ด้านอันนิกา ฉันดีใจมากที่มีผลเมืองดีมาช่วยฉันไว้ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนก่อนหน้านั้นฉันคิดว่าเขาน่าไว้ใจและดูปลอดภัยกว่าผู้ชายคนนั้น
ดีเท่าไหร่แล้วที่เมื่อครู่ฉันรวบรวมแรงที่มีอยู่สะบัดท่อนแขนออกจากการจับกุมจากผู้ชายที่อันตรายคนนั้นได้
คิดถึงช่วงเวลานั้นฉันยังกลัวไม่หาย เมื่อได้ยินคนใจดีเอ่ยชวนฉันว่าจะไปส่ง
ฉันจึงไม่คิดที่ปฎิเสธเลย ยอมก้าวเดินตามชายรูปร่างสูงไปยังรถอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเข้าไปนั่งด้านในรถฝั่งข้างคนขับ
รถยนต์คันหรูถูกขับออกจากผับที่มี รถสัญจรไม่หนาแน่นเท่าช่วงเช้าหรือช่วงเย็นอาจเป็นเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่ดึกและเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลาย ๆ คน
แต่เมื่อรถถูกขับไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งฉันกับมีอาการบ้างอย่างแล่นเข้ามาภายในร่างกายความรู้สึกร้อนวูบวาบจากภายใน จิตใจเริ่มสั่นไหว
"น้องยังไม่บอกพี่เลยว่าบ้านอยู่ไหน"ฉันได้ยินเสียงทุ้มของคนที่นั่งด้านข้างเอ่ยถามฉัน ขนาดที่สมองกับอื้ออึงคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันเริ่มจะทนอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว
"..."
"น้องไม่ได้ยินที่พี่ถามเหรอ พี่ถามว่าจะให้พี่ไปส่งที่ไหน"เสียงทุ้มเอ่ยถามฉันอีกรอบ ก่อนที่พี่ชายใจดีจะหันมามองฉัน เขาชักสีหน้าตกใจ
"น้องเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมเหงื่ิอถึงออกเยอะแบบนี้"คำถามถึงความห่วงใยก่อนที่มือหนาจะหยิบกระดาษทิชชู่แผ่นบางส่งให้ฉัน
ฉันรับไว้อย่างว่าง่ายก่อนจะใช้กระดาษแผ่นบ้างเช็ดลงรอบกรอบใบหน้าที่ตอนนี้เริ่มมีเม็ดเหงื่อสีใสผุดออกมาเต็มใบหน้าสวย
"ร้อนคะ ร้อน แอร์รถพี่เสียหรือเปล่า"ฉันบอกขณะที่มือฉันเริ่มดึงเสื้อคลุมออกวางลงข้างตัวเผลยให้เห็นเสื้อสายเดียวตัวจิ๋วที่ปกปิดผิวขาวเนียนที่ตอนนี้ผิวสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจากฤทธิ์บางอย่าง
เรียวมือบางโบกพัดวีเพื่อให้ไอเย็นจากแอร์กระทบผิวบางแต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย
"แอร์รถพี่ก็ปกตินะ น้องไม่สบายหรือเปล่า"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเร่งความแรงของแอร์ให้แรงกว่าเก่า
"ร้อนคะ ร้อนไม่ไหวแล้ว"ฉันพยายามสะกดอารมณ์ที่ร้อนวูบวาบจากภายในกายสาว อีกทั้งพยายามบดเบียดต้นขาอ่อนเข้าหากัน แต่ทว่ามือเรียวของฉันกับทำอะไรที่ตรงกันข้าม
"พี่ช่วยหนูด้วย หนูเป็นอะไรไม่รู้"เสียงหวานของฉันเอ่ยขึ้นขอความช่วยเหลือในทันที ขนาดผู้ชายพลเมืองดีเห็นฉันมีอาการแปลก ๆ ถึงกับเบี่ยงรถจอดเข้าข้างทางพร้อมกับสบถคำหยาบคายจนเสียงดัง
"เชี่ย เอ๋ย"หลังจากนั้นสติของฉันก็เริ่มพล่ามัวจำอะไรไม่ค่อยได้
ด้านเจแปน ผมงงตั้งแต่สาวใบหน้าหวานบอกผมว่าร้อนแล้วผมจึงพยายามเร่งแอร์ให้แรงกว่าเก่า น้องถอดเสื้อสูทที่คลุมออกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็คงร้อนแหละสงสัยคงดื่มเหล้าไปเยอะแอลกอฮอล์คงออกฤทธิ์
ผมมองไปยังทิศทางของคนใบหน้าหวานอีกรอบแต่ก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นด้านหน้าเมื่อคนตัวเล็กถอดเสื้อตัวจิ๋วออกเหลือแต่ บราเซียร์สีดำสุดเซ็กซี่ที่ปกปิดอกอันอวบอิ่มเอาไว้ ก่อนมือเรียวจะยกขึ้นบีบเค้นเนินอกอันอวบอิ่มจนเนื้อปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้วมือบาง
ผมรีบจอดรถยนต์คันหรูข้างทางทันที ที่มีรถขับผ่านไม่ค่อยเยอะกว่าช่วงกลางวันหรืออาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่ดึกสงัดและอาจจะเป็นเวลานอนของใครหลาย ๆ คน
"เชี่ย เอ๋ย ไปโดนตัวไหนมาเนี่ย"ภาพตรงหน้าอย่าในพูดเลยว่าน้องสาวคนสวยกำลังทำอะไรอยู่หรือน้องจะโดนวางยาจากผู้ชายคนนั้นแหละดูจากอาการ
สายตาคมไล่มองผิวขาวเนียนละเอียดที่ครั้งหนึ่งมีเสื้อสายเดียวปกปิดอยู่ตอนนี้เสื้อตัวบางไม่รู้ปลิวหายไปตอนไหน อีกทั้งฝ่ามือบางเริ่มขย้ำก้อนกลมนุ่มนิ่มผ่านเนื้อผ้าลายลูกไม้สีดำของบราเซียร์ตัวจิ๋ว ส่วนอีกข้างล่วงเข้าชายกระโปรงยีนส์ตัวสั้นพร้อมทั้งลูบไล้เนินเนื้อนางผ้าแพทตี้สีดำ
น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคออย่างฝืดเคียง กับเหตุการณ์ด้านหน้า ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ท่อนเอ็นลำใหญ่ที่อยู่ภายใต้กางเกงเริ่มแข็งขืน อีกทั้งยังปวดหนึบเมื่อเจอเหตุการณ์ที่รัญจวนใจ
"น้อง ไหวไหมเดี๋ยวพี่พาไปโรงพยาบาลดีกว่า"ผมเอ่ยถามขณะที่ตอนนี้สาวสวยใบหน้าลูกครึ่งกำลังลูบวนที่ใจกลางความสาวของตัวเอง ขณะที่มืออีกข้างบีบเค้นที่ก้อนเนื้อคู่สวย ผมถึงกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พยายามระงับอารมณ์ที่อยู่ด้านหน้า
"พี่...ช่วย...หนูด้วย"เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะร่างบอบบางโน้มองศาเข้ามาหาผมพร้อมกับแนบชิดริมฝีปากบางกระซิบลงใบหูหนาอีกทั้งมือเรียวสวยถูกยกลงมาคลึงแก่นกายของผมผ่านกางเกงยีนส์ตัวเก่ง อารมณ์ปราถนาพุงเข้ามากลางใจทันที เมื่อเจอสาวด้านข้างปลุกอารมณ์อีกทั้งท่อนเอ็นลำใหญ่ที่ปวดหนึบเริ่มเพิ่มทวีคูณอยากจะเข้าไปช่วงชิมความหอมหวานของร่างบอบบางที่เข้ามาปลุกกำหนักผม
ก่อนทุกอย่างจะเลยเถิดไปไกล ผมจึงรวบร่วมสติขึ้นมามือหนายกขึ้นจับมือเรียวสวยให้หยุดการกระทำนั้นก่อน เพราะตอนนี้แก่นกายของผมมันเหยียดตัวขยายใหญ่ขึ้นและยังรู้สึกถึงความปวดหนึบขึ้นไปทั้งกายลำใหญ่
"อย่าทำแบบนี้เลย พี่ว่าพี่ไปส่งหนูที่โรงพยาบาลดีกว่านะ"ผมเอ่ยหว่านล้อมแม้ในร่างกายของผมจะมีความต้องการมากขนาดไหนก็ตาม แต่ผมก็ไม่อยากทำคนที่ไม่มีสติกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาภายหลัง
แต่ในช่วงเวลาที่ผมเอ่ยห้ามไม่คิดเลยว่าสาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งกับยืนใบหน้าหวานเข้ามาใกล้ ก่อนจะส่งริมฝีปากอวบอิ่มจะทาบทับลงบนริมฝีปากหนาของผม
จากที่คิดว่าจะห้ามปรามกับโอนอ่อนไปตามแรงปรารถนา มือหนาขยับเบาะให้เอนต่ำก่อนจะใช้สองมือช้อนสะโพกงามให้ลอยขึ้นมาพลาดทับที่หน้าขาแกร่งกระโปรงยีนส์ตัวสั้นขยับร่นขึ้นมาอยู่เกือบถึงช่วงเอวเผยให้เห็นแพทตี้สีดำสุดเซ็กซี่ที่เริ่มมีน้ำซึมออกมาให้เห็น
"ถ้าพี่ทำน้องจะไม่เสียใจเหรอครับ"ผมถามก่อนเพราะผมต้องการรู้ว่าผลลัพธ์ในภายภาคหน้าจะเป็นเช่นไร
ขณะคนตัวเล็กร่างบางกับส่ายหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับพร้อมกับยกท่อนแขนเรียบโอบรอบลำคอหนาบดเบียดอกนุ่มนิ่มแนบชิดแผงอกแกร่งพร้อมกับส่งสายตาคู่สวยสบตาคมอย่างหยาดเยิ้ม
ขณะคนตัวเล็กกับพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับพร้อมกับยกท่อนแขนเรียวโอบรอบลำคอหนาบดเบียดอกนุ่มนิ่มแนบชิดแผงอกแกร่งพร้อมกับส่งสายตาคู่สวยสบตาคมของผมอย่างหยาดเยิ้มสติสัมปชัญญะของผมแตกกระเจิง หัวใจเต้นเร้า ฝ่ามือหนายกขึ้นจับท้ายทอยพร้อมส่งจูบอันเร้าร้อนเข้าไปตักตวงหาความหอมหวานจากโพร่งปากด้านในปลายลิ้นหนากวาดต้อนหาความหอมหวานก่อนจะเกี่ยวตวัดหยอกเหย้าเรียวลิ้นบางที่เปียกชื้นอย่างเร้าร้อน ในขณะที่สาวสวยในอ้อมกอดกับตอบกับเรียวลิ้นหนาเหมืิอนคนไร้ประสบการณ์ แม้จะดูเงะงะไปบางแต่กับทำสร้างความหอมหวานปลุกกระสันความเป็นชายจนไม่อาจจะหักห้ามใจจากตอนแรกคิดจะทัดทานความสัมพันธ์อันจาบจ้วงแต่เมื่อโดนรุกเร้ามาก ๆ ผมไม่อาจจะหักห้ามใจได้เลย มาถึงขนาดนี้แล้วอะไรจะเกิดก็เกิดเถอะผมยอมรับผลกรรมมือหนาจับใบหน้าเรียวสวยออกห่างพร้อมกับแนบจมูกโด่งจรดแก้มเนียนใสก่อนจะกระซิบลงข้างใบหูของคนบนตักด้วยน้ำเสียงกระเส่า"ทนได้ไหมเดี๋ยวก็ถึงคอนโดพี่แล้ว"คนร่างเล็กส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มขณะที่มือเรียวบางทั้งสองจับไหล่หนาผมไว้แน่น กดส่ายสะโพกบดเบียดเนินเนี้อนางถูไถลงที่ท่อนเอ็นลำใหญ่ ผมถึงกับครางด้วยความเสีย
ฉันตื่นมาในช่วงเช้ามองรอบ ๆ ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นสีเทาสลับสีขาว ดูเรียบหรูบอกนิสัยเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี สายตาคู่สวยมองไปชายรูปร่างสูง ผมดกดำ ผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนผิวผู้หญิงนอนค่ำหน้ามีผ้าห่มคลุมช่วงเอว ฉันเผลอมองคนใจดีด้วยความเสน่หากับตอนกลางคืนว่าดูดีแล้วตอนกลางวันดูดีกว่าหลายเท่า"อืม เซ็กซี่เป็นบ้า"ฉันเผลอพึมพำออกมาเบา ๆ นี่มันเทพบุตรชัด ๆ เอาวะครั้งแรกกับคนหล่อขนาดนี้ถือเสียว่าสิ่งที่เสียไปไม่คิดที่จะเสียดายเลยดีกว่าให้ไอ้ผู้ชายหน้าปลวกนิสัยเลวคนนั่นเป็นไหน ๆ ก่อนที่ฉันจะมองไปยังหัวเตียงที่มีนาฬิกาตั้งอยู่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้วที่เข็มสั้นชี้เลข 6 เข็มยาวชี้เลข 10 บ่งบอกถึงเวลาตายแล้วใกล้จะ 6 โมงเช้าแล้วเหรอบ้านก็ไม่ได้กลับและยังต้องขึ้นเครื่องตอนบ่ายอีกไม่ได้การแล้ว ฉันจะโดนอะไรบ้างเนี่ยพี่ออกัสเอาฉันตายเลยสองเท้าวาดลงจากเตียงกว้างเมื่อฝ่าเท้าเเตะพื้นดีแล้วฉันลุกขึ้นยืน ก่อนขาฉันขาอ่อนยวบลงไปนั่งกองกับพื้น"โอ้ยเจ็บจัง หน้าตาก็ดีแต่ทำไมกินดุแบบนี้"มือข้างหนึ่งกุมท้องน้อยไว้ ส่วนอีกข้างท้าวลงที่เตียงก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวยืนขึ้นจนมั่นคงสองตาคู่สวยมองหาเสื้อผ้าที่ก
ผมออกัสพอฟังน้องสาวเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมดด้วยความที่เป็นพี่ชายผมก็ต้องโกรธใช่ไหมล่ะหรือทุกคนจะไม่เป็นแบบผม แต่เมื่อคิดอีกทีผมก็มีส่วนผิดอยู่บ้าง ถ้าคืนนั้นผมรับโทรศัพท์และรีบไปหาน้องสาวเรื่องราวทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้แน่นอนผมค่อย ๆ สาวเท้ามายังหน้าห้องน้องสาวได้ยินเสียงร้องไห้เล็ดรอดออกมาเบา ๆ หัวใจแกร่งผมก็อ่อนยวบจากเมื่อครู่ที่โกรธเคืองน้องสาวเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นความโกรธเมื่อครู่ก็จางหายไปในพริบตา เหลือแต่ความสงสารน้องสาวผมอย่างจับใจเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ไม่น่ามาเกิดกับน้องสาวผมเลยมือหนายกขึ้นเคาะห้องน้องสาวก๊อก ก๊อก ก๊อก!"อันเปิดประตูให้พี่หน่อย พี่ขอโทษ"ผมตะโกนบอกคนที่อยู่ด้านในห้อง เสียงร้องไห้เงียบลงเหลือเพียงความเงียบงันทำให้ผมไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าตอนนี้ภายห้องนอนของน้องสาวเกิดอะไรอยู่ขึ้นผมจึงตัดสินใจเคาะห้อง อีกครั้งแต่ครั้งนี้ดังกว่าเดิมก๊อก ก๊อก ก๊อก!"อันเปิดประตูให้พี่หน่อย ถ้าอันไม่เปิดพี่จะพังประตูจริง ๆ นะ"เสียงเคาะที่ดังขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว บ่งบอกว่าผมเป็นห่วงใยน้องสาวมากแต่ไม่รู้ว่าน้องสาวจะรู้สึกแบบเดียวกันไหมผมกำมือค้างไว้กำลังจะเคาะปร
3 เดือนต่อมาวันนี้เป็นอีกวันที่ฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียน แต่ก็แปลกพอฉันตื่นขึ้นมากับมีอาการมึนหัว ก่อนจะรู้สึกว่ามีก้อนบางอย่างวิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ"ฮึก!!!"สองขาวาดลงจากเตียงวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโก่งคอเอาอาหารที่ทานเมื่อคืนออกมาจนหมด ก่อนจะค่อย ๆ ขยับออกจากห้องน้ำ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนอย่างคนหมดแรง ตาคู่สวยปิดเปลือกตาลงเพื่อที่ต้องการจะพักอีกสักนิดก่อนไปมหาลัยแกร๊ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดขึ้นขณะที่ฉันค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาในห้องฉันทันที ก่อนจะได้ยิ่งเสียงหวานอันคุ้นเคยส่งมาให้ฉัน"เป็นอะไรลูกวันนี้ไม่ไปมหาลัยเหรอ"คุณแม่กล่าวก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเดินตรงมาที่ฉัน ขณะที่ฉันชันตัวนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง"ไม่รู้คะตื่นมาก็เวียนหัวเลย วันนี้ขอนอนพักนะคะ"ฉันบอกเพราะว่าตอนนี้เริ่มจะรู้สึกหมดแรงถ้าได้หยุดและนอนพักน่าจะดีขึ้น"เป็นเยอะหรือเปล่า ไปหาหมอไหมลูก"แม่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่คงไม่ต้องไปถึงกับไปหาหมอหรอกมั่งแค่นอนพักอีกหน่อยอาการที่เปฺ็นอยู่น่าจะดีขึ้น"ยังพอไหวคะ ขออันนอนพักสักนิดน่าจะดีขึ้น"ฉันบอกแม่ขณะที่แม่ยกฝ่ามืลูบหัวฉันด้วยความห่วงใย"ถ้าไม่หายรีบบอกแม่เล
ขณะที่ฉันเดินออกจากห้องตรวจเหมือนร่างไร้วิญญาณ แม่ที่นั่งรอฉันรีบเดินเข้ามาถามฉันถึงอาการป่วยทันที"หมอว่าไงบ้างลูก"ขณะที่ฉันทำสีหน้าท่าทางอึกอักเดินมานั่งเก้าอี้้ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ"แม่คะ คือ...""หมอว่าไงลูกบอกแม่มาเถอะ"แม่ถามฉันขณะที่ลูบหัวฉันเหมือนกับท่านจะรู้อะไรบ้างอย่างฉันเลยกลั้นใจเอ่ยบอกเรื่องที่ฉันกำลังตั้งท้อง"คือ ...หนูท้องคะ"ก่อนน้ำตาจะค่อย ๆ ไหลรินลงมาจากดวงตาคู่สวย"ไม่เป็นไรนะลูก ท้องก็ไม่เป็นไร"แม่เอ่ยบอกขณะยกฝ่ามือเรียวใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจาพ่วงแก้มฉัน"ฮึก...แต่...พ่อจะไม่ว่าอันเหรอคะ"ฉันถามด้วยความกังวล กลัวพ่อจะว่า"เดี๋ยวแม่จัดการเรื่องพ่อเอง แต่หนูบอกแม่ได้ไหมว่าหนูท้องได้ไง มันเกิดอะไรขึ้น"แม่ถามด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนทำให้เบาใจขึ้นก่อนที่ฉันจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวที่เกินขึ้นที่ประเทศไทยให้แม่ฟัง"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูกกลับบ้านกันก่อนเดี๋ยวเรื่องพ่อแม่จัดการเองหนูทำใจให้สบายนะไม่ต้องกังวลเดี๋ยวจะกระทบถึงลูกในท้อง"แม่ปลอบฉันอย่างอ่อนโยนฉันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่แม่ของฉันจะขับรถพาฉันกลับบ้านช่วงเวลาอาหารค่ำ ที่ตอนนี้มีพ
หลายเดือนต่อมาอีกด้านที่ประเทศไทย"เจแปนตกลงมึงไปหาหมอหรือยังไอ้อาการที่มึงกินอะไรไม่ได้ หมอเขาว่าอย่างไงบ้าง"เสียงทุ้มของน้ำเหนือถามเพื่อนด้วยความห่วงใย ขณะตัวเขาเองยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากเพราะอะไร ไม่รู้ว่าอาการที่เป็นช่วง 2-3 เดือนก่อน กินข้าวแทบไม่ได้ จะกินได้ก็พวกแต่ของเปรี้ยว ๆ"อืม...ช่วงนี้ดีขึ้นแล้ว แต่เดือนก่อนไปหาหมอ หมอบอกว่าปกติดีทุกอย่าง ขณะหมอยังงงว่าเป็นเพราะอะไร เลยสั่งยาแก้เครียดและยาแก้แพ้มาให้ แล้ววันนี้มึงมาหากูมีอะไรหรือเปล่า"ผมเริ่มอธิบายอาการที่เป็นให้เพื่อนฟัง ขณะที่เพื่อนพยักหน้าตอบรับ"ก็คิดว่าจะให้มึงหารถสวย ๆ ให้สักคัน กะจะเอาไว้ขับไปทำงาน แล้ววันนี้มึงจะไปร้านนั้นไหมวะที่มึงชอบไปเป็นประจำ"น้ำเหนือบอกเหตุผลที่เดินทางมาหาเพื่อน ก่อนจะถามถึงร้านประจำที่ผมชอบไปนั่ง ร้านนั้นก็คือร้านที่ผมพบกับสาวน้อยปริศนานั้นแหละ ผมไปรอเธอทุกวันที่ร้านเพื่อว่าจะมีโอกาสเจอกันสักครั้งแต่ความหวังก็ลิบลี่ลงเรื่อย ๆ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ เก้าเดือนแล้วมั่งถ้าผมจำไม่ผิด"สัปดาห์หน้ารถที่กูสั่งไว้จะถูกส่งมาที่โชว์รูมรถกู ถ้ามึงว่างค่อยมาดูมาเลือกก็ได้ว่าชอบคันไหน จะได้ไม่เอาขึ้นโ
พี่ชายอย่างออกัสเมื่อทราบข่าวว่าน้องสาวของตัวเองที่คลอดลูกก็รีบตรงมายังสวีเดน เพื่อที่อยากเห็นหน้าหลานชายของตัวเองว่าจะน่ารักขนาดไหนย้อนไปช่วงเวลานั้นเขายังจำได้ดีว่าทั้งพ่อกับแม่ต่อสายตรงมาต่อว่าเขาเรื่องที่ไม่ดูแลน้องสาวจนพลาดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น และเมื่อเขามารู้อีกว่าน้องสาวที่พลาดเสียความบริสุทธให้กับใครก็ไม่รู้ในคืนนั้นเกิดท้องขึ้นมาเขาก็ได้แต่โทษตัวเองว่าดูแลน้องไม่ดีแต่เมื่อทั้งหมดคุยและปรับความเข้าใจกันและน้องสาวยืนยันที่จะเก็บเจ้าก้อนกลมไว้ เขาที่เป็นพี่ชายจะพูดอะไรมากไม่ได้นอกจากเห็นดีเห็นงามไปด้วย"มาแล้วเหรอลูก มาดูหลานเร็วนอนหลับปุ๋ย น่ารักมากเลย"คนเป็นแม่เมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองมาหาน้องสาวที่ห้องฟักฟื้นภายในโรงพยาบาลต่างก็ดีใจ เสียงหวานของคนเป็นแม่รีบเรียกลูกชายให้มาดูหลายชายตัวน้อยใกล้ ๆ ที่ตอนนี้นอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ที่เป็นน้องสาวของเขา"สวัสดีครับ พ่อแม่ พอผมรู้ก็รีบให้เลขาจองตั๋วมาสวีเดนเลย"ออกัสรีบสาวเท้าเขามายังห้องที่น้องสาวนอน ว่างกระเป๋าเดินทางลงข้างโซฟาภายในห้องพักก่อนขาเรียวยาวจะรีบสาวด้วยก้าวยาว ๆ มาที่เตียงของน้องสาวสายตาคมไล่มองไปยัง
5 ปีต่อมาหลังจากคลอดน้องซีนายได้ 1 ปีฉันก็กลับไปเรียนมหาวิทยาลัยจนคว้าใบปริญญาสาขาบริหารธุรกิจมาฝากพ่อกับแม่ได้สำเร็จ โดยช่วงที่ฉันไปเรียนคุณแม่จะรับหน้าที่ดูแลน้องซีนายให้ ซึ่งแม่ของฉันเต็มใจที่จะดูแลให้อยู่และเพราะน้องซีนายเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยร้องไห้งอแงเหมือนเด็กคนอื่น ๆหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ น้องซีนายอายุเข้า 5 ขวบแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าลูกสุดที่รักของฉันจะขาดความรักเพราะน้องซีนายมีทั้งคุณตาคุณยายที่เป็นที่รัก และยังมีทั้งพี่ออกัสพี่ชายฉันที่รักไอ้ต้าวตัวน้อยประหนึ่งลูกชายตัวเอง ไม่ให้คิดแบบนั้นได้ไงเวลาที่พี่ชายฉันกลับมาสวีเดนไอ้ต้าวตัวน้อยก็จะค่อยตามติดเหมือนดังเงา และยิ่งเวลาที่ออกไปข้างนอกไอ้ต้วน้อยจะค่อยออดอ้อนเรียกพี่ชายว่าแดดดี้เวลาคนข้างนอกมองมาจึงไม่แปลกที่จะคิดว่าไอ้ต้าวตัวน้อยนั้นเป็นลูกชายของพี่ชายฉันถึงแม้ว่าหน้าตาจะไม่เหมือนกันก็ตามเถอะวันนี้เป็นวันที่ฉันจะต้องเดินทางกลับไปอยู่ที่เมืองไทยถาวรเพราะอะไรนั้นเหรอก็เพราะคุณแม่อยากกลับมาอยู่ประเทศไทยถาวรและยังเป็นโอกาสเหมาะที่พี่ออกัสกลับมาร่วมงานแต่งของญาติสนิทพอดีพ่อกับแม่เลยให้ฉันกลับมาประเทศไทยก่อนพร้อมกับพี่ชายเพราะคุ