คำโปรย
การกลับมาเที่ยวบ้านเกิดของ.... ในครั้งนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่าจากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบภัย... ในคำคืนก่อนบินกลับไปเรียน เพื่อนสาวคนสนิท...อยากเลี้ยงอำลา เธอผู้ไม่ชอบแสงสีและเสียงที่ดัง อย่างการเข้าผับบาร์ แต่เพียงเพราะเพื่อนคนสนิทร้องขอ เธอจะปฎิเสธก็กะไรอยู่ ในที่อโคจร....ความประมาทเกิดขึ้น ได้เสมอใช่มันเกิดขึ้นกับเธอเร็วมาก ร่างกายโดนสิ่งแปลกปลอมวิ่งเข้าสู่ ร่างกายทำเธอร้อนรุ่มหาที่เปรียบไม่ ได้นาทีนี้เธอจะตายไหมนะ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือฟ้าลิขิต ในคำคืนนี้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครคนหนึ่ง...เขาคือใคร...? อันนิกาตื่นขึ้นมาตอนเช้าร่างกายที่ โดนคนบนเตียงปูยี้ปูยำ..ตัวเธอยืน มองชายหนุ่มร่างกำยำผู้พรากความ สาวไปจากเธอ...แต่วินาทีนั้นเธอต้องบินแล้ว "เธอจากมาโดนไม่ลา 3เดือนต่อมาในต่างประเทศ ร่างกายของเธอมีการต่อต้านอาหารที่โปรดปรานเอามาก "อันท้องหรือ... "บ้า..... แต่ในใจเธอมันมีมากกว่าหมื่นแสนล้านคำ..เธอท้องหริอชิบหายคืนนั้นฉันลืมเลยแนะนำตัวละคร
เจแปน หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เจ้าของโชว์รูมรถชื่อดังที่นำเข้าและขายรถหรู หล่อ รวย เจ้าชู้นิด ๆ ตามแบบฉบับคนโสด
อันนิกา แอนดิสัน ลูกครึ่งไทยสวีเดน สวย เซ็กซี่ ขยี้ใจหนุ่ม ครอบครัวทำธุรกิจขนสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องด้วยเป็นลูกสาวคนเล็กทางครอบครัวจึงห่วงมากเป็นพิเศษ เลยให้ไปเรียนและใช้ชีวิตอยู่ประเทศสวีเดน ให้อยู่ใกล้สายตาพ่อและแม่ที่ตอนนี้คนทั้งคู่ได้มาอยู่ที่ประเทศสวีเดนได้หลายปีแล้วจุดเริ่มต้น
คลับหรูใจกลางเมือง สาวสวยหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจที่ถูกเพื่อนสาวที่สนิทมากนัดมาเลี้ยงส่งที่ผับหรูใจกลางเมือง ถึงแม้อันนิกาจะเรียนและเติบโตอยู่ต่างประเทศแต่ไม่บ่อยครั้งนักที่อันนิกาจะได้ย่างกายเข้าไปในสถานที่อโคจรถึงจะมีบ้างนาน ๆ ทีเพราะอันนิกาไม่ชอบเสียงอึกทึกครึกโครม "อันทางนี้กว่าจะเสด็จมาได้เนอะพวกฉันนั่งรอจนรากจะงอกหมดแล้ว"สาวสวยร่างบางที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีดำอวดโชว์หุ่นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างป่านดาวนั่งเคียงคู่กับสาวสวยหุ่นดีดีกรีเป็นถึงดาวมหาลัยอย่างนิสาที่มาในชุดเดรสสีขาวผ้ามันวาวรัดรูป อวดโชว์เนินอกให้หนุ่ม ๆ รอบข้างที่มองสองสาวตาเป็นมันวาว "แหมแกก็ว่าไป มาช้าแค่ 10 นาทีเอง"ฉันนั่งลงเกาอี้ข้างเพื่อนซี้ทั้งสองอย่าง ปานดาว กับนิสา ทั้งสองเป็นเพื่อนรักตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถมพอเริ่มเข้าเรียนระดับมัธยม ฉันก็ย้ายโรงเรียนไปเรียนที่สวีเดนตามพ่อกับแม่ พูดง่าย ๆ คือก็ย้ายกันไปหมดนั้นแหละ แต่พอพี่ชายของฉันเรียนจบชั้นไฮสคูลพี่ชายของฉันย้ายมาเรียนมหาลัยที่ประเทศไทย ครั้นพอถึงคราวที่ฉันเรียนจบไฮสคูลขอย้ายมาเรียนที่ประเทศไทยเหมือนพี่ชายบ้างแต่คุณพ่อกับคุณแม่กับไม่อนุญาติโดยให้เหตุผลที่ว่าเราเป็นผู้หญิงจะไปอยู่ได้อย่างไง เราไม่เหมือนพี่ออกัสนะเขาเป็นผู้ชายทำให้ฉันต้องยอมเรียนอยู่ที่ประเทศสวีเดนตามคำสั่งพ่อแม่ แต่ถึงอย่างไรเสียพอขึ้นมหาลัยฉันก็ขอท่านทั้งสองมาเที่ยวที่ประเทศไทย ท่านมีอาการอิดออดไม่อยากให้ฉันมาแต่ฉันก็ยกเหตุผลร้อยแปดจึงได้มาเที่ยวที่ประเทศไทย เพราะอย่างไรก็มีพี่ชายอย่างพี่ออกัสช่วยดูแลเพื่อนทั้งสองที่สนิทกันดีพอรู้ว่าฉันมาเที่ยวไทยก็รีบนัดฉันมายังผับหรู ในใจก็ไม่อยากจะมาเท่าไหร่แต่ขัดนางทั้งสองไม่ได้เลยต้องยอมจำใจมา แล้วเป็นไงนางเล่นสั่งเครื่องดื่มมาซะเต็มโต๊ะนางคิดอะไรอยู่เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องบินกลับประเทศสวีเดนแล้ว
"ฉันไม่รู้ว่าแกชอบดื่มอะไรฉันเลยสั่งเครื่องดื่มให้แกหลายอย่าง แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะว่าค๊อกเทลพวกนี้จะไม่หมด เพราะอย่างไงฉันกับยัยปานกินหมดอยู่แล้วค๊อกเทลแค่นี้จิ๊บ ๆ ว่าแต่แกแต่งตัวอะไรมาเนี่ยมาผับนะคะ ไม่ได้มาสมัครงาน"เสียงหวานของนิสากล่าวพรางมองไปยังชุดที่เพื่อนใส่มาเที่ยวที่มีลักษณะคล้ายชุดทำงานถึงใส่กระโปรงยีนส์สั้นเหนือเข่าแต่ตัวเสื้อนี่สิที่ถูกคลุมมิดชิดด้วยเสื้อสูทที่ดูเรียบร้อยไม่เหมาะกับสถานที่ที่เพื่อนนัดมาเที่ยวเลย
"ใช่ใส่อะไรมา แกถอดเสื้อสูทออกเลยนะจะใส่คลุมทำเพื่อ..?"ปานดาวเอ่ยขึ้นอีกคนและยังสั่งการให้ฉันถอดเสื้อสูทออกด้วย
ฉันไม่ได้แย้งเพื่อนทั้งสองก่อนจะยอมถอดเสื้อสูทด้านนอกออกเพราะด้านในฉันมีเสื้อสายเดี่ยวสีขาวอีกตัว "เห็นไหมพอแกถอดเสื้อสูทออกดูเซ็กซี่ขึ้นมาเลย ดูสิหนุ่ม ๆ มองแกตาเป็นมันเลย เอ่อฉันว่าจะถามแกทำไมถึงกลับไวจัง ฉันว่าจะชวนแกไปเที่ยวทะเลสักหน่อย"ปานดาวชมชุดที่เพื่อนใส่ก่อนจะมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ปานดาวจึงไม่ลังเลเอ่ยถามเพื่อนในทันที "ก็สัญญากับพ่อไว้แล้ว ถ้าปิดเทอมรอบหน้าอาจจะได้อยู่เที่ยวที่ประเทศไทยนาน ๆ เกือบเดือนเลยนะคราวนี้แหละแกสองคนคงเบื่อขี้หน้าฉันแน่น ๆ "เสียงหวานของฉันเอ่ยบอกเพื่อนสนิททั้งสองพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ "ให้มันจริงเถอะยัยอันไม่ใช่พอถึงวันนั้นจริง ๆ ก็อยู่ได้แค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็รีบกลับอีก ใช่ไหมยัยสา"ปานดาวเอ่ยพร้อมกับหันไปถามนิสาไปในตัวขณะที่นิสาพยักหน้า ฮึก ฮึก เห็นด้วยกับเพื่อน "จริง เบื่อแกอะ ไม่รู้ว่าพ่อแม่แกจะหวงอะไรกันหนักกันหนา พี่ชายก็เรียนอยู่ที่ประเทศไทยไม่เห็นพ่อแม่แกจะเป็นห่วงพี่ออกัสของฉันเลย"นิสาเอ่ยขึ้นบ้างก่อนจะคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชายเพื่อนลอยวนเวียนอยู่ภายในหัว "ก็พี่ฉันเรียนใกล้จบแล้ว และยังต้องดูแลบริษัทที่นี่ด้วยไง พ่อกับแม่เลยไม่อยากให้ฉันมาเป็นภาระพี่ออกัสมั่ง" "อ่อ อย่างไงก็แล้วแต่ ถ้ารอบหน้าถ้าแกมาไทยอีก ฉันสองคนจะลากแกไปเที่ยวเกาะทางใต้ให้ได้แกจำคำพูดฉันเอาไว้เลยนะยัยอันเพราะเราสองคนจองตัวแกล่วงหน้าเลย"นิสากล่าวพรางยกเครื่องดื่มด้านหน้าขึ้นจิบเบา ๆ "โอเค ฉันตามใจแกสองคน ว่าแต่ค๊อกเทลบนโต๊ะพวกเราจะกินหมดเหรอมันเยอะอยู่นะ"ดวงตาคู่สวยของฉันมองไปยังโต๊ะที่วางแก้วใบใสที่ใส่น้ำหลายสีอยู่ในแก้ว "แหมแค่นี้จิ๊บ ๆ แกไม่ต้องห่วง ว่าแต่แกอ่ะไหวหรือเปล่า"ปานดาวพูดขณะยกยิ้มทำใบหน้าทะเล้นส่งมาให้ฉัน "แกสองคนไหวฉันก็ไหว"พูดจบมือเรียวของฉันจับแก้วใบใสข้างในที่มีน้ำสีฟ้ายกขึ้นสูดกลิ่นแอลกอฮอล์ก่อนที่จะส่งน้ำสีฟ้าเข้าปาก ถึงแม้ค็อกเทลด้านหน้าแอลกอฮอล์จะต่ำแต่ถ้าดื่มเข้าไปเยอะ ๆ ก็มีโอกาสเมาได้เช่นกันเวลาเริ่มดึกคนต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายส่งผลให้บรรยากาศภายในร้านเริ่มมีนักท่องเที่ยวแน่นและเยอะกว่าทุกวันหรือนี่อาจจะเป็นวันศุกร์ของสิ้นเดือนนักท่องเที่ยวเลยเยอะมากกว่าปกติสามสาวนั่งดื่มค๊อกเทลบนโต๊ะจนเริ่ม หร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ตลอดการนั่งดื่มของสามสาวต่างมีหนุ่ม ๆ ค่อยแวะเวียนมาขอชนแก้วไม่ขาดสายยิ่งดึกเสียงเพลงยิ่งเป็นจังหวะที่สนุกสนามสองสาวอย่างนิสากับปานดาวลุกขึ้นอวดลวดลายโชว์สเต็ปการเต้นข้างโต๊ะที่หญิงสาวนั่งแบบไม่มีใครยอมใครและขาดไม่ได้เลยที่จะมีหนุ่ม ๆ ขยับมาเต้นใกล้ ๆ เพื่อนทั้งสองฉันมองแล้วกับยิ้มที่นาน ๆ ทีจะเห็นเพื่อนทั้งสองสนุกขนาดนี้ ก่อนจะรู้สึกปวดท้องน้อยขึ้นมาเป็นเพราะปวดฉี่ อยากจะเข้าห้องน้ำก็แหมจะไม่ปวดได้อย่างไรในเมื่อฉันดื่มค๊อกเทลด้านหน้าหมดไปแล้วไม่รู้กี่แก้วแต่ที่รู้คือค๊อกเทลที่สองสาวสั่งมาเราสามคนต่างช่วยกันดื่ม"นี่แกฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"ฉันบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายที่ด้านในมีโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ติดตัวไปด้วย"อืม รีบไปรีบมานะ กระเป๋าก็ว่างที่โต๊ะแหละไม่หายหรอก""ว่าจะไปโทรศัพท์หาพี่ออกัสด้วยตั้งแต่มายังไม่ได้บอกพี่ออกัสเลยว่าอยู
ด้านอันนิกา ฉันดีใจมากที่มีผลเมืองดีมาช่วยฉันไว้ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนก่อนหน้านั้นฉันคิดว่าเขาน่าไว้ใจและดูปลอดภัยกว่าผู้ชายคนนั้นดีเท่าไหร่แล้วที่เมื่อครู่ฉันรวบรวมแรงที่มีอยู่สะบัดท่อนแขนออกจากการจับกุมจากผู้ชายที่อันตรายคนนั้นได้คิดถึงช่วงเวลานั้นฉันยังกลัวไม่หาย เมื่อได้ยินคนใจดีเอ่ยชวนฉันว่าจะไปส่งฉันจึงไม่คิดที่ปฎิเสธเลย ยอมก้าวเดินตามชายรูปร่างสูงไปยังรถอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเข้าไปนั่งด้านในรถฝั่งข้างคนขับรถยนต์คันหรูถูกขับออกจากผับที่มี รถสัญจรไม่หนาแน่นเท่าช่วงเช้าหรือช่วงเย็นอาจเป็นเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่ดึกและเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลาย ๆ คนแต่เมื่อรถถูกขับไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งฉันกับมีอาการบ้างอย่างแล่นเข้ามาภายในร่างกายความรู้สึกร้อนวูบวาบจากภายใน จิตใจเริ่มสั่นไหว"น้องยังไม่บอกพี่เลยว่าบ้านอยู่ไหน"ฉันได้ยินเสียงทุ้มของคนที่นั่งด้านข้างเอ่ยถามฉัน ขนาดที่สมองกับอื้ออึงคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันเริ่มจะทนอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว"...""น้องไม่ได้ยินที่พี่ถามเหรอ พี่ถามว่าจะให้พี่ไปส่งที่ไหน"เสียงทุ้มเอ่ยถามฉันอีกรอบ ก่อนที่พี่ชาย
ขณะคนตัวเล็กกับพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับพร้อมกับยกท่อนแขนเรียวโอบรอบลำคอหนาบดเบียดอกนุ่มนิ่มแนบชิดแผงอกแกร่งพร้อมกับส่งสายตาคู่สวยสบตาคมของผมอย่างหยาดเยิ้มสติสัมปชัญญะของผมแตกกระเจิง หัวใจเต้นเร้า ฝ่ามือหนายกขึ้นจับท้ายทอยพร้อมส่งจูบอันเร้าร้อนเข้าไปตักตวงหาความหอมหวานจากโพร่งปากด้านในปลายลิ้นหนากวาดต้อนหาความหอมหวานก่อนจะเกี่ยวตวัดหยอกเหย้าเรียวลิ้นบางที่เปียกชื้นอย่างเร้าร้อน ในขณะที่สาวสวยในอ้อมกอดกับตอบกับเรียวลิ้นหนาเหมืิอนคนไร้ประสบการณ์ แม้จะดูเงะงะไปบางแต่กับทำสร้างความหอมหวานปลุกกระสันความเป็นชายจนไม่อาจจะหักห้ามใจจากตอนแรกคิดจะทัดทานความสัมพันธ์อันจาบจ้วงแต่เมื่อโดนรุกเร้ามาก ๆ ผมไม่อาจจะหักห้ามใจได้เลย มาถึงขนาดนี้แล้วอะไรจะเกิดก็เกิดเถอะผมยอมรับผลกรรมมือหนาจับใบหน้าเรียวสวยออกห่างพร้อมกับแนบจมูกโด่งจรดแก้มเนียนใสก่อนจะกระซิบลงข้างใบหูของคนบนตักด้วยน้ำเสียงกระเส่า"ทนได้ไหมเดี๋ยวก็ถึงคอนโดพี่แล้ว"คนร่างเล็กส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มขณะที่มือเรียวบางทั้งสองจับไหล่หนาผมไว้แน่น กดส่ายสะโพกบดเบียดเนินเนี้อนางถูไถลงที่ท่อนเอ็นลำใหญ่ ผมถึงกับครางด้วยความเสีย
ฉันตื่นมาในช่วงเช้ามองรอบ ๆ ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นสีเทาสลับสีขาว ดูเรียบหรูบอกนิสัยเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี สายตาคู่สวยมองไปชายรูปร่างสูง ผมดกดำ ผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนผิวผู้หญิงนอนค่ำหน้ามีผ้าห่มคลุมช่วงเอว ฉันเผลอมองคนใจดีด้วยความเสน่หากับตอนกลางคืนว่าดูดีแล้วตอนกลางวันดูดีกว่าหลายเท่า"อืม เซ็กซี่เป็นบ้า"ฉันเผลอพึมพำออกมาเบา ๆ นี่มันเทพบุตรชัด ๆ เอาวะครั้งแรกกับคนหล่อขนาดนี้ถือเสียว่าสิ่งที่เสียไปไม่คิดที่จะเสียดายเลยดีกว่าให้ไอ้ผู้ชายหน้าปลวกนิสัยเลวคนนั่นเป็นไหน ๆ ก่อนที่ฉันจะมองไปยังหัวเตียงที่มีนาฬิกาตั้งอยู่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้วที่เข็มสั้นชี้เลข 6 เข็มยาวชี้เลข 10 บ่งบอกถึงเวลาตายแล้วใกล้จะ 6 โมงเช้าแล้วเหรอบ้านก็ไม่ได้กลับและยังต้องขึ้นเครื่องตอนบ่ายอีกไม่ได้การแล้ว ฉันจะโดนอะไรบ้างเนี่ยพี่ออกัสเอาฉันตายเลยสองเท้าวาดลงจากเตียงกว้างเมื่อฝ่าเท้าเเตะพื้นดีแล้วฉันลุกขึ้นยืน ก่อนขาฉันขาอ่อนยวบลงไปนั่งกองกับพื้น"โอ้ยเจ็บจัง หน้าตาก็ดีแต่ทำไมกินดุแบบนี้"มือข้างหนึ่งกุมท้องน้อยไว้ ส่วนอีกข้างท้าวลงที่เตียงก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวยืนขึ้นจนมั่นคงสองตาคู่สวยมองหาเสื้อผ้าที่ก
ผมออกัสพอฟังน้องสาวเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมดด้วยความที่เป็นพี่ชายผมก็ต้องโกรธใช่ไหมล่ะหรือทุกคนจะไม่เป็นแบบผม แต่เมื่อคิดอีกทีผมก็มีส่วนผิดอยู่บ้าง ถ้าคืนนั้นผมรับโทรศัพท์และรีบไปหาน้องสาวเรื่องราวทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้แน่นอนผมค่อย ๆ สาวเท้ามายังหน้าห้องน้องสาวได้ยินเสียงร้องไห้เล็ดรอดออกมาเบา ๆ หัวใจแกร่งผมก็อ่อนยวบจากเมื่อครู่ที่โกรธเคืองน้องสาวเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นความโกรธเมื่อครู่ก็จางหายไปในพริบตา เหลือแต่ความสงสารน้องสาวผมอย่างจับใจเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ไม่น่ามาเกิดกับน้องสาวผมเลยมือหนายกขึ้นเคาะห้องน้องสาวก๊อก ก๊อก ก๊อก!"อันเปิดประตูให้พี่หน่อย พี่ขอโทษ"ผมตะโกนบอกคนที่อยู่ด้านในห้อง เสียงร้องไห้เงียบลงเหลือเพียงความเงียบงันทำให้ผมไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าตอนนี้ภายห้องนอนของน้องสาวเกิดอะไรอยู่ขึ้นผมจึงตัดสินใจเคาะห้อง อีกครั้งแต่ครั้งนี้ดังกว่าเดิมก๊อก ก๊อก ก๊อก!"อันเปิดประตูให้พี่หน่อย ถ้าอันไม่เปิดพี่จะพังประตูจริง ๆ นะ"เสียงเคาะที่ดังขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว บ่งบอกว่าผมเป็นห่วงใยน้องสาวมากแต่ไม่รู้ว่าน้องสาวจะรู้สึกแบบเดียวกันไหมผมกำมือค้างไว้กำลังจะเคาะปร
3 เดือนต่อมาวันนี้เป็นอีกวันที่ฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียน แต่ก็แปลกพอฉันตื่นขึ้นมากับมีอาการมึนหัว ก่อนจะรู้สึกว่ามีก้อนบางอย่างวิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ"ฮึก!!!"สองขาวาดลงจากเตียงวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโก่งคอเอาอาหารที่ทานเมื่อคืนออกมาจนหมด ก่อนจะค่อย ๆ ขยับออกจากห้องน้ำ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนอย่างคนหมดแรง ตาคู่สวยปิดเปลือกตาลงเพื่อที่ต้องการจะพักอีกสักนิดก่อนไปมหาลัยแกร๊ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดขึ้นขณะที่ฉันค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาในห้องฉันทันที ก่อนจะได้ยิ่งเสียงหวานอันคุ้นเคยส่งมาให้ฉัน"เป็นอะไรลูกวันนี้ไม่ไปมหาลัยเหรอ"คุณแม่กล่าวก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเดินตรงมาที่ฉัน ขณะที่ฉันชันตัวนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง"ไม่รู้คะตื่นมาก็เวียนหัวเลย วันนี้ขอนอนพักนะคะ"ฉันบอกเพราะว่าตอนนี้เริ่มจะรู้สึกหมดแรงถ้าได้หยุดและนอนพักน่าจะดีขึ้น"เป็นเยอะหรือเปล่า ไปหาหมอไหมลูก"แม่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่คงไม่ต้องไปถึงกับไปหาหมอหรอกมั่งแค่นอนพักอีกหน่อยอาการที่เปฺ็นอยู่น่าจะดีขึ้น"ยังพอไหวคะ ขออันนอนพักสักนิดน่าจะดีขึ้น"ฉันบอกแม่ขณะที่แม่ยกฝ่ามืลูบหัวฉันด้วยความห่วงใย"ถ้าไม่หายรีบบอกแม่เล
ขณะที่ฉันเดินออกจากห้องตรวจเหมือนร่างไร้วิญญาณ แม่ที่นั่งรอฉันรีบเดินเข้ามาถามฉันถึงอาการป่วยทันที"หมอว่าไงบ้างลูก"ขณะที่ฉันทำสีหน้าท่าทางอึกอักเดินมานั่งเก้าอี้้ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ"แม่คะ คือ...""หมอว่าไงลูกบอกแม่มาเถอะ"แม่ถามฉันขณะที่ลูบหัวฉันเหมือนกับท่านจะรู้อะไรบ้างอย่างฉันเลยกลั้นใจเอ่ยบอกเรื่องที่ฉันกำลังตั้งท้อง"คือ ...หนูท้องคะ"ก่อนน้ำตาจะค่อย ๆ ไหลรินลงมาจากดวงตาคู่สวย"ไม่เป็นไรนะลูก ท้องก็ไม่เป็นไร"แม่เอ่ยบอกขณะยกฝ่ามือเรียวใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจาพ่วงแก้มฉัน"ฮึก...แต่...พ่อจะไม่ว่าอันเหรอคะ"ฉันถามด้วยความกังวล กลัวพ่อจะว่า"เดี๋ยวแม่จัดการเรื่องพ่อเอง แต่หนูบอกแม่ได้ไหมว่าหนูท้องได้ไง มันเกิดอะไรขึ้น"แม่ถามด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนทำให้เบาใจขึ้นก่อนที่ฉันจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวที่เกินขึ้นที่ประเทศไทยให้แม่ฟัง"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูกกลับบ้านกันก่อนเดี๋ยวเรื่องพ่อแม่จัดการเองหนูทำใจให้สบายนะไม่ต้องกังวลเดี๋ยวจะกระทบถึงลูกในท้อง"แม่ปลอบฉันอย่างอ่อนโยนฉันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่แม่ของฉันจะขับรถพาฉันกลับบ้านช่วงเวลาอาหารค่ำ ที่ตอนนี้มีพ
หลายเดือนต่อมาอีกด้านที่ประเทศไทย"เจแปนตกลงมึงไปหาหมอหรือยังไอ้อาการที่มึงกินอะไรไม่ได้ หมอเขาว่าอย่างไงบ้าง"เสียงทุ้มของน้ำเหนือถามเพื่อนด้วยความห่วงใย ขณะตัวเขาเองยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากเพราะอะไร ไม่รู้ว่าอาการที่เป็นช่วง 2-3 เดือนก่อน กินข้าวแทบไม่ได้ จะกินได้ก็พวกแต่ของเปรี้ยว ๆ"อืม...ช่วงนี้ดีขึ้นแล้ว แต่เดือนก่อนไปหาหมอ หมอบอกว่าปกติดีทุกอย่าง ขณะหมอยังงงว่าเป็นเพราะอะไร เลยสั่งยาแก้เครียดและยาแก้แพ้มาให้ แล้ววันนี้มึงมาหากูมีอะไรหรือเปล่า"ผมเริ่มอธิบายอาการที่เป็นให้เพื่อนฟัง ขณะที่เพื่อนพยักหน้าตอบรับ"ก็คิดว่าจะให้มึงหารถสวย ๆ ให้สักคัน กะจะเอาไว้ขับไปทำงาน แล้ววันนี้มึงจะไปร้านนั้นไหมวะที่มึงชอบไปเป็นประจำ"น้ำเหนือบอกเหตุผลที่เดินทางมาหาเพื่อน ก่อนจะถามถึงร้านประจำที่ผมชอบไปนั่ง ร้านนั้นก็คือร้านที่ผมพบกับสาวน้อยปริศนานั้นแหละ ผมไปรอเธอทุกวันที่ร้านเพื่อว่าจะมีโอกาสเจอกันสักครั้งแต่ความหวังก็ลิบลี่ลงเรื่อย ๆ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ เก้าเดือนแล้วมั่งถ้าผมจำไม่ผิด"สัปดาห์หน้ารถที่กูสั่งไว้จะถูกส่งมาที่โชว์รูมรถกู ถ้ามึงว่างค่อยมาดูมาเลือกก็ได้ว่าชอบคันไหน จะได้ไม่เอาขึ้นโ