ตอนที่8
เมื่อไม่มีเธอมันเหงา
ค่ำคืนแห่งการเยียวยาหัวใจ ของชายหนุ่มที่ทั้งโมโหเสียใจ เสียความรู้สึก และเมามาทำให้คืนนี้หญิงสาวต้องรับบทหนักหลายรอบกว่าเขาจะหายต้องการ
เมื่อความทุกข์ใจได้ถูกปลดปล่อยออกทางกาย ราเชนก็หลับสนิท แต่สำหรับแพทแล้ว เธอเริ่มรู้สึกรักเขา และไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ เพราะโลกแห่งความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ สนองราคะเป็นที่ระบายความทุกข์ให้เขาเท่านั้น เมื่อถึงเวลา สักวันเจ้าของตัวจริงก็ต้องมาเอาคืน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่ทั้งคู่พัฒนาจากเจ้านายกับลูกน้องมาเป็นอย่างอื่นกัน
เกือบทุกคืนที่ราเชนมานอนที่คอนโดน้อยครั้งที่เขากลับไปนอนบ้าน แต่ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่มาหาหญิงสาวเพราะหัวใจมันเรียกร้องอยากกอดทุกวัน
แพทไปถอนเงินทุกครั้ง เธอก็ไม่เคยเห็นเงินเธอลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจว่าราเชน คงเอาข้อมูลเลขบัญชีจากฝ่ายบุคคคลและโอนเงินให้เธออยู่เรื่อยๆ
เงินที่ได้มาหญิงสาวส่งไปบ้านเพื่อเป็นค่ารักษาพ่อและซ่อมแซมบ้าน น้องสาวส่งภาพมาให้ดูตอนนี้บ้านของเธอดูดีและน่าอยู่มาก น้องคนกลางก็เข้ามาเรียนในตัวจังหวัดและทำงานรับจ้างไปด้วย คอบครัวเธอถือว่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวส่งรูปบ้านที่น้องสาวส่งมาให้ เพื่อให้เจ้าของเงินที่คอยช่วยเธอทุกเดือนได้ดู
“บรรยากาศดีมากเลย ไว้ว่างๆ เราไปเที่ยวบ้านคุณกันไหม”
แพทไม่รู้จะตอบคนถามว่าอะไร เพราะเธอไม่รู้จะพาราเชนไปบ้านในฐานะไหน จึงได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ
เงินที่ชายหนุ่มให้เธอทุกเดือนไม่ได้มากอะไร สำหรับคนที่ฐานะดี แต่สำหรับแพทเธอไม่ยอมเอามาใช้จนเก็บได้เป็นก้อน และส่งกลับไปให้ที่บ้าน มันเลยกลายเป็นเงินก้อนโต
“แพทเดือนหน้าผมจะย้ายคุณไปทำงานในฝ่ายบริหารนะ จะให้ช่วยฝ่ายสินค้า งานไม่ยากเงินเดือนเท่าเดิม แต่คุณจะได้ไม่ต้องไปเหนื่อยแบบเก่า ”
ราเชนอยากทำแบบนี้ตั้งแต่เดือนแรกที่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแล้ว แต่เขากลัวหญิงสาวจะคิดมากแล้วพาลคิดว่าเขากำลังใช้เงิน ตำแหน่ง หน้าที่การงานมาซื้อตัวเธอ จึงได้รอเวลามาจนถึงตอนนี้
“แพทจบแค่ม.6 จะทำได้เหรอคะ” หญิงสาวไม่มั่นใจ
“ได้สิ งานทุกอย่างไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่เกิด เดี๋ยวหัวหน้าฝ่ายคุณก็จะสอนงานให้”
เมื่อราเชนพูดแบบนี้แพทก็สบายใจขึ้น เพราะหญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองความรู้น้อย กลัวจะไปทำงานได้ไม่ดี
“ตอนนี้คุณกับดิวได้เจอกันบ้างไหม”
ราเชนถามเพราะลึกๆ เขาก็รู้สึกกลัว กลัวว่าถ้าวันใด ที่ดิวกลับมาหาแพท เธอจะทิ้งเขาแล้วกลับไปหาคนรักเก่า
“ไม่ค่อยได้เจอ ถ้าเจอก็มีแฟนเขามาด้วย แต่ทรายเขายังไม่จบกับแพทเลยนะคะ ทุกวันนี้เขายังตามพูดจาให้ร้ายว่าแพทเป็นแบบนั้นแบบนี้ บางคนก็เชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อ และที่สำคัญ ตอนนี้ทรายกำลังสงสัยว่าแพทเอาเงินจากไหนส่งให้พ่อกับแม่ทำบ้าน คงจะรู้มาจากดิว เพราะพ่อแม่ดิวก็คงเล่าให้ลูกชายเขาฟัง”
ราเชนมัวแต่กลัวว่าตัวเองจะโดนทิ้ง จนไม่ได้สนใจเลยว่าแพทต้องพยายามระวังตัว อดกลั้นที่จะไม่มีเรื่องกับทรายคงเพราะไม่อยากให้เรื่องมาถึงตัวเขา
“ให้ผมเอาออกเลยไหม”
“ไม่นะคะ สงสารพวกเขา ถ้าไม่มีงานก็ไม่มีเงิน ยิ่งตอนนี้งานยิ่งหายากๆอยู่”
ราเชนหันไปสบตาหญิงสาว รับรองถ้าเป็นนิศาคงสั่งให้เขาไล่ออกแน่ๆ เพราะนิศาไม่เคยยอมทนกับอะไร แค่ทุกวันนี้เธอต้องทนอยู่กับเขา ราเชนยังอดคิดไม่ได้ว่าเธอคงทรมานน่าดู
เย็นวันนี้ครอบครัวทั้งสองครอบครัวนัดกินข้าวกัน เพราะชาติชายทนไม่ไหวจึงเอาเรื่องทั้งหมดไปปรึกษาพ่อของลูกสะใภ้ เพื่อช่วยกันหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
เวลาอยู่ต่อหน้าบิดานิศาก็จะเป็นอีกคน เวลาอยู่กับเพื่อนๆเธอก็จะเป็นอีกแบบ ราเชนยังเคยคิดเลย ว่าแบบไหนคือนิศาตัวจริงกันแน่
ผลของการพูดคุยกัน พ่อของทั้งสองคน ขอให้ทั้งคู่ไป ฮันนิมูนรอบสองด้วยกันที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหวังให้การเปลี่ยนบรรยากาศทำให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และอาจจะได้หลานกลับมาด้วย
ลูกทั้งสองคนไม่เคยกล้าปฏิเสธทุกอย่างที่ผู้เป็นบิดาต้องการอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
ราเชนบอกเรื่องนี้กับแพทก่อนที่จะเดินทาง เพราะเขาก็เป็นห่วงทั้งตัวและความรู้สึกของหญิงสาวไม่ได้
“แพทอยู่ได้ค่ะ ถ้าคุณกับภรรยาจะได้กลับมามีความสุขด้วยกันแพทก็ยินดี”
ทุกคำพูดคือความจริงจากใจ การเป็นเมียอีกคนของเขา ไม่ได้ทำให้แพทคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะรู้สึกหึง รู้สึกหวง เธอรู้ตัว ว่ามีสิทธิ์แค่ไหนดี
กำหนดการเดินทางทั้งคู่จะไปอยู่ที่นั่นสองสัปดาห์ แต่นี่เพิ่งผ่านไปแค่สามวัน แพทกลับรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ทุกคืน ทั้งที่ราเชนเองก็ส่งแชทมาคุยกับเธออยู่ตลอด
ทุกคืนที่ผ่านพ้นไป หญิงสาวพยายามบอกกับตัวเองว่า เธอจะต้องอยู่ให้ได้ ถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาอยู่ด้วยแล้วจริงๆ ครั้งนี้ก็คงเป็นการซ้อมไปก่อน
ก่อนที่ราเชนกับนิศาจะกลับเพียงไม่กี่วัน แพทก็เพิ่งสังเกตว่าประจำเดือนของเธอไม่มา เธอจึงลองซื้อที่ตรวจมาตรวจและผลก็ออกมาอย่างที่เธอกลัว
“โถ...ลูกแม่”
ความดี ความชั่ว ตีกันในความคิดของหญิงสาวที่กำลังจะเป็นแม่คน แพทตั้งใจที่จะเก็บลูกไว้ แต่เธอไม่อยากให้ลูกของเธอ ทำให้ครอบครัวของราเชนกับนิศาต้องพัง สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะไม่บอกราเชนและเก็บเงินอีกเดือนและจะอุ้มท้องลูกหนีกลับไปอยู่กับพ่อกับแม่ที่เหนือ
แพทรู้ว่าถ้าถึงวันนั้นพ่อกับแม่เธอคงเสียใจมาก ที่เธอท้องโดยไม่มีพ่อ แต่มันก็ถูกต้องแล้ว เธอทำผิดก็ต้องได้รับบทเรียน
นอกจากต้องการเก็บเงินสักก้อน ที่หญิงสาวไม่ยอมไปตั้งแต่ตอนนี้ เพราะอยากให้ราเชนได้มีโอกาสเจอเธอกับลูกก่อน
ตอนที่9กอดที่แน่นที่สุด “คิดถึงจังเลย มาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อยสิ” ราเชนโผเข้ากอดสาวโรงงานที่เขาสุดแสนจะคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันนาน “แพทก็คิดถึงคุณค่ะ ” หญิงสาวใช้มือข้างขวาลูบท้องของเธอไว้ เพื่อหวังว่าความอบอุ่นของอ้อมกอดราเชนจะส่งไปถึงลูกที่อยู่ในท้อง อาหารมื้อเย็นวันนี้หญิงสาวจัดเต็ม เพราะเธอรู้ตัว ว่าคงมีโอกาสทำให้เขากินได้อีกไม่นาน เธอกับลูกก็ต้องไปจากที่นี่แล้ว คืนนี้หญิงสาวแทบจะไม่ได้นอน เพราะถูกอีกฝ่ายแสดงความคิดถึงทั้งคืน แพทก็พยายามระวังเพราะกลัวจะส่งผลถึงลูกของเธอ วันนี้เป็นวันหยุดราเชนพาหญิงสาวไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ ไปไหว้พระ หาของกินอร่อยๆกิน รวมทั้งตอนกลับเขาพาเธอไปซื้อสร้อยคอที่เป็นทองหนักห้าบาท ถ้าเป็นปกติหญิงสาวคงไม่ยอมรับไหว แต่เพราะเธอรู้ ว่าการเลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้เงิน ถ้ากลับไปอยู่บ้านเธอคงไม่ค่อยมีรายได้อะไร ทองนี้คงช่วยเธอกับลูกได้ในตอนนั้น ก่อนจะกลับคอนโด ชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะไปที่ร้านเพชรที่อยู่ในห้างใหญ่ ตอนแรกแพทคิดว่าราเชนคงมาซื้อให้กับนิศา เพราะเขาซื้อทองให้เธอแล้ว แต่เม
ตอนที่10สูญเสีย วันนี้ทั้งวันราเชนทำงานอย่างไม่มีความสุขเลย เพราะเขาติดต่อแพทไม่ได้ ไม่ว่าแชทหรือการโทรศัพท์ ติดต่อไปที่ฝ่ายบุคคลเขาก็แจ้งว่าหญิงสาวไม่ได้มาทำงาน สิ่งแรกที่ทำหลังจากงานที่ทำเสร็จ คือการรีบกลับมาที่คอนโด “แพทคุณอยู่ไหน แพท คุณได้ยินผมไหม” ราเชนเหมือนคนเสียสติวิ่งไปทั่วห้องพยายามหาภรรยาของเขา ในมือเขาถือทะเบียนหย่าที่วันนี้เขากับนิศาได้ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่คนที่ชายหนุ่มต้องการเอามาอวดกับไม่อยู่แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญหายไป ราเชนมั่นใจว่าเขาได้เสียเธอไปแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกขว้างปาทั่วห้องไปหมด ราเชนกำลังเสียสติ เขาคิดว่าแพทต้องกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าแน่ๆ เมื่อไม่มีทางออกเขาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่โรงงานเพื่อขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของดิว ราเชนตั้งใจจะไปบุกให้ถึงที่ “เปิด เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ราเชนบุกไปที่ห้องของดิวแล้วทุบประตูห้องเช่าขนาดเล็กด้วยความโมโห “อะไรกัน คุณราเชน” คนที่มาเปิดประตูคือทราย เพราะตัวดิวเองกำลังอาบน้ำอยู่
ตอนที่11ตามหาหัวใจ “ราเชน วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงงาน มานั่งคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง อย่าให้พ่อต้องกลายเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองเลย” ชาติชายมานั่งรอราเชนอยู่ที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้า เพราะเขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้เขาต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้ “พ่อแน่ใจนะครับว่าพร้อมจะฟัง” ราเชนคิดมาตลอด ว่าบิดาของเขาไม่มีทางรับได้ที่เขาจะมีภรรยาเป็นแค่เพียงพนักงาน เขาจึงไม่คิดจะเล่าให้ฟัง “คงไม่มีอะไรทำให้พ่อทุกข์ใจ มากไปกว่าการที่พ่อต้องมาเห็นลูกเอาแต่เมาทุกวันแบบนี้” ชาติชายคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาทุกข์ใจมาหลายวันแล้วกับพฤติกรรมของลูกชาย วันนี้เขาจึงต้องการรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อหาทางแก้ไข ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ราเชนเล่าทุกเรื่องตั้งแต่ปัญหาระหว่างเขากับนิศาจนถึงที่เขาไปเจอแพทกำลังโดนดิวตบตีและเขาพาเธอมาอยู่ที่คอนโดแล้วได้มีความสัมพันธ์กัน จนในที่สุดตอนนี้เธอหนีเขาไปแล้ว “ถ้าคนทั้งโรงงานเขาไม่พูดกัน พ่อคงไม่มีทางได้รู้เรื่องจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชาติชายตัดพ้อลูกชายด้วยความรู้สึกน้อยใจ แ
ตอนที่12หัวใจที่หายไป “แพทคุณท้อง ทำไมคุณไม่บอกผม” เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากร้าน ราเชนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาถามสิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่าการที่ได้เจอแพทเสียอีก นั่นคือการที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ “ไว้เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าไร้รอยยิ้ม เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อที่จะทำใจให้ลืมชายหนุ่มให้ได้ แต่วันนี้เมื่อเธอได้เจอเขา ทุกอย่างที่พยายามมา มันช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ บ้านของแพทอยู่ชายเขา มีบ้านเพียงไม่กี่หลังที่อยูใกล้ เพราะหลายครอบครัวต่างก็อยากมีบ้านอยู่ติดถนนแต่พ่อของเธอไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินติดถนน จึงต้องหลบมาอยู่ชายเขาแบบนี้ “พ่อคะนี่คุณราชัน” แพทแนะนำให้พ่อของเธอรู้จักชายหนุ่มที่เธอพามาด้วยภาษาเหนือ พ่อของหญิงสาวรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวหิ้วท้องกลับมาบ้าน ถึงแม้จะแอบเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจดีว่าทุกวันนี้ ทุกคนในครอบครัวมีกินมีใช้เพราะใคร “พ่อรู้เรื่องคุณกับลูกสาวพ่อหมดแล้ว แพทไม่เคยปิดบังอะไรพ่อกับแม่ คุณกลับกรุงเทพไปเถอะ อย
1การเดินทาง “คุณพ่อจะให้ลิดาไปเรียนต่อที่อเมริกาจริงๆเหรอคะ” ปาลิดาเด็กสาววัยเพียงสิบเจ็ดปี เธอเพิ่งสูญเสียมารดา จากโรคเส้นเลือดในสมองแตกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่องานศพเสร็จสิ้น น้ำตายังไม่ทันแห้งไปจากหัวใจ พ่อของเธอก็เตรียมส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศทันที “ลิดาลูกเห็นที่เราต้องสูญเสียแม่ไปไหม ทุกอย่างมันไม่ได้มีอะไรมาบอกล่วงหน้า ถ้าวันหนึ่ง พ่อต้องจากลูกไป มีแต่การศึกษาเท่านั้น ที่พ่อจะให้ลูกได้ นอกจากทรัพย์สมบัติ” นิรัชให้เหตุผลกับลูกสาว เขาอ้างความสูญเสียในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่า ลูกสาวของเขาจะต้องยอมรับ และทำตามที่เขาต้องการ “แล้วคุณพ่อจะอยู่กับใครคะ ลิดาเป็นห่วงพ่อ” เด็กสาวเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ เพราะเธอไม่เหลือใครแล้ว แล้วการไปครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงไปเรียนต่างจังหวัด แต่มันคือต่างประเทศ “พ่อดูแลตัวเองได้ ถ้าลูกรักพ่อ ตั้งใจเรียนให้จบ กลับมาช่วยงานที่บริษัทของเรา พ่อจะได้นอนตายตาหลับเสียที” นิรัชเองมีบริษัท ที่กิจการยังเพิ่งเริ่มต้นได้กำไร เขาอยากใช้โอกาสนี้ ส่งลูกสาวไปเรียนในที่ดีๆ เพราะขึ้นชื่อว่าธุรกิจ
“ลิดาจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังค่ะ” หญิงสาวเริ่มยิ้มได้ “แม่เลี้ยงคนใหม่ของหนูเป็นอย่างไรบ้าง พ่อเล่าให้ฟังบ้างไหม” กานดาแอบเป็นกังวลว่าเมื่อหลานสาวเธอกลับไปเมืองไทย จะมีปัญหากับแม่เลี้ยงเหมือนในหนังไทยหรือเปล่า เพราะตั้งแต่นิรัชมีภรรยาใหม่ ปาลิดายังไม่มีโอกาสได้เจอกับอัสมาเลย “คุณน้าอัสมาเขาดูเป็นคนดีนะคะ คุณพ่อเล่าให้ฟัง ว่าเขาดูแลทุกอย่าง เรื่องเงินก็ไม่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แถมยังช่วยงานบริษัทของพ่อได้ด้วย” ปาลิดารู้จักอัสมา จากคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อ และมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เธอมีโอกาสได้วิดีโอคลอกับผู้เป็นแม่เลี้ยง แต่หญิงสาวก็เชื่อและรู้สึกตามที่พ่อบอกเล่าให้ฟัง “ดีแล้ว แบบนี้น้าก็เบาใจ ถ้าเขารักคุณพ่อของหนู หนูก็ต้องรักเขานะลิดา อย่าให้ต้องเป็นปัญหาลูกเลี้ยงแม่เลี้ยง คุณพ่อของหนูจะหนักใจเปล่าๆ” กานดาสอนหลานสาว ก่อนที่อีกสองปี ปาลิดาจะได้กลับไปอยู่เมืองไทย เพราะเธอคิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ปาลิดาก็อดทนจนเธอสำเร็จการศึกษา และอีกไม่กี่วันเธอจะได้รับปริญญา “คุณพ่อของหนูจะเดินทางมาวันไหน”
อัสมาเธอเป็นคนปากหวาน พูดเป็น มาแต่ไหนแต่ไร ด้วยอาชีพนักร้องที่เธอเคยทำ สร้างความสามารพิเศษของเธอในเรื่องการเอาใจคนให้เก่งเป็นพิเศษอยู่แล้วกานดาพาแขกผู้มาใหม่เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางเธอแอบมองอัสมาอยู่หลายครั้งไม่รู้ทำไมเหมือนกัน กานดาถึงได้รู้สึกไม่ไว้วางใจ ในตัวแม่เลี้ยงของหลานสาว ทั้งที่อัสมาก็ดูไม่มีอะไรคืนนี้สามคนพ่อ ลูกและอัสมา นั่งพูดคุยกันเกือบทั้งคืน โดยมีกานดา คอยมองอยู่ห่าง เพื่อสังเกตแม่เลี้ยงคนใหม่ของหลานสาวหลายปีที่ปาลิดามาอยู่กับเธอที่นี่ เมื่อหลานจะกลับไป เธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กานดาจึงอยากแน่ใจ ว่าอัสมาเป็นคนดี ไม่ใช่แค่เพียงเสแสร้งแสดงออกมางานรับปริญญาผ่านไปอย่างมีความสุข ทุกคนต่างยินดีกับความสำเร็จของปาลิดา โดยเฉพาะนิรัส เขาดีใจ ที่ลูกสาวโตขึ้นและมีความสามารถ มีความรู้ติดตัวการกลับเมืองไทยครั้งนี้ ปาลิดายังไม่ได้กลับพร้อมกับบิดา เพราะติดขัดเรื่องต้องรอเอกสารเรื่องเรียนอีกนิดหน่อย และเธอตั้งใจจะกลับเมืองไทยพร้อมกับกานดาน้าสาว ที่สามารถลาพักร้อนได้ยาวหลายสัปดาห์“แล้วเจอกันที่เมืองไทยนะลูก” นิรัสหอมแก้มลูกสาว“กานดา พี่ฝากลิดาด้วยนะ ยังไงก็อย่าทิ้งหลาน เราก็เหล
3ปมแค้น “เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ คุณน้าบอกลิดามาสิคะ” ปาลิดาโวยวายด้วยคำถามที่เธอต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับบิดาของเธอ “คุณนิรัชประสบอุบัติเหตุรถชนคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ค่ะ” อัสมาทำท่าจะร้องไห้ เมื่อต้องเล่าเรื่องราว ที่เธอสุดจะเสียใจอีกครั้ง “คุณพ่อไม่ใช่คนขับรถประมาท ไม่มีทาง ต้องมีอะไรแน่ๆ ลิดาไม่เชื่อเด็ดขาด” ตั้งแต่เด็กจนโต หญิงสาวรู้ว่าพ่อของเธอ มีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในการขับรถยนต์ ปฏิบัติตากฎอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางที่พ่อจะมาตายแบบไม่มีใครมาชนแบบนี้ เธอส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ “คุณนิรัชดื่มสุราจนเมาค่ะ” อัสมาอธิบายต่อ “ปกติคุณพี่ไม่ดื่มนะคะ” คราวนี้กานดาสงสัยบ้าง “ใช่ค่ะ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นคุณนิรัชดื่ม เวลาไปเที่ยวร้านอาหาร ยังดื่มแค่เพียงน้ำอัดลมเท่านั้น แต่ตำรวจส่งชันสูตรเบื้องต้นแล้ว พบว่ามีการดื่มสุราค่ะ” ผลการสืบสวนของตำรวจ ลงความเห็นว่านิรัชเมาจนขับรถชนกับคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ เพราะคอหัก ซึ่งทั้งหมดมันคือความจริง สิ่งที่ยังค้างคาใ