำได้ทันทีว่าผู้ชายคนนั้นคืนใคร
"ไอ้กัส"ผมได้แต่พึมพำออกมาเบา ๆ พร้อมกับจ้องมองภาพคนทั้งหมดเดินเข้าไปในอาคารของคอนโด เมื่อเห็นเช่นนั้นจะตามขึ้นไปก็ไม่ได้ผมจึงเลือกที่จะกลับคอนโดตัวเองเพื่อรอเวลาให้เหมาะสม ไม่ว่าอย่างไรเสียวันนี้ผมต้องรู้ความจริงให้ได้
ขณะเดียวกันที่คอนโดออกัส เมื่อพี่ชายอย่างออกัสเล่าเรื่องที่แฟนสาวเข้าใจผิดคิดว่าไอ้ต้าวตัวน้อยนั้นเป็นลูกของพี่ชายและยังคิดไปอีกว่าพี่ชายแต่งงานมีครอบครัวแล้ว จนทำให้แฟนสาวหนีหน้าไป โดยผลการกระทำนี้เนื่องด้วยวันนั้นฉันก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยขณะที่แฟนสาวของพี่ชายโทรมาไอ้ต้าวตัวน้อยก็รีบคว้าโทรศัพท์ของพี่ชายมารับอย่างไว และยังบอกปลายสายอีกว่าตอนนี้แดดดี้ไม่อยู่ เดี๋ยวแดดดี้มาจะบอกให้ ส่งผลให้คนเป็นแฟนหนีหายหน้าไปจากพี่ออกัสและที่มาในวันนี้ก็เพื่อจะมายืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเข้าใจผิด
เมื่อทุกคนปรับความเข้าใจแล้วพี่ออกัสก็พาพวกเรามาทานข้าวและมาส่งฉันที่คอนโด
คอนโดอันนิกา
ตอนนี้เวลา 4 ทุ่มแล้วใช่ค่ะไอ้ต้าวตัวน้อยนั้นเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ฉันที่ยังไม่นอนก็เล่นโทรศัพท์ดูนั้นดูนี้บ้างก็เข้าไอจีไปส่องสองสาวเพื่อนสนิทของฉัน ก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนคนกดรหัสเข้ามาในห้อง
ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง ...! พี่ออกัสมาเหรอฉันได้แต่คิดเพราะคนที่รู้รหัสมีแต่พี่ออกัสคนเดียว
ฉันรีบก้าวลงจากเตียงแล้วสาวเท้าออกมาจากห้องนอน ก่อนที่สายตาคู่สวยจะปะทะกับร่างสูงอันคุ้นเคย
คุณเจแปน...ฉันพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงดังให้กับแขกที่บังอาจเข้าห้องฉันอย่างพละการ
"คุณเข้ามาในห้องฉันทำไม"และนี่คือคำถามแรกที่ฉันถามเขาแต่เขากับนิ่งเฉยมือหนาปิดประตูหน้าห้องก่อนที่จะได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยบอกฉัน
"เราต้องคุยกัน รู้ไหมถ้าวันนี้ผมไม่ได้ความจริงจากคุณผมอาจจะเป็นบ้าก็ได้"เสียงทุ่มบอกก่อนจะสาวเท้าเร็ว ๆ ตรงมาหาฉันที่ยืนอยู่หน้าห้องนอนพร้อมยื่นมือมาจับที่ท่อนแขน ขณะตอนนี้ใบหน้าฉันรู้สึกร้อนผวาใจเต้นโครมครามไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไรหรือว่าเขาจะรู้แล้วว่าไอ้ต้าวตัวน้อยนั้นคือลูกเขา
"คุยกันดี ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องมาจับเลย"เสียงหวานเอ่ยบอกก่อนจะมองท่อนแขนตัวเองที่โดนคุณเจแปนจับไว้จนแน่น
"น้องซีนายเป็นลูกผมใช่ไหม"เสียงทุ้มกล่าวพร้อมกับแววตาที่ส่งมาหาฉันเหมือนต้องการรอคำตอบ
"จะเป็นแบบนั้นได้ไง เราเพิ่งรู้จักกันเองคุณเอาอะไรมาพูด"ฉันรีบปฎิเสธทันควันกับคนด้านหน้าแต่ไม่คิดว่าคุณเจแปนพูดดักคอฉันขึ้นมาเสียก่อน
"คุณคิดว่าผมจำคุณไม่ได้เหรอ คุณคือผู้หญิงวันนั้นเมื่อ 6 ปีก่อนผมยังจำคุณได้แม่น หรือจะให้ผมเล่าว่าคืนนั้นเรามีความสุขกันแค่ไหน เราทำอะไรกันบ้าง"
"...."ฉันนิ่งไปสักพักไม่คิดว่าเขาจะจำเรื่องราวในวันนั้นได้
"ฉันว่าเราไปคุยกันตรงนั้นดีกว่าเดี๋ยวน้องซีนายจะตื่น"ฉันรีบเอ่ยบอกดูท่าแล้วน่าจะเคลียร์กันอีกยาว เรียวขาสวยก้าวเดินนำคนตัวสูงมานั่งคุยที่โซฟาที่เป็นโซนรับแขก
"คุณกับออกัสเป็นอะไรกัน"ทันทีที่เขานั่งลงเรียบร้อยแล้วและฉันก็นั่งลงโซฟาตรงข้ามกับฉัน คนตัวสูงที่ไม่ชอบประวิงเวลาจึงเอ่ยถามฉันในเรื่องที่อยากรู้ในทันที
"ตกลงคุณอยากรู้เรื่องไหนกันแน่ ฉันจะได้ตอบถูก"
"อยากรู้ทั้งสองเรื่องนั้นแหละ ผมคาใจตั้งนานแล้ว"
ฉันนั่งคิดสักพักช่างน้ำหนักว่าจะบอกดีหรือไม แต่ถ้าบอกไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมายเป็นการดีเสียอีกที่ไอ้ต้าวตัวน้อยจะได้รู้ว่าใครคือพ่อตัวเองจริง ๆ ไม่ใช่มัวแต่เรียกพี่ออกัสว่าแดดดี้จนทำให้แฟนพี่ออกัสนั้นเข้าใจผิด
"ทำไมคุณสงสัยว่าน้องซีนายเป็นลูกคุณ"ฉันถามด้วยความสงสัยเพราะเหตุใดเขาถึงคิดแบบนั้น แต่สิ่งที่เขาตอบกับมาฉันกับพูดอะไรไม่ออก
"ข้อแรกคืนนั้นผมไม่ได้ป้องกัน และผมก็จำได้ดีว่าคืนนั้นที่คอนโด ผมแตกในใส่คุณตั้งหลายรอบ"
"...."ใบหน้าฉันร้อนผวาขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นถึงแม้มันจะผ่านไปนานหลายปีแล้วก็ตาม
"ข้อสอง ผมมานั่งนับช่วงเวลา ถ้าคุณท้องกับผมเด็กน่าจะมีอายุเท่าไหร่ และมันก็ตรงกับอายุน้องซีนายพอดี ส่วนข้อสุดท้ายนี่คือรูปของผมตอนเป็นเด็กและนี่คือรูปของน้องซีนายตอน 1 ขวบ คุณว่าเราสองคนเหมือนกันไหม เหมือนอย่างกับฝาแฝด" ขณะพูดเจแปนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเปิดรูปภาพของเขาและน้องซีนายให้คนตัวเล็กดู ขณะที่อันนิกาได้แต่มองดูและถึงกับกลืนน้ำลายลงในคออย่างฝืดเคือง
"ในเมื่อคุณเอาหลักฐานมายืนยันเยอะขนานนี้ฉันคงไม่กล้าปฎิเสธ ใช่น้องซีนายเป็นลูกของคุณ"เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมมองใบหน้าคมพยายามจับสีหน้าแววตา และท่าทางของคนตัวสูงแต่เขากับไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย จนฉันถึงกับเงียบไป ไม่รู้ว่าตอนนี้ใจเขาคิดอะไรอยู่ดีใจหรือจะเสียใจที่รู้ว่าตัวเองมีลูกแล้ว ขณะที่หัวใจของเจแปนนั้นเต้นรัวเกือบจะยิ้มดีใจออกมาแต่พยายามสงวนท่าทางตัวเองเอาไว้ก่อน
"....."
"แล้วออกัสเป็นอะไรกับคุณ"เสียงทุ้มกล่าวขึ้นมา
"พี่ออกัสเป็นพี่ชาย"ฉันพูดขึ้นก่อนจะสบตาคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าไปด้วยขณะที่ตอนนี้เขาเริ่มคี่ยิ้มออกมาให้เห็นบ้างแล้ว
"ฉันว่าคุณกลับไปได้แล้ว ฉันจะนอนพรุ่งนี้ฉันกับลูกต้องตื่นแต่เช้า"ฉันเอ่ยไล่คนตรงหน้าที่ตอนนี้ไม่ทีท่าจะขยับไปไหน
"แต่เรายังคุยกันไม่จบ"
"คุณอยากรู้อะไรค่อยถามพรุ่งนี้ได้ไหม วันนี้กลับไปก่อนเถอะฉันต้องการที่จะพักผ่อน"เสียงหวานเอ่ยไล่คนตรงหน้าอีกรอบก่อนจะเห็นเจแปนผุดยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ออกมา
"คุยพรุ่งนี้ก็ได้ แต่วันนี้ผมขอนอนที่นี่นะ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนที่จะนอนลงบนโซฟาพร้อมกับหลับตาโดยไม่สนใจอะไร
อันนิกาได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างเอือมระอาไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนที่พูดไม่รู้เรื่อง ก่อนจะพาตัวเองเขามานอนยังห้องนอนกับไอ้ต้าวตัวน้อย และลงกลอนประตูให้แน่นหนากว่าเดิม
ตี 5 ของวันใหม่ฉันรีบตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อต้องการจะปลุกคนหน้ามึนให้ตื่นก่อนไอ้ต้าวตัวน้อยจะตื่นขึ้นมาเพื่อไปโรงเรียนสองขาวาดลงจากเตียงก่อนจะสาวเท้าด้วยความเร็วออกไปทิศทางของโซฟาที่ตอนนี้เป็นที่นอนให้กับคนที่เป็นพ่อของลูก ก่อนจะยื่นฝ่ามือบางเขย่าร่างหนาที่ตอนนี้หลับไม่รู้เรื่อง"คุณ คุณ ตื่นเถอะ กลับไปก่อนเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเจอ"ขณะที่เจแปนนั้นรู้สึกตัวตั้งแต่คนตัวเล็กเปิดประตูออกมาแล้วแต่เจ้าตัวกับทำตัวเจ้าเล่ห์แกล้งหลับตาเสมือนว่าตัวเองนั้นยังนอนหลับยังไม่ตื่น"อืม..."เสียงทุ้มเปล่งออกมาทำเหมือนรำคาญแต่ในใจกับยกยิ้มก่อนที่เจแปนจะวาดท่อนแขนพร้อมกับส่งฝ่ามือหนาดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด"ว๊าย..."เสียงหวานเปล่งออกด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้ก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงอีกทั้งตอนนี้ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงเซน จนรับรู้ถึงกลิ่นไอลมหายใจของกันและกัน สายตาคู่สวยกวาดมองไปที่ใบหน้าหล่อที่ตอนนี้ปิดเปลือกตาสนิท ด้วยความสงสัยในพฤติกรรมอดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าหลับจริงหรือไม่"หลับจริงหรือเปล่านี่ คุณตื่นเถอะเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเห็น""....." คนที่แกล้งกับแสดงออกมาอย่าเ
คำโปรยการกลับมาเที่ยวบ้านเกิดของ.... ในครั้งนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่าจากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบภัย...ในคำคืนก่อนบินกลับไปเรียน เพื่อนสาวคนสนิท...อยากเลี้ยงอำลา เธอผู้ไม่ชอบแสงสีและเสียงที่ดังอย่างการเข้าผับบาร์แต่เพียงเพราะเพื่อนคนสนิทร้องขอเธอจะปฎิเสธก็กะไรอยู่ในที่อโคจร....ความประมาทเกิดขึ้นได้เสมอใช่มันเกิดขึ้นกับเธอเร็วมากร่างกายโดนสิ่งแปลกปลอมวิ่งเข้าสู่ร่างกายทำเธอร้อนรุ่มหาที่เปรียบไม่ได้นาทีนี้เธอจะตายไหมนะ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือฟ้าลิขิตในคำคืนนี้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครคนหนึ่ง...เขาคือใคร...?อันนิกาตื่นขึ้นมาตอนเช้าร่างกายที่ โดนคนบนเตียงปูยี้ปูยำ..ตัวเธอยืน มองชายหนุ่มร่างกำยำผู้พรากความ สาวไปจากเธอ...แต่วินาทีนั้นเธอต้องบินแล้ว"เธอจากมาโดนไม่ลา3เดือนต่อมาในต่างประเทศ ร่างกายของเธอมีการต่อต้านอาหารที่โปรดปรานเอามาก"อันท้องหรือ..."บ้า..... แต่ในใจเธอมันมีมากกว่าหมื่นแสนล้านคำ..เธอท้องหริอชิบหายคืนนั้นฉันลืมเลยแนะนำตัวละครเจแปน หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เจ้าของโชว์รูมรถชื่อดังที่นำเข้าและขายรถหรู หล่อ รวย เจ้าชู้นิด ๆ ตามแบบฉบับคนโสดอันนิกา แอนดิสัน ล
เวลาเริ่มดึกคนต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายส่งผลให้บรรยากาศภายในร้านเริ่มมีนักท่องเที่ยวแน่นและเยอะกว่าทุกวันหรือนี่อาจจะเป็นวันศุกร์ของสิ้นเดือนนักท่องเที่ยวเลยเยอะมากกว่าปกติสามสาวนั่งดื่มค๊อกเทลบนโต๊ะจนเริ่ม หร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ตลอดการนั่งดื่มของสามสาวต่างมีหนุ่ม ๆ ค่อยแวะเวียนมาขอชนแก้วไม่ขาดสายยิ่งดึกเสียงเพลงยิ่งเป็นจังหวะที่สนุกสนามสองสาวอย่างนิสากับปานดาวลุกขึ้นอวดลวดลายโชว์สเต็ปการเต้นข้างโต๊ะที่หญิงสาวนั่งแบบไม่มีใครยอมใครและขาดไม่ได้เลยที่จะมีหนุ่ม ๆ ขยับมาเต้นใกล้ ๆ เพื่อนทั้งสองฉันมองแล้วกับยิ้มที่นาน ๆ ทีจะเห็นเพื่อนทั้งสองสนุกขนาดนี้ ก่อนจะรู้สึกปวดท้องน้อยขึ้นมาเป็นเพราะปวดฉี่ อยากจะเข้าห้องน้ำก็แหมจะไม่ปวดได้อย่างไรในเมื่อฉันดื่มค๊อกเทลด้านหน้าหมดไปแล้วไม่รู้กี่แก้วแต่ที่รู้คือค๊อกเทลที่สองสาวสั่งมาเราสามคนต่างช่วยกันดื่ม"นี่แกฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"ฉันบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายที่ด้านในมีโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ติดตัวไปด้วย"อืม รีบไปรีบมานะ กระเป๋าก็ว่างที่โต๊ะแหละไม่หายหรอก""ว่าจะไปโทรศัพท์หาพี่ออกัสด้วยตั้งแต่มายังไม่ได้บอกพี่ออกัสเลยว่าอยู
ด้านอันนิกา ฉันดีใจมากที่มีผลเมืองดีมาช่วยฉันไว้ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนก่อนหน้านั้นฉันคิดว่าเขาน่าไว้ใจและดูปลอดภัยกว่าผู้ชายคนนั้นดีเท่าไหร่แล้วที่เมื่อครู่ฉันรวบรวมแรงที่มีอยู่สะบัดท่อนแขนออกจากการจับกุมจากผู้ชายที่อันตรายคนนั้นได้คิดถึงช่วงเวลานั้นฉันยังกลัวไม่หาย เมื่อได้ยินคนใจดีเอ่ยชวนฉันว่าจะไปส่งฉันจึงไม่คิดที่ปฎิเสธเลย ยอมก้าวเดินตามชายรูปร่างสูงไปยังรถอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเข้าไปนั่งด้านในรถฝั่งข้างคนขับรถยนต์คันหรูถูกขับออกจากผับที่มี รถสัญจรไม่หนาแน่นเท่าช่วงเช้าหรือช่วงเย็นอาจเป็นเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่ดึกและเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลาย ๆ คนแต่เมื่อรถถูกขับไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งฉันกับมีอาการบ้างอย่างแล่นเข้ามาภายในร่างกายความรู้สึกร้อนวูบวาบจากภายใน จิตใจเริ่มสั่นไหว"น้องยังไม่บอกพี่เลยว่าบ้านอยู่ไหน"ฉันได้ยินเสียงทุ้มของคนที่นั่งด้านข้างเอ่ยถามฉัน ขนาดที่สมองกับอื้ออึงคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันเริ่มจะทนอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว"...""น้องไม่ได้ยินที่พี่ถามเหรอ พี่ถามว่าจะให้พี่ไปส่งที่ไหน"เสียงทุ้มเอ่ยถามฉันอีกรอบ ก่อนที่พี่ชาย
ขณะคนตัวเล็กกับพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับพร้อมกับยกท่อนแขนเรียวโอบรอบลำคอหนาบดเบียดอกนุ่มนิ่มแนบชิดแผงอกแกร่งพร้อมกับส่งสายตาคู่สวยสบตาคมของผมอย่างหยาดเยิ้มสติสัมปชัญญะของผมแตกกระเจิง หัวใจเต้นเร้า ฝ่ามือหนายกขึ้นจับท้ายทอยพร้อมส่งจูบอันเร้าร้อนเข้าไปตักตวงหาความหอมหวานจากโพร่งปากด้านในปลายลิ้นหนากวาดต้อนหาความหอมหวานก่อนจะเกี่ยวตวัดหยอกเหย้าเรียวลิ้นบางที่เปียกชื้นอย่างเร้าร้อน ในขณะที่สาวสวยในอ้อมกอดกับตอบกับเรียวลิ้นหนาเหมืิอนคนไร้ประสบการณ์ แม้จะดูเงะงะไปบางแต่กับทำสร้างความหอมหวานปลุกกระสันความเป็นชายจนไม่อาจจะหักห้ามใจจากตอนแรกคิดจะทัดทานความสัมพันธ์อันจาบจ้วงแต่เมื่อโดนรุกเร้ามาก ๆ ผมไม่อาจจะหักห้ามใจได้เลย มาถึงขนาดนี้แล้วอะไรจะเกิดก็เกิดเถอะผมยอมรับผลกรรมมือหนาจับใบหน้าเรียวสวยออกห่างพร้อมกับแนบจมูกโด่งจรดแก้มเนียนใสก่อนจะกระซิบลงข้างใบหูของคนบนตักด้วยน้ำเสียงกระเส่า"ทนได้ไหมเดี๋ยวก็ถึงคอนโดพี่แล้ว"คนร่างเล็กส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มขณะที่มือเรียวบางทั้งสองจับไหล่หนาผมไว้แน่น กดส่ายสะโพกบดเบียดเนินเนี้อนางถูไถลงที่ท่อนเอ็นลำใหญ่ ผมถึงกับครางด้วยความเสีย
ฉันตื่นมาในช่วงเช้ามองรอบ ๆ ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นสีเทาสลับสีขาว ดูเรียบหรูบอกนิสัยเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี สายตาคู่สวยมองไปชายรูปร่างสูง ผมดกดำ ผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนผิวผู้หญิงนอนค่ำหน้ามีผ้าห่มคลุมช่วงเอว ฉันเผลอมองคนใจดีด้วยความเสน่หากับตอนกลางคืนว่าดูดีแล้วตอนกลางวันดูดีกว่าหลายเท่า"อืม เซ็กซี่เป็นบ้า"ฉันเผลอพึมพำออกมาเบา ๆ นี่มันเทพบุตรชัด ๆ เอาวะครั้งแรกกับคนหล่อขนาดนี้ถือเสียว่าสิ่งที่เสียไปไม่คิดที่จะเสียดายเลยดีกว่าให้ไอ้ผู้ชายหน้าปลวกนิสัยเลวคนนั่นเป็นไหน ๆ ก่อนที่ฉันจะมองไปยังหัวเตียงที่มีนาฬิกาตั้งอยู่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้วที่เข็มสั้นชี้เลข 6 เข็มยาวชี้เลข 10 บ่งบอกถึงเวลาตายแล้วใกล้จะ 6 โมงเช้าแล้วเหรอบ้านก็ไม่ได้กลับและยังต้องขึ้นเครื่องตอนบ่ายอีกไม่ได้การแล้ว ฉันจะโดนอะไรบ้างเนี่ยพี่ออกัสเอาฉันตายเลยสองเท้าวาดลงจากเตียงกว้างเมื่อฝ่าเท้าเเตะพื้นดีแล้วฉันลุกขึ้นยืน ก่อนขาฉันขาอ่อนยวบลงไปนั่งกองกับพื้น"โอ้ยเจ็บจัง หน้าตาก็ดีแต่ทำไมกินดุแบบนี้"มือข้างหนึ่งกุมท้องน้อยไว้ ส่วนอีกข้างท้าวลงที่เตียงก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวยืนขึ้นจนมั่นคงสองตาคู่สวยมองหาเสื้อผ้าที่ก
ผมออกัสพอฟังน้องสาวเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมดด้วยความที่เป็นพี่ชายผมก็ต้องโกรธใช่ไหมล่ะหรือทุกคนจะไม่เป็นแบบผม แต่เมื่อคิดอีกทีผมก็มีส่วนผิดอยู่บ้าง ถ้าคืนนั้นผมรับโทรศัพท์และรีบไปหาน้องสาวเรื่องราวทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้แน่นอนผมค่อย ๆ สาวเท้ามายังหน้าห้องน้องสาวได้ยินเสียงร้องไห้เล็ดรอดออกมาเบา ๆ หัวใจแกร่งผมก็อ่อนยวบจากเมื่อครู่ที่โกรธเคืองน้องสาวเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นความโกรธเมื่อครู่ก็จางหายไปในพริบตา เหลือแต่ความสงสารน้องสาวผมอย่างจับใจเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ไม่น่ามาเกิดกับน้องสาวผมเลยมือหนายกขึ้นเคาะห้องน้องสาวก๊อก ก๊อก ก๊อก!"อันเปิดประตูให้พี่หน่อย พี่ขอโทษ"ผมตะโกนบอกคนที่อยู่ด้านในห้อง เสียงร้องไห้เงียบลงเหลือเพียงความเงียบงันทำให้ผมไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าตอนนี้ภายห้องนอนของน้องสาวเกิดอะไรอยู่ขึ้นผมจึงตัดสินใจเคาะห้อง อีกครั้งแต่ครั้งนี้ดังกว่าเดิมก๊อก ก๊อก ก๊อก!"อันเปิดประตูให้พี่หน่อย ถ้าอันไม่เปิดพี่จะพังประตูจริง ๆ นะ"เสียงเคาะที่ดังขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว บ่งบอกว่าผมเป็นห่วงใยน้องสาวมากแต่ไม่รู้ว่าน้องสาวจะรู้สึกแบบเดียวกันไหมผมกำมือค้างไว้กำลังจะเคาะปร
3 เดือนต่อมาวันนี้เป็นอีกวันที่ฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียน แต่ก็แปลกพอฉันตื่นขึ้นมากับมีอาการมึนหัว ก่อนจะรู้สึกว่ามีก้อนบางอย่างวิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ"ฮึก!!!"สองขาวาดลงจากเตียงวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโก่งคอเอาอาหารที่ทานเมื่อคืนออกมาจนหมด ก่อนจะค่อย ๆ ขยับออกจากห้องน้ำ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนอย่างคนหมดแรง ตาคู่สวยปิดเปลือกตาลงเพื่อที่ต้องการจะพักอีกสักนิดก่อนไปมหาลัยแกร๊ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดขึ้นขณะที่ฉันค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาในห้องฉันทันที ก่อนจะได้ยิ่งเสียงหวานอันคุ้นเคยส่งมาให้ฉัน"เป็นอะไรลูกวันนี้ไม่ไปมหาลัยเหรอ"คุณแม่กล่าวก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเดินตรงมาที่ฉัน ขณะที่ฉันชันตัวนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง"ไม่รู้คะตื่นมาก็เวียนหัวเลย วันนี้ขอนอนพักนะคะ"ฉันบอกเพราะว่าตอนนี้เริ่มจะรู้สึกหมดแรงถ้าได้หยุดและนอนพักน่าจะดีขึ้น"เป็นเยอะหรือเปล่า ไปหาหมอไหมลูก"แม่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่คงไม่ต้องไปถึงกับไปหาหมอหรอกมั่งแค่นอนพักอีกหน่อยอาการที่เปฺ็นอยู่น่าจะดีขึ้น"ยังพอไหวคะ ขออันนอนพักสักนิดน่าจะดีขึ้น"ฉันบอกแม่ขณะที่แม่ยกฝ่ามืลูบหัวฉันด้วยความห่วงใย"ถ้าไม่หายรีบบอกแม่เล