เมื่อเข้ามายังห้องของคอนโด คนตัวเล็กที่อุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้แนบอกขณะที่ไอ้ต้าวตัวน้อยยังอยู่ห้วงในนิทรา อันนิการีบสาวเท้าเข้าห้องนอนเพื่อว่างไอ้ต้าวตัวน้อยให้นอนบนเตียงก่อนจะพาตัวเองออกมา
เมื่อออกมาถึงก็เห็นของที่ซื้อมาอยู่บนโต๊ะอาหารในโซนที่จัดเป็นครัวทำอาหารแต่กับไร้เงาของคนใจดี จนได้ยินเสียงบานประตูห้องน้ำเปิดออก สายตาคู่หวานมองไปยังห้องน้ำถึงได้รู้ว่าหลังจากคนใจดีว่างของที่ซื้อมาห้างไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว คนใจดีนั้นได้เดินเข้าไปยังห้องน้ำแต่เขารู้ได้อยากไรว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนแต่ก็เลือกเก็บความสงสัยไว้ในใจไม่ได้ถามคนใจดีออกมา
คนใจดีสาวเท้าเข้าไปนั่งที่โซฟารับแขกเรียบร้อยแล้วฉันถึงเลือกที่จะเดินเข้าไปยังโซนห้องครัว เก็บของสด และอาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็นก่อนที่ จะหยิบขวดน้ำรินน้ำเปล่าใส่แก้วแล้วถือมาให้คนใจดีโดยไม่ลืมจะที่กล่าวขอบคุณ เอาจริงถ้าไม่ได้เขาฉันก็แย่เหมือนกัน
"น้ำคะ"
"ขอบคุณครับ.คุณชื่ออันใช่ไหม ส่วนผมชื่อเจแปนนะครับ"เจแปนรับแก้วน้ำไว้ในมือก่อนจะเอ่ยขอบคุณพร้อมกับถามชื่อและแนะนำตัวเองเสร็จสรรพและนี่คือการแนะนำตัวครั้งแรกของเราทั้งสองคนก็ว่าได้เจแปนได้แต่คิด
"ขอบคุณคุณเจแปนนะคะที่มีน้ำใจมาส่งฉันกับลูก"
"แล้วนี่คุณอยู่กันสองคนกับลูกคุณเหรอครับ"ที่เจแปนเลือกถามคำถามนี้ก็เพราะว่าเมื่อครู่เขาเข้าห้องน้ำกับไม่พบของใช้ส่วนตัวของผู้ชาย แม้กระทั้งแปรงสีฟัน สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีแต่ของผู้หญิงและเด็ก แม้สิ่งของที่ผู้ชายใช้ประจำอย่างเช่นครีมโกนหนวดก็ไม่เห็นทำให้เขาคาดเดาได้ว่า คนตัวเล็กนั้นอยู่ที่นี่กันสองคนกับลูก
ขณะที่ฉันนิ่งไปสักพักไม่คิดว่าเขาจะถามคำถามนี้แต่ก็เลือกที่จะตอบไปตามความจริง"คะ เราอยู่กันสองคนแม่ลูก"
ขณะที่เจแปนนิ่งไปชั่วครู่เหมือนเขากำลังคิดอะไรสักอย่างก่อนเสียงทุ้มเอ่ยออกมาถามคนตัวเล็กที่นั่งอยู่โซฟาอีกตัวข้าง ๆ กัน
"แล้วพ่อเด็กไปไหนครับ ขอโทษนะครับที่ผมถามเพราะผู้หญิงอยู่ด้วยกับกับเด็กผมคิดว่ามันน่าจะลำบากคุณคงเหนื่อยน่าดู"ที่เจแปนถามเพราะดูจากวันนี้แล้วดีแค่ไหนที่เขาบังเอิญผ่านมาเจอคนตัวเล็ก ถ้าเขาไม่มาเจอไม่รู้ว่าคนตัวเล็กจะหอบหิ้วทั้งของและยังมีลูกชายมาถึงห้องกี่โมง
"ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว น้องซีนายไม่มีพ่อคะ และที่คุณคิดว่าฉันลำบากที่ต้องอยู่สองคนกับลูก ฉันบอกเลยนะคะว่าไม่ลำบากเลย อีกอย่างที่เลือกมาอยู่ที่นี่ก็เหมือนซื้อความสะดวกสะบายให้ลูกชายเท่านั้นเองคะ"เสียงหวานเอ่ยตอบด้วนแววตาเปล่งประกายเมื่อคิดถึงความสุขสบายของไอ้ต้าวตัวน้อย จะว่าลำบากเหรอก็ไม่ใช่ทั้งหมดเสมอไป เพราะตอนนี้ไอ้ต้าวตัวน้อยนั้นโตพอที่จะทำอะไรได้เองหลาย ๆ อย่างไม่ใช่เด็กทารกแรกเกิดเสียหน่อยที่ทำอะไรไม่ได้
"ถ้างั้นผมถามคุณอีกข้อได้ไหมครับ"เจแปนยังคงยิ่งคำถามใส่อันนิกาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่เขาสงสัยมาตลอดทั้งวันเขาต้องรู้จากคนตัวเล็กในวันนี้ให้ได้
"คะ"คนตัวเล็กจ้องมองไปยังคนตรงหน้ารู้สึกว่าคนใจดีช่างเป็นคนขี้สงสัยเสียจริง แล้วเขาจะสงสัยไหมนะว่าทำไมใบหน้าไอ้ต้าวตัวน้อยถึงใบหน้าคล้ายกับเขาเหมือนดั่งกับแกะ
"คุณเป็นอะไรกับเจ้าของห้องนี้"
"คุณถามทำไม คุณรู้จักเจ้าของห้องนี้เหรอคะ"ฉันเลือกที่จะไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะถามคำถามกับเพราะว่าฉันก็สงสัยพฤติกรรมเขาเหมือนดูเหมือนเขาจะคุ้นเคยกับห้องนี้เป็นอย่างดี
"ใช่ผมรู้จักเจ้าของห้องนี้ดีมากด้วย"
"...." คนตัวเล็กเงียบอยู่สักพักก่อนจะใช้ความคิดว่าจะบอกดีหรือไม่ว่าที่จริงแล้วเจ้าของห้องที่เขาพูดถึงนั้นคือพี่ชายแท้ ๆ ก่อนจะยอมบอกไปเพราะคิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องอะไรให้เสียหาย
"พี่ออกัสเป็น....."
"ฮือ...มี้..."แต่ขณะที่อันนิกาจะตอบกับมีเสียงใสร้องออกมาจากในห้องจนเสียงดังทำให้คนเป็นแม่หยุดสนทนาไปก่อนแล้วรีบสาวเท้าเข้าไปดูลูกชายในห้องนอน
"ว่าไงลูก มี้อยู่นี้แล้วไม่ร้องนะครับคนดี"เสียงหวานเอ่ยบอกลูกชายที่ตื่นขึ้นมาไม่เจอแม่นอนอยู่ข้าง ๆ ขณะที่เจแปนรีบสาวเท้าเข้ามาดูสองแม่ลูกในห้องนอน ที่ตอนนี้เห็นคนเป็นแม่โอบกอดเพื่อปลอบประโลมลูกชายให้หยุดร้องไห้ เขามองดูสองแม่ลูกอย่างไม่ล่ะสายตาทำไมยิ่งเขามองดูเขาอยากจะเดินไปกอดเด็กน้อยเหมือนกับภาพตรงหน้า ทำไมเขาถึงคิดอย่างนั้นเขาก็ไม่เขาใจตัวเองเหมือนกันแต่ที่แน่ ๆ คือเขาไม่ชอบให้เด็กคนนี้ร้องไห้เลยจริง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือเป็นเพราะมารู้ว่าเด็กคนนี้ไม่มีพอเหมือนเด็กคนอื่น ๆ กันนะ
หลังจากไอ้เจ้าตัวน้อยแผดเสียงร้องไห้ กว่าจะยอมสงบลงก็กินเวลาไปเกือบ 5 นาที ก่อนจะต้าวตัวน้อยจะได้สติมองไปรอบห้องนอนที่เป็นที่เขายังไม่คุ้นชิน ปากน้อยอดถามคนเป็นแม่ไม่ได้
"ที่นี่ที่ไหนครับ แล้วทำไมคุณลุงคนนั้นถึงอยู่กับเราด้วย"เสียงใสเอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยความสงสัยก่อนจะชี้นิ้วไปที่คนใจดียืนอยู่
เจแปนที่ยื่นมองเด็กน้อยมาสักพักเมื่ิเห็นว่าเด็กน้อยหยุดร้องไห้แล้วและยังถามถึงตนเอง เข้าจึงเลือกที่จะสาวเท้าเขามาในห้องนอนอย่างถือวิสาสะก่อนจะส่งยิ้มมให้เด็กน้อยวัยใส
"ลุงชื่อเจแปน ตื่นขึ้นมาก็งอแงเลยนะเรา"
"ก็ผมตื่นมาไม่เจอมี้นี่"เสียงใสเอ่ยตอบ
"แม่ก็อยู่นี่แล้วไง"
"ครับ แล้วเราไม่กลับบ้านเหรอ"คนเป็นลูกเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"เราจะย้ายมาอยู่ที่นี่"เสียงหวานตอบลูกชายด้วยความอ่อนโยนก่อนจะหันมาหาคนใจดีที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้องนอนแบบไม่ได้รับอนุญาต
"อันว่าคุณเจแปนกลับได้แล้วนะคะ อันจะพาลูกนอนเพราะน้องซีนายต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน"เสียงหวานเอ่ยไล่คนใจดีกาย ๆ จะไม่ไล่ก็ไม่ได้เพราะพรุ่งนี้ตอนเช้าลูกชายต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนอีกก่อนหันมาพูดกับลูกชายด้วด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"หนูนอนต่อเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า"ไอ้ต้าวตัวน้อยพยักหน้าก่อนจะยอมนอนลงตามที่คนเป็นแม่บอก
เมื่อเจแปนเห็นว่าสองแม่ลูกต้องการพักผ่อนจริง ๆ เขาเลยเลือกที่จะกล่าวหาหญิงสาวและเอ่ยลาเด็กน้อยแล้วสาวเท้าออกจากห้องคอนโดเพื่อนสนิทอย่างออกัส ในหัวเขาคิดตลอดทางกลับคอนโดของตัวเองจะว่าเขาคว้าน้ำเหลวก็ไม่ได้เพราะอย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าเธอคือแม่เลี้ยงเดี่ยว
จากตอนแรกที่คิดว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดของตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไมเจแปนถึงหันหัวรถยนต์ไปยังบ้านของตัวเองแทนเมื่อมาถึงบ้านก็พบกับความเงียบสนิทคาดเดาว่าคนในบ้านน่าจะหลับกันหมดแล้ว ตัวเองเลยเลือกที่จะขึ้นไปนอนเช่นกันช่วงสายของวันเจแปนตื่นขึ้นมาก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกับพบว่าคนเป็นแม่ที่นั่งเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่น กำลังเปิดดูอัลบั้มรูปที่แม่จะชอบเก็บไว้ในห้องนั่งเล่น"ทำอะไรอยู่ครับแล้วนั้น ดูรูปอะไรอยู่เหรอ"คนเป็นแม่หันไปตามเสียงเรียกพร้อมส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้คนเป็นลูกชายที่นาน ๆ ทีลูกชายจะกลับมานอนบ้านสักครั้งแต่รอบนี้มาแปลกทำไมถึงกลับมานอนบ้านได้"ทำไมถึงกลับบ้านได้ล่ะเรา มาแปลกนะถ้าแม่ไม่เรียกมาหาก็ไม่อยากที่จะกลับบ้านหรอก"คนเป็นแม่เอ่ยออกมาปนน้อยใจนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเข้าใจดีว่าลูกชายต้องทำงานขณะที่เจแปนที่ได้ยินแม่เอ่ยถึงกับยกยิ้มก่อนจะสาวเท้าเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกับคนเป็นแม่ก่อนจะกอดเอวและซบลงหัวไหล่คนเป็นแม่อย่างออดอ้อน"คิดถึงแม่ครับเลยมานอนบ้าน แล้วนี่ดูอะไรอยู่ครับแม่"สายตาคมมองไปยังอัลบั้มรูปที่แม่เปิดค้างไว้เขายังจำได้ดีคือรูปตอนเขายังเป็นเด็กแต่ก็ยังแกล้งถามคน
อันนิกานั่งรถพี่ชายมาถึงคอนโดแห่งหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นของพี่ชายตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีรถอีกคันขับตามมาเมื่อพี่ชายอย่างออกัสขับมายังลานจอดรถของคอนโดคนร่างบางของน้องสาวก็ก้าวลงจากรถก่อนที่คนเป็นลูกอย่างไอ้ต้าวตัวน้อยจะลงรถตามคนเป็นแม่มา"อุ้มหน่อย ซีนายเหนื่อย แดดดี้อุ้มซีนายหน่อยครับ"เสียงใสเอ่ยออดอ้อนคนเป็นลุงเมื่อเห็นคนเป็นลุงลงจากรถ แล้วทำท่าจะเดินนำเข้าไปด้านในคอนโด"เรานี่จริง ๆ เลยนะโตขนาดยังจะให้อุ้ม"เสียงทุ้มของคนเป็นลุงบ่นออกมาเบา ๆ แต่ก็ยอมอุ้มไอ้ต้าวตัวน้อยไว้ในอ้อมกอดก่อนจะเดินนำฉันเข้าไปด้านในคอนโดขณะที่ฉันถึงกับส่ายหน้าเบา ๆ กับการกระทำของไอ้ต้าวตัวน้อยก่อนจะเดินตามหลังพี่ชายไปติด ๆด้านเจแปนผมขับรถตามรถที่คนตัวเล็กนั่งมาจนถึงคอนโดหรูแห่งหนึ่ง หัวใจผมชาวาบหรือเขาคนนั้นจะเป็นสามีของคนตัวเล็กถ้าอย่างงั้นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ว่าน้องซีนายเป็นลูกของผม ก็เป็นเรื่องที่ผมคิดไปเองนะซิผมขับรถมาจอดในลานจอดรถของคอนโดที่มีความรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จึงทำให้ผมเข้าไปภายในคอนโดนั้นไม่ได้ ขนาดจะเข้ามายังพื้นที่ลานจอดรถยังต้องแลกบัตรเลย แล้วอย่าคิดว่าผมจะเข้าไปยังภายในอาคารของคอ
ตี 5 ของวันใหม่ฉันรีบตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อต้องการจะปลุกคนหน้ามึนให้ตื่นก่อนไอ้ต้าวตัวน้อยจะตื่นขึ้นมาเพื่อไปโรงเรียนสองขาวาดลงจากเตียงก่อนจะสาวเท้าด้วยความเร็วออกไปทิศทางของโซฟาที่ตอนนี้เป็นที่นอนให้กับคนที่เป็นพ่อของลูก ก่อนจะยื่นฝ่ามือบางเขย่าร่างหนาที่ตอนนี้หลับไม่รู้เรื่อง"คุณ คุณ ตื่นเถอะ กลับไปก่อนเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเจอ"ขณะที่เจแปนนั้นรู้สึกตัวตั้งแต่คนตัวเล็กเปิดประตูออกมาแล้วแต่เจ้าตัวกับทำตัวเจ้าเล่ห์แกล้งหลับตาเสมือนว่าตัวเองนั้นยังนอนหลับยังไม่ตื่น"อืม..."เสียงทุ้มเปล่งออกมาทำเหมือนรำคาญแต่ในใจกับยกยิ้มก่อนที่เจแปนจะวาดท่อนแขนพร้อมกับส่งฝ่ามือหนาดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด"ว๊าย..."เสียงหวานเปล่งออกด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้ก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงอีกทั้งตอนนี้ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงเซน จนรับรู้ถึงกลิ่นไอลมหายใจของกันและกัน สายตาคู่สวยกวาดมองไปที่ใบหน้าหล่อที่ตอนนี้ปิดเปลือกตาสนิท ด้วยความสงสัยในพฤติกรรมอดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าหลับจริงหรือไม่"หลับจริงหรือเปล่านี่ คุณตื่นเถอะเดี๋ยวน้องซีนายตื่นมาเห็น""....." คนที่แกล้งกับแสดงออกมาอย่าเ
คำโปรยการกลับมาเที่ยวบ้านเกิดของ.... ในครั้งนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่าจากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบภัย...ในคำคืนก่อนบินกลับไปเรียน เพื่อนสาวคนสนิท...อยากเลี้ยงอำลา เธอผู้ไม่ชอบแสงสีและเสียงที่ดังอย่างการเข้าผับบาร์แต่เพียงเพราะเพื่อนคนสนิทร้องขอเธอจะปฎิเสธก็กะไรอยู่ในที่อโคจร....ความประมาทเกิดขึ้นได้เสมอใช่มันเกิดขึ้นกับเธอเร็วมากร่างกายโดนสิ่งแปลกปลอมวิ่งเข้าสู่ร่างกายทำเธอร้อนรุ่มหาที่เปรียบไม่ได้นาทีนี้เธอจะตายไหมนะ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือฟ้าลิขิตในคำคืนนี้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครคนหนึ่ง...เขาคือใคร...?อันนิกาตื่นขึ้นมาตอนเช้าร่างกายที่ โดนคนบนเตียงปูยี้ปูยำ..ตัวเธอยืน มองชายหนุ่มร่างกำยำผู้พรากความ สาวไปจากเธอ...แต่วินาทีนั้นเธอต้องบินแล้ว"เธอจากมาโดนไม่ลา3เดือนต่อมาในต่างประเทศ ร่างกายของเธอมีการต่อต้านอาหารที่โปรดปรานเอามาก"อันท้องหรือ..."บ้า..... แต่ในใจเธอมันมีมากกว่าหมื่นแสนล้านคำ..เธอท้องหริอชิบหายคืนนั้นฉันลืมเลยแนะนำตัวละครเจแปน หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เจ้าของโชว์รูมรถชื่อดังที่นำเข้าและขายรถหรู หล่อ รวย เจ้าชู้นิด ๆ ตามแบบฉบับคนโสดอันนิกา แอนดิสัน ล
เวลาเริ่มดึกคนต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายส่งผลให้บรรยากาศภายในร้านเริ่มมีนักท่องเที่ยวแน่นและเยอะกว่าทุกวันหรือนี่อาจจะเป็นวันศุกร์ของสิ้นเดือนนักท่องเที่ยวเลยเยอะมากกว่าปกติสามสาวนั่งดื่มค๊อกเทลบนโต๊ะจนเริ่ม หร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ตลอดการนั่งดื่มของสามสาวต่างมีหนุ่ม ๆ ค่อยแวะเวียนมาขอชนแก้วไม่ขาดสายยิ่งดึกเสียงเพลงยิ่งเป็นจังหวะที่สนุกสนามสองสาวอย่างนิสากับปานดาวลุกขึ้นอวดลวดลายโชว์สเต็ปการเต้นข้างโต๊ะที่หญิงสาวนั่งแบบไม่มีใครยอมใครและขาดไม่ได้เลยที่จะมีหนุ่ม ๆ ขยับมาเต้นใกล้ ๆ เพื่อนทั้งสองฉันมองแล้วกับยิ้มที่นาน ๆ ทีจะเห็นเพื่อนทั้งสองสนุกขนาดนี้ ก่อนจะรู้สึกปวดท้องน้อยขึ้นมาเป็นเพราะปวดฉี่ อยากจะเข้าห้องน้ำก็แหมจะไม่ปวดได้อย่างไรในเมื่อฉันดื่มค๊อกเทลด้านหน้าหมดไปแล้วไม่รู้กี่แก้วแต่ที่รู้คือค๊อกเทลที่สองสาวสั่งมาเราสามคนต่างช่วยกันดื่ม"นี่แกฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"ฉันบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายที่ด้านในมีโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ติดตัวไปด้วย"อืม รีบไปรีบมานะ กระเป๋าก็ว่างที่โต๊ะแหละไม่หายหรอก""ว่าจะไปโทรศัพท์หาพี่ออกัสด้วยตั้งแต่มายังไม่ได้บอกพี่ออกัสเลยว่าอยู
ด้านอันนิกา ฉันดีใจมากที่มีผลเมืองดีมาช่วยฉันไว้ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนก่อนหน้านั้นฉันคิดว่าเขาน่าไว้ใจและดูปลอดภัยกว่าผู้ชายคนนั้นดีเท่าไหร่แล้วที่เมื่อครู่ฉันรวบรวมแรงที่มีอยู่สะบัดท่อนแขนออกจากการจับกุมจากผู้ชายที่อันตรายคนนั้นได้คิดถึงช่วงเวลานั้นฉันยังกลัวไม่หาย เมื่อได้ยินคนใจดีเอ่ยชวนฉันว่าจะไปส่งฉันจึงไม่คิดที่ปฎิเสธเลย ยอมก้าวเดินตามชายรูปร่างสูงไปยังรถอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเข้าไปนั่งด้านในรถฝั่งข้างคนขับรถยนต์คันหรูถูกขับออกจากผับที่มี รถสัญจรไม่หนาแน่นเท่าช่วงเช้าหรือช่วงเย็นอาจเป็นเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่ดึกและเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลาย ๆ คนแต่เมื่อรถถูกขับไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งฉันกับมีอาการบ้างอย่างแล่นเข้ามาภายในร่างกายความรู้สึกร้อนวูบวาบจากภายใน จิตใจเริ่มสั่นไหว"น้องยังไม่บอกพี่เลยว่าบ้านอยู่ไหน"ฉันได้ยินเสียงทุ้มของคนที่นั่งด้านข้างเอ่ยถามฉัน ขนาดที่สมองกับอื้ออึงคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันเริ่มจะทนอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว"...""น้องไม่ได้ยินที่พี่ถามเหรอ พี่ถามว่าจะให้พี่ไปส่งที่ไหน"เสียงทุ้มเอ่ยถามฉันอีกรอบ ก่อนที่พี่ชาย
ขณะคนตัวเล็กกับพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับพร้อมกับยกท่อนแขนเรียวโอบรอบลำคอหนาบดเบียดอกนุ่มนิ่มแนบชิดแผงอกแกร่งพร้อมกับส่งสายตาคู่สวยสบตาคมของผมอย่างหยาดเยิ้มสติสัมปชัญญะของผมแตกกระเจิง หัวใจเต้นเร้า ฝ่ามือหนายกขึ้นจับท้ายทอยพร้อมส่งจูบอันเร้าร้อนเข้าไปตักตวงหาความหอมหวานจากโพร่งปากด้านในปลายลิ้นหนากวาดต้อนหาความหอมหวานก่อนจะเกี่ยวตวัดหยอกเหย้าเรียวลิ้นบางที่เปียกชื้นอย่างเร้าร้อน ในขณะที่สาวสวยในอ้อมกอดกับตอบกับเรียวลิ้นหนาเหมืิอนคนไร้ประสบการณ์ แม้จะดูเงะงะไปบางแต่กับทำสร้างความหอมหวานปลุกกระสันความเป็นชายจนไม่อาจจะหักห้ามใจจากตอนแรกคิดจะทัดทานความสัมพันธ์อันจาบจ้วงแต่เมื่อโดนรุกเร้ามาก ๆ ผมไม่อาจจะหักห้ามใจได้เลย มาถึงขนาดนี้แล้วอะไรจะเกิดก็เกิดเถอะผมยอมรับผลกรรมมือหนาจับใบหน้าเรียวสวยออกห่างพร้อมกับแนบจมูกโด่งจรดแก้มเนียนใสก่อนจะกระซิบลงข้างใบหูของคนบนตักด้วยน้ำเสียงกระเส่า"ทนได้ไหมเดี๋ยวก็ถึงคอนโดพี่แล้ว"คนร่างเล็กส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มขณะที่มือเรียวบางทั้งสองจับไหล่หนาผมไว้แน่น กดส่ายสะโพกบดเบียดเนินเนี้อนางถูไถลงที่ท่อนเอ็นลำใหญ่ ผมถึงกับครางด้วยความเสีย
ฉันตื่นมาในช่วงเช้ามองรอบ ๆ ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นสีเทาสลับสีขาว ดูเรียบหรูบอกนิสัยเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี สายตาคู่สวยมองไปชายรูปร่างสูง ผมดกดำ ผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนผิวผู้หญิงนอนค่ำหน้ามีผ้าห่มคลุมช่วงเอว ฉันเผลอมองคนใจดีด้วยความเสน่หากับตอนกลางคืนว่าดูดีแล้วตอนกลางวันดูดีกว่าหลายเท่า"อืม เซ็กซี่เป็นบ้า"ฉันเผลอพึมพำออกมาเบา ๆ นี่มันเทพบุตรชัด ๆ เอาวะครั้งแรกกับคนหล่อขนาดนี้ถือเสียว่าสิ่งที่เสียไปไม่คิดที่จะเสียดายเลยดีกว่าให้ไอ้ผู้ชายหน้าปลวกนิสัยเลวคนนั่นเป็นไหน ๆ ก่อนที่ฉันจะมองไปยังหัวเตียงที่มีนาฬิกาตั้งอยู่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้วที่เข็มสั้นชี้เลข 6 เข็มยาวชี้เลข 10 บ่งบอกถึงเวลาตายแล้วใกล้จะ 6 โมงเช้าแล้วเหรอบ้านก็ไม่ได้กลับและยังต้องขึ้นเครื่องตอนบ่ายอีกไม่ได้การแล้ว ฉันจะโดนอะไรบ้างเนี่ยพี่ออกัสเอาฉันตายเลยสองเท้าวาดลงจากเตียงกว้างเมื่อฝ่าเท้าเเตะพื้นดีแล้วฉันลุกขึ้นยืน ก่อนขาฉันขาอ่อนยวบลงไปนั่งกองกับพื้น"โอ้ยเจ็บจัง หน้าตาก็ดีแต่ทำไมกินดุแบบนี้"มือข้างหนึ่งกุมท้องน้อยไว้ ส่วนอีกข้างท้าวลงที่เตียงก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวยืนขึ้นจนมั่นคงสองตาคู่สวยมองหาเสื้อผ้าที่ก