อัสมาเธอเป็นคนปากหวาน พูดเป็น มาแต่ไหนแต่ไร ด้วยอาชีพนักร้องที่เธอเคยทำ สร้างความสามารพิเศษของเธอในเรื่องการเอาใจคนให้เก่งเป็นพิเศษอยู่แล้ว
กานดาพาแขกผู้มาใหม่เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางเธอแอบมองอัสมาอยู่หลายครั้งไม่รู้ทำไมเหมือนกัน กานดาถึงได้รู้สึกไม่ไว้วางใจ ในตัวแม่เลี้ยงของหลานสาว ทั้งที่อัสมาก็ดูไม่มีอะไร
คืนนี้สามคนพ่อ ลูกและอัสมา นั่งพูดคุยกันเกือบทั้งคืน โดยมีกานดา คอยมองอยู่ห่าง เพื่อสังเกตแม่เลี้ยงคนใหม่ของหลานสาว
หลายปีที่ปาลิดามาอยู่กับเธอที่นี่ เมื่อหลานจะกลับไป เธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กานดาจึงอยากแน่ใจ ว่าอัสมาเป็นคนดี ไม่ใช่แค่เพียงเสแสร้งแสดงออกมา
งานรับปริญญาผ่านไปอย่างมีความสุข ทุกคนต่างยินดีกับความสำเร็จของปาลิดา โดยเฉพาะนิรัส เขาดีใจ ที่ลูกสาวโตขึ้นและมีความสามารถ มีความรู้ติดตัว
การกลับเมืองไทยครั้งนี้ ปาลิดายังไม่ได้กลับพร้อมกับบิดา เพราะติดขัดเรื่องต้องรอเอกสารเรื่องเรียนอีกนิดหน่อย และเธอตั้งใจจะกลับเมืองไทยพร้อมกับกานดาน้าสาว ที่สามารถลาพักร้อนได้ยาวหลายสัปดาห์
“แล้วเจอกันที่เมืองไทยนะลูก” นิรัสหอมแก้มลูกสาว
“กานดา พี่ฝากลิดาด้วยนะ ยังไงก็อย่าทิ้งหลาน เราก็เหลือกันแค่นี้แล้ว”
“คุณพี่ทำไมพูดแบบนี้คะ ลิดาหลานกานดาทั้งคน ดารักเหมือนลูกแท้ๆเลยแหละค่ะ”
กานดารู้สึกทั้งแปลกใจและกังวลใจกับคำพูดของพี่เขย ปาลิดามาอยู่ที่อเมริกากับเธอสี่ปีแล้ว ไม่เคยเห็นพี่เขยจะพูดฝากฝังอะไรแบบนี้
“เดินทางปลอดภัยนะคะ เรื่องหลานดาจะดูแลและรักให้เท่าชีวิตของดาเลย”
เมื่อมองเข้าไปในตาของพี่เขย มันมีความเศร้าแปลกๆซ่อนอยู่ กานดาจึงพูดย้ำเพื่อให้นิรัสมั่นใจ ว่าเขาจะไม่วันทิ้งปาลิดาหลานสาวคนเดียวของเขาแน่ๆ
“คุณพ่อของเรา เขาพูดจาแปลกๆ อยู่ดีๆเพิ่งจะมาฝากเรากับน้า อยู่จนจะกลับเมืองไทยแล้ว”
“เมื่อคืนคุณพ่อบอกลิดาว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เราต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ลิดาเองฟังแล้วก็ไสบายใจเลยค่ะ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก”
สองคนน้าหลานต่างรู้สึกไม่ต่างกัน ว่าการมาครั้งนี้นิรัสดูมีความกังวล ในขณะที่อัสมาดูสดใสร่าเริง แต่ทั้งคู่ก็ดูรักกันดี อัสมาเองก็ดูรักใคร่ในตัวปาลิดาผู้เป็นลูกเลี้ยง
ปาลิดาแอบเป็นกังวลในการเดินทางกลับของบิดากลัวจะเกิดอันตราย เพราะท่าทางและคำพูดที่ดูแปลกๆของพ่อ เธอนอนไม่หลับทั้งคืน จนเมื่อบิดาโทรศัพท์มาบอกว่าถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพแล้ว หญิงสาวถึงได้สบายใจ
“เอกสารเรื่องเรียนเรียบร้อยหรือยัง” กานดาถามหลานสาว เพราะอีกสองวันต้องเดินทางกลับเมืองไทย
“เอกสารครบแล้ว พร้อมเดินทางค่ะ คิดถึงเมืองไทย ใจจะขาดแล้ว”
ตั้งแต่วันแรกที่เธอมาเรียนที่นี่ ปาลิดาก็ไม่เคยได้กลับไปเมืองไทยอีกเลย
เวลาที่รอคอยก็มาถึง เครื่องบินกำลังพาเธอกลับสู่แผ่นดินเกิด แผ่นดินที่เธอจากมานาน สองน้าหลานต่างดีใจ ที่จะได้กลับบ้านกัน
“สวัสดีค่ะ ทำไมคุณพ่อไม่มารับเองล่ะคะ”
ปาลิดาแปลกใจ ทีทำไมบิดาของเธอไม่มารับ ทั้งที่ตกลงกันไว้แล้ว ว่าพ่อจะเป็นคนมารับเธอ แต่พอมาถึงเมืองไทยกลับกลายเป็นอัสมาที่มาคอยรับแทน
“คุณพ่อเขามาไม่ได้ เขารอหนูอยู่รีบไปกันเถอะ”
อัสมาตอบลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงที่ดู ราบเรียบเหมือนคนที่อยู่ในอารมณ์ที่ไม่อยากพูดอะไรมาก
ตลอดทางที่นั่งอยู่ในรถยนต์ ปาลิดาน้อยใจบิดาที่ไม่ยอมมารับเธอด้วยตัวเอง
กานดารู้สึกถึงความผิดปกติ วันนี้เป็นวันดีเพราะปาลิดาได้กลับมาเมืองไทย แต่ทำไมอัสมาถึงใส่ชุดดำทั้งชุด แถมหน้าตาดูไม่แจ่มใส เหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืน
“ทำไมพาลิดามาที่นี่ล่ะคะ ลิดาอยากกลับบ้าน ลิดาคิดถึงพ่อ”
หญิงสาวแปลกใจ เมือเห็นว่าอัสมาไม่ได้พาเธอกลับบ้าน แต่กลับพาเธอมาที่วัดที่อยู่ใกล้บ้านเธอแทน
“พ่อหนูคอยอยู่ข้างในแล้ว”
อัสมาพูดจบ ปาลิดาเปิดประตูวิ่งลงจากรถทันที กานดารีบวิ่งตามหลานไป เพราะเธอพอจะเริ่มเดาออก ว่าสิ่งที่ปาลิดากำลังจะพบเจอต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
“คุณพ่อ.....!!”
ปาลิดาตะโกนเรียกบิดาสุดเสียง ร่างบางทรุดลงตรงประตูทางเข้าศาลา ภาพที่เธอเห็น คือภาพของบิดาของเธอถูกตั้งอยู่หน้าโลงศพ
“ลิดา น้าอยู่นี่ลูก ทำใจดีๆนะ ตั้งสตินะลูก”
กานดากอดหลานสาวที่ตัวสั่นเทาไว้แน่น ทั้งที่ตัวเธอเอง ก็แทบสติหลุดลอยเหมือนกัน
ภาพที่เห็นตรงหน้าของสองน้าหลาน เป็นภาพที่ทั้งคู่ไม่สามารถทำใจยอมรับได้ เมื่อวานก่อนขึ้นเครื่อง ปาลิดายังโทรศัพท์คุยกับพ่ออยู่เลย
3ปมแค้น “เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ คุณน้าบอกลิดามาสิคะ” ปาลิดาโวยวายด้วยคำถามที่เธอต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับบิดาของเธอ “คุณนิรัชประสบอุบัติเหตุรถชนคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ค่ะ” อัสมาทำท่าจะร้องไห้ เมื่อต้องเล่าเรื่องราว ที่เธอสุดจะเสียใจอีกครั้ง “คุณพ่อไม่ใช่คนขับรถประมาท ไม่มีทาง ต้องมีอะไรแน่ๆ ลิดาไม่เชื่อเด็ดขาด” ตั้งแต่เด็กจนโต หญิงสาวรู้ว่าพ่อของเธอ มีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในการขับรถยนต์ ปฏิบัติตากฎอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางที่พ่อจะมาตายแบบไม่มีใครมาชนแบบนี้ เธอส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ “คุณนิรัชดื่มสุราจนเมาค่ะ” อัสมาอธิบายต่อ “ปกติคุณพี่ไม่ดื่มนะคะ” คราวนี้กานดาสงสัยบ้าง “ใช่ค่ะ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นคุณนิรัชดื่ม เวลาไปเที่ยวร้านอาหาร ยังดื่มแค่เพียงน้ำอัดลมเท่านั้น แต่ตำรวจส่งชันสูตรเบื้องต้นแล้ว พบว่ามีการดื่มสุราค่ะ” ผลการสืบสวนของตำรวจ ลงความเห็นว่านิรัชเมาจนขับรถชนกับคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ เพราะคอหัก ซึ่งทั้งหมดมันคือความจริง สิ่งที่ยังค้างคาใ
4ความแค้นที่เริ่มต้น กานดาตัดสินใจ เดินทางไปหาทนายของนิรัช ถึงแม้เขาอาจไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างกับเธอ แต่ก็คงได้รู้อะไรเพิ่มมากขึ้น และข้อมูลก็คงน่าเชื่อถือกว่าการฟังจากอัสมา “คุณทนายคะ เรื่องจดทะเบียนสมรสเรื่องจริงใช่ไหม” กานดาเข้าเรื่องทันที เมื่อนั่งลงบนโซฟาที่ห้องรับแขกของทนายดนัย “ใช่ครับ เพิ่งไม่นานมานี้เอง” ทนายยืนยัน “แล้วแบบนี้ ลิดาจะต้องแบ่งครึ่งทุกอย่างให้เธอใช่ไหม” กานดาหมายถึงอัสมาผู้เป็นแม่เลี้ยง “ใช่ครับ เฉพาะทุกอย่างที่เป็นของคุณนิรัชเท่านั้นนะครับ ส่วนมรดกที่คุณแม่คุณลิดาได้มาจากบิดามารดาของท่านไม่เกี่ยว” ทนายอธิบายเพิ่มเติม “อันนั้นฉันเข้าใจ แต่สมบัติของพี่นิรัชไม่ใช่น้อยๆ” กานดากังวล “แต่ที่เหลือก็ไม่มากนะครับ คุณท่านมีหนี้สินที่ต้องชำระอยู่หลายอย่าง เราต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน ถึงจะแบ่งทรัพย์สินที่เหลือได้” ทนายความแสดงสีหน้าทำท่าไม่สบายใจ ที่จะต้องอธิบายรายละเอียดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดพินัยกรรม “อีกนานไหมคะ กว่าจะถึงวันเปิดพินัยกรรม” กา
5ก้าวแรกในบ้านหลังใหม่ เมื่อตัดสินใจแล้วหญิงสาวก็เก็บข้าวของที่จำเป็น เดินทางมายังบ้านของธรรมสรณ์ โดยที่คืนนี้ เธอยังจะมีกานดาน้าสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอมานอนด้วย ก่อนที่พรุ่งนี้เย็น น้าสาวจะเดินทางกลับอเมริกา “ยินดีต้อนรับนะหลานสาว” ธรรมสรณ์ยืนกอดอกคอยปาลิดาอยู่ที่หน้าประตูบ้าน “และนี่เขมกร ลูกชายคนเดียวของลุง” ปาลิดายกมือไหว้ ชายหนุ่มที่หน้าตาดีกว่าคนเป็นพ่ออยู่มาก “เขมนี่คุณน้ากานดา” ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม แสดงถึงการที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี “มากันแล้วเหรอจ๊ะ” ภาวินีหญิงเดียวของบ้านนี้ ส่งเสียงทักทายมาก่อนตัว เพราะเธอมัวแต่จัดแจงเรื่องห้องพักของปาลิดา “สวัสดีค่ะพี่ภาวินี” กานดาคุ้นเคยกับภาวินีเป็นอย่างดี เพราะเธอคือเพื่อนสนิทของพี่สาวของเธอ และเป็นยังเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พี่สาวของเธอกับนิรัช จนทั้งคู่ได้แต่งงานกัน “เขมพาน้องขึ้นไปที่ห้องหน่อย ช่วยยกกระเป๋าให้น้องกับน้ากานดาด้วย” ธรรมสรณ์หันไปสั่งลูกชาย เพื่อต้องการคุยกันสามคนแบบผู้ใหญ่ ไม่อยากให้เด็กๆอ
6มองหาเป้าหมาย “เดี๋ยวเราแวะกินอาหาร ที่ร้านอาหารใกล้สนามบินกันนะ มีร้านอร่อยๆอยู่” ธรรมสรณ์พยายามจะทำความสนิทสนมให้เกิดขึ้น ระหว่างครอบครัวของเขากับปาลิดา “สวัสดีค่ะเขม ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่ร้านนี้เลย” นางแบบหุ่นสวย ส่งเสียงทักทายมาก่อนที่มือบางจะจับแขนของชายหนุ่มตรงหน้ามากอดอย่างคุ้นเคย “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวละมือจากแขนของเขมกร มายกมือไหว้ผู้ใหญ่สองคน “สวัสดีจ้าหนูรสริน” ภาวินีส่งยิ้มทักทาย “แล้วนี่ใครคะ ไม่เห็นเขมแนะนำให้รินรู้จักเลย เอ่...หรือว่าแม่บ้านคนใหม่” “ถ้าหมายถึงฉัน คงไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ แต่ที่พี่เขมไม่แนะนำ อาจเป็นเพราะคุณไม่จำเป็นต้องรู้จักทุกคนในครอบครัวของพี่เขาก็ได้นะคะ” รู้จักปาลิดาน้อยไปแล้ว ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ดีๆ ก็มาใช้คำพูดที่ดูแคลนกันแบบนี้ มีเหรอนักเรียนนอกอย่างเธอจะยืนนิ่งๆให้ดูถูก เมื่อเจอตอกกลับแบบนี้ รสรินนางแบบสาวที่พยายามทำตัวเป็นผู้ดี ก็แทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ แต่ด้วยตัวเธอยังไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ต่อปากต่อคำกับเธอเป็นใคร เธอจึงเลื
7เริ่มสืบ “ทุกคนครับ ผมขอแนะนำเลขาส่วนตัวของผมคนใหม่ เธอชื่อปาลิดา เป็นลูกสาวของคุณอานิรัช เจ้าของที่นี่ครับ” เขาแนะนำเธอด้วยคำพูดที่ดูยกย่อง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะถือหุ้นแค่ไม่ถึงครึ่ง แต่เขาพูดเสียเหมือนเธอถือหุ้นทั้งบริษัท “เรียกลิดาเฉยๆก็ได้ ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ” หญิงสาวอยากเป็นมิตรและสนิทกับทุกคน เพราะพนักงานที่นี่ ต้องรู้แน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องดื่มเมามาย จนเกิดอุบัติเหตุ “พวกเราสิคะ ต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณลิดา” หนึ่งในพนักงานสาว ส่งเสียงเอาใจดังออกมาจากลุ่มของพนักงานที่ยืนอยู่เกือบยี่สิบคน “แยกย้ายกันทำงานได้แล้วเนาะ ” เขมกรตัดบทเพราะกลัวจะมัวแต่ทักทายกันจนงานไม่เดิน โต๊ะทำงานของปาลิดาอยู่ห่างจากโต๊ะทำงานของเขมกรเกือบห้าเมตร มีฉากกั้นอยู่ตรงโต๊ะ เพื่อความเป็นส่วนตัวในการทำงาน “ให้ลิดานั่งใกล้ประตูเลยเหรอคะ” หญิงสาวรู้สึกว่าเธอ จะต้องเวียนหัวกับการเข้าออกของคนที่มาหาเจ้านายคนใหม่ของเธอแน่ๆ “ปกติโต๊ะที่คุณนั่งคือโต๊ะทำงานของผม แ
8สร้างความไว้วางใจ ร้านอาหารใกล้ตึกของบริษัท เป็นร้านโปรดของ เขมกร เพราะอยู่ใกล้ อาหารรสชาติอร่อย เขาจึงชอบมากินที่นี่ถ้าไม่ได้ออกนอกพื้นที่ไปไหน “ร้านนี้เหรอคะที่พี่เขมชอบ” ปาลิดาแปลกใจ “ใช่ พี่ชอบอะไรที่ดูสบายๆ ง่ายๆ” “รวมถึงผู้หญิงด้วยไหมคะ ที่ว่าชอบง่ายๆ” เขมกรหันมาจ้องตา สาวสวยเลขาส่วนตัวคนใหม่ นอกจากหน้าตาที่ดูจะถูกใจแล้ว คารมที่ดูจะทันเขาแบบนี้ ยิ่งน่าเอาชนะนัก “ถ้าเป็นผู้หญิง พี่ก็ชอบแบบไม่ง่ายและก็ไม่อยากจนเกินไป ถ้ายิ่งหน้าตาดี หุ่นดี ดีกรีนักเรียนนอก แบบนี้ยิ่งถูกใจเลย” สายตาเจ้าชู้จับจ้องมาที่ใบหน้ารูปไข่ของปาลิดา ที่มองสบตาชายหนุ่มอย่างไม่ลดละเหมือนกัน “ถ้าอย่างนั้นลิดาก็ใช่เลย” หญิงสาวเสนอตัว “อย่าพูดเล่นกับพี่นะ เดี๋ยวพี่เดินหน้าจีบจริง แล้วจะมาเล่นตัวทีหลังไม่ได้นะแบบนี้” เขมกรถูกใจปาลิดาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่เขาไม่กล้าเดินหน้าจีบ เพราะกลัวจะโดนผู้เป็นพ่อเล่นงานเอา ถ้าเขาเกิดแค่เล่นๆกับหญิงสาวขึ้นมา ตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนใจ เพราะอีกฝ่ายก็ดูจะทอดสะพานใ
9เสน่ห์ดึงใจ ระหว่างทางกลับบ้าน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สองคนจึงพากันแวะเพื่อพาปาลิดาเข้าร้านเครื่องเขียน “หนังน่าดูจังเลยค่ะพี่เขม” อยู่ดีๆหญิงสาวก็คิดแผนพัฒนาความใกล้ชิดขึ้นมาได้ เมื่อเธอเดินผ่านป้ายโฆษณาที่บอกตารางของหนังที่จะฉายในวันนี้ “อยากดูเหรอ เลือกเลยว่าอยากดูเรื่องอะไร” เขมกรเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยเวลางานที่กำลังต้องเรียนรู้อีกมาก เขาจึงไม่ค่อยมีเวลา “มีแต่รอบดึกทั้งนั้นเลย พี่เขมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ลิดาเกรงใจ ไว้วันหลังดีกว่า” หญิงสาวหันมาคว้าแขนชายหนุ่มไปกอดอย่างสนิทสนม ลูบแขนขึ้นลงด้วยใบหน้าใสๆ แบบไม่คิดอะไร ถึงแม้ใบหน้าของเธอจะดูไม่คิดอะไรมากกว่าการ คว้าแขนพี่ชายมากอดไว้ แต่สำหรับชายหนุ่มที่ผ่านอะไรมามากมายอย่างเขมกร เขาจะไม่ยอมเสียโอกาส ที่จะได้เข้าโรงหนังในยามค่ำคืนแบบนี้กับปาลิดาแน่ๆ “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเรากินข้าวเย็นกันที่นี่เลย ระหว่างที่รอ ลิดาก็ไปเดินเล่นร้านเครื่องเขียน อีกแค่สองชั่วโมงเอง” เขมกรออกความคิดเห็น เพราะจริงๆมันก็เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมง
10หว่านเสน่ห์ หลายวันผ่านไปกับการศึกษาเอกสารทางด้านการเงิน ปาลิดาพบแต่ความผิดปกติทางด้านการเงิน ที่เกิดจากลายเซ็นของพ่อเธอเท่านั้น จากที่คิดมุ่งมั่นว่าจะต้องสืบให้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทระหว่างที่เธอเรียนอยู่ที่อเมริกา ปาลิดาเปลี่ยนเป็นเดินหน้าหาทางใช้หนี้ธรรมสรณ์ให้หมด เพื่อเอาบ้านและที่ดินของแม่คืนให้ได้ “หนูลิดา ตอนนี้น้าออกมาอยู่ข้างนอกแล้วนะ สงสารบ้านจัง พ่อของหนูคงยังอยู่ที่นั่น คงยังไปไหน เพราะท่านคงอยู่รอวันที่เราจะได้บ้านคืนมา” เสียงปลายสายที่พูดด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนเศร้ากระตุ้นความแค้นในใจของปาลิดาให้ลุกเป็นไฟ “ลิดาสงสารคุณน้า แต่ยังคิดหาทางไม่ได้เลยค่ะ เงินตั้งมากมาย ไม่รู้จะไปหามาจากไหน” “น้ามีวิธีนะ แต่น้าไม่กล้าแนะนำหนู มันเป็นวิธีที่ไม่ดี น้ากลัวพูดไปหนูลิดาจะโกรธน้า” อัสมาทำน้ำเสียงแบบลังเล ว่าเธอจะให้คำแนะนำลูกลี้ยงดีไหม “คุณน้าบอกลิดามาเถอะค่ะ ถึงลิดาจะไม่ได้สนิทกับคุณน้ามาก แต่เราก็คือครอบครัวเดียวกัน เราทั้งคู่ต่างสูญเสีย” หญิงสาวคิดหาวิธีการมาหลายวัน ที่จะหาหนทา
ตอนที่12หัวใจที่หายไป “แพทคุณท้อง ทำไมคุณไม่บอกผม” เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากร้าน ราเชนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาถามสิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่าการที่ได้เจอแพทเสียอีก นั่นคือการที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ “ไว้เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าไร้รอยยิ้ม เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อที่จะทำใจให้ลืมชายหนุ่มให้ได้ แต่วันนี้เมื่อเธอได้เจอเขา ทุกอย่างที่พยายามมา มันช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ บ้านของแพทอยู่ชายเขา มีบ้านเพียงไม่กี่หลังที่อยูใกล้ เพราะหลายครอบครัวต่างก็อยากมีบ้านอยู่ติดถนนแต่พ่อของเธอไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินติดถนน จึงต้องหลบมาอยู่ชายเขาแบบนี้ “พ่อคะนี่คุณราชัน” แพทแนะนำให้พ่อของเธอรู้จักชายหนุ่มที่เธอพามาด้วยภาษาเหนือ พ่อของหญิงสาวรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวหิ้วท้องกลับมาบ้าน ถึงแม้จะแอบเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจดีว่าทุกวันนี้ ทุกคนในครอบครัวมีกินมีใช้เพราะใคร “พ่อรู้เรื่องคุณกับลูกสาวพ่อหมดแล้ว แพทไม่เคยปิดบังอะไรพ่อกับแม่ คุณกลับกรุงเทพไปเถอะ อย
ตอนที่11ตามหาหัวใจ “ราเชน วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงงาน มานั่งคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง อย่าให้พ่อต้องกลายเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองเลย” ชาติชายมานั่งรอราเชนอยู่ที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้า เพราะเขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้เขาต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้ “พ่อแน่ใจนะครับว่าพร้อมจะฟัง” ราเชนคิดมาตลอด ว่าบิดาของเขาไม่มีทางรับได้ที่เขาจะมีภรรยาเป็นแค่เพียงพนักงาน เขาจึงไม่คิดจะเล่าให้ฟัง “คงไม่มีอะไรทำให้พ่อทุกข์ใจ มากไปกว่าการที่พ่อต้องมาเห็นลูกเอาแต่เมาทุกวันแบบนี้” ชาติชายคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาทุกข์ใจมาหลายวันแล้วกับพฤติกรรมของลูกชาย วันนี้เขาจึงต้องการรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อหาทางแก้ไข ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ราเชนเล่าทุกเรื่องตั้งแต่ปัญหาระหว่างเขากับนิศาจนถึงที่เขาไปเจอแพทกำลังโดนดิวตบตีและเขาพาเธอมาอยู่ที่คอนโดแล้วได้มีความสัมพันธ์กัน จนในที่สุดตอนนี้เธอหนีเขาไปแล้ว “ถ้าคนทั้งโรงงานเขาไม่พูดกัน พ่อคงไม่มีทางได้รู้เรื่องจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชาติชายตัดพ้อลูกชายด้วยความรู้สึกน้อยใจ แ
ตอนที่10สูญเสีย วันนี้ทั้งวันราเชนทำงานอย่างไม่มีความสุขเลย เพราะเขาติดต่อแพทไม่ได้ ไม่ว่าแชทหรือการโทรศัพท์ ติดต่อไปที่ฝ่ายบุคคลเขาก็แจ้งว่าหญิงสาวไม่ได้มาทำงาน สิ่งแรกที่ทำหลังจากงานที่ทำเสร็จ คือการรีบกลับมาที่คอนโด “แพทคุณอยู่ไหน แพท คุณได้ยินผมไหม” ราเชนเหมือนคนเสียสติวิ่งไปทั่วห้องพยายามหาภรรยาของเขา ในมือเขาถือทะเบียนหย่าที่วันนี้เขากับนิศาได้ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่คนที่ชายหนุ่มต้องการเอามาอวดกับไม่อยู่แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญหายไป ราเชนมั่นใจว่าเขาได้เสียเธอไปแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกขว้างปาทั่วห้องไปหมด ราเชนกำลังเสียสติ เขาคิดว่าแพทต้องกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าแน่ๆ เมื่อไม่มีทางออกเขาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่โรงงานเพื่อขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของดิว ราเชนตั้งใจจะไปบุกให้ถึงที่ “เปิด เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ราเชนบุกไปที่ห้องของดิวแล้วทุบประตูห้องเช่าขนาดเล็กด้วยความโมโห “อะไรกัน คุณราเชน” คนที่มาเปิดประตูคือทราย เพราะตัวดิวเองกำลังอาบน้ำอยู่
ตอนที่9กอดที่แน่นที่สุด “คิดถึงจังเลย มาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อยสิ” ราเชนโผเข้ากอดสาวโรงงานที่เขาสุดแสนจะคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันนาน “แพทก็คิดถึงคุณค่ะ ” หญิงสาวใช้มือข้างขวาลูบท้องของเธอไว้ เพื่อหวังว่าความอบอุ่นของอ้อมกอดราเชนจะส่งไปถึงลูกที่อยู่ในท้อง อาหารมื้อเย็นวันนี้หญิงสาวจัดเต็ม เพราะเธอรู้ตัว ว่าคงมีโอกาสทำให้เขากินได้อีกไม่นาน เธอกับลูกก็ต้องไปจากที่นี่แล้ว คืนนี้หญิงสาวแทบจะไม่ได้นอน เพราะถูกอีกฝ่ายแสดงความคิดถึงทั้งคืน แพทก็พยายามระวังเพราะกลัวจะส่งผลถึงลูกของเธอ วันนี้เป็นวันหยุดราเชนพาหญิงสาวไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ ไปไหว้พระ หาของกินอร่อยๆกิน รวมทั้งตอนกลับเขาพาเธอไปซื้อสร้อยคอที่เป็นทองหนักห้าบาท ถ้าเป็นปกติหญิงสาวคงไม่ยอมรับไหว แต่เพราะเธอรู้ ว่าการเลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้เงิน ถ้ากลับไปอยู่บ้านเธอคงไม่ค่อยมีรายได้อะไร ทองนี้คงช่วยเธอกับลูกได้ในตอนนั้น ก่อนจะกลับคอนโด ชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะไปที่ร้านเพชรที่อยู่ในห้างใหญ่ ตอนแรกแพทคิดว่าราเชนคงมาซื้อให้กับนิศา เพราะเขาซื้อทองให้เธอแล้ว แต่เม
ตอนที่8เมื่อไม่มีเธอมันเหงา ค่ำคืนแห่งการเยียวยาหัวใจ ของชายหนุ่มที่ทั้งโมโหเสียใจ เสียความรู้สึก และเมามาทำให้คืนนี้หญิงสาวต้องรับบทหนักหลายรอบกว่าเขาจะหายต้องการ เมื่อความทุกข์ใจได้ถูกปลดปล่อยออกทางกาย ราเชนก็หลับสนิท แต่สำหรับแพทแล้ว เธอเริ่มรู้สึกรักเขา และไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ เพราะโลกแห่งความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ สนองราคะเป็นที่ระบายความทุกข์ให้เขาเท่านั้น เมื่อถึงเวลา สักวันเจ้าของตัวจริงก็ต้องมาเอาคืน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่ทั้งคู่พัฒนาจากเจ้านายกับลูกน้องมาเป็นอย่างอื่นกัน เกือบทุกคืนที่ราเชนมานอนที่คอนโดน้อยครั้งที่เขากลับไปนอนบ้าน แต่ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่มาหาหญิงสาวเพราะหัวใจมันเรียกร้องอยากกอดทุกวัน แพทไปถอนเงินทุกครั้ง เธอก็ไม่เคยเห็นเงินเธอลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจว่าราเชน คงเอาข้อมูลเลขบัญชีจากฝ่ายบุคคคลและโอนเงินให้เธออยู่เรื่อยๆ เงินที่ได้มาหญิงสาวส่งไปบ้านเพื่อเป็นค่ารักษาพ่อและซ่อมแซมบ้าน น้องสาวส่งภาพมาให้ดูตอนนี้บ้านของเธอดูดีและน่าอยู่มาก น้องคนกลางก็
ตอนที่7คำสั่งของบิดา ราเชนขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปเพื่ออะไร และก็ไม่คิดว่ากลับไปจะเจอใครด้วยซ้ำ “เอ้า! วันนี้ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเหรอ” ราเชนแปลกใจที่เห็นนิศานอนกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียงนอน ในชุดนอนแทนชุดเที่ยวกลางคืน “ก็พ่อเชนเพิ่งจะกลับไปบ้านไม่ถึงชั่วโมง ท่านมาขอให้นิศาอยู่บ้านบ้าง ไม่รู้ว่าใครไปฟ้องอะไร” ปากก็เล่า แต่มือก็ยังพิมพ์โทรศัพท์อยู่ไม่เลิก แสดงถึงความไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่กำลังพูด “ท่านคงอยากให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง” ราเชนเข้าใจในสิ่งที่บิดาเขาทำ ชีวิตของเขากับนิศาหลังแต่งงาน ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนคนรักกันเลย เพราะความจริงแล้ว การแต่งงานก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักแต่มันเกิดขึ้นจากผลประโยชน์ของผู้ใหญ่มากกว่า พ่อของนิศาเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการค้า จึงสามารถช่วยหาตลาดให้โรงงานของราเชนได้ตลอด ส่วนพ่อของราเชน ก็เป็นตระกูลเก่านักการเมืองท้องถิ่น ช่วยคุ้มครองการทำธุรกิจที่ไม่ค่อยจะถูกต้องของครอบครัวนิศาได้ ทั้งสองครอบครัวจึงมองเห็นประโยชน์ร่วมกัน นิศาและราเชนก
ตอนที่6เล่นไปตามบทบาท “ข้าวผัดกระเพราไข่ดาวและต้มจืดร้อนๆ มาแล้วค่ะ ท่านผู้จัดการ” หญิงสาวเดินถือถาดอาหารมาวางที่โต๊ะ โดยที่ราเชนตามไปช่วยหยิบน้ำและแก้วจากในครัว “กลิ่นหอมมากเลย” “อาหารหรือแพทคะที่หอม” หญิงสาวแค่ต้องการพูดให้ตลก แต่มารู้ตัวว่าได้จุดไฟในตัวของชายหนุ่มเข้าแล้ว ก็เมื่อหันไปสบตาเขา “กินข้าวอิ่มแล้ว ผมขอกินแพทต่อเลยแล้วกัน” ราเชนก็ใช่เล่น พูดเหมือนตลก แต่ก็ทำเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาทันทีดึกมาแล้วทั้งคู่รีบเข้านอน แพทกลัวว่าราเชนจะนอนดึกและตื่นไปทำงานไม่ไหว ส่วนชายหนุ่มเองรีบนอนเพราะอยากใช้เวลาทำกิจกรรมก่อนนอนมากกว่า“ผู้จัดการคะ ดึกแล้ว”แพททำท่าดันตัวชาหนุ่มให้ออกห่างตัว ทั้งที่หัวใจมันร้องเรียกหาเขาแทบจะขาดใจ“เรียกผู้จัดการอีกแล้วแบบนี้ต้องทำโทษ”พูดจบเจ้านายสายหื่น ก็เริ่มซุกซนไปตามเรือนร่างของลูกน้องสาวทันทีหญิงสาวถึงปากจะปฏิเสธแต่ร่างกายส่วนอื่นมันกลับทำตรงข้ามปากหนาประกบเข้ากับร่องปากบาง ทั้งแลกลิ้นกันอย่างดุเดือน มีบางช่วยที่ราเชนรู้สึกหมั่นเคี่ยวก็แอบใช้ฟันขบเบาๆที่ลิ้นเล็กของหญิงส
ตอนที่5ครอบครัวที่เคยฝัน “เลือกซื้อเลยนะ ผมทำอาหารไม่เป็นแต่ชอบให้คนทำให้กิน ผมขอตัวเดินไปดูเครื่องใช้ไฟฟ้าทางด้านหลัง” ราเชนเขาเคยมีแม่ที่คอยทำกับข้าวให้เขากินทุกมื้อมาตั้งแต่เด็กๆ แม้แต่ตอนไปโรงเรียนเขายังไม่ยอมกินข้าวของโรงเรียน ต้องให้แม่ทำใส่กล่องไปให้ แม่ของเขาเสียไปได้หลายปี ก่อนที่เขาจะแต่งงานได้ไม่นาน พอหลังจากแต่งงาน ราเชนตั้งใจที่จะทำครอบครัวให้อบอุ่น อยากให้นิศาอยู่บ้านคอยเป็นแม่บ้านแม่เรือนดูแลเขา แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ แรกๆ ภรรยาของเขาก็กลับบ้านตามปกติ ตั้งแต่เพื่อนที่กลับจากอเมริกากลับมา เธอก็เที่ยวกลางคืนตลอด ส่วนกลางวันก็เอาแต่ช่วยบิดาของเธอดูแลกิจการ บางวันแทบจะไม่ได้คุยกันสักคำ การมีแพทเข้ามาในชีวิต ขายหนุ่มหวังว่าความฝันของเขาคงจะได้เป็นจริง ถ้าเธอไม่ทิ้งเขาไปก่อน เพราะราเชนก็รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนดี คงทนกับสภาพภรรยาน้อยได้ไม่นาน “สวัดดีจ๊ะ ไม่ไปทำงานแต่มีเวลามาเดินซื้อของ อยากให้ฝ่ายบุคคลได้มาเห็นจัง” หญิงสาวหันไปตามเสียง ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือผู้หญิงที่แย่งคนรักของเธอไปนั่นเอง “ทรายไปกลับเถอะได้ครบแล
ตอนที่4เร็วไปไหมกับการเริ่มต้นใหม่ อาหารเช้าที่ชายหนุ่มทำไว้ให้เธอ คือข้าวต้มหมู ถึงรสชาติจะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่สำหรับสาวโรงงานอย่างแพท มันเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุดในโลก ความรู้สึกเสียใจที่ถูกอดีตแฟนหนุ่มบอกเลิกมันจางลงจากหัวใจที่มันบอบช้ำจนไม่เหลือความเจ็บแล้ว แต่สิ่งที่ยังตกตะกอนอยู่คือความหวาดระแวง แพทเองเธอคิดว่าตอนนี้เธอลืมความเจ็บปวดได้ เพราะมีราเชนเข้ามาเติมเต็ม แต่ในเมื่อเขานอกใจภรรยาได้ สักวันเขาก็คงเบื่อและทิ้งเธอไปอีกคน หญิงสาวที่เป็นเด็กดีของบุพการีมาโดยตลอด จนเธอยอมเสียตัวให้ดิวและตอนนี้เธอก็กำลังจะเป็นเมียน้อย แพทสับสนกับหัวใจตัวเอง ค่ารถที่ต้องไปหาหมอของพ่อทุกเดือนก็เป็นพัน ค่าไปโรงเรียนของน้องๆอีก ข้าวที่พ่อกับแม่ทำก็อีกเกือบสองเดือนกว่าจะได้เกี่ยว ความดีกับความชั่วมันกำลังเอาชนะกันอยู่ ในความคิดของผู้หญิงที่ชีวิตแทบจะไม่เหลือทางเลือก “ไหนๆก็เสียไปแล้ว อย่างน้อยเราก็ขอเป็นเมียน้อยที่เจียมตัว” หญิงสาวพูดกับตัวเอง เธอเสียตัวให้เขาไปแล้ว อย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นเมีย แต่เธอจะไม่แสดงตัว จะเจียมตัวให้มากที่สุด รอยช้ำที